Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 5

สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านบล็อคเรา
คือที่เรานัดหนุ่มสิงคโปร์เนี่ย
ทุกคนที่เรานัดเจอ เราคุยมาไม่ต่ำกว่าครึ่งปีได้
ไปอ่านประสบการณ์การคุยกับหนุ่มสาวสิงคโปร์ของเราเอามันส์ก่อนได้ตามลิงค์พวกนี้นะจ๊ะ



เม้าเรื่องที่แชทคุยกับหนุ่มสิงคโปร์

แชทคุยกับคนปลกหน้าที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกว่า 4 ชม. เกี่ยวกับด้านมืดของเธอ

ลองให้หนุ่ม ๆ ทายหัวข้อนิทรรศการภาพถ่ายนึง มาดูซิหนุ่มแต่ละอาชีพทายกันว่าอะไรบ้าง

เม้าเรื่องต่าง ๆ ที่ได้แชทกะคนสิงคโปร์

คุยมาก็หลายเดือน ถึงเวลาเอาตัวเองบินไปเจอหนุ่มซักทีปีหน้า

นัดหนุ่มที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเข้าไปจับกันในความมืดเป็นชั่วโมง แล้วไกด์ก็ฮามาก ได้ใจสุด ๆ

นัดเจอหนุ่มทางเน็ทครั้งแรก แต่หนุ่มไม่ได้มาแค่ 1 แต่มาถึง 3!!!!

จะเม้าให้ฟังเรื่องที่คุยกับสาวสิงคโปร์ที่ทำงานในคาสิโน

เรื่องเศร้า ๆ เคล้าคำพูดแย่ ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่คุยด้วยจากใน tinder


แชทน่ารัก ๆ ฟิน ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่ได้คุยด้วย


ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 1

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 2

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 3

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 4

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 5

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 6

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 7

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 8

ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 9




เช้าวันจันทร์
แม่งงงงงงง
ร่างกายฉัน กระหายการนอน แต่ก็ตื่นซะ 7 โมงเช้า ตื่นมาเพื่อ
รู้สึกว่าช่วงเวลาที่อยู่สิงคโปร์ ไม่ได้นอนเต็มอิ่มเลยซักคืน
ทั้ง ๆ ที่เราเป็นผู้หญิงที่ต้องนอน 8 ชั่วโมง
กะว่ามาคนเดียวชิล ๆ ไม่ได้อยากไปไหนเยอะ
เพราะสิงคโปร์ไม่เคยอยู่ในลิสประเทศที่อยากไปเลย
เคยพูดกับหม่าม้าไว้นานแล้ว
ว่าสิงคโปร์เนี่ย ให้ไปฟรียังคิดแล้วคิดอีกเลย
ประเทศเล็กนิดเดียว ไม่เห็นมีอะไรเลย อากาศก็เหมือนบ้านเรา
มีแต่ห้าง ไม่ได้อยากช้อปปิ้งที่นั่น ของก็แพง
แล้วเป็นไงล่ะจ๊ะ
กลืนน้ำลายตัวเอง
ทำไงได้ อยากเดทกับหนุ่มสิงคโปร์ ก็ต้องเอาตัวเองมา
ดีกว่าให้เค้ามาหานะ
ผู้หญิงเมืองไทยสวยเกิ๊น หลากหลายด้วย แล้วก็แรงด้วย
บทจะเอา ก็จะเอาให้ได้ กลัวหนุ่มมาแล้วมันไม่มาหาเราอ่ะดิ
ไปหาสาวอื่น เจ้ไม่มีความมั่นใจเลย
สู้เราไปที่นั่นก็ได้ เราเลือกได้ เลือกได้เยอะด้วยว่าอยากไปกับใคร

แล้วไปถึงสิงคโปร์ก็โอเคนะ ชอบต้นไม้ ชอบความสะอาด ชอบสวน ชอบป่า
แต่ก็ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้วยเท่าไหร่ เพราะต้นไม้ก็คล้าย ๆ บ้านเราแหละ
เพียงแต่ว่ามันเยอะและสะอาดกว่า
แต่ที่เอาตัวเองมาก็เพราะผู้ชาย พูดเลย
เลื่อน flight มาก็เพราะมาเจอผู้ชาย ลงทุนดีจริง ๆ ฮา ๆ
พี่ที่ออฟฟิศบอกว่า ปีนี้ต้องให้ได้ผู้ชายซักประเทศนะเฟ้ย
โคดลงทุนเลย
ปีนี้เราซื้อตั๋วเที่ยวเอง 4-5 ประเทศในเอเชียเลยนะ
แทบจะเที่ยวเดือนเว้น 2 เดือนเลย
มันจะไม่ได้ซักประเทศเลยหรือยังไง(วะ) 55555
แหม่
ไม่ได้ผู้ชาย ก็ได้เพื่อนป่าววะ
จะมีผู้ชายซักกี่คนที่อยากจะมาเล่น long distance relationship หรือรักทางไกลกับเรา




ว่าแล้ว วันจันทร์ช่วงเช้าก็เลยชิล ๆ
นั่งเล่นต้องห้องรับแขก ดูผู้คนแล้วค่อยไปอาบน้ำ แต่งตัว ม้วนผม ฮา ๆ
แล้วหนุ่มนัดที่สถานีนึง ไม่ไกลจากโฮสเทลของเรา
แค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว
หนุ่มก็น่ารักตลอด มาถึงก็จัดการเอาเป้บนหลังเราจะแบกให้เลย
อยู่เมืองไทย ถือกระเป๋า แบกเป้ แบกของเองตลอด
มาสิงคโปร์มีหนุ่มถือกระเป๋าให้ ยืนรอคิวอาหารให้ ตักอาหารให้
ได้แต่เดินตัวปลิว ไม่ก็นั่งรอสวย ๆ อยากไปตรงไหน ไม่อยากไปตรงไหนก็มีคนตามใจตลอด เลยทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
วันนี้ที่เจอหนุ่ม ก็บอกหนุ่มไว้ล่วงหน้าเลยว่า
เดี๋ยวเย็นนี้เรานัดเจอ 2 สาวสิงคโปร์ที่เรารู้จักผ่านทางทินเดอร์นะ
หนุ่มจะมาพากินอะไรไม่รู้ล่ะที่โรงอาหารแห่งหนึ่ง
แต่...........
โรงอาหารแห่งนี้ ปิดวันจันทร์จ้า
เหมือนบ้านเราเลยแฮะ
พวกขายของข้างถนนห้ามขายวันจันทร์
อย่างนั้นเลย
แต่นี่ทั้งโรงอาหารเลยจ้าที่ปิด
ก็เดินสำรวจรอบ ๆ
มันไม่มีอะไรหรอก
แต่สำหรับเรา มันมีอะไรนะ
นั่นก็คือ HDB บ้านเค้านั่นเอง
สถานีนั้น เป็นดงแฟลตเลยจ้า
ก็อย่างที่เล่าไปแล้วว่า
แฟลตบ้านเค้า เค้าตากผ้ากันแบบนี้จ้า


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush



น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะบ้านเรามีดาดฟ้าเนอะ
เราก็ตากดาดฟ้า หรือลานซักล้างเนอะ
แต่บ้านเค้าเป็นแฟลต ไม่มีดาดฟ้า
แล้วเค้าจะตากผ้ายังไงล่ะ
ก็ต้องเอาไม้ยื่นออกมาจากหน้าต่างตากแบบนี้แหละ

แล้วเราก็มีแอบขึ้นไปดูชั้นสูงสุดของแฟลตนึงด้วย
ด้วยความที่สิงคโปร์อยากจะดำรงความเป็นเพื่อนบ้านกัน
ทุกแฟลตเลยไม่มียามหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
สามารถขึ้นตึกไปชั้นไหนก็ได้เลย
แล้วอัตราอาชญากรรมบ้านเค้าต่ำมาก อยู่ที่ไหนก็ปลอดภัย
เราเลยกดลิฟขึ้นไปดูอย่างง่ายดาย
หน้าบ้านของเกือบทุกห้อง จะมีกระถางธุปแดง ๆ แขวนไว้ตามสไตล์คนจีนเนอะ
มองลงมา เฮ้ยยยยยยยยยยยย
มันเขียวววววววววววววววววววว
ชอบบบบบบบบบบบบบบบ

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush


แล้วเกือบทุกห้องจะมีสวนต้นไม้เป็นของตัวเองด้วยนะ
รักต้นไม้เข้าสายเลือดกันดีจริง ๆ คนประเทศนี้
หนุ่มบอกว่า
เราสามารถเลือกแฟลตได้ว่าจะอยู่แถวไหน
เลือกได้ด้วยว่าจะเอากี่ห้องนอน
ชั้นก็เลือกได้ ห้องหัวมุมก็เลือกได้ แต่ยิ่งสูงก็จะยิ่งแพง แล้วห้องหัวมุมก็ยิ่งแพง เพราะใคร ๆ ก็อยากได้ห้องหัวมุม
แล้วดง HDB นี่ก็เจ๋งตรงที่มันมีหลังคาตลอด
หลบฝน หลบแดดได้หมดไม่ว่าคุณจะอยู่ตึกไหนจนถึงรถไฟฟ้าเลย
รัฐบาลเค้าคิดมาให้คุณแล้วววว


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush

เดินดู เดินถามหนุ่ม เสมือนว่าตัวเองจะมาแต่งกะหนุ่มแล้วย้ายเข้ามาอยู่ HDB ซะวันนี้พรุ่งนี้เลย
จริง ๆ ถ้าเราจดทะเบียนแล้วมาเลือก HDB เนี่ย
เราต้องลงทะเบียนก่อนนะ
แล้วลงทะเบียนเนี่ย ก็ไม่ใช่ว่าครั้งหน้าจะได้เลือกนะ
อาจจะต้องรอเปิดลงทะเบียนหลายรอบ เพราะก็เต็มเร็วมาก
เลือกได้ก็ต้องวางเงินดาวน์ แล้วต้องรออย่างน้อย 4-5 ปี เมื่อแฟลตสร้างเสร็จ
แถมสร้างเสร็จ ผ่อนต่อ ก็ครอบครองได้แค่ 99 ปีแล้วต้องคืนรัฐบาล
ที่เดินมันแพง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
แต่งมาอยู่เมืองไทยมั้ยยูว์ ได้อยู๋บ้านด้วย เอ๊ะ นี่หนุ่มเค้าจะเอาชั้นเหรอ มโนอีกละ

แล้วเราก็ย้ายจากสวนเล็ก ๆ ในบ้าน
มาที่สวนใหญ่ ๆ อย่าง Botanical Gardens กันบ้าง

Image Hosted by PicturePush

ชอบมากกกกกกกกกกก
มีสวนหลายแบบ มีหลายบึงเลย เขียวครึ้มไปหมด
ทางเดินก็น่ารัก
เดินอย่างร่าเริงมาก ท่ามกลางอากาศร้อนไม่ค่อยต่างจากบ้านเราเท่าไหร่
แต่ก็ไม่ได้ร้อนเพลียมาก เพราะมีร่มไม้ตลอดทางเดิน
แต่หนุ่มคงไม่ค่อยอินด้วย เดินเหงื่อตกตลอดทาง แถมต้องสะพายกระเป๋าเราด้วย ฮา ๆ
เฮ้ย พยายามไม่ให้เค้าแบกเป้เรานะ เพราะเป็นผู้หญิงแข็งแรง ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชาย (สงสัยเพราะเงี้ย เลยไม่มีแฟนซะที กรูอยู่ด้ายย)
อ้อ
หลังจากวันก่อนเจอลิงโขมยขนมจากเมืองไทยไปเกือบหมด
วันนี้เราเลยเอาขนมที่เหลือมาให้หนุ่มใหม่
วันนี้ไม่ได้ไปที่ไหนที่มีลิงละ สบายใจ


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush


เราก็คุยเรื่องงานฮี ฮีเป็นวิศวกรเนอะ ไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมันก็ด้อยพัฒนากว่าบ้านเค้า
ทำอะไรมันก็ลำบอก ก่อสร้าง คนงานก็หนี ไม่ได้ตามสเป๊ก นู่น นี่ นั่น ก็ฟัง ๆ ขำ ๆ
แต่ฮีคงไม่ขำด้วย
เพราะฮีต้องทำโปรเจคนี้ให้เสร็จส่งมอบภายในสิ้นปีนี้แล้ว
รู้สึกว่าเดือนกันยาหรือตุลาเนี่ยแหละที่ฮีจะหมดสัญญาทำงานที่นั่น ที่โปรเจ็คจะเสร็จ
แต่คาดว่าคงไม่เสร็จ แต่พยายามให้เสร็จภายในสิ้นปี
เดี๋ยวคงต้องมาดูว่าจะต่อสัญญารึเปล่า แล้วฮีต้องการต่อรองอะไรด้วย
ซึ่งเราก็ไม่ได้ถามต่อว่าฮีจะต่อรองเอาอะไรเหรอ เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องของเราเนอะ


Image Hosted by PicturePush


จากที่คุยกะฮีนะ เราว่าฮีเป็นผู้ชายที่มีสมอง มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ดีนะ
ไม่รู้ว่าอันนี้เป็นวัฒนธรรมของผู้ชายสิงคโปร์เลยรึเปล่า
แต่ฮีไม่บ้าเงินนะ
บางคนคุยด้วย จะรู้สึกว่า....ทำไมถึงคิดแต่เรื่องลงทุน การทำเงิน ฯลฯ ที่มันเกี่ยวกับเงินตลอดเวลา
ซึ่งเพื่อนคนไทยที่เคยไปทำงานกับคนสิงคโปร์จะบอกเหมือนกันว่า
เนี่ยแหละ มันอยู่ในสายเลือดของคนสิงคโปร์เลย ไอ้เรื่องการบริหารเงินเนี่ย
แต่คนนี้จะไม่ค่อยได้ ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย
หรือบางครั้งก็มีหัวข้อที่เข้าเรื่องนี้ได้ เค้าก็ไม่ได้สนใจที่จะคุยเรื่องนี้
แต่รู้เลยว่า
ผู้ชายคนนี้บ้านรวยแน่ ๆ
รู้โดยที่เค้าไม่ได้พูดอวดเลยนะ
โคดเกลียดเลยพวกผู้ชายขี้โม้ ขี้อวดเนี่ย
แต่เค้าไม่เป็นนะ มันออกมาจากบทสนทนาเกี่ยวกับพ่อแม่เค้าเนี่ยแหละ
แต่ตัวเค้าเอง low profile มากนะ มือถือยังเป็นซัมซุงรุ่นเก่ามาก ถ่ายรูปยังไม่ค่อยจะชัดเลย ฮา ๆ
แต่ก็ไม่รู้นะว่า เค้าใช้อันนี้ที่ทำงานด้วยรึเปล่า หรือแค่เอามาใช้เป็นเครื่องสำรองเวลากลับมาบ้านเฉย ๆ
แต่รู้เลยว่าไม่ได้เป็นคนหัวสูง ทั้ง ๆ ที่บ้านมีตังค์
แต่ฮีก็บอกว่า คนสิงคโปร์ (หรือทุกประเทศนั่นแหละ) มองคนที่ภาพลักษณ์ภายนอก
เค้าตัดสินเราไปแล้วแหละว่าเราเป็นคนยังไง จากเสื้อผ้า เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ ทั้ง ๆ ที่เรายังไม่ทันเปิดปากเลยด้วยซ้ำ
แต่คนสิงคโปร์อาจจะมีเรื่องพวกนี้มากหน่อย
เพราะประเทศเค้า บ้าแบรนด์เนม มองคนจากภายนอกเป็นหลัก


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush



Image Hosted by PicturePush

หลังจากเดินลัดเลาะตามสวนต่าง ๆ
เราก็มาโผล่ตรงศาลาที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนนี้


Image Hosted by PicturePush


โห
มันน่ารัก โรแมนติกมากกกกกก
แล้วไปตอนบ่ายสองอ่ะ
แทบไม่มีคนเลยยยยยยยย
มีแค่ 1-2 คนเค้ามาทำวิจัยเกี่ยวกับต้นไม้
เกือบไม่มีคนถ่ายรูปคู่ให้แล้ว ฮา ๆ

อย่างที่บอก
ด้วยเค้าที่เค้าไม่ชอบถ่ายรูปเลยยย
แต่ละวันที่เจอกัน จะมีรูปถ่ายคู่กันแค่วันละรูป สองรูปแค่นั้น
เออ ก็ยังดี ดีว่าไม่มีเลยซักรูป


Image Hosted by PicturePush

แล้วเราก็ไปนั่งในศาลาร้อยปีกัน
พอนั่งคุยกันได้แป๊บนึง
มีลมพัดมาแรงมาก 1 วูบ
เป็น 1 วูบที่ประทับใจเรามากที่สุดในทริปนี้เลย
เพราะลมวูบนั้น พัดกลีบดอกไม้สีเหลือง ๆ จากต้นไม้ปลิวว่อนไปทั้งสวน เข้ามาในศาลา
โหยยยยยยยยยยยยยยยยย
อย่างกะซีรี่ย์เกาหลี!!!!!!!!!!!!!
ซึ่งมันโรแมนติกมากกกกกกกกกกกก
แต่แบบ
มันวูบเดียวจริง ๆ ไม่ถึง 5 วินาที แล้วมันก็หายไป
เอามือถือขึ้นมาถ่ายไม่ทันเลย
ได้แต่เก็บความประทับใจนั้นไว้กับตัวจนถึงวันนี้ กรี๊ดดดดดดดดด


Image Hosted by PicturePush


แล้วด้วยความที่มันมียุงเนอะ
ยุงกัด เราก็เลยเอาน้ำมันย่านางออกมาทา
เราก็แค่ทาแปะ ๆ รอยยุงกัด แล้วก็ทาขาให้กลิ่นน้ำมันไล่ยุงตามสไตล์เราน่ะ
ฮีก็งงว่า ทำไมไม่นวดให้เข้ากับเนื้อ
แล้วฮีก็บอกว่า
เนี่ย พ่อฮีต้องนวดขากับเท้าให้แม่ฮีก่อนนอนเกือบทุกวันเลยนะ
บางวันพ่อฮีไม่อยู่ ฮีก็รับช่วงต่อนวดเท้าให้แม่
โหยยยยยยยยยยยย
กรี๊ดอ่ะ ดูว่าแม่ฮีจะเป็นคุณนายที่โชคดีจริง ๆ
มีรถรับส่งตั้งแต่สาว ๆ แต่งงานมาก็มีทั้งสามี ทั้งลูกชายประคบประหงม
แล้วถ้าตูแต่งไป ตูต้องไปนวดให้แม่สามีด้วยมั้ยเนี่ย (มโนไปไกลมากละ ตื่น ๆ)
ฮีก็บอกว่า คิดว่าคนแก่แล้วเค้าก็ผลัดกันนวดแหละ
เพราะแก่แล้วเลือดลมวิ่งไม่ถึงปลายมือ ปลายเท้า มันจะชา ก็ต้องนวดให้เลือดมันไหลเวียน
ไอคิดว่าพ่อแม่ยูก็ผลัดกันนวดเหมือนกันแหละ เพียงแต่ยูไม่เห็นเท่านั้นเอง
ว่าแล้วฮีก็จะเอามือมานวดน่องให้ เอิ่ม พอ ๆ ไม่ต้อง ๆ เจ้เกรงใจ เจ้นวดน่องเจ้เองได้ อันนี้แค่ยุงกัด เดี๋ยวเจ้เคลิ้ม (อ๊างงงง)
โหย แต่งไปได้นวดฟรีเว้ย แต่ต้องไปนวดแม่สามีเป็นการตอบแทนแหง ๆ


Image Hosted by PicturePush

เออ พูดถึงเรื่องนวดเนอะ
เราก็บอกฮีเหมือนกันว่า เนี่ย เราก็มีหมอนวดเจ้าประจำเหมือนกันนะ
ดีที่สุดในกรุงเทพเลยสำหรับเรา ป้าแกใช้ข้อศอกนวดกับน้ำมัน
ป้าแกก็บอกว่าคนสมัยนี้เล่นมือถือกันเยอะ จะมีปัญหาต้องอุ้งมือ เป็นพังผืดกันเยอะ
แล้วเราก็ขอมือฮีมาบีบเส้นให้ฮีดูว่ามันอยู่ตรงไหนที่มีปัญหากัน
ซึ่งเราแค่คีบเส้นนั้นขึ้นมา ทุกคนจะร้องหมด ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำแรงเลย
แต่เราจะไม่รู้ตัวกันหรอกถ้าไม่โดนเส้นนั้น เพราะมันอยู่ลึกลงไปในอุ้งกลางมือของเราทุกคนระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งน่ะ ลองบีบดูก็ได้ลึก ๆ เส้นนั้นแหละ
ฮีก็ร้องเหมือนกัน ฮา ๆ

แล้วก็ลองนวดไหล่โดยใช้ศอกแบบที่ป้าแกนวดไหล่เราดู
ทำแป๊บเดียวเองแหละ เขิน
ฮีบอกว่า ทำต่อไป อย่าเพิ่งหยุด กำลังสบาย ฮา ๆ
พอ ๆ อันนี้น้ำจิ้ม ถ้าแต่งแล้วเดี๋ยวจัดชุดใหญ่ให้ (อ๊างงง มโนอีกแล้ว)


Image Hosted by PicturePush


แล้วเราก็เม้าเรื่องน้องชายเราเนอะ
คือน้องชายเราเนี่ย เกิดปีเดียวกะฮีเลย
แค่ความคิดไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่เหมือนฮีเลย
เอาแต่เล่นเกมส์ด้วย
แล้วเวลาเล่นเกมส์เนี่ย ใครเค้าไปพูดอะไรไม่ได้เลยนะ ตวาดใส่ ไม่สนใจ ไม่รับฟัง ถ้ายังไม่หยุด ตะคอกใส่อีกต่างหาก
จริง ๆ ฮีก็เล่นเกมส์เหมือนกันนะ
แต่ด้วยความที่งานยุ่ง เลยไม่ค่อยมีเวลาเล่น
แล้วก็เล่าว่า น้องชายว่างตอนเดียว คือตอนที่มากินข้าวที่โต๊ะอาหาร แต่ก็คุยด้วยไม่ได้นะ เพราะเช็คมือถือไปด้วย
ฮีก็บอกว่า
เนี่ย การที่น้องชายเรากินข้าวที่โต๊ะอาหารเนี่ย ถือว่ามีวินัยแล้ว
จะไปหวังให้กินเสร็จล้างด้วย อันนี้เกินไป (ไรวะ)
ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่มากินข้าวที่โต๊ะอาหารนะ
กินมันหน้าเครื่องคอมนั่นแหละ
น้องยูดีกว่าหลายคนเป็นไหน ๆ

Image Hosted by PicturePush

แล้วเวลาอยากให้น้องเก็บอะไรเป็นที่เป็นทางก็พูดดี ๆ กับน้อง
เหมือนที่ยูพูดกะชั้นก็ได้ ไม่ใช่มาถึงก็บอกให้เก็บรองเท้า ให้ล้างจาน ให้เก็บนู่น นี่ นั่น ใครเค้าจะไปทำ
อ้าว แล้วทำไมไม่มีจิตสำนึกที่จะเก็บของ ๆ ตัวเองเลยล่ะ
คิดแค่ว่า วางตรงนี้ จะทำไม ไม่ได้เดือดร้อนใคร
แต่มันรกบ้านมั้ยล่ะ งี้ใครอยากถอดรองเท้า วางเป้ วางหนังสือ ตรงไหนก็ถอด ก็วางให้มันรกไปเลยงั้นสิ
ไม่เดือนร้อนใคร แต่มันรกรึเปล่า
โอ๊ย พูดแล้วโมโห กลับมาบ้าน เห็นของวางเกะกะก็โมโห ไม่มีอารมณ์จะพูดดีกะใครแล้ว ฮึ่ม

แล้วเราก็คุยเรื่องศาสนากันเนอะ
ฮีก็ไปเรียนโยคะกับพุทธศาสนาที่ประเทศเพื่อนบ้านเนอะ
ก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง ฮีรู้แหละว่าเราเป็นพุทธ และเป็นพุทธที่ปฏิบัติด้วย อาจจะขี้เกียจบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็ทำนะ
แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฮีเป็นพุทธรึเปล่า
แต่คาดดว่าน่าจะเป็นนะ เพราะฮีก็ไปเรียนพุทธศาสนานี่เนอะ
ฮีบอกว่า มันยากนะ ในการจะบรรลุอรหันต์เนี่ย
แค่การไม่ยึดติดก็ยากแล้วนะ ถ้าเรามีพ่อ มีแม่ แล้วถ้ามีภรรยากับลูกอีก
การอยู่กับปัจจุบันก็ยาก เพราะจิตเราวุ่นวาย
แต่มันก็เป็นธรรมชาติของจิตเนอะ

Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush

แล้วเราคุยอะไรกันอีกก็ไม่รู้ จำไม่ได้ละ กลับมาเป็นเดือนละ ลืม
แต่ ๆ
ที่จำได้ก็คือ เรานั่งได้แค่ชั่วโมงกว่าเอง
แล้วเราก็ต้องลุก
เพราะมีชาวเกาหลีมาถ่ายรูปแต่งงานกัน
ก็เลยแสดงความยินดีกับเจ้าสาวไปเป็นภาษาเกาหลี
หนุ่มเราก็ตกใจใหญ่ว่ายูพูดภาษาเกาหลีได้ด้วยเหรอ
แหมยู
ชั้นเคยเป็นสาวกซีรี่ย์เกาหลีมาก่อนตั้งหลายปีนะจ๊ะ
ก็พอพูดได้บ้างแหละ
แต่ตอนนี้เลิกติดละ มัน unreal
เคยติดเกมส์ออนไลน์มา 6-7 ปีก็เลิกงาน เพราะมัน unreal
มาหาอะไร real ๆ ดีกว่า สู่โลกแห่งความจริง
พระเอกเกาหลี มันไม่มีจริงโว้ย

แล้ว............
โหยยยยยย
คิดดู นั่งคุยหนุงหนิง มีดอกไม้ปลิว แล้วมีคนมาถ่ายรูปแต่งงาน!!!
เอิ่ม มโนอีกละ มันเรื่องปกติของสวนนี้ที่มีคนมาถ่ายรูปแต่งงานย่ะ
สวนหลวง ร.9 บ้านเฮาก็มีคนมาถ่ายรูปแต่งงานกันทุกวันเหมือนกัน แปลกตรงไหน
โหย
เจ้อยากมาถ่ายมั่งงงงงงง จริงอ่ะ? ไม่จริง (ถามเองตอบเอง)
เปลือง
แต่งกะเจ้ไม่ต้องกลัวเปลือง
เจ้ไม่อยากจัดงานอยู่แล้ว
เจ้ขอจดทะเบียนได้ citizenship อย่างเดียว
การมี passport สิงคโปร์มันดีตรงไหน
ก็ดีตรงที่
เจ้จะได้ไม่ต้องขอวีซ่าซักประเทศ หรือเกือบทั่วโลก ฮา ๆ
รู้มั้ยว่า คนสิงคโปร์ ได้รับการจัดลำดับชนชาติเป็นลำดับ 5 ที่เดินทางได้เกือบทุกประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่านะจ๊ะ เท่า ๆ กับคนญี่ปุ่นเลยจ้า
แหม่ ประชากรประเทศรวยมันดีงี้นี่เอง
ประเทศไหนก็อยากให้เข้า ไม่ต้องไปกลัวว่าจะหลบหนีเข้าเมืองไปทำงานผิดกฎหมาย เป็นภาระต่อประเทศนั้น ๆ
กรู!!! อยากได้ benefit เค้าอย่างเดียวเลยเว้ยเฮ้ย
แหม่....ตัวก็อยากได้ แถมได้มาพร้อม benefit เนี่ย ใครล่ะไม่อยากได้ คิก ๆ



Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush


Image Hosted by PicturePush



หลังจากนั้น เรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยตั้งแต่เที่ยง
บ่าย 2 กว่าบ่าย 3 ละ
ฮีเลยพาไปกิน katong laksa
สารภาพเลยว่า
มันอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้
เพราะหนุ่มพานั่ง taxi จากสวนไปที่ร้านเลย
เราบอกว่าไม่ต้อง ๆ ไอเดินได้ ไปรถเมล์หรือรถใต้ดินเหอะ ยังไม่หิวมาก
แต่ฮีบอกว่า ฮีเดินไม่ไหวละ นั่ง taxi ไปเหอะ
เราก็เกรงใจเนอะ รู้ว่า taxi บ้านเค้าแม่งจะแพงไปไหน
แต่หนุ่มหมดสภาพจริง ๆ ลากเราขึ้น taxi เฉยเลย ฮา ๆ
พอขึ้น taxi ก็โอเคนะ สบายดี
มองวิว 2 ข้างทางเพลินเลย
ก็มีคุยกับคนขับ taxi เหมือนกันนะ
คนขับคนนี้เป็นคุณลุงคนจีน
เคยมาเมืองไทย
เออ คนขับ taxi บ้านเค้าไม่ได้จนนะเฟ้ย
Taxi ก็มี 2 กะเหมือนบ้านเรา
คุณลุงแกเช่าต่อมาจากคนขับอีกคน
Taxi บ้านเค้า เวลาเร่งด่วนอีกราคานึงนะจ๊ะ
เช่นตอนเช้าก่อนเข้างาน หรือตอนเย็นหลังเลิกงาน รู้สึกว่าจะคูณ 1.5 หรือ 2 เท่าเนี่ยแหละ
หลังเที่ยงคืนก็เหมือนกัน
เพราะคนเรียกเยอะ แล้ว taxi ก็มีน้อย
การได้ใบขับ taxi นี่ไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะ กว่าจะได้ต้องใช้เวลาและความสามารถจริง ๆ แถมแพงด้วย
เค้าจะถามตึก ที่อยู่ตามซอก ตามซอย ที่ขึ้นใหม่ ก็ต้องตอบให้ได้หมด
แต่ taxi บ้านเค้าสะอาด ทันสมัยดีนะ เหมือนนั่ง taxi เหลืองของ all thai taxi เลยล่ะ
มี gps เสร็จสรรพ แต่ด้วยความที่แฟลต HDB มีขึ้นใหม่ทุกปี
เล่าคนขับก็ต้องอัพเดทตามให้หมด
ช่องเปลี่ยนกะ
ก็จะมีป้ายขึ้นว่า taxi จะไปเปลี่ยนกะที่ไหน
ถ้าไปทางเดียวกันค่อยโบกขึ้นได้
เวลาโบก taxi ก็ต้องดูป้ายไฟด้านบนของ taxi ที่เราโบกด้วยนะ
นั่งไม่นานนะ 15-20 นาทีเองมั้ง รถก็ไม่ติด
ค่า taxi เกือบ 20 เหรียญจ้า จะเป็นลม นั่งแป๊บเดียวค่า taxi 500 บาท
(รูปอาหาร เราไม่ได้ถ่ายไว้เลยนะ ขโมยเค้ามา เครดิตอยู่ในรูปจ้ะ)


Image Hosted by PicturePush


แล้วเราก็มาถึง katong laksa ลักซาเจ้าดังของที่นี่ มีหลายสาขานะ
ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าที่เรามากินเนี่ย มันสาขาไหน

รู้แต่ว่า ผนังของร้าน มีแต่หนังสือพิมพ์มารีวิว
กับรูปคนดังของทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกงแวะเวียนมากินและถ่ายรูปคู่กับเจ้าของร้านไว้เป็นที่ระลึก


Image Hosted by PicturePush


ไปถึงเค้าก็มี 2 อย่างให้เลือกมั้ง ว่าเอาชามใหญ่หรือชามเล็ก
จำได้ว่าชามเล็ก 7 เหรียญกว่า ชามใหญ่ 12 หรือ 15 เหรียญเนี่ยแหละ
แล้วก็มีน้ำมะนาวเป็นแก้วซีลมาให้เลือกกับน้ำอะไรอีกน้ำนึงจำไม่ได้
เรา 2 คนก็เลือกชามเล็ก แล้วก็น้ำมะนาว
เบ็ดเสร็จ 2 คน ก๋วยเตี๋ยว+น้ำ 15 เหรียญ
แต่ค่าแท็กซี่มากิน 20 เหรียญ โคดคุ้มเลยกู

Image Hosted by PicturePush



จะพยายามแย่งหนุ่มจ่ายทั้งค่าแท็กซี่ ทั้งค่าอาหาร
แต่ก็แพ้ฮีตลอด ฮีไม่ให้จ่าย
แอบเซ็ง เจ้มานี่ ไม่ได้หวังมากินฟรีให้ผู้ชายเลี้ยงนะเว้ยเฮ้ย แค่พาเจ้เที่ยว เจ้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
แต่มาเดทกับเรา (เอ๊ะ เรียกเดทรึเปล่าวะ) ถูกกว่าถูกมากนะ
เพราะเรากินแต่อาหารมื้อนึงไม่เกิน 10 เหรียญ แล้วก็ไปเดินเล่นในสถานที่ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียเงินซักป่าซักสวน
เวลาขึ้นรถเมล์ รถไฟก็ต่างคนต่างจ่าย มีวันนี้แหละที่แพง 35 เหรียญ
แต่ถ้าไปเดทกับสาวสิงคโปร์นะ ขั้นต่ำร้อยเหรียญจ้ะ
ไหนจะต้องมาไปดูหนัง ไปนั่งกินร้านอาหาร แล้วไปต่อที่ร้านขนมในคาเฟ่ชิค ๆ 2 คน ล่อไปเกินร้อยเหรียญแล้ว
เหรียญนึงตอนนี้ก็ 26 บาทจ้ะ
เดทสาววันนึง 2600 นะจ๊ะ สำหรับเมืองที่ค่าครองชีพสูงโคด ๆ ผู้หญิงที่นั่นก็เลยแพงโคด ๆ ด้วยประการละฉะนี้
เห็นมั้ย เดทกะเจ้ วัน ๆ นึงจ่ายไม่เกิน 500 นะจ๊ะ แล้วเจ้พยายามช่วยจ่าย แต่ไม่ทันและโดนห้ามตลอด ๆ เจ้โคดจะเกรงใจเลย


อ้อ ลักซาอร่อยมากกกกกกกกกกกก
มันหวาน มันน่ะ ถูกใจผู้หญิงที่ไม่กินเผ็ด ไม่กินเปรี้ยวอย่างดิฉันเหลือเกิน
จริง ๆ เค้าก็มีพริกแยกมาให้ต่างหากนะ แต่ไม่เอา
กินแต่เส้นแล้วเครื่องในนั้น พร้อมกันพยายามกินน้ำแกงกะทิให้น้อย ๆ
เพราะมันต้องอ้วนมากแน่ ๆ


Image Hosted by PicturePush

กินกันไปก็คุยกันว่า
พรุ่งนี้วันสุดท้ายขอยูละ
ไปไหนกันดี
แต่ฮีก็บอกก่อนเลยนะว่า
ฮีต้องเข้าออฟฟิศไปทำเรื่องวีซ่าและเคลียร์งานประมาณครึ่งวันนะ
เจอกันได้หลัง 11 โมง
เราก็ เออ โอเค ไม่มีปัญหา บอกก่อนล่วงหน้าแบบนี้แหละ ดีแล้ว
จะได้แพลนถูกว่าจะตื่นกี่โมง หรือนัดหนุ่มคนอื่นไปเที่ยวกี่โมง คิก ๆ
แล้วฮีก็ชวนว่า
ไปดูหนังกันมั้ย
เฮ้ยยยยยย
มาที่นี่ไม่ได้มาดูหนังนะโว้ยยยยย
รีบบอกว่าไม่ไปอย่างไว
แล้วฮีก็คิดอีก
งั้นไปซื้อของฝากคนที่บ้านยูกันมั้ย
ไม่ไปอ่ะ
พ่อแม่บอกอยู่เสมอว่าไม่ต้องซื้อของฝาก รกบ้าน อาหารก็เหมือนกัน ๆ ซื้อกรุงเทพสดใหม่กว่าอีก
ไปกินคาเฟ่น่ารัก ๆ ซักคาเฟ่นึงกันเถอะ
เพราะจริง ๆ แล้วก่อนจะมาสิงคโปร์เนี่ย
ฮีส่งลิงค์คาเฟ่น่ารัก ๆ เปิดใหม่ในสิงคโปร์มาให้เลือกเพียบเลย
แต่เท่าที่ดู เข้าไปกินกันไม่ต่ำกว่า 50 เหรียญแน่นอน ทั้งขนม ทั้งน้ำ
แล้วมันดูไม่คุ้มค่า แค่กินบรรยากาศ เลยไม่คิดจะเลือกเลยซักคาเฟ่เดียว
แค่บรรยากาศน่ารัก เหมาะสำหรับคู่เดท
แต่เจ้อยากจะบอกว่า เจ้ low maintenance นะจ๊ะ
เดทจะเจ้ ไม่ต้องจ่ายแพง ก็เอาใจเจ้ไปได้จ้ะ ฮา ๆ
เลยตอบไปว่า
อืม...ไม่ไปอ่ะ มานี่อยากกินแต่ local food คาเฟ่น่ารัก ๆ กรุงเทพฯมีเยอะแยะยังไม่อยากจะไปเลย
คาเฟ่ที่นี่ของโคดแพง ไม่เอา ๆ เปลืองตัง(ยู)
แล้วฮีก็หมดปัญญา
ด้วยความที่ไฟล์เรากลับค่ำ ๆ
เราเลยมีเวลาทั้งวันถึง 5 โมงเย็นที่จะกลับมาเอากระเป๋าที่โฮสเทลแล้วไปสนามบิน
จริง ๆ เราอยากไปสวนอีกที่นึงนะที่มันมีแม่น้ำด้วยอยู่ในใจอยู่ละ แต่ยังไม่บอกฮี
เดี๋ยวดูอีกทีว่าฮีเสร็จกี่โมง


Image Hosted by PicturePush


กินเสร็จ 5 โมงกว่าได้
ก็ได้เวลาไปเจอ 2 สาวสิงคโปร์ที่นัดไว้ตอน 6 โมงกว่า
เราก็นั่งรถเมล์ไปต่อรถใต้ดิน
แล้วให้ฮีนั่งกลับบ้านฮีไป
ระหว่างนั่งใต้ดิน ฮีก็มัวแต่ยุ่งกับ whatsapp ฮีอ่านะ แทบไม่ได้คุยกันเลย
แอบมองว่า เอ๊ะ แชทกะสาวไหนน้า
ปรากฎว่า เป็นครอบครัวจ้ะ
เป็น whatsapp group ครอบครัวฮีจ้ะ
แล้วก็เป็นเรื่องงานที่ต้องเข้าออฟฟิศพรุ่งนี้จ้ะ
แล้วก็เพื่อนที่สิงคโปร์
ก็อย่างว่านะ
กลับมาบ้านแค่ 10 วัน มี appointment ล้านแปด
แล้วมาเที่ยวกับเราก็ 3 วันเข้าไปแล้ว
ขนาด 3 วันที่มาเที่ยวเนี่ย เค้าก็มีนัดก่อนแล้วก็ปลีกตัวมาเที่ยวกับเรานะ
เค้ามีทั้งนัดญาติ นัดกินข้าวกับที่บ้าน นัดทำฟัน นัดเข้าออฟฟิศ นัดเรื่องวีซ่า นัดงานแต่งเพื่อน ฯลฯ
เค้าบอกว่าเดี๋ยวต่อจากเรา 3 วัน เค้าต้องไปเจอญาติเค้า 2 คน
แล้วก็เพื่อนอย่างน้อย 3-4 คน แล้วเวลากับพ่อแม่เค้าอีก
นับถือน้ำใจฮีจริง ๆ
คงรู้สึกผิดมั้ง
ให้เราเลื่อนไฟล์มาหาแล้วมาเที่ยวด้วยแค่วันเดียว
จริง ๆ ฮีจะมาเที่ยวกับเราทุกวัน 4 วันนะ
แต่ด้วยความที่ฮีมีนัดเยอะเหลือเกิน
วันอาทิตย์อย่างที่บอกว่าเป็นวันพ่อบ้านเค้า
เค้าก็ต้องไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ ตอนเย็นก็ไปงานแต่งงานเพื่อน เลยให้อยู่บ้านมั่ง
พ่อแม่เค้าคงเกลียดอิเจ้นี่ไปแล้วมั้ง
ลูกชายคนเดียวของเค้ากลับมาบ้าน 10 วัน
แต่หายหัวไปกับสาวตั้ง 3 วันตั้งแต่เช้ายันดึก ไม่ได้อยู่บ้านให้พ่อแม่หายคิดถึงเล้ย ฮา ๆ

แล้วเราก็ไปหาสาวสิงคโปร์ 2 คนหลังจากนั้น
ไว้อาทิตย์หน้ามาเล่นต่อนะจ๊ะว่าเม้ากะสาวสิงคโปร์จะสนุกขนาดไหนยังไง
ขอบคุณที่ติดตามค่า อ่านคอมเม้นท์แล้วชื่นใจที่อย่างน้อยก็มีคนที่ติดตามอ่าน
ทำให้คนพิมพ์เล่าก็จะตั้งใจพิมพ์นะค้า
งานก็ยุ่งจะตาย (ห่าน) อยู่ละ
แต่ก็เจียดเวลามานั่งพิมพ์วันละนิด วันละหน่อย (แต่เอาเข้าจริง พอเริ่มพิมพ์ก็หยุดไม่ได้ นอนดึกมันทุกคืน)
บล็อคนึงพิมพ์อย่างต่ำทั้งวัน ถ้าเอาทีเดียวเสร็จ
ยังไม่นับเลือกรูปจากหลายร้อย ให้เลือก 10 กว่ารูปในบล็อค โหลดรูปจากที่อื่นแล้วเอาลิงค์มาไว้ที่นี่ จัดเรียง ฯลฯ
บล็อคแต่ละบล็อคใช้เวลา ทำเอามันส์ เงินก็ไม่ได้ เวลาก็เสียไปทั้งวัน นั่งทั้งวันไม่ได้ลุกไปไหน ปวดก้น ปวดหลัง ปวดขา ปวดแม่งทุกอย่าง
แต่พอเวลาได้อ่านคอมเม้นท์ว่ามีคนติดตาม ทุกอย่างที่ทุ่มเทไป มันได้ความชื่นใจกลับมา
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ คุณสละเวลาคอมเม้นท์เพียงแค่ 2 นาที แต่มันมีความหมายสำหรับเราทั้งอาทิตย์ สำหรับพลังในการพิมพ์เนื้อหาตอนต่อไปค่ะ
รักคนอ่านนะคะ




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2559
1 comments
Last Update : 9 กันยายน 2559 21:07:10 น.
Counter : 2551 Pageviews.

 

ติดตามๆ นะคะมาอัพบ่อยๆ อย่าเพิ่งหนีกันไปน่า คืออินมากกกตอนนี้เพิ่งกลับมาจากสิงคโปร์ ได้วันเดียว กลับมาปุ๊ปเปิดอ่านบล็อกนี้เป็นอย่างแรกเลย555 ไม่รู้ว่าจำได้ไมดรามาเม้นคราวที่แล้ว ที่บอกคุยๆกะหนุ่มสิงคโปร์อยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้คงไม่แล้วแหละ บายยยจ้ะ555 เพิ่งไปเที่ยวกับมา แนะนำอีกที่คือมหาลัยนันยาง คือแบบชอบบรรยากาศมากกกก ไม่รู้ทำไมสวนเยอะด้วยมั้งอาหารตาก็เยอะ555

 

โดย: ฝน IP: 1.46.162.118 27 กรกฎาคม 2559 17:50:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.