เที่ยวคนเดียวในเมืองฝรั่งกับการนัดเจอหนุ่มตี๋หลาย ๆ คนจาก dating app ตอนที่ 1
กลับมาจากเมืองฝาหรั่งแล้วตอนกลับมาก็อยากมาเล่านะว่าไปเจอผู้ชายที่นั่นเป็นยังไงแต่ขี้เกียจมากกกกกกกกกกและก็ยุ่งมากกกกกกก เพราะลางานไปยาววันนี้ว่าง เลยมาเม้าซะหน่อย อิอิบล็อคเรานี้ ขอไม่แยกประเทศแล้วกันเพราะจะเม้าแต่ผู้ชาย เรื่องประเทศที่ไปแทบไม่มี 555 เรื่องต่อจากตอนที่แล้วเรื่องที่โมโหอิหนุ่ม 2 คนก่อนไปดังที่เล่าไปแล้วในบล็อคนี้2 คำตอบจากการแชทกับหนุ่มออนไลน์ที่ทำเราปรี๊ดแตกคราวนี้มาเล่า ไล่เรียงดีกว่า ว่าเราไปเจอหนุ่มไหนบ้างแล้วแต่ละคนเป็นยังไง อิอิ บอกหลักการเจอของเราก่อนคือเราก็หาจากในพวก dating app ซะส่วนใหญ่นะ ทั้ง tinder ทั้ง bumbleแล้วก็แอพหาเพื่อน CouchSurfing เปิด feather hangoutหลัก ๆ คือหาอยู่ 3 แอพ แต่แอพที่ผู้ชายจะสนใจเราสุดก็คงหนีไม่พ้น.....ทินเดอร์ 555ที่ใช้นี่ จริง ๆ แล้วคือ ขี้เกียจ ขี้เกียจหาข้อมูล ขี้เกียจเดินหลง ใช้แอพนัดเจอหนุ่ม แล้วหนุ่มอยากพาเดินดูอะไร กินที่ไหน จัดไป เราโอเคหมด เพราะเราขี้เกียจจริง ๆ ไม่ชอบเที่ยวคนเดียวนะแต่ให้เที่ยวกับเพื่อนสนิทก็กลัวกลับมาแล้วเสียเพื่อน เพราะมีความต้องไม่ตรงกันแล้วเราเป็นพวกชอบเดินป่า เดินสวน เดินชมธรรมชาติ ไม่ช้อปปิ้ง ไม่ไปดูวิวตึกสูง ไม่ค่อยอยากไปที่เด่น ๆ ดัง ๆ ที่เป็นตึก ๆ ไม่เอาเลยแต่ถ้าเป็นวัดหรือเป็นมิวเซียม โอเคเลยนะแล้วเวลากิน ก็หากินเอาถูก ๆ ไม่เข้าคาเฟ่ เพื่อนบางคนก็อาจจะไม่ชอบบางคนก็มีความคิดว่า เที่ยวทั้งที เอาให้สุด ไปที่ ๆ ดัง ๆ สวย ๆ ถ่ายรูปลงเฟสไรเงี้ยซึ่งเราไม่ใช่ประเภทนั้น เฟสเราหลายเดือนเข้าที เพื่อนแม่ง ใครเชิญไปงานแต่งหรือไร ชวนในเฟส ก็รอไปเถอะ มาดูอีกที มันแต่งงานจะคลอดกันแล้ว ฮา ๆเราไปแบบประหยัดมาก เดินได้เดิน กินถูก ๆ แค่ให้อิ่มไปเมืองแพงมากก็อาจจะกินมื้อเดียวต่อวัน น้ำประปากินได้ก็กรอกน้ำประปากินคาเฟ่นี่ลืมไปได้เลยเพราะเราพยายามเที่ยวต่างประเทศทุกปี หรือปีละหลายครั้ง แล้วเกือบทุกครั้งคือ ไปคนเดียวหลีกเลี่ยงดราม่ากับเพื่อนผู้หญิงแล้วเพื่อนที่จะไม่ดราม่า ก็ไม่เคยว่าง เพราะนางต้องเดินทางต่างประเทศทำงานตลอดเวลามีวันหยุดก็อยากจะนอนอืดพักอยู่บ้าน ก็เข้าใจแต่เราทำงานติดโต๊ะไม่ต้องเดินทาง เวลามีวันหยุดก็อยากบินออกนอกประเทศความต้องการและเวลาไม่เคยตรงกับใครดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงเพื่อนผู้หญิงไม่คบหลังกลับมาจากทริปเราไปหาผู้ชาย local เอาดาบหน้าดีกว่าได้คุยด้วย ไม่หลงด้วย เผื่อได้ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ก๊าก ๆ คือเราก็ใช้หลักเดิมนะคือใช้ fake gps location เอาตัวเองไปอยู่เมืองที่จะไปก่อนซักเดือนนึงแล้วก็คุยกับเหล่าหนุ่มตี๋ ที่เรา match ด้วย (คือไม่ชอบฝรั่ง อยากคุยแต่กับตี๋ เป็นความชอบส่วนบุคคล ไม่ดราม่านะจ๊ะ)ใครคุยดี ก็เอามาไว้ใน line หรือ whatsappใครคุยไม่ดีก็ปล่อยมันไปเลือกมาซัก 4-5 คนที่พอมีแน้วโน้มว่าคุยดี เจอกันแล้วพาเราเที่ยวได้ ไม่หื่นกาม 555 พอไปถึง เราก็บอกทุกคนว่า เออ ชั้นมาถึงแล้วนะ ถ้าพวกยูว่างวันไหนก็นัดแล้วกันถ้าอยากเจอ ชั้นว่างตลอด 555เสียงตอบรับกลับมาคนเดียวเลยเป็นหนุ่มเวียดนาม ที่ฮีคงว่างนะ แชทมาหาทุกวันฮีก็เลยนัดเลย เย็นนี้เลยแล้วกันยูว์โอเคก็นัดกันที่รถไฟฟ้าสถานีที่ฮีทำงานนั่นแหละ แล้วก็ใกล้ที่พักเรา แหล่งท่องเที่ยวพอดีแล้วก็ถามว่า ยูใส่ชุดยังไงเนี่ยฮีตอบว่า ไม่เห็นไร ชั้นจำหน้ายูได้ ชั้นสูง เดี๋ยวชั้นหายูเองเราก็ เออ โอเค ๆ ซึ่งตรงที่นัดเจอ คนเยอะมากนะแล้วตอนเจอกันหืมมมมมมมมมมม................สูงไม่น่าจะถึง 175 ด้วยซ้ำเมิงไปเอาความมั่นใจในความสูงเมิงมาจากหนายยยยยยย5555 เค้าก็ถามเนอะว่าจะไปกินอะไรกันดีรีบตอบทันใด อาหารเวียดนามมมมมมมฮีก็พาไปร้านดังแถวนั้น ซึ่งเป็นร้านที่เพื่อนเราคนนึงแนะนำเหมือนกันแถมยังต้องต่อคิวรออีกก็รอนานประมาณนึงถึงมีโต๊ะว่างก็ได้นั่งรออาหารให้ผู้ชายสั่งเลยจ้ะว่าอยากให้เราลองอะไรเพราะอิชั้นเห็นเมนูเป็นภาษาอังกฤษแล้วอยากจิเป็นลม คิดไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรคือพูดน่ะคล่องนะ แต่ให้อ่านเมนูภาษาอังกฤษนี่ขอบายจริง ๆฮีก็เลยสั่งเฝอ กับอะไรซักอย่าง จำไม่ได้ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ด้วย 555ก็อร่อยดี ไม่ค่อยได้กินอาหารเวียดนามเท่าไหร่ก็นั่งคุยกันฮีเป็นเวียดนาม พ่อแม่ย้ายมา ฮีเกิดที่นี่เสียงฮีนุ่ม เพราะมากเลยนะ แต่............ฮีติดอ่างง่ะตอนแรกคุยก็งง ๆ นะเพราะเหมือนฮีจะพูดแล้วคำสุดท้ายมันไม่ออกมา แล้วก็ย้ำ ๆ ก็คือติดอ่างนี่เองแล้วฮีจะมีบุคลิกที่ต้องเอามือปิดปาก เพราะจะติดอ่างคำท้าย ๆ ของประโยคน่ะนะแล้วฮีก็พาเดิน Darling Harbour แม่ง เหมือนสิงคโปร์เลย 5555แล้วฮีสอนซื้อตั๋ว opal card เพราะฮีก็ทำงานอยู่ตรงนั้นเนอะแล้วเราก็ให้ของจากเมืองไทยที่เราขนมาฝากฮี เพื่อเป็นการตอบแทนที่ฮีเลี้ยงข้าวเรา แล้วเราก็ลากัน หนุ่มคนอื่น เซ็งมากส่งไปบอกแล้วนะว่ามาถึงแล้วทุกคนอ่าน แล้วเงียบ คืออัลไลอ่ะหนุ่มเวียดนามอีกคนที่บอกว่าหล่อ ๆ อ่ะ เราก็แอบคิดว่าเค้าคงจะนัดเราเสาร์ หรือ อาทิตย์นะเพราะเค้าก็ทำงานจันทร์ ถึง ศุกร์เนอะ แลดูชีวิตน่าจะว่างสุดสัปดาห์ก็แค่อ่านแล้วก็หายเงียบไป เฮ้ยคือแบบเรามีของเตรียมไว้ให้ฮีน่ะด้วยความที่ฮีรักหมาเนอะ อยู่กับหมาแค่นั้นเวลาคุยเรื่องหมา ฮีจะคุยตอบได้ยาว แต่ถ้าถามเรื่องอื่นก็เหมือนจะตอบสั้นมากเราก็เลยไปสั่งทำชุดไทย สำหรับหมาฮีมาแต่ตอนนี้เริ่มนอยด์ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอฮีรึเปล่าแต่ก็ไม่อยากตามมาก เพราะก็บอกแล้วว่ามาถึงแล้วแล้วฮีก็บอกว่า คงได้เจอซักวันที่ยูอยู่ที่นี่แหละแต่ก็ไม่เห็นนัดซักที พอวันเสาร์มาถึงอยู่ ๆ ก็มีฝรั่งคนนึงที่เราเคยคุยด้วยซึ่งจริง ๆ ไม่ได้อยากคุยกับฝรั่งเลย พอดีมือไปโดนเวลาปัด ๆ ในแอพ บางครั้งมันเร็วอ่านะ มันก็พลาดไปหลายคนเหมือนกันแต่ถ้าคนไหนทักคุยมา เราก็คุยไปตามเรื่อง ไม่ให้เสียมารยาทฮีก็ถามว่ายูมาเที่ยวยังเนี่ยเราก็บอกว่า อืม มาแล้ว ฮีก็บอกว่า งั้นเจอกันเลยแล้วกัน อีก 2 ชั่วโมงเราก็โอเค ๆ เพราะวันนี้ไม่มีใครนัดอยู่ละแหม่เห็นเป็นฝรั่งนึกว่าจะสูงโอ๊ย สูงกว่าอิชั้นตั้งนิดนึงแล้วอิชั้นเป็นผู้หญิงสูงไม่ถึง 160 อ่าค่าคุณผู้อ่านก็คิดดูว่าฝรั่งนี้มันสูงแค่ไหน 170 ได้มั้งอิฝรั่งนี่จริง ๆ ไม่อยากเจอเลยนะเพราะเคยคุยกับมันว่าเคยมาเมืองไทยป่าวมันก็บอกว่า เคย transit วันนึงจำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่แต่ในบาร์ เข้าบาร์นู้น ออกบาร์นี้โว้ย มึงจะกินเหล้าเยอะอะไรปานนั้น ตอนเจอกัน มันก็พาเดินรอบ ๆ เมืองแล้วมันก็บอกว่า ยูควรไป roof top bar แล้วมันก็พาไปขึ้นไปบาร์แห่งหนึ่งตอนบ่ายโมง!!!แต่ขอโทษ roof top มันมีแค่ 4 ชั้น กว่าจะไต่ปีนบันไดขึ้นไปผ่านความสกปรกของพรมในบาร์ทั้ง 4 ชั้นแล้วขยะแขยงมากเพราะบาร์มันเปิดตอนกลางคืนเนอะเราก็จะไม่เห็นเวอร์ชั่นตอนกลางวัน แต่พรมนี่เลอะเทอะ สกปรกมากกกกแล้วโซฟาก็เก่ามัน มีคราบเต็มไปหมดตอนกลางคืน ไฟสลัว ๆ เรามองไม่เห็นหรอกเราก็ไต่ขึ้นไปจนถึง roof topโชคดีมากที่คนเต็มเลย เสียงดัง ไม่มีที่นั่ง เพราะอิบาร์มันก็คือห้องแถวห้องเดียวแล้วไม่เข้าใจว่าอิฝรั่งพวกนี้มึงจะมากินเหล้ากันอาบแดดตั้งแต่บ่ายโมงเชียวรึ แล้วฮีก็เดินพาชมเมืองไปเรื่อย ๆ ผ่านอีกบาร์นึง ที่นั่งข้างนอกได้เลยหยุดแวะนั่งบาร์นั้นกันเพราะอินี่มันหิวเบียร์มากมายมันก็ถามว่าเราจะเอาอะไรก็บอกว่าอะไรก็ได้ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เลยได้อะไรไม่รู้คล้าย ๆ มะนาวโซดามากินไปคุยไป มองผู้คนกันไปฮีเพิ่งได้งานใหม่ ยังไม่ถึงปีเลยก็ถามว่าเคยไปอยู่ที่ไหนมาบ้างฮีก็บอกว่า เคยไปทำงานที่อังกฤษมา 2 ปีแล้วก็สิงคโปร์ 3 เดือนหืม....ทำไมอยู่สิงคโปร์แค่ 3 เดือนฮีก็เลยเล่าให้ฟังว่าตามแฟนเก่าไปแฟนเก่าเป็นอินโด เชื้อสายจีน ได้งานเป็นครูมหาลัยที่สิงคโปร์ฮีก็กะจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เลยทิ้งทุกอย่าง ตามผู้หญิงคนนี้ไปปักหลักที่สิงคโปร์แต่อยู่ได้ไม่ถึงเดือนก็เลิกกัน ฮีก็พยายามหางานที่นั่น แต่เงินเดือนมันได้น้อยกว่าที่บ้านฮีเพราะเป็น local contract ไม่ใช่ expat contract ที่เค้าจะจ่ายค่าบ้านและมีสวัสดิการอื่น ๆ ให้ฮีก็เลยตัดสินใจกลับมาบ้านหางานที่นี่ดีกว่าอ๋อ เข้าใจละเราว่าฮีชอบผู้หญิงเอเชียนี่เอง เลยมาดีดใส่อิหมวยอย่างชั้นแต่ชั้นไม่ชอบสายฝอนะแจ๊ะ ให้คุยด้วยอ่ะได้ แต่ไม่อินเลยแม้แต่น้อย ฮา ๆแล้วฮีก็พาเดินรอบเมือง เป็นฝรั่งที่เดินเร็วมาก ขนาดตัวเตี้ยนะเนี่ยเดินคุยด้วยแล้วเหนื่อย แทบไม่ได้คุยเลยระหว่างเดิน จะเดินเร็วไปไหนวะอิหนุ่มที่นั่งคือฝรั่งที่เจอนะแจ๊ะ แล้วฮีก็พาเดินรอบ ๆแม่มจะถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะกันไปไหนฟระคือแบบตาร้อนมากอยากถ่ายมั่งก๊าก ๆแล้วก็เดินรอบ ๆวันเสาร์ คนออกมาเยอะมากทั้ง local ทั้งนักท่องเที่ยว หลังจากแยกย้ายกะฮีวันนั้นผู้ชายในสต๊อคที่คัดมาแล้วดันไม่ตอบเราเลย อ่านแล้วเงียบหายหมดเลยจริง ๆ มีเกาหลี 2 คนนะแต่แม่ง ดันดีแตกมีตอบมานะถามว่า your place or my place อิห่า นี่ขนาดกูเลือกมาแล้วนะเนี่ย คิดว่าไม่หื่นแล้ว มึงดันมาดีแตกซ้าอุ้ย ขออภัยค่ะ หยาบคาบ แต่อ่านแล้วแบบ เฮ้ย ในหัวคิดแค่นี้หรือ เลยบล็อคมันเลย เกาหลีอีกคนก็ตอบบ่อยนะ แต่ไม่นัดเราซะทีแล้วบอกว่าอยากเจอ ๆ มาเจอแถวบ้านมันได้มั้ยอารมณ์ว่าเราอยู่โฮสเทลตรงสีลม จะให้เรานั่งรถไฟไปเจอที่รังสิตคลอง 6 เงี้ยเมิงเห็นแก่ตัวไปป่าววะ เจอกันครึ่งทางยังจะรู้สึกว่าอยากไปเจอนะแต่ให้อิชั้นนั่งไปหาที่ รังสิตคลอง 6 มันไม่ใช่ป่าววะเลยขี้เกียจคุยต่อแล้ว ๆ มันก็ไม่ได้คุยมาด้วย ก็เลยหายกันไปไว้มาเม้าต่อบล็อคหน้านะจ๊ะมีให้เม้าอีกหลายยยยยยยยยยคนมากใครมาอ่านแล้วชอบ อ่านแล้วอยากติดตามต่อเม้นท์ให้กำลังใจกันหน่อยน้ารักคนอ่านนะคะ