เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สอง...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด
ใครเพิ่งมาอ่านบล็อคนี้ครั้งแรกลองกลับไปอ่านตอนแรก ๆ ก่อนได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะคะเพื่อความต่อเนื่องเที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิดเที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด ตอนที่ 2เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สอง...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สอง...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด ตอนที่2เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สาม...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิดเที่ยวมาเลย์คนเดียววันสุดท้าย...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด จบเช้าวันที่สอง โรงแรมเดิม รวมอาหารเช้าเลยขึ้นไปกินอาหารเช้าชั้น 7 บนสุดของโรงแรมอาหารเช้ามีให้เลือก 3 อย่าง ผู้หญิงกินเยอะอย่างชั้นก็ต้องเลือกชุดใหญ่ไฟกระพริบสิจ๊ะหน้าตาน่ารัก นั่งอยู่คนเดียวประหนึ่งเป็นห้องอาหารส่วนตัวย่ะอันนี้เค้ามีขายคนนอกด้วยนะ 15 ริงกิต คูณ 8 ก็ 120 บาท น่ารัก ราคาไม่แพงฟรุ้งฟริ้งมะล่าประมาณ 9-10 โมง อิเพื่อนสิงคโปร์ก็มา check in ที่โรงแรมเดียวกับเราซึ่งเป็นเรื่องดี จะได้ไปกลับที่เดียวกัน นัดเจอกันง่าย ข้างล่างของโรงแรมเลยแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางด้วยกันแหม พูดซะโรแมนติก แต่ความจริงคือ....มันเพิ่งเลิกกับแฟนได้ 2 เดือน แล้วตอนนี้มันก็มีสาวคุยอยู่จ้าแล้วไม่ได้คุยธรรมดานะ คุยแม่งตลอดเวลาคือมันพิมพ์คุยกะสาวคนนี้แทบจะตลอดเวลาทั้งเวลานั่งรถ ที่เที่ยว ไปกินข้าว ฯลฯตลอดเวลาที่สาวเจ้าตอบจริง ๆ มันติดอยู่กับมือถือมันตลอดเวลาเราเลยไม่ค่อยได้มีเวลาคุยกันหรอกทั้ง ๆ ที่เที่ยวด้วยกันตั้ง 3 วัน เหอะ ๆแต่ก็ดีกว่าไม่มีคนเที่ยวด้วย เอาจริง ๆ นะเพราะมาเล สำหรับเรา มันน่ากลัวมากจริง ๆ จากประสบการณ์วันแรกของเรา ก็มีการไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบในทริปนี้ ถามอ้อม ๆ และถามตรง ๆ กับมันไป 2 รอบว่าทำไมถึงเลิกกับแฟนที่คบกันมาตั้ง 4 ปีไปเที่ยวเอเชียด้วยกันมาตั้งหลายประเทศ หลายทริปต่อปีไม่มีคำตอบออกจากปากมันจ้ะ ชิ ไม่ถามแล้วก็ได้อิเพื่อนตัวดีแกล้งแซวว่า เพราะมันคุยกะแกรึเปล่า แล้วแฟนมันจับได้ ขอเลิกไรเงี้ยป๊าดคิดงี้จะดีเหรอเพื่อนมาดูข้อความที่คุยกันได้เลยไม่ได้มีอะไรเล้ย คุยกันดินฟ้าอากาศ ข่าวสาร ที่กินที่เที่ยวในเมืองไทยซะส่วนใหญ่เพราะมันพาแฟนมาเมืองไทยบ่อย ทั้งกรุงเทพ ภูเก็ต เขาใหญ่ ฯลฯคิดว่าไม่ใช่เพราะเราแต่ที่มันไม่ตอบเรา อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้สนิทกับมันขนาดนั้นมั้งคุยกันแบบว่า 2-3 อาทิตย์ ทักมาอัพเดทชีวิตกันทีนึง หรือมีข่าวอะไรน่าสนใจในไทยก็ส่งมาถามว่าจริงมั้ยไรเงี้ยแล้วผู้ชายเค้าก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้วเนอะพูดไป เดี๋ยวกลายเป็นนินทาผู้หญิงรึเปล่าเออ ก็ดี ไม่ต้องตอบ ก็ protect ตัวเองไปด้วย 555ฮีก็ถามว่าอยากไปไหนตอบอย่างไม่คิด อยากไป FRIMFRIM ย่อมาจาก Forest Research Institute Malaysiaมันคือสถาบันอนุรักษ์ป่ามาเลเซียมันก็คือป่ามาเลนั่นแหละห่างจากตัวเมือง KL ประมาณเกือบ ๆ ชั่วโมงได้มัคือคิดไว้ว่าถ้ามีผู้ชายไปด้วย จะไป ถ้าไปคนเดียว ไม่ไปเพราะเดี๋ยวหลงป่า ซวยเลย หรืออิคนขับแท็กซี่พาไปไหนก็ซวยเลยก็ลั่นล้าไปเพราะมีผู้ชายไปด้วยผู้ชายก็จัดการเรียก uber จากหน้าโรงแรมไปส่งที่ FRIM เสร็จสรรพใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงคิดไว้ละว่าจะไปอยู่ที่นั่นอย่างน้อยครึ่งวัน เช่าจักรยานขี่เล่น เดินชมนก ชมไม้ อยู่กับต้นไม้ ใบหญ้า ความชื้น ความเย็นในป่า ฯลฯนั่งออกจากตัวเมืองมาได้ซักพักที่ได้เห็นภูเขาอยู่ไกล ๆผู้ชายก็ขอเข้าไปเช็คไอ้สถานที่นี้หน่อยเพราะผู้ชายก็ไม่มีไอเดียเหมือนกันเราอยากไปเพราะอ่านในการท่องท่องมาเลมาแล้วอยากไปอันนี้ที่สุดก็นะ เป็นผู้หญิงรักต้นไม้ ไปประเทศไหน ก็อยากไปแต่สวน แต่ป่าไม่ชอบเข้าตึกช้อปปิ้งเหมือนผู้หญิงคนอื่นหลังจากฮี google เข้าไปดูแล้วฮีก็ถามว่ายูว์.............วันนี้ป่าปิด หืมมมมมมมมมมมม???????????????ยูเช็คมารึเปล่าว่าเค้าเปิด ปิดวันไหนก็บอกว่าเปล่าป่ามันควรจะเปิดทุกวันสิ จะปิดได้ไงฮีก็ยื่นมือถือมาให้ดูว่า อ่ะเนี่ย ดูดิ มันปิดจริง ๆโทรเข้าไปมันก็เข้าระบบตอบรับอัตโนมัติว่าปิดเสาร์ อาทิตย์หืมมมมมมมมมมมม...................มาเลเซียยยยยยยยยยยยยยยยป่าบ้านมึงปิดเสาร์ อาทิ้ตตตตตตตตตตตตตตอยากจะกรีดร้องงงงงงงเช่าจักรยานปั่นเล่นชิล ๆ ใต้เงาต้นไม้ใหญ่ในป่าของช้านนนนนนนนนนนนนล่มสลายถามคนขับ uber ที่เป็นแขกมันก็บอกว่า อืม มันปิดเสาร์ อาทิตย์อ้าวเมิงรู้แล้วทำไมเมิงไม่บอกกู๊ แล้วฮีก็ถามต่อแล้วเอาไงดีนั่นดิ เอาไงดีที่อ่านมาเนี่ย มีแค่ 2-3 ที่ ๆ อยากไปคือไอ้ป่านี่ แล้วก็สวนในเมืองแล้วก็ art gallery ตึกแฝด เท่านั้นแหละสิ่งที่อยากทำใน KLก็ให้ฮีช่วยหาว่ามีแหล่งธรรมชาติอะไรแถวนี้อีกก็ถามคนขับด้วยเค้าก็บอกว่าแถวนี้ มีแต่วัดแล้วเค้าก็พูดขึ้นมาว่า Ulu Yamมันคืออัลไล ขอ search ดูหน่อยมันเป็นน้ำตก ไกลว่าไอ้ป่าที่ปิดนี้ออกไปอีกไม่กี่สิบโล ขึ้นเขาไปหน่อยhttps://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/39/1d/ec/391dec938d66f634e9b9b133feb7f878.jpg>เออ มาจุดนี้แล้ว ไปก็ไปดีนะมากับผู้ชาย ๆ ก็ช่วย search ช่วยแก้ปัญหาทีนี้ก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางใน uberซึ่งคนขับก็ไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเพิ่งมาขับได้ 3 วันก็ต้องต่อรองราคา เพราะก็เหมือนเหมารถฮีมา เพราะถึงฮีไปส่ง ฮีก็ต้องตีรถเปล่ากลับเราก็ต้องเรียกรถกลับอยู่แล้ว ก็ควรกลับไปด้วยกันเลย ให้ฮีรอระหว่างเราไปเดินเล่นน้ำตกหน่อยนึง ด้วยความที่ฮีเป็นคนสิงคโปร์เนอะถนัดอยู่แล้วเรื่องเงินฮีก็ถามคนขับว่า ขับได้วันละเท่าไหร่ แล้วต้องขับวันละกี่ชั่วโมงอิแขกนี่ก็กลัวเสียเปรียบเนอะ เพราะเพิ่งขับได้ 3 วัน รายได้คงยังไม่แน่นอนก็บอกว่า ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องกลับด้วยกันเดี๋ยวขับไปส่งพวกยูที่น้ำตกก่อน แล้วไอโทรปรึกษาเพื่อนก่อนแล้วบอกยูทีหลัง ระหว่างขับไป เราก็โอเคละ ตกลงกันได้ก็เอนจอยต้นไม้ใหญ่ของมาเลไป ต้นไม้บ้านเค้าเยอะนะออกนอกเมืองหน่อยก็ต้นไม้เขียวครึ้มเข้าป่ายิ่งเขียว ต้องขึ้นลงเขา มันจะมีบางช่วงที่สัญญาณเน็ทและมือถือไม่มีเลยดีนะมากับผู้ชาย ถ้าเปรี้ยวมาคนเดียว โดนฆ่าข่มขืนหมกป่าก็ไม่มีใครรู้ ปรื๋ออออ ก็มีแอบหลงเหมือนกันก็ต้องมีหยุดรถลงไปถามเพราะไม่มี GPSพอถึงน้ำตก เรากับผู้ชายก็ลงไปเดินเล่นน้ำตกเข้ามุม ต่างคนต่างหามุมถอดรองเท้าแช่น้ำตกเล่นกันคนละที่ทั้งน้ำตก มีกันแค่ 2 คนอ้อ จริง ๆ มีอีกคน แม่งมาอาบน้ำให้น้ำตกเลยเป็นผู้ชาย หันหลังให้เรา แต่แม่งถอดกางเกง ให้ก้นขาว ๆ ตัดกับสีผิวมันเลยทีเดียว นี่ตั้งใจใช่มั้ยแล้วมันน่าเกลียดกว่านั้นคือ เมิงมาควักล้างซอกซอนอะไรในระยะที่กรูมองเห็นเนี่ย ถึงแม้จะหันก้นให้ก็เหอะก็พยายามจะไม่มองไปด้านนั้น มองน้ำตกเล่นอีกด้านนึงแทน หลังจากแช่น้ำตกกลับมาที่รถ คนขับก็โทรไปถามเพื่อนมันมาละมันบอกว่า มันขับได้วันละ 500 ริงกิตขับวันละ 8 ชั่วโมงฟังแล้วไม่น่าเชื่อเลยถ้าขับ uber แค่ 8 ชม ต่อวัน แล้วได้ตั้ง 500 ริงกิตพนักงานออฟฟิศก็มาขับ uber กันหมดแล้วมั้งเราว่าเค้าต้องขับอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อวัน เผลอ ๆ ขับ 12 ชั่วโมงยังไม่ถึง 500 ริงกิตเลยเราได้แต่คิดในใจผู้ชายก็คำนวณเสร็จสรรพ ต่อรองว่าเนี่ย พวกชั้นเหมายู 3 ชั่วโมง ให้ 200 ริงกิต โอเคมั้ยฮีก็บอกว่า โอเคแหม รายได้ดีจะตาย 200 ริงกิตไม่ได้ขับตลอดเวลาด้วย ขับแล้วนั่งรอจริง ๆ ขับแค่ 3 ชั่วโมงวันนี้ได้ 200 ริงกิตก็กลับบ้านนอนได้แล้ว คุ้มแล้วเพราะมาเลผลิตน้ำมัน ๆ ถูกมาก แถมคนมาเลยังได้ส่วนลดค่าน้ำมันอีก (อันนี้หนุ่มสิงคโปร์บอกนะ) แล้วเราก็ไปอีกน้ำตกนึง สวยน้อยว่าอันแรก ดีนะอยู่อันแรกนานเสียค่าเข้าคนละ 1 หรือ 5 ริงกิตเนี่ยแหละแต่เข้าไปถ่ายรูป 5 นาที ไม่กี่รูปก็ออกมาละ เพราะมันไม่ใหญ่และสวยเท่าอันแรก กลับมาปุ๊บ อิแขกมันก็บอกว่า เนี่ย ไปอีกสิ มีที่นั่น ที่นี่เราก็รู้ไต๋มันละว่ามันจะให้เราไปหลายที่เพื่อจะยืดเวลาให้มากกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อที่ว่าเราจะได้จ่ายเงินมันเพิ่มแค่จ่ายคนละ 100 ริงกิตเพื่อไปน้ำตกที่สวยเหมือนสระบุรีหรือนครนายกบ้านเราก็พอละล่ะเราก็บอกผู้ชายว่า กลับเถอะ เรา happy ละก็ให้มันไปส่งที่ร้านอาหารแต่ยังไม่บอกว่าร้านอะไรให้ผู้ชายหาที่กินก่อนทุกอย่างไม่ได้ทำการบ้านมาSearch เอาหน้างานจ้า เพราะไม่ต้องรีบบอกก็ได้ ยังไงทางกลับเมืองก็กลับทางเดียวอยู่แล้วแล้วผู้ชายก็จัดการหาที่กินคือทริปนี้เนี่ย ผู้ชายจะรู้ว่าเราจะ happy ถ้าเราได้อยู่ใกล้ธรรมชาติผู้ชายจะ happy ถ้าได้กินของอร่อยที่ตัวเองชอบดังนั้น เรื่องกิน ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ชายเลยอยากกินอะไร ร้านแบบไหน ได้หมดไปแล้วก็สั่งที่ของที่ตัวเองอยากกิน ไม่ต้องสนใจเรา เราแจมได้หมด เพราะเราไม่ใช่สายกินคือคนสิงคโปร์เนี่ย มันเป็นสายกินเว้ยคือไปประเทศไหนเนี่ย เวลากลับมา เพื่อนจะไม่ถามว่าไปเที่ยวไหนมาบ้างแต่จะถามว่า ไปกินอะไรมาบ้างให้ความสำคัญกับการกินกันแค่ไหน คิดดู๊ ผู้ชายก็ให้คนขับพาไปกินร้านอาหารจีนในเมือง ไม่ไกลจากตึกแฝดเป็นร้าน local มากเหมือนกันที่เพื่อนมาเลมันแนะนำเข้าไปเป็นโต๊ะจีน ก็ต้องแชร์กับคนอื่นด้วยเมนูก็มีภาษาจีนกับอังกฤษเรานะ เป็นคนที่งงกับเมนูอาหารที่ไม่ใช่ภาษาไทยมากเลยเวลาไปประเทศอื่นนะ จะบอกให้ local สั่งมาเลย เราไม่กินเนื้อ จบ.อยากสั่งอะไรก็สั่ง สั่งที่พวกยูชอบกินนั่นแหละ ทุกอย่างมันใหม่สำหรับชั้นอยู่แล้ว ชั้นกินอะไรก็ได้แล้วส่วนใหญ่ จะจบที่อาหารจีน เพราะก็นะ นัดแต่หนุ่มสาวจีนนะแล้วอาหารจีนก็อร่อยอยู่แล้ว เราก็ชอบกิน แหะ ๆส่วนใหญ่ผู้ชายก็จะเกรงใจ สั่งผัดผักมาให้ 1 จานแล้วอิจานที่อิชั้นกินเยอะสุดก็จะเป็นอิผัดผักเนี่ยแหละ เพราะมันสุขภาพดีสุดไปกินอาหารเมืองนอก ก็ขอกินผักหน่อยเถอะ ฮา ๆ ผู้ชายก็สั่งอาหารมาดังนี้ (ทริปนี้เริ่มฉลาด ถ่ายรูปอาหารมาบ้างละ เพราะอย่างที่บอก จริง ๆ เป็นคนไม่ถ่ายรูปอาหารนะ แล้วไม่ชอบดูรูปคนที่ถ่ายรูปอาหารด้วย แต่ถ่ายมานี่ เพื่อเอามาเขียนบล็อคเนี่ยแหละ) มีน้ำชาด้วยมีการล้างถ้วยน้ำชาก่อนด้วยหนุ่มสาวจีนทั้งหลายนี่จับตะเกียบกันได้คล่องแคล่วดีจริง ๆเราใช้ตะเกียบไม่คล่องนะ ถึงจะหน้าโคดหมวยก็เหอะเราจับตะเกียบเหมือนจับปากกาน่ะ คีบได้แต่ของชิ้นใหญ่ ชิ้นเล็กคีบไม่ได้นะ ฮา ๆ หลังจากกินเสร็จดู google map แล้วนั่ง uber ไป 5-10 นาทีก็ถึงตึกแฝดแต่เราจะเดิน!!มันไม่เกี่ยวว่าจะถูกแค่ไหนแต่วันนี้ตูยังไม่ได้เดินเลยมาทริปแบ็คแพ็ค มันต้องเดินเยอะ ๆก็เลยบอกหนุ่มว่า เราเดินกันเถอะคงเป็นประสบการณ์ใหม่ของมันจริง ๆเพราะมันมา KL กับแฟนเก่าทีไรก็ขับรถมากิน มาช้อปปิ้งในห้างแล้วก็กลับสิงคโปร์แต่มากับเราเข้าป่า แถมเดินดู art gallery ไม่ช้อปอีกต่างหากแถมบังคับเดินด้วย ฮา ๆ มันก็ยอมเดินกับเรานะโชคดีที่วันนั้นแดดไม่ร้อนเปรี้ยง ก็เดินได้ชิล ๆจะได้ดูตึก ดูบ้าน ดูคน (ซึ่งก็ไม่ได้อยากดู เพราะมีแต่แขก)เดินผ่านหลายตึก มีแอบเข้าไปเข้าห้องน้ำในโรงแรมหรูด้วยตรงที่ล้างมือมันแปลกมากเลยหานานมากว่าน้ำมันไหลจากไหน มันไม่มีเซ็นเซอร์จนสุดท้ายมีคนมาช่วยให้หายโง่ต้องหมุนไอ้วีลนี้จ้า น้ำถึงไหล โห สุดยอดนวัตกรรม 5555เลยถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึกเลยทีเดียวห้องน้ำโคดหรู แถมจะล้างมือยังต้องมีกิมมิคอีกต่างหาก ให้ 5 ดาวเลยจริง ๆเดินเอามันก็ดีนะแดดไม่ได้ร้อนเปรี้ยงแผดเผาเหมือนอยู่กรุงเทพ แต่ก็ร้อนแหละแต่เดินแล้วได้เห็นสองข้างทางด้วยว่ามีอะไรจริง ๆ เดินผ่านถนนได้ไม่นาน มันมี sky walk เว้ยเดินบนนั้นไปเรื่อย ๆ เข้าถึงตึกใกล้ ๆ ตึกแฝดได้เลยจ้าเดินดูวิวข้างบนไป จะหันกลับมาคุยกะอิผู้ชายซะหน่อยเอาแต่พิมพ์แชทอยู่นั่นแหละ วุ่นวายจริง ๆ ตานี่ไม่ได้มองทางเล้ยเลยแทบไม่ได้คุยกันเลยเราก็เดินกันมาสุดทาง sky walk ลงมา ยังไม่ใช่ตึกแฝดนี่หว่ามันเป็นตึกที่มี aquarium อ่ะไม่รู้ตึกอะไรเหมือนกัน แต่ตอนแรกนึกว่าตึกแฝดไงเลยขึ้นไปหา art gallery อ้าว อยู่ไหนวะ ไม่เห็นมีมีแต่ห้างเดินไป เดินมา เฮ้ย ยังไม่ใช่ เลยออกมาเดินข้างนอก แล้วเราก็เดินมาถึงสวนสาธารณะก่อนถึงตึกแฝดน่ารักดีนะ มีสนามเด็กเล่น สวนน้ำเล็ก ๆ ให้เด็กมาเล่นได้ด้วยเห็นมีคู่รักไต้หวันก็จูงมือกันมาเดินเล่นดูโรแมนติกเชียวหันกลับมามองผู้ชายอิชั้นก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือแชทกะสาวตลอดเวลาจ้า ให้มันได้ยังเง้แต่มันก็ดีนะ ในสวนสาธารณะนั้น มันก็มีชิงช้ามันก็บอกว่า ยูว์.....ไปนั่งชิงช้าตรงนั้น เดี๋ยวชั้นถ่ายรูปให้เพราะวิวข้างหลังมันเป็นตึกแฝดพอดีโห สายตาเจ๋งมาก ถ่ายออกมาสวยกรี๊ด นั่งชิงช้า ด้านหลังตึกแฝด แถมไอ้สวนนี่ตอนบ่าย ไม่มีคนเลยจ้ะแหม เคยพาสาวมาถ่ายจุดนี้ล่ะสิ เลยรู้มุม 555 แล้วเราก็เดินมาถึงตึกแฝดซะทีแต่เห็นเมฆมาซะครึ้มเชียวอย่ากระนั้นเลยขอไปถ่ายกะตึกแฝดอย่างนักท่องเที่ยวซะหน่อยดีกว่าจริง ๆ ไม่ได้อยากมาแหล่งนักท่องเที่ยวนะแต่ KL แม่งไม่มีอะไรให้ถ่ายรูปเลยจริง ๆ เลยต้องมาอย่างสิงคโปร์ ก็ไม่ได้อยากถ่ายกะเมอร์ไลอ้อนนะ มันมีอะไรมากมายให้ถ่ายด้วยแต่ KL นี่ ไม่รู้จะไปถ่ายอะไรถ่ายอยู่นานมาก เพราะคนล้านแปดถ่ายตรงไหน แม่งก็ติดคนถ่ายตรงไม่ติดคน มุมก็ไม่สวยได้มุมสวย คนน้อย ๆ ถ่ายออกมา ยอดตึกโดนตัดมันอะไรก็ไม่รู้ ยืนอยู่ตรงนั้นเกินครึ่งชั่วโมงได้ 555จริง ๆ ในใจคิดว่า ไปถึง ยืน แล้วก็แชะ ไปได้ ไม่ถึง 5 นาทีแต่พอหน้างาน มุมฮิต คนมหาศาลมุมไม่ฮิตก็ถ่ายไม่สวย ให้คนอื่นถ่ายให้ก็เบี้ยวมั่ง หัวขาดมั่ง ติดคนมากมายมั่งรูปไม่ได้ดั่งใจซักรูปเลยต้องใช้เวลาหน่อย เพราะกะมารอบเดียว ไม่เอาแล้ว แล้วเราก็เดินเข้าไปดู art gallery ในตึกแฝดกัน (ซะที)ก่อนเข้าก็ต้องลงทะเบียน เอาของฝากล็อคเกอร์แล้วก็เข้าไปดูอิผู้ชายชั้น มันก็ไม่อิน แยกเดินไปแชทกะสาวของมันแล้วก็ไปหาข้อมูลจองตั๋วรถไปมะละกาพรุ่งนี้ด้วย มีงานต้องจัดการส่วนอิชั้นก็เดินชิล ๆ ล่องลอยสวย ๆ ไปทั่ว galleryพอมาเจออีกที ฮีก็ให้กรอกข้อมูลสำหรับจองรถบัสไปมะละกาพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์)ซึ่งฮีก็ถามว่าจะเอารอบไหนเช้าสุด 5.45 ใกล้เต็มแล้วด้วยเฮ้ย ตี 5 เนี่ยนะ แล้วกรูต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมกี่โมงวะเนี่ยแล้วต้องไปท่ารถซึ่งต้องนั่งรถไปอีก 20 นาทีอย่างต่ำ ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆไม่เอา ๆ อย่างน้อยต้องตื่นตี 4 ครึ่ง ตายพอดี ไม่รู้ว่าไปกินข้าวกะหนุ่มมาเลคืนนี้แล้วจะกลับกี่โมงด้วยอีกรอบก็ 8 โมง 9 โมง แล้วก็ 10 โมงก็ยังไม่ตัดสินใจอ่านะแต่หนุ่มมาเลมีบอกเราแล้วแหละว่าตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอม คนจะไปมะละกากันเยอะนะ เพราะมันไม่ไกลจาก KLจองรถไว้ก่อนก็ดีแต่เราเป็นพวกชิลไง ไม่รู้ว่าจะตื่นกี่โมง แบบว่ามาเที่ยว มาพักผ่อนไม่อยากรีบกะว่าตื่นกี่โมงก็พร้อม แล้วไปจองตั๋วที่ขนส่งก็ได้ ประมาณนั้นแต่ฮีบอกว่า งั้นจองขากลับก่อนแล้วกัน เพราะเดี๋ยวมันเต็มขากลับมีรอบ 2-3 ทุ่มมั้งฮีบอกว่า เราควรจองรอบสุดท้าย แต่รอบสุดท้ายเต็มไปแล้วเราควรจะต้องอยู่ถึง night market เพราะก็เป็นไฮไลท์ของที่นี่เพราะมีแค่คืนวันเสาร์กับอาทิตย์เท่านั้นเออ เอาก็เอา ยังไงก็ได้ขอแค่มีเพื่อนเที่ยว มีคนจัดการเรื่องการจองรถ เราสบายละ แฮ่ เราก็ให้มันจองตั๋วขากลับไปแล้วเราก็มานั่งกินกาแฟกันตอนแรกจะกลับโรงแรมกัน เพราะมันก็ 5-6 โมงเย็นแล้วแต่ฝนดันตกซะนี่เราก็เลยนั่งหากาแฟกินกันในตึกนั่นแหละซึ่งก็ไม่พ้น old town white coffee เจ้าดังเพราะยังไม่ได้ชิมเลย กะไม่ซื้อกลับด้วย ขอมานั่งชิมเฉย ๆ ฮา ๆระหว่างกิน ก็ไม่ได้พูดคุยกะอิผู้ชายเล้ยเพราะมันก็ยังยุ่งกับเรื่องจองตั๋วออนไลน์ของมันอยู่ว่าจะไปกี่โมง จะกลับกี่โมงแล้วมี option อื่นที่จะไปได้มั้ยแล้วทางไปขนรถบัสที่ขนส่งจากโรงแรมไปยังไง ใช้เวลานานแค่ไหนเราถึงไม่ตกรถ ฯลฯเพิ่งรู้ว่าการมีใครซักคนจัดการทุกอย่างให้หมด โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย มันสบายอย่างนี้นี่เองมันก็นั่งหน้าเครียดหาข้อมูลไปพร้อมกับแชทกับสาวไปด้วยเวลาสาวตอบแชทซึ่งไม่เข้าใจว่าสาวเจ้าแม่งจะแชทกับมันได้เกือบจะตลอดเวลาจริง ๆ นะคือแบบว่ามันแชทไป ไม่ถึง 10 นาที สาวก็ตอบมาแล้ว หรือบางครั้งก็คุยกันไปมาพร้อมกันเลยแล้วเป็นแบบนี้ได้ทั้งวันแหม่ เพิ่งรู้ว่าคนจีบกันเนี่ย ต่อให้คนนึงเที่ยวอยู่ต่างประเทศ แม่งก็คุยได้ทั้งวันจริง ๆแน่จริงถ่ายรูปคู่ชั้นแล้วส่งให้สาวดูดิ๊ อยากรู้ว่าสาวจะว่ายังไง ก๊าก ๆเพราะเห็นแต่มันส่งรูปสถานที่เที่ยว และอาหารที่กิน ส่งให้สาวสาวจะรู้มั้ยว่ามันไม่ได้เที่ยวคนเดียว!!! 5555 เขียนมายาวมากแล้ว แล้วก็เข้าใจว่าคุณผู้อ่านก็อ่านมานานมากแล้วด้วย ติดตามตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้นะคะซีรี่ย์มาเลรวมทุกตอนเที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิดเที่ยวมาเลย์คนเดียววันแรก...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิด ตอนที่ 2เที่ยวมาเลย์คนเดียววันที่สอง...ไม่ปลอดภัยกว่าที่คิดอ่านแล้วเม้นท์ให้กำลังใจหน่อยนะจ๊ะ อย่างน้อยจะได้รับรู้ว่าก็มีคนอ่านอะไรยาว ๆ ที่เราใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งพิมพ์เหมือนกันนะรักคนอ่านนะคะ บล็อคนี้ไม่ใช่บล็อคแรกที่ไปเจอหนุ่มทางออนไลน์นะแจ๊ะเคยไปเจอแล้วทั้งสิงคโปร์และฮ่องกงตามไปอ่านประสบการณ์ฟิน ๆ ของหนุ่มที่เราไปเจอเมืองนอกกันต่อได้เล้ยอันนี้ของสิงคโปร์ไปหาหนุ่มพาเที่ยวอ้อยอิ่ง...ที่สิงคโปร์ ตอนที่ 1อันนี้ของฮ่องกงเครื่องลงฮ่องกงปุ๊บก็นัดบอดหนุ่มฮ่องกงมากินข้าวมื้อแรกด้วยกันเล้ยอันนี้คือประสบการณ์ความเซ็งเมื่อไปเจอหนุ่มตี๋อินเตอร์ใน กทม เนี่ยแหละรวบรวมสถานการณ์เซ็ง ๆ จากผู้ชายที่ไปเจอทางออนไลน์ตอนที่ 1รวบรวมสถานการณ์เซ็ง ๆ จากผู้ชายที่ไปเจอทางออนไลน์ตอนที่ 2รวบรวมสถานการณ์เซ็ง ๆ จากผู้ชายที่ไปเจอทางออนไลน์ตอนที่ 3ส่วนอันนี้ ประสบการณ์การเล่น tinder ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่เล้ยเชิญเสพย์ต่อด้านล่างจ้ะ เจ้ไม่ได้มาเล่น ๆ เจ้เล่นจริงจัง เก็บมาเม้าได้หลายบล็อคเลย ฮา ๆเม้าฝรั่งที่เจอในแอพ tinder หลังจากเพิ่งเล่นได้แค่อาทิตย์เดียวเสียเซลฟ์กับหนุ่มใน tinder อีกละเรามาอ่าน tinder profile ขำ ๆ แย่ ๆ หรือสร้างสรรค์กันดีกว่ามาอ่าน tinder profile ขำ ๆ กันต่อดีกว่ามาอ่าน tinder profile สนุก ๆ ฝึกภาษากันต่อนะเม้าเรื่องที่แชทคุยกับหนุ่มสิงคโปร์แชทคุยกับคนปลกหน้าที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกว่า 4 ชม. เกี่ยวกับด้านมืดของเธอลองให้หนุ่ม ๆ ทายหัวข้อนิทรรศการภาพถ่ายนึง มาดูซิหนุ่มแต่ละอาชีพทายกันว่าอะไรบ้างเม้าเรื่องต่าง ๆ ที่ได้แชทกะคนสิงคโปร์คุยมาก็หลายเดือน ถึงเวลาเอาตัวเองบินไปเจอหนุ่มซักทีปีหน้านัดหนุ่มที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเข้าไปจับกันในความมืดเป็นชั่วโมง แล้วไกด์ก็ฮามาก ได้ใจสุด ๆนัดเจอหนุ่มทางเน็ทครั้งแรก แต่หนุ่มไม่ได้มาแค่ 1 แต่มาถึง 3!!!!เรื่องเศร้า ๆ เคล้าคำพูดแย่ ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่คุยด้วยจากใน tinderแชทน่ารัก ๆ ฟิน ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่ได้คุยด้วย