Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 755059 - 2061 Odyssey Three จอมจักรวาล 3

2061 Odyssey Three จอมจักรวาล 3

จอมจักรวาล 3 Odyssey Three (1987)

โดย Arthur C.Clarke

สนพ.Thai Science Fiction แปลโดย พันธุ์ อรรณพ

"ชีวิตแล้วชีวิตเล่า ช่างน้อยนิด รวมทั้งชีวิตฉัน

เหลือเพียงช่วงสั้นๆ แม้ชั่วโมงเดียวยังมีค่า

ในความเงียบไร้ที่สิ้นสุด ยังมีสิ่งอื่นอยู่

ที่จะนำสิ่งใหม่มา...สิ่งชั่วร้าย

เป็นเวลา 3 รอบสุริยัน ที่ตัวฉันต้องสะสม

ดวงดาวที่ห่อเหี่ยวนี้...ร่ำรวยด้วยความปรารถนา

ที่จะติดตามไปกับความรู้ ราวกับดาวที่กำลังตก

ไกลโพ้นออกไปจากขอบเขตห้วงคิดของมนุษย์"

เฮย์วูด ฟลอยด์ กลับมายังโลกหลังภารกิจที่ไปยังดาวพฤหัสบดีผ่านมากว่า 50 ปี แต่เนื่องจากอาศัยอยู่ในดาวที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยเป็นเวลายาวนานเกินไปจึงต้องอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลอวกาศปาสเตอร์แทน

ในวัย 103 ปีของเขา เพื่อนที่เคยร่วมเดินทางไปกับเขาในภารกิจนั้นจากไปแล้วแทบจะทุกคน แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ราวกับคนหนุ่มในวัย 65 ปี เขาได้รับโบนัสไปกับยานยูนิเวิร์สในภารกิจสำรวจดาวหางที่มักจะโคจรใกล้โลกทุกๆ 76 ปี นั่นคือ ดาวหาง ฮัลเลย์ ดาวหางที่แทบจะไม่มีอะไรเก่ากว่า 1,000 ปี เพราะทุกครั้งที่ผ่านดวงอาทิตย์จะถูกเผาไหม้พื้นผิวให้ใหม่อยู่เสมอ

ขณะเดียวกันในยุคนี้หลังจากมีการตั้งสถานีบนดวงจันทร์ ก็มีการตั้งฐานบนดาวพุธ มีการฟื้นฟูดาวอังคารและที่สำคัญดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หลังจากดาวพฤหัสบดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นดาวลูซิเฟอร์ มีการปรับปรุงสภาพพื้นผิวและบรรยากาศของดาวแกนีมีด (Terraforming) ให้มนุษย์อยู่อาศัยได้กับโครงการ "แกนีมีดเขียว"

ยานกาแลกซี่ ยานขนส่งระหว่างดวงดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีเกิดตกลงไปในสถานที่ที่ครั้งหนึ่งมีคำเตือนของสิ่งมีชีวิตต่างดาวว่า

"อย่ามีใครลงมาเหยียบดาวยูโรป้าเด็ดขาด"

1 ในนักบินอวกาศก็คือ คริส ฟลอยด์ หลานของเฮย์วู้ด ฟลอยด์นั่นเอง

จากภารกิจสำรวจดาวหางฮัลเลย์จึงมุ่งตรงสู่ภารกิจช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความลับของดาวยูโรป้าที่รอวันเปิดเผยสร้างความตื่นตะลึงแก่มนุษยชาติ จนอาจเปลี่ยนแปลงการเดินทางสู่อวกาศในอนาคตเลยทีเดียว

..........................................................................

เล่มที่ 3 ในชุด Space Odyssey เปิดเรื่องมาช่วงแรกๆเหมือนเป็นเรื่อง Spin Off

ภาคแยกย่อยโดยใช้ตัวละครอย่างเฮย์วู้ด ฟลอยด์ เป็นตัวดำเนินเรื่องแค่นั้นเองจนต้องผ่านไปสู่ภารกิจบนดาวยูโรป้านี่แหละ เราถึงเห็นภาพความเป็นส่วนหนึ่งในซีรีส์ชุดนี้ของเล่มนี้

บรรยากาศของเรื่องช่วงดาวยูโรป้านี่ชวนให้คิดถึงเรื่อง นรกใต้ทะเลฝุ่น (A Fall Of Moondust) อยู่เหมือนกันและแน่นอน Clarke คงหวังให้มีลิฟต์อวกาศจริงๆเพราะตอกย้ำลงมาในเรื่องนี้หลังจากเขียนเอาไว้เป็นประเด็นหลักในเรื่อง สู่สวรรค์ (The Fountains Of Paradise) ในปี 1979 ที่กวาดรางวัลไปทั้ง Hugo และ Nebula เลย

ผมเริ่มรู้สึกว่าความสนุกเริ่มจะถดถอยลงทีละเล็กๆในแต่ละเล่ม

แต่ประเด็นความน่าสนใจที่ Clarke สอดแทรกมายังน่าคิดอยู่เสมอ

คราวนี้มากับประเด็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ช่วยลดเวลาให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับสมมติว่า มนุษย์เจอทรัพยากรอันมีค่าถ้ารู้จักใช้ประโยชน์ให้ก่อเกิดแก่มนุษยชาติมากกว่ามูลค่าของมันคงจะน่าก่อให้เกิดคุณค่าอย่างแท้จริงและหวังว่าคงไม่มีใครอ้างสิทธิ์ครอบครองมันไว้แต่เพียงผู้เดียวเพื่อตักตวงผลประโยชน์หวังเพียงแต่มูลค่าของมัน

"ภาวะคุกคามจากนอกโลกเท่านั้นที่จะทำให้คนเรามีความรักใคร่ปรองดองเป็น

น้ำหนึ่งใจเดียวกันได้"

ป.ล.ดาวหางฮัลเลย์เคยมาเยือนใกล้โลกในปี ค.ศ. 1986 มาแล้วใครเกิดทันคงจำได้ แต่ผมจำไม่รู้ลืมเลย ดีที่เรื่องนี้ไม่ดราม่าอะไรมากไม่งั้นคงน้ำตาไหลพรากแน่ๆ

คะแนน 7.9/10

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2560 19:17:34 น.
Counter : 2219 Pageviews.

4 comments