One Fine Day
วันเสาร์ที่ 27 ก.พ. 53ไปเที่ยวงาน บางแสนย้อนยุค กันสองสามีภรรยา ตื่นเต้นกันใหญ่ ราวกับว่าจะได้ไปงาน เทศกาลหน้ากากเมืองเวนิส (ปล. copy ชื่อเทศกาลนี้ มาจากเพื่อนบล็อกคนนึงของคุณสามี... คิก คิก) เราสองรีบปฏิบัติภารกิจประจำวัน (เลือกเฉพาะที่จำเป็น) ให้เสร็จสรรพ รีบอาบน้ำแต่งตัว เป็นอันสิบเอ็ดโมง ล้อหมุน (นี่ เอ็งรีบกันแล้วเหรอเนี่ย)แวะไปหา ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ กินกัน ซึ่งขอ recommend ร้านนี้เลยนะ อยู่ตรงแยกซ้ายมือ ก่อนถึงตลาดมาบตาพุด... high light ของร้านนี้ ก็คงเป็นที่มะระดิบหั่นเป็นชิ้นบางๆ ที่ถูกเตรียมไว้แบบไม่อั้น ลูกค้าสามารถเติม ตัก ขน ห่อ อม ได้ตามชอบใจ แต่ที่นี่ลูกค้าต้องบริการตัวเองนะ โดยทางร้านเค้าจะมารับออเดอร์ และจดหมายเลขโต๊ะที่เรานั่งไว้ จากนั้นเราก็คอยตั้งหน้าตั้งตาฟังให้ดีๆ ว่าเค้าจะอ่านรายการอาหาร และเบอร์โต๊ะของเราออกอากาศ (เสียงผ่านไมโครโฟน) เมื่อไหร่ เราก็เดินท่อมๆ ไปหยิบก๋วยเตี๋ยวมาปรุง และเติมมะระได้เลย ที่นี่เค้าไม่ได้มีผักแค่มะระดิบอย่างเดียวเท่านั้นนะ ยังมีถั่วงอกและโหระพาสดด้วย ซึ่งปริมาณก็มากมายก่ายกองแบบไม่ต้องกลัวหมดอีกเช่นกัน สนนราคาก็ไม่แพง สามสิบบาทต่อชามเท่านั้น.... ว่าแล้วสองสามีภรรยาเรา ก็เปิบเข้าไปสามชาม พร้อมกับตีนไก่พะโล้อีกหนึ่งชาม แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ พอเห็นก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงหน้าปั๊บ ในหัวก็คิดแต่จะกิน ครั้นนึกได้อีกที ในชามก็เหลือแต่น้ำก๋วยเตี๋ยวแบบโหลงเหลง และกระดูกไก่ในจาน ซึ่งถ้าถ่ายรูปตอนนั้น หน้าตาคงไม่น่าดูนักเท่าไหร่ท้องอิ่มแล้ว พร้อมเดินทาง เลยหันมาถามกันเองว่า งานเค้าเริ่มกันกี่โมงหว่า... (ความจริง กระบวนการคิดอะไรแบบนี้ มันน่าจะเกิดก่อนที่เราจะออกจากบ้านนะ) ว่าแล้วสามีก็โทรถามเพื่อนรักที่เคยพักพิงอยู่แถวบางแสน (เคยพักพิง ก็แปลว่าตอนนี้เค้าไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว)งานเค้าเริ่มประมาณหกโมงเย็น ในขณะที่ตอนนี้เวลาเที่ยงกับอีกสี่สิบห้านาที เอาไงกันดีล่ะที่นี้ ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว ก็เลยชวนกันแวะไปช้อปปิ้งที่ โรบินสันศรีราชา แวะไปหาเพื่อนที่ชลบุรี และแวะไปกินสมู้ทตี้แสนอร่อยที่ร้านเพื่อนแถวๆ ตึกน้ำ (ต้องชมกันหน่อย เพราะเพื่อนคิดตังค์เราเหมือนถือเคล็ด แบบว่าถ้าให้กินฟรี ก็จะดูกะไรบ้าง ไรบ้าง ทำนองนั้น) และแล้วเราก็สามารถใช้เวลาเละละไปเรื่อยจนเกือบหกโมงเย็นขับรถโหน่งเหน่งโหน่งแกละ กันมาถึงชายหาดบางแสน เห็นรถจอดเยอะแยะ ก็เลยรีบหาที่จอด และชวนกันลงเดินเพราะเกรงว่า ถ้าขับต่อไปเรื่อยๆ จะหาที่จอดรถได้ยาก เดินมากันพักนึง ก็ยังมองไม่เห็นงาน หันไปทางไหนก็มีแต่ร้านส้มตำ กับเก้าอี้ชายหาด แล้วงานเค้าจัดกันตรงไหนล่ะเนี่ยไม่ได้การณ์ แล้วหละ คงต้องถามใครซักคน...คนนี้เลยแล้วกันไม่น่าเชื่อเลยว่า คนเดินขวักไขว่เป็นร้อยแปด เราดันเลือกที่จะถามจากลุงหน้าตาเคร่งเครียดคนนึง ที่เค้ากำลังนั่งลับมีดอยู่... นี่ถ้าถามอะไรผิดไป มีดในมือลุง มันจะมาอยู่บนคอเมียมั้ยเนี่ย???งานเค้าจัดกันที่หาดแหลมแท่นโน่น.... แล้วพวกเราก็มองไปตามมือที่ลุงแกชี้ไป (โห ยังอีกไกลเหมือนกันนะเนี่ย).... ขอบคุณครับ (ต้องขอบคุณแกซะหน่อย เพราะเกรงใจมีดในมือแก)กลับไปเอารถ ขับต่อไปกันอีกหน่อยดีกว่าบรรยากาศงาน บางแสนย้อนยุด ก็ตรงตามคอนเส็ปชื่องานเป๊ะ ทุกอย่างเป็นของเก่า ที่เราอาจจะเคยเห็นบ้างตอนเด็กๆ แต่คิดว่าเด็กรุ่นหลังๆมานี้ คงไม่เคยเห็นกันแล้ว