space
space
space
 
ตุลาคม 2559
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
21 ตุลาคม 2559
space
space
space

"Toeic" กับ "วงการตลาดหุ้นไทย"





 "toeic" กับ "วงการตลาดหุ้นไทย"

วันนี้ทาง stock2morrow มีบทความดีๆจาก Chulatutor ที่ว่าด้วยเรื่องของ “ภาษาอังกฤษกับตลาดหุ้นไทย”... แล้วมันจะเกี่ยวข้องกันอย่างไรล่ะ? ไปศึกษากันได้เลยยยย

ตลาดหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์ ถ้าเปรียบเทียบว่าเป็นตลาดซื้อขายสินค้า ก็จัดเป็นตลาดซื้อขายสินค้าสากลค่ะ ทุกธุรกรรมการซื้อขายสินค้า หรือในที่นี้คือหุ้น ล้วนแล้วแต่เป็นภาษาอังกฤษทั้งสิ้น นี่แหละค่ะ ความเป็นสากล ของเจ้าตลาดหุ้นนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ ชื่อหุ้นแต่ละตัว คำสั่งซื้อขาย ตัวย่อ คำอธิบาย หรือข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือมีภาษาอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้น เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะตลาดหุ้นเป็นตลาดที่เปิดให้มีนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาลงทุนในตลาดแห่งนี้ ทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ ต้องใช้การสื่อสารที่เป็นสากล นั่นก็คือ ภาษาอังกฤษ นั่นเองค่ะ  พอภาษาที่ใช้ในวงการเป็นภาษาอังกฤษ ก็เลยทำให้ผู้คนที่วนเวียนอยู่ในวงการนี้ พากันใช้คำศัพท์ทางเทคนิคแบบไทยคำอังกฤษคำ จนเป็นเรื่องปกติ  การรู้ที่มาที่ไปของคำศัพท์นั้นๆ หรือความหมายของคำนั้นๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้น คุณจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องค่ะ!!! ก็มันจริงนี่นา….. 

มาดูตัวอย่างคำศัพท์ทางเทคนิคง่ายๆ เป็นภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วไปกันบ้างนะคะ  

BID = ราคาเสนอซื้อ   เวลาเราจะซื้อหรือจะขายหุ้น มักจะมีคำพูดนี้ติดปากกันเป็นประจำค่ะ ว่า BID เท่านั้น เท่านี้ เจ้า BID ก็หมายถึงราคาที่เป็นราคาที่เสนอซื้อของหุ้นตัวนั้นๆ ณ ตอนนั้นนั่นเองค่ะ

OFFER = ราคาเสนอขาย…. OFFER แปลว่า เสนอ ซึ่งในวงการตลาดหุ้น  OFFER ก็คือ ราคาที่เสนอขายของหุ้นตัวนั้นๆ ณ ตอนนั้นนั่นเองค่ะ

VOLUME = ปริมาณของหุ้นที่มีการเสนอซื้อขาย…… VOLUME แปลว่า ปริมาณ พอเป็นความหมายในวงการหุ้น ก็คือ ปริมาณการเสนอซื้อขายหุ้นในตลาดนั่นเอง

HIGH = ราคาที่เป็นราคาสูงสุดของหุ้นตัวนั้น ในวันนั้น …….HIGH แปลว่า สูง พอเป็นคำที่ใช้ในวงการก็หมายถึงราคาที่สูงที่สุดของหุ้นตัวนั้น

LOW = ราคาที่เป็นราคาต่ำสุดของหุ้นตัวนั้น ในวันนั้น…… LOW แปลว่า ต่ำ ซึ่งในวงการก็หมายถึงราคาที่ต่ำสุดของหุ้นตัวนั้น

CEIL = เพดานราคาที่สูงที่สุดของหุ้นตัวนั้น ในวันนั้น ซึ่งปกติแล้วจะกำหนดไว้ไม่ให้เกินร้อยละ 30 จากราคาเปิดตลาดของหุ้นตัวนั้น โดยคำว่า CEIL ก็แปลว่า เพดาน ซึ่งพอใช้ในวงการ ก็ทำให้เราเห็นภาพว่า เพดานสูงสุดเป็นขีดราคาสูงสุดของหุ้นตัวนั้นในวันนั้นที่จะสามารถวิ่งขึ้นไปได้

FLOOR = ราคาที่สามารถต่ำที่สุดได้ของหุ้นตัวนั้น ในวันนั้น  ซึ่งปกติแล้วจะกำหนดไว้ไม่ให้ต่ำว่าร้อยละ 30 ของราคาเปิดตลาดของหุ้นตัวนั้น และคำว่า FLOOR ปกติแปลว่าพื้น เมื่อนำมาเทียบกับคำว่า CEIL ก็ทำให้เราเห็นภาพว่าหุ้นแต่ละตัว จะไม่ขึ้นสูงหรือร่วงลงต่ำไปกว่าเพดาน และพื้นได้ เป็นการเปรียบเทียบที่เห็นภาพดีเลยค่ะ

เห็นหรือยังคะ ว่าภาษาอังกฤษสอดแทรกอยู่ในทุกอณูของวงการหุ้น นี่แค่น้ำจิ้มนะคะ เรื่องพื้นฐานที่คนที่จะเข้ามาในวงการนี้ต้องรู้และเข้าใจ หากศึกษาลึกลงไปมากขึ้น ก็จะพบคำศัพท์เทคนิคที่เป็นภาษาอังกฤษอีกมากมายค่ะ แหม่ ปล่อยผ่านไม่ได้เลยนะคะเนี่ย เจ้าภาษาอังกฤษเนี่ย

คะแนน TOEIC กับอาชีพในตลาดหุ้นไทย

เมื่อเห็นถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษกับวงการตลาดหุ้นกันไปแล้ว คราวนี้ มาถึงเรื่องที่ TOEIC จะเข้ามามีบทบาทกับคนที่อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการนี้โดยตรงบ้างดีกว่าค่ะ

ลองดูคุณสมบัติของตำแหน่งงานที่ประกาศรับสมัครด้านล่างนี้ดูนะคะ


Officer / Senior Officer / Assistant Manager –Digital Marketing – STT (1 อัตรา)

คุณสมบัติ :

ปริญญาตรี / โท ด้านเศรษฐศาสตร์ หรือการเงิน ประสบการณ์ 1-3 ปี
เข้าใจสินค้าด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดอนุพันธ์
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสนใจด้านการตลาด
มีมนุษยสัมพันธ์ดี ทำงานเป็นทีมได้
สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี
มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี (TOEIC Score >600)

Senior Officer-Procurement – ฝ่ายจัดซื้อ (1 ตำแหน่ง) 
Qualifications :
วุฒิปริญญาตรี  เทคโนโลยีสารสนเทศ, สาขาบริหารธุรกิจ  เอก : ทั่วไป การจัดการ การบัญชี  การตลาด 
เกรดเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า 3.00 
มีประสบการณ์ทำงานด้านงานจัดซื้อ / ตรวจรับ / สัญญา  
มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ (พูด-เขียน) ในเกณฑ์ดี (TOEIC Score >600)
มีความสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป Microsoft Office


Equity Product/Business Development Manager (1position) 
Qualifications :
At least bachelor degree, preferably master degree in finance, marketing, business administration, economics or financial engineer.
At least 5-7 years related work experience in the field or related area.
Familiar with a variety of the field's concepts, practices, and procedures. Relies on experience and judgment to plan and accomplish goals. Performs a variety of tasks. Leads and directs the work of others. A wide degree of creativity and latitude is expected.
Strong quantitative and problem solving skills, with the ability to pull together, organize and analyze large quantities of data to check the output for accuracy and reasonableness
Strong leadership, influential communication and presentation skills
Excellent command of writing and speaking English (TOEIC Score >600). Other language knowledge is a plus.





จากประกาศรับสมัครงานทั้ง  3 ตำแหน่ง ตั้งแต่ระดับ Junior จนถึง Manager เราจะเห็นว่า ทุกตำแหน่งระบุคุณสมบัติเรื่องคะแนน TOEIC ไว้เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาทั้งสิ้น  โดยกำหนดระดับคะแนน TOEIC ขั้นต่ำไว้ที่ 600 คะแนน จากคะแนนเต็ม TOEIC 990 คะแนน ดูๆ แล้วก็ไม่น่าจะยากเกินไป…. แต่ก็ไม่ได้ง่ายไปซะทีเดียวค่ะ เพราะผลสำรวจคะแนน TOEIC ของ Educational Testing Service (ETS) ในปี 2015 ชี้ให้เห็นว่า คะแนนเฉลี่ย TOEIC ของคนไทยอยู่ที่ 492 คะแนน (ตามรูปด้านล่าง) เท่านั้น แปลว่า หากต้องการคะแนน TOEIC 600 คะแนนขึ้นไป ต้องมีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษในระดับที่เกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยของคนไทยค่ะ ใครที่สนใจอยากจะทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวงการนี้ ก็อย่ารอช้านะคะ เริ่มฝึกฝนภาษาอังกฤษได้แล้ว อย่างน้อยก็เป็นตัวช่วยเรื่องคุณสมบัติตั้ง 1 ข้อเลยนะคะ

ตารางแสดงคะแนนเฉลี่ย toeic ของคนไทยในปี ค.ศ. 2015

ทำไมถึงต้องการคะแนน TOEIC สูงๆ

เหตุที่ตำแหน่งงานต่างๆ ต้องการผลคะแนน TOEIC เพื่อเป็นเครื่องมือในการการันตีว่าบุคคลที่จะรับเข้ามาทำงานในตำแหน่งงานนั้น สามารถปฏิบัติงานที่ต้องมีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษในระดับที่จะทำงานให้บรรลุผลสำเร็จได้ค่ะ เพราะว่าตำแหน่งงานต่างๆ ที่ยกตัวอย่างไว้ข้างต้น หรือ แม้แต่ตำแหน่งอื่นๆ ในตลาดหุ้นทั้งพนักงานระดับล่างไปจนถึงผู้บริหาร ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ทั้งการพูด การอ่าน รวมถึงการเขียนทั้งนั้น เช่น

- พนักงานต้องอ่าน Research หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุนให้กับลูกค้าหรือนักลงทุนที่สนใจลงทุนหลักทรัพย์ในต่างประเทศ และ Research เหล่านี้ ส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นค่ะ

- พนักงานต้องเขียนสรุปรายงานตลาดหุ้นรายวันเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักลงทุนชาวต่างชาติที่สนใจตลาดหุ้นไทยสามารถอ่านได้

- พนักงานต้องติดต่อประสานงานกับลูกค้า นักลงทุนชาวต่างชาติ ที่มาลงทุนในตลาดหุ้นไทย

- ผู้บริหารแต่ละบริษัท ผู้จัดการกองทุน ต้องอ่านงบการเงิน (Financial Report) ให้ได้ เพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลสถานภาพการเงินของบริษัทต่างๆ

จากทั้งหมดที่กล่าวมา….ทีนี้….เห็นถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษ (คะแนน TOEIC ) กับวงการตลาดหุ้นแล้วหรือยังคะ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด ตำแหน่งไหน ก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ (คะแนน TOEIC )  ในการทำงานทั้งสิ้น ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่สมัครงาน จนถึงการทำงานจริง เพราะฉะนั้น ใครที่สนใจอยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในตลาดหลักทรัพย์ ต้องห้ามละเลยภาษาอังกฤษเด็ดขาด และอย่าลืมไปสอบ TOEIC เก็บคะแนนเอาไว้นะค่ะ อย่างที่ใครๆ ชอบพูดกันว่า “ภาษาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง”   เรื่องนี้ขอการันตีค่ะ ว่าจริงมากๆ อย่ารอช้านะคะ เริ่มฝึกฝนวันนี้ ฝึกก่อน รู้ก่อน แล้วใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยนำทางในสายอาชีพเหล่านี้กันค่ะ

Stock2morrow ต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากทาง Chulatutor และสำหรับคนไหนที่สนใจอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOEIC อาจจะลองเข้าไปที่เว็บไซต์ www.chulatutor.com/toeic/

เเหล่งเพิ่มเติม









 

Create Date : 21 ตุลาคม 2559
0 comments
Last Update : 21 ตุลาคม 2559 10:33:50 น.
Counter : 800 Pageviews.


สมาชิกหมายเลข 1091875
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 1091875's blog to your web]
space
space
space
space
space