ขออนุญาตยกมาเวิ่นเว้อในบล็อกใหม่นะคะ

กว่า จขบ. จะมาสามารถกลับมาอัพได้ เล่นเอาเกือบตาย
(กลับถึงบ้านเที่ยงเมื่อวาน ตื่นมาอีกที 6 โมงเย็น กินข้าว แล้วก็นอนต่อ ตื่นมาเล่นคอมตอน 4 ทุ่ม เน็ตก็เน่าซะยังงั้น งั้นก็เช้าเลยละกันฟระ)

สำหรับความรู้สึกในการตามผู้ชายครั้งนี้ รู้สึกว่า ผู้ชายอยู่ห่างไกลเราเหลือเกินนนนน ทริปที่แล้ว ชั้นยังได้เจอแกใกล้ๆ ได้(แอบ)ถ่ายรูปจนหนำใจ ทำไมคราวนี้ เจ๊โหดแกโค ตรโหดสมชื่อเลยเนี่ย แถมไม่มีเจ๊หวงมาด้วยอีก (เลยไม่รู้จะไปเสนอหน้าทางไหนเลย) พี่การ์ดก็เครียดเพราะถูกห้ามหลายอย่าง เช่น ห้ามคุยกับคลับ ห้ามรับโทรศัพท์แฟนคลับ เป็นต้น แม้แต่อาตู้ ผู้ซึ่งปกติจะเฮฮากับแฟนคลับตลอด ครั้งที่แล้วเป็นขวัญใจมากๆ คราวนี้ก็คุยด้วยน้อยลง T_T

เติมสารบัญค่ะ จะได้สะดวกมากขึ้น
ปล. เค้าเพิ่ม emo มาให้เล่นกัน ลองเล่นดูนะคะ

Zhou Jie Lun in Thailand : 1st day - 2 Feb 09
Zhou Jie Lun in Thailand : 1st day [part 2] - 2 Feb 09
Zhou Jie Lun in Thailand : 2nd day - 3 Feb 09
Zhou Jie Lun in Thailand : 2nd day [part 2] - 3 Feb 09
Zhou Jie Lun in Thailand : 2nd day [part 3] - 3 Feb 09
Zhou Jie Lun in Thailand : 3rd day - 4 Feb 09
Zhou Jie Lun in Thailand : 4th and 5th day - 5 & 6 Feb 09 By Yuyu_Yuki

---------------

Zhou Jie Lun in Thailand : 1st day - 2 Feb 09

(บอกไว้ก่อนว่า ไม่ได้ตามเองทั้งหมดนะคะ ฟังคำบอกเล่าของเพื่อนๆพี่น้องๆและคลับท่านอื่นที่ติดตามไปด้วยในบางส่วนค่ะ)



ทำไมมาทีไรหนวดเฟิ้มทุกทีเลยท่าน


Credit Pix : น้องปุ๋ม Lavender@jcfc-Thailand.com

เอ่อ ผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้นๆเนอะ 555 หนูอิจฉาง่ะพี่ (ถ้าฝนอยู่ไทย ก็คงจะติดมาในรูปด้วย เหมือนคราวที่แล้ว 555)

เริ่มต้นด้วย ท่านประธานโจวและคณะมาถึงเมืองไทยราวๆ 11 โมงกว่า แล้วก็นั่งรถตู้สีขาวคาดครีม จากสนามบินไปยัง Grand Hyatt Erawan อันเป็นนิวาสสถานของทริปนี้


Credit Pix : น้องปุ๋ม Lavender@jcfc-Thailand.com

และ ผู้ชายก็ปล่อยให้พวกเรานั่งรอแล้วรอเล่า รอหาย จนกระทั่งเราตามไปสมทบที่ รร. ตอน 5 โมงเย็น ผู้ชายก็ยังไม่ลงมา ระหว่างนั้นก็เลยนั่งเมาท์กับคู่ซี้ปาปาราซซี่สาวคนสวย (ถ้าใครยังจำกระทู้ได้นะ) ซึ่งตอนนี้ เจ๊โหด(ลูกน้องเจ๊หวง) ก็นั่งกินกาแฟอยู่ที่คอฟฟี่ช็อป แล้วก็ทำท่ากระวนวาย ดูเวลาอยู่เรื่อย ไอ้เราก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย (ผู้ชาย ชั้นมีเรียนตอน 18.30 นะเฟ้ย ลงมาเร็วๆสิยะ)

เวลาราวๆ 17.45 เจ๊โหดออกมาตรงทางเข้า รร. เพื่อมารับ จางเส้าหาน หรือ angella (เจ้าเก่า) ซึ่งเดินทางตามมาทีหลัง แล้วทั้งหมดก็หายขึ้นห้องกันไป พวกเราที่นั่งรออยู่ก็เริ่มเครียด "โดนอิเจี๋ยหลอกอีกป่าวหว่า ไม่ใช่มันส่งเจ๊โหดลงมาแล้วตัวเองแว่บหายไปลั้นลาแล้วนะเฟ้ย"

และแล้ว สิ่งที่น้องรอคอย ชั้นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

เจี๋ย หลุนที่รัก ลงมาในชุดเสื้อ (ออกแนวสูทผสมแจ๊คเก็ต) สีดำแต่มีลายๆ แล้วก็ใส่แว่นตาดำ มีเคราเล็กน้อยพอให้เถื่อนกระชากใจสาว งุงิ แล้วก็ก้าวฉับๆๆๆ ไม่ถึง 10 ก้าว แล้วก็ขึ้นรถไป

ส่วนตัวเค้า เนื่องจากใกล้เวลาเรียนแล้ว ก็เลยขอตัวไปเรียนก่อน ปล่อยให้ปาปาสาวและแฟนคลับท่านอื่นทำมาหากินกันต่อปายยยยย


Back 2 Top

----------

Zhou Jie Lun in Thailand : 1st day [part 2] - 2 Feb 09


(อันนี้เป็นโมเมนต์ที่ชาวบ้านเล่าให้ฟังค่ะ ตัวเองติดเรียนอยู่)

หลังจากที่ออกจากโรงแรมไปแล้ว ก็นึกว่ามันจะไปไหนไกล สรุปมันไปสยามสแควร์ค่ะ แต่ไม่ได้ลงเปลี่ยนใจไปเดินเฉิดฉายเช็คเรตติ้งที่สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสฯ แทน
งานนี้แฟนๆมากมายล้นหลาม คุณชายคงรู้สึกดีใจที่ "ตรูยังเรตติ้งดีอยู่" ก็เลยให้อาตู้ (ช่างแต่งหน้าคู่บุญ ร้องเพลงก็ได้ เล่นหนังก็เก่ง -_-') งัดเอากล้องขึ้นมาถ่ายรูปแฟนๆซะงั้น แล้วก็เอาไปดูไปอิ๊อ๊ะกับอาตู้ในร้าน (ปาปาสาวเพื่อนซี้ยืนยันว่า "พี่เห็นจริงๆนะ" ^_^)


Credit Pix : น้องปุ๋ม Lavender@jcfc-Thailand.com

รูปบาดใจ ชริ


รูปนี้ฝีมือคุณปาปาสาวแสนสวยค่ะ เธอบอกว่า ผู้ชายยืนตรงนี้นานมาก เหมือนจงใจให้ถ่าย เออ เอาเข้าไป

ข่าวว่าผู้ชายได้เสื้อสูทสีขาวๆครีมติดมือไป 1 ตัว เดินกันอยู่พักใหญ่แล้วก็ไปกินข้าว


Credit Pix : น้องปุ๋ม Lavender@jcfc-Thailand.com

เสื้อที่ผู้ชายได้ไป กำลังยัดลงถุงเลย

(ขอเล่าทริปเดินห้างคราวที่แล้วประกอบ - เค้าไปทันมันตอนเพิ่งกินข้าวที่ร้าน Lee cafe ที่สยามเซ็นเตอร์เสร็จ หลังจากนั้นมันก็เดินยาวเลยค่ะ 3 ห้าง สยามเซ็น สยามดิส CTW เป็นการเดินห้างที่มาราธอนจริงๆ เพราะเราเดินตลอดงาน แต่มันขึ้นรถไปง่ะ
แต่ ทริปนั้น เดินอยู่ 2 ชั่วโมง ถึงจะเดินห่างๆอย่างห่วงๆ แต่ก็รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดผู้ชายเหลือเกิน เล่นหูเล่นตาใส่ ผู้ชายก็เล่นกลับ 555 อย่างตอนที่ CTW เจี๋ยมันเข้าลิฟท์ซึ่งเป็นลิฟท์แก้ว ในขณะที่พวกเรากำลังประจำที่ตรงทางลงบันไดเลื่อนชั้น 5 หรือ 6 นี่ล่ะ ก่อนจะลงก็โบกไม้โบกมือเรียกขวัญกำลังใจหน่อย ผู้ชายดันมองมาแล้วโบกมือกลับมาให้ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ตายไปเลย
แล้วนี่ ก็คงเป็นสถิติการลงบันไดเลื่อนที่เร็วที่สุดในชีวิต เพราะพอลิฟท์เลื่อน เราก็ออก start เหมือนกัน สรุปคือ ลงมาถึงพร้อมกัน 555 (ลิฟท์มันจอดบ่อย แต่เราก็ลงมาเร็วจริงๆน่ะแหละ คิดอยู่ว่าถ้าตูตกบันไดคอหักไปใครจะรับผิดชอบฟะ) สรุป เค้าประทับใจมากๆ ส่วนวันนี้ ถามความรู้สึกจากปาปาฯสาวเพื่อนซี้แล้ว เพื่อนบอกว่าเฉยๆ ชอบคราวที่แล้วมากกว่า


ต่อมาทั้งคณะ (เจี๋ย+ทีมงาน และ แฟนคลับ) ก็มาที่โรงแรมสุโขทัย เพื่อกินข้าว ใครที่อยากจะกินหว่านฟั่นกับคุณชายก็ต้องลงทุนกันหน่อย (แต่ได้ข่าวว่ากินกันคนละห้องอยู่ดี เห็นหัวอยู่ลิบๆ ออกแนว "กินข้าวร่วมร้าน" อีกแล้ว

เค้าเลิกเรียน 20.30 ก็รีบบึ่งมาที่ รร. ทันที รออยู่ซักพักใหญ่ๆที่ด้านหน้า รร. แบตโทรศัพท์ก็หมด (อะไรมันจะซวยขนาดนี้) แล้วประมาณ 3 ทุ่มนิดๆ รถตู้ผู้ชายก็ออกมา พวกเราก็เลยนั่งพี่แท๊กกลับไปยัง Grand Hyatt กัน แต่ไม่รู้พี่เค้าขับอิท่าไหน ตรูออกตามหลังตั้งเกือบ 10 นาที แล้วทำไมตรูมาถึงโรงแรมก่อนละเนี่ย ??
พวกเราก็เลยตั้งขบวนรอส่งเสด็จ ผู้ชายขึ้นนอน (หรือเปล่า?) ได้เห็นหน้าเจี๋ยหลุนอีกครั้ง แล้วก็หว่านอันให้ฝันดี (ฝันถึงเค้าด้วยนะ 555)

1st day end @ 21.30

วันแรกของเจี๋ยหลุนในเมืองไทย (รอบนี้) ก็จบลงแบบนี้ล่ะค่ะ

Back 2 Top


@@@@@@@@@@@@@@


Zhou Jie Lun in Thailand : 2nd day - 3 Feb 09


วันนี้ ผู้ชายมีคิวไปถ่ายที่ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่ มธ.รังสิต ตั้งแต่เช้า (เค้าทำงานก็เลยไม่ได้ไป) แต่ดูจากรูปแล้ว ทุกคนอยู่ห่างไกลมากๆ เพราะเล่นปิดสนาม ไม่ให้เฉียดกรายเข้าไปใกล้ได้เลย

แล้วเท่าที่ดูรูป (อีกเช่นกัน) ก็จะเป็นประมาณคุณชายจะต้องถูกน้ำฉีดใส่ คงนึกออกเนอะ แบบเวลากินน้ำอัดลมแล้วรู้สึกสดชื่น ซาบซ่า แล้วก็มีภาพคนถูกน้ำฉีด ประมาณนั้น แต่ไม่รู้เจี๋ยจะซาบซ่าหรือเปล่านะ เพราะรู้สึกว่ามันจะใส่ชุดเดียวกับคราวที่แล้ว คือ เสื้อเขียวกางเกงยีนส์ แลวถูกน้ำฉีดเกือบทั้งวัน แดดก็ร้อนมากๆ (หวัดพันปีของมันคงจะไม่มีวันหาย T_T)

กองถ่ายเลิกราวๆ 5 โมงกว่าๆ เค้าก็เลยตัดสินใจตั้งหลักอยู่ที่โรงแรมกับเพื่อน แต่วันนี้ก็ดั๊นมีงานเลี้ยงทูตซะได้ งานใหญ่มากกก (นายกมาร์คมาด้วย แต่เค้าไม่เห็น) คนก็เต็มล็อบบี้ ไอ้เราก็แต่งตัวโทรมเหลือเกิน (ไม่ค่อยเข้ากับโรงแรมเท่าไร) การ์ด รร.ก็ส่งสายตาวิ๊งๆๆ (วันนี้ พี่ขอ) ก็เลยนั่งรอที่ล็อบบี้เหมือนเดิมไม่ได้ ต้องลงมาชั้นล่าง แล้วเพราะเหตุนี้เอง เราก็เลยพลาดการรับเสด็จชายเจี๋ยไป เพราะมันเดินฝ่าคนเข้ามาตอนไหนก้ไม่รู้ (แต่ดันมีคนได้จับมือด้วย ฮ่วย เซ็งปวดตับ )

ระหว่างนั้นก็มีกระแสเข้ามามากมาย เช่น
- ผู้ชายจะไปล่องเรือกินข้าวริมเจ้าพระยา
- ผู้ชายจะไปล่องเรือเหมือนกัน แต่เป็นอยุธยา !!!
- มันไม่ไปไหนหรอก สั่ง room service แล้ว (อันนี้เติมเอง 555)

แต่สุดท้ายแล้วผู้ชายก็ไปกินข้าวที่ สุโขทัย เหมือนเดิมค่ะ ร้านเดิม มุมเดิม แต่เหตุการณ์ไม่เหมือนเดิม....


Back 2 Top

----------

Zhou Jie Lun in Thailand : 2nd day [part 2] - 3 Feb 09

เมื่อผู้ชายตกลงใจแล้วว่า จะไปกินข้าวที่ ศิลาดล @ รร.สุโขทัย เรากับเพื่อนก็เลยเรียกพี่แท๊กซี่ให้จอดรอ จะได้ตามไปติดๆ แต่ทีนี้มันมีเรื่องฮาๆเกิดขึ้นค่ะ เมื่อมีรถตู้คันนึงออกมาจาก รร. พี่คนขับก็ถามว่า "ตามคันนั้นใช่มั้ย" ก็เลยมองทะเบียนกัน ฮค 4400 ก็เลยบอก "ใช่ค่ะพี่" พี่คนขับก็เลยออกรถ มาได้ครึ่งคันแล้ว หลังจากนั้น 3 วินาที ทุกคนก็ร้อง "เฮ้ยยยยยยยยยยยย ไม่ใช่คันนี้" แล้วทุกคนก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะกร๊ากกกกันเลยทีเดียว

งงกันล่ะสิ ว่าหัวเราะทำไม

เฉลยว่า ไอ้เจ้ารถตู้สีเทา ทะเบียน ฮค 4400 เนี่ย มันก็เป็นรถที่เจี๋ยนั่งนะคะ แต่นั่งเมื่อครึ่งปีที่แล้ว 555 เนื่องจากคราวที่แล้วนั่งรถตามก้นตลอด เลขทะเบียนเลยฝังไปใน spinal cord แล้ว เรียกว่า ออกมาเอง ไม่ต้องผ่านสมอง 555 (แล้วมันตามมาหลอกหลอนตรูทำมายยยยยยยย)

แล้วเมื่อรถเจี๋ยหลุน (คันจริง) ออกมาจาก รร. เวลาประมาณ 19.30 น. พวกเราก็นั่งแท๊กซี่ตามไป แล้วผู้ชายก็เลี้ยวเข้า รร.สุโขทัย เพื่อไปทานข้าว

***ต่อไปนี้จะเป็นโหมดนางร้าย แต่ขอให้เชื่อเถอะค่ะ ว่าเจอมาแล้วกับตัว เล่นเอาอึ้ง


รถผู้ชายเข้าไปถึงร้านแล้ว แต่รถแทีกซี่ของคลับอีก 2 คนที่ตามหลังมายังเข้าไปไม่ได้ เนื่องจาก รปภ.หน้า รร. ขอตรวจค้น (ให้เปิดท้ายรถ) มันก็เลยช้า แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับสิ่งที่ได้ยินเต็ม 2 หู เมื่อก้าวเท้าลงมาจากรถ

" ปล่อยให้เข้ามาได้ไงเนี่ย ไม่รู้เหรอว่าลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัว มีแผงกั้นเอาทำไม เอาไว้กั้นอะไรเนี่ย "

คนพูดคือผู้ชายใส่สูทสีดำ ใส่หูฟัง (ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นผู้จัดการร้าน แต่ปรากฏว่าจริงๆแล้วคือ security ของ รร. ค่ะ)

อิชั้นแค่รู้สึกปี๊ดเหมือนอะไรซักอย่างในหัวมันขาด แต่ปาปาเพื่อนรักของอิชั้นของเริ่มขึ้นแล้วค่ะ

จริงๆพวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าเค้ามากินข้าว และพวกเราก็มากินเหมือนกัน ทุกครั้งที่มาตามผู้ชายก็กินด้วยตลอด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปนั่งใกล้ๆ หรือทำตัวให้เค้าเห็นเลย ขอแค่ได้นั่งในร้านเดียวกัน ได้แอบดูบ้าง (ถ้าเห็น) ได้ตั้งขบวนส่งเสด็จเวลาแกเวลาออกจากร้าน ก็พอแล้ว พวกตูไ่ม่ใช่แฟนคลับสิ้นคิด ที่เอะอะก็แหกปากวี๊ดว๊าย ตั้งท่าจะเข้าทึ้งศิลปินท่าเดียว

กลับมาต่อ อีตา security คนนั้นก็ยังไม่วายกวนโอ๊ยได้อีก

" ถ้าน้องมาเพื่อทานข้าวพี่ก็พาเข้าไปได้ แต่ถ้าจะมารอ ก็ให้ไปรอด้านนอกโรงแรมแล้วกัน "

แล้วแกเคยถามพวกชั้นซักคำมั้ย ว่าพวกชั้นมาทำอะไร ชั้นยังไม่ได้ยินคำเชิญเข้าร้านซักคำ มีแต่ตั้งหน้าตั้งตาไล่ แล้วสายตา ขอโทษเหอะ ดูถูกกันสุดๆ

พวกเราก็เลยเดินเข้าไปที่หน้าร้าน กะว่าจะจองโต๊ะซัก 4-5 คน แต่ยังต้องรอถามเพื่อนที่นั่งรถตามมาอีกคันว่าจะเอาด้วยหรือเปล่า ยังไม่ทันจะเรียบร้อย มันก็เอาอีก แต่ทีนี้คุณปาปาเพื่อนดิชั้นเธอหมดความอดทนแล้วค่ะ เธอก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาล่ะค่ะ

" ที่มาเนี่ย จะมากินข้าวนะคะ เป็นลูกค้า ไม่ได้มาขอกิน เห็นว่าแต่งตัวแบบนี้แล้วกลัวไม่มีปัญญาจ่ายหรือไงคะ "

(ลืมบอกไปว่าคนที่ไปมีทั้งพนักงานบริษัท นักศึกษา คุณหมอสาวอย่างปาปาเพื่อนรัก และ MT อย่างตัวข้าพเจ้าเอง ซึ่งก็อาจจะแต่งตัวไม่ได้ดูภูมิฐานสมกับเป็นแขกของโรงแรม 5 ดาว (มั้ง) ซักเท่าไร แถมหน้าตาก็เด็กๆกันทุกคน ก็เลยคุณยามดูแคลนเอา แต่ตูก็ไม่ได้ซอมซ่อจนมากินข้าวที่นี้ไม่ได้นะเฟ้ยยย)

ก็เลยจองไปทั้งหมด 7 ที่ (แต่ตอนหลังจองเพิ่มมาอีกคนเป็น 8) แล้วก็เดินเข้าไปในร้าน ซึ่งโต๊ะที่ทางร้านจัดให้เป็นด้านนอกค่ะ ซึ่งเป็น open air (เมื่อวานที่มากินมันเป็นห้องแอร์ที่อยู่ถัดไป ทั้งที่ความจริงคนก็ไม่ได้มาก ส่วนเจี๋ยอยู่ในห้องด้านในสุด)

อีตายามนั่นมันก็เงียบไปนะ แต่ก็ยังไม่วาย มีกวนประสาทเป็นระยะๆ (ไหนบอกว่ามา 7 ไง แล้วคนที่ 8 มายังไง ชื่ออะไรล่ะ ) ก่อนจะโดนเก็บศพหายไปไหนแล้วไม่รู้


เข้ามาในร้าน โต๊ะก็ยังไม่ได้จัดให้ (ทั้งๆที่รู้ order แล้ว แถมคนก็ยืนเต็มหน้าร้าน) ยิ่งของขึ้นๆอยู่ คุณเพื่อนของดิชั้นก็เลยวีนต่อ เสียงก็ไม่ใช่ค่อยๆ ส่วนเราก็รับหน้าที่ replay ช็อตเมื่อกี้ให้เพื่อนๆที่มาไม่ทันและไม่ทันได้ยินฟังอีกรอบ
ผลก็คือ พนักงานทั้งร้านแทบประสาทจะกิน รีบวิ่งมาดูแลกันใหญ่ ทั้งขอโทษขอโพย และอีกมากมาย (จริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้พวกเค้าลำบากนะ แต่มันสุดจะทนกับการต้อนรับแบบนี้จริงๆ) พี่คนนึงเลยพูดขึ้นมาเล่นๆว่า "เดี๋ยวจะเขียนจดหมายน้อยให้เจี๋ยหลุน งวดหน้า Banyan tree โลด" (แล้ววันสุดท้ายมันก็ไปกินจริงๆ ใครบอกมันฟระ)

คุณปาปาเธอบอกว่า เมื่อวานก็มากินแล้ว บริการต่างกับวันนี้หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว จริงๆตั้งใจจะไปวีนกับ ผจก. ต่อ แต่ก็สงสารน้องๆพนักงานที่พยายามมาดูแลเต็มที่ นี่ดีนะที่เป็นคลับเจี๋ย ซึ่งเป็นนางฟ้ากันทุกคน เจอคลับ SJ กับ TVXQ เข้าไปล่ะก็ เรื่องมันไม่จบง่ายๆหรอก


ไปกินข้าวกับผู้ชายมาก็หลายร้าน ไม่เคยเจอที่ไหนต้อนรับได้แย่ขนาดนี้มาก่อน ร้านอื่นพอรู้ว่าเราเป็นแฟนคลับ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังบอกรายละเอียดให้อีกตังหาก ว่าโต๊ะโน้นสั่งอะไรมั่ง กินไปถึงไหนแล้ว อิเจี๋ยกินอะไรบ้าง (กินน้ำมะพร้าวทุกงาน สงสัยขาดเอสโตรเจน กร๊ากกก) ใกล้จะเสร็จหรือยัง
ถ้าพนักงานคนไหนไม่รู้จักก็จะมาถามว่าเจี๋ยทำงานอะไรบ้าง แล้วพวกเราก็แปลงร่างรับหน้าที่เป็น PR ของ JVR กันสุดฤทธิ์


จากตอนแรกที่หิวมาก กะว่าจะลองมากินอาหาร รร. ดูซักหน่อยว่าจะอร่อยมั้ย (ซึ่งจริงๆมันก็ไม่อร่อยหรอก เอาไว้ให้ฝรั่งกิน ไอ้พวกลิ้นบ้านนอก ไร้รสนิยมอย่างเราคงไม่ถูกปาก) แถมมีผู้ชายเป็นกับแกล้มด้วย ท่าจะเวิร์ค ก็กลายเป็นเซ็ง โมโห และก็ไม่อยากกินซะยังงั้นล่ะค่ะ
แถมตบท้าย อิชั้นยังไมเกรนขึ้นอีกตังหาก (ทั้งโมโห ทั้งหิว ทั้งเครียด โรคเก่ารับประทานเลย -_-' )
ราคาอาหารก็ไม่ใช่ถูกๆ สั่งกับข้าว 5 อย่าง ถ้วยเท่าถ้วยขนมหวาน + ข้าว + น้ำเปล่า หมดไปเกือบ 2500


หลังจากนั่งกินไปสักพัก อารมณ์ก็เย็นขึ้นมาบ้าง ก็เลยนั่งส่องผู้ชาย (ถึงจะไกลแต่ก็มองเห็นนะ) ก็มองเห็นใครซักคนเอาผ้าเช็ดมือมาหมุนๆเล่น (เหมือนเวลาทำพิซซ่าอ่ะ นึกออกเนอะ) ก็ยังคุยกันว่า สงสัยโต๊ะโน้นใกล้เสร็จแล้ว งั้นเราก็เช็คบิลบ้างดีกว่า พอหันไปอีกที อ้าว ผู้ชาย มันเอาผ้ามาหมุนเล่นมั่ง หมุนอยู่ 2 ที แล้วก็เลิก (ถามคนอื่นบอกว่าไม่เห็นช็อตนี้ งั้นตรูก็เห็นคนเดียวสิ)


พอผู้ชายจะออกมาจากร้าน เหล่านางสนม เอ้ย คลับทั้งหลาย ก็ปรับโหมดกลับมาเป็นนางฟ้า มาตั้งแถวรับเสด็จเช่นเคย ขอบอกว่า ผู้ชายถอดแว่นเดินออกมา 555 แต่นิดนึงก่อนจะกลับไปใส่้เหมือนเดิม (จะกลัวพวกชั้นไปทำไมเนี่ย) เค้าก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยเรียก "เจี๋ยหลุน !!!" แล้วก็บ๊าย บาย ปรากฏว่า ผู้ชายหันหน้ามาหา แล้วทำเสียงเหมือน "Hi!!" (หรืออะไรประมาณนี้ล่ะ แต่อิชั้นเหมาไปแล้วว่า มันรับรู้การมีตัวตนของชั้น กรี๊ดดดดดด)

แล้วผู้ชายก็ก้าวขึ้นรถไป ช่วงนี้มีน้องคนนึง ทำหน้าแอ๊บแบ๊วสุดชีวิตให้ผู้ชาย เราเลยออกแนวหมั่นไส้ (ทำท่า) ศอกกลับไป 1 ที แล้วก็หยอกกันขำๆ คิดว่าถ้าผู้ชายยังคงสนใจกับเหตุการณ์นอกรถ ก็คงเห็นแล้วก็คงนั่งขำอิ 2 ตัวนี้เป็นแน่

แล้วรถผู้ชายก็เคลื่อนออกไป โดยที่ไม่รู้ว่าไปไหน ให้ รร. เรียกแท๊กซี่ให้ก็ชักช้าไม่ทันกิน เรากับพี่อีกคนนึงก็เลยวิ่งไปหน้า รร. (ห่างจากร้านอาหารประมาณ 100 เมตร เอ้งงงงงงง) เพื่อไปเรียกพี่แท๊กซี่ให้ตามผู้ชายต่อไป...

Back 2 Top

---------------

Zhou Jie Lun in Thailand : 2nd day [part 3] - 3 Feb 09

ตาลายกันไปรึยังคะ ทนหน่อยละกันนะ วันนี้มันยาวไกลจนต้องต่อ part 3 เลยล่ะ

ความเดิมตอนที่แล้ว เมื่อผู้ชายกินข้าวเสร็จ ก็นั่งรถออกไป เค้ากับพี่อีกคนนึงก็เลยนั่งแท๊กซี่ตามไป เหยียบอยู่ซักครู่ก็เจอรถผู้ชายติดไฟแดงอยู่ ตรง ถ.วิทยุ กำลังคุยกับพี่คนขับว่า ถ้าจะไป grand hyatt ต้องไปยังไง ปรากฏว่า รถตู้ 2 คันมันแยกกันไปค่ะ

งานเข้าแล้วไง คันนึงมันตรงไป (ไหนไม่รู้ ไม่รู้จักทาง) ส่วนอีกคันมันเลี้ยวเข้าราชดำริ เอาล่ะสิ เลขทะเบียนก็มองไม่เห็น แล้วตรูจะตามคันไหนล่ะเนี่ย
แล้วสองสาว ก็ตัดสินใจว่า ควรจะเลี้ยวตามคันที่ไปราชดำริ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดค่ะ นั่นไม่ใช่รถเจี๋ย ก็เลยรีบส่งข่าวคนอื่นให้ตามไป พอซักพักนึง ก็มีคนโทรกลับมาบอกว่า มันไปสวนลุมไนท์ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก

สวนลุมไนท์ สวนลุมไนท์ ตรูจะได้โมเมนต์นี้แล้วว้อยยยยยยยย (คราวที่แล้วพลาดไป) ดีใจมากจนถึงขั้นเสียจริต 555 ก็เลยให้พี่แท๊กรีบ U-turn ไปสวนลุมด่วน แล้วก็ถามข่าวคราวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบว่าเฮียแกไปอยู่แถวๆ อยุธยา ซ.9

เดินไปถึงปุ๊บ แม่เจ้า ทำไมผู้คนมันล้นหลามเยี่ยงนี้ แต่ก็ได้เห็นผู้ชายนะ แต่เค้าจะเป็นประเภทตามอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆไง (จริงๆกลัวสายตาอิเจ๊โหด) แกจะทำอะไรก็ทำไปสิ ชั้นไม่ได้ไปยุ่งด้วยซักหน่อย แต่ตรูขอเดินตามอย่างนี้ล่ะ ก็เลยเดินตามหลังไปห่างๆ เมาท์กับคุณเพื่อนไปด้วย เดินไปเดินมา เอ้า เจือกหันหลังกลับมาซะงั้น
อิชั้นและผองเพื่อนที่เดินตามมันมา ก็ต้องใส่เกียร์ถอยหลังออกมาจากตรอก (ใครเคยเดินสวนลุมไนท์ หรือ จตุจักรคงจะนึกออก) เพื่อเปิดทางให้ผู้ชายมันเดินผ่านหน้าเราไป (ย้ำนะคะ ว่าผ่านหน้าเราไป) เข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ไม่มีทีท่าว่าจะซื้ออะไรซักกะอย่าง 555

ตอนหลังรู้สึกว่าเดินตามแล้วไม่เวิร์ค เลยเปลี่ยนใจไปเดินซอยข้างๆดีกว่า เพราะฉะนั้นตรงไหนที่มันไม่มีร้านค้า หรือร้านมันทะลุ 2 ด้าน เราก็จะเห็นผู้ชายแบบเต็มๆ งื๊ดดดด



เป็นรูปเดียวที่แอบถ่ายผู้ชายได้ ไม่กล้าเอากล้องใหญ่ขึ้นมาเลย กลัวสายตาเจ๊เหลือเกิน


เดินไปเดินมาซักพัก คุณชายเกิดปวดฉี่ค่ะ ก็เลยไปห้องน้ำกัน ไปได้ห้องน้ำใหญ่ตรงร้านกาแฟดอยตุง ซึ่งสภาพ เอิ่ม ชั้นยอมอั้นดีกว่า (จริงๆเราบอกให้พี่การ์ดเค้าพาไปอีกที่นึง แต่ไม่ยอมไปกัน) การ์ดยืนคุมหน้าห้องน้ำเลยค่ะ ก็เลยไม่มีใครสามารถตามไปได้อีก รอกันอยู่พักใหญ่

ช่วงนี้มีเหตุการณ์ระทึกค่ะ คือ มีผู้ชายคนนึงพกกล้องตัวใหญ่มาด้วย หน้าตาตี๋ๆเหมือนไม่ใช่คนไทย แต่พูดไทยชัดเชียว ไม่รู้เมาด้วยหรือเปล่า แกจะมาขอถ่ายรูปเจี๋ย แต่โดนเจ๊โหดด่า และเดินการ์ดไล่ มันก็เลยโวยวายซะเสียงดัง "แค่ขอถ่ายรูปหน่อยก็ไม่ได้" ไอ้เราก็ทนไม่ได้ (เพราะไม่งั้นเจ๊แกจะทวีความโหดขึ้นไปอีก) ก็เลยบอกเค้าไปว่า

"พี่คะ พวกหนูตามมาทั้งวันยังไม่ได้ถ่ายเลยค่ะ พี่จะถ่ายไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ"

แต่มันก็ยังไม่หยุด บ่นอะไรอีกมากมาย ประมาณว่า "มาส่วนตัวเหรอ แค่นี้ก็ไม่ได้ blah blah...." แล้วเพื่อนบอกว่า ไ้ด้ยินตานี่พูดว่า ตามเจี๋ยมาตั้งนานแล้ว (แกแน่ใจนะว่าแกเป็นคลับ ทำตัวยังกะปาปาราสซี่)
หลังจากนั้น เราและเพื่อนก็ตัดสินใจกันว่า ไปรอที่โรงแรมดีกว่า ขี้เกียจเดินแล้ว ก็เลยขึ้นแท๊กซี่กลับ รร. ไป

(มารู้เอาทีหลังว่า พวกที่รออยู่หน้าห้องน้ำน่ะ หลุดจากวงโคจรคุณชายกันเป็นแถว เพราะห้องน้ำนี้มันออกได้ 2 ทางค่ะ เจ๊แกเล่นยืนกั้นอยู่ข้างนึง ผู้ชายก็เลยออกไปอีกข้างนึง แล้วก็ไปเดินเล่นเฉยเลย กว่าจะหากันเจออีกรอบก็แทบแย่)


สุดท้าย คุณชายกลับมาที่โรงแรม ราวๆ 22.30 เราก็ตั้งขบวนส่งเสด็จคุณชายขึ้นห้องตามเคย

ปล.ปาปาเพื่อนรักจะให้ของ ผช.ค่ะ เป็นแหวน แต่ได้ข่าวว่า Return of the ring อีกแล้ว เมื่อวานให้ ก็ดันหลุดติดมาน้องอีกคนนึงกลับมา พอวันนี้อุตส่าห์รวบรวมความกล้า แหวกการ์ดไปวางไว้อย่างนิ่มนวลบนมือผู้ชาย ก็ยังมิวาย โดนคุณการ์ดรวบของกลับมาคืนอีก (เป็นของที่คนอื่นยื่นให้คุณชายเซ็น พอเซ็นเสร็จ ตาการ์ดมันก็รวบจากมือมาหมด ไอ้ซองแหวนก็เลยติดมาด้วย เซ็งเลย)

Back 2 Top


@@@@@@@@@@@@@@


Zhou Jie Lun in Thailand : 3rd day - 4 Feb 09

กลับมาต่อวันที่ 3 แล้วค่ะ
รู้สึกว่ายาวเหลือเกิน แต่ไม่อยากพิมพ์ลงใน comment เลย กลัวพลาดแล้วหายเหมือนเมื่อวานซืนอีก

วันที่ 3 ของการตามท่านชาย ก็เริ่มมีอ่อนแรงอ่อนล้าบ้าง (ก็เล่นถึงบ้านเกือบตี 1 มา 2 วันแล้วนี่หว่า แถมต้องตื่นเช้าไปทำงานอีก แข็งแรงก็แปลกแระ) วันนี้ตอนเช้าก็ยัง still fantasy เอ้ย ยังถ่ายที่ มธ. เช่นเดิม และข้าพเจ้าก็ไม่ได้ไปอีกเช่นเดิม (บอกทำไมเนี่ย)

วันนี้ เค้ามีเรียนภาษาจีนตอนเย็น ก็เลยออกจาก รพ. ช้าหน่อย เพราะมัวแต่ทำการบ้าน และอีกอย่างก็ตั้งใจแล้วว่าเลิกเรียนแล้วค่อยไปตาม แต่ก็นั่นแหละ เวลาคนตั้งใจทำดีมักจะมีมารมาผจญ

เมื่อคุณปาปาเพื่อนซี้โทรมาบอกว่า " มาเร็วๆ ผู้ชายอยู่ CTW " นี่แกไปอีกแล้วรึ ติดใจอะไรนักหนาฟะ (ก่อนหน้านี้ไปเดิน MBK มาแล้วค่ะ แต่ไม่ถูกใจ)

หลังจากตัดสินใจอยู่นาน 2 วิ (นานมั่กๆ) ก็เลยยกหูโทรไปหาพี่ที่เรียนภาษาจีนด้วยกันว่า

"ฝากบอกเหล่าซือด้วยนะพี่ วันนี้หนูโดด"

คุณพี่เธอก็ช่างรู้ใจ "จะไปตามผู้ชายเหรอคะ คุณน้อง เดี๋ยวคุณพี่บอกเหล่าซือให้ว่า jin tian Ai Mi hen mang"

เอ่อ หางานให้น้องอีกแล้ว แล้วอาทิตย์หน้าเวลากลับไปคลาส ตรูไม่ต้องตอบคำถามคนทั้งคลาสเหรอเนี่ย ว่าโดดเรียนไปไหนมา
แต่ก็เอาเหอะ โดดแล้วนี่ ก็ต้องเอาให้คุ้มล่ะ ก็เลยนั่งรถไฟฟ้าแล้วก็เดินไป CTW กว่าจะไปถึงก็เกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว แต่คุณปาปาบอกว่าเพิ่งเดินไปแป๊บเดียว ยังทันๆ -_-'


ไปตามทันผู้ชายที่ Zen ชั้น 3 (มั้ง) ผู้ชายก็เดินอย่างสบายใจ ทั้งเข้าโซนรองเท้า ทั้งเข้าร้านของเล่น (โดยเฉพาะ built a bear มาทุกรอบ เข้าทุกรอบ ใครช่วยซื้อไปให้มันทีเหอะ) เลยสอยมาอีก 1 รูป (เนื่องจากพอกดจะถ่าย มันก็ดันเดินพอดี เบลอเลย เฮ้อ!!)



ระหว่างนี้มีข่าวลือหนาหู แว่วมาว่า ทริปนี้ ชายเจี๋ยแอบพากิ๊กมาเที่ยว

จริงเท็จประการใดไม่รู้ ไม่มีใครกล้าคอนเฟิร์ม เหตุเนื่องจากมีสาวน้อยหน้าตาน่ารักนางนึงร่วมทริปมาด้วย (หน้าตาประมาณ น้องลี อดิศร เอ้ย ลีอาห์ ดิซอน ขวัญใจผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ตัวเล็กกว่า) สถานภาพก็ไม่แจ้งชัด จะทีมงานก็ไม่ใช่ จะเป็นดาราก็ไม่คุ้น เดินห่างจากชายเจี๋ยพอประมาณ ส่วนใหญ่จะเกาะติดต้าหนี่ หรือไม่ก็อาตู้ ซะมากกว่า (จริงๆเห็นตั้งแต่เมื่อวานที่สวนลุมไนท์แล้ว แต่ไม่คิดว่ามาด้วยกัน พอวันนี้เห็นอีกก็เลย เอ๊ะ ยังไง)

>> มีเรื่องให้เก็บไปคิดกัน คือว่า ตอนที่เจี๋ยเข้าไปในร้านกีตาร์ สาวเจ้าเธอก็นั่งรออยู่หน้าร้าน แล้วก็มีคลับสนใจไปขอถ่ายรูปกับเธอ เพราะว่าเธอน่ารักดี พอต้าหนี่เห็นเท่านั้นล่ะ รีบวิ่ง 4x100 มาพร้อมเจ๊โหด พร้อมคำพูดศักดิ์สิทธิ์ " No Photo!!! " ถ้าเป็นบุคคลธรรมดามันจะต้องหวงกันขนาดนี้มั้ยน้อ

แถมวันนี้เจ๊แกก็โหดเป็นพิเศษ ดูอารมณ์ไม่จอยมากๆ ต้าหนี่ซึ่งปกติก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส กลับปฏิเสธ Antie Anne ที่คุณปาปาเอาไปเซ่นไหว้ซะยังงั้น (หรือกำลัง diet) อาตู้ก็ไม่ค่อยเล่นไม่ค่อยคุย
ก็เลยลงความเห็นกันว่า ที่ทุกคนดูเครียดๆเนื่องจากว่า นอกจากจะต้องดูแลแฟน(คลับ)เจี๋ยแล้ว ยังต้องดูแลแฟนเจี๋ยอีกด้วย 555


Credit Pix : น้องปุ๋ม Lavender@jcfc-Thailand.com

โฉมหน้าของสาวปริศนา (ได้มาครึ่งเดียว รอน้องปุ๋มต่อไป)


ส่วนอันนี้เป็นคลิปแสดงอารมณ์โหดของเจ๊โหด (อย่าไปสนใจเสียงบรรยายประกอบนะคะ แอบไม่สุภาพ)




เวลาประมาณ 18.40 ผู้ชายก็เลิกเดินค่ะ แล้วก็ขึ้นรถตู้ไปกินข้าว มี 2 กระแสอีกเช่นกัน ว่าจะไปตึกอะไร city นี่ล่ะ อยู่ตรงสีลม กับอีกข่าวว่า จะไปกินไกลกันถึงเกษตร-นวมินทร์ ง่ะ
แถมระหว่างที่ขึ้นรถนั้น ก็มีภาพบาดใจรอบ 2 ค่ะ อันนี้ตำตาตำใจน้องสาวอิชั้นมาก ถึงกับเซ็งจิตตกไปเลยเชียว

เมื่อสาวน้อยปริศนาก้าวขึ้นรถตู้ เธอก็ไปนั่งตรงเบาะแถวหน้าสุด และอย่างที่รู้ๆกันว่า ที่นั่งประจำของเจี๋ยหลุนคือ เบาะหลังสุด ฝั่งซ้าย แต่งานนี้ผู้ชายมันไม่ไปนั่งประจำที่ค่ะ มันดันมานั่งเบาะแถว 2 ซะยังงั้น งานนี้ให้อมวัดมาพูดก็ไม่เชื่อย่ะ (เริ่มเห็น MV Wo Bu Pei รำไรๆ เกิดเป็นผู้หญิงของโจวเจี๋ยหลุนต้องอดทน)

แต่มีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้นค่ะ เมื่อรถผู้ชายออกไปแล้ว แฟนคลับทั้งหลายที่ตามๆกันมานั้น แต่ละคนดูห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรงยิ่งกว่าโดนท่าน Edward กัดซอกคออีก ไม่มีใครเรียกแท๊กซี่ตามรถตู้ ไม่มีใครสนใจใคร่รู้ว่าผู้ชายจะไปไหน (ประมาณว่า จะไปไหนก็ไปเต๊ออออออ) แต่ละคนเริ่มหาที่ของตัวเอง บ้างก็กลับไปโรงแรม บ้างก็ไปช้อป(ให้ตัวเองบ้าง)ที่สวนลุมไนท์ บ้างก็ไปกินข้าวเอาแรง (ไปบังเอิญเจอกันที่ฮะจิบังเฉยเลย) ไม่รู้ว่าเหนื่อย หรืออะไรกันแน่


มาเรื่องผู้ชายต่อค่ะ สรุปว่าสุดท้ายก็ไปกินที่ State Tower ค่ะ แล้วก็ต่อด้วยพัฒน์พงษ์

แต่มีคนรายงานว่า แค่ไปยืนถ่ายรูปหน้าผับเฉยๆ บ่ได้ qu jiu ba he jiu (กินเหล้าเข้าผับ) ซักกะนิด ถ้างั้นอัลบั้มหน้า ถ้าเห็นอะไรผับๆบาร์ๆใน MV ก็แสดงว่า inspired by Patpong ละกัน 555 (ว่าแต่แล้วทำไมกลับมาตั้ง 5 ทุ่มกว่าฟระ)


ขอนอกเรื่องค่ะ สืบเนื่องจากน้ำส้มแก้วละ 200 ของคุณพี่ Xinru 555
เนื่องจากคืนนี้ ทุกคนเลือกที่จะมาสิงสถิตที่โรงแรมเพื่อรอผู้ชายกลับจากลั้นลาที่พัฒน์พงษ์กันเป็นส่วนใหญ่ ล็อบบี้ก็เลยคนคราคร่ำมากเป็นพิเศษ ทำให้พี่ๆของ รร. ให้ความสนใจพวกเรามากเป็นพิเศษ พร้อมทั้งกำชับ

"นั่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าเพ่นพ่านนะครับ แล้วก็สั่งอะไรบ้างก็ดีนะครับ ผู้ใหญ่ลงมาเห็นเดี๋ยวพวกผมจะโดนว่าเอา"

โต๊ะเราก็เลยสั่งไปดังรายการต่อไปนี้

- ชาเอิร์ลเกรย์ 1 กา 260 (มั้ง) อันนี้ของคุณปาปา แต่เธอบอกว่าไม่ค่อยมีกลิ่นเลย ที่บ้านเธออร่อยกว่า

- บานาน่าสปลิท 1 ที่ 3 scoop 230 (อันนี้ของเค้ากินกับเพื่อน หาคนช่วยหารว่างั้น)

- โทนิค 1 ขวด และโซดา 1 ขวดๆละ 160 รวม 320

สิริรวม รู้สึกว่าจะ 700 กว่า หรือ 800 ไม่แน่ใจ รอคุณปาปามาคอนเฟิร์มหน่อย (เนื่องจากเธอเป็นคนรูดบัตร) เพื่อให้สามารถนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ได้จนกระทั่งผู้ชายมา แต่ก็แลกมาด้วยสายตา และมารยาทในการเสิร์ฟอาหารของพนักงานหญิงท่านหนึ่งอีกแล้วค่ะ ทีไปพูดกับฝรั่งโต๊ะข้างๆไม่เห็นทำสายตาอย่างนี้เลย ฝรั่งมันก็ไม่ได้สั่งอะไรนอกจากกาแฟ แล้วก็นั่งเล่นเกมในคอม ทำยังกะเป็นพระเจ้า ทีพอเราสั่งอาหารทีละอย่าง (พี่ xinru คงรู้ว่าบนโต๊ะมันไม่มีอะไรเลยนอกจากเมนูเครื่องดื่มซึ่งไม่มีความน่ากิน ต้องเรียกเมนูมาน้องถึงได้กินบานาน่าสปลิทนี่ไง) ชักสีหน้าซะ

แล้วผู้ชายก็กลับมาตอนห้าทุ่มกว่า พวกเราก็ตั้งขบวนเสด็จส่งคุณชายขึ้นนอนเช่นเดิม (ส่วนแม่สาวปริศนาคนนั้น รู้สึกว่าเธอจะรีบวิ่งๆฝ่าฝูงชนขึ้นห้องไปก่อน ไม่รู้ทำไมสิน่า)

ปล.เห็นถามถึงจางเส้าหาน เค้าก็ไม่เห็นเหมือนกันค่ะ เห็นเธอแค่วันที่มา แล้วคนที่ไป มธ. ก็เห็น คิดว่าคงไปด้วยเนี่ยแหละ แต่พรางตัวเก่งจัด เค้าเลยมองข้ามไป (จริงๆคือโฟกัสอยู่ที่ผู้ชายคนเดียว 555)

ปล.2 ทริปนี้หมดไปเป็นพันแล้วมั้ง ค่าข้าว ค่าอาหาร ค่ารถ ไม่ได้นับอ่ะ (แต่สาวๆที่ตามผู้ชายไป banyan tree พรุ่งนี้ รู้สึกจะหนักกว่า ได้ข่าวหัวละ 1500 เอ้งงงงงงง

แล้ววันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เค้าได้ตามเจี๋ยหลุน ก็จบลงด้วยประการละฉะนี้

ส่วนวันที่ 4 นั้น จะขอเอาเมนต์ที่คุณปาปามาแปะไว้ให้ มาอัพให้ได้อ่านกันนะคะ (ขอบคุณค้าบบบ คุณพี่คนสวย แล้วทริปหน้าเราไปเป็น" 2 สาวปาปาราสซี่ " กันอีกนะ แก้ตัวจากงานนี้ที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย


@@@@@@@@@@@@@@


Zhou Jie Lun in Thailand : 4th and 5th day - 5-6 Feb 09 By Yuyu_Yuki

มาขอคั่นเล่าของวันนี้หน่อยนะ
ไปถึงโรงแรมตอน บ่าย ๆ นั่งอยู่พักนึง ประมาณ 16.30 เฮียแกก็เดินเข้ามาอยากบอกว่า ครั้งนี้ไม่ค่อยถอดแว่นเลย แถมเดินเร็วมาก การ์ดล้อมแทบจะมิดไม่เห็นเฮียเลย ข้างหน้าก็ไม่ปล่อยว่างแล้ว หลังจากนั้นก็นั่งรอออออ กันไป แต่ไม่รู้พี่ไกด์นึกใจดีอะไรบอกเองว่าจะไปกินข้าว แต่ที่บัณยัณทรีนะ

ทีนี้ก็เลยถามกันว่าใครจะไปบ้างแต่ก็ไม่มีใครสู้เลย สรุปมี 4 ชีวิตไปนั่งกินด้วย กล้ากันน่าดูเล่นนั่งโต๊ะข้างๆเลย แถมไปก่อนอีกต่างหาก อิเจ้ทำไรไม่ได้


ลืมบอกวันนี้ไปที่ vertigo ชั้นบนสุดเป็น rooftop ราคาก็นะ หลักพันอัพ ไม่รู้ทำไมมาคราวนี้กินหรูจริงๆ เราก็แอบดูเฮียกันไป จะถ่ายรูปก็ไม่ได้ แต่พอเฮียแกมานั่งสักพัก ก็ลันลาออกไปเดินเล่นถ่ายรูป แต่ผู้หญิงพวกนี้ก็ไม่กล้าเดินตามอีก แบบกลัวอิเจ้กาหัวเอา
สักพักเฮียก็เดินกลับมานั่งแล้วก็คุยโทรศัพท์ด้วยมั้ง ไม่รู้คุยกะใคร มาครั้งนี้คุยโทรศัพท์บ่อยมาก แล้วก็กินอาหาร กินน้ำมะพร้าวเหมือนเดิมเลย เห็นกินอาหารไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วสักพักก็เริ่มคุยเสียงดังพอใช้ (มีคนแอบอัดเสียงมาด้วยแหละ) แล้วก็เอากล้องมาถ่ายรูปเล่นอีก แล้วก็ได้ฮาเพราะดันทำกล้องตก เสียงดังพอดู


จนใกล้จะกลับ นาทีระทึกก็มาถึง เมื่อเฮียแกเดินไปถ่ายรูปอีกด้าน ก็เลยเดินตามขึ้นไป ขอถ่ายรูป ถ่ายไปได้คนเดียว อิเจ้เห็น พี่เลยอด แถมรูปพี่อิ๋นก็ไม่ชัดอีก แต่แหวนอาถรรพ์อันนั้นสุดท้ายก็ได้ให้ไป รู้สึก ว่าแหวนมันหัวสูงน่าดู เลือกที่ให้ซะ ทำเอาคนให้กระเป๋าฉีก

แล้วก็เลยลงมาส่งข้างล่างแล้วตามมาโรงแรมอีก จะบอกว่าออกมาช้ากว่าแต่ดันมาถึงก่อนอีกแล้ว ดูได้อีกแวบนึง ไม่แน่ใจว่ามองหน้าพี่เพราะรู้สึกผิดป่าวนะ อุตส่าห์ตามไปกินถึงบนนั้นแล้วยังไม่ได้ถ่ายรูปอีก

สุดท้ายก็มีข่าวลืออีกว่าเปลี่ยนไฟล์เป็น โมงเช้า แต่มะกี้พี่ก็อปโทรมาบอกว่าเป็น 11 โมงเหมือนเดิม
วันนี้ก็ถือว่าคุ้มนะ ได้นั่งมองหน้าเฮียอยู่ ชม.เต็ม

มีข่าวประชาสัมพันธ์ พี่ไกด์บอกว่าจะจัดทริปไปไต้หวัน เป็นมีตติ้งกะเจย์ ชม.
ให้ถ่ายรูปกะขอลายเซ็น เค้าเอา คน ไม่รุมีใครสนใจป่าว ไปประมาณ พค.

(สนน่ะสนค่ะ คุณพี่ ว่าแต่ ตัวเลขมันไปไหนหมด นี่น้องต้องตามไปแงะที่ฮิห้าอีกแล้วชิมิ)


หลังจากเฮียเข้านอนแล้ว เหล่าสาวกก็ประชุม + เมาท์กันพักนึง
ตอนนั้นข่าวจากพี่อีกคนมาแล้วว่าเปลี่ยนไฟล์กลับเป็น 6โมง

มีพี่กลุ่มนึงรอที่โรงแรม กะรอจนเช้าไง แล้วพี่ไกด์ก็เดินมาบอกว่าเค้าให้มา standby ตอน 11โมงก็เลยไม่แน่ใจ พี่เค้ารอจนตี 5 ก็กลับ แต่ตอนนั้นแหละ คุณพี่คนเดิมก็โทรมาบอกว่าเปลี่ยนไฟล์จริงนะ (ตามสะดวกเถอะผู้ชาย ชั้นเลิก 8 โมงเช้าง่ะ คงไปส่งแกไม่ได้)

พี่เลยโทรบอกพี่เค้า แล้วพี่เค้าก็ให้น้องๆไปดูปรากฎว่าเห็นหลังไวๆก็เลยตามกันไปทัน แต่พี่เค้าตามไปทีหลังไม่ทันน่าเสียดายมาก ได้ข่าวว่าคนไปส่งร้องไห้กันใหญ่ แต่เฮียอารมณ์ดีมากนะ แล้วเหมือนอิเจ้นั่นจะโดนเฮียด่าเลยไม่ค่อยกัน แต่น้องๆก็ยังโดนมากันอีกหน่อย

ตัดกลับมาที่คุณพี่อีกคนนะ พี่เค้าเล่าว่า เคยถามเฮียว่ารู้ไหมว่าคนไทยชอบคุณมาก ตอนแรกเค้าก็ตอบว่า เหรอๆ เหมือนไม่แน่ใจ แต่คราวนี้พอถามคำถามเดิม เฮียตอบอย่างมั่นใจทันใด ว่าอือเลย 5555 คงเห็นความพยายาม ขนาดหนีขึ้นยอดตึกยังจะตามไปอีก
(เค้าอิจฉาคุณพี่คนนั้นอ่ะ ได้ข่าวว่าในเกทก็ได้ถ่ายรูปคู่ด้วยใช่ป่ะ)

ข่าว เรื่องคอนเสิร์ต เฮียก็บอกเหมือนกันว่าไม่รู้ว่าทำไมไม่ได้มาเล่นคอนที่นี่ เหมือนจะตกลงกันไม่ได้ ก็รอกันไปละกัน แต่ข่าวว่าจะมีคอนที่ซิดนีย์ปี 2010

Back 2 Top


@@@@@@@@@@@@@@


และแล้วงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อผู้ชายมา ก็ย่อมต้องกลับไป การทำหน้าที่ของปาปาราสซี่ 2 สาวก็ต้องจบลงเพียงเท่านี้ หวังว่ามิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน คงจะถูกอกถูกใจกับทริปตามผู้ชาย 5 วัน 4 คืน ในครั้งนี้นะคะ หากผิดพลาดพลั้งไป หรือไปพาดพิงโดนใครเข้า พวกเราก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2552 18:55:24 น.		26 comments
Counter : 1247 Pageviews.
Share Tweet