Bloggang.com : ข้าน้อยคาราวะ : คุณย่ากับคุณหลานชายในละคร Moonlight เม้าท์กันนอกจอ

คุณย่ากับคุณหลานชายในละคร Moonlight เม้าท์กันนอกจอ

ซุปเปอร์คุณย่า หลี่เซียงฉิน (นักแสดงอาวุโส ผู้คร่ำหวอดกับวงการมาหลายปี) ปะทะ ซุปเปอร์จอมยุทธอันดับหนึ่ง หลินฟง ....ด้วยวัยของอาจุมม่า (เรียกแบบนี้น่ารักดีอะ) ปาเข้าสู่ 76 และหลานชายหลินฟง จะครบ 29 ในปีนี้ คุณอาจุมม่าฉิน กับหลานชายในวัย generation อันห่างเหิน แต่กลับคลิ๊กเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ (จะสร้างตำนานรักครั้งใหม่

ความรักของอาจุมม่าฉิน และหลานชายหลินฟง) คุณย่าฉิน กับหลานฟง เม้าท์เรื่องอะไรกัน ถึงหนุงหนิงได้ยาวขนาดนี้

ลองอ่านดูจ้า

ตามปกติ หนุ่มฟงจะตรงต่อเวลา แต่พอรู้ว่าจะต้องมาสัมภาษณ์กับคุณย่าดาราอาวุโสหลี่เซียงฉิน ฟงเลยออกอาการเครียด ถึงกับตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เพราะกลัวจะมาสาย สุดท้ายฟงมาถึงก่อนเวลา ทำเอานักข่าว....งง.......

อาจุมม่าฉิน : ก่อนหน้าที่ฉันจะร่วมงานกับคุณ ฉันยังไม่รู้จักเลยว่าคุณเป็นใคร (ดังซะจนท่านย่าฉิน ไม่รู้จัก ขนาดอยู่เกาะเดียวกัน)

มีคนพูดว่าคุณเป็นแฟนของหนูลินดา นี่มันจริงรึเปล่า ? แต่ย่าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรว่าอาฟงจะมีความรู้สึกพิเศษกับใครบ้าง
ฟง : โปรดมองที่มือผมครับคุณอาม่าฉิน แล้วจะรู้ว่าไม่มีอะไรในกอหญ้า (

ถ้าความลับแตก มือจะเหงื่อตก) จริง ๆ ผมป๊ะหน้าคุณอาม่าฉินครั้งแรก รู้สึกไมเกรนขึ้นเล็กน้อย (

เครียดค่ะเครียด) ผมเคยเห็นอาม่าฉินในทีวีตอนผมยังเด็ก ๆ แล้วผมก็ได้พบความจริง หลังจากที่ถ่ายละคร Moonlight จบแล้ว คือ คุณอาม่าฉินมีพาวเยอะมากกว่าคนสาว ๆ ซะอีก

อาจุมม่าฉิน : ย่าว่าอาฟงเป็นเด็กดีมาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อาฟงไม่ดีในสายตาคุณอาม่าคือ อาฟงไม่สบายและย่าก็กอดกับอาฟง ( ทำไมคุณย่าถึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวเยี่ยงนี้คะ)

ทำให้ย่าไม่สบายไปด้วย อาฟงมีสิว และฉันก็เป็นสิวด้วย ไม่รู้ว่าอาฟงเอาเชื้อโรคมาติดฉันรึเปล่า ? (เรื่องสิว ๆ ค่ะคุณอาจุมม่าฉิน)
ฟง : ฮ่า ๆๆ คุณอาม่าฉิน สิวนี่ติดต่อกันได้ด้วยหรือครับคุณอาม่า ? ตอนแรกผมคิดว่าคุณอาม่าฉินจะต้องน่ากลัว แบบเข้าหน้าไม่ได้ แต่ไม่ใช่เลย คุณอาม่าเป็นคนสบาย ๆ ง่าย ๆ ชอบเล่นวีดีโอเกมส์ และไม่ยอมกินข้าวเพราะติดเกมส์ ในอดีตผมเคยได้ยินมาว่า เล่นเกมส์จนหลอดเลือดในตาแตก ต้องไปโรงพยาบาล (สงกะสัยอยู่ว่า คุณย่าฉินผ่านวัยทอง จนไปถึงวัยกลับแร้วแหงม ๆ)

อาจุมม่าฉิน : นี่ ! ย่าจะบอกให้ฟังว่า ที่บ้านย่ามีอาณาเขตส่วนตัวไว้เล่นเกมส์ต่าง ๆ นานาโดยเฉพาะ ฉันเล่นไม่ยั้ง ไม่ยอมออกไปไหน และไม่หลับไม่นอน พอเล่นชนะผ่าน 1 level ย่าก็จะแฮปปี้ ร้องกรี๊ดกร๊าด แล้วซักพักจะมีคนข้างบนขว้างขวดโค้กลงมา....... อะกร๊ากส์ คุณอาม่าฉินได้รางวัลเป็นขวดน้ำอัดลม

(ถ้าไม่บอก นึกว่าหลานแล้วนะ ไม่ใช่อาม่าฉิน บอกว่าอย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังไง)

ฟง : ผมไม่สงสัยเล้ย ที่คุณอาม่าเป็นแบบนี้ ขนาดผมเล่นเกมส์อยู่กับพี่เฉินเห้า คุณอาม่ายังมาร่วมจอยด้วย และคุณอามาฉินมีอีกอย่างที่เหมือนผมเลยคือ ช่างกิน เข้ากันได้เป๊ะเลย (ดวงสมพงษ์กับคุณอาจุมม่ามากเลยนะฟง)

อาจุมม่าฉิน : ฉันจำได้ตอนนั้น ถ่ายละครนอกสถานที่ พอรถผ่านร้านอาหาร ซึ่งมองแล้วน่ากินมั่ก ๆ พอเลิกงานปุ๊บ เราก็ไปโซ้ยด้วยกัน แต่วันนี้มีเมนูแบบใหม่นำเสนอ.....อาหาร Spanish !!!
ฟง : ผมกับคุณย่าฉินได้รับบาดเจ็บตรงหัวเข่าเหมือนกัน.....ทำไม๊เหมือนกันหลายอย่างจังครับคุณอาม่า ไม่น่าเชื่อ ! โชคร้ายไปนิสส ผมเกิดไม่ทันคุณอาม่า ไม่งั้นผมจีบคุณอาม่าไปแร้ว
อาจุมม่าฉิน : เด็กโง่เอ๋ย ! (ความจริงคือ ย่าอึ้งนะ แต่จีบเลยก็ได้)

ฟง : ล้อกานเล่นคร้าบคุณอาม่า อิอิ คุณอาม่าเป็นคนความจำดีมาก ผมเห็นคุณอาม่าตอนแสดงละคร ถ้าหากว่าเล่นผิดหรือจำไม่ได้ คุณอาม่าสามารถเนียนต่อไปได้อย่างสวยงาม คุณอาม่ามีเคล็ดลับอะไร ?
อาจุมม่าฉิน : ตัวย่าเคยร้องงิ้วมาก่อน (คุณย่าจะเริ่มกรีดมือและร้อง ก่ง... ไซ้.. อ๋วย... เต๊า... หล่าววว ลากเสียงย้าว ยาว )

เมื่อก่อนร้องงิ้วคืนหนึ่งติดต่อกัน 4 ชั่วโมง การร้องงิ้วเหมือนท่องบทละครตั้งแต่เริ่มจนจบ นี่แหละวิธีฝึกความจำ
ฟง : ห๊า ! ผมยังจำเนื้อเพลงของตัวเองไม่ได้ทั้งหมดเลย พูดถึงเรื่องแสดงงิ้ว ผมรู้มาว่าคุณอาม่าโด่งดังมากในวงการงิ้ว โดยเฉพาะบทนางร้าย คุณย่าสอนกลเม็ดเคล็ดลับให้ผมบ้างสิครับ
อาจุมม่าฉิน : เมื่อก่อนการแสดงบทนางร้ายจะใช้เพียงแค่แสดงอารมณ์ออกทางหน้าตา แต่เดี๋ยวนี้ต้องร้ายออกมาจากข้างในด้วย (จ้างโจรมาเล่นเลยดีกว่าเนอะคุณย่า)

ย่าเข้าไปในโรงหนังเพื่อจะสังเกตปฏิกิริยาของผู้ชม มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “นั่นไง หลี่เซียงฉินออกมาด่าคนอื่นอีกแล้ว และบอกว่าฟันของฉันกลายเป็นอย่างนี้ เพราะกินแตงโม” (จขบ. ก็งงอ่ะ ว่ากินแตงโมแล้วเกิดอะไรกับฟันคุณย่า) วันรุ่งขึ้นฉันไปถอนฟันออก 6 ซี่ ทันที แล้วใส่ฟันปลอมแทน (คุณย่ายอมเสียฟัน แต่ไม่ให้คนอื่นมาติฟันคุณย่าได้)

ฟง : โอ้โห ! (คุณย่าเพี้ยนเหรอป่าว)

คุณอาม่านี่ประหลาดจังเลย คุณอาม่ารับไม่ได้ใช่มั้ย ที่มีคนมา comment แบบนั้น......ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
อาจุมม่าฉิน : ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกที่ย่าไม่แฮปปี้ จริง ๆ อยากได้เงิน ! (เง็งค่ะคุณอาม่า ถอนฟันมันต้องเสียเงินนะคะ)

ตอนนั้นบ้านราคาประมาณ 40,300 เหรียญ ฉันเอาเงินมาผ่อนบ้าน 3 งวด
ฟง : คุณอาม่าเป็นหญิงแกร่งจริง ๆ แต่ตอนนี้คุณอาม่ารับทั้งงานละคร งานหนัง รายการโชว์อีก คุณอาม่าต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้มากนะครับ ดูเหมือนว่าจะยุ่งยิ่งกว่าตอนสาว ๆ ซะอีก (รักนะ จุ๊บ ๆ จากฟง)

อาจุมม่าฉิน : สมัยก่อนงานชุกมาก ถ่ายหนังตั้ง 51 เรื่อง ภายในปีเดียว บางเรื่องถ่าย 7 วันเสร็จ ตอนนี้มีคนถามฉันว่า ทำไมคุณอาม่าฉินไม่เกษียณตัวเองซักที (ให้ไปเล่นเกมส์อย่างเดียว)

จริง ๆ ฉันก็ยังรักงานแสดงอยู่ ยังมีเรี่ยวแรงที่จะแสดง ถ้าวันหนึ่งฉันไม่มีแรงแล้ว คงต้องถอยตัวเองเพื่อพักผ่อนจริง ๆ เสียที

ฟง : ความคิดของคุณอาม่าฉินเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณอาม่าถึงยืนหยัดโด่งดังมาอย่างยาวนาน ผมมีคำถามครับคุณอาม่า คือมีความเห็นยังไงระหว่างดาราสมัยก่อนกับดาราสมัยนี้ แตกต่างกันอย่างไร ?
อาจุมม่าฉิน : เมื่อก่อนดาราชอบวางตัวหยิ่ง คือถือตัว.....แฟน ๆ ก็ไม่ค่อยปลื้มในตัวดาราเท่าไหร่ ก่อนที่ย่าจะเข้าวงการ ย่าชอบดาราที่ชื่อ Yam Kim Fai (ย้อนไปอีกกี่ปีเนี่ยคุณอาจุมม่า ยังไม่เกิดเลย)

ฉันไปคอยเธออยู่หน้าบ้าน พอเธอออกมา ฉันก็เพียงแค่มองและไม่กล้าส่งเสียงดัง เวลาเธอไปร้องเพลงที่ไหน ฉันก็จะตามไปเฝ้าหลังเวที แล้วมีเขียนจม.ถึงเธอด้วยนะ (โอ้ ! ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ เวลาที่บ้าใครโดยไม่มีสาเหตุ มีแต่อารมณ์เลิฟเพียว ๆ)

ฟง : ผมรู้สึกว่าดาราสมัยก่อนปกป้องตัวเองมาก ไม่ยอมไปปรากฏตัวที่ไหนง่าย ๆ ไม่ใช่จะให้ใครเห็นได้ง่าย (เดี๋ยวจืดโม้ด) แต่พอถึงยุคที่โทรทัศน์ได้รับความนิยม ระยะห่างระหว่างดารากับคนดูก็จะใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้แต่โจวเหวินฟะยังไปเดินจ่ายตลาดได้เลย

Hot on the Beach ของคุณย่าฉินสมัยยัง so beauty (ยกนิ้วให้เลย)