Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

Update News#24.. เก็บตกบันเทิงเริงใจฮ่องกง.. ฟงอวิ๋น 2 <The Strom Warriors> เรื่องย่อ+สัมภาษณ์+รูป





ปิ๊งป่อง....โปรดทราบ สำนักข่าวเก็บตกขอเชิญทุกท่านที่อินเลิฟในหัวใจ และไม่อินเลิฟก็ดูได้ค่ะ ชมซีรี่ส์แนวรัก โรแม้นนติก New breath of love “สายลมแห่งหัวใจ” ฉายช่องทรู กดรีโมทไปที่ 11 เวลา 19.00 - 20.00 น. วันเสาร์และอาทิตย์ งานนี้ประชาสัมพันธ์ฟรีตลอด 1 อาทิตย์ (ใครใช้) อันว่าเรื่องนี้ เป็นละครเรื่องแรกของหนุ่มหลินฟง ที่ได้รับเกรียตติ ข้ามโซนไปเป็นพระเอกให้นางเอกไต้หวันได้หลงใหลหัวใจซาบซ่านกันมั่ง สาว ๆ ที่ร่วมซาบซ่านก็ได้แก่ เฉินอี้หรง (นางเอก), อันอวี่ซวน และสาวอื่นเพียบที่ไม่ทราบชื่อ ร่วมด้วยหนุ่มใหญ่ไฟยังแรงเสมอ ฟางจงซิ่น แล้วก็ม่ายรู้ว่าตกลงนางเอกจะเลือกใครกันแน่ระหว่างหนุ่มฟงสุดหล่อเสน่ห์แรง กับหนุ่มใหญ่เสน่ห์แรงอีกนั่นแหละ เดี๋ยวจะพล่ามมากไป รีบเข้าสู่ Theme ของเรื่องทันทีค่ะ


ภาพบนเป็นเบื้องหน้า (เสื้อผ้ายังอยู่ครบ แต่ดื่มดำซ๊า) แต่ข่าวเป็นเบื้องหลังการถ่ายทำฉากเลิฟซีน ที่คุณชายหลินฟงเปลืองตัว มากกว่าละครเรื่องไหน ๆ ของทีวีบี คุณชายฟงยอมทุ่ม ยอมถอด ยอมโชว์ของที่แม่ให้มา ซะขนาดนี้ เห็นทีนางเอกจะยอมแพ้ไม่ล่ายฮ่ะ ....ซีนนี้ถ่ายทำที่โรงแรมในซูโจว แม้ว่าหนุ่มฟงกับสาวหมวย Tammy เฉินอี้หรง จะได้แนบชิดกันมาหลายฉากหลายตอนแล้ว แต่ทว่าหนุ่มฟงยังคงกลุ้มใจ.... พอตอนจูบ Tammy ผมก็กลัวว่าปากไปโดนก้อนซิส (cyst) บนริมฝีปากเธอ (หว๋า ชีตื่นเต้ลจนซิสท์ขึ้นที่ปาก หรือว่าเป็นกับดักกันแน่) พอตอนถอดเสื้อ ผมว่ามันร้อนยิ่งกว่าตอนใส่เสื้ออีกง่ะ......วี้ด ว้าย ไฉน ฉะนั้น ฉะนี้.... และฝ่ายสาว Tammy ชีก้อ so hot เช่นกัน อารายล่ะ !! คำก็ร้อนสองคำก็ร้อน รีบจบข่าวไปแจ้งรถดับเพลิงมาดับดีกว่า ก่อนจะไหม้ลามไปมากกว่านี้ ปล.ในข่าวใช้คำว่า cyst on Tammy’s lip เลยไม่รู้ว่าเธอเป็นโรคอะไรที่ปากเธอกันแน่ ??






3 สาวสวยสะคราญ เลี่ยวปิเอ๋อ (น่ารักเซ็กซี่) , หูเหิงเอ๋อ (ชุด Pink Lady) , หลี่ไฉ่หัว (ชุดยอดแย่อวอร์ดเตรียมจะมอบรางวัลแด่เธอ) พวกเธอเดินสวยเข้าร่วมงานปาร์ตี้ฉลองครบรอบ (กี่ขวบก็ไม่บอกค่ะ) นิตยสารเกี่ยวกับผู้หยิ๊ง ผู้หญิง ซึ่งงานนี้สาวเลี่ยว และสาวหู ได้รางวัล Magazine cover ไปครอบครอง แต่ไฉนสาวหูจึงได้เม้าท์ความรู้สึกให้นักข่าวฟังแต่เพียงผู้เดียว ?? สาวหูกล่าวอย่างเป็นปลื้มว่ารูปถ่ายของฉันที่ได้รางวัลลงปกนิตยสารในครั้งนี้ควรค่าแก่การจดจำ เพราะจะได้โชว์ให้ลูกหลานได้ชื่นชมในอนาคต
เมื่อพูดถึง Bosco เธอบอกว่า เขาไม่เคยชมฉันว่าสวยหรอกค่ะ แต่หวังว่าฉันจะถ่ายรูปออกมาให้ดูดีขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป.....แล้วคุณไม่อยากถ่ายแนวเซ็กซี่คู่กับ Bosco ลงปกนิตยสารบ้างเหรอ ? สาวหูตอบตรง ๆ ว่า เธอรู้สึกเขิน ขอถ่ายเดี่ยวจะดีกว่าค่ะ แต่ฉันเคยมีความคิดที่จะถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำก่อนที่จะมีลูกหรือถ่ายตอนตั้งครรภ์ก็ดีค่ะ (คือน้องหูคิดจะถ่ายตอนท้องป่องเป็นคนแรกของทีวีบีน่ะค่ะ พวกเราช่วยลุ้นให้เธอได้ถ่ายรูปไว ๆ น๊า)







เก็บตกงานนี้ ดาราสวย หล่อ และเกือบหล่อ มาร่วมงานกันเพียบ เพราะเป็นงานมอบรางวัลดาราแต่งกายดูดีเลิศประเสริฐสุด.....ชื่องานเค้าแบบนี้ "20th HKFDA Annual Best Dressed Personalities Awards" ซึ่งเค้าได้คัดเลือกดาราจากฮ่องกง ไต้หวัน และจีน 10 คน มารับรางวัลแต่งกายยอดเยี่ยม อาทิเช่น (ที่เช่นเพราะคนอื่นเดี๊ยนไม่อยากทำความรู้จัก) หลีจือ , เฉินหาว , เหอเชาอี้ , กู่เทียนเล่อ และ กัวผิ่นเชา>>> เดี๊ยนกรองแล้วว่า สวย หล่อ เวรี่กู้ด สมรางวัลเจ้าค่า ว่าแต่กรรมการเค้าใช้หลักเกณฑ์อะไรตัดสินว่าใครเยี่ยมไม่เยี่ยม คงจะออกงานแต่ละครั้งก็แต่งตัวเหมาะสมดูดีเข้ากับบุคลิกเป็นแน่เชียว




The Strom Warriors
ฟงอวิ๋น...อวิ๋น...อวิ๋น (โปรดอ่านแบบเอฟเฟ็คอลังการ และเค้าเปลี่ยนชื่อ Eng ใหม่แล้ว ) ขี่พายุทะลุฟ้า .โปรเจ็ค 2 ของผู้กำกับคู่แฝด แดนนี่+อ๊อกไซด์ แปง เราสอยเรื่องย่อกับบทสัมภาษณ์ มาฝาก

Info : //www.tttonline.net
TTTonline พาทุกท่านเข้าเยี่ยมชมบรรยากาศการถ่ายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เรื่อง "ฟงอวิ๋น 2 " The Storm Rider II กันที่สตูดิโอย่านปากเกร็ด พร้อมผู้กำกับ อ็อกไซ แปง และแดนนี่ แปง ผู้กำกับฝีมือดี พร้อมกับ 2 นักแสดงนำ เจิ้งอีเจี๊ยน และ กัวฟูเฉิง



ซึ่งมีคิวเปิดกล้องทำพิธีบวงสรวงและเริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยการกำกับของ 2 ผู้กำกับฯ ชาวฮ่องกง ''แดนนี่-ออกไซด์ แปง'' ที่มาทำหนังแนวแฟนตาซีเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ''ฟงอวิ๋น 2'' จะเป็นการถ่ายทำในเมืองไทยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนอกจากจะมี 2 พระเอกอย่าง กัวฟู่เฉิน และ เจิ้งอี้เจี้ยน แล้ว ยังมีนักแสดงชื่อดังอย่าง เซียะถิงฟง, ชาเลน ชอย ร่วมแสดง

โดยเงินลงทุนสร้างของหนังภาคต่อในครั้งนี้ 2 ผู้กำกับกล่าวว่า ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ด้วยการสร้างสตูดิโอ ณ โกดังสยามทุนพัฒนา ย่านปากเกร็ดเพื่อใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก (CG) ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของฟงอวิ๋นมาตั้งแต่ภาคแรกมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพยนตร์ครั้งนี้





เรื่องย่อ ฟงอวิ๋น 2 The Storm Riders II
ปู้จิ้งอวิ๋น (กัวฟู่เฉิน) ตัวละครในนิยายกำลังภายในเรื่อง ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า ปู้จิ้งอวิ๋นเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของบิดาซึ่งเป็นนักตีกระบี่ และมารดาซึ่งไม่เคยมีความสุขเลย นับตั้งแต่แต่งงานมา เพราะบิดาของปู้จิงอวิ๋นมักจะออกเดินทางไๆปเสาะแสวงหาวัตถุดิบตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นกระบี่ชั้นยอด (กระบี่เลิศภพจบแดน) เมื่อบิดาของปู้จิ้งอวิ๋นป่วยจนเสียชีวิต มารดาจึงได้แต่งงานใหม่กับ ฮั่วปู้เทียน แห่งตระกูลฮั่ว ฮั่วปู้เทียนรักและให้ความเมตตากับปู้จิ้งอวิ๋นเป็นอันมาก ได้ตั้งชื่อใหม่และให้แซ่ฮั่วเช่นเดียวกับตนว่า "ฮั่วจิงเจี่ย" อีกทั้งได้สอนวิชากระบี่สกุลฮั่วให้แก่ปู้จิ้งอวิ๋น ทำให้ปู้จิ้งอวิ๋นมีบุคลิกแปลกแยก เกิดมีความรักในบุคคลรอบข้างเป็นครั้งแรก และนับถือบุคคลผู้นี้เสมือนบิดาบังเกิดเกล้า

ต่อมาเมื่อสงป้า ได้กวาดล้างโคตรตระกูลฮั่ว ทุกคนตายหมด ปู้จิ้งอวิ๋นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อทราบเป็นฝีมือของพรรคใต้หล้าโดยสงป้า จึงผูกใจเจ็บ และคิดจะล้างแค้นมาโดยตลอด จึงได้เข้าในพรรคใต้หล้า สร้างผลงานเป็นที่เลื่องลือ ทำให้สงป้ารับศิษย์เอกคนที่ 2 และถ่ายทอดฝ่ามือเมฆาล่องลอยให้ปู้จิ้งอวิ๋น เป็นคนมีบุคลิกแปลกแยก ไม่เคยยิ้ม ไม่ค่อยพูด มีนิสัยเย็นชา โดยเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิด เมื่อคลอดก็ไม่ร้อง ไม่พูดจนกระทั่งอายุได้ 3 ขวบ คำแรกที่หลุดออกจากปากของปู้จิ้งอวิ๋นยคือ "เมฆ" จึงได้ชื่อนี้ เมื่อปู้จิ้งอวิ๋นได้กลายเป็นศิษย์เอกของสงป้าแล้ว ก็เสมือนมือขวาที่ทำการแทนทุกอย่าง เช่น เข่นฆ่าล้างตระกูลต่าง ๆ ในยุทธภพ โดยปราศจากความรู้สึกใด ๆ ผู้คนเมื่ออยู่ใกล้จะมีความรู้สึกกลัว เนื่องจากมีรังสีฆ่าฝันรุนแรง จึงได้ฉายาว่า "เทพมฤตยูไม่ร่ำไห้"

ปู้จิ้งอวิ๋นได้พบกับจุดพลิกผันของชีวิต เมื่อได้พบกับอดีตอดีตยอดฝีมืออันดับหนึ่งของยุทธภพ ผู้ลึกลับในชุดสีดำคือบุรุษนิรนาม และเจี้ยนเฉินลูกศิษย์ ปู้จิ้งอวิ๋นได้รับการถ่ายทอดวิชากระบี่คับแค้นเหลือคณา ซึ่งเป็นสุดยอดเพลงกระบี่ที่ซึ่งเจี้ยนเฉินก็ไม่อาจบรรลุได้ เนื่องจากไม่มีความแค้นมากพอ ปู้จิ้งอวิ๋นได้ประลองกับบุรุษนิรนาม และเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ได้มีความผูกพัน และได้พบกันอีกหลายต่อหลายครั้ง

ปู้จิ้งอวิ๋นเป็นคนที่รักใครไม่เป็น เเต่เมื่อได้รักแล้วรักจริง เเละทำได้ทุกสิ่งเพื่อคนรัก คนรักของปู้จิ้งอวิ๋นคือ ขงฉือ สาวใช้ในพรรคใต้หล้า ที่ถูกสงป้าฆ่าตาย ปู้จิ้งอวิ๋นเศร้าเสียใจมาก เเละเป็นอีกแรงหนึ่งที่ทำให้อยากฆ่าสงป้ามากขึ้น แต่คนรักตัวจริงของปู้จิ้งอวิ๋นคือ ฉูฉู่(Tiffany)บุตรสาวของจอมยุทธที่สละแขนซ้ายให้ปู้จิ้งอวิ๋นที่ขาดไปในการปะทะกับสงป้า ปู้จิ้งอวิ๋นนั้นไม่ได้รักฉูฉู่ แต่ฉูฉู่เป็นฝ่ายที่รักปู้จิ้งอวิ๋น และเฝ้าติดตามมาตลอด เมื่อฉูฉู่ถูกเจี้ยนเฉินข่มขืนจนตั้งครรภ์ นางอับอาย และปู้จิ้งอวิ๋นก็รับเป็นสามีของนาง
ปู้จิ้งอวิ๋นอายุมากกว่าเนี่ยฟง (เจิ้งอี้เจี้ยน) 2 ปี มีบุคลิกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และอยู่กันคนละฝ่ายกับเนี่ยฟงด้วยซ้ำ แต่ทั้งคู่ประสบกับชะตาเดียวกัน จึงเข้าใจกัน เมื่อทั้งคู่รวมจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว จะก่อให้เกิดเป็นวาตะ เมฆา มังกรสวรรค์ชั้น 9 ที่ใคร ๆ ในยุทธภพก็มิอาจเทียบเทียมได้.





สัมภาษณ์ดารานำ กัวฟู่เฉิง + เจิ้งอี้เจี้ยนwww.rn.siamzone.com
ถือฤกษ์งามยามดีจัดพิธีบวงสรวงเปิดกล้องพร้อมถ่ายทำภาพยนตร์ใหม่เรื่อง "The Storm Riders 2" หรือ ฟงอวิ๋น 2 ไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา จากการ์ตูนเรื่อง "Fung Wan" หรือที่รู้จักกันว่า ฟงอวิ๋น ของนักเขียน "หม่าหยงเฉิง" (Ma Wing Shing) ที่เคยนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ''The Storm Riders" หรือ ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า เมื่อปี 10 ปีที่แล้ว

งานนี้ได้ผู้กำกับได้ 2 ผู้กำกับพี่น้องฝาแฝด "อ๊อกไซด์ แปง" (Oxide Pang) และ "แดนนี่ แปง" (Danny Pang) มานั่งแท่นเป็นผู้กำกับร่วมกันอีกครั้ง พร้อมกับดึงนักแสดงที่เคยแสดงในภาคแรกอย่าง "กัวฟู่เฉิง" (Kwok Fu Shing หรือ Aaron Kwok) และ "เจิ้งอีเจี้ยน" (Zheng Yi-Jian หรือ Ekin Cheng) มารับบทบาทเดิมที่เคยได้ฝากฝีมือการแสดงเอาไว้ในภาคแรก
บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย โดยได้รับความสนใจจากสื่อจำนวนมากทั้งสื่อไทยและสื่อต่างชาติที่มารอทำข่าวในครั้งนี้ หลังจากนั้นมาพูดคุยกับผู้กำกับเกี่ยวกับการทำงานเรื่องนี้ อ็อกไซด์ เล่าว่า
"ภาคแรกกับภาค 2 เนื้อเรื่องนั้นไม่ได้ต่อเนื่องกัน เป็นเรื่องราวอีกแบบหนึ่ง แต่ใช้ชื่อตัวละครเหมือนเดิม เป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่าง 2 คน เราก็จะมีเทคนิคใหม่ๆ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของการ์ตูน พอเวลามาเป็นภาพยนตร์แล้วต้องให้มีความน่าตื่นเต้น บอกไม่ถูกต้องดูเอง เพราะว่าภาพเรามีเทคนิคที่ทันสมัยขึ้น ส่วนที่เลือกถ่ายเมืองไทยนั้น เพราะว่าทีมงานทำงานกับเรามาหลายๆ เรื่อง แล้วเรา 2 คนก็เกิดมาจากภาพยนตร์ที่เราถ่ายในเมืองไทย หนังเรื่องนี้มีทีมงานที่เป็นคนไทย 80 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์มาจากฮ่องกง"


ส่วนในเรื่องเทคนิคที่แตกต่างนั้น แดนนี่ บอกว่า "ปกติถ่ายภาพยนตร์เทคนิคก็ใช้เป็นสกรีน ภาพที่ได้ออกมาจะได้ไม่ดีเท่าไร เพราะฉะนั้นเราก็เช่าสตูดิโอหลายๆ ที่เซตฉากใหญ่ๆ ภาพที่ได้ออกมาจะมีสเปเชียลเอฟเฟกต์ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ฉากที่เราเซตเองมีประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หนังเรื่องนี้ 99 เปอร์เซ็นต์ ถ่ายในสตูดิโอที่เซตขึ้น"
ในเรื่องที่ใช้นักแสดงคนเดิมจากภาคแรกมาแสดงบทเดิมในภาคนี้ อ๊อกไซด์ บอกเหตุผลว่า "ที่เลือกทั้ง 2 คนนี้มาก็เพราะว่าคนดูติดใจไปแล้วว่า ฟงอวิ๋น ต้องเป็น 2 คนนี้ ตอนแรกจะให้เรา 2 พี่น้องเล่นแต่กลัวมีปัญหา สุดท้ายก็มาลงที่ 2 คนนี้ดีที่สุดแล้ว ความกดดันก็มีบ้างแต่ก็ไม่เป็นไรพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนทุนสร้างน่าจะอยู่ที่ 300 กว่าล้านบาท เป็นเพราะว่าทุกอย่างเราเซ็ตขึ้นมาไม่ได้ไปถ่ายจากสถานที่จริง เป็นฝีมือของคนไทยทั้งหมดเลย ใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 4 เดือน ถ่ายที่นี่ตลอด นักแสดงนำ เจิ้งอีเจี้ยน กับ กัวฟู่เฉิง ก็อยู่ที่นี่ยาว คนอื่นจะมีบ้างที่บินไปกลับ"


เรื่องของการเปรียบเทียบกับภาคแรกที่ แอนดริว เลา (Andrew Lau) กำกับนั้น อ๊อกไซด์ กล่าวว่า "สู้ไม่ได้ ของเขาชนะอยู่แล้ว เขาเก่งมากกว่า จริงๆ นะ เพราะว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาทำได้อย่างนี้เราก็ยอมรับแล้ว แต่วันนี้เรารู้เทคนิค สเปเชียลเอฟเฟกต์ดีมากกว่า 10 ปีที่แล้ว แต่ช่วงเวลานั้นเขาถ่ายได้ขนาดนั้นก็เก่งจริงๆ เราก็จะพยายามเท่าให้ได้เท่ากันแล้วกัน ไม่ได้ดีกว่าเขา พยายามทำให้เท่ากัน"
สุดท้าย แดนนี่ ฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ได้ชมสิ้นปี 2009 ทุกคนที่อยากดูก็ช่วยรอคอยนิดหนึ่ง เพราะว่าเราใช้เวลากับสเปเชียลเอฟเฟกต์เยอะมาก การเล่าเรื่องก็สนุก การันตีความมัน"


จากนั้นทั้ง 2 นักแสดงนำของเรื่อง กัวฟู่เฉิง และ เจิ้งอีเจี้ยน ก็มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ฟงอวิ๋น 2 หลังจากที่ทั้งคู่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในไทยไปแล้วบ้างบางส่วน

การถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
กัวฟู่เฉิง "ราบรื่นดี ไม่มีปัญหา แฮปปี้ทุกอย่าง"

เจิ้งอีเจี้ยน "อยู่ดี กินดี สบายดี ทุกอย่างราบรื่นครับ (หัวเราะ)"

รู้สึกยังไงบ้างกับการถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ฟงอวิ๋น 2

กัวฟู่เฉิง "เนื่องจากเวลาผ่านไป 10 ปีแล้ว ความคิดของ ปู้จิ้งอวิ๋น (ตัวละครรับบทโดย กัวฟู่เฉิง) ก็เปลี่ยนไป คือเติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิม ความคิดซับซ้อนขึ้น เพราะฉะนั้น ปู้จิ้งอวิ๋น คนนี้กับเมื่อ 10 ปีก่อนนี้มีความแตกต่างกันตรงที่ว่าเป็นคนที่มีความละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม อยากให้คนดูมองเข้าไปลึกว่ามันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว"

เจิ้งอีเจี้ยน "รู้สึกดีใจมาก เพราะ ฟงอวิ๋น เมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและทุ่มทุนสูงมาก แล้ว 10 ปีต่อมา ไม่นึกเลยว่าจะมีวันนี้ที่มีการถ่าย ฟงอวิ๋น อีกครั้งหนึ่ง โดยมีทุนที่หนาเหมือนเดิม"


คาแรกเตอร์เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนกับภาคแรก
เจิ้งอีเจี้ยน "เปลี่ยนไปเยอะมากๆ เป็นการสลับบทค่อนข้างมากทีเดียว เพราะว่าภาคแรก ปู้จิ้งอวิ๋น จะเป็นคนที่ออกแนวโหดเหี้ยมอหังการมากกว่า ส่วน เนี่ยฟง (ตัวละครรับบทโดย เจิ้งอีเจี้ยน) จะเป็นคนที่เรียบร้อย มีคุณธรรมสูง แต่ภาค 2 เนี่ยฟง ต้องฝึกวิทยายุทธ์เพื่อจัดการกับผู้ร้ายคนหนึ่งจนกลายเป็นมาร ส่วน ปู้จิ้งอวิ๋น เขาต้องการช่วยศิษย์น้องของเขา จึงออกแนวมีความเมตตามากกว่า"

กดดันไหมเพราะว่าภาคแรกประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก
กัวฟู่เฉิง "ไม่มีความกดดันเลยครับ ตามความคิดของผมภาพน่าจะตื่นเต้นกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ด้วยหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง รวมทั้งเทคโนโลยีด้วยที่ก้าวหน้ามากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นภาพยนตร์ที่ออกมาจะต้องเป็นภาพยนตร์ที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างแน่นอน"

ต้องรื้อฟื้นอะไรบ้างไหมกับการมาร่วมงานกับ กัวฟู่เฉิง อีกครั้ง
เจิ้งอีเจี้ยน "รู้สึกเป็นวาสนาอย่างหนึ่งที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับ กัวฟู่เฉิง อีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าโอกาสที่ได้ทำหนังที่ประสบความสำเร็จเรื่องหนึ่งแล้วกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่งเป็นเรื่องที่หายากมาก แล้วจะรักษาความรู้สึกนี้ไว้นานๆ"


มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างในการถ่ายทำภาค 2
กัวฟู่เฉิง "ด้านกายภาพ ได้เตรียมตัวเพราะว่าในคอนเสิร์ตที่ผ่านมา มีลุคส์ที่ค่อนข้างผอมไม่มีกล้ามเนื้อ แต่ในเรื่องจะต้องเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อ เพราะว่าที่แขนต้องมีกิเลน ต้องมีการฝึกเตรียมร่างกายเยอะ ในส่วนความคิด ต้องอ่านการ์ตูนเรื่อง ฟงอวิ๋น เยอะมาก ต้องพิจารณาความคิดและบุคลิกภาพของตัวแสดงทุกตัวในเรื่อง ฟงอวิ๋น"



เจิ้งอีเจี้ยน "สิ่งที่เตรียมตัวอย่างแรกเลยคือไว้ผมยาว นอกจากนั้นก็ต้องฝึกร่างกายให้กำยำกว่าเดิม แล้วก็ฝึกความคล่องแคล่วของร่างกาย จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้มีการฝึกร่างกาย แต่พอมาเมืองไทยแล้วอากาศร้อนทำให้ตัวเล็กกว่าเดิม (หัวเราะ) ไว้จะถอดให้ดู"


การทำงานร่วมกับ แดนนี่ และ อ๊อกไซด์ เป็นยังไงบ้าง
กัวฟู่เฉิง "อะเมซิ่ง แม้ว่าเขาจะเป็นคน 2 คนเป็นพี่น้องกัน แต่เซนส์และความคิดในด้านภาพยนตร์ของเขาทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก เก่ง การรวมตัวของคน 2 คนเป็นอะไรที่อะเมซิ่งมากๆ เก่งมาก (พูดภาษาไทย)"


การทำงานของผู้กำกับภาคแรกและภาคที่ 2 แตกต่างกันยังไง
เจิ้งอีเจี้ยน "แอนดริว เลา เป็นเพื่อนสนิทของผมอยู่แล้ว จากการร่วมงานในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง และก็เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทุกเรื่อง ส่วนคุณ แดนนี่ กับ อ๊อกไซด์ ก็เป็นคนรู้จักกันอยู่แล้ว หวังว่าผู้กำกับทั้ง 2 คนนี้จะสามารถสร้างภาพยนตร์เรื่อง ฟงอวิ๋น ในอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมาได้"


รู้สึกอย่างไรบ้างที่ต้องประกบนางเอกใหม่ ถังหยัน
กัวฟู่เฉิง "เนื่องจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฉูฉู่ กับ ปู้จิ้งอวิ๋น ยังมีความสัมพันธ์ที่ยังไม่ลึกซึ้งมากนัก แต่คราวนี้ ปู้จิ้งอวิ๋น กับ ฉูฉู่ ที่เป็น ถังหยัน (Tang Yan) มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นอะไรที่น่าดูมากๆ"


อากาศร้อนเป็นปัญหามากน้อยแค่ไหน
กัวฟู่เฉิง "ไม่มีปัญหาเลยครับ เพราะว่าตั้งแต่เดือนกันยาจนถึงเดือนมกราที่ผ่านมา อยู่ที่ฮ่องกงได้จัดคอนเสิร์ต ต้องวิ่งทุกวัน ร้อนทุกวัน เพราะฉะนั้นชินแล้วกับความร้อน ก็เลยไม่รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคอะไรเลยครับ"

เจิ้งอีเจี้ยน "ที่ถ่ายทำภาคแรกร้อนกว่า แม้ว่าเมืองไทยจะร้อน แต่ได้ผู้กำกับจัดการให้ได้อย่างดี ตัวผมก็ไม่ลำบากเมืองไทยร้อนแค่ไหนก็สู้"


มาเมืองไทยกี่ครั้งแล้ว
กัวฟู่เฉิง "เยอะมาก แล้วเมื่อปีที่แล้วได้มาถ่ายหนัง (เรื่อง The Detective) ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักสืบของ ยูนิเวิร์ส และกำกับโดย อ๊อกไซด์ แปง ด้วย"



มาเมืองไทยวางแผนที่จะทำอะไรบ้าง
กัวฟู่เฉิง "ยังไม่มีการวางแผนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าตั้งใจมาถ่ายหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ แล้วก็เรียนภาษาไทย"

เจิ้งอีเจี้ยน "หลักๆ ตั้งใจมาถ่ายภาพยนตร์อยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการไปทำอย่างอื่น แต่ถ้ามีเวลาว่างก็คงจะไปว่ายน้ำบ้าง อยากไปเที่ยวภาคใต้ อยากไปทะเล ไปเกาะที่มีมะพร้าวเยอะๆ แต่ไม่ใช่สถานที่ที่มีชื่อเสียง"


ความประทับใจกับเมืองไทย
กัวฟู่เฉิง "ประทับใจหลายๆ สิ่ง ทั้งอาหารการกิน คน แล้วก็เพื่อน"

เจิ้งอีเจี้ยน "ชอบเกาะต่างๆ ของเมืองไทย ชอบแสงแดดแล้วก็ทะเล และรอยยิ้มที่คนฮ่องกงขาด"


มีโอกาสได้และไปที่ไหนมาบ้างรึยัง
เจิ้งอีเจี้ยน "มีโอกาสไปเดินช็อปปิ้งที่พารากอนมา"


พูดไทยได้ไหม
กัวฟู่เฉิง "ขอบคุณครับ ผมไปกินข้าวก่อน สวัสดีครับ"

เจิ้งอีเจี้ยน "ฉันก็รู้"

เคยเข้าพิธีบวงสรวงเปิดกล้องแบบไทยบ้างไหม
เจิ้งอีเจี้ยน "เคยได้ถ่ายหนังเรื่องหนึ่งในเมืองไทยกับ แดนนี่ แปง แต่ไม่ได้ฉายในเมืองไทย จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร เรื่องที่แล้วทุกคนตั้งใจว่าไม่อยากให้ฝนตก เพราะต้องถ่ายนอกสถานที่เยอะ สุดท้ายฝนก็ไม่ตก มาคราวนี้ก็ไหว้ด้วยความจริงใจเหมือนกัน หวังว่าคราวนี้ทุกอย่างจะราบรื่นและทำออกมาได้ด้วยดี"



ฝากถึงภาพยนตร์เรื่อง ฟงอวิ๋น 2 หน่อย
เจิ้งอีเจี้ยน "เนื่องจากก่อนหน้านี้มีหนังของผมที่คนไทยได้ดูหลายเรื่องแล้วชอบ เช่น The Storm Riders, ขี่พายุดาบเทวดา (A Man Called Hero) เพราะฉะนั้นเรื่อง ฟงอวิ๋น 2 ก็ขอให้ทุกคนได้ไปดูด้วยนะครับ"

สำหรับใครที่ลุ้นว่าภาพยนตร์เรื่อง ฟงอวิ๋น 2 ของ 2 ผู้กำกับพี่น้องฝาแฝด อ๊อกไซด์ แปง และ แดนนี่ แปง จะเป็นอย่างไร คงต้องรอนานหน่อย เพราะกว่าจะพร้อมให้ได้ชมกัน ก็ประมาณปลายปี 2009




บทสัมภาษณ์จาก //www.siamrath.co.th
เคยเป็นภาพยนตร์จีนที่ประสบความสำเร็จในระดับสร้างปรากฏการณ์ในบ้านเรา กับภาพยนตร์เรื่อง "ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า" ผลงานกำกับของ แอนดรู เลา ที่ทำให้ภาพยนตร์ฮ่องกงกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากซบเซาไปนาน ผ่านไป 10 ปี โปรเจกต์นี้ถูกสานต่อ ภาค2 แต่หนนี้จากฝีมือของ 2 ผู้กำกับแฝด อ็อกไซด์ - แดนนี่ แปง ที่หอบทีมงานมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในบ้านเรากว่า 90 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว

กดดันหรือไม่กับการทำ ฟงอวิ๋นภาค2 นี้
"ก็กดดันอยู่นะ ภาคแรกที่ แอนดรู เลา ทำนั้นเราสองคนทำสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะตอนนั้นเมื่อ 10 ปีก่อน แอนดรู เลา ทำไว้ได้ดีมาก นับว่าเก่งมาก ต้องยอมรับฝีมือของเขาว่าเก่งจริงๆ เพราะตอนนั้นเขาถ่ายทำจริงๆ แต่ของเราจะเป็นอีกแบบหนึ่งมีการใช้สเปเชียลเอฟเฟคที่ดีกว่า แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีเท่าที่ แอนดรู เคยทำไว้ ให้คนที่ดูพูดว่าอย่างน้อยก็ดีเท่าภาคแรก หรือรายได้ไม่ให้น้อยหน้ากัน ก็พอใจแล้ว ปัญหาคือที่นี่ร้อนมาก แต่ทุกอย่างก็ลงตัวหมดแล้ว"


ทำไมเลือก กัวฟู่เฉิง กับ เจิ้งอี้เจี้ยน มารับบทเดิม
"ทั้ง กัวฟู่เฉิง และ เจิ้งอี้เจี้ยน ต่างก็เคยทำงานในประเทศไทยมาก่อนแล้ว เรื่องอาหารก็อร่อยและคุ้นเคย แม้อากาศจะร้อนแต่ทั้งสองก็ไม่ได้บ่นอะไร และที่ตกลงเลือกทั้งสองคนกลับมารับบทเดิม ก็เป็นเพราะว่าคนดูต่างจดจำภาพของทั้งสองคนได้เป็นอย่างดีจากภาคแรก แม้ว่าจะห่างมาถึง 10ปี แต่ทั้งคู่ก็ยังคงมีความเหมาะสม ตอนนี้ทั้งสองคนก็ดูแข็งแรงขึ้น มีความพร้อมในการทำงานมากขึ้น"


ความแตกต่างจากภาคแรกอย่างไร
"ภาคนี้จะมีความแตกต่างและแปลกตามากขึ้นกว่าภาคแรก ซึ่งเมื่อนำตัวอย่างหลังการถ่ายทำให้ กัวฟู่เฉิงและเจิ้นอี้เจี้ยน ดูทั้งคู่ต่างบอกว่าแปลกตามาก โดยในภาคนี้คาแรคเตอร์ของการ์ตูนจะมีความโดดเด่นมากขึ้น มีการต่อสู้ที่สมจริง มีเทคนิคใหม่ที่ทันสมัย โดยนำเทคนิคใหม่มาใช้คล้ายกับในภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาใช้ด้วย ฉากก็มีการสร้างขึ้นมาใหม่
เราจะใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟคมากถึง 99%"




ทำไมถึงเลือกมาถ่ายทำในประเทศไทย
"ที่เราเลือกถ่ายทำในเมืองไทย ก็เพราะว่าอุปกรณ์ของไทยนั้นมีความร่วมสมัยมากกว่าที่ฮ่องกง ซึ่งจากการที่เราทำงานในเมืองไทย ทำให้เรามีความมั่นใจหลายอย่าง ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์เอเชีย เมด อิน ไทยแลนด์ ก็ว่าได้ ซึ่งเราจะใช้เวลาถ่ายทำที่นี่นานประมาณ 4 เดือน"


ทุนสร้างเท่าไหร่
"สำหรับ ฟงอวิ๋น ภาคนี้ใช้ทุ่นสร้าง 80ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 400ล้านบาทไทย ซึ่งเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ฉายทั่วโลก เพราะทางเอเชียนั้นต่างซื้อไว้แล้ว ส่วนทางฝั่งอเมริกาและยุโรปนั้นรอให้หนังเสร็จก่อน ซึ่งจะได้ชมกันประมาณปลายปี 2009 รับรองว่าต้องสนุกอย่างแน่นอน.




ตามไปดู ปู้จิงหวิน+เนี่ยฟง ฟาดฟันกันต่อได้ในห้องแดนมังกร













 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2551
4 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2551 12:03:19 น.
Counter : 5073 Pageviews.

 

รอดูๆๆๆ

ชอบกัวฟู่เฉิน กะ เจิ้งอี้เจี้ยนมากมาย

ขอบคุณสำหรับข่าวสารดีๆนะคะ
แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ

กราบลา

 

โดย: Mint-Mint555 31 พฤษภาคม 2551 10:47:33 น.  

 

เข้ามาชมในบล๊อคบ้าง

เสียดายจังที่บ้านพักไม่ได้ติด true ไม่งั้นคงจะได้ดูหนังของฟงฟง...ข้ามไปเล่นกะนางเอกไต้หวันด้วย อันอวี่ซวนไม่ได้เป็นนางเอก ว้า...สงสัยจังว่าที่ไต้หวัน เฉินอี้หรงดังกว่าหรือเปล่า? แต่คุณข้าน้อยเอาฉากเลิฟซีนมาล่อ คงต้องหาเวลากลับกลับบ้านที่กทม.วันเสาร์อาทิตย์ไปดูซะแร้ว...อิอิ

ขอบคุณสำหรับข่าวค่า (^^)

 

โดย: minnie IP: 125.26.82.91 31 พฤษภาคม 2551 11:19:50 น.  

 

ภาพเลิฟซีนเลยนะนั่น..... วันนี้เพลงสนุกดีครับ

 

โดย: ตงเหลงฉ่า 31 พฤษภาคม 2551 13:55:50 น.  

 

ข้าน้อยจ๊า อย่าเอาภาพนั่นมาแปะอีกดิ มันสะท้านสะเทิอนใจอย่างแรง ดูปแล้ว2 รอบ มาดูพากย์ไทยอีกรอบ อาการไม่ต่างกันเลย แหมๆ อะไรมันจะเดี๋ยวกอด เดี๋ยวจูบ เดี๋ยวถอด เหอะใกล้ชิดมากว่าคู่น้องลินดาอีก ไม่ยักเป็นข่าว หรือเพราะเธออยู่ไกล
น่าแปลกเช่นกันที่เอดี้ไปม่ได้เป็นนางเอก แต่คงเพราะบุคลิกนางเอกมันต้องดุเรียบๆด้วยมั้ง

 

โดย: มิโดริ IP: 124.120.212.7 20 มิถุนายน 2551 23:57:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ข้าน้อยคาราวะ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




小花

Friends' blogs
[Add ข้าน้อยคาราวะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.