สิงหาคม 2554

 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ขนมบัวลอยประยุกต์
วันนี้ตื่นแต่เช้ามาทำขนมบัวลอย ไปให้งานวันเกิดลูกสาวเพื่อนในที่ทำงาน เค้าอายุ 20 ปี......เท่ากันกับลูกสาวเราเลย แม่เค้าอยากกินขนมบัวลอยฝีมือเรามานานแล้ว เรียกร้องให้เราทำให้กิน.....แต่เราปฏิเสธทำให้กินมาเรื่อยแหละ เหตุผลเพราะ ขี้เกียจทำ55555 แหมเล่นให้ทำทีนึงหม้อใหญ่มาก เรียกได้ว่า...กินกันทั้งที่ทำงานเลยก็ว่าได้

ที่ทำให้ในวันนี้....นี่ถือว่า ทำเพื่อหลาน.....เห็นเค้าบอกว่ามีแขกคนไทยเยอะ ไม่รู้ว่าจะเอาขนมหวานอะไร .....มาบริการแขกเหรื่อ ป้าก็เเอ้า....จัดให้ๆๆๆ
ที่เรียกว่าบัวลอยประยุกต์เพราะเราใส่วุ้นมะพร้าวไปด้วย ไม่รู้ว่ามีใครเคยลองใส่ไปด้วยหรือไม่.... มันเป็นความชอบส่วนตัวด้วยละ ชอบกินวุ้นมะพร้าว....อีกอย่างเมืองที่เราอยู่....ที่นี่....หามะพร้าวอ่อนได้ยากมากๆๆๆๆๆๆ นานที ปีหน จึงจะมีมะพร้าวอ่อนจากเมืองไทยมาขาย ....ก็เลยดัดแปลงใส่วุ้นมะพร้าวแทน


วิธีทำ.....ยังจำได้ไม่มีลืม.... เราจำมาจากแม่อีกเช่นกัน เหตุที่ทำให้เราทำได้อร่อยมาจนทุกวันนี้..... ก็เพราะว่า เมื่อตอนที่เราต้องลาออกจากงานไปอยู่ดูแลแม่.....เนื่องจากป่วย....ได้รับอุบิตเหตุเดินเกือบจะไม่ได้....(7 ปีที่แล้ว)มีวันหนึ่ง....เราอยากกินขนมหวานมาก แต่.....ด้วยความที่ขับรถไม่เป็น ครั้นจะโทรไปสังพี่ชายให้ซื้อเข้ามาให้หลังเลิกงาน ...ก็ต้องรออีกนาน พอดีมีรถเข็นขนมหวานมาขายในหมู่บ้านก็เลยออกไปซื้อมากิน แก้อยาก แต่....ประทานโทษค่ะ กินเข้าไปคำแรกนี่ แป้งบัวลอยเหม็นสาบมาก หาความอร่อยไม่ได้เลย ซื้อมา3 ถุุง ไว้เผื่อกินมื้อต่อไปก็ต้องโยนลงขยะหมด แม่ก็หัวเราะเรา....ที่บ่นเรื่องความไม่อร่อยของบัวลอย ว่าเค้าขายได้อย่างไร รสชาติแบบนี้ ....สุ..(..........)ไม่รับประทาน....แม่ก็เลยบอกว่า โทรไปหาพี่ชาย สังให้เค้าซื้อแป้ง และน้ำตาลเข้ามา แม่จะบอกวิธีทำให้ .....แต่แม่ไม่สามารถลุกมาทำให้หรอกนะ เราต้องหอบทุกอย่างไปนั่งข้างเตียงแม่ ....แม่ก็จะค่อยบอกทีละขั้นตอน.....จนเสร็จ....สำหรับขนมหวานแล้ว....แม่ไม่ต้องชิมให้หรอก เพราะจำรสชาติเจ้าของร้านที่เราซื้อเค้ากินประจำได้ดี เพียงแค่ไม่รู้วิธีทำเฉยๆๆๆ พอทำได้เป็นขนมบัวลอยแล้ว คราวนี้ทำบ่อยค่ะ อิอิ

พอทำขนมบัวลอยเป็น แม่ก็บอกว่าที่ไม่สอนให้ทำขนมหวานกินอะ เพราะว่าไม่อยากเห็นลูกสาวแม่อ้วนมาก เวลานั้นเราหนักถึง 68กิโล แม่บอกว่าสัญญานะว่าจะลดน้ำหนัก....ต้องดูแลตัวเอง อย่าปล่อยให้อ้วนแบบนี้ แม่...รับ...ไม่ได้...5555


ตอนนี้....พอได้มาอยู่เป็นแม่บ้านในต่างแดน....ทำให้เรา.... มีโอกาสได้ทำขนมบัวลอย ที่่ถนัดทำนักหนา.... ไปให้เพื่อนคนไทยด้วยกันกินกัน....อยู่หลายงานเหมือนกัน สูตรที่เราลงนี้คิดว่าคงจะกิน.....กันได้สัก 15-20 คนอะนะ


แป้งข้าวเหนียว 1 ถุง ไม่รู้เหมือนกันว่ากี่กรัม คงจะ400 กรัมมั้ง
เผือก 1 ถุง ไม่ได้ดูน้ำหนักอีกเหมือนกัน กะเอาสัก400 กรัม
น้ำตาลปี๊บ เรากะประมาณ 300-400 กรัม
เกลือ เราก็กะอีกเช่นกันจ้า ทีแรกนี่ 1/2 ชช. แต่ว่าเค็มไม่ปะแล่มออกมา เลยหยอดไปอีกนิด แหะๆๆ
กะทิ 1 กระป๋อง บวก กับอีก 1 กล่องใหญ่ 1000 มิลลิลิตร
ใบเตย หั่นละเอียดแล้ว คั้นน้ำ (เหลือเก็บไว้สัก2 ใบ ) เอาไว้ใส่ต้มกับน้ำกะทิ
วุ้นมะพร้าว เทเอาน้ำทิ้งไปแล้วล้างเอาความหวานออกสัก 1 ครั้ง พักไว้ในตระแกรง
ส่วนผสมแป้ง.....
เผือกนำไปนึ่งให้สุก แล้วยีด้วยส้อมค่ะ
นำแป้งข้าวเหนียว ประมาณ 300 กรัม มานวดกับน้ำสุกอุ่น (ค่อนข้างร้อน) นวดไป หยอดน้ำอุ่นไปเรื่อยๆๆๆ นวด... จนแป้งเนียนดีแล้ว ก็เอาเผือกที่ยีไว้ลงไปผสมนวดให้เข้ากันอีกรอบนึง ขั้นตอนนี้....ถ้าแป้งเหนียวไปให้เติมแป้งข้าวเหนียวไปอีกนิด .... ถ้าแป้งแห้งไป.....ก็ให้หยอดน้ำอุ่นไปทีละช้อน นวดต่อจนส่วนผสมทั้ง2 อย่างเข้ากันดีแล้ว ปั้นเป็นก้อนกลมๆ พักไว้

นวดแป้งกับน้ำใบเตย
นำแป้งข้าวเหนียวที่เหลือ จากในถุง มาเทใส่ชามนวดกับน้ำใบเตยต้มสุก (ไม่ต้มก็ได้นะคะ) ที่ต้มสุกเพราะอยากให้น้ำอุ่น เอ...หรือจะเอาน้ำใบเตยไปเข้าเวฟก็คงได้ค่ะ ยังไม่ได้ลอง ..... นวดน้ำใบเตยกับแป้งไปเรื่อยๆ จนแป้งเนียน ปั้นเป็นก้อนกลมๆ พักไว้

หันมาเตรียมทำน้ำกะทิกันต่อ.....
กะทิ 1 กระป๋อง เทลงในหม้อ....ตั้ง...ด้วยไฟกลางๆ แม่บอกว่าอย่าให้ไฟแรง....ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ....ไม่เคยถาม สงสัยกลัวเราทำกะทิไหม้มั้ง5555 แล้วก็ใส่ใบเตยลงไปด้วยสัก4-6 ชิ้น ต้มไปเรื่อยๆจนเดือด แล้วก็ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ครี้งแรกนี่300 กรัมก่อนค่ะ เคียวกะทิกะทิกับน้ำตาลปี๊บไปสักครู่ แล้วก็ใส่กะทิกล่องใหญ่ ลงไปอีกกล่อง 1000 มิลลิลิตรอะค่ะ เติมเกลือป่นไป เกือบ1/2 ชช. เคียวไปอีกสักพักนึง ชิมดูรสชาติ น้ำกะทิให้หวาน แล้วก็ต้องกลมกล่อม ด้วยเกลือ

หม้ออีกใบต้มน้ำให้เดือด เอาแป้งบัวลอยที่ปั้นไว้ ลงไปต้มให้สุก จนลอยขึ้นมา ต้องให้สุกนะคะ ไม่ใช่ว่าลอยแล้วใช้ได้เลย ต้องรอดูอีกสักประเดี๋ยว....เพื่อ...ให้แน่ใจสักหน่อยว่าแป้งสุกแล้ว...ค่อยตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น




















Create Date : 06 สิงหาคม 2554
Last Update : 13 สิงหาคม 2554 3:41:15 น.
Counter : 3509 Pageviews.

5 comments
  
เจ๊หลีอยากชิมซักถ้วยใหญ่ ๆ เลยค่ะ

กำลังอยากทำบัวลอยเผือกพอดีค่ะ
โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:18:52:52 น.
  
บัวลอยแถว ๆ บ้านอร่อยมากเลยค่ะ
แถมแม่ค้าน่ารักมาก
เลยไม่เคยทำบัวลอยเองเลย
นี่ถ้ามีพ่อค้าหล่อ ๆ อีกคน
คงจะยิ่งซื้อ ๆๆ

แต่ที่จริงทำเองก็น่าจะเพลินนะคะ
ปั้นเป้นเม็ด ๆ ไป
โดย: โสดในซอย วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:22:38:21 น.
  
วันนี้มาชมขนมบัวลอยค่ะ เข้มข้นน่าทานมากๆๆ แต่ดาวยังติดใจคัพเค้กของคุณประนมค่ะ ที่ว่านุ่มลิ้นเมื่อไรจะมาแปะสูตรให้คะ รออยู่นะคะลงให้แค่สัดส่วนผสมต่างๆก็ดีใจแล้วค่ะ(ถ้าวิธีทำเหมือนทั่วๆไป)ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
โดย: ดาว IP: 125.24.18.41 วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:16:04:33 น.
  
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ

เจ๊หลี...เอาไปทานเลยค่ะ ตักได้ไม่อั้นนะ ถ้าไม่กลัวอ้วน อิอิ

คุณดาว ...ขอเวลาอีกหน่อยนะ เดี๋ยวจะแปะสูตรให้ค่ะ มันต้องแปลจากภาษาแดนท์มาเป็นไทยก่อน....ช่วงนี้งานยุ่งมาก ไว้ไงแล้วจะพยายามเอาสูตรมาลงให้ค่ะ

คุณโสดในซอย....จริงๆแล้วบ้านเรา ของอร่อยหาทานได้ง่ายๆ ทำให้ไม่ค่อยมีใคร(อยาก)ทำกันเนอะ เราเองก็คนนึงล่ะ อยู่กรุงเทพไม่เคยได้ทำขนมทานเองเลย ถ้าไม่ได้แม่สอนนี่สงสัย...ยังคงไม่รู้ว่า...คนอย่างเราก็ทำขนมหวานได้อร่อยเหมือนกัน แหะๆ


เครดิตขนมบัวลอยสูตรนี้ ยกให้แม่
โดย: ประนม วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:2:03:34 น.
  
ขอขโมยสูตรบัวลอยน่ะค่ะ ลูกชายอยากทานแม่ก็ทำไม่เป็น แต่ขอลองหน่อย ของคุณประนมน่าทานมากค่ะ พี่ก็เหมือนกันอยู่กทม.ไม่เคยทำอะไรสักอย่าง ซื้อเขาดีกว่าง่ายดี แต่พอมาอยู่ไกลบ้านแล้วรู้สึกจริงๆ ทำไมเราไม่หัดทำไว้บ้าง สงสารแต่ลูก อยากโน่นอยากนี่น่ะค่ะ
โดย: เพื่อนไทยในออลบอร์ก IP: 87.73.106.230 วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:39:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยืนงงในดงครัว
Location :
กรุงเทพฯ  Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ชื่อ (ป้า)พรรณ หรือ เหน่ง นะค่ะ เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่ในครั้งนี้ ด้วยวัย 40 กะรัต
กามเทพตั้งใจทำงานมากเลยอะ ป้าพรรณ แค่มาเที่ยวเดนมาร์กครั้งแรก โดยมาในฐานะแขกเชิญของน้า ให้มาเที่ยว เดนมาร์ก แต่....เอาเข้าจริงต้องกลาย เป็นเด็กเสริฟอาหารในร้านของน้าเราเอง มากว่าเที่ยว ฮ่าๆ นั่นแหละกามเทพทำงาน ตอนได้เป็นเด็กเสริฟ(จำเป็น)ที่โต๊ะสามี ปิ๊งๆๆ กัน สุดท้าย 2 ปีผ่านไป ได้แต่งงานกัน


มาอยู่เดนมาร์ก ก็เลยอยากจะบันทึกเรื่องราวชีวิตในต่างแดน เพื่อเก็บเอาไว้อ่านย้อนหลัง เมื่อเราแก่ตัวไป จะได้รู้ว่า ช่วงชีวิตหนึ่งที่ห่างหายจากครอบครัวอันเป็นที่รัก มีเรื่องราวอะไรน่าจดจำบ้าง แม่เป็นยังไง ลูกๆเป็นยังไง ใครเศร้า สุข ทุกข์ใจ เรื่องราวที่เข้ามาดี ร้าย อย่างไร? บันทึกไว้เพื่อจดจำกับเรื่องราว

พื้นที่ห้องน้อยๆแห่งนี้... เป็นเสมือนสมุดบันทึก เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่พบเจอ หรือแม้กระทั่งเพื่อเก็บบันทึก ถึงอาหารของแม่ที่พร่ำ(บ่น)สอนให้เราทำ ซึ่งก็พอจะทำเป็นอยู่บ้าง อาหารไทยได้จากแม่ อาหารจีนได้มาจากแม่สามีเก่า
แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยเอาใจใส่ หรือในรักการทำอาหารเหมือนแม่ ทำให้ต้องมาหัดเรียนรู้ อาหารบางอย่างจากเพื่อนบ้านชาวบล๊อคแก๊งค์ด้วยกัน ก็หลายท่าน ขอบคุณทุกท่านที่พากันทำฮาวทู ทีละขั้นตอน สอนอย่างจริงใจ และให้อย่างจริงใจ
ขอบคุณชาวบล๊อคแก๊งค์ ที่แบ่งปันสูตรอาหารต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

และสุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่คอมเม้นท์ไว้ให้ค่ะ และขออภัยด้วยหากไม่ได้ไปเม้นกลับ เนื่องด้วยไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนเก่า
images by free.in.th