เสื้อผ้ากระเป๋า Fendi จากมิลานแฟชั่นวีค 2013 หลังจากจบการนำเสนอเสื้อผ้าคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2013 ที่มิลานแฟชั่นวิค เฟนดิ (Fendi) ก็หอบคอลเลคชั่นที่ได้รับการชื่นชมจากแฟชั่นเอดิเตอร์และแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกนี้มาให้เราได้ชมกันที่ฮ่องกงทันที และเราก็ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมการแสดงคอลเลคชั่นนี้ที่ฮ่องกง ความตื่นเต้นไม่ใช่เพียงการจะได้ดูโชว์เสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนมที่มากไปด้วยเทคนิคตั้งแต่การสร้างสรรค์เนื้อผ้า การตัดเย็บไปจนถึงรูปแบบและสีสันอย่างที่ได้เห็นและได้อ่านผ่านตามาบ้างก่อนหน้านี้ตามเว็บไซต์และแหล่งข่าวอื่นๆ แต่ยังตื่นเต้นด้วยเพราะความล่าช้าของการเดินทาง อาจทำให้ไปถึงช้ากว่ากำหนดงาน หลังจากที่ลุ้นตัวโก่งอยู่บนเครื่องบินในที่สุดล้อเครื่องบินก็แตะที่สนามบิน Hong Kong International Airport หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Chek Lap Kok Airport แล้วก็รีบเร่งไปยังสถานที่จัดงานทันที ซึ่งเมื่อมาถึงแม้จะพลาดช่วงเปิดงานและพรีเซ็นเทชั่นในช่วงแรก แต่ก็ยังมาทันช่วงไฮไลท์ของงานชึ่งก็คือรันเวย์โชว์เสื้อผ้าคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2013
กลับมาที่งานแสดงคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2013 ที่กำลังเริ่มขึ้น เฟนดิขนกระเป๋าและเสื้อผ้าทั้ง 49 ลุคขึ้นรันเวย์ ที่มีแถบสีโทนพาสเทลอย่างที่คนในวงการกราฟิกคุ้นเคยกันดีในชื่อของ Pantone แต่คาร์ล สาเกอร์เฟลต์ (Karl Lagerfeld) เรียกมันว่า พาสเทล พิฆาต ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับธีมสีของเสื้อผ้าและกระเป๋าในคอลเลคชั่นนี้เช่นเดียวกันซึ่งนอกจากแถบสีพาสเทลจะปรากฏบนรันเวย์แล้ว หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าการแต่งหน้าของนางแบบในคอลเลคชั่นนี้ ก็ใช้ลูกเล่นนี้เช่นเดียวกัน กับการนำสติ๊กเกอร์สีฟ้า สีชมพูพาสเทล มาตัดเป็นเส้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ สร้างเป็นเหมือนเส้นอายไลเนอร์สุดเก๋ที่ใต้ตา แต่อาจจะต้องรอดูจากภาพโคลสอัพ เพราะนางแบบบนรันเวย์นั้นส่วนมากสวมแว่นกันแดดทรงเก๋ขนาดโอเวอร์ไซส์ปิดเอาไว้ เปิดโชว์ด้วยชุดกระโปรงที่ทำจากเฟอร์หลากหลายแบบและหลากหลายสีสัน ช่วงบนทำจากหนังนาปป้าลายจระเข้นํ้าหนักเบา ท่อนล่างเป็นขนเฟอร์หลากสีในรูปทรงแถบสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดต่อด้วยเทคนิคสุดลํ้าทำให้เกิดรูปทรงแบบสามมิติ อันเป็นความภูมิใจในการนำเสนอคอลเลคชั่นนี้ของคาร์ล ลาเกอร์เฟลต์ และซิลเวีย เวนทูรินี เฟนดิ (Silvia Venturini Fendi) เลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เราตื่นเต้นและอยากรู้มากเท่าการตัดต่อขนสัตว์ที่ปุยฟูกันขนสัตว์ลายตารางเล็กๆ หลากสีบริเวณแขน ว่าทำได้อย่างไรหรือเกิดจากการทอเส้นขนสัตว์เป็นลวดลายตั้งแต่การออกแบบเนื้อผ้า อย่างที่รู้กันว่าเฟนดินั้นคือแบรนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีและผู้นำในเรื่องขนสัตว์ แต่ไม่ใช่เพียงแค่ขนสัตว์เท่านั้น เฟนดิยังได้พัฒนาตัวเองและเสื้อผ้าด้วยเทคนิคใหม่ๆ สุดทันสมัย เพี่อสร้างรูปแบบเสื้อผ้าใน สไตล์ Futuristic ในเชิงเทคนิคการสร้างสรรค์ในรูปแบบเสื้อผ้าที่ใส่ได้จริงไม่ได้ดูประหลาดลํ้าอนาคต และในคอลเลคชั่นนี้เฟนดิก็นำเทคนิคที่เรียกว่า saldatura ซึ่งเป็นการเชื่อมเนี้อผ้าสองแพตเทิร์นเข้าไว้ด้วยกัน โดยไม่มีการใช้ด้ายเย็บแต่เป็นวิธีการทางไฟฟ้าที่ทำให้เนื้อผ้าสองแพตเทิร์นนั้นเชื่อมติดกันได้โดยดูไม่เห็นร่องรอยเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนเทคนิคที่ใช้นั้นจะลํ้าสมัยสุดๆ แต่ในการทำนั้นกลับไม่สามารถใช้เครื่องจักรทำได้ ต้องทำด้วยมือเท่านั้น กระเป๋าและเสื้อผ้าทุกชิ้นในคอลเลคชั่นนี้จึงเหมีอนเป็นการนำสองสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันอย่างสุดโต่ง ทั้งเทคโนโลยีอันลํ้าสมัยและงานฝีมืออันเก่าแก่มาผสมผสานไว้ด้วยกันจนกลายเป็นงานศิลปะบนเรือนร่างที่สวยงาม
นอกจากชุดกระโปรงที่สร้างสรรค์ด้วยวัสดุและเทคนิคตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีชุดเบาๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย กางเกงขาสั้น กระโปรงบานตัวสั้น หรือกางเกงหนังขายาว จับคู่กับทีเชิ้ต สเวตเตอร์ผ้านิตหรือเชิ้ตตัวหลวม ถ้าอยากให้เต็มลุคก็มีแจ๊คเก็ตขนสัตว์ตัวสั้นสวมทับ แต่ถ้ากลัวร้อนเกินไปก็ใส่แค่สองชิ้นก็พอ ชุดกระโปรงที่ใช้ลูกเล่นแถบสีเป็นตัว F ค็อกเทลเดรส ที่ใช้ลายพิมพ์ประดับประดาไปด้วยขนสัตว์ดูหรูหรา ไปจนถึงชุดสำหรับงานกลางคืนที่ใช้การปักประดับด้วยเลื่อมทั้งตัว
คาร์ล ลาเกอร์เฟลต์ และ ชิลเวีย เวนทูรีนิ เฟนดิ ทำให้เราได้เข้าถึงทั้งศาสตร์และศิลป์รวมถึงเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์เสื้อผ้ากระเป๋าที่ทุกชุด ทุกใบ ทุกรายละเอียด ทำให้เราไม่อาจละลายตาไปจากรันเวย์ได้เลย ที่สำคัญความตื่นเต้นที่ได้ชื่นชมนั้นกระตุ้นให้เราอยากเป็นเจ้าของงานศิลปะชิ้นนี้สักตัว |
สมาชิกหมายเลข 788012
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |