ตอนที่ 8(2) ออสการ์อยู่ในหัวใจของฉัน (Oscar in My Heart)
                  ในท้องพระโรง พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ยืนอยู่บนบัลลังค์หน้าห้อง มีทหารและขุนนางรายล้อมอยู่รอบๆ โดยมีอังเดรที่ถูกจับตัวมา นั่งคุกเข้าก้มหน้าอยู่กลางห้อง

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 : “ผลของการทำให้เกิดโศกนาฎกรรมที่รุนแรงเช่นนี้! เธอเตรียมตัวที่จะรับผลของมันแล้วใช่มั้ย? เธอเป็นต้นเหตุให้องค์หญิงรัชทายาทต้องได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเลี่ยงโทษประหารได้” ทุกคนตกใจกับรับสั่งของฝ่าบาท ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้เลย

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 : “เอามันไปขังคุกเดี๋ยวนี้” ทุกคนตกใจกับคำพิพากษาของฝ่าบาท แต่อังเดรนั้นก้มหน้ายอมรับในชะตากรรม ทหารสองคนเดินเข้ามากำลังจะนำตัวของอังเดรไป แต่ทันใดนั้นเอง ออสการ์ก็เปิดประตูเข้ามาในท้องพระโรง

ออสการ์ : “ได้โปรดรอก่อน!”

อังเดร : “ออสการ์!” ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงกับการกระทำของออสการ์ ออสการ์เดินตรงเข้ามาที่หน้าพระพักต์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 และคุกเข่าลง

ออสการ์ : “ฝ่าบาท ได้โปรดฟังก่อน! องค์ชาย มาดามโนอิล เค้าท์เมอซี่ เค้าท์แฟร์ซองและคนอื่นๆก็เห็น มันเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาท มันไม่ใช่ความผิดของอังเดร!”  แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึงในการกระทำของออสการ์ ออสการ์ชักดาบออกมา และชูขึ้นสุดมือ

อังเดร : “ออสการ์!”

ออสการ์ : “ถ้าอังเดรยังคงต้องรับโทษ ในนามของครอบครัวจาร์เจส์ หม่อมชั้นขอรับโทษก่อน และอีกอย่างในฐานะเจ้านายของอังเดร ความรับผิดชอบของเค้าก็เป็นความรับผิดชอบของหม่อมชั้นด้วยพะยะค่ะ ได้โปรดเอาชีวิตของออสการ์ ฟรังซัวส์ ก่อนพะยะค่ะ”

อังเดร : “ออสการ์...” อังเดรซึ้งใจในการกระทำของออสการ์ ออสการ์ก้มหน้าและวางดาบลงกับพื้นเป็นการน้อมรับการลงโทษ แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อเค้าท์แฟร์ซองเดินออกมาคุกเข่าข้างๆออสการ์

เค้าท์แฟร์ซอง : “ฝ่าบาทพะยะค่ะ!  ฝ่าบาท หม่อมชั้น แอกเซล วอน แฟร์ซอง หม่อมชั้นก็ขอร้องด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท มันไม่ใช่ความผิดของอังเดร ถ้าฝ่าบาทยังยืนยันแบบนั้น ได้โปรดเอาชีวิตของหม่อมชั้นด้วยพะยะค่ะ!”  ออสการ์เห็นดังนั้นก็รู้สึกซึ้งใจในการกระทำของแฟร์ซองเป็นอย่างมาก “ผู้ชายอะไรเนี่ย แอกเซล วอนแฟร์ซอง! ผู้ชายที่เห็นแก่ความยุติธรรม!” ออสการ์คิด  ทันใดนั้นพระนางมารีอังตัวเน็ตที่ตอนนี้ฟื้นแล้ว ก็เดินออกมาขอร้องฝ่าบาทอีกคน

อังตัวเน็ต : “ฝ่าบาท! ได้โปรดอย่าลงโทษใครเลยเพคะ!” พระนางมารีอังตัวเน็ต วิ่งมาคุกเข่าจับชายผ้าคลุมของฝ่าบาทและขอร้องอ้อนวอน

อังตัวเน็ต : “มันเป็นความผิดของหม่อมชั้นเอง ทั้งหมดเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของหม่อมชั้นเองเพค่ะ!”

ออสการ์ : “พระนางอังตัวเน็ต!” ออสการ์ก็รู้สึกซึ้งใจในการกระทำของพระนางเช่นกัน ท่ามกลางความตกตะลึงของคนในห้องนั้น พระนางอังตัวเน็ตจึงถือโอกาสรวบรัดเอาเองว่า ฝ่าบาทยกโทษให้ทุกคนแล้ว

อังตัวเน็ต : “อังเดร ออสการ์ แฟร์ซอง ไม่เป็นไรแล้ว ฝ่าบาททรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อย่าให้มีใครต้องมาตายเพราะฉันเลย! มันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น ถอยไปเร็วสิ! เร็ว!” พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ได้ยินดังนั้นก็ใจอ่อน

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 : “ก็ได้ ถ้าองค์หญิงรัชทายาทพูดแบบนี้ ฉันจะได้ไม่ต้องให้ใครมารับผิดชอบกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ อังเดร เธอมีเจ้านายที่ดีมากเลยนะ”  อังเดรซึ้งใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

อังเดร : “ฝ่าบาท!” พวกเค้าทั้งหมดไม่ต้องถูกลงโทษแล้ว

ออสการ์มองแฟร์ซองด้วยความชื่นชมและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง “เค้าท์แฟร์ซอง ฉันขอบคุณด้วยใจ ฉันจะไม่ลืมความช่วยเหลือของท่านเลย ไม่มีวันลืม!” แต่ทันใดนั้นเอง ออสการ์ก็ล้มลงกับพื้นต่อหน้าทุกคนในห้องนั้น “ออสการ์!” “เลือด!” เลือดไหลออกจากบาดแผลที่ถูกกิ่งไม้แทงตอนที่ช่วยชีวิตพระนางอังตัวเน็ต

                ออสการ์ถูกนำตัวกลับมารักษาที่บ้าน ระหว่างรอหมอ ออสการ์ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง โดยมีแนนนี่ อังเดร และแฟร์ซอง คอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆ

แนนนี่ : “พระเจ้า ได้โปรดช่วยชีวิตท่านออสการ์ด้วย ได้โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถอะ พระเจ้า!” แนนนี่สวดขอร้องอ้อนวอนพระเจ้า แล้วหมอก็เดินทางมาถึงพอดี ด้วยความร้อนใจ อังเดรเดินเข้าไปหาหมอทันที

อังเดร : “หมอได้โปรดเถอะ ได้โปรดช่วยชีวิตเธอด้วย เธอจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ออสการ์จะหายเป็นปกติใช่มั้ย?” อังเดรไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้แล้ว

หมอ : “ฉันต้องตรวจดูก่อน” หมอเดินเข้าไปดูอาการของออสการ์

อังเดร : “ถ้าฉันระวังให้มากกว่านี้ เหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น...ฉันเป็นคนทำให้ออสการ์ต้องเป็นแบบนี้ ฉันจะต้องรับผิดชอบ...” อังเดรเฝ้าแต่โทษตัวเอง

แฟร์ซอง : “ใจเย็นๆ อังเดร”

อังเดร : “ออสการ์ ฉันทำให้เธอต้องบาดเจ็บ!” อังเดรไม่สามารถควบคุมความเสียใจได้ จนแฟร์ซองต้องเข้ามาปลอบ

แฟร์ซอง : “อังเดร! ใจเย็นๆ! ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไง แต่ตอนนี้เราต้องดูบาดแผลของออสการ์ก่อน...”

หมอ : “ท่านได้โปรดถอดเสื้อออกด้วย” หมอสั่งให้แนนนี่ถอดเสื้อของออสการ์ออก

แนนนี่ : “ค่ะ” แนนนี่เอื้อมมือจะไปถอดเสื้อของออสการ์ แต่แล้วก็ต้องชะงัก เพราะนึกขึ้นได้ว่า ออสการ์เป็นผู้หญิงและในห้องนั้นก็มีอังเดร กับ แฟร์ซองยืนอยู่ แนนนี่จึงสั่งให้อังเดรพาเค้าท์แฟร์ซองออกไปรอข้างนอกก่อน

แนนนี่ : “อังเดร ออกไปข้างนอกกับท่านแฟร์ซองก่อน”

อังเดร : “อ่อ ครับ” แต่แฟร์ซองไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปรอข้างนอกด้วย เพราะยังไงก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน

แฟร์ซอง : “ฮะ ทำไมหรอ? ทำไมต้องมาห่วงเรื่องกาลเทศะกันตอนนี้ด้วย? เค้าไม่สามารถโชว์ผิวต่อหน้าสาธารณะชนได้งั้นหรอ? พวกเราไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ซะหน่อย” แนนนี่ได้ยินอย่างนั้นก็โกรธขึ้นมาทันที

แนนนี่ : “ท่านพูดอะไรนะ? กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้ต่อหน้าคุณผู้หญิงของฉัน!” แนนนี่ตะโกนสุดเสียง

แฟร์ซอง : “ฮะ คุณผู้หญิงหรอ?!” แฟร์ซองออกอาการงง เค้าไม่รู้มาก่อนเลยว่า ออสการ์เป็นผู้หญิง

แนนนี่ : “รีบออกไปเดี๋ยวนี้!” แนนนี่ไล่อังเดรกับแฟร์ซองออกไปนอกห้อง

                อังเดรกับแฟร์ซองออกมารอที่สวนหน้าบ้านของออสการ์

แฟร์ซอง : “ออสการ์เป็นผู้หญิง!” แฟร์ซองยังแปลกใจกับสิ่งที่พึ่งได้ยินมา

อังเดร : “ออสการ์ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชาย” อังเดรทำใจไม่ได้ที่แฟร์ซองรู้ว่าออสการ์เป็นผู้หญิง

แฟร์ซอง : “อะไรนะ แต่เมื่อกี้นี้...”

อังเดร : “ออสการ์เติบโตมาแบบผู้ชาย และใช้ชีวิตเหมือนผู้ชาย แค่นี้ก็พอแล้ว” แล้วอังเดรก็เดินเข้าไปในคอกม้าทันที

“ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมไหล่ของเธอถึงเล็ก รูปร่างของเธอก็บอบบางด้วย...แต่ผู้หญิงอะไร ออสการ์ เธอเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าผู้ชายซะอีก” แฟร์ซองคิด

                ในเย็นวันนั้น นายพลจาร์เจส์ ได้ทราบข่าวว่าออสการ์บาดเจ็บสาหัสเค้าจึงรีบกลับมาที่บ้าน นายพลจาร์เจส์วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของออสการ์ ซึ่งออสการ์ก็ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง

นายพลจาร์เจส์ : “ออสการ์! ออสการ์ ออสการ์อาการเป็นยังไงบ้าง?” นายพลหันไปถามหมอ

หมอ : “เธอเสียเลือดมากจากการบาดเจ็บ และอาการบอบช้ำก็น่าเป็นห่วงมากทีเดียว”

แนนนี่ : “ก็แน่ละสิ เธอตกจากหลังม้าในขณะที่อุ้มพระนางอังตัวเน็ตไว้!” แนนนี่ร้องไห้ออกมาอีกยกใหญ่

นายพลจาร์เจส์ : “เธอจะหายดีใช่มั้ย?”

หมอ : “ครับ ท่านนายพล จะไม่เป็นอันตรายถ้าเธอฟื้นขึ้นมา แต่ ณ จุดนี้ คืนนี้เป็นคืนวิกฤต” นายพลได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงออสการ์มาก เค้าจับมือออสการ์ขึ้นมากุมไว้แน่น

นายพลจาร์เจส์ : “คืนวิกฤต... ออสการ์ พ่อได้ยินทุกคนยกย่องลูก พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก ออสการ์ ลูกเป็นลูกชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

                ในคืนนั้นแนนนี่กับอังเดรนั่งเฝ้าออสการ์อยู่ข้างเตียงทั้งคืน แนนนี่ฟุบหลับไปแล้ว แต่อังเดรยังคงนั่งเฝ้าออสการ์อยู่ไม่ห่าง

อังเดร : “ออสการ์ ได้โปรดฟื้นเถอะ! ออสการ์ ลืมตาสิ! ฉันละอายใจ ฉันละอายใจที่สงสัยในความรู้สึกของเธอตอนนั้น” อังเดร คิดถึงความฝันในคืนนั้น ที่เค้าฝันว่าออสการ์ทอดทิ้งเค้าไป  “ออสการ์ เธอไม่เคยเปลี่ยนไปเลยซักนิด เธอยังคงเป็นออสการ์คนเดิม จากวันนั้น วันที่เราโตมาด้วยกัน” น้ำตาของอังเดรไหลออกมา อังเดรหวนคิดถึงภาพในวัยเด็ก ในวันที่เค้าและเธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ออสการ์ในวัยเด็กถือดาบอยู่ในมือสองเล่ม เธอยื่นดาบเล่มหนึ่งให้เค้า

ออสการ์ : “อังเดร นี่ของเธอ”

อังเดร : “นี่มันดาบที่นายท่านเคยใช้ตอนเด็กๆนี่ มันเป็นสมบัติของตระกูลที่สืบทอดกันมานะ!”

ออสการ์ : “พ่อให้ฉัน 2 อัน อันนึงของฉันและอีกอันของนาย”

อังเดร : “ออสการ์” อังเดรรู้สึกซาบซึ้งที่ออสการ์มอบสิ่งของที่มีค่าให้กับเค้า

ออสการ์ : “โอเค เข้ามาเลย!” แล้วทั้งคู่ก็ซ้อมดาบกันอย่างสนุกสนานแล้วก็ไปขี่ม้าด้วยกัน ชีวิตในวัยเด็กช่างสนุกสนานซะจริงๆ

                ภาพออสการ์ในวัยเด็กกำลังนอนเล่นอยู่บนทุ่งหญ้า แต่แล้วก็มีเสียงเรียกของอังเดร “ออสการ์! ออสการ์! ออสการ์!” ออสการ์ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของเธอโดยมีอังเดรคอยเรียกเธออยู่ข้างๆ

อังเดร : “ออสการ์! เธอฟื้นแล้วหรอ?” อังเดรดีใจมากที่ออสการ์ฟื้นแล้ว ออสการ์หันมามองหน้าอังเดร

ออสการ์ : “อังเดรหรอ?”

อังเดร : “ออสการ์ โชคดีจริงๆ!” แนนนี่ตื่นขึ้นมาพอดี

แนนนี่ : “โอ้ว ท่านออสการ์ โชคดีจังเลย โชคดีจริงๆ...” แนนนี่ร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจที่ออสการ์ฟื้นแล้ว

ออสการ์ : “ฉันฝันถึงตอนที่เราโตมาด้วยกัน ฉันได้ยินเสียงของอังเดรเรียกฉัน แล้วก็ร้องไห้ใหญ่เลย”

อังเดร : “ออสการ์...” อังเดรดีใจจนกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่

                เช้าวันนั้นในห้องของออสการ์เต็มไปด้วยบรรยากาศของความยินดีต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง นายพลจาร์เจส์ แนนนี่ อังเดร รวมทั้งเค้าแฟร์ซองที่แวะมาเยี่ยมออสการ์แต่เช้า พวกเค้าพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ออสการ์ : “แฟร์ซอง ขอบคุณที่แวะมาเช้านี้”

แฟร์ซอง : “ดี ดี ฉันค่อยโล่งใจหน่อย เมื่อวานนี้ฉันเป็นห่วงเธอแทบแย่”

ออสการ์ : “ฉันขอโทษที่ทำให้ท่านต้องเดือดร้อน”

แฟร์ซอง : “เธอโชคดีจริงๆ”

ออสการ์ : “อ่าว แล้วท่านแม่ไปไหนล่ะ?” ออสการ์ไม่เห็นมาดามจาร์เจส์ จึงถามด้วยความแปลกใจ

แนนนี่ : “มาดามไปดูแลพระนางอังตัวเน็ตค่ะ”

แฟร์ซอง : “พระนางอังตัวเน็ตอาการดีขึ้นแล้ว เธออยากออกไปเดินเล่นตอนเช้านี้”

ออสการ์ : “อ่อ ดีแล้ว” แล้วออสการ์ก็หันไปพูดกับอังเดร ที่ยังคงยืนซึมๆอยู่คนเดียว “ฉันเป็นห่วงเธอมากนะ อังเดร แต่เธอนี่โชคดีนะ เธออาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่ทำร้ายเชื้อพระวงศ์ แล้วไม่โดนตัดหัวนะอังเดร ฮ่าฮ่าฮ๋า” ออสการ์พูดแซวอังเดร แล้วออสการ์กับแฟร์ซองก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน เหมือนกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาอะไร แต่ในหัวใจของอังเดรนั้นยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งกับเรื่องที่ออสการ์ได้เสี่ยงชีวิตช่วยเค้าไว้เมื่อวานนี้ “ออสการ์...เธอ... ซักวัน ฉันจะมอบชีวิตให้เธอ... เหมือนกับที่เธอได้ทำให้ฉันเมื่อวานนี้! ซักวัน... ซักวัน...ซักวัน เพื่อเธอ ฉันจะ...ฉันจะมอบชีวิตของฉันให้เธอ! ฉันจะมอบชีวิตของฉันให้เธอ!”

 

จบตอนที่ 8

หน้าถัดไป




Create Date : 27 กันยายน 2556
Last Update : 28 มีนาคม 2563 21:38:06 น.
Counter : 2031 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
กันยายน 2556

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog