ตอนที่ 25(2) การเต้นรำกับความรักที่ไม่สมหวัง (A Minuet of Unrequited Love)
         เช้าวันรุ่งขึ้น แฟร์ซองไปเข้าเฝ้าพระราชินีอังตัวเน็ตในพระตำหนักตริอานงตามที่เขาตั้งใจไว้ แฟร์ซองคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของพระราชินีอังตัวเน็ต
อังตัวเน็ต : “ฉันดีใจที่ท่านกลับมาอย่างปลอดภัย” เมื่อพระนางรู้ว่าแฟร์ซองกลับมาอย่างปลอดภัยก็รู้สึกดีใจมากจนน้ำตาไหลออกมา
แฟร์ซอง : “ฝ่าบาททรงพระสำราญดีเหมือนเช่นเคยนะพะยะค่ะ”
 
         ที่บ้านของออสการ์ ออสการ์เองเมื่อได้รู้ว่าแฟร์ซองยังคงไม่ลืมพระนางอังตัวเน็ตก็รู้สึกเสียใจอยู่ข้างในลึกๆ  อังเดรเคาะประตูห้องนอนของออสการ์เพื่อเรียกเธอออกมาซ้อมยิงปืนตามปกติ 
อังเดร : “ออสการ์! ได้เวลาซ้อมยิงปืนแล้ว เธอจะไปมั้ย?”
ออสการ์ : “อืม จะไปแล้ว นายไปรอฉันข้างล่างเลย”
อังเดร : “โอเค”
ออสการ์และอังเดรออกมาซ้อมยิงปืนในทุ่งหญ้ากว้างที่เดิมเหมือนทุกๆวัน 
อังเดร : “เอานี่!” อังเดรโยนขวดขึ้นไปบนฟ้าให้ออสการ์ยิง เธอก็ยิงได้แม่นยำเหมือนเคย
 
         ทางด้านของแฟร์ซองที่ตอนนี้กำลังเข้าเฝ้าพระราชินิอังตัวเน็ตอยู่นั้น เขาก็ได้พูดความในใจทั้งหมดของเขาออกมาต่อหน้าพระนางมารีอังตัวเน็ต
แฟร์ซอง : “การเคลื่อนไหวครั้งใหม่ย่อมสว่างไสวด้วยพลังของเปลวเพลิง หม่อมชั้นได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในอเมริกา กองไฟเล็กๆก็สามารถลุกลามไปทั่วทั้งฝรั่งเศสได้เช่นกัน พวกเราจะต้องดับไฟก่อนที่ประกายไฟจะตกใส่ราชวงศ์ ถ้าฝ่าบาททรงอนุญาต...หม่อมชั้นพร้อมที่จะสนับสนุนอยู่เคียงข้างฝ่าบาท ทั้งชีวิตที่เหลือของหม่อมชั้น หม่อมชั้นได้เรียนรู้มา 7 ปี ว่าหม่อมชั้นโง่เขลาแค่ไหนที่ปล่อยให้หัวใจถูกแผดเผา มันอันตรายมากแค่ไหน หม่อมชั้นไม่ควรจุดไฟขึ้นมาอีก แทนที่จะสงบกลับปล่อยให้ไหลดั่งแม่น้ำเซน... หม่อมชั้นจะเก็บความรู้สึกที่มีต่อฝ่าบาทเอาไว้ในใจ”
อังตัวเน็ต : “ไหลเหมือนแม่น้ำเซน...”
แฟร์ซอง : “พะยะค่ะ”
 
        ทางด้านอังเดรนั้นเขารู้อยู่ตลอดมาว่า ออสการ์รู้สึกเช่นไรกับแฟร์ซอง เขาจึงพูดกับออสการ์เป็นนัยว่า 
อังเดร : “ดูนั่นสิออสการ์ ฝูงนกกำลังอพยพ มันกำลังมุ่งหน้ากลับไปทางใต้ ไม่ว่ามันจะรู้สึกอิสระแค่ไหนที่ได้บินอยู่บนท้องฟ้า แต่ในที่สุดพวกมันก็ต้องกลับไปที่ปลายทางของมัน ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้ ไม่มี...” ซึ่งนั่นก็หมายความว่า สุดท้ายแล้วแฟร์ซองก็ยังคงกลับไปหาพระนางอังตัวเน็ตคนที่เขารักอยู่ดี
 
          ทางด้านแฟร์ซองจึงให้คำแนะนำกับพระนางอังตัวเน็ต เพื่อพยายามที่จะแก้ไขสถานะการณ์อันเลวร้ายให้ดีขึ้น แฟร์ซองจูบลงบนหลังมือของพระนางอังตัวเน็ตอย่างนุ่มนวล
แฟร์ซอง : “ฝ่าบาท หม่อมชั้นขอเสนอความคิดเห็นของหม่อมชั้นเช่นเดียวกับข้าราชบริพารของพระองค์ ได้โปรดออกจากตำหนักนี้แล้วกลับไปที่พระราชวังแวร์ซายส์เถอะพะยะค่ะ หม่อมชั้นได้ยินมาว่ามีขุนนางจำนวนมากแยกตัวออกจากราชวงศ์ตั้งแต่พระนางย้ายมาประทับอยู่ที่นี่ ได้โปรดกลับไปที่แวร์ซายส์โดยเร็ว แล้วเรียกขุนนางเหล่านั้นกลับมาเถอะพะยะค่ะ มันจำเป็น อย่างน้อยฝ่าบาทต้องเก็บขุนนางเอาไว้ข้างกาย และได้โปรดตัดความสัมพันธ์กับมาดามโปลินยัคและพวกของเธอด้วย... เพราะมันเป็นต้นเหตุให้เกิดความบาดหมางกับประชาชน รวมทั้งคนภายในวัง... เพราะราชินีฟังความคิดเห็นของคนแค่กลุ่มเดียว หม่อมชั้น ฮาน แอ็กเซล วอน แฟร์ซอง จะทิ้งสวีเดนบ้านเกิด! หม่อมชั้นจะมอบทั้งชีวิตของหม่อมชั้นให้ฝรั่งเศส เพื่อประโยชน์สุขของฝ่าบาท!” พระนางอังตัวเน็ตจึงทำตามที่แฟร์ซองแนะนำ
 
          ในงานเต้นรำของขุนนาง เหล่าสตรีชั้นสูงต่างพูดกันถึงเรื่องความเปลี่ยนแปลงของพระนางอังตัวเน็ต
ผู้หญิง : “ท่านได้ข่าวมั้ย มาดาม?” “เรื่องฝ่าบาทน่ะหรอ?” “ฉันได้ยินมาว่าพระนางจะกลับมาประทับที่แวร์ซายส์ ทำไมถึงเปลี่ยนใจกะทันหันนะ?” “ไม่รู้สิ” “แล้วท่านได้ยินข่าวล่าสุดของมาดามโปลินยัคมั้ย?” “มีอะไรหรอ?” “มีจดหมายจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” “ใช่” “มาดามโปลินยัคขอให้ฝ่าบาทแต่งตั้งญาติของเธอคนนึง” “อ๋อ ก็เหมือนที่เคยทำนั่นแหละ” “ใช่ แต่ฝ่าบาททรงตรัสว่า ฉันตัดสินใจแล้วว่า ฉันจะไม่ตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ให้ไปขอพระราชาตามช่องทางที่สมควรเถอะ” “โอ้!”
 
         หลังจากที่พระนางอังตัวเน็ตทำตามคำแนะนำของแฟร์ซอง สถานการณ์ที่แย่ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าเดิม พระนางได้แต่งตั้งแฟร์ซองให้เป็นพันเอกของกองทัพ เพื่อที่จะได้คอยอยู่เคียงข้างเธอ
อังเดร : “อิทธิพลของมาดามโปลินยัคและพวกของเธอค่อยๆอ่อนลงทุกวัน แต่ยังไงก็ตาม ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ในที่สุดวันนี้พระนางอังตัวเน็ตก็จะกลับมาอยู่ที่แวร์ซายส์แล้ว และดำเนินการประชุมร่วมกับขุนนางและปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ พระนางคงได้รับคำแนะนำจากเค้าท์แฟร์ซอง ตอนนี้แวร์ซายส์ก็มีพันเอกของกองทัพอย่างเป็นทางการ และมาที่แวร์ซายส์ทุกวัน”
       ออสการ์ในชุดทหารสีแดง พร้อมด้วยอังเดร ขี่ม้าออกจากบ้านมาที่แวร์ซาย พวกเขามาที่ลานสวนสนามพร้อมกับกองทหารรักษาพระองค์ เตรียมพร้อมเพื่อที่จะรับเสด็จพระนางอังตัวเน็ตเดินทางมาที่แวร์ซายส์ 
ออสการ์ : “เดินหน้า 3 ก้าว หน้าเดิน! ทหารองครักษ์จะคุ้มครองฝ่าบาทจากตำหนักตริอานงจนถึงแวร์ซายส์ ถ้าพวกท่านเห็นความผิดปกติใดๆ ให้รายงานทันที รอจนกว่าฉันจะยกเลิกคำสั่ง” ออสการ์หันไปที่ระเบียงด้านบนตึก ก็เห็นแฟร์ซองยืนอยู่ เขายกมือขึ้นเป็นเชิงทักทายออสการ์
ออสการ์ : “เอาล่ะ ประจำที่!” 
 
ในการรับเสด็จพระนางมารีอังตัวเน็ต ออสการ์ อังเดร เจโลเดลและกองทหารรักษาพระองค์ของพวกเขา นั่งอยู่บนหลังม้า ขนาบ 2 ข้างทาง เพื่อคุ้มกันขบวนเสด็จ ในขบวนรถม้า มีพระนางอังตัวเน็ต พระราชา พร้อมด้วยพระโอรสและพระธิดาอยู่ในขบวน แต่แล้วทันใดนั้น ก็มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 3 คนขี่ม้าตรงเข้ามา พร้อมระเบิดในมือ
ผู้ก่อการร้าย : “ขุนนางต้องตาย!” ออสการ์เห็นดังนั้นจึงสั่งลูกน้องของเขาโดยทันที
ออสการ์ : “เข้าตำแหน่งฉุกเฉิน!” เหล่าทหารรักษาพระองค์พร้อมปืนไรเฟิล เล็งไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์พวกนั้นแล้วยิงทันที ชาย 2 คนและม้าของเขาล้มลง พร้อมระเบิดที่ระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น พวกเขาเสียชีวิตคาที่ แต่มีชายอีก 1 คนที่แค่โดนยิงบาดเจ็บ และขี่ม้าหนีไปได้
ออสการ์ : “มันหนีไปได้คนนึง! จับมัน!” 
ออสการ์รีบขี่ม้าตามออกไปทันที แล้วตามด้วยอังเดร เจโลเดลและทหารอีกกลุ่มหนึ่ง ชายคนนั้นขี่ม้าหนีไปโดยมีออสการ์ตามไปติดๆ เขาหนีเข้าไปหลบในบ้านร้างแห่งหนึ่ง ออสการ์ขี่ม้าตามมาหยุดที่บ้านร้างหลังนั้นและเดินตามรอยเลือดเข้าไปในบ้าน ชายคนนั้นหลบอยู่ในซอกหนึ่งของบ้านร้าง ออสการ์เดินเข้าไป ชายคนนั้นยิงสวนออกมาผ่านช่องประตู แต่ออสการ์ก็หลบได้ทัน 
ผู้ก่อการร้าย : “ฝรั่งเศสจงเจริญ!” เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตไปต่อหน้าออสการ์
แต่ในหัวของออสการ์ตอนนั้นกลับมีแต่ภาพของแฟร์ซอง
ออสการ์ : “หยุดความคิดซะ ออสการ์! จะมาคิดอะไรในเวลาแบบนี้เล่า?!” เธอพึมพำกับตัวเอง
หลังจากนั้นอังเดร เจโลเดลและทหารส่วนหนึ่งก็ตามมาถึง ทหารช่วยกันแบกร่างของผู้ก่อการร้ายที่เสียชีวิตออกมาจากบ้านร้าง โดยมีออสการ์คอยดูอยู่ แต่อังเดรเห็นออสการ์มีท่าทางซึมเศร้าผิดปกติ จึงถามว่า
อังเดร : “ออสการ์ มีอะไรหรอ? เธอได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?” 
ออสการ์ : “อังเดร บอกเจโลเดลให้ทำหน้าที่ต่อที ฉันจะกลับบ้าน” แล้วออสการ์ก็ควบม้าออกไปทันที
อังเดร : “ออสการ์...”
 
ออสการ์ขี่ม้าออกมา ระหว่างทางในหัวของเธอก็คิดถึงแต่แฟร์ซอง
ออสการ์ : “แฟร์ซอง... แฟร์ซอง เธอกลับไปหาคนที่ต้องการเธอมากกว่าใครๆ คนที่เธอรักมากกว่าใคร หลังจาก 7 ปีที่แยกจากกัน 7 ปีที่ต้องทนทุกข์ทรมาน เธอก็ยังกลับไป ฉันคิดว่ามันวิเศษมาก ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่วิเศษมาก... นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของฉันรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิง”
 
ในคืนนั้นเอง ที่บ้านของออสการ์ แนนนี่เดินไปเดินมา หาสิ่งของต่างๆ แล้วก็บ่นพึมพำอยู่ตลอด
แนนนี่ :  “ผ้ารัดเอว.. อ๊า กระโปรงสุ่มๆ! แล้วก็ถุงน่อง...” 
อังเดร : “ยายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” อังเดรถามด้วยความสงสัย
แนนนี่ : “ในที่สุด มันคุ้มค่าแก่การรอคอยและความพยายามในการเตรียมชุดราตรี!” แนนนี่ถือชุดราตรีหรูหราผ่านหน้าอังเดรไป
อังเดร : “ชุดราตรีหรอ?”
แนนนี่ : “คุณหนูออสการ์บอกว่าเธอจะใส่ไปงานเต้นรำคืนนี้” แนนนี่บอกอังเดรด้วยความดีใจ
อังเดร : “อะไรนะ? ออสการ์จะใส่ชุดราตรีหรอ?!” อังเดรได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจมาก
 
แนนนี่หอบข้าวของต่างๆเข้าไปในห้องของออสการ์ที่ชั้นบนและปิดประตู
ออสการ์ : “อย่าดึงแน่นมากสิ เอวจะขาดอยู่แล้ว!”
แนนนี่ : “อยู่นิ่งๆสิคะ! ฮึ๊บๆ!”
ออสการ์ : “แนนนี่จะฉีกหนังหัวฉันรึไงเล่า”
แนนนี่ : “ก็ทำผมนี่คะ ทรงผมก็จะต้องดูมีสไตล์!”
แนนนี่จัดการแต่งตัว แต่งหน้าทำผมให้ออสการ์อย่างสุดฝีมือ ส่วนอังเดรนั้นก็ได้แต่นั่งรออย่างงงๆอยู่ชั้นล่างของบ้าน แล้วก็บ่นพึมพำกับตัวเอง
อังเดร : “เธอจริงจังขนาดนั้นเลยหรอ ออสการ์?! ออสการ์ของเราจะสวมชุดราตรีสีฉูดฉาดแล้วไปเต้นรำกับผู้ชายคนอื่นงั้นหรอ?! ฮึ ฮึ ออสการ์ใส่ชุดราตรีหรอ? คงเหมือนกับเอาหุ่นไล่กาสูงๆมาแต่งตัวล่ะมั้ง! คงดูไม่ได้เลย ฮ่าฮ่าฮ่า” อังเดรนึกขำอยู่ในใจคนเดียว เขาคิดว่าถ้าออสการ์ใส่ชุดราตรี แต่งตัวเป็นผู้หญิงคงดูแปลกพิกล
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง แนนนี่ก็ร้องเรียกอังเดรด้วยความตื่นเต้น
แนนนี่ : “อังเดร! มานี่!”
อังเดร : “มาแล้ว มาแล้ว!” อังเดรค่อยๆเดินขึ้นไปข้างบนช้าๆ 
แนนนี่ : “อังเดร!”
อังเดร : “มาแล้ว มาแล้ว!”
แนนนี่ : “มานี่  มาดูคุณหนูออสการ์ในชุดราตรีสิ!”
อังเดร : “มาแล้ว มาแล้ว!” อังเดรเดินมาถึงบันได เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกตะลึงในความงดงามของออสการ์ที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน
 
        คืนนั้น ณ งานเต้นรำ ออสการ์ปรากฏตัวในชุดราตรียาวสีขาว แต่งลวดลายด้วยสีเขียวอ่อน หรูหรา สวยงาม ผมบรอนซ์ยาวหยักศกถูกเกล้าขึ้นเป็นทรง ในมือถือพัดเข้าชุดกัน และแน่นอนว่า ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่มีใครจำเธอได้  ความสง่างามของเธอนั้นดึงดูดสายตาทุกคู่ให้มองมาที่เธอ แฟร์ซองก็เช่นกัน
ผู้หญิง : “โอ้วว ดูมาดามคนนั้นสิ” “โอ้ว” “เธอเป็นใครกัน?” “เธอดูเหมือนรูปปั้นกรีซที่มีชีวิตเลย” “เป็นเค้าท์เทสจากต่างประเทศ ตำแหน่งของเธอสูงมาก ชื่อของเธอจึงถูกปิดเป็นความลับน่ะ” “โอ้ ชาวต่างชาติหรอ?”
 
แฟร์ซอง : “ฉันเหมือนเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อนนะ...” แฟร์ซองคิดในใจเพราะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาก ออสการ์เดินผ่านหน้าแฟร์ซองไป ความงดงามของออสการ์ทำให้เขาต้องเอ่ยปากขอเธอเต้นรำ
แฟร์ซอง : “มาดาม! ได้โปรด ขอกระผมเต้นรำกับท่านซักครั้งจะได้มั้ย?!” ออสการ์พยักหน้าตอบรับ
คนตรีคลาสสิคบรรเลงขึ้น ทั้งคู่เต้นรำกัน
ผู้หญิง : “โอ้ ท่วงท่าช่างพลิ้วไหว! รูปร่างเพรียวบาง! แม้แต่ลอร์ดแฟร์ซองยังหลงเสน่ห์!”
แฟร์ซอง  : “เค้าท์เทส ท่านมาจากประเทศไหนหรอ? ฉันรู้จักคนคนนึงที่คล้ายกับท่านมาก เธอสวยและมีผมสีบรอนซ์เหมือนกัน เธอจิตใจดี การศึกษาดี เธอไม่เคยกลัวอันตรายใดๆ เธอมีความเชื่อมั่น! โดยปกติแล้ว ชุดทหารจะขับผิวของเธอเป็นสีทอง ขัดกับบุคลิกภายนอกที่เหมือนผู้ชาย ดุจดั่งดอกไม้น้ำแข็ง เธอคือเพื่อนที่สวยและเลอค่าที่สุดของผม” ออสการ์ได้ยินคำพูดของแฟร์ซองที่พูดถึงเธอจึงเผลอสะดุด แต่แฟร์ซองใช้แขนของเขาโอบเอวประคองเธอเอาไว้ได้
แฟร์ซอง : “ได้โปรด ยกโทษให้กระผมด้วย” ใบหน้าของเขาห่างกันแค่คืบเท่านั้น ตาประสานตา
แฟร์ซอง : “หรือท่านคือ... เธอคือ...?!” ในที่สุดแฟร์ซองก็รู้ว่าเธอคือใคร ออสการ์จึงรีบหันหน้าหนีและวิ่งออกไปทันที ออสการ์วิ่งหนีออกมาอยู่ริมน้ำพุใหญ่ภายในสวน แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลรินออกมา
ออสการ์ : “แขนของแฟร์ซองโอบกอดฉัน สายตาของแฟร์ซองจ้องมองฉัน ปากของเค้าพูดเกี่ยวกับฉัน ฉันยอมแพ้ได้แล้ว ตอนนี้ ฉันยอมแพ้แล้ว!”
 
จบตอนที่ 25
 



Create Date : 08 พฤษภาคม 2560
Last Update : 15 มีนาคม 2563 15:32:24 น.
Counter : 1850 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2560

 
1
3
4
5
6
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog