สวัสดีค่ะ howtoนี้เป็นการทำแบบตั้งใจสุดๆเลยค่ะเรียกว่าเป็นการแต่งตาที่บั๊มอยากลองแต่งมานานแล้วค่ะแต่ไม่มีโอกาสหรือจังหวะดีๆที่จะได้ทำสักที คือพอมีการลงมือแต่งหน้าให้คนนั้นคนนี้ทีก็จะเป็นแบบลักษณะต้องแต่งแข่งกับเวลาจึงไม่ได้มีโอกาสเก็บภาพขณะแต่งพอที่บั๊มจะนำเอามาทำhowtoได้นะค่ะ แต่ครั้งนี้รายละเอียดต่างๆเก็บภาพมาแบบตั้งใจสุดๆ(แต่ก็ยังแอบเก็บมาไม่หมดจนได้T_T) เอาละค่ะเรามาดูเครื่องสำอางค์กันดีกว่าว่าใช้อะไรบ้างสำหรับการแต่งตาในครั้งนี้ค่ะ

1. อายแชโดว์ของ KATE รุ่น gradical eye 

2. อายแชโดว์ของ essen รุ่น 3D

3. อายแชโดว์ของ 4U2

4. อายแชโดว์ของ NAKED2 

5. ขนตาปลอมจากร้าน ไดโซะ

6. ดินสอเขียนขอบตาสีดำ

7. อายไลน์เนอร์ของ Majolica สีดำ

8. มาสคาร่าของ Maybelline

เนื่องจากวันนี้เน้นการแต่งตาขออนุญาติลงรายละเอียดเครื่องสำอางค์แค่นี้ก่อนนะค่ะ เรามาเริ่มกันเลยนะค่ะ เริ่มจากหน้านางแบบที่ลงรองพื้นกับแป้งเรียบร้อยแล้วนะค่ะ

ขั้นตอนที่1. ลงอายไพร์เมอร์ให้ทั่วบริเวณเบ้าตาซึ่งในชุดพาเลตของKATEที่บั๊มใช้อยู่เขามีไว้ให้พร้อมเลยค่ะ

ขั้นตอนที่2 ลงอายแชโดว์ของ essen3D สีฟ้าอ่อนเนื่อครีมลงตรวช่วงหางตากับส่วนบริหัวตาโดยเป็นรูปตัวv แนวนอนค่ะ ให้เหลือพื้นที่ตรงกลางว่างๆไว้ค่ะ

จากนั้นสู่ขั้นตอนที่3 คือลงอายแชโดว์สีน้ำเงินเข้มทับตรงที่เราทาสีฟ้าอ่อนไว้ค่ะ จะได้ประมาณรูปข้างล่างนี้ค่ะ

ขั้นตอนที่4 คือการลงอาแชโดว์สีน้ำเงินสว่างออกฟ้าครามของ 4U2 ตรงบริเวณที่เราเว้นไว้ซึ่งก็คือตรงกลางตานั่นเองค่ะซึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับขั้นตอนนี้คือการเบลนสีให้เข้ากันค่ะเพราะจะได้ดูเป็นสีเหลือบๆกันค่ะ

ขั้นตอนที่5 ลงสีสว่างตรงบริเวณหัวตา ซึ่งบั๊มใช้สีออกเหลือบขาวในพาเลตเดียวกันของ4U2 ค่ะ ก็เพื่อจะให้ตาดูสดใส

ขั้นตอนที่6 เมื่อเราได้สีที่ดูตาสว่างแล้วใช่ไหมค่ะเราก็มาเริ่มคัดเบ้าตาโดยใช้สีเข้มๆมาคัดเบ้าค่ะ บั๊มใช้สีดำของ NAKED2 ค่ะ มาคัดเบ้าตาให้ตาของนางแบบดูมีมิติมากขึ้น

ขั้นตอนที่7 ใช้สีดำในพาเลตเดียวกันเขียนเป็นอายไลน์ที่หางตาล่างเพื่อให้ตาดูมีมิติยิ่งขึ้น จากนั้นก็เขียนขอบตาทั้งบนและล่างเพื่อปิดช่องหว่างระหว่างขนตาและจะช่วยให้ขนตาดูหนาขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้บอกได้เลยค่ะว่าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากนางแบบของบั๊มในวันนี้เธอค่อนข้างจะกลัวเรื่องการเขียนขอบตาพอสมควร คือบางคนไม่คุ้นชินกับการเขียนขอบตาบวกกับสัญชาติญาณการกลัวอะไรมาทิ่มตาจะทำให้กระพริบตาบ่อยๆ สิ่งที่ตามมาคือ น้ำตาค่ะ เอ่อล้นออกมาเชียวเพราะฉะนั้นโอกาสที่ผลงานเราจะเลอะก็เริ่มเป็นไปได้เลยค่ะ บั๊มเลยคิดว่าการเขียนขอบตาด้านในเนี๊ยะเป็นอะไรที่ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร ตัวดินสอที่เราใช้เขียนก็ควรจะเหล่าให้แหลมคม เส้นที่เราเขียนจะได้คมเข้ม ไม่ใช่ทู่ จนเวลาเราระบายหรือเขียนลากเปลือกตาเราสัมผัสกับตัวเนื้อไม้ของดินสอได้นะค่ะ ถ้าใช้ดินสอแบบนั้นเจ็บแน่ๆค่ะ

ขั้นตอนที่8 เมื่อตาจัดเต็มสะขนาดนี้ขนตา ต้องมาค่ะ แล้วขนตาที่เลือกใช้ก็ต้องไม่ใช่แบบดูธรรมชาติค่ะ อาจจะต้องใช้เบอร์ที่ออกแนวแฟนตาซีหรือทั้งหนาทั้งยาวเลยค่ะ เพื่อให้ดวงตาดูโดเด่นยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากขั้นตอนการติดขนตาเป็นอะไรบั๊มไม่สามารถเก็บภาพวิธีการติดขนตามาให้ดูได้จริงๆค่ะ เพราะนางแบบของบั๊มเธอเริ่มโวยวายกลัวกาวขนตนเข้าตา(ขอเมาท์นางนิดนุงนะค่ะ) เลยต้องรีบจบงานติดขนตาแบบโดยด่วนเลยล่ะค่ะ เมื่อติดขนตาแล้วต้องไม่ลืมปัดมาสคาร่าทั้งขนตาจริงและขนตาปลอมด้วยนะค่ะเพื่อป้องกันไม่ให้ขนตาดูเป็น 2 ชั้นค่ะ เมื่อปัดทั้งขนตาบนและขนตาล่างเสร็จ ก็จบงานด้วยการเขียนอายไลน์เนอร์ให้ชิดขอบขนตาปลอมมากที่สุดเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติไม่เห็นขอบขนตาปลอมบนเปลือกตาเราค่ะ ส่วนการเขียนอายไลน์เนอร์ครั้งนี้บั๊มจะไม่เขียนตวัดหางค่ะแค่ลากให้ชิดขอบขนตาพอ ซึ่งจะได้ออกมาประมาณนี้ค่ะ

สำหรับการแต่งตาแบบที่บั๊มอยากลองแต่งก็เสร็จแล้วนะค่ะ จบงานนี้ตัวนางแบบอยากให้ลบบางส่วนออกเพื่อจะได้ออกไปข้างนอกได้ ซึ่งถ้าแต่งแบบนี้แล้วเดินกลางวันอาจจะมีคนมองตลอดทางก็เป็นได้เลยต้องลบในบางส่วนออกค่ะ

ก็จะได้ภาพที่นางออกไปลั้ลลาข้างนอกได้แล้วค่ะ

จบแล้วค่า เจอกันครั้งหน้านะค่ะ สำหรับผู้ที่ต้องการแนะนำบั๊มยินดีรับข้อแนะนำแล้วนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไปค่ะขอบคุณนะค่ะที่ติดตามอ่านจนจบ   Ladybump20