ให้ใจดีอีกแค่ไหน ต้องใจกว้างอีกเ้ท่าไหร่...ถึงจะพอ







วันนี้ดราม่านิดนึง ช่วงนี้เพราะปวดหัว เป็นนั่น เป็นนี่ แค่นี้ก็รำคานตัวเองจะแย่แล้ว วันนี้พอมีแรงหน่อย ลุกมานั่งไขข้อข้องใจของลูกค้า ตอบทีเดียว 4 ฉบับรวด จัดกันไปแบบยาวๆ เนื่องจากก่อนหน้านั้น พอดีว่าร่างกายมันไม่ค่อยสบาย อารมณ์ตอบจดหมาย(e-mail) มันเลยไม่ค่อยจะมี......อิอิ มันต้องบิ้วกันนิดนึงโน๊ะ


หลังจากตอบจดหมายลูกค้าเสร็จ ก็ปาไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ หลังจากลุกมาในสภาพเหมือนคนเพิ่งฟื้นไข้ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่เคยมีตามสมควร ตอบเสร็จก็รีบจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว เพราะนัดกับคุณแฟนจะออกไปดูบ้านดูช่อง


ไปถึงคุณแฟนรออยู่แล้ว พอดีวันนี้เค้าทำงานค่อนวัน เลิกงานก็มารอหน้าปากทางเข้า เราเสร็จงานก็รีบไปเช่นกัน ลงรถแล้วก็เดินไปหาดูข้าวของที่จะซื้อ วันนี้กะว่าจะไปเอากรวดลงพื้นดินข้างบ้านฝั่งที่มันไม่ติดบ้านใคร เพราะโคลนมันกระเด็นจนผนังเลอะไปหมด เลยต้องหาอะไรไปปูเอาไว้ จะได้ให้ทางโครงการมาเก็บสีให้ก่อนที่เค้าจะย้ายไปทำที่อื่นหมด


ไปถึงร้านก็ดูโน่นดูนี่ ก็ได้มา 3- 4 อย่าง อย่างแรกก็ จอบสักอันนึงมาปรับดินนิดหน่อย ตามด้วยตาขายว่าจะเอาไปขึงกันมะหมาลอดออกไปนอกบ้าน แต่ลายที่เลือกก็มีไม่พอได้มาแค่ 7 เมตร จากทั้งหมดต้องการประมาณ 30 เมตร ก็ไม่เป็นไรเอาไว้รอบหน้ามาซื้อใหม่ แล้วก็พลาสติกเอาไว้ปูรองพื้น และทรายอีก 5 ถุง


ที่นี่ดีมากๆ สั่งเท่าไหร่ก็มาส่ง เพราะอยู่ละแวกนั้นเอง เราก็เข้าไปรอ แต่ถึงทีหลังคนส่งของอีก เพราะเราต้องไปติดต่อประชาสัมพันธ์ เอาถังขยะ กับยื่นเอกสารให้เค้าไปขอน้ำ-ไฟให้ กว่าจะเสร็จก็จนรถส่งของวนออกมาดู เค้าก็ไม่กล้าลงเพราะไม่แน่ใจว่าถูกหลังหรือเปล่า


ทีแรกเค้าก็รู้จักอยู่หรอก แต่พอดีวันนี้มีรถจอดอยู่ตรงประตูหน้าบ้านพอดี เค้าเลยไม่แน่ใจว่ามาถูกที่ เนื่องจากวันนี้เพื่อนบ้านข้างๆ กันเค้าทำบุญบ้าน แต่จอดรถซะหน้าประตูบ้านเราเป๊ะๆ แบบว่าใครก็คงนึกว่าเป็นรถบ้านเราน่ะ


พอไปถึงก็ได้คุยกับเพื่อนบ้าน แต่เค้าก็คงเหมือนเกรงใจเรามั่งแหละเนอะ เห็นเราเดินดุ่มๆ เข้าไปไขประตูบ้านก็คงรู้บ้างแหละว่า เออ...เจ้าของบ้านมันมาแล้วล่ะ สักพักจึงเดินเข้ามาถามว่าจอดรถขวางทางไม๊.....ไม่ขวางทางเล๊ยยยย ขอบอก..วันหลังน่าจะเปิดรั้วแล้วมาจอดที่จอดรถบ้านเราเลยเนอะ..... (อันนี้เราคิดประชดเองในใจอ่ะนะ)


แล้วสักพักคนข้างบ้านเค้าก็คุยๆ ว่าเออเนี่ยวันก่อนฉาบปูนหลังบ้านแล้วฝนตกเลยยังไม่ได้เก็บสีนะ (เรายังไม่เห็นหลังบ้านเราตรงที่เค้าต่อเติมมาติดเลย) สีมันเลยเลอะๆ เราก็เลยได้ทีถามเห็นมีรถขนปูมาจอดไว้ในบ้านเรา หน้าประตูเข้าตัวบ้านเลยอันนี้ ทีแรกนั้นเป็นรถ bmw จอดอยู่หน้าประตู แต่อันนี้รถขนปูนขนทราย จอดในพื้นที่บ้าน แต่ตรงหน้าประตูกระจกที่เปิดเข้าบ้าน......เออ....ดีน๊อะ....


เราเลยถามไปว่านี่รถใครเอ่ย .... แกก็ตอบมาแบบเกรงไจ๊ เกรงใจ ว่ารถแกเอง ประมาณว่าไม่มีที่ไว้....... (เออ....ไม่มีเกรงใจกันเลยเนอะ....) เราเดินไปหลังบ้านแล้วออกมาใหม่ เลยบอกพี่แกไปว่า...อ่ะพี่คะยังไงถ้าพี่จะเก็บสีข้างบ้านวันไหน หากหนูล๊อกประตูรั้วหน้าเอาไว้พี่ก็ปีนเข้ามาเก็บเอาเลยนะ.......(อันนี้เราก็เอากุญแจไปเตรียมล๊อกประตูรั้วหลายวันแล้ว แต่พอดีประตูหลังช่างโครงการเค้ายังต้องมาซ่อมอยู่ เราเลยไม่ได้ล๊อกไว้ แต่ครั้งนี้ว่าจะล๊อกละ) พี่แกก็ตอบแบบเกรงไจ๊ เกรงใจ ว่า...ได้ๆๆ...(เหมือนบ้านตัวเองเลยเนอะ งิงิ)



ที่ประตูก็วางถุงปุ๋ยของอะไรไม่รู้วางขวางตรงประตูเราเอาไว้....เหอะๆๆๆ เพื่อนบ้านๆ ท่องเอาไว้ในใจ ....


พอคุยเพื่อนบ้านเสร็จเราเดินไปดูหินที่คุณแฟนซื้อมาไว้ก่อนหน้านี้...ดูแล้วท่าจะไม่พอ แถมบล๊อกที่คิดว่าจะมีร้านที่เราซื้อทรายก็ไม่มีละ เลยต้องไปซื้อเพิ่ม พร้อมกับหิน เพราะที่มีอยู่ดูท่าจะไม่พอ......


จากบ้านออกไปเดินซื้อหินกับทางเดิน ลายดอกไม้ เป็นทรายล้าง ไปเดินหาอยู่พักนึงก็เจอร้าน แล้วสั่งเอาไว้ ให้เค้ามาส่งพรุ่งนี้เพราะวันนี้มันเย็นมากแล้ว รถมาส่งไม่ทัน เราก็เลยกลับบ้านมาขุดร่องรอ เนื่องจากหน้าดินมันไม่เสมอกัน เลยต้องมาเกลี่ยดินเตรียมไว้พรุ่งนี้บล๊อกมาจะได้ลงเลย.....


มาถึงคุณแฟนก็เปลี่ยนชุดเตรียมขุดดิน.....



ขุดไปได้ส้กประมาณเกือบเมตรนี่แหละ ก็มีเพื่อนบ้านอีกคนมาเยี่ยม .... เหมือนรู้เลยเนอะ..... คือ คนนี้ต้องบอกเอาไว้ก่อน ว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานของคุณแฟนที่เค้าก็เพิ่งซื้อที่นี่เหมือนกัน และตอนเรามาดูบ้านที่นี่ครั้งแรก ก็ดูแปลงอื่นนะไม่ใช่แปลงนี้หรอก ตอนนั้นคนนี้ก็อาสาพามาดู......



แต่ครั้งนั้นกลับบ้านมาเรากับคุณแฟนไปได้ไม่สวยสักเท่าไหร่ เพราะเราเกิดไม่พอใจ ที่มีใครมาเรียกคุณแฟนเราว่า ตัวเอง และแทนตัวคนเรียกว่า เค้า... กระเง้ากระงอด ฟังดูไม่เหมือนเพื่อนเรียกกันสักเท่าไหร่ เลยโต้วาทีกับคุณแฟนไปพอประมาณ......จะว่าเราใจแคบก็ได้ แต่วันนั้นขากลับ ้ต้องไปส่งคุณเธอถึงที่บ้านเลยเชียว ......โดยแท๊กซี่ที่เราเรียกเข้ามานั่นแหละ...... ซึ่งมันก็ไม่ใช่ทางผ่านนะ แต่ที่ไปส่งวันนั้นเพราะเห็นว่าพาทัวร์ดูบ้าน (แต่เราไม่ได้ร้องขอนะ) พอดีเค้าซื้อบ้านแหละ แต่ยังไม่ได้มาอยู่ มีแต่แม่เค้าที่อยู่ เค้าก็จะเข้ามาบ้างอะไรบ้างยังงั้น



วันนี้จู่ๆ คุณเธอก็ปั่นจักรยานมาจอด รู้ได้ไงไม่รู้นะ เพราะหลังนี้มันไม่ใช่หลังที่เราไปดู ซอยบ้านเรากับบ้านคุณเธอก็อยู่คนละโซนเลย เรียกได้ว่าไม่มีทางผ่านหน้าบ้านกันได้ื แต่เธอก็ปั่นจักรยานมาจอดถูก ณ ตอนนั้นก็มึดๆ ละนะ คุณแฟนขุดดินอยู่ข้างบ้าน ซึ่งมันไม่มีไฟส่องสว่างเท่าไหร่ ที่มีแสงไฟก็เพียงน้อยส่องมาจากในบ้านที่เราเปิด แถมหน้าบ้านก็มีรถจอดขวางแบบว่า มองเข้ามาไม่เห็นหรอก.....แต่เธอรู้....ว่าพวกเราอยู่ในนี้....



มาถึงก็เข้ามาแซวๆ คุณแฟนเราใหญ่ บอกจะเอานั่นเอานี่มาให้ปลูก เพราะบ้านเธอต่อเติมจนเต็มเลยไม่มีที่ปลูก จะเอามาฝากปลูกที่บ้านเรา เพราะเห็นพื้นที่เหลือเยอะเลย (ไม่ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยล่ะ ).......คุยๆ อยู่สักพัก พอดีเธอปั่นมาพร้อมแม่เธอ คงพากันมาทัวร์เล่นยามเย็นแล้วบังเอิญอ่ะมั้งนะ.....มารู้ว่าเรากับคุณแฟนมาพอดี....ทั้งๆ ที่เราอยู่ท้ายซอย.....บังเอิญม๊าก มาก



สักพักเธอก็กลับไปพร้อมแม่.....เราก็ทำงานเราต่อไป.....จนได้ครึ่งทางละล่ะ เธอก็มาอีก คราวนี้มาคนเดียว.... มายืนๆ คุยกับคุณแฟน....ส่วนเราไปไหนอ่ะเหรอ...ก็ไม่ได้ไปไหนหรอก ก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ....แต่เหมือนไม่ได้อยู่แค่นั้นเอง เพราะเค้าชวนกันคุยอยู่สองคนซะมากกว่า ประมาณว่าแซวกันไปแซวกันมา....(ต่อหน้าต่อตาตรูเลยนะพวกเธอ.....)


ซักพักคุณเธอก็บ่นว่า เออหิวข้าวแล้ว....กินอะไรดี ประมาณว่าพูดเปรยๆ แต่เราไม่ได้พูดอะไรนะ แต่คุณแฟนก็บอกเออ..หิวเหมือนกันเนี่ยไม่รู้วันนี้จะกินอะไรดี.......สักพักเธอก็พูดมาอีก เออ..หิวจริงๆ นะเนี่ย เดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อนนะ....แล้วเธอก็ปั่นจักรยานหายไป.......



สักพักใกล้จะเสร็จละ เหลืออีกประมาณ 1 เมตรได้ เราก็บอกคุณแฟนว่า ไวๆ หน่อย ยุงเริ่มมาแล้ว เด็กๆ ที่บ้านคงหิวแย่แล้ว เพราะเมื่อเช้าไม่ได้ให้ข้าวไว้ (เด็กๆ = มะม๋า 5 ตัว ที่บ้าน) พูดไม่ทันจบดี คุณเธอคนนั้นก็มาจอดจักรยานหน้าบ้านอีก..... ต้องการอะไรเนี่ย.......


พอเสร็จเข้าห้องน้ำอะไรเสร็จคุณเธอยังจอดรถอยู่หน้าบ้าน ตอนที่เราเดินไล่ปิดไฟ คุณแฟนกำลังจะเดินออกไปคุยกับเธอคนนั้น เราเลยบอกคุณแฟน ยกกระสอบทรายเข้ามาไว้ในที่ร่มเผื่อฝนตกมันจะหนักเปล่าๆ ..... เราก็ล๊อกบ้านเสร็จหันมาคุณแฟนบอกว่า....."ไปกินข้าวบ้าน...XXX ....ไม๊...เค้ามาชวนไปกินข้าว...."............


พอดีเธอคนนั้นยืนอยู่ในระยะที่เราตอบแล้วได้ยิน เราเลยตอบไปว่า "ไม่ไหวมั้งเด็กๆ รอกินข้าวหิวแย่แล้ว เดี๋ยวไปหาอะไรกินแถวบ้านดีกว่า"......แล้วเราก็เดินตามคุณแฟนออกมาแล้ว ดึงประตูรั้วมาปิดไว้ ขณะที่คุณแฟนเดินนำไปก่อนละ....



พอเราเดินมาสมทบก็บอกเรานั่งซ้อนท้าย xxx ไปสิ เดี๋ยวคุณแฟนจะเดินตามไป.....เราเลยบอกไม่ล่ะ เดินดีกว่า..... เดินไปสักพักคุณเธอก็ถามว่า นี่ไม่กล้านั่งรถไปกับเค้าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย.....(อันนี้เวลาเค้าพูดว่าเค้านี่คือเค้าพูดกับคุณแฟน เวลาที่เค้าพูดกับเราเค้าจะแทนตัวเองว่า เรา) เราเลยรู้ว่า อ๋อ...ที่จริง xxx ชวนคุณแฟนเราซ้อนท้ายเธอไป.....เออ...ดีน๊อะสู.......


เธอก็ปั่นจักรยานคลอพวกเราไปยังงั้นแหละ จนเกือบถึงทางออกเธอก็ถามว่า จะกลับกันยังไงอ่ะวันนี้ แฟนเราเลยบอกว่าก็เหมือนเดิมแหละ เดี๋ยวโทรเรียกแท๊กซี่เข้ามา เธอรีบบอกมาทันทีว่้า...เออ....งั้นขอติดรถไปหาอะไรกินหน่อยนะ....(อ้าวว....ทีแรกมาชวนไปกินข้าวที่บ้าน บอกว่าแม่ทำกับข้าว ทีงี้จะออกไปกับเราปล่อยแม่กินข้าวคนเดียว ดีน๊อะ...) คุณแฟนก็รีบบอกว่า เอาสิ...รีบเอาจักรยานไปเก็บไป......ไม่ถามตรูสักคำเนอะ ไอ้แก่.........หันมาดูสีหน้าตรูสักนิดยางดี......แสรด....ด่าแมร่งเลย (ขออภัยนะคะวันนี้เถื่อนไปนิดนึง แบบว่าคนมันป่วย แล้วมันเริ่มมีเรื่องมาให้ เครียดเพิ่มอีก นึกว่าจะจบแต่ครั้งก่อนที่มาดูบ้านแล้วคอมเม้นต์ไปแล้วนะคะเนี่ย ว่าอิฮั้นไม่ชอบให้คุณว่าที่พ่อของลูกไปหนิดหนมกับสาวไหน)


เราก็นั่งรอที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน เอาโทรศัพท์ให้คุณแฟนโทรไปหาแท๊กซี่ สักพักคุณเธอก็ออกมาพร้อมมามี๊ของเธอ ..... รอแท๊กซี่อยู่นาน ไม่เข้ามาสักที พอดีมีคันนึงเค้ามาส่งคนในหมู่บ้าน เราเลยว่าจะเรียกคันนี้ดีกว่า เลยให้โทรยกเลิกไป เนื่องจากรอน๊านนนน นาน......


แท๊กซี่มาก็โบกแล้วบอกว่าไปท่าอิฐนะ.....บังเอิญแท๊กซี่คันนี้ข้ามจังหวัดมาจากอีกฟากของ กทม เลยไม่รู้ทาง เค้าก็ถามว่า ออกทางไหนครับ.....อิคุณแฟนรีบบอกไปว่า เออถามคนนั่งหน้าได้เลยครับว่าไปทางไหน......คุณเธอนั่นก็หันมาบอกว่า....เห้ย...จะไปส่งจริงๆ เหรอ....(แหม ขึ้นมานั่งซะเต็มตรูดปานนั้นแล้วคุณเธอ)


คุณแฟนก็ก้มหน้าก้มตาอยู่กับโทรศัพท์ แล้วก็ตอบไปว่า....เออ ไปทางไหนบอกพี่เค้าเลย ไปส่งให้ถึงที่ .....(ไม่ถามตรูซักคำว่าตรูอยากไปส่งใครไม๊)........ขอบอกไม่ได้กินข้าวแต่เช้า คิดดูเหอะอารมณ์มันขนาดไหนแล้วเนี่ย ณ ขณะนั้นประมาณ เกือบ 2 ทุ่มละ........


คุณเธอก็บอกว่า...เค้าไปลงตรงห้าง xxxx ดีกว่า แล้วก็หันไปพูดบอกทางกับแท๊กซี่.......(วันหลังถ้าเป็นอย่างนี้เราว่าจะเรียกแท๊กซี่คนละคันละ ให้มันไปกันสองคน รำคานน่ะนะ....).....แล้วพอยัยคนนั้นลงไป แท๊กซี่ก็ถามว่าแล้วเราต้องไปทางไหนต่อ เพราะพี่แกไม่เคยวิ่งแถวนี้ ... คราวนี้อิคุณแฟนค่อยสนใจหันมาบอกทางแท๊กซี่.......


กลับมาถึงบ้านกินข้าวเสร็จ เราก็เลยพูดไปว่า....ครั้งก่อนพูดไปสงสัยไม่เคลียร์น๊อะ บอกว่าอย่าให้อิฮั้นไปได้ยินใครมาพูดเค้า พูดตัวเอง กับ คุณ ที่เป็นแฟนอิฮั้นอีก เรียกกันเค้า เรียกกันตัวเอง แล้วเราจะเรียกอิคุณแฟนว่าอะไรดีล่ะ .....


พูดแบบตรงๆ เราก็ไม่ชอบนะ ที่มีใคร มาเค้าๆ ตัวๆ พี่ๆ น้องๆ ถ้าอย่างนั้นอย่ามาเรียกเราแบบนั้นด้วยเลยจะดีกว่า เวลาอยู่ด้วยกัน เวลาคุณแฟนมันเรียกตัวเอง หรือเรียกน้องที เราก็ไม่รู้มันหมายถึงใคร ก็บอกไปตรงๆ ว่า จะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเลยไม๊....พูดจริงๆ แบบว่ารำคานแล้วน่ะ ไม่จบไม่สิ้นสักที......ไอ้เรื่องอย่างนี้........


เราเคยพูดแล้วว่า ให้แยกกันอยู่ มีบ้าน 2 หลังแล้ว อยู่คนละหลังจะดีกว่ามั้ย....เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น เผื่อจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร .... เพราะอยู่ด้วยกันแล้วเราต้องเห็นอย่างนี้ต้องเจออย่างนี้....มันทำให้เครียดมากขึ้น จากเรื่องอื่นๆ มันก็มีเยอะอยู่แล้ว ทำไมเราต้องมาเห็นอะไรอย่างนี้ด้วยล่ะ ..... แต่อิคุณแฟนไม่ยอมแยกจากเราไปสักที......


อันนี้เราพูดหลายครั้งแล้วว่า เราอยากอยู่คนเดียว เงียบๆ เราไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในที่ของเรา หรือคนของเรา จะว่าเราใจไม่กว้างก็ได้ ในเมื่อบอกให้ไป ให้แยกกันอยู่ก็ไม่ยอมไป ไม่รู้เราจะทำยังไงดี จะให้เราออกไปหาเช่าที่อื่นอยู่ก็ใช่ที เราต้องมานั่งจ่ายค่าบ้านอยู่ แถมมีมาอีกหลัง ที่เราตกลงซื้อก็เพราะคำว่า "บ้านของเรา" ไม่ใช่บ้านของ....ใคร ? อยู่ไปแล้วอาจจะงง ว่าใครเป็นใครฟะ......


เหนื่อยทุกวันนี้ก็เพราะอยากกลับบ้านมาแล้ว มีแต่ความสุขและสบายใจ วันๆ นึงกลางวันก็ทำงานเหนื่อยกับงาน เหนื่อยกับลูกค้า แต่พอปิดเครื่องปิดคอมฯ ก็อยากพักผ่อน ไม่ต้องไปเที่ยวหรือไปไหนๆ แค่อยู่บ้านนั่งเฉยๆ สงบๆ แค่นั้นก็พอแล้ว......แต่อย่างนี้จะสงบได้อีกนานแค่ไหน.........



จริงๆ เรื่องแค่นี้ไม่อยากเก็บเอามาคิด แต่มันไม่หมดไปก็ไม่ไหวจะแอบมันเอาไว้ซอกใดซอกนึงเหมือนกัน แล้วอาจจะดูใจแคบมาก ก็ทำไงได้ ในเมื่อครั้งหนึ่งคนเราได้หลอกลวงใครสักคนเอาไว้อย่างเจ็บแสบ การนอกใจกัน มันเป็นเรื่องที่ลืมไม่ได้ง่ายๆ สำหรับคนที่จะอยู่ด้วยกันเลยจริงๆ แต่การไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่มันคือการที่พยายามจะให้วันนี้เป็นวันใหม่ แต่ไม่ใช่ยังต้องเห็นอะไรแบบนี้อยู่ แล้วจะให้ไว้ใจ คนที่เคยมีผู้หญิงแอบเอาไว้พร้อมกันหลายๆ คนได้ยังไง....ถ้าแค่กิ๊ก หรือแฟน คงไม่แค้นถึงวันนี้......แต่เมื่อใจก็ต่างรู้ดี....ว่าที่เคยมีหลายๆ คน ต่างไม่ใช่แค่คนเคยรู้จัก แต่มันลึกซึ้งเกินคำว่าแฟนไปแล้ว เป็นหลายปี...และเป็นอยู่หลายคน จะให้เรา.....ลืมไปได้ยังไง......แถมสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันยังมาตอกย้ำ......ทำไมไม่เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่รักครอบครัว.......


อยากถามเหมือนกันว่าเราไปทำอะไรให้ตอนไหน.....ถึงได้ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ตอกย้ำความรู้สึกแย่ๆ อย่างนี้ของเราอยู่ได้.....ถ้ามันลำบากที่จะไม่ไปเฟรนด์ลี่กับผู้หญิงคนไหน ทำไมไม่แค่เลิกลากันไปวะ.....ไอ้คนเฮงซวย......แถมเรามันยังโง่ไม่พอ.....ซื้อบ้านแล้วเสียดาย สงสัยคิดผิดไปอีกแล้ว...........




Create Date : 25 มิถุนายน 2554
Last Update : 25 มิถุนายน 2554 23:23:08 น. 6 comments
Counter : 718 Pageviews.

 
เหงา เศร้า และเซ็ง อย่างแรง


โดย: กระติ๊บริมทาง วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:0:25:15 น.  

 
คุยกันตรงๆ กับคุณแฟนเลยดีกว่ามั๊ย เก็บไว้มันอึดอัด พาลให้เราคิดเตลิดไปไกล เธอคนนั้นก็เหลือเกินจริงๆ ผมละเกลียดพวกที่ทำตัวเป็นมือที่สามจริงๆ ให้ตายสิ เซ็งแทนเลย


โดย: pippojuve วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:13:07:13 น.  

 
เหนื่อยหน่อยนะครับ เป็นกำลังใจให้หายป่วยไวๆและก็ซ่อมบ้านให้สวยสมใจนะครับ

ด้วยความยินดีนะครับ ^^ เป็นเพื่อนกันก็ต้องให้กำลังใจกันและกันครับ







โดย: วนารักษ์ วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:11:54:36 น.  

 
ภาพลักษณ์เราบางครั้งก็สำคัญนะครับ อย่าวู่วามตามอารมณ์ มันไม่ค่อยสวยครับ เดี๋ยวเข้าทางมือที่สาม ค่อยๆคิด ห่างออกมาอีกซักก้าว ทุกปัญหามีทางออกมากกว่า หนึ่งทางเสมอครับ เอาใจช่วยให้ผ่านมันไปด้วยดีครับ


โดย: pippojuve วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:0:09:32 น.  

 
กระติ๊บคะ...สวัสดียามบ่ายค่ะ ขอให้มีความสุขตลอดวันนะคะ ^^




โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:13:21:34 น.  

 
กระติ๊บคะ สวัสดีบ่ายวันศุกร์สุขๆนะคะ ^^



โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:32:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กระติ๊บริมทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนดีคนนึง ก็แค่นั้น อ่ะฮิ้วววว
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กระติ๊บริมทาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.