“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตก็คือ การสร้างมันขึ้นมา”

<<
กรกฏาคม 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 กรกฏาคม 2557
 

ตำนานเทพกรีก ตอนที่ 16 - 17

ตำนานเทพกรีก : ตอนที่ 16 เทพีอาเธน่า (Athena)





ในคณะเทพโอลิมเปียนมีเทวีพรหมจารีอยู่ 3 องค์ ทรงนามตามลำดับว่า เฮสเทีย (Hestia) อาเธน่า (Athene) อาร์เธมิส (Artemis) องค์แรกเป็นเทวีภคินีของเทพปริณายกซูส ส่วน 2 องค์หลังเป็นธิดา แต่ละองค์มีประวัติและความสำคัญดังจะกล่าวต่อไปนี้


อันเทวดาของกรีกนั้นถึงแม้ไม่ตายก็หาความรู้สึกเจ็บปวดในกายองค์ไม่ การถือกำเนิดของอาเธน่านั้นกล่าวกันว่า ครั้งหนึ่ง ซูส เทพบดีได้รับคำทำนายว่า โอรสธิดาที่ประสูติแต่มเหสีเจ้าปัญญานาม มีทิส (Metis) นั้นจะมาโค่นบัลลังก์ของพระองค์ ไท้เธอก็แก้ปัญหาด้วยการจับเอามีทิสซึ่งทรงตั้งครรภ์แก่นั้นกลืนเข้าไปในท้อง แต่เวลาไม่นานนักเทพปริณายกซูสบังเกิดอาการปวดเศียรขึ้นมาให้รู้สีกปวดร้าวเป็นกำลัง ไท้เธอจึงมีเทวโองการสั่งให้เรียกประชุมเทพทั้งปวงบนเขาโอลิมปัส ให้ช่วยกันหาทางบำบัดเยียวยา แต่ความอุสาหะพยายามของทวยเทพก็ไม่เป็นผล ซูสไม่อาจทนความเจ็บปวดต่อไปได้ ในที่สุดจึงมีเทวบัญชาสั่งโอรสองค์หนึ่งของไท้เธอ คือ ฮีฟีสทัส (Hephaestus) หรือ วัลแคน (Vulcan) ให้ใช้ขวานแล่งเศียรของไท้เธอออก เทพฮีฟีสทัสปฏิบัติตาม เอาขวานจามลงไป ยังไม่ทันที่เศียรซูสจะแยกดี เทวีอาเธน่าก็ผุดขึ้นมาจากเศียรเทพบิดาในลักษณะเจริญวัยเต็มที่ แต่งฉลององค์หุ้มเกราะแวววาวพร้อมสรรพถือหอกเป็นอาวุธ และประกาศชัยชนะเป็นลำนำกัมปนาทเป็นที่พิศวงหวั่นหวาดแก่ทวยเทพเป็นที่สุด พร้อมกันนั้นทั่วพื้นพสุธาและมหาสมุทรก็บังเกิดอาการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างใหญ่ ประกาศกำเนิดเทวีองค์นี้สนั่นไป ทั้งโลก




การอุบัติของเทวีองค์นี้ถือว่าเป็นไปเพื่อยังสันติสุขให้บังเกิดในโลกและขจัดความโฉดเขลาที่ครองโลกจนตราบเท่าบัดนั้นให้สิ้นไป ด้วยว่าพอเจ้าแม่ผุดจากเศียรซูส เทวีแห่งความโฉดเขลาซึ่งไม่ปรากฏรูป ก็ล่าหนีให้เจ้าแม่เข้าครองแทนที่ ด้วยเหตุนี้เทวีอาเธน่าจึงเป็นที่นับถือบูชาในฐานะเทวีครองปัญญา นอกจากนั้น เจ้าแม่ยังมีฝีมือในการเย็บปักถักร้อย และการยุทธศิลปป้องกันบ้านเมือง


ภายหลังการอุบัติของเจ้าแม่อาเธน่าไม่นาน มีหัวหน้าชนชาวฟีนิเชียคนหนึ่งชื่อว่า ซีครอบส์ (Cecrop) พาบริษัทบริวารอพยพเข้าไปในประเทศกรีซเลือกได้ชัยภูมิอันตระการตาแห่งหนึ่งในแคว้นอัตติกะ (Attica) ตั้งภูมิลำเนาก่อสร้างบ้านเรือน ขึ้นเป็นนครอันสวยงามนครหนึ่ง เทพทั้งปวงเฝ้าดูงานสร้างเมืองนี้ด้วยความเลื่อมใสยิ่ง ในที่สุดเมื่อเห็นว่าเมืองมีเค้าจะกลายเป็นนครอันน่าอยู่ขึ้นมาแล้ว เทพแต่ละองค์ต่างก็แสดงความปรารถนาใคร่จะได้เอกสิทธิ์ประสาทชื่อนคร จึงประชุมกันถกถึงเรื่องนี้ เมื่อมีการอภิปรายโต้แย้งกันพอสมควรแล้ว เทพส่วนใหญ่ในที่ประชุมก็พากันยอมสละสิทธิ์ คงเหลือแต่เทพโปเซดอนและเทวีอาเธน่า 2 องค์เท่านั้นยังแก่งแย่งกันอยู่


เพื่อยุติปัญหาว่าใครควรจะได้เอกสิทธิ์ประสาทชื่อนคร เทพปริณายกซูสไม่พึงประสงค์จะชี้ขาดโดยอำนาจตุลาการที่ไท้เธอจะพึงใช้ได้ด้วยเกรงว่าจะเป็นที่ครหาว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไท้เธอจึงมีเทวโองการว่านครนั้นพึงอยู่ในความคุ้มครองของเทพหรือเทวี ซึ่งสามารถเนรมิตของที่มีประโยชน์ที่สุดให้มนุษย์ใช้ได้ และมอบหน้าที่ตัดสินชี้ขาดให้แก่ที่ประชุม


เทพโปเซดอนเป็นฝ่ายเนรมิตก่อน เธอยกตรีศูลคู่หัตถ์ขึ้นกระแทกลงกับพื้น บันดาลให้มีม้าลำยองตัวหนึ่งผุดขึ้นท่ามกลางเสียงแสดงความพิศวงและชื่นชมของเหล่าเทพ เมื่อเทพผู้เนรมิตม้าอธิบายคุณประโยชน์ของม้าให้เป็นที่ตระหนักแก่เทพทั้งปวงแล้ว เทพต่างองค์ต่างก็คิดเห็นว่า เทวีอาเธน่าคงไม่สามารถเอาชนะเนปจูนเสียเป็นแน่แล้ว ถึงกับพากันแย้มศรวลด้วยเสียงอันดังแกมเย้ยหยันเอาเสียด้วย   ...    เมื่อเจ้าแม่อาเธน่าเนรมิตต้นมะกอกต้นหนึ่งขึ้นมา แต่ครั้นเจ้าแม่อธิบายถึงคุณประโยชน์ของต้นมะกอกที่มนุษย์จะเอาไปใช้ได้นานัปการนับตั้งแต่ใช้เนื้อไม้ ผล กิ่งก้าน ไปจนใบ กับซ้ำว่ามะกอกยังเป็นเครื่องหมายถึงสันติภาพและความรุ่งเรืองวัฒนาอีกด้วย และเพราะฉะนั้นจึงเป็นที่พึงประสงค์ยิ่งกว่าม้าซึ่งเป็นเครื่องหมายของสงครามดังนี้ มวลเทพก็เห็นพ้องต้องกันว่า ของที่เจ้าแม่อาเธน่าเนรมิตมีประโยชน์กว่า จึงลงมติตัดสินชี้ขาดให้เจ้าแม่เป็นฝ่ายชนะ




เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงชัยชนะครั้งนี้ เจ้าแม่อาเธน่าได้ประสาทชื่อนครนั้น ตามนามของเจ้าแม่เองว่า เอเธนส์ (Athens) และสืบจากนั้นมาชาวกรุงเอเธนส์ก็นับถือบูชาเจ้าแม่ในฐานะเทวีผู้ปกครองนครของเขาอย่างแน่นแฟ้น




ตามที่อ่านกันมานั้นเห็นได้ว่าเรื่องนี้ใช่จะแสดงตำนานที่มาของชื่อกรุงเอเธนส์เท่านั้นไม่ หากยังเป็นตำนานกำเนิดของม้าในเทพปกรณัมกรีก และเป็นต้นเรื่องของการที่ชาวตะวันตกถือว่า ช่อมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพสืบๆ กันมาจนตราบทุกวันนี้


ยังมีอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเทวีอาเธน่า แสดงที่มาหรือกำเนิดของสิ่งธรรมชาติสนองความอยากรู้ของคนโบราณดังจะ เล่าต่อไปนี้


ในประเทศกรีซสมัยดึกดำบรรพกาลโพ้น มีดรุณีน้อยคนหนึ่งประกอบด้วยรูปโฉมสะคราญตาน่าพิสมัยยิ่งจนถึงแก่ว่าถ้านางไม่มีความหยิ่งผยองในฝีมือทอผ้าและปั่นด้ายเป็นยอดเยี่ยมเสียอย่างเดียวเท่านั้น นางก็คงจะเป็นที่รักของเทพและมนุษย์ทั้งมวลอย่างไม่ต้องสงสัย


แน่งน้อยผู้นี้มีชื่อว่า อาแรคนี (Arachne) ด้วยความลุ่มหลงทะนงตนนางสำคัญว่าไม่มีผู้ใดอีกแล้วจะมี ฝีมือเสมอกับนาง ในที่สุดจึงกำเริบถึงแก่คุยฟุ้งเฟื่องไปว่า ถึงเจ้าแม่อาเธน่าจะลงมาประกวดฝีมือกับเธอ นางก็ยินดีจะขันสู้ไม่รอช้าเลย นางโอ้อวดดังนี้เนืองๆ จนเจ้าแม่อาเธน่าสุดแสนจะทนรำคาญต่อไปได้ต้องลงมาจากเขาโอลิมปัสเพื่อลงโทษนางอาแรคนีมิให้ ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่างสืบไป


เจ้าแม่จำแลงองค์เป็นยายแก่เดินเข้าไปในบ้านของนางอาแรคนีและนั่งลงชวนคุย ชั่วประเดี๋ยวเดียวนางแน่งน้อยก็จับคุยถึงฝีมือตนและเริ่มโวเรื่องจะแข่งขัน ประกวดฝีมือกับเจ้าแม่อาเธน่าอีก เจ้าแม่ตักเตือนโดยละม่อมให้นางยับยั้งคำไว้เสียบ้าง เกลือกว่าคำของนางซึ่งพูดเอาเองเป็นเหตุให้เทพเจ้าขัดเคืองจะทำให้นางเคราะห์ร้าย แต่นางอาแรคนี้มีจิตมืดมนมัวเมาไปในความทรนงตนเสียแล้วจนไม่แยแสต่อคำตักเตือน กลับพูดสำทับว่า นางอยากให้เจ้าแม่ได้ยินและลงมาท้าประกวดฝีมือเสียด้วยซ้ำ นางจะได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อพิสูจน์ว่า คำกล่าวอ้างของนางเป็นความจริงเพียงใด ไม่ใช่พูดเอาเอง คำหยาบหยามนี้ยั่วโมสะเจ้าแม่ถึงขีดสุด ถึงกับ สำแดงองค์ให้ปรากฏแก่อาแรคนีตามจริงและรับคำท้านั้นทันที


ทั้ง 2 ฝ่ายจัดแจงตั้งหูก แล้วต่างฝ่ายต่างทอลายผ้าอันงามวิจิตรขึ้น เทวีอาเธน่าเลือกเอาภาพตอนเจ้าแม่แข่งขันกับเทพโปเซดอน ส่วนนางอาแรคนีเลือกเอาภาพซูสลักพานางยูโรปาเป็นลาย ครั้นทอเสร็จ ต่างฝ่ายต่างเอาลายผ้ามาเทียบเคียงกัน สาวเจ้าอาแรคนีรู้สึกทันทีว่าของนางแพ้หลุดลุ่ย ลายรูปโคโลดแล่นลุยไปในทะเล มีคลื่นซัดสาดออกเป็นฟองฝอย กับนางยูโรปาเกาะเขาอยู่ดูอาการกึ่งยิ้มกึ่งตกใจประกอบด้วยเกศาและผ้าสไบปลิวสยายด้วยแรงลมไม่สามารถจะเทียบกับลายรูปชมรมทวยเทพพร้อมด้วยรูปม้าและต้นมะกอกเนรมิต ซึ่งดูประหนึ่งมีชีวิตกระดุกกระดิกได้นั้นเลย อาแรคนีแน่งน้อยเสียใจนัก ทั้งเจ็บทั้งอายในความผิดพลาดของตนไม่อาจทนอยู่ได้ เอาเชือกผูกคอหมายจะแขวนตัวตาย เจ้าแม่อาเธน่าเห็นนางจะด่วนหนีโทษทัณฑ์ไปดังนั้น จึงรีบแปรเปลี่ยนร่างของนางให้กลายเป็นแมงมุมห้อยโหนโตงเตง กับสาปนางให้ต้องปั่นและทอใยเรื่อยไปไม่มีเวลาหยุด เป็นการเตือนมนุษย์ผู้ทรนงทั้งปวงมิให้หลงไปว่าตนอาจจะเทียมเทพไดเป็นอันขาด




ตามปกติเทวีอาเธน่าประทับอยู่เคียงข้างซูสเทพบิดามิได้ขาด ด้วยซูสมักจะโปรดหารือฟังความเห็น คำแนะนำอันแยบคายของเจ้าแม่เนืองๆ ยามมีศึกสงครามเกิดขึ้นในโลก เจ้าแม่ขอประทานยืมโล่อันพึงสยบสยอนของเทพบิดาสะพายลงมาสนับสนุนฝ่ายที่มีเหตุผลอันชอบธรรมในการสงครามเป็นนิตย์ ดังเช่นสงครามกรุงทรอยอันลือลั่นนั้น อาเธน่าก็เข้าร่วมด้วย โดยยืนอยู่ข้างฝ่ายกรีก ในขณะที่เทพองค์อื่นๆ เช่น เทวีอโฟร์ไดท์กับเทพเอเรสเข้าข้างฝ่ายทรอย เรื่องราวความสามารถในการสงครามของเทวีอาเธน่า จึงทำให้เจ้าแม่กลายเป็นเทวีอุปถัมภ์ของบรรดานักรบอีกอย่างหนึ่งด้วย วีรบุรุษคนสำคัญๆ จะไม่เกิดขึ้น หากขาดความช่วยเหลือของเจ้าแม่ อาเธน่าเคยช่วยเฮอร์คิวลิส ในการทำงาน 12 อย่างตามคำสั่งของเทวีฮีร่า เคยช่วยเปอร์เซอุสสังหารนางการ์กอนเมดูซ่า ช่วยโอดีสซีอุส (หรือยูลิซิส) ให้เดินทางกลับบ้านจากยุทธภูมิทรอยอย่างปลอดภัย กับทั้งยังช่วยเหลือเตเลมาคัส บุตรชายของโอดีสซีอุส ให้ตามหาพ่อจนสำเร็จ



ชาวกรีกนับถือเจ้าแม่อย่างแพร่หลายอยู่มาก ถึงกับสร้างวิหารและที่บูชาอุทิศถวายเจ้าแม่ไว้ เป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วน ที่มีชื่อเสียงที่สุดได้แก่ วิหารพาร์เธนอน ณ กรุงเอเธนส์ ซึ่งเดี๋ยวนี้เหลือ แต่ซาก แต่ก็ยังมีเค้าของฝีมือก่อสร้าง อย่างวิจิตรพิสดารปรากฏอยู่ให้เห็น




นอกจากชื่ออาเธน่าหรือมิเนอร์วาแล้ว ชาวกรีกและโรมันยังรู้จักเจ้าแม่ในชื่ออื่นๆ อีกหลายชื่อ ในจำนวนนี้มีชื่อที่แพร่หลายกว่าเพื่อนได้แก่ พัลลัส (Pallas) จนบางทีเขาเรียกควบกับชื่อเดิมว่า พัลลัสอาเธน่า ก็มี


ว่ากันว่า มูลเหตุของชื่อนี้สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมตอนเจ้าแม่ปราบยักษ์ชื่อ พัลลัส ซึ่งไม่ปรากฏตำนานชัดแจ้ง อาศัยเหตุที่เจ้าแม่ถลกหนังยักษ์มาคลุมองค์ คนทั้งหลายเลยพลอย เรียกเจ้าแม่ในชื่อของยักษ์นั้นด้วย และเรียกรูปประติมาหรืออนุสาวรีย์อันเป็นเครื่องหมายถึงเจ้าแม่ว่า พัลเลเดียม (Palladium) ในที่สุดคำว่า Palladium ก็มีที่ใช้ในภาษาอังกฤษถึงภาวะหรือ ปัจจัยที่อำนวยความคุ้มครองหรือความปลอดภัยให้เกิดแก่ชุมชน ทำนอง Palladium ที่ชาวโรมัน อารักขาไว้ในวิหารเวสตาฉะนั้น


เกี่ยวกับการครองความบริสุทธิ์ของเจ้าแม่ มีเรื่องเล่าว่า เทพฮีฟีสทัส หมายปองเจ้าแม่ใคร่จะได้วิวาห์ด้วย ได้ทูลขอต่อเทพบิดา เทพบิดาประทานโปรดอนุญาต แต่ให้ฮีฟีทัสทาบทามความสมัครใจของเจ้าแม่เอาเอง เทพฮีฟีทัสไปทำรุ่มร่ามเข้าอย่างไรไม่ปรากฏ เจ้าแม่จึงไม่เออออด้วย ในที่สุดฮีฟีสทัสก็เดินแบบเจ้าชู้ยักษ์ หมายจะรวบรัด ในระหว่างการฉุกละหุกอุตลุดนั้นของไม่บริสุทธิ์ของฮีฟีทัสตกลงมายังพื้นโลก เป็นเหตุให้เกิดทารกผุดขึ้นมาเป็นเพศชาย เจ้าแม่รอดพ้นมลทินแปดเปื้อน แต่รับทารกไว้ในปกครอง เอาทารกบรรจุหีบให้งูเฝ้าและฝากไว้ให้ลูกสาวท้าวซีครอปส์ดูแล โดยห้ามเด็ดขาดมิให้เปิดหีบดู แต่ลูกสาวท้าวซีครอปส์ไม่เชื่อฟัง พยายามจะเปิดหีบ ครั้นเห็นงูเข้าก็ตกใจวิ่งหนีตกเขาตาย ทารกนั้นได้ขนานชื่อว่า อิริคโธเนียส (Erichthonius) และดำรงชีวิตอยู่สืบมาจนภายหลังได้ครองกรุงเอเธนส์




ส่วนเจ้าแม่อาเธน่าก็ไม่ได้รับการเกี้ยวพานของเทพองค์หนึ่งองค์ใดอีกต่อไปตั้งแต่บัดนั้น แม้ว่าจะมีบางตำนาน กล่าวว่าอาเธน่าเคยแอบรักบุรุษรูปงามคนหนึ่งชื่อว่า เบลเลอโรฟอน จนถึงกับเอาอานม้าทองคำมาให้เขาในความฝัน เนื่องจากเบลเลอโรฟอนต้องการขี่ม้าวิเศษเปกาซัส 



แต่ไม่ปรากฏว่าเจ้าแม่ได้สานเรื่องราวระหว่างเจ้าแม่กับเบลเลอโรฟอนต่อไปแต่อย่างใด แต่ทว่าบุรุษหนุ่มผู้นั้นเสียอีกที่เกิดตกม้าตายในตอนหลัง


.

.

เทวีอาเธน่ามีต้นโอลีฟเป็นพฤกษาประจำตัว และนกฮูกเป็นนกคู่ใจ







Create Date : 04 กรกฎาคม 2557
Last Update : 6 กรกฎาคม 2557 21:46:10 น. 7 comments
Counter : 2891 Pageviews.  
 
 
 
 



 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 4 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:15:43 น.  

 
 
 
ตำนานเทพกรีก : ตอนที่ 17 เทพีเฮร่า (Hera)





เฮร่า (Hera) หรือภาษาโรมันว่า จูโน (Juno) เป็นราชินีของเทพธิดาทั้งหลาย เพราะเป็นชายาของซูส


เฮร่าเป็นธิดาองค์ใหญ่ของเทพไทแทนโครนัสกับเทพมารดารีอา ต่อมาในตอนหลังได้อภิเษกสมรสกับซูส เทพบดีอนุชาของนาง ทำให้นางกลายเป็นราชินีสูงที่สุดในสวรรค์ชั้นโอลิมปัสที่ไม่ว่าผู้ใดก็คร้ามเกรง


เทวีเฮร่าไม่ชอบนิสัยเจ้าชู้ของซูส ด้วยเหตุที่ซูสเป็นคนเจ้าชู้ ทำให้เฮร่ากลายเป็นคนขี้หึงและคอยลงโทษหรือพยาบาทคนที่มาเป็นภรรยาน้อยของซูสอยู่เสมอ


เมื่อแรกที่ซูสขอแต่งงานด้วยเฮร่าปฏิเสธ และปฏิเสธเรื่อยมาจนถึง 300 ปี วันหนึ่งซูสคิดทำอุบายปลอมตัวเป็นนกกาเหว่าเปียกพายุฝนไปเกาะที่หน้าต่าง เฮร่าสงสารก็เลยจับนกมาลูบขนพร้อมกับพูดว่า “ฉันรักเธอ” ทันใดนั้นซูสก็กลายร่างกลับคืนและบอกว่า เฮร่าต้องแต่งงานกับพระองค์


 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:20:24 น.  

 
 
 






แต่ทว่าชีวิตการครองคู่ของเทวีเฮร่ากับเทพปริณายกซูสไม่ค่อยราบรื่นเท่าใดนัก มักจะทะเละเบาะแว้งเป็นปากเสียงกันตลอดเวลา จนเป็นเหตุให้ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่า ในเวลาที่เกิดฟ้าคะนองดุเดือดขึ้นเมื่อไร นั่นคือสัญญาณว่าซูสกับเฮร่าต้องทะเลาะกันเป็นแน่ เพราะ 2 เทพนี้เป็นสัญลักษณ์ของสรวงสวรรค์ เมื่อท้องฟ้าเกิดอาเพศก็เหมาเอาว่าเป็นเพราะการขัดแย้งรุนแรงของ 2 เทพคู่นี้


แม้ว่าเทวีเฮร่ามีศักดิ์ศรีเป็นถึงราชินีแห่งสวรรค์ หรือเทพมารดาแทนรีอา แต่ความประพฤติและอุปนิสัยของเจ้าแม่ไม่อ่อนหวานมีเมตตาสมกับเป็นเทพมารดาเลย โดยประวัติของเจ้าแม่นั้นมีทั้งโหดร้าย ไร้เหตุผล เจ้าคิดเจ้าแค้นและอาฆาตพยาบาทจนถึงที่สุด ผู้ใดก็ตามที่ถูกเทวีเฮร่าอาฆาตไว้มักมีจุดจบที่ไม่สวยงามนัก


ว่ากันว่าชาวกรุงทรอยทั้งเมืองล่มจมลงไปเพราะเพลิงอาฆาตแค้นของเจ้าแม่เฮร่านี้เอง สาเหตุเกิดจากเจ้าชายปารีสแห่งทรอยไม่เลือกให้เจ้าแม่ชนะเลิศในการตัดสินความงาม ระหว่าง 3 เทวีแห่งสวรรค์ คือเทวีเฮร่า เทวีอาเธน่า และเทวี อโฟรไดท์


 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:25:40 น.  

 
 
 
รูปเขียนรูปสลักของชาวกรีกโบราณมักทำรูปของเจ้าแม่เฮร่า เป็นเทวีวัยสาวที่สวยสง่า ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น ว่ากันว่ามีคนหลงใหลความงามของเจ้าแม่จนคลั่งไคล้หลายคน โดยเฉพาะ อิกซิออน (Ixion) ราชาแห่งลาปิธี (Lapithae) ต่อมาถูกซูสเทพบดีลงโทษอย่างรุนแรง และบางทีอาจเป็นเพราะทรนงตนว่ามีสิริโฉมงดงามก็ได้ที่ทำให้เทวีเฮร่าเป็นเดือดเป็นแค้นนักที่สวามีปันใจให้สตรีอื่น จึงต้องราวีอย่างถึงที่สุดเสมอ ความร้ายกาจของเจ้าแม่ เคยถึงขนาดคิดปฏิวัติโค่นอำนาจของสวามีจนเกือบสัมฤทธิ์ผล


เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าแม่โกรธแค้นความไม่ซื่อสัตย์ของสวามีขึ้นมาอย่างเต็มกลืน จึงร่วมมือกับเทพโปเซดอนจ้าวสมุทรเชษฐาของซูสเองและเทพอพอลโลกับเทวีอาเธน่าด้วย ช่วยกันกลุ้มรุมจับองค์เทพซูสมัดพันธการไว้แน่นหนา จนเป็นเหตุให้เทพปริณายกซูสจวนเจียนจะสูญเสียอำนาจอยู่รำไร ก็พอดีชายาอีกองค์ของซูสนามว่า มีทิส (แปลว่าภูมิปัญญา) ได้นำผู้ช่วยเหลือมากู้สถานการณ์ทันเวลา โดยไปพาอาอีกีออน (Aegaeon) ซึ่งเป็นอสูรร้อยแขน


ที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงมาช่วยเหลือเทพบดีซูส อสูรตนนี้มีฤทธิ์อำนาจมากเสียจนเทพเทวาน้อยใหญ่ต้องยอมศิโรราบไปตามๆ กัน เมื่ออาอีกีออนมาแก้ไขให้ซูส และนั่งเฝ้าอยู่ข้างบัลลังก์ของไท้เธอ บรรดาผู้คิดกบฏปฎิวัติก็หน้าม่อย ชวนกันหนีหน้าไปหมด แผนการณ์จึงล้มครืนด้วยประการฉะนี้


 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:31:22 น.  

 
 
 
องค์เทพซูสเองก็เคยร้ายกาจกับราชินีเทวีเฮร่าเหมือนกัน ทรงลงโทษลงทัณฑ์แก่เจ้าแม่อย่างไม่ไว้หน้าอยู่บ่อยๆ นอกจากทุบตีอย่างรุนแรงแล้ว ไท้เธอยังใส่โซ่ตรวนที่บาทของเจ้าแม่ กับผูกข้อหัตถ์และพาหาติดกันมัดโยงโตงเตงอยู่บนท้องฟ้า จนเป็นเหตุให้เกิดตำนานเกี่ยวกับเทพ ฮีฟีสทัส ขึ้นมาว่าจากการวิวาทครั้งนี้ เทพฮีฟีสทัสผู้เป็นโอรสเข้าขัดขวางมิให้พระบิดากระทำ รุนแรงแก่พระมารดา จึงซูสเทพบดีที่กำลังโกรธกริ้ว จับตัวฮีฟีสทัสขว้างลงมาจากสวรรค์ กลายเป็นเทพพิการไปเลย


เทวีเฮร่านอกจากขี้หึงแล้ว ยังช่างริษยามากอีกด้วย ครั้งหนึ่งเมื่อซูสทรงมีราชธิดานามว่า อาเธน่า ออกมาได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร ซึ่งกระโดดออกจากเศียรของไท้เธอเอง เจ้าแม่เฮร่าก็ริษยายิ่งนัก ตรัสว่าเมื่อสวามีทรงมีกุมารีด้วยองค์เองได้ นางเองก็มีได้เช่นกัน ทว่าบุตรที่เกิดจากตัวเจ้าแม่เองนั้นกลับมิได้สะสวยเรืองฤทธิ์เช่นอาเธน่า แต่เป็นอสูรร้ายน่าเกลียดน่ากลัวยิ่ง (แต่บางตำนานกล่าวว่าบุตรที่จากเทวีเฮร่าก็คือ ฮีฟีทัสนั่นเอง) คืออสูร้ายไทฟีอัส (Typheus) ซึ่งผู้ใดเห็นก็หวาดกลัวเลยทำให้เทพปริณายกซูสกริ้วใหญ่ และการวิวาทบาดหมางก็เกิดขึ้นอีก



 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:37:37 น.  

 
 
 
เจ้าแม่เฮร่ามีโอรสธิดากับเทพบดีซูส 4 องค์ นามว่า ฮีบี (Hebe)อิลลิธธียา (Ilithyia) เอเรส (Ares) และฮีฟีสทัส (Hephaestus) เทพ 2 องค์หลัง นี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเทพเอเรส คือ เทพแห่งสงคราม








ส่วนเทพฮีฟีสทัส คือเทพถลุงเหล็กหรือเทพแห่งงานช่าง





แม้ว่าชีวิตสมรสของเจ้าแม่เฮร่าจะไม่ราบรื่นนัก แต่ในฐานะที่เป็นราชินีหรือเป็นมารดาแห่งสวรรค์ เฮร่าเป็นเทพที่คุ้มครองการแต่งงาน มีหลายครั้งที่เธอคอยดลใจให้วีรบุรุษได้แสดงความกล้าหาญ จึงทำให้เป็นที่เคารพนับถือในเขตโอลิมปัส เทวาลัยที่เป็นที่บูชาขนาดใหญ่ที่สุดของเทวีเฮร่าอยู่ที่เมืองอาร์กอสเรียกว่า เดอะ เฮร่าอีอุม (Heraeum)
สัญลักษณ์ของฮีร่าคือ วัว นกยูง และสิงโต พฤกษาประจำตัวของเจ้าแม่คือผลทับทิมและนกแขกเต้า


 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:44:34 น.  

 
 
 



 
 

โดย: เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:45:33 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]





[Add เดี๋ยวคืนนี้ลั๊นลาจะไปเข้าฝัน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com