Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
25 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-2 ฮานอย เดินทาง หาที่พัก

>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-1 สุวรรณภูมิ ดินแดนของพนักงานหน้า...<<<



ถึงสนามบินนอยไบ จนท.ขนกระเป๋ากันใหญ่ ตอนมาถึงท้องฟ้าไม่มีแดดเลย (ถึงประมาณเที่ยงกว่า) มีแต่เมฆแต่ฝนก็ไม่ตก แต่อากาศหนาวทีเดียว น่าจะไม่เกิน 15องศา


ลงเครื่องเสร็จก็ผ่านงวงช้างเข้าอาคาร เดินๆๆ แล้วก็มารอคิวผ่านตม. ระหว่างรอก็หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ซะหน่อย


เสร็จก็ไปรอเอากระเป๋าที่สายพาน จากนั้นก็ไปแลกเงินดอง จะมีธนาคารให้แลกเงินที่ใกล้กับทางที่เราออกมาอยู่สามธนาคารด้วยกัน แต่วันที่ไปเปิดอยู่แค่สองธนาคารคือ AGRIBANK


และ TECHCOMBANK


ส่วน Vietcombank ไม่เปิดวันที่ไป แต่เปิดในวันถัดไปที่ไปรับเพื่อนที่สนามบินนอยไบเลยถ่ายรูปมา อันนี้จะอยู่ไกลจากสอง bank แรกหน่อย


ที่AGRIBANK เงินดองหมด เลยจำเป็นต้องไปแลกอีกที่อย่างไม่มีทางเลือก แต่เรทเท่ากันอยู่ดี

เรทที่แลกได้คือ 15,949ดอง = 1 ดอลลาร์

ในขณะที่แลกเงินดอลก่อนมา 32.05บาท = 1 ดอลลาร์

แปลว่าประมาณ 500ดอง = 1 บาท (จริงๆ 497.63 ดอง=1บาท แต่เอาง่ายๆ คิดสะดวกๆ)

ที่ TECHCOMBANK จะไม่รับแลกดอลลาร์ที่เป็นเศษ 1 ดอล และไม่รับแลกดอลลาร์เป็นดองในบางโอกาส ไม่รู้ทำไม แต่รับแลกไทยบาทเป็นดองสะงั้นพนักงานก็น่าหมาไม่แพ้เจ๊นกแอร์และตม.ไทย ส่วน AGRIBANK และ Vietcombank สามารถแลกเศษดอลลาร์ พวก 1ดอลเป็นดองได้ เวลาแลกเงินเสร็จก็ควรนับที่เค้าเตอร์เลย เพื่อความชัวร์


หลังแลกเงินเสร็จเรียบร้อย ก็เดินออกมานอกอาคาร เดินไปทางขวา เดินไปเรื่อยๆ (ที่เห็นมีแดดในรูปนี้ถ่ายอีกวันที่มา)


จะมองเห็นคล้ายๆ อู่รถเมล์ที่จอดเรียงราย จะมี 2 สายคือ 7 และ 17


แต่เราต้องไปขึ้นรถเมล์ตรงใต้สะพานที่คนรอรถเมล์กันเยอะๆ (ใกล้ๆ กับอู่รถเมล์เลย)


เนื่องจากเราจะไปหาที่พักในเมืองแถว old quarter หรือ ข้าวสารฮานอย (ตั้งชื่อเองเลย) เราเลยจะขึ้นสาย 17 ซึ่งจะไปลงสุดสายที่ Long Bien ซึ่งใกล้กว่าสาย 7 ซึ่งจะไปลงที่ Kimma Bus Station ดูเส้นทางสายรถเมล์ได้ที่นี่ ที่หนามบินนอยไบจะไม่มีแผนที่แจกให้หยิบฟรีเหมือนประเทศเรา ดังนั้นต้องไปหาซื้อเอาเอง หรือไม่ก็ปริ้นท์เอาจากในเน็ตไป แผนที่ฮานอย


ออกเดินทางเข้าเมืองตอนบ่ายโมงนิดๆ ค่ารถเมล์แค่ 5,000ดองเท่านั้น หรือประมาณ 10บาท บนรถเมล์เราสามารถจ่ายแบ้งค์ใหญ่ให้เค้าทอนได้ แนะนำแบ้ง 50,000หรือ 100,000ดอง ได้เงินทอนครบถ้วนไม่มีมั่วนิ่ม และไม่มีการทำน่าหมาใส่(ตอนแลกเงินที่สนามบินมา ส่วนใหญ่จะเป็นแบ้ง 200,000ดอง ฉะนั้นควรแตกเป็นแบ้งย่อยในที่ๆ ปลอดภัยทอนชัวร์ดีกว่า)


ตอนนั่งบนรถเมล์จะอุ่นมาก เมื่อเทียบกะข้างนอกอันหนาวเหน็บ นั่งๆ ไปได้สักพักเด็กนักเรียนก็ขึ้นมาเต็มคัน ส่วนใหญ่ก็จะมีตั๋วเดือนที่เป็นสีฟ้าๆ กัน แต่ถ้าของผู้ใหญ่จะสีเขียวเข้มๆ สงสัยคงจะคนละราคา


มองไปทิวทัศน์รอบๆ บ้านเรือนทาสีเฉพาะฝั่งหน้าบ้านจริงๆ เหมือนที่ได้ยินมา ข้างๆก็ปล่อยสีปูนเปลือยๆ ไปทั้งอย่างนั้น (กระจกมัวมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา) มีม้ายืนกินหญ้าอยู่ข้างทางด้วย ทางที่นั่งมาถือว่าดีมาก เป็นถนนยางมะตอยเหมือนบ้านเรา แต่แถวสนามบินไม่เข้าใจว่าจะทำเนินลูกระนาดทำไมเยอะๆ ทั้งๆ ที่เค้าก็จำกัดความเร็วอยู่แล้ว บนรถเมล์ก็เปิดเพลงได้บรรยากาศโบราณมากๆ (เพลงเหมือนในหนังจีนยุคสงคราม) อาจจะคล้ายๆ การเปิดเพลงอีสานบนรถเมล์ แท๊กซี่บ้านเรา


เมื่อนั่งมาจนผ่านสะพานใหญ่ๆๆ ข้ามแม่น้ำ ก็จะใกล้เวลาได้ลง กระเป๋ารถเมล์ซึ่งเห็นเราน่าตาโง่ๆ ตั้งแต่ตอนขึ้น เค้าก็จะไล่เราลงเอง



ตอนลงรถจะมีพวกกลุ่มมอไซด์รับจ้างแทบจะอุ้มเราลงจากรถเมล์กันเลย เยอะมาก ดูน่ากลัวน่าตกใจ แต่จริงๆไม่มีอะไร พวกนี้ขำๆ พูดภาษาอังกฤษกันได้นิดหน่อย เน้นสื่อสารกันด้วยแบ้งล้วนๆ

ส่วนเรา ด้วยความแน่ว่าศึกษาข้อมูลมาอย่างดี แต่ก็ขอสอบถามราคาสะหน่อยเพื่อประดับความรู้ไว้ มอไซด์เรียกมา 2ดอล/คน เราส่ายหัวทันที
"No No No very expensive!! I will go by bus" พร้อมทำกระหยิ่มยิ้มย่องว่าแกไม่ได้ฟันชั้นหรอก ชั้นรู้ทางเวย สาย4มาพอดี เลยขึ้นอย่างว่อง มอไซด์พยายามตะโกนบอกอะไรเราสักอย่าง ไม่สนว้อยยยย


ขึ้นไปปั๊ป เห้ยไมไม่มาเก็บตัง แถมคนลงหมด เป๋ารถก็ไล่เราลงป้ายหน้าทันที เกิดอะไรขึ้นเนี่ย อ้อ ที่แท้มันสุดสายเค้า เป็นไปได้ยังไง (มารู้ทีหลังว่าขึ้นผิดฝั่ง ดูวิธีการอ่านป้ายรถเมล์ที่ฮานอย) ลงไปถึงก็เคว้งคว้างทันที แอบคิดในใจถึงมอไซด์เมื่อกี้ สงสัยพวกนั้นพยายามบอกเราว่าสายนี้มันขึ้นไม่ได้ สุดสายแล้ว เหอๆๆ


ก็ยืนคิดกะเพื่อนว่าสงสัยคงต้องนั่งมอไซด์ สักพักก็มีมอไซด์ขับมาสองคัน ไม่รู้อยู่ในกลุ่มเมื่อกี้เปล่า มาเสนอราคาอีก ขอ 1.5ดอล/คน เราก็ส่ายหัวตามสไตล์คนงก เอ้ย คนศึกษาข้อมูลมาอย่างดี ต่อไปต่อมาได้คนละ 10,000ดองไปที่ Prince57 ถนน Hang Be ก่อนโลด



เข้าไปสอบถามห้องพัก ขึ้นไปดู ก็เกิดอารมณ์ขี้เกียจไปหาที่พักอื่นทั้งๆ ที่ตั้งใจจะเดินหาห้องดูหลายๆที่ ห้องแคบไปหน่อยแต่ก็ดูใช้ได้ ก็เลยโอเค เอาที่นี่ก็ได้วะ ถูกดีด้วย 7เหรียญ/ห้อง/คืนเท่านั้น หารู้ไม่ว่าคืนนี้ฝันร้ายกำลังมาเยือน ก็ตกลงเอาห้องนี้ เค้าเอา passport เล่มจริงไป (จะให้สำเนาเค้าก็ไม่ยอม) แลกกะกุญแจห้องมา


ขึ้นห้องเสร็จก็โยนข้าวของทันที จึงไม่สามารถเก็บรูปห้องตอนยังไม่กองไปด้วยข้าวของได้ทัน เตียงนอนมีเตียงใหญ่เตียงนึงกะเตียงเล็ก ยกเตียงใหญ่ให้แม่ลูกอ่อนไป


มีทีวีที่แทบไม่ได้เปิดดู กะน้ำอัดลมและน้ำเปล่า ที่ไม่ฟรี


พัดลมแอร์ที่ไม่ได้ใช้งานเช่นกัน


ห้องน้ำแคบๆ ห่วยๆ ประตูพังมิพังแหล่


เก็บข้าวของ เข้าห้องน้ำเสร็จ ก็ลงมาซื้อตั๋วรถไฟข้างล่างด้านหน้าโรงแรม (เพราะเย็นวันพรุ่งนี้จะไปซาปา) ซึ่งเป็นส่วนที่เค้าขายทัวร์ ขายตั๋ว และขายห้องพักในเมืองอื่น


สอบถาม ต่อรองราคาไปมา สรุปได้ว่า ซื้อตั๋วรถไฟไปเลาไก ตู้นอน 4เตียง soft sleeper ของทูลิโก้ ไปกลับได้ราคา 44ดอลลาร์ /คน แล้วก็เลยจองห้องที่ Sapa Summit Hotel ไปด้วยเลย เพราะคาดว่าไปถึงก็จะขี้เกียจไปหาที่พักเหมือนตอนมาถึงฮานอย ได้ห้อง3คน เตียงใหญ่ 1 เตียงเล็ก 1 ราคา 18ดอลลาร์ รวม 150ดอลลาร์ ต่อราคาเล่นๆ ดู ได้ลดอีก 5เหรียญ เหลือ 145ดอล ตกลงราคาเสร็จก็รอเค้าโทรศัพท์จองตั๋วให้ ปรากฎว่าตู้ Tulico เต็มหมด (เป็นที่นิยมจริงๆ) เค้าเลยจัดให้ไปนั่งของเจ้าอื่น ซึ่งยืนยันกะเรามาว่า same standard เราก็ไม่มีทางเลือก เลยตกลง เค้าก็ออกใบรับเงินให้เรา ให้เราเอามารับตั๋วรถไฟพรุ่งนี้ตอนหกโมงเย็น จ่ายเงินเสร็จก็ออกไปหาอะไรกิน เพราะจะบ่าย4โมงได้แล้ว



>>>อ่านตอนต่อไป ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-3 ฮานอย กินๆ นอนๆ<<<



Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 22:35:07 น. 0 comments
Counter : 653 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SimVK
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคน
มีอะไรก็หลังไมค์มาได้^^
Friends' blogs
[Add SimVK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.