สัจจะนั้นมีเพียงหนึ่ง แต่หนทางรู้ซึ้งนั้นมีหลากหลาย...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ฉบับที่ 05 - การคุ้มครองทั่วไป


ฉบับที่ 5



  แด่ ผู้ใฝ่รู้ในวิชากฎหมายแรงงาน…



การคุ้มครองทั่วไป


   สิทธิในการได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายของลูกจ้าง
ลูกจ้างหรือทายาทของลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างเสียชีวิต  มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย  จากทนายความตามที่รัฐมนตรีแต่งตั้งโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรึกษา  ในกรณีที่มีการฟ้องร้องคดีเป็นข้อพิพาทเกิดขึ้น กฎหมายได้บัญญัติให้สิทธิในเรื่องนี้ ไว้ใน มาตรา 8 ดังนี้...
   “ให้รัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางนิติศาสตร์  เพื่อมีอำนาจฟ้องคดีหรือแก้ต่างคดีแรงงาน ให้แก่ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตาย และเมื่อกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมแจ้งให้ศาลทราบแล้ว ก็ให้มีอำนาจทำการได้จนคดีถึงที่สุด”
   ความจริงแล้ว ในเรื่องการการฟ้องคดีแรงงาน ลูกจ้างหรือนายจ้างอาจฟ้องหรือยื่นข้อต่อสู้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องจ้างทนายความก็ได้  แต่ในคดีที่มีข้อเท็จจริงซับซ้อน หากลูกจ้างผู้ช่วยเหลือก็จะเป็นการดีกว่า ในข้อนี้กฎหมายเล็งเห็นว่า โดยทั่วไปนายจ้างมีฐานะทางเศรษฐกิจเพียงพอที่จะจ้างทนายความได้เอง  แต่ลูกจ้างส่วนใหญ่ไม่มีทรัพย์เพียงพอที่จะว่าจ้างทนายความได้โดยไม่เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย ดังนั้นเจตนารมณ์ของกฎหมายมาตรานี้ก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกจ้างในคดีแรงงานนั่นเอง....


  ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
   ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้บัญญัติเรื่องความเสมอภาคของบุคคล เอาไว้ดังนี้...
   “มาตรา 30 บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน
     ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน...”
   ส่วนในกฎหมายคุ้มครองแรงงานนั้น ก็ได้ย้ำในเรื่องนี้อีกทีใน มาตรา 15 ว่า...
   “ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิงโดยเท่าเทียมกันในการจ้างงาน เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานไม่อาจปฏิบัติเช่นนั้นได้”
   แล้วยังอธิบายต่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกใน มาตรา 53 ว่า...
   “ในกรณีที่งานมีลักษณะและคุณภาพอย่างเดียวกันและปริมาณเท่ากัน  ให้นายจ้างกำหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด  และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าลูกจ้างนั้นจะเป็นชายหรือหญิง”
   ดังนี้ จะเห็นได้ว่ากฎหมายนั้นได้ให้ความสำคัญในเรื่องความเสมอภาคมากเลยทีเดียว เว้นแต่ในงานบางประเภทที่กฎหมายอนุญาตให้ไม่เท่าเทียมกันได้  เพราะงานชนิดนั้นอาจไม่เหมาะกับสภาพ หรือสรีระทางร่างกายที่แตกต่างกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง โดยที่การทำงานในลักษณะเดียวกันนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวลูกจ้างเองได้ เช่นการจำกัดลักษณะและประเภทงาน ของหญิงมีครรภ์ เป็นต้น...
   ผลของการที่นายจ้างเลือกปฏิบัติต่อลูกจ้าง อันเนื่องมาจากความแตกต่างทางเพศนั้น ถือเป็นความผิดและมีโทษทางอาญา คือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 146



   การนับระยะเวลาทำงาน
   ในส่วนของการนับระยะเวลาในการทำงานนั้น กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับนี้ ได้กล่าถึงเรื่องนี้เอาไว้ดังนี้...
   “มาตรา 19  เพื่อประโยชน์ในการคำนวณระยะเวลาการทำงานของลูกจ้างตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นับวันหยุด วันลา วันที่นายจ้างอนุญาตให้หยุดงานเพื่อประโยชน์ของลูกจ้าง และวันที่นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างหยุดงานเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง รวมเป็นระยะเวลาการทำงานของลูกจ้างด้วย”
   “มาตรา 20  การที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานติดต่อกันโดยนายจ้างมีเจตนาที่จะไม่ให้ลูกจ้างนั้นมีสิทธิใดตามพระราชบัญญัตินี้  ไม่ว่านายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานในหน้าที่ใด และการจ้างแต่ล่ะช่วงมีระยะเวลาห่างกันเท่าใดก็ตาม  ให้นับระยะเวลาการทำงานทุกช่วงเข้าด้วยกัน เพื่อประโยชน์ในการได้สิทธิของลูกจ้างนั้น”
   พิจารณาจากบทบัญญัติใน 2มาตราดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่ากฎหมายมีเจตนารมณ์ที่ประสงค์ให้นับระยะเวลาตั้งแต่เริ่มทำงาน รวมไปจนถึงวันที่เกิดสิทธิต่างๆที่ลูกจ้างพึงมีตามกฎหมายนี้ เช่นวันหยุดประเพณี วันลา สิทธิพักผ่อนประจำปี โดยไม่ต้องหักวันใดออก ทั้งนี้เป็นไปเพื่อการที่ลูกจ้างจะได้ใช้สิทธิต่างๆของตนเองอย่างที่ควรจะเป็น และป้องกันมิให้นายจ้างกระทำการโดยไม่สุจริต เช่นนับอายุงานของลูกจ้างไม่ต่อเนื่องกัน เพื่อเลี่ยงกฎหมายในการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง หรือจ่ายน้อยลง  ตามมาตรา 118 เป็นต้น...


 


 


รุ่งอรุณ ของวันที่สิบเอ็ด เดือนเจ็ด ปีห้าสาม
ท่านเคยตั้งคำถามบ้างไหมว่า…
“ดวงอาทิตย์ยามเช้า” และ “ดวงอาทิตย์ยามเย็น”
ช่วงเวลาไหน... ที่ดวงอาทิตย์ดูสวยกว่ากัน
ในเรื่องนี้  ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า....
ขึ้นอยู่กับว่าเรามองมันด้วยความรู้สึกแบบไหน
ถ้ามองด้วยความรู้สึกหิวข้าวอย่างในตอนนี้ล่ะก็.. น่ากินทั้งคู่


 


 


 


 






Free TextEditor


Create Date : 24 กรกฎาคม 2553
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 22:43:37 น. 0 comments
Counter : 980 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สหายกุนเชียง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]







บ่นเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
ครั้งที่ 60
ตอน - ความสุขของความรัก
.........คือการได้รัก

ทำไม? คนเราถึงอยากมีคนรัก
นั่นเพราะอยากมีความสุข
ในเมื่อที่การได้รักใครสักคน
มันก็ทำให้มีความสุขอยู่แล้ว
ทำไมจะต้องไปอยากรู้
หรือไปใส่ใจอะไรอีก 
ว่าใครรัก ใครไม่รัก
เขารักใคร ใครรักเขา ฯลฯ

กับหัวใจที่เต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ดวงนี้ 
มันดีแค่ไหนแล้ว ที่ยังใช้รักใครได้อยู่...

13/08/55







เพลงพวกนี้.........
ผมชอบทุกเพลงครับ
แต่ละเพลงฟังมานานแล้ว
และจะฟังต่อไปเรื่อยๆ
เพราะฟังกี่รอบๆ ก็ไม่เบื่อ
ว่างๆมานั่งฟังเป็นเพื่อนกันเถอะ
แล้วจะติดจาย~* ^___^



MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






free counters


Website counter

Friends' blogs
[Add สหายกุนเชียง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.