Bloggang.com : สหายกุนเชียง : ก. กล้วยปิ้ง ฉบับนักปรัชญา

ก. กล้วยปิ้ง ฉบับนักปรัชญา

ณ วันที่อากาศร้อนอบอ้าว ข้านั่งชมนกกระจอกจิกหวีกล้วยอยู่บนชานเรือน
ชั่วขณะที่สมองข้า กำลังโลดแล่นอยู่กับไตร่ตรองอยู่นั้นเอง
ข้าก็ได้เข้าใจความหมายของชีวิตอย่างถ่องแท้....
ชีวิตนั้นน่ะหรือ...? ข้าค้นพบว่า เรามีชีวิตอยู่ไม่ได้หากปราศจากอาหาร
ชีวิตมนุษย์เรา แท้จริงแล้วก็เช่นเดียวกับชีวิตนกกระจอกที่ข้านั่งมองดูอยู่นั่นเอง
ผู้ที่มีศิลปะการอยู่รอดได้อย่างสูงส่ง พึงใจจะละทิ้งทุกสิ่งในโลกให้แก่ผู้อื่น...
เพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดนที่ไร้ความตาย
นี่ไง ? อารมณ์ของผู้หลุดพ้น เป็นดังเช่น กล้วยหวีนั้นนั่นไง.....

เมื่อข้าถอดใจให้กับกิเลสอันไร้ที่สิ้นสุดของตนเอง...
ข้าก็รู้สึกตัวว่า ชีวิตข้าสู้กล้วยหวีเดียวก็ไม่ได้ ทว่าข้าทำลายมันได้.. ?

ดังนั้น.. ข้าจึงขอเสนออาหารจากธรรมชาติ ที่ผู้อยู่รอดได้สร้างสรรค์ขึ้น
ฝากไว้สักบริบทหนึ่ง ด้วยโวหารของข้าดังต่อไปนี้......

อันดับแรกนั้น สิ่งที่เจ้าต้องหามานั้นมีดังนี้..

- กล้วยน้ำว้า ผลแก่ๆ ประมาณ 10 ผล
ซึ่งข้าช่วงชิงเอาได้จากนกกระจอกที่ข้าเฝ้ามองดูอยู่นั้นเอง

- หัวกะทิ
อันนี้ข้าหาได้จากร้านขายของชำ

- น้ำตาลปึก หรือ น้ำตาลปี๊บ
น้ำตาลปึก อาจหายากหน่อย.. และมีราคาแพง
ข้าเลยพึงใจที่จะใช้น้ำตาลปี๊บแทน

- เนยชนิดที่ใช้ทาขนมปัง
สิ่งนี้เจ้าอาจหาได้จากเซเว่นอีเลฟเว่น

- เกลือป่น
เจ้าจะหามาจากไหนก็เรื่องของเจ้า แต่ข้าขโขมยมา :D

- น้ำตาลเชื่อม หรือน้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง อาจหายาก แต่ก็ยังพอหาได้
น้ำตาลเชื่อม หาง่าย แต่ก็ยุ่งยากในการทำ
ถึงเวลาที่เจ้าต้องตัดสินใจเลือกเองแล้ว

เมื่อเจ้าได้ทุกอย่างมาแล้ว ขั้นต่อไปก็เป็นวิถีแห่งการปิ้งกล้วย

ก่อนอื่น ข้าขอแนะนำให้เจ้าเผาถ่าน ไปใส่เตาอังโล้ไว้ก่อน
เพราะเมื่อเจ้าทำน้ำราดกล้วยเสร็จ เจ้าจะสามารถปิ้งกล้วยได้ทันท่วงที

ครรลองแห่งการทำน้ำราดกล้วยปิ้งนั้น
อันดับแรกขอให้เจ้าเอาน้ำตาลผสมกับน้ำตาลปี๊บ
เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนเข้ากันได้ดีก่อน....

จากนั้นให้เจ้าเอาน้ำเปล่า ที่ลอยด้วยดอกมะลิ ผสานเข้ากับหัวกะทิ และเกลือ
แล้วเทใส่น้ำตาลที่เจ้าได้เคี่ยวไว้ลงไป เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะพอใจ
เมื่อเจ้าพอใจแล้ว ก็เอาเนยชนิดที่ข้าได้กล่าวไว้แต่แรกใส่ลงตามไป....

เจ้าก็จะได้ น้ำราดกล้วยปิ้ง อันหอมหวาน และกลมกล่อม
กอปรด้วยคุณค่าทางจิตวิญญาน และโภชนาการอันเปี่ยมล้น ดังที่เห็นนี้...

จากนั้น ขั้นตอนต่อไปก็คือ มรรคาแห่งการปิ้งกล้วย....
ข้าพึงใจที่จะหั่นกล้วยออกเป็นชิ้นแต่พอคำ แล้วเสียบไม้ไว้ดังที่เจ้าเห็นนี้....
การปิ้งกล้วยนั้น ให้เจ้าหมั่นพลิกกล้วยกลับไปมา เพื่อไม่ให้กล้วยไหม้

กล้วยปิ้งหากไร้ความหวานแล้วไซร้ ก็เปรียบได้กับหนึ่งอิสตรีผู้ขาดความงาม
ดังนั้น ในขณะเวลาปิ้ง เจ้าควรหาน้ำผึ้ง หรือน้ำตาล ผสมน้ำมาประพรมไปด้วย

เมื่อปิ้งกล้วยจนสุกได้ที่แล้ว เจ้าควรทุบกล้วยสักเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อกล้วยนุ่ม...
แล้วจัดใส่จาน ตักเอาเอาน้ำราด มาราดจนท่วม.......
หากเจ้าชอบการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับข้า
เจ้าจะหาน้ำแข็งมาใส่สักหน่อย ก็เป็นเรื่องที่เจ้าต้องพิจารณาเอง

ข้าคงแนะนำพวกเจ้าได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือก็แล้วแต่พวกเจ้า
จะใคร่ครวญเอาเองว่าควร จะทำอะไรต่อไป...