<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 กรกฏาคม 2555
 

ประสบการณ์ชีวิตของ inflight catering คนนึง ตอนที่ 8

ร่ายซะยาวเกี่ยวกับรายละเอียดของงานก็เพื่อว่าท่านผู้อ่านหลายๆท่านที่ไม่คุ้นกับงานCatering จะได้พอนึกภาพออกนะครับทีนี้ผมจะเล่าประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาระหว่างที่ทำงานให้ทุกท่านได้อ่านกันอาจจะมีอะไรประหลาดๆมากกว่าที่ท่านผู้อ่านหลายๆคนจะนึกถึง บางอย่างขำบางอย่างเครียด ก็ปนๆกันไปนะครับ

My diary part I : เช็คอาหาร

เป็นกิจวัตรประจำวันของผม เช้ามาหลังจากลงชื่อเข้าทำงานแล้วผมจะต้องเช็คตารางงานประจำวันของตัวเอง ว่าแต่ละวันนั้นผมจะต้องทำงานกับสายการบินอะไร เที่ยวบินไหนบ้างซึ่งตารางงานตัวนี้จะเปลี่ยนทุกวันตามการจัดของSupervisor(ต่อไปผมขอย่อว่า supv.นะครับ)ซึ่งเฉลี่ยแต่ละวันตกประมาณ 3-4 เที่ยวบินครับ

หลังจากเช็คตารางงานแล้ว หน้าที่ต่อมาคือการเช็คกระดานDiary flight movement หรือกระดานที่แสดงข้อมูลการสั่งอาหารจากสายการบินซึ่งบนกระดานนี้จะระบุFlt.number,เวลาที่เครื่องจะมาถึง, เวลาเครื่องออก, รุ่นเครื่องบิน, ทะเบียนเครื่องบิน(ทำไมต้องบอกทะเบียนเดี๋ยวผมจะบอกในตอนต่อๆไปครับ), จำนวนอาหารชั้นเฟิร์สคลาสชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด,จำนวนอาหารพิเศษ(SPML) และรายการสั่งของอื่นๆที่นอกเหนือจากของปรกติซึ่งผมจะต้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปเพื่อเช็คของและอาหารต่างๆที่จะต้องนำไปส่ง


*กระดาน Diary flight movement ครับ

จากนั้นผมต้องเดินไปเช็คอาหารภายในห้องเย็น(Chiller)ครับ ที่นั่น ถาดอาหาร อาหารร้อน ขนมปัง ไอศครีมและทุกๆอย่างที่เป็นอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้โดยแผนกครัวร้อนและครัวเย็นเรียบร้อยแล้วจะถูกนำมาแช่รักษาอุณหภูมิไว้โดยแยกเอาไว้เป็นแถวๆตามแต่ละสายการบินครับ


*การเช็คอาหารในห้องเย็นครับ มันหนาว เลยต้องใส่กันซะหนาเลย

โดยมากไฟลท์แรกของผมนั้นจะเป็นเที่ยวบินที่มาจากภูมิภาคตะวันออกกลางครับจากประเทศมหาเศรษฐีน้ำมันประเทศหนึ่งของโลก และสายการบินดังกล่าวก็จัดอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกอยู่เหมือนกัน

 

ดังนั้นเมื่อสายการบิน'ไฮโซ' อาหารการกินนั้นก็ต้อง'ไฮโซ'ตามไปด้วยให้สมกับราคาค่าโดยสารแพงลิบลิ่ว ภาระจึงมาตกอยู่ที่FSOอย่างผม เพราะรายการอาหารเพียงแค่มื้อเช้าซึ่งจัดเป็นอาหารเบาๆนั้น มากมายก่ายกองทีเดียว เช่น ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ 1 คนจะได้รับแชมเปญทันทีที่ขึ้นนั่งบนเครื่องจากนั้นก็เป็นชาหรือกาแฟพร้อมด้วยครัวซองต์ ต่อด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยที่เรียกว่าAppetizerจานเล็กๆ แล้วจึงถึงคิวอาหารมื้อหลักซึ่งแบ่งเป็นสามตัวเลือก เช่นเนื้อ ไก่ ปลา เสร็จจากจานหลักก็เป็นของหวานจำพวกผลไม้ราดแยมหรือน้ำราดบางชนิดปิดท้ายด้วยไอศครีม .....นี่ 1คนนะครับ

นอกจากจะมีชนิดอาหารเยอะแล้ว จำนวนของอาหารจะโหลดตามสัดส่วน(Ratio)ที่คำนวนมาแล้วโดยสายการบินว่าอาหารชนิดใดคนทานมาก ทานน้อย ก็จะโหลดกันตามนั้น เช่นแชมเปญ 1 ขวดต่อผู้โดยสาร 12 คน, ครัวซองต์โหลด100เปอร์เซนต์หรือเท่าจำนวนผู้โดยสารเช่นเดียวกับ appetizerและของหวาน, อาหารร้อนสอมตัวเลือกแบ่งเป็นเนื้อ40เปอร์เซนต์ ไก่ 40เปอร์เซนต์ และปลา 30เปอร์เซนต์ รวมเป็น 110เปอร์เซนต์ ซึ่งผมจะต้องเช็คอาหารแต่ละชนิดให้ถูกต้องตามสัดส่วนด้วย ซึ่งแน่นอนทั้งหมดนี่ไม่รวมกับอาหารพิเศษ(SPML)นะครับ


*น้องกำลังคำนวนจำนวนอาหารตามสัดส่วนครับ ต้องใช้เครื่องคิดเลขนิดหน่อย

ทั้งหมดที่ผมเล่ามานี่แค่เรื่องอาหารอย่างเดียวนะครับยังมีequipmentหรือของใช้ต่างๆที่ผมต้องเช็คอีกมาก ทั้งแก้ว ชามจาน ช้อนส้อม มีด กากาแฟ กาชา ที่เปิดขวด ฯลฯ

และเพราะรายละเอียดที่มากมายทำให้บางครั้งพวกเราจะเกิดอาการ'เช็คของหลุด' หรือลืมนู่นลืมนี่กันบ่อยๆ ตัวผมเองเคยลืมชนิดคอแทบขาดครั้งหนึ่งสมัยที่เพิ่งเริ่มงานใหม่ๆเนื่องจากวันนั้นเครื่องบินมาถึงเร็วกว่ากำหนดถึง 40 นาที ตัวผมที่ยังใหม่ในงานนี้เลยเกิดอาการ'ลน'ครับลนลานมากๆเพราะเช็คของไม่ทัน เครื่องจอดไปแล้วผมยังเช็คของไม่เสร็จเลยกว่าจะออกจากบริษัทได้ก็เครื่องลงมาได้20กว่านาทีแล้วพอไปถึงเครื่องก็โดนstaffสายการบินด่าซะเละ ทำงานไปหงุดหงิดไป

หลังจากวันนั้น 3วันก็มีจดหมายcomplainมาที่บริษัท ว่าไฟลท์ที่ผมไปทำวันนั้น 'ผมเอาครัวซองต์ของผู้โดยสารชั้นประหยัดไปส่งขาดไป110ที่!!!!' ถือว่าเป็นความผิดพลาดร้ายแรงเพราะลูกเรือในไฟลท์นั้นจะไม่สามารถหาของมาเสิร์ฟผู้โดยสารแทนได้หากเป็นทุกวันนี้ผมคงมีโทษถึงขั้นตักเตือนขั้นสุดท้ายเลยทีเดียวโชคดีว่าในตอนนั้นผมยังมีสถานะเป็น'ฝึกงาน'อยู่ ทางบริษัทจึงไม่เอาความอะไรมากมาย.....รอดตัวไป

และนั่นเป็นบทเรียนสำคัญที่สอนผมถึงความสำคัญของหน้าที่FSO ว่างานของเรานั้นล่อแหลมและเสี่ยงต่อความผิดพลาดเพียงใดหลังจากเหตุการณ์นั้น ผมใช้เวลาเช็คอาหารแต่ละไฟลต์นานขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำและเพื่อให้ตัวเองได้มีเวลาตรวจสอบรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างทั่วถึงแล้วก็ไม่มีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นกับผมอีกเลย




Create Date : 04 กรกฎาคม 2555
Last Update : 4 กรกฎาคม 2555 15:40:13 น. 0 comments
Counter : 3417 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Kwae
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




[Add Kwae's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com