ปิดเทอม พ่อถูกหักหลัง ความเงียบที่มาแทนเสียงหัวเราะ
Rudolph, the red-nosed reindeer

Rudolph, the red-nosed reindeer
had a very shiny nose.
And if you ever saw him,
you would even say it glows.

All of the other reindeer
used to laugh and call him names.
They never let poor Rudolph
join in any reindeer games.

Then one foggy Christmas Eve
Santa came to say:
"Rudolph with your nose so bright,
won't you guide my sleigh tonight?"

Then all the reindeer loved him
as they shouted out with glee,
Rudolph the red-nosed reindeer,
you'll go down in history!





คนเราจะเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนได้....จริงหรือ....
เราเคยถามตัวเองมาตลอด
กระทั่ง....คืนนั้น...มันเปลี่ยนเราไปเลย

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่าการกิน นอน เล่นเน็ต อ่านนิยาย เติบโตเป็นเด็กวัยรุ่นที่ไม่ค่อยจะเอาถ่าน มันเรียนได้ แต่ใช่ว่ามันจะมีชีวิตในโลกได้ มันก็ยังไม่รู้ตัวว่าต่อไปถ้าไม่มีพ่อแม่จะเป็นไง

อายุเข้าสิบเก้าได้เพียงห้าวัน ชีวิตของคนคนนี้ก็พลิกผัน
เราหัวเราะน้อยลงจริงๆ เรามองอะไรเครียดมากขึ้น

พ่อของเราโดนคนที่เคยเรียกว่า "เพื่อน" หักหลัง
มันเข้ามาป่วนบริษัท กับทีมงานของพ่อจนระส่ำระสาย

20 ธ.ค. ขณะที่เรา พ่อ แล้วก็เฮีย (ลูกของป้า) กำลังเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้าเฝ้ารับพระราชทานของที่ระลึกจากสมเด็จพระเทพฯ มีโทรศัพท์เข้าเครื่องพ่อ เป็น (นัง)เจี๊ยบ คนในบริษัทที่พ่อไปติดต่อเช่าเวลาทำรายการ โทรมาขอใช้อุปกรณ์ถ่ายทำราคาร่วมล้านๆ ที่มีทั้ง กล้อง สวิตเชอร์ ไปจนถึงคอมพิวเตอร์จากพ่อเรา ซึ่งแน่นอน พ่อต้องไม่ให้เพราะถ้ามันเสียหายไปโดยมือของคนที่อ้างว่า ใช้เป็น
เอาไปทำรายการของจอห์น นูโว
พ่อเราอธิบายดีๆ เสียงเย็นๆไปว่า "คนของผมมีออกกองถ่าย และติดธุระตัดงาน ผมคงให้เขาไปทำให้ไม่ได้"
นังเจี๊ยบก็เริ่มขึ้นเสียงใส่พ่อเรา เริ่มด่าแรงๆ มันน่าเกลียดมาก ตัวเองไม่ได้มีฐานะที่จะมาทำอะไรพ่อเราที่ถือเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ แต่นังผู้หญิงฮิสทีเรียมันก็ระดมด่าพ่อเราเสียๆหายๆ
เราบอกพ่อว่าให้ส่งพี่อีกคนไปคุมของไว้ไม่ให้นังเจี๊ยบไปยุ่งกับของของบริษัทเราที่เก็บไว้ที่ห้องส่งนั่น

วันที่ 20 ไอ้คนที่ชื่อ นัท คนที่เคยเดินตามเจ้านายตัวเองต้อยๆๆๆ จากไอ้คนที่ไม่มีอะไรเลย จนมันเริ่มมีความดังจากรายการ บทที่พ่อวางให้ มุมกล้อง สร้างจนมันมีคนติดตาม ไอ้เวรที่จ้องจะใช้โอกาสหลอกลวงคน ตราหน้ามันไว้เลยนะ นัท รายการเปิดโลกพยากรณ์กับไอ้หมอเต่า ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนชื่อรายการเป็นอะไร ใครที่ไปติดต่อ หรือจะดูดวงรายการมัน จำไว้ มันหลอกลวง เงินค่าเช่าเวลาจากพ่อเรามันก็จ่ายไม่ครบ แล้วมันยังมาพูดปลุกปั่นลูกน้องพ่อเราจะให้ไปอยู่กับมัน

มันพูดว่า มันยึดรายการยึดช่องแล้ว ต่อไปมันจะมาทำเอง ได้เงินกว่า โฆษณาอะไรก็ให้ติดต่อที่มันนะ

ไอ้นี่ตอแหล มันหลอก มันโกงคนอื่นมาต่างหาก

วันที่21 เฮียเราต้องห้อรถกลับกรุงเทพฯด่วน เพราะมีFAXจากนังเจี๊ยบ อ้างว่าพ่อเราติดหนี้บริษัทมันสามแสน ทั้งที่พ่อเราชำระเงินตามอัตราที่ตกลงไว้แล้ว

มันล็อกไม่ให้พนักงานและพิธีกรเข้าไปทำรายการสด ขู่ให้นำเงินสามแสน เป็นเงินสดมาจ่ายมิฉะนั้นก็ห้ามเคลื่อนย้ายของออก

ตอนนั้นเองที่เราตระหนักว่าพ่อกำลังเจออะไร แล้วเราทำอะไรไม่ได้เลย เราช่วยพ่อแทบไม่ได้ เห็นสีหน้าเครียดๆของพ่อ ที่พยายามหันมายิ้มกับเรา ตอนบอกเฮียว่า
"พาน้องกลับบ้าน" ทั้งเราและเฮียก็ไม่อยากทิ้งพ่อให้เข้าไปเจรจาอย่างนั้น

หลานชายของพ่อที่ทำงานเป็นช่างกล้อง โทรเข้าเครื่องเฮียบอกว่า
"บอกอากู๋ให้เก็บของกลับเหอะ"

พ่อเริ่มโทรหาสายสัมพันธ์ที่จำเป็น เริ่มเงียบเพื่อวางเกมตอบโต้ โทรหาเพื่อนที่สามารถช่วยได้ แล้วพ่อก็หันมาบอกเฮียอีกให้รีบพาเรากลับบ้าน พ่อจะกลับพร้อมหลานพ่อ ไม่ต้องห่วง

จู่ๆเฮียก็ถามเราว่า
"เราเคยรู้สึกไหมว่า ถ้าวันนึงไม่มีพ่อแม่แล้วเราจะอยู่อย่างไร"

เรากลั้นน้ำตาไม่ไหวแล้ว.....เราร้องไห้อย่างไม่อายพี่ชายเลย
"วันนี้หนูช่วยพ่อไม่ได้เลย หนูทำอะไรไม่ได้เลยเฮีย"
เฮียก็ตกใจที่เราร้องไห้ เฮียเป็นคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด อายุจะสี่สิบแล้ว เป็นเหมือนพ่ออีกคนของเรา เฮียก็บอกว่าไม่ต้องเครียดมากหรอก แล้วเฮียก็เริ่มสอนว่า เราควรจะเปลี่ยนตัวเองได้แล้ว

ถึงเวลาที่เราต้องรู้แล้วว่าพ่อเราลำบากแค่ไหน พ่อลงแรงแค่ไหนเพื่อสร้างกิจการให้เราได้มาบริหารต่อ

ตลอดมาเราก็กดดันเหมือนกันที่เราเป็นลูกคนเดียว แล้วก็เป็นลูกสาว นิสัยเราก็ไม่ใช่คนรับผิดชอบ แต่ถ้าวันหนึ่งเราต้องก้าวขึ้นมาดูแลงานต่อจากพ่อ โดยที่ไม่มีใครคอยพยุงล่ะ?

เราจะรักษาสิ่งที่พ่อรักเอาไว้ได้ไหม

เราเห็นพ่อต้องโดนหักหลัง โดนแกล้ง เราไม่อยากเห็นพ่อเป็นแบบนี้

สิ่งหนึ่งที่เราตั้งใจอยากทำให้พ่อที่สุดคือไม่ทำให้พ่อต้องผิดหวัง พ่อต้องกู้สถานการณ์ได้ เราก็พยายามเรียนรู้วิธีการทำงานที่ "ดี"กว่าพ่อ

เราจะรอบคอบไม่ไว้ใจใครง่ายๆ แม้แต่เพื่อน
เราจะไม่คิดอะไรที่ง่ายๆ แต่จะต้องอ่านเกมและมองให้ลึก

เราจะไม่โกงใคร แต่จะไม่ปล่อยให้ใครมาโกงเรา

ออกมาจากที่สถานีนั่นได้แป้บเดียว หลานชายพ่อก็โทรมาบอกว่า โดนขังในอาคาร ออกไม่ได้ เอาของไม่ได้ ส่วนพ่อเราก็โดนขู่ห้ามเข้าไป แล้วก็เดินหายไปไหนไม่รู้ เฮียบอกให้พี่เขาโทรหาคนที่จะมาช่วยได้ แล้วก็นิ่งไปนาน...

เฮียไม่พาเรากลับบ้านทันที แต่พาไปนั่งสงบสติที่บ้านเฮีย เราเข้าไปนั่งเล่นกับหลานชาย

น้องสาวของเฮีย กับพี่สะใภ้ก็ทำกับข้าวแล้วเราก็นั่งคุยกัน เราขึ้นไปนอนคิดอะไรเงียบๆที่ชั้นบน แล้วก็ลงมากลิ้งเล่นกับหลานอีก มันกำลังน่ารักน่าหยิก ตีกลองปุ้งๆที่ป๊ามันซื้อมาฝากจากพิษณุโลก

เฮียเปิดข่าวในพระราชสำนักรอดูตอนที่รับของจากพระเทพฯ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงา เราก็หัวเราะออกมาได้


ไม่มีอะไรทำเราก็ไปนั่งเงียบๆเหมือนเดิม ในหัวก็มีแต่ความคิดว่าทำไมเราไม่ได้เกิดมาเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง และฉลาดกว่านี้

เราพบว่าตัวเองเรียนรู้งานของพ่อได้ช้ามาก เราอาจมีหัวด้านการเรียนภาษา แต่เรื่องงานพ่อเรายังช้ามาก

อีกอย่างเราเป็นคนตอบสนองอะไรช้า งี่เง่าด้วย ขี้เกียจอีกต่างหาก

เราทบทวนข้อเสียของตัวเอง....เยอะไปหมดจนเรากลัว

หากไม่มีใครช่วยเราวันนึง เราคงไปไม่รอด

แต่ที่เฮียพูดกับเราทำให้เราตื้นตันที่สุด

"ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็โทรหาเฮีย เรื่องค่าเรียนหรือหนังสือไม่พอก็บอกเฮียนะ เราเป็นพี่น้องกัน เราอยากเห็นน้องเราได้ดี เราจะไม่ทิ้งกันหรอก"

เราร้องไห้ไม่หยุดจนกระทั่งรถมาจอดที่หน้าบ้านเฮีย ก็ร้องไห้เป็นพักๆ จนกระทั่งตาเจ็บ

ก่อนไปส่งเราเฮียนั่งตรวจสัญญาซื้อขายของเรา แล้วก็หันมาบอกเราว่า

"จำไว้นะ ทำสัญญาน่ะต้องรัดกุม อย่าปล่อยช่องว่างให้เขาเอามาเล่นงานเรา"

เราก็ลุกขึ้น พี่สาวนึกว่าเราจะไปร้องไห้อีก ก็จับมือไว้ เราก็หันมาบอกว่า
"จะไปส้วม" (ปวดหนักว้อยยยย)

สามทุ่ม เฮียพาเรามาส่งบ้าน เราไหว้พระขอพรให้พ่อ แม่บอกว่ารายการได้ออกอากาศตามปกติแล้วนะ พ่อโทรมาบอกว่าทุกอย่างโอเคแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าโอเคแบบไหน

เฮียมาคุยกับแม่เรานาน (เฮียเรียกแม่เราว่าแม่ แต่จริงๆแม่เราเป็นน้าสะใภ้ ส่วนหลานชายพ่อจะเรียกพ่อเป็นอาเจ็ก คืออา) ปรึกษากันเรื่องต่างๆดึกทีเดียวกว่าเราที่ขึ้นมาก่อนจะได้ยินเสียงรถเฮียจากไป

พ่อกลับมาดึกมาก สีหน้าไม่ค่อยดี แต่ก็พยายามยิ้มกับเรา พ่อคุยโทรศัพท์มากขึ้น ติดต่อคนต่างๆ แม่ก็เครียดไปกับพ่อ ก่อนหน้านี้สองคนเขาทะเลาะกันไม่ยอมพูดหรือเจอหน้ากันด้วย แต่ตอนนี้ก็ต้องกลับมาคุยกันเพื่อแก้ปัญหา

วันที่22 เราตื่นเช้าแต่งตัวเตรียมจะไปทำงานกับพ่อ ช่วงนี้เราเริ่มตามหลังพ่อไปทำงานแล้ว แต่กว่าพ่อที่แต่งตัวเสร็จจะวางหูโทรศัพท์สุดท้ายก็ปาไปสิบเอ็ดโมงกว่า พ่อเข้ามาดูเราที่ทำกับข้าวในครัว บอกว่าจะไปข้างนอกเลย ไม่รอกิน พ่อบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไปกับพ่อหรอก เพราะพ่อนัดประชุม อยู่บ้านไปก่อนนะวันนี้

เราได้แต่พยักหน้า พ่อออกจากบ้านไป เราก็ไปนั่งเล่นกับหมา ..... แล้วก็คิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี

เราจะเป็นกำลังให้พ่อได้แค่ไหน

เราจะทำอะไรต่อไปในวันพรุ่งนี้??





Create Date : 24 ธันวาคม 2549
Last Update : 24 ธันวาคม 2549 1:09:13 น.
Counter : 353 Pageviews.

6 comments
  
ขอให้เข้มแข็งนะคะ

ค่อย ๆ มองหาทางออกค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

มีความสุขมาก ๆ สมปรารถนาในทุกสิ่งนะคะ

Merry Christmas and Happy New Year ค่ะ




โดย: โสดในซอย วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:7:59:26 น.
  



Merry Christmas
&
Happy New Year 2007/2550

โดย: Zantha วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:8:20:14 น.
  

Merry Christmas ค๊าบ เด๋วจาหาว่าหมาอย่างโชแปงเชย อิอิ

ขอให้มีความสุขในวันหยุดคริสซามาสสสสส นี้ นะค๊าบ อิอิ

(โชแปงเปนหมาปู๊ดม่ายช้าดดดดดดดดดดดด)









อ้อ... โชแปงขอฝากวรรณกรรมเพื่อเยาวชนเรื่อง
"โชแปงผจญภัย" ที่บล๊อกคุณ rintana ด้วยนะค๊าบ


โดย: โชแปงค๊าบ (nutuang ) วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:8:31:02 น.
  











MerrY ChristmaS


มีความสุขมาก ๆน่ะค่ะ


โดย: icebridy วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:10:49:31 น.
  
เป็นกำลังใจให้ สู้ๆนะคะ
โดย: Nevari วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:11:09:24 น.
  
มาเป็นกำลังใจให้ครับ ข้มแข็งนะครับ
โดย: น้องเบิร์ด (AsWeChange) (AsWeChange ) วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:1:08:02 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kurika
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







หนูเกาลัด...กระเสือกกระสนจนได้เรียนจุฬาฯ >> ตอนนี้จบทั้งตรีโท กำลังจะหนีร้อนไปพึ่งความหนาวเย็น ณ สกอตแลนด์ หลงใหลในเสียงดนตรีคลาสสิค กำลังอยู่ในโหมด Piano Apprentice!!

Soundtrack : Canon in D

status: จบโทหมาดๆ จากนิเทศจุฬาฯ กำลังจะลัดฟ้าหนีไปเรียนสกอตแลนด์ แดนมหัศจรรย์ (ที่ไม่มีพี่เบิร์ด)

Quote : 'จิ้นกระจาย วายกระเจิง'






ธันวาคม 2549

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog