วันนี้หลังจากส่งลูกเข้าเรียนเสร็จก็เลยไปทำธุระเรื่องหยุมหยิมนิดหน่อย...ขับรถเองค่ะด้วยไม่ชินกับพวงมาลัยซ้าย...กับถนนหนทางเลยกลายเป็นมือใหม่หัดขับในบ้านเมืองเขาโดยปริยายถูกบีบแตรไล่เป็นระยะ..เพราะขับเก้ๆ กังๆ ขวางทางนักซิ่งเจ้าถิ่นไม่เป็นไรค่ะ...เราก็ยิ้มแหยๆ ให้..ทำไงได้ไม่ชินนี่นา ก็ขับตามกันมาเรื่อยๆค่ะ...จนถึงสี่แยก...(ไม่มีสัญญานไฟจราจร)รถคันหน้าพุ่งพรวดออกไปแล้วก็ตามด้วยเสียง...เอี๊ยดดดด..โครมมมมแล้วก็ได้ภาพนี้มาให้ดูกัน
ขออภัยที่เอาอุบัติเหตุของคนอื่นมาเพื่อเขียนบล็อกค่ะแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะนำมาบอกเล่ากันเพราะ..ความใจร้อน หรือที่ถูกควรเรียกว่า "ประมาท" โดยเจตนาเพราะเห็นอยู่แล้วว่า..เป็นแยกที่รถยนต์ส่วนใหญ่จะวิ่งกันเร็วถ้าหยุด..แล้วชะลอสักนิด..ดูให้แน่ใจ แล้วค่อยขับต่อไปก็ไม่ต้องเสียรถ เสียเวลา เสียอารมณ์เราเห็นแล้วหล่ะ แล้วอีกอย่างเราอยู่ทางโทเลยหยุดก่อนแม้จะโดนบีบแตรไล่ก็เหอะ นี่ขนาดรถใหญ่ โดนยังเยินได้ประมาณนี้ขืนเป็น city car คันเล็กๆ อย่างเราคงพังทั้งแถบ
ไหนๆ ก็เสียเวลาแล้ว เลยนั่งสังเกตุการณ์ต่อ ว่าเขาจะจัดการกันยังไงเผื่อว่าจะได้รู้ไว้เป็นประสบการณ์..ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุเร็วค่ะคู่กรณี..ก็เล้งกันไป เล้งกันมา..อันนี้เหมือนกันทุกเชื้อชาติคุณผิด ฉันถูก..คุณขับเร็ว ไม่ระวัง ฉันมาถูกทางแล้ว คงอะไรประมาณนี้กระมังคะที่น่าแปลกคือเขาไม่ได้เรียกประกันอย่างเราค่ะตำรวจที่มาถึงก่อนแค่มาอำนวยความสะดวกเรื่องระบายรถติด คงเป็นตำรวจจราจร(อันนี้เดาเอง) แต่ยังคงไม่แยกคู่กรณีสัก 20 นาที..ตำรวจที่ทำเรื่องเอกสารก็มาถึง..แล้วก็จัดการพ่นสีแล้วเรียกคู่กรณีคุย...สักพักก็ชี้ผิดถูกกันในที่เกิดเหตุเลยแล้วที่นี้หล่ะ...จากที่โวยวายกันเองกับคู่กรณี ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาโวยวายกับตำรวจ(หญิง)ค่ะแต่น่าชมเชยตำรวจที่นี่มากๆ..โดนคนขับตัวใหญ่..ข่มขู่ พูดแรงๆเข้าใส่ก็ไม่มีโกรธตอบ แค่ชี้แจง คุมสถานการณ์ได้ดีทีเดียวเห็นตำรวจหญิงเขาทำงานกันแบบขันแข็งแล้ว...เท่ มากๆ เลยค่ะแต่เห็นแล้วก็แหยง..เพราะขืนเราเป็นคู่กรณี มีหวังหุบปากเงียบ จ๋อย..อย่างเดียวแน่ๆ.......หลังจากเรื่องนี้ ก็ได้กลับมานั่งไตร่ตรองหลังโหลดรูปลงคอมพ์แล้วก็ตัดสินใจจะเขียนเรื่องนี้อุบัติเหตุ..เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ แค่ชั่วพริบตาไม่น่าเชื่อว่าเสี้ยวแห่งความยั้งคิดที่ถูกละเลย นำมาซึ่งความสูญเสียมากน้อยแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ร่วมนั้นๆ.......การดำเนินชีวิต คิดแล้วก็เหมือนขับรถนะคะถนนชีวิต ถึงจะมีหลุม มีบ่อ..ถ้ากุมพวงมาลัยให้มั่น ค่อยๆ ผ่อน ค่อยๆเหยียบอาจจะกระแทก กระทั้น โขยกเขยก..ไปบ้างแต่ก็ยัง อยู่ในเส้นทางเมื่อมีทางแยก มีวงเวียน มีสะพาน เรามีสมาธิตั้งมั่น ไม่วอกแวก..มองซ้าย มองขวา..โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุชีวิต...ก็น้อยค่ะรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว เรายังเอาเข้าอู่ เคาะ ทำสีใหม่ได้แต่อุบัติเหตุชีวิต..ไม่มีอู่ซ่อม..ไม่มีโป๊วสี ไม่มีอะไหล่ชีวิตให้เปลี่ยน..เมื่อชีวิตเกิดปํญหาเรา edit..แล้ว undo ไม่ได้ นี่คือเรื่องจริงค่ะตอนนี้ก็พยายามใช้ชีวิตอย่างระมัด ระวัง แม้จะเริ่มเมื่อผ่านวัยเลขสี่มาแล้วก็ยังถือว่ายังดีที่คิดได้..แม้จะช้าไปสักนิดแค่ เปิดไฟเลี้ยว..ให้สัญญาน ไม่ฝ่าฝืนกฎ..เมาไม่ขับเอื้ออาทรเพื่อนร่วมทาง คงลดอุบัติเหตุชีวิตได้บ้างนะคะ
อุบัติเหตุมีทุกทีจริง ๆนะค่ะ ถ้าเพียงเราขาดความระมัดระวัง เราประมาทเพียงนิดเราก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้
คิดถึงนะค่ะ