|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
23 ตุลาคม 2551 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
108 วิธีการทำความสะอาด
การซื้อของนั้นไม่ใช่เรื่องยาก มีเงินเสียอย่างก็ซื้อของตามที่ต้องการได้แล้ว >แต่การดูแลรักษาเพื่อให้ของนั้น อยู่ในสภาพที่ดีใช้งานได้นาน นี่สิ ใครว่าง่าย >ของบางชิ้นเป็นของรักของหวง แต่กลับมาเปื้อนเป็นรอยสกปรกนิดหน่อย >เช็ดอย่างไรก็ไม่ออก เห็นทีไรก็เจ็บใจ เพราะบางทีเปื้อนเพียงนิดเดียว >แต่กลายเป็นของเก่าไปเลย >วิธีการทำความสะอาดต่าง ๆ ที่นำมาลงนี้ เป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่เก็บรวบรวม >มาจากตำราและภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา เมื่อเกิดปัญหาขึ้น >คงจะดีถ้ามีตำราสักเล่ม จัดหมวดหมู่วิธีการทำความสะอาด หรือแก้ไขรอยเปื้อนต่าง >ๆ ดังนั้นจึงได้จัดสิ่งของไว้เป็นหมวดหมู่ดังนี้ เครื่องใช้ในครัวเรือน >เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ > เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ในบ้านอื่น ๆ > >เครื่องใช้ในครัวเรือน >วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้ >กระทะ คราบไหม้ เติมน้ำยาล้างจานลงไปตั้งไฟให้เดือดกรุ่น ๆ >จนกว่าคราบรอยไหม้จะหลุดออกมา >กระทะเคลือบ สกปรก ให้ถูที่ผิวด้วยเบ๊คกิ้งโซดา แล้วล้างในฟองสบู่ที่ร้อน >ล้างออกอีกครั้งแล้วเช็ดให้แห้ง >กา, หม้อ หินปูน ใช้น้ำส้มสายชูใส่ แช่ไว้สัก 1 คืน จึงเอาแปรงเล็ก ๆ ขัดออก >กาต้มกาแฟ คราบกาแฟติดแน่น ใช้เกลือและน้ำในปริมาณสูงเท่ากับระดับกาแฟที่ต้ม >นำไปต้มหรือ เสียบปลั๊กจนน้ำเดือด จะช่วยขจัดคราบได้ >กาน้ำชา คราบน้ำชา น้ำส้มสายชูต้มจนเดือด นำมาเทใส่กาน้ำชา ทิ้งไว้ 1 คืน >แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด >แก้ว เป็นคราบ ล้างถ้วยแก้วให้สะอาด ผึ่งจนแห้ง แล้วใช้ผ้าฝ้ายลงแป้ง >เช็ดถูถ้วยแก้ว จะทำให้มองดูเนื้อแก้วใสสะอาด >แก้วเจียระไน เป็นคราบ ใช้แอมโมเนียเล็กน้อยผสมน้ำอุ่น ขัดถู >แล้วใช้เบ๊คกิ้งโซดาล้างอีกที จะทำให้ดูแวววาว >ขวดเกลือ คราบเกลือติดแน่น ใส่น้ำมันมะกอกไว้ในขวด ทิ้งไว้หลาย ๆ วัน >จึงทำความสะอาด >ขวดแก้ว สกปรก, มีกลิ่น ใส่เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วเทน้ำลงไปสักครึ่งขวด >คนจนเกลือละลาย ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ล้างออกด้วยผงซักฟอก >แล้วใช้น้ำยาล้างจานล้างอีกครั้ง >เขียง กลิ่นคาว ใช้มะนาวหรือเปลือกมะนาวที่บีบน้ำจนหมดแล้ว ถูเขียงนั้นให้ทั่ว >แล้วล้างออกด้วยน้ำ >จาน คราบมัน ใช้กระดาษทิชชูเช็ดก่อน แล้วนำไปแช่ในน้ำร้อน เวลาล้างจะสะอาดดี >ตะแกรง, ก้นกระทะ สกปรก ใช้กระดาษฟอยล์ที่ห่ออาหารซึ่งเหลือใช้ >ขยุ้มเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ ใช้ขัดก้นกระทะ และตะแกรงได้ดี >ตู้เย็น คราบเหนียว >หยดน้ำมันพืชลงบนกระดาษทิชชู่แล้วถูที่รอยเปื้อนนั้นจนสะอาด >จะไม่ทำลายความเป็นเงาของตู้เย็น >คราบสกปรก นำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ บีบยาสีฟันใส่ นำไปเช็ดคราบสกปรก >ด้านในสกปรก ให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและเบ๊คกิ้งโซดาเล็กน้อย >จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง >มีกลิ่น ใช้ถ่านหุงข้าววางไว้ในตู้เย็น >หรือใช้เบ๊คกิ้งโซดาเทใส่ถุงแล้วเปิดปากถุงวางไว้ในตู้เย็น >เตาอบ สกปรก ใช้ผ้าชุบน้ำมันจักรเช็ด >ท่อน้ำ ตัน เทโซดาไฟกับเกลือ 1 ถ้วยลงในท่อแล้วตามด้วยน้ำร้อน >ท่อระบายน้ำของอ่างล้างจาน มีกลิ่นเหม็น เทเบ๊คกิ้งโซดา 1 ถ้วยลงไป >ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงเทน้ำส้มสายชูตามลงไปอีก 1 ถ้วย >แผ่นไม้ที่ใช้คลึงแป้ง >สำหรับทำขนม เลอะแป้ง ควรล้างด้วยน้ำเย็นเมื่อเลิกใช้แล้ว >ถ้าล้างด้วยน้ำร้อนแป้งจะติด ล้างออกยาก >พิมพ์ขนม หรือถาด สำหรับอบขนมเค้ก คราบดำ, รอยไหม้ >ใส่กระทะต้มในน้ำที่ผสมโซดาซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะ >ต้มจนกระทั่งคราบดำหลุดออกหมดแล้ว จึงนำมาขัดอีกครั้ง >ภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ รอยเหนียวจากป้ายราคา, สก๊อตเทป >ใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บเช็ด (ห้ามใช้กับอุปกรณ์ที่เคลือบแล็คเกอร์ไว้) >ภาชนะโลหะ รอยเหนียวจากป้ายราคา, สก๊อตเทป ใช้น้ำมันไฟแช็กเช็ดถูออก >ภาชนะอลูมิเนียม รอยไหม้ ใช้เปลือกส้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มในน้ำเดือด 20 >นาที ใช้สบู่ขัดให้เป็นฟอง รอยไหม้จะค่อย ๆ หลุดไป >หม้อ, กระทะ กลิ่นคาวปลา นำกากชาใส่แล้วนำไปต้ม >รอยไหม้ ใช้ผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด จำพวกมะนาว สับปะรด >ใส่ลงต้มในหม้อที่มีรอยไหม้ จะล้างออกได้ง่าย >หม้อต้มชากาแฟที่เป็นเครื่องเงิน สกปรกเป็นคราบ >ใช้เบ๊คกิ้งโซดาขัดดีกว่าใช้ยาขัดเครื่องเงิน >ไม่มีอันตรายและไม่ทำให้รสชาดของน้ำชากาแฟเปลี่ยนไปด้วย >หม้อไฟฟ้า, กระทะไฟฟ้า สกปรก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่ร้อน ๆ เช็ดภายนอกและภายใน >ห้ามใช้แผ่นขัดที่มีส่วนผสมโลหะขัด >อ่างล้างจานสแตนเลสชนิดเคลือบเงา สกปรก ใช้เบ๊คกิ้งโซดาขัด >จะไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนเคลือบเงานั้น > > >เครื่องหนัง >วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้ >กระเป๋าหนัง พื้นเป็นจุด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดตรงรอยเปื้อนเบา ๆ >ใช้ยาขัดหนังทาทับอีกที แล้วจึงเช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ >เครื่องหนัง ขึ้นรา ใช้ผ้าสะอาดชุบแอมโมเนียเช็ดตรงบริเวณที่มีราขึ้น >จะทำให้ราหายไป หรือถูที่คราบด้วยจารบี จากนั้นขัดตามปกติ >คราบน้ำฝน ถูที่รอยน้ำฝนด้วยแอลกอฮอล์ (ที่ใช้จุดไฟ) เล็กน้อย >จากนั้นขัดตามปกติ >เปื้อน, ไขมัน, คราบน้ำมัน เพื่อขจัดคราบไขมันออกจากหนัง >นำดินสอพองละลายน้ำข้น ๆ ถูที่คราบไขมัน ทำให้แห้งแล้วแปรงออก >จากนั้นขัดตามปกติ (วิธีนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อหนังและไม่ทำให้สีตก) >เปื้อนหมึก ในการกำจัดคราบหมึก >โปะที่รอยเปื้อนหมึกด้วยเบ๊คกิ้งโซดาที่ชื้นและเปลี่ยนผงนี้เมื่อสีจางลง >ทำจนกระทั่งรอยหมึกหมดไป จากนั้นตากให้แห้ง และขัดตามปกติ >เครื่องหนังสีขาว สกปรก ใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำส้มสายชูเช็ดเบา ๆ >รอยเปื้อนจะหมดไป > >เฟอร์นิเจอร์ >วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้ >เก้าอี้หวาย หย่อน ต้องการให้เก้าอี้หวายตึง >ให้ล้างเก้าอี้หวายด้วยน้ำสบู่ร้อน ล้างน้ำจนหมดสบู่ >นำออกตากแดดกลางแจ้งให้แห้ง >เครื่องหนังหุ้มเก้าอี้ เปื้อนหมึกแห้ง ใช้ฟองน้ำชุบนมสดที่เหลือติดก้นกล่อง >เช็ดรอยเปื้อนทันทีที่เกิดรอยเปื้อน >โซฟาบุผ้า สกปรก ผสมน้ำกับผงซักฟอกตีจนเกิดฟอง >ใช้ฟองน้ำชุบฟองนั้นนำมาวางบนรอยสกปรก แล้วใช้ฟองน้ำแห้ง ๆ เช็ดถู >แล้วนำผ้าชุบน้ำเช็ดอีกครั้ง แล้วเป่าให้แห้ง ด้วยเครื่องเป่าผมหรือพัดลม >โต๊ะกระจก เทปกาวติดแน่น ใช้มีดคัตเตอร์คม ๆ ปาดออก >แล้วใช้น้ำมันไฟแช็กเช็ดคราบอีกครั้ง >โต๊ะไม้ กระดาษติดแน่น ใช้น้ำมันมะกอกชโลมให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าสะอาดถูเบา ๆ >ใช้ยาขัดสีเข้ม ๆ ถูจะทำให้รอยกระดาษหายไป >โต๊ะไม้ที่ทาชะแล็ก รอยด่างขาว เกิดจากการวางของร้อน ๆ >ให้ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์วางไว้ตรงรอยด่าง 2-3 นาที ถ้าเป็นรอยด่างมาก >ใช้แล็กเกอร์สเปรย์พ่น แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง จะทำให้รอยด่างหายไป >ผ้าม่าน สกปรก ใช้น้ำสบู่เย็น ๆ ซัก เมื่อสะอาดแล้วนำไปผึ่งลมให้แห้งพอหมาด ๆ >โดยแขวนที่ลมโกรกผ่าน อย่านำไปตากแดด หรือรีดด้วยเตารีด เพราะจะทำให้เก่าเร็ว >พื้นบ้านที่เป็นไม้ไม่ได้เคลือบขี้ผึ้ง ฝุ่นละออง ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน 4 >ในน้ำเปล่า 4 ลิตร เช็ดถูพื้นไม้ เท่านี้ก็ช่วยขจัดเศษฝุ่นละอองให้หมดไป >และจะช่วยให้พื้นเป็นมันวาวอีกด้วย >เฟอร์นิเจอร์ไม้ ไขมันและหมึก ในการขจัดรอยไขมันและหมึกจากไม้ที่เคลือบเงา >ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ ชุบลงไปที่รอยเปื้อน >แล้วจึงล้างออกให้หมดตากให้แห้ง จากนั้นขัดเงาตามปกติ >น้ำตาเทียน เพื่อลบรอยเทียนไขจากไม้ ขูดรอยน้ำตาเทียนออกเบา ๆ >ด้วยสันของมีดที่ไม่คม จากนั้นขัดเงาด้วยผ้าชามัวร์ >เป็นรูจากหนอนไม้ จิ้มปลายมีดที่แหลมลงไปที่รูของไม้ที่เกิดจากหนอนไม้ >โดยให้คมมีดอยู่ในทิศเดียวกับแนวของเนื้อไม้ จากนั้นหมุนปลายมีด >เพื่อทำลายรูนั้นอัดขึ้ผึ้งผสมกับผงของเนื้อไม้ที่รูนั้น >มีรอยเว้า ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำจนเปียกอัดตรงรอยเว้านั้น >แล้วรีดที่บริเวณนั้นด้วยเตารีดร้อน ๆ ใยไม้ที่ถูกกดจะขยายกลับคืนสู่สภาพเดิม >หลังจากนั้นให้ขัดเงาตามปกติ >รอยขีดข่วน ให้ใช้ผ้าแตะยาขัดรองเท้าสีเดียวกับไม้ถูตรงรอยนั้น >แล้วใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง >รอยด่างขาว ถูรอยขาว ๆ ที่ใช้ไม้ขัดเงาอย่างดีด้วยน้ำมันการบูร >น้ำยาขัดเครื่องเงินหรือส่วนผสมของขี้บุหรี่กับน้ำมันมะกอก >จากนั้นจึงขัดเงาตามปกติ (น้ำยาขัดเงาที่ใช้กับโลหะไม่ควรนำมาใช้กับไม้) >รอยแตก ใช้ขี้เลื่อยผสมกับกาว >อุดหรือปะพอแห้งแล้วใช้กระดาษทรายขัดจนเนื้อเรียบสนิท >รอยไม้ขีดไฟ ถูที่รอยไม้ขีดไฟบนไม้ที่เคลือบเงาด้วยมะนาวครึ่งลูก >ตามด้วยผ้าที่ชุบน้ำอุ่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้าโดยเร็ว จากนั้นจึงขัดเงา >รอยสกปรก - ใช้น้ำมะนาวขัดล้าง >- ใช้น้ำมันสน และน้ำมันลีนสีดอย่างละ 1 ช้อนชา ผสมน้ำร้อน คนให้เข้ากัน >แล้วนำไปขัดเช็ดเฟอร์นิเจอร์ ในขณะที่ยังร้อน >- ใช้น้ำส้มสายชูครึ่งแก้วผสมน้ำร้อนขัดและเช็ดให้แห้ง >- ใช้ผงซักฟอกผสมน้ำอุ่นเช็ดขัดผิวไม้จนสะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง >เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮ็อกกานี สกปรก >เช็ดที่ผิวไม้ด้วยส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นในอัตราส่วนที่เท่ากัน >จากนั้นขัดเงาด้วยผ้านุ่ม >เฟอร์นิเจอร์ไม้วอลนัท สกปรก ถูที่ผิวด้วยน้ำมันก๊าดเล็กน้อย >โดยใช้ผ้านุ่มและขัดเงาด้วยผ้าชามัวร์ >หวาย สกปรก ล้างด้วยน้ำผสมเกลือ หรือใช้แอมโมเนียผสมน้ำ >ถ้ายังไม่หมดให้ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดอีกครั้ง อย่าใช้น้ำสบู่ล้าง >เพราะจะทำให้เครื่องหวายเปลี่ยนสี > > >เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย >วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้ >ถุงเท้าผ้าฝ้าย เก่าสกปรก นำมาต้ม แล้วบีบมะนาวใส่ลงไป จะทำให้ถุงเท้าขาวขึ้น >รองเท้าหนัง เปียกน้ำ นำกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดใส่รองเท้าจนเต็ม ทิ้งค้างคืนไว้ >รุ่งเช้าก็จะแห้ง >รอยขีดข่วน ใช้ไข่ขาวเล็กน้อยถูตรงรอย แล้วขัดยาทับอีกครั้งจะเป็นเงางาม >เสื้อผ้า กาว ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ >ขี้ผึ้ง วางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน >เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บางหรือผ้าไหม >ให้ใช้กระดาษทิชชูและเตารีดที่เย็นกว่า >ไข่ ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก >คราบน้ำตาเทียน ใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด >จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่น ๆ >รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ >โคลน ปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออกซักด้วยน้ำเย็นหลาย ๆ ครั้ง >จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก >นม ล้างผ้าในน้ำเย็น แล้วซักด้วยสบู่เหลว >น้ำชา - รีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่ >จนสีจางลงแล้วรีบนำไปซักทันที >- ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออกให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก >น้ำผลไม้, น้ำมันพืช ให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน >แล้วจึงซัก >น้ำมันขัดเงา ใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ >ใช้น้ำยาซักผ้าขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่นแล้วรีบซักทันที >น้ำมันดิบ ขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออก ด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน >หรือน้ำมันก๊าด หรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด) >น้ำส้มสายชู ผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที >ล้างออกแล้วซักตามปกติ >น้ำหมาก, น้ำหมึก ก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน >แล้วบีบน้ำมะนาวลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก >ปัสสาวะ ให้ซับที่รอยเปื้อนด้วยแอมโมเนียเจือจางหรือเบ๊คกิ้งโซดา >แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วซักได้ตามปกติ >เปื้อนคราบกาแฟ ใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ >เปื้อนคราบช็อกโกแลต รีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน >อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่นช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง >เปื้อนคราบเลือด นำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก >เปื้อนคราบเลือดจาง ๆ ใช้เบ๊คกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อยจนเป็นแป้งข้น ๆ ถูเบา >ๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก >เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็นที่ผสมเกลือจนชุ่มถูเบา ๆ >จนรอยค่อย ๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง >เปื้อนครีม เนย น้ำมัน นำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย >ใช้กระดาษทิชชูหรือกระดาษบางอื่น ๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร >ทับบนกระดาษจนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก >เปื้อนน้ำมัน - ใช้เนยหรือมาการีน ทารอยเปื้อน ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง >นำไปซักกับผงซักฟอก >- โรยเบ๊คกิ้งโซดาลงบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปซัก >เปื้อนน้ำมันรถ ใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อนจนรอยเปื้อนจางลง แล้วจึงนำไปซัก >เปื้อนเบียร์ ซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็นแปรงตรงรอยเปื้อนทันที >เปื้อนรอยสนิม นำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน >ทิ้งไว้สักครู่ จึงนำไปซักตามปกติ >ผ้าขาวที่ออกสีเหลือง ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า >ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซัก >ผ้าขึ้นรา (เล็กน้อย) - รีบนำผ้าที่ราขึ้นใหม่ ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อน ๆ >ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ >- ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ >มัสตาด ใช้น้ำส้มสายชูถู แล้วรีบนำไปซัก >ยาแดง เช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ >ยาทาเล็บ >ซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บและเช็ดด้วยผ้าที่สะอาดจนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง >(ควรลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน) >ยางกล้วย ใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ถูตรงรอยเปื้อนที่เป็นคราบดำ >แล้วรีบนำมาซักทันที >ยางหญ้า ยางดอกไม้ นำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน >ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย >ลิปสติก - ใช้มันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา >แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อน ๆ หรือใช้ผงซักฟอกขาวโรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้ >แล้วจึงซักตามปกติ >- ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อน แล้วนำมาซักตามปกติ >- นำมาแช่ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย >เลอะดินสอ ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้ >เลอะปากกาลูกลื่น ใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ด จนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก >เลอะสีปากกาเมจิก ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก >สีเคลือบเงา ซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำมันสน >หรือผสมแอมโมเนียกับน้ำมันสนในอัตราส่วนที่เท่ากัน >แช่ผ้าไว้จนกระทั่งรอยเปื้อนละลายออก จากนั้นซักในน้ำสบู่ >สีน้ำมัน ใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่มแล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกที >จึงซักทันที >สีอีมัลชั่น แช่หรือซับรอยเปื้อนที่ยังใหม่อยู่ด้วยน้ำเย็น จากนั้นซักตามปกติ >หมากฝรั่ง ขูดยางหมากฝรั่งออกด้วยสันมีด >แล้วใช้น้ำแข็งถูเพื่อให้ยางนั้นแข็งตัวค่อย ๆ แกะออก >แล้วใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ด นำไปซักในน้ำสบู่อ่อน >หมึกจีน ให้ฝนหัวผักกาดขาว ห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้อนจาง แล้วซักตามปกติ >หมึกแห้ง ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง >แล้วใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละเท่ากันเช็ดให้แห้ง แล้วนำไปซัก >เหงื่อ - ซักด้วยน้ำที่ผสมด้วยน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว >แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางในน้ำ จากนั้นซักได้ตามปกติ >- ละลายแอสไพริน 2 เม็ด ลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ >เสื้อหนัง สกปรก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วถูกับสบู่ นำมาเช็ดเสื้อหนังจนทั่ว >ใช้ผ้านุ่มเช็ดอีกที เมื่อแห้งแล้วให้นำแป้งโรยตัว โรยให้ทั่ว >แล้วจึงใช้ผ้าแห้งขัด > > อุปกรณ์อื่น ๆ > วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้ >กระจก กาวจากรูปลอก ใช้แอลกอฮอล์เช็ด แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำ >เช็ดถูอีกครั้ง >เปื้อนสีเทียน ใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชเช็ด แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำ >เช็ดถูอีกครั้ง >เปื้อนสีเมจิก ใช้ผ้าชุบน้ำยาล้างเล็บ แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำ >เช็ดถูอีกครั้ง >สกปรกมีรอยคราบ ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1:3 เช็ด >แล้วเช็ดตามด้วยผ้านุ่ม ๆ >กระดาษ คราบสก็อตเทป ใช้แป้งโรยลงไปบนรอยคราบนั้น ใช้มือถูให้แห้ง >ของใช้ เปื้อนยางมะตอยติดแน่น >ใช้ผ้าชุบน้ำมันสนเช็ดรอยเปื้อนทิ้งไว้สักครู่แล้วเช็ดซ้ำอีกครั้ง >หรือเช็ดจนกว่าคราบนั้นจะหลุดออกไป >เครื่องเงิน เป็นสนิม คราบ หมอง >ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูหรือยาสีฟันเช็ดถูแล้วล้างน้ำ >เช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้งก่อนที่จะหายาขัดได้จริง >สนิมสีเขียว ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดและใช้ผ้าแห้งขัด รอยเปื้อนจะหมดไป >เครื่องจักสาน คราบสกปรก ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดถูตรงที่สกปรกและขึ้นรา >จะทำให้สะอาด >เชิงเทียน หยดเทียนเกาะ นำไปแช่ในน้ำร้อนที่ผสมแอมโมเนีย 10 นาที >เทียนจะหลุดลอยขึ้น >ดอกไม้แห้ง (ผ้า) สีซีด ยับ ให้ตั้งทิ้งไว้เหนือไอน้ำร้อนสักครู่ >สีจะสดสวยเหมือนเดิม >เตารีด ร้อนจัดจนเกิดรอยไหม้ ใช้ยาสีฟันถูรอยไหม้จนทั่ว >แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกให้หมด >โทรศัพท์ คราบสกปรก ด่างดำ ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บเช็ดให้ทั่ว >ใบไม้ ฝุ่นเกาะ - ใช้น้ำมันพืชเช็ดจะทำให้ใบเงางาม >- นำสำลีชุบนมสดเช็ดให้ทั่ว >ปกหนังสือเป็นผ้า รอยนิ้วมือ คราบมัน ให้ถูด้วยขนมปังเก่า หรือยางลบนุ่ม ๆ >แปรงทาสี เลอะสี แช่แปรงทาสีในน้ำมันสนผสมกับแอลกอฮอล์ในสัดส่วนเท่า ๆ กัน >ภาชนะทองแดง เป็นสนิม ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดถู แล้วจึงล้างน้ำ >แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง >รถจักรยาน เป็นสนิม ใช้เศษผ้าชุบน้ำมันมะพร้าวถู >แว่นตา มีรอยคราบที่กระจก ใช้แป้งฝุ่นทาให้ทั่ว >แล้วใช้กระดาษที่บางและนุ่มสะอาดถูให้ทั่ว >สกปรก ใช้แชมพูล้างทั้งแว่น แล้วเช็ดให้แห้ง >หวี แปรง สกปรก นำหวี แปรงแช่ในน้ำร้อนที่ผสมแชมพู แล้วใช้แปรงสีฟันขัดถู >ห้องที่เพิ่งทาสี กลิ่นสี นำหัวหอมเล็ก (หอมแดง) ทุบแล้ววางไว้ในห้อง >กลิ่นสีจะจางหายไป >อ่างอาบน้ำ สกปรก ใช้ผงซักฟอกครึ่งถ้วย ผสมเบ๊คกิ้งโซดาครึ่งถ้วย >ผสมน้ำทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงปล่อยน้ำจากก๊อกล้างอีกที
Create Date : 23 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 23 ตุลาคม 2551 21:19:06 น. |
|
11 comments
|
Counter : 12103 Pageviews. |
|
|
|
โดย: whitelady วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:23:30:34 น. |
|
|
|
โดย: fleuri วันที่: 25 ตุลาคม 2551 เวลา:10:28:26 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:21:48:28 น. |
|
|
|
โดย: สิริวัฒน์ IP: 58.10.33.67 วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:14:09:13 น. |
|
|
|
โดย: มีน IP: 124.121.197.74 วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:11:38:02 น. |
|
|
|
โดย: แอน IP: 203.144.144.165 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:10:30:39 น. |
|
|
|
โดย: แอปแอ IP: 118.172.60.15 วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:18:37:16 น. |
|
|
|
โดย: นู๋พลิ้ง IP: 115.87.15.179 วันที่: 10 ธันวาคม 2553 เวลา:10:41:23 น. |
|
|
|
โดย: savethai IP: 203.144.144.164 วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:8:59:15 น. |
|
|
|
โดย: pimpa IP: 183.89.177.222 วันที่: 23 ธันวาคม 2557 เวลา:13:00:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณนะค่ะ