Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2561
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
22 มิถุนายน 2561
 
All Blogs
 

The Shape of Water - Guillermo Del Toro, Daniel Kraus





ผู้เขียน : Guillermo Del Torro | Daniel Kraus
สำนักพิมพ์ :  Feiwel & Friends
ทีที่พิมพ์ : 2018

เรื่องเกิดในทศวรรษที่ 60s ยุคสงครามเย็น Elisa Esposito เป็นกำพร้า มีคนพบถูกทิ้งอยู่ริมแม่น้ำ "ในน้ำ" ตั้งแต่แบเบาะ ที่คอมีรอยเหมือนถูกเชือด ซึ่งทำให้พูดไม่ได้ แต่ได้ยินเสียง พอโตขึ้นก็กลายเป็นแผลเป็น Elisa อาศัยอยู่ที่ชั้นบนของโรงหนัง Orpheum ในเมือง Baltimore และทำงานเป็นภารโรงใน Occam aerospace research facility เป็นคนที่เหมือนแปลกแยกจากคนทั่วไปเพราะสื่อสารกับใครไม่ได้ มีเพื่อนสนิทเพียงสองคนคือ Zelda ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน กับเพื่อนบ้าน Giles เป็นเกยร์ ตัวละครสำคัญอีกตัวคือ Richard Strickland เป็นนายพันในกองทัพบก

เรื่องเริ่มที่บทเกริ่นนำ Richard Strickland กำลังตามหาตัวสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งปลาที่มีเสียงเล่าลือว่าคนท้องถิ่นในป่าอเมซอนนับถือเหมือนพระเจ้า ตัดสลับกับการแนะนำ Elisa เล่าถึงสภาพชีวิตและความรู้สึกนึกคิดของ Elisa จนวันหนึ่งในใบคำสั่งให้ Elisa กับ Zelda ทำความสะอาดในห้องซึ่งทั้งคู่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าไป ก็เลยได้รู้ว่าที่นั่นได้อะไรบางอย่างที่มีความสำคัญมากมาเก็บไว้ในแท้งก์น้ำ สิ่งนั้นถูกเรียกว่า The Asset ช่วงก่อนเปิดตัว The Asset นี่ตื่นเต้นมาก ในหนังสือบรรยายชวนให้ติดตาม เสียดายที่ปกคือรูปของสิ่งนั้น ความอยากรู้อยากเห็นว่ารูปร่างหน้าตาจะเป็นยังไงก็เลยลดลงพอดู 

แรกๆ Elisa รู้สึกต่อสัตว์ประหลาดตัวนั้นเหมือนคนอื่นๆ คืออยากรู้อยากเห็น มองว่าเป็นสิ่งน่าสนใจ แต่เวลาผ่านไปกลับกลายเป็นความรู้สึกผูกพัน เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องของคนครึ่งปลาตัวนั้น Elisa ได้ยินเป็นเสี่ยงดนตรี ยิ่งกว่านั้นก็คือรู้สึกว่าสื่อสารกันได้ในลักษณะแปลกๆ จนในที่สุดความรู้สึกผูกพันนั้นกลายเป็นความรัก

ในห้องแลปนั่น The Asset ถูกทรมานด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ด้วยจุดประสงค์ที่เข้าใจกันว่าเพื่อวิทยาศาสตร์และความปลอดภัยของประเทศ จนเมื่อกองทัพตัดสินใจฆ่าแล้วผ่า The Asset เป็นชิ้นๆ เพื่อการทดลองทางอวกาศ Elisa ตัดสินใจพาเขาหนีด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน 2 คนเท่านั้นที่มีคือ Giles กับ Zelda

Elisa พา The Asset หนีมาไว้ที่ห้องของตัวเอง Strickland ออกตามหาจนพบโดยตั้งใจว่าจะต้องฆ่าสัตว์ตัวนั้นให้ได้ ซึ่งก็นำไปสู่ตอนจบของเรื่องเมื่อ Elisa, Giles และ The Asset หนีไปถึงฝั่งคลอง ที่ซึ่ง Elisa ตั้งใจปล่อยให้เขาเป็นอิสระ Strickland ยิง Elisa และดูเหมือนจะตาย The Asset พาร่างของ Elisa ลงไปในน้ำ 

ยังไม่ได้ดูหนัง คนที่ดูแล้วบอกว่าในหนังจบไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Elisa ตายจริงๆ หรือเปล่า แต่ตอนท้ายๆ ในหนังสือพอเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร 

"Elisa sinks. Poseidon's fist grabs her, rolls her back and forth like a crocodile rolls its prey. Twice she has pushed herself to the surface only to see Baltimore, her homeland, diminish to a piddling twinkle. She is shot, and can't kick, and slides under for the final time. (p.312)

แล้วเขาก็มา:

"From blackness he comes. She believes he is a school of glittering fish until each of the million points of lights is revealed as one of his scales... Elisa blinks, her eyelids oaring aside pounds of water. The hole in her chest has been erased...
His hand unleashes hers, and she is falling, falling, falling, through it is tricky to say for sure in so black a void. Perhaps, in fact, she is rising, rising. She kicks her legs. Julia's beautiful silver shoes tumble past her like exotic fish. She no longer needs them."

พร้อมกับบทสุดท้าย บทที่ 34 เป็นความคิดของ The Asset:

"We wait we watch we listen we feel we are patient we are always patient but it is difficult the woman we love it takes her a long time it takes her so long to know to see to feel to remember..." (p. 314)

The Asset แทนตัวเองว่า we

ก็เลยพอเดาได้ว่าทั้งคู่ได้ไปอยู่ด้วยกันในที่สุด แล้วเมื่อคิดย้อนกลับไปถึงความเป็นมาของ Elisa ที่มีคนไปพบในน้ำ ริมแม่น้ำ มีรอยเชือดที่คอ ก็เลยทำให้คิดว่า Elisa ต้องมีส่วนที่เป็นสัตว์น้ำเหมือนกัน รอยแผลนั่นคงเป็นส่วนของความเป็นปลาที่ถูกปกปิดไว้

ชอบมากค่ะเรื่องนี้ อ่านไปๆ ก็สงสัยว่าคนกับคนครึ่งปลาจะรักกันเข้าไปได้ยังไง ดูจากรูปก็เป็นไปในลักษณะน่ากลัวมากกว่า แต่การเล่าเรื่องกับการบรรยายความรู้สึกนึกคิดของ Elisa ทำให้เชื่อสนิทใจเลยว่าทำไมถึงได้หลงรักสิ่งที่เป็นสัตว์ประหลาดสำหรับคนทั่วไปอย่างนั้น Elisa (รวมถึง Zelda และ Giles) เป็นเหมือนส่วนเกินของสังคม สมัยยุคทศวรรษที่ 60 คนผิวดำและเกย์ถูกสังคมกดขี่อย่างมาก  ทั้ง 3 คนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันและคอยดูแลซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Zelda คอยปกป้อง Elisa ตลอดเวลา เพราะพูดไม่ได้ สื่อสารกับใครไม่ได้ Elisa รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่สมบูรณ์ พอเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้น จากความอยากรู้อยากเห็นในตอนแรกๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกว่า "จำได้" เหมือนจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้ ยิ่งเมื่อสื่อสารกันได้ด้วยกริยาท่าทาง ด้วยเสียงดนตรีเพราะทั้งคู่พูดไม่ได้ แต่ได้ยินเหมือนกัน

นอกจากเรื่องของความรักแล้วหนังสือเล่มนี้ยังเป็นเหมือนบทวิจารณ์สังคมที่ผู้หญิงยากจน เป็นใบ้ กับผู้หญิงผิวดำ และเกย์ ถูกแบ่งแยกและถูกจัดเป็นคนระดับล่างสุดของสังคม ต่างก็มีชีวิตอยู่ด้วยการดิ้นรนต่อสู้เพียงเพื่ออยู่รอด แต่ในท่ามกลางความโหดร้ายของสังคมก็มีความดีงามของมิตรภาพ ความเข้าอกเข้าใจและเห็นใจกัน รวมทั้งความรักแม้จะแปลกประหลาด แต่ก็งดงามเหลือเกิน

ว่าแล้วก็ต้องรีบหาหนังมาดูโดยด่วน





 

Create Date : 22 มิถุนายน 2561
5 comments
Last Update : 22 มิถุนายน 2561 10:23:34 น.
Counter : 1237 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณfor a long time

 

เรื่องนี้มีโอกาสชมภาพยนตร์ เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมากครับ

 

โดย: สามปอยหลวง 22 มิถุนายน 2561 13:02:27 น.  

 

ไม่ได้ดูหนัง
แต่คิดว่าจะอ่านหนังสือภาษาไทยค่ะ
แต่นั่นแหละ ยังไม่ได้เริ่มลงมืออันใด

 

โดย: เขียนหนังสือไว้อ่านเล่น 22 มิถุนายน 2561 22:45:41 น.  

 

ต้องหาหนังมาดูแล้วล่ะค่ะอาจารย์หนุ่ม อ่านหนังสือแล้วชอบมากเลยค่ะ เพื่อนที่ดูหนังแล้วเขาบอกว่าหนังสือขยายความจากหนังเยอะเลยค่ะ

คุณเขียนหนังสือไว้อ่านเล่นคะ แนะนำเลยค่ะเรื่องนี้ มีแปลเป็นภาษาไทยแล้วหรือคะ

 

โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 23 มิถุนายน 2561 7:01:27 น.  

 

หนังสวยละมุนมากค่ะ โทนสี teal ทั้งเรื่อง อ่อนหวานเพ้อฝันตั้งแต่ฉากแรก เพลงประกอบฟังแล้วสุดจะเคลิ้ม นางเอกก็เล่นดีมากๆ ทั้งกิริยาแววตาน่ารักน่าทะนุถนอมไปหมด ตอนดูหนังคิดว่าเสน่ห์พวกนี้หาในหนังสือไม่ได้ เลยอยากทราบความเห็นของคนที่อ่านหนังสือก่อนบ้าง ได้ดูหนังแล้วเป็นไงมาบอกกันมั่งนะคะ =3

 

โดย: Froggie 23 มิถุนายน 2561 9:49:35 น.  

 

คุณ Froggie ดูหนังแล้วจะไปเล่าให้ฟังที่บล็อกนะคะว่าเหมือนและต่างกันยังไง

 

โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 24 มิถุนายน 2561 2:07:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kdunagin
Location :
South Carolina United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




จำหลักไว้ในสายลม
กุลธิดา
www.mebmarket.com
แม้เป็นรักที่แอบเร้น หากก็ขออย่าเลือนไปกับสายลม
บาเคอร์
กุลธิดา
www.mebmarket.com
ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์…วันพรุ่งนี้…ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป…หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ ‘มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี’ และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม
Friends' blogs
[Add kdunagin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.