Never cease
Dubrovnik Croatia……..ดูบรอฟนิค ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก ตอนที่ ๑

Dubrovnik Croatia……..ดูบรอฟนิค ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก ตอนที่ ๑













ถ้าบ้านเราคิดกับภูเก็ตเป็นเสมือน ไข่มุกแห่งทะเลอันดามัน
ที่ทะเลเอเดรียติก ที่คั่นกลางประเทศอิตาลีกับประเทศโครเอเทีย ย่อมมีไข่มุกเหมือนกัน

ไข่มุกแห่งเอเดรียติก
และที่แห่งนี้ คือ เมืองทางใต้ของประเทศโครเอเทีย เมืองดูบรอฟนิค























เมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่ล่องมาจากเวนิช อิตาลี
เมืองท่องเที่ยว ที่โด่งดังที่สุดของประเทศ ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ประเทศโครเอเทีย ที่แยกตัวออกมาจากประเทศยูโกสลาเวีย
ผมว่าในแง่ชัยภูมิที่ตั้ง นับเป็นประเทศที่ได้เปรียบที่สุดในบรรดาประเทศที่แยกตัวออกมา
ด้วยชายฝั่งที่ยาวกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร ติดทะเลเอเดรียติก นี่คือ ผลประโยชน์มหาศาล
โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยว

ในโลกนี้ สีของทะเล ก็คือชื่อของทะเล อย่างง่ายๆ
ทะเลสีแดง นั้นคือ ทะเลแดง
ทะเลสีดำ นั้นคือ ทะเลดำ
ส่วน ทะเลเอเดรียติก เป็นทะเลที่บ่งบอกถึง ความเข้มของสีทะเลน้ำเงิน ฟ้าราวมรกต

มันคือ B L U E S E A ที่แท้จริง


























ถ้าถามคนที่มาโครเอเทียด้วยกันว่า ชอบที่ไหนที่สุดในโครเอเทีย
ส่วนใหญ่คำตอบจะออกมาที่ ดูบรอฟนิค

ทั้งที่เมืองต่างๆ ก็คล้ายๆกัน เรียกว่า ถ่ายรูปแค่หลังคาเมือง มา อาจแยกไม่ออก
ด้วยเหตุที่ ประเทศนี้ ไม่มีหลังคาบ้านสีอื่นเลย นอกจากสีส้มแสด

แล้ว ดูบรอฟนิค เข้าวินมาได้อย่างไร




























คำตอบคือ เสน่ห์ของเมือง ที่ไม่สามารถบรรยายได้ถูกด้วยคำพูด
โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่า ( Grad - Old City )
ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๗๙

ที่มีกำแพงหินสูงพอๆกับกำแพงเมืองจีน ล้อมเมืองเอาไว้ประมาณ สอง กิโลเมตร
จริงๆแล้ว หากพูดถึงกำแพงเมือง เมืองก่อนที่จะถึงเมืองดูบรอฟนิค
คือเมือง สตรอน ( Ston ) มีการสร้างกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก เป็นรองแค่กำแพงเมืองจีน

ใครแวะเมืองนี้ คงต้องไม่ลืมชิมหอยนางรม แห่งเอเดรียติก
ที่ว่ากันว่า อร่อยเลื่องชื่อ เพราะรสชาติมันเค็มๆมันๆ แม้ตัวเล็กๆ
ประมาณหอยบ้านเรา























กลับมาที่ ดูบรอฟนิค
ในเขตเมืองเก่านี้ ภายในกำแพงหินสูง ๒๕ เมตร มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย
ถนนการค้าเส้นสำคัญของเมือง ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
ที่เรียกว่า stradan ( เป็นคำมาจากพวกเวเนเชียน หมายถึง ถนนขนาดใหญ่)
ด้วยความยาวเพียง ๒๙๒ เมตร ท่ามกลางตึกแบบบาร๊อค

ในส่วนต้นถนน จะเห็นภูมิปัญญาโบราณในการทำน้ำประปา โดยการทำรางน้ำ
ติดกับกำแพงเมือง โดยนำน้ำจากภูเขา เข้ามา เก็บไว้ที่น้ำพุใหญ่ของเมือง
ซึ่งจะเป็นลักษณะน้ำพุทรงกลมใหญ่
เป็นน้ำพุใหญ่ที่ชื่อว่าโอโนฟริโอ้ ซึ่งออกแบบโดยโอโนฟริโอ้ เดลลา คาว่า ชาวเมืองเนเปิลส์
( Onofrio de la Cavea )

























ภายในเขตเมืองเก่าแทบทั้งหมดนั้น ถูกบูรณะขึ้นใหม่
เพราะการต่อสู้แบ่งแยกประเทศจากประเทศยูโกสลาเวีย นั้น
ในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๙๑ – ๑๙๙๒ มีการโจมตีจากกองทัพยูโกสลาพ
กองทัพชาวเซิรป์ กองทัพมอนเตเนโกร ด้วยระเบิดแทบทุกจุดของเมือง
ในช่วงเดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๙๙๑
ซึ่งต่อมา ได้ยูเนสโก้ มาช่วยในการบูรณะเมืองกลับคืน

แต่แผลนี้ ชาวโครแอต ได้ทำป้ายประจานซะเลย ว่าใครทำอะไรกับ ดูบรอฟนิคไว้ว่า


The sites of damage caused by the aggression on Dubrovnik by the Yugoslav army, the Serbs and the Montenegrins in 1991-1992



บาดแผลบางแห่ง ก็ไม่จำเป็นต้องบูรณะ
ด้วยเหตุผลทางความทรงจำ แม้มันจะเลวร้าย โดยเฉพาะรอยคมของกระสุนปืน
ที่เจาะผนังปูน กระจายตัวเต็มไปด้วยร่องรอย


























ริมถนนเส้นหลักนี้ Stradun บางที่ก็เรียกว่า Placa ( เป็นภาษาลาติน )
มีตึกนึง เยื้องกับน้ำพุใหญ่ทรงกลม ที่เต็มไปด้วยผู้คนนั่งดูดดื่มไอติมโคนกัน รอบน้ำพุ
ตึกนั้น …น่าสนใจ ยิ่งใครที่เรียนเภสัชฯมา เพราะตึกสถาปัตยกรรมโกธิก Gothic นี้

คือ ร้านขายยาแห่งที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
ใน อารามนักบวช Franciscan monastery

รายทางบนถนนหินขัดนี้ ก็เต็มไปด้วย ร้านขายของที่ระลึก
ที่เห็นจะมีเสน่ห์เหลือใจ ก็น่าเป็นตรอกซอยเล็กๆ จาก Placa นี้
ที่มีร้านกาแฟ ร้านอาหารเล็กๆ ที่น่าแวะมากมาย

เวลาถ่ายภาพ ดูแล้ว….ออกแนว street ที่น่าใช้เวลากับการจับภาพ แถวตรอกซอยพวกนี้มาก



























สุดถนน คือ หอระฆัง และ สปอนซ่า พาเลซ (Sponza palace )พระราชวังงดงามในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเน ซองส์ ( Gothic-Renassaince )

ที่ตั้งอยู่ทางขวาของหอระฆัง
สปอนซ่า พาเลซ นี้แต่เดิมคือ ศุลกากรของเมือง ที่เก็บภาษีจากการค้าขายสินค้าทางเรือ
สังเกตทุกวันนี้ ยังมีเขียนคำว่า dogana ติดที่หน้าประตู ซึ่งหมายถึง customs

ซึ่งก็เป็นที่ชั่งน้ำหนักสินค้า ระวางสินค้า ที่โด่งดังมากเพราะ มีการจารึกอักษรบนโค้งประตูไว้ว่า


FALLERE NOSTRA VETANT; ET FALLI PONDERA: MEQUE PONDERO CVM MERCES: PONDERAT IPSE DEVS

(Our weights do not permit cheating or being cheated. When I measure the commodities the Lord measures with me.)




ความหมายนัยๆคือ ถึงไม่มีใครรู้ว่าคุณโกง แต่พระเจ้ารู้น่ะ
ดักคอกันเห็นๆ เพราะมีแต่สามัญสำนึกเท่านั้นที่จะหยุดยั้ง ความคดโกงได้
ทายว่า คงไม่มีใครโกง อักษรพวกนี้น่าจะกระตุ้นต่อมความดีให้ทำงานอยู่



















เดินไปทางซ้ายของหอระฆัง ก็เจอ The Rector's Palace
ซึ่งในปี ค.ศ. ๑๖๖๗ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด ที่ทำให้ดูบรอฟนิค ราบเป็นหน้ากลอง
แต่มีสองสิ่งที่ไม่ค่อยเป็นอะไร นั้นคือ Sponza Palace และ The Rector's Palace


























The Rector's Palace

ที่นี่เป็นวังที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้งสามแบบ โกธิค เรอเนซองค์ และบาร๊อค
เป็นสถานที่ที่ผู้ปกครองของเมือง ทำงานและอาศัยอยู่ คงเหมือนไวท์เฮาท์ของอเมริกา
แต่มันพิลึกตรงที่ เวลาในการปกครองของแต่ละคนที่เป็นผู้ปกครอง
มีแค่ คนละเดือน….


เป็นประเพณีที่งงดีเหมือนกัน แต่เค้าก็มีเหตุผลมากหมาย
เป็นต้นว่า ป้องกันการแก่งแย่งชิงอำนาจกัน
รวมถึงทั้งเรื่องการคอรัปชั่น

วิธีการแบบนี้ ใช่ว่าจะเชยในปัจจุบัน
อย่างน้อยรูปแบบการจำกัดเวลาในอำนาจ ก็ยังใช้แพร่หลายในประเทศต่างๆ
นับเป็นเรื่องหนึ่งใน Amazing ของ Dubrovnik
























และอีกหนึ่งจุดสำคัญคือ โบสถ์ประจำเมือง

ในโบสถ์นี้ ปกติเค้าห้ามถ่ายรูปอยู่แล้ว
แต่ผมลืมตัว เลยได้ภาพในโบสถ์มาหนึ่งภาพ ก่อนที่จะมีคนเดินมาบอกว่าเค้าห้ามถ่ายน่ะพี่



























ดูบรอฟนิค….

ส่งท้ายกับภาพเด็กๆกับไอติมหวานๆ อร่อยของฉัน ที่ใครอย่ายุ่ง
ไอติมโคนละ สิบคูน่า ที่ว่าแพงที่สุดในโครเอเทีย
เพราะปกติ สี่ ถึง เจ็ด คูน่า แต่เห็นส่วนใหญ่ หก คูน่าก็ประมาณ ห้าสิบบาท

อย่างว่า ดูบรอฟนิค เค้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก อะไรก็แอบแพงไปนิดนึง…



























Create Date : 05 ตุลาคม 2552
Last Update : 6 ตุลาคม 2552 14:08:43 น. 7 comments
Counter : 4307 Pageviews.

 
สนุกมากครับ......

รอดูตอนต่อไป


โดย: ขึ้นเป้ วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:15:53:37 น.  

 
ขอบคุณที่เอารูปเมือง Dubrovnik มาลงตามคำขอ สวยจริงๆๆ


โดย: พี่ NO.11 Croatia Group IP: 58.8.130.16 วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:17:34:51 น.  

 
ภาพสุดท้ายได้อารมณ์จริงๆ

ตามไปเที่ยวโครเอเชียครับ


โดย: หลังคาส้ม fanclub (Jotivator ) วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:0:29:53 น.  

 
อ่านแล้วประทับใจมากยิ่งได้ไปมาแล้ว ช่วยส่งภาพท้องทะเลอันน่าพิศวงให้ชมด้วยค่ะ


โดย: จิตตา IP: 118.175.67.114 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:8:19:55 น.  

 
ขอบคุณพี่ No.11 ยังตามอ่านอยู่ครับ
รอภาคสอง อีกนิดครับ ใน week นี้ เสร็จแน่นอน

คุณน้อง ขึ้นเป้ ....
ดีใจครับที่มาตามชม

คุณหลังคาส้ม...ขอบคุณครับที่ชอบภาพสุดท้าย
แอบถ่ายน้องหนูคนนี้ มาสิบกว่าใบ แต่โดนภาพนี้ที่สุด

คุณจิตตา...รอภาคสอง ครับ ขอบคุณที่คอมเม้นส์ครับ




โดย: the fivedog วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:13:25:14 น.  

 
ย้อนยูเทอรนมาดูค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:15:43:24 น.  

 
ดูดี มีความสุขค่ะ


โดย: dithichaya IP: 58.64.72.208 วันที่: 26 มีนาคม 2554 เวลา:12:21:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the fivedog
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




การได้อยู่กับคนที่เรารัก ก็ดีพอแล้ว
แต่การได้เดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน มันสุดยอดมากกับชีวิตคู่ ของคนธรรมดาคนหนึ่ง

คนที่เชื่อมั่นในการให้ การแชร์สิ่งดีๆให้แก่กันและกัน เพื่อสังคมดีๆ ที่น่าอยู่ต่อไป
New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the fivedog's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.