Never cease

ฮันกุก ด้วยความนับถือ (CoreaAmazing)

ฮันกุก ด้วยความนับถือ (CoreaAmazing)




ในความเห็นส่วนตัว ประเทศนี้ ช่างเป็นประเทศที่ประหลาดชาติหนึ่ง ประหลาดแบบงงๆว่า ถีบตัวเองไปสู่ประเทศชั้นนำ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่ากามนิต ได้ยังไง ? อะไรมันดลใจให้คนบ้านนี้ มันเป็นอย่างนี้…
ก็ไม่งงได้ไง…เมื่อ สามสิบ สี่สิบปีก่อน ชาตินี้เค้าก็แทบเรียกว่า บ้านแตกสาแหรกขาด รบกันทั้งวันทั้งคืน ก็สงครามเกาหลี ที่พี่ไทยของเรา ก็ส่งทหารกล้าไปช่วยรบ ต่อต้านคอมมิวนิวส์ เกาหลีเหนือ ไม่ให้มากลืนกินเกาหลีใต้นี่แหละ…

แต่วันนี้…มันก็เห็นๆแหละ เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ( ที่พี่ไทยคงมีโอกาสสักวัน หากโลกนี้ยังคงอยู่หลังปี 2010)

เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพจัดบอลโลก
เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo
ในขณะที่บ้านเราก็ได้แค่จัดประกวดขาอ่อน ระดับโลก

เกาหลีใต้ เป็นเจ้าของสินค้าระดับโลกมากมาย ซัมซุง แอลจี แดวู ฮุนได แม้แต่ยางรถยนต์ยี่ห้อ ฮันกุก
























เรียกว่า หลังสงครามเกาหลีจบ ชาตินี้มีเวลาไม่ถึง ห้าสิบปี ในการสร้างชาติแบบก้าวกระโดด จนเป็นวันนี้ ไม่มีอีกแล้วพวกเกาหลีที่เคยถูกดูถูก บอลที่เคยแพ้รูดทลาย สินค้าที่ห่วยแตก หรือแม้แต่ประเทศที่ไม่เคยอยู่ในรายชื่อประเทศน่าท่องเที่ยวมาก่อน

ใครจะอยากมาเกาหลีล่ะ ก็ในเมื่อสมัยก่อนเค้ามาเกาหลี เพราะเหตุผล “กู้ชาติ.. ” ช่วยเกาหลีของกองทัพไทย
แต่วันนั้นกับวันนี้ มันต่างกัน? คนเกาหลีเค้าเก่งที่เป็นเจ้าภาพงานระดับโลกมีสินค้าระดับโลก แต่ผมว่าเค้าเก่งกว่าที่ว่ามาทั้งหมด คือวันนี้เค้าทำให้คน มาเที่ยวเกาหลีได้…ทั้งๆที่ เดิมที ประเทศนี้คือสมรภูมิ

อันที่จริง สมรภูมิแห่งสงครามเชื้อชาติของเกาหลี มันส่งผลต่อคนไทยเหมือนกัน




















อันดับแรกเลย คือ คนบ้านแก หากจะมาบ้านฉัน ฉันไม่ตรวจอะไรมาก เข้ามาได้เลย….ฉะนั้นเราคนไทยคิดจะไปเที่ยวโซล ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องเสียเงินทำวีซ่า เพราะประเทศไทยเป็นมิตรแท้ ช่วนฉันรบกู้ชาติ มันจะมีสักกี่ชาติเชียว ที่ชาติเราได้รับเกียรติแบบนี้ รู้งี้ ตอนอเมริกามีสงครามกลางเมืองแบบเกาหลี น่าจะส่งทหารไปช่วยรบหน่อยหนา เวลาขอวีซ่าUS จะได้ไม่ยุ่งมากแบบทุกวันนี้ 555..

อีกหนึ่งประโยชน์ของการไปช่วยรบ ก็คือ เหล่าลูกทหารกล้าที่รบในเกาหลี เค้าจะมีสิทธิพิเศษบางอย่าง ในเกาหลี


เอาเป็นว่า เกาหลีใต้ ชาตินี้ ได้ทำให้เห็นว่า มาถึงวันนี้ได้ แบบตั้งคำถามว่า มานทำได้ยังไง??
ทั้งที่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เกาหลีตกอยู่ใต้การปกครองของญี่ปุ่นกว่า สามสิบปี และหลังนิวเคลียร์ถล่ม ฮิโรชิมา นางาซากิไม่ถึงสิบปีที่สงครามโลกจบ ก็ทะเลาะกันจนเป็นสงครามเกาหลี

ถึกมากคนเกาหลี …





















อะไรที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น เกาหลีมันมักจะทำตรงข้าม เพื่อเอาชนะคู่อริชาตินี้ ให้ได้ เท่าที่เห็นก็คงเป็นการพูดคุยกันของคนเกาหลี เค้าคุยกัน เหมือนมันจะต่อยกัน เสียงดังโวกเวกโวยวาย
……เอาเป็นว่า ตอนเช้ามา ไปกล่าวสวัสดีทักทายยามเช้าเบาๆว่า “อันยอง ฮาเซโย” คนเกาหลีเค้าจะเคืองเอานะ ที่ถูกต้อง ชัดเจน คือต้องพูดให้มันดังๆ เหมือนจะหาเรื่องกัน ประมาณนั้น…แต่คงไม่ขนาดนั้น แตกต่างกับพวกญี่ปุ่นซะจริง คุยกันเหมือนกระซิบกระซาบกัน เงียบเข้าไว้ ออกแนวเซน ไปเลย เค้าว่าดี…ไฮ

มีอะไรบ้างละที่เป็นของญี่ปุ่นในเกาหลีบ้าง….มันแทบจะไม่มี ก็ตามท้องถนน ชะเงยมองหาโตโยต้าสักคัน หากเป็นบ้านเรา แค่กระพริบตาก็เจอยี่ห้อนี้ แต่ที่นี่มันหายากเหมือนเรามองหารถอินเดีย ยี่ห้อ ทาทา ที่บ้านเราเลย…over ไปไหมเนี้ย..

ชาตินิยม จัด(จ้าน)……ประเทศเกาหลี หรือที่เรียกว่า ฮันกุก 한국 (ชื่อเหมือนยี่ห้อยางรถยนต์ ที่ผมยังไม่กล้าเปลี่ยนเมื่อเดือนที่แล้ว)




















พูดถึงความสุดๆของคนเกาหลีในการสร้างชาติ แค่เรื่องสงครามมันแค่น้ำจิ้ม ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา

อีกเรื่องของเกาหลีคืออุปสรรคทางภูมิประเทศ ที่เป็นคาบสมุทรแบบภูมิประเทศลักษณะมีเทือกเขาซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แน่นอนมันส่งผลต่อการตั้งเมือง การทำมาหากิน เพาะปลูกพืช แค่ช่วงนั่งรถจากสนามบินอินซอนเข้ากรุงโซล เราก็จะเจอกับทะเลโคลนที่กว้างใหญ่มาก เป็นพื้นที่ที่ทำอะไรไม่ค่อยได้ ด้วยภูมิศาสตร์ที่รองรับฝุ่นทรายจากทะเลทรายในแผ่นดินใหญ่ประเทศจีนที่พัดพามา

อุปสรรคพวกนี้ พ่ายแพ้ให้กับฮันกุกซาลัม(คนเกาหลี) อย่างเป็นเอกฉันท์ แต่ที่น่ากลัวของคนเกาหลี พ.ศ.นี้ก็คือ คนเกาหลี ด้วยกันเอง …..

นิวเคลียร์ ของเกาหลีเหนือ ที่เกาหลีใต้ต้องเตรียมป้องกันตัวเอง ทุกวินาที ก็แปลกศัตรูอย่างญี่ปุ่น วันนี้เกาหลีก็ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ภูมิประเทศอันกันดานก็ไม่หวั่น แต่กับคนเชื้อสายเดียวกัน นี่สิ..หวั่นไหว หรือโดนสาปเหมือนประเทศอะไรนะ คุ้นๆ


















อารีดัง
โสมเกาหลี
กิมจิ
หมูย่างเกาหลี

ของพวกนี้ เรา คนไทย รู้จักกันดี ในความหมายของวัฒนธรรมเกาหลี
แต่พอไปถึงเกาหลี ก็ขอเพิ่มอีกรายการ นั้นก็คือ กินนมเกาหลี


“นมรสกล้วย”



















เวลาขายรถ ก็ต้องบอกว่า สภาพเดิมๆ ไม่ได้ดัดแปลงอะไร คนซื้อเค้าจะรู้สึกดีๆว่า ไม่ช้ำมาก
นมกล้วยเกาหลี ก็ต้องบอกแบบนั้น ถึงกับ ขวดใส่นม ก็ยังโบราณเดิมๆออกแบบเป็นไหกิมจิ มาแต่ไหนแต่ไร
ก็ยังแพคเกจเดิมแบบได้อารมณ์อยู่ แต่คงไม่ใช่ อารมณ์แบบดื่มนมเหมือนได้กินกิมจิ ไปในตัว..อันนี้ คิดเอง

ใครไปเกาหลี ไม่ได้ดูดนมกล้วยเกาหลี อย่ากลับมาให้เห็นหน้าเลย…อะไรจะขนาดนั้น เวอร์มากไปเปล่า..
แค่อยากให้ทำครับ เปรียบเทียบแบบมาเที่ยวบ้านเรา ไม่ได้กินผัดไทย(แล้วขี้แตก) แสดงว่า อ่อน…(ไซโคอีกดอก)

สนนราคาก็ พันวอนต่อขวด ตกประมาณสามสิบบาทไทย
บางที่ขายปลีก ก็พันสองร้อยวอนครับ ไม่แพงหรอก ค่าประสบการณ์
แต่ตามซูเปอร์มาร์เกต จะหาแบบปลีกยากหน่อย จะเจอแต่แพคละ สี่ขวด ต้องมองหาดีๆ
แนะนำซื้อมาแพคสี่เลย กินได้เรื่อยๆ รับประกันกินแล้วขี้ไม่แตกเหมือนผัดไทย รถเข็นบ้านเรา




















อารีดัง
โสมเกาหลี
กิมจิ
หมูย่างเกาหลี
แดจังกึม Winter Love Song F4
นมรสกล้วย
ทำตาสองชั้น ทำจมูก ทำนมโต
อีตูดี้ สกินฟู๊ด




















สงสัยอีกอันที่นึกถึงเกาหลี คงจะเป็น
เรื่องทะเลาะที่ยังไม่เลิกของสองเกาหลี ทะเลาะกันจนบ้านใกล้ๆหนาวไปหมดเลย ก็จะใคร ถ้าไม่ใช่โจทก์เก่า ญี่ปุ่น
ตอนนี้ต้องเตรียมขีปนาวุธป้องกันตัวเองกันยกใหญ่

ก็ได้แต่ขอว่า ปีเสือปีนี้ คงไม่ฟัดกันดุเดือดแบบเสือนะครับ
สวัสดีปีเสือ สุขสันต์วันตรุษจีน ล่วงหน้า Valentine แบบพี่เสือครับ




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553
1 comments
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2553 22:19:02 น.
Counter : 1572 Pageviews.

 

หวัดดีค่ะ แวะมาแอบอ่านค่ะ
เขียนได้สนุกดีนะค่ะ หุหุ

 

โดย: Nepster 1 กุมภาพันธ์ 2553 23:40:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


the fivedog
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




การได้อยู่กับคนที่เรารัก ก็ดีพอแล้ว
แต่การได้เดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน มันสุดยอดมากกับชีวิตคู่ ของคนธรรมดาคนหนึ่ง

คนที่เชื่อมั่นในการให้ การแชร์สิ่งดีๆให้แก่กันและกัน เพื่อสังคมดีๆ ที่น่าอยู่ต่อไป
New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
1 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the fivedog's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.