|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
วันดับสูญ...กาลดับสูญ (+ส่งท้าย)
วันดับสูญ...
...กาลดับสูญ
สมชายผละตัวเองออกจากห้องพักผ่อน ถ้าสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริง ต่อจากนี้จะไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกต่อไป ที่หอบังคับการเขาพบว่าชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าแผงควบคุมอยู่ก่อนแล้ว
ด๊อกเตอร์โทมัส
ชายชราหมุนตัวเล็กน้อยมายังต้นเสียงก่อนจะหันกลับไปยังตำแหน่งเดิม สีหน้าที่เห็นเมื่อสักครู่นั้นเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด สมชายเดินเข้าไปใกล้ มองภาพในมอนิเตอร์ซึ่งกำลังแสดงแผนที่ดวงดาว จักรวาล และเส้นทางเดินของยานโนอาร์อยู่
ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ทั้งห้องเงียบกริบ บางทีทั้งคู่ก็คงรู้อยู่แล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูด
ที่ด้านล่างซ้ายของจอ ตัวเลขแสดงกำลังขับเคลื่อนของยานกำลังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าใกล้เส้นโอเวอร์ฮีท ในขณะที่ตัวแสดงแสดงระยะทางการเดินทางของยานกลับสวนทาง
ด๊อกเตอร์โทมัสพยายามเพิ่มกำลังของยานขึ้นไปอีกแต่ดูเหมือนจะไร้ผล และเมื่อใดก็ตามที่ยานหยุดการเคลื่อนตัวไปข้างหน้ามันก็จะถูกดูดกลับเข้าไปยังระบบสุริยะ
ตามปกติแล้วดวงอาทิตย์ที่จะทำให้เกิดหลุมดำได้นั้นจะต้องใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างน้อยสิบแปดเท่า
เมื่อมันเกิดการระเบิด หากแรงดึงดูดของดาวนิวตรอนสามารถดึงเศษซากดาวที่กระจัดกระจายจากการระเบิดให้ตกกลับลงมายังตัวมันเองได้จนกระทั่งมันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราสามเท่าได้ แรงโน้มถ่วงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั้นก็จะทำให้ดาวนิวตรอนเกิดการยุบตัวลงอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดจนเกิดเป็นหลุมดำ
สิ่งที่ยังคงเป็นปริศนาในจักรวาล มันกลืนกินได้ทุกสิ่งแม้กระทั่งแสง
การระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้รุนแรงและกินพื้นที่มหาศาลกว่าที่เคย พลังงานและมวลที่จะทำให้เกิดหลุมดำนั้นเหลือเฟืออย่างไม่ต้องสงสัย
สมชายเหลือบมองไปทั่วห้อง นักบินสองคนอยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยากไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันมาก ทุกคนไม่เหลือกำลังใจที่จะทำอะไรต่ออีกแล้ว
แม้กระทั่งด๊อกเตอร์โทมัสก็ไม่เว้น แม้สายตาของชายชราจะยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ แต่เขากลับไม่สามารถระบุรายละเอียดที่ปรากฏได้ แม้จะดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ในขณะนี้สมองนั้นกลับว่างเปล่า
สมองที่เคยปราดเปรื่องรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องกลับใช้การไม่ได้ไปเสียแล้ว
ออด ออด ออด
สัญญาณเตือนดังขึ้น สัญญาณไฟสีแดงกระพริบถี่ที่แผงควบคุม เครื่องยนต์ที่ปีกขวาได้รับความเสียหายจากการทำงานเกินกำลังของมัน
หลุมดำที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เคยรู้จักได้ก่อกำเนิดขึ้นแล้ว หลุมดำที่เกิดจากจุดจบของดวงดาวจำนวนมากมาย แรงดึงดูดที่แม้แต่ความเร็วแสงก็ยังต้องพ่ายแพ้
แล้วนับประสาอะไรกับความเร็วที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนของเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ที่มนุษย์กระจ้องร่อยสร้างขึ้น
ไม่มีทางเลย
จักรวาลเกิดขึ้นจากบิ๊กแบงหรือการระเบิดครั้งใหญ่ หลังการระเบิดในครั้งนั้นส่งผลให้จักรวาลแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้มันก็ยังคงขยายตัวต่อไปไม่หยุดยั้ง
มันทำอย่างนั้นก็เพื่อลดพลังงานและเข้าสู่สมดุล
ไม่แน่ว่าหลุมดำที่ก่อกำเนิดขึ้นในเวลานี้อาจจะใหญ่และมีแรงดึงดูดมหาศาลขนาดที่จะหยุดยั้งการแผ่ขยายของจักรวาลก็เป็นได้
และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันจะกลืนกินทุกสิ่ง ทั้งสสาร พลังงาน แสง และรวมจึงจักรวาลทั้งหมด
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้ เพราะคงไม่มีใครอยู่ดูมันได้แล้ว ยานหยุดเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแล้ว ตัวยานสั่นสะเทือนหนักขึ้น แรงขับเคลื่อนไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดได้อีกต่อไป
สัญญาณไฟสีแดงกระพริบที่ปีกซ้าย และที่จุดอื่นๆ ในช่วงเวลาติดๆ กันจนในที่สุดสัญญาณเตือนทั่วทั้งยานก็ติดกระพริบ
ด๊อกเตอร์โทมัสก้มหน้าแต่มือยังคงอยู่ที่แผงควบคุม
อ๊าก...กกก
เสียงตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่งนั้นยอมรับว่าตนเองหมดหนทางแล้ว ชายชราทุกกำปั้นลงไปบนแผงควบคุมราวคนเสียสติ
ข้าไม่ยอมแพ้ ไม่ยอม แก ไอ้พระเจ้าเฮงซวย แกต้องการจะให้พวกข้าหายไปจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ยอม แกดูถูกพวกเราเกินไป พวกข้าต้องรวดโว้ย ไม่ยอม ไม่ อ๊าก...กกก
ความทรงภูมิและความสุขุมหายไปหมด ตรงหน้าของสมชายในเวลานี้เหลือเพียงชายแก่หมดสภาพที่กำลังคลุ้มคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น
การกระทำของพวกเราส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงและรุนแรงแสนสาหัสกว่าที่คาด เป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินกว่าจะจินตนาการถึงจริงๆ
คนที่อยู่ภายนอกห้องนี้อาจจะยังไม่รู้ตัว ปล่อยให้พวกเขาหายไปอย่างสงบดีกว่า
การกระทำของธุลีจักรวาลอย่างเราไหนเลยจะสู้ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้ ทุกการกระทำที่ผ่านมา ทุกการดิ้นรน เราก็แค่วิ่งอยู่ในกรงขังของธรรมชาติเท่านั้น
และเมื่อธรรมชาติเบื่อที่จะเล่นกับเราแล้วทุกอย่างก็จบ เราไม่มีทางรอดแต่แรกแล้ว ตั้งแต่เราทอดทิ้งโลก
สมชายหลับตาลงอย่างสงบ ปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปไกลแสนไกลสู่ห้วงเวลาของอดีต คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตที่ผ่านมาก่อนหมดโอกาสที่แม้แต่จะคิด
และเฝ้ารอให้ทุกสิ่งถูกกลืนกิน เพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
วันดับสูญ...
...การเริ่มต้น
ณ ความเวิ้งว้างดำมืด ที่นั่นไม่มีจุดเริ่มต้น ที่นั่นไร้ซึ่งจุดจบ
ปฐมอัคคี จุดพลังงานหนึ่งมิติซึ่งมีพลังงานและแรงอัดมหาศาลจากการสะสมมานาน จนขณะนี้ตัวของมันเองไม่สามารถคงสภาพอย่างที่มันเป็นอยู่ได้อีกต่อไป
ในที่สุดบิ๊กแบงหรือการระเบิดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น จักรวาลเริ่มแผ่ขยายออกไป
เมื่ออุณหภูมิเริ่มลดต่ำลง กาแลคซี่ก็ก่อกำเนิดขึ้นโดยความเย็นจะทำให้บริเวณที่มีความหนาแน่นของมวลสารหดตัวจนเกิดความสมดุลกับแรงโน้มถ่วง
ก๊าซต่างๆ ในกาแลคซี่เริ่มหดตัวอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ก่อกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับวงโคจร
และระบบสุริยะก็กำเนิดขึ้น
โลก ดางดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ใช้เวลาในการปรับสภาพให้เย็นลงจากตอนถือกำเนิด และนั่นเองที่ช่วยให้บรรยากาศและทะเลก่อกำเนิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต
จุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตในมหายุคต่างๆ เริ่มจากตรงนั้น
สัตว์เซลล์เดียว แบคทีเรีย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ถือกำเนิดและวิวัฒนาการไล่เรียงกันมา
เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตบนพื้นโลกในขณะนั้น สัตว์ใต้น้ำมีกระดูกสันหลังและพืชน้ำคือสิ่งที่ได้จากการวิวัฒนาการต่อจากนั้น
และเมื่อพืชน้ำถือกำเนิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นานของเสียที่ได้จากการสังเคราะห์แสงของพืชซึ่งก็คือก๊าซออกซิเจนจึงเริ่มหนาแน่นขึ้นในชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลก
สิ่งมีชีวิตบนบกจึงเริ่มถือกำเนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์มีกระดูกสันหลัง แมลง พืชบก
และในที่สุดก็เข้าสู่ยุคสำคัญยุคหนึ่งของโลก ยุคไดโนเสาร์ ยุคที่สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ครองโลก
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกก็ถือกำเนิดและวิวัฒนาการในยุคนี้ หากเพียงแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต้องแฝงตัวอยู่ในเงามืดของประวัติศาสตร์ในยุคนี้เนื่องจากขนาดและรูปร่างซึ่งไม่ใช่คู่ต่อกรของไดโนเสาร์
เมื่อสิ้นสุดยุคไดโนเสาร์ นักล่าขนาดใหญ่เหลือน้อยลง ก็เป็นคราวที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ลืมตาอ้าปาก พวกมันเดินออกจากเข้ามืดเข้าสู่แสงสว่าง
สัตว์ตระกูลไพรเมตซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีลักษณะพิเศษกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นตรงที่สมองมีขนาดใหญ่และลักษณะทางกายภาพพิเศษอื่นๆ ที่เหนือกว่า
และการวิวัฒนาการทางสมองระดับสุดยอดก็ถือกำเนิดขึ้นจากหนึ่งในไพรเมตเหล่านั้น
วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ผ่านทศวรรษ ศตวรรษ หลายศตวรรษ มนุษย์คนแรกก็ถือกำเนิดขึ้นในที่สุด และต่อจากนี้ประวัติศาสตร์ของมนุษย์จะเริ่มต้นอีกครั้ง
แต่ทว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในจักรวาลที่สามารถวิวัฒนาการจนข้ามพ้นขอบเขตของธรรมชาติไปได้ ทุกสิ่งล้วนกลับเข้าสู่สมดุลเสมอ
วิวัฒนาการที่มากเกินไปจะสร้างความบอบช้ำให้โลก โลกที่บอบช้ำจะทำให้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น
การตัดไม้ทำลายป่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น
และเพื่อกลับเข้าสู่สมดุลฝนจึงตกมากขึ้น โลกต้องปรับสมดุลโดยการถ่ายเทความร้อนเกิดเป็นพายุที่รุนแรงมากขึ้น
ลมทะเลจะแรงขึ้นเนื่องจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิบนบกและอุณหภูมิในน่านน้ำ และคลื่นยักษ์ที่มีพลังทำลายมหาศาลก็จะเกิดขึ้น
มันเกิดเพราะโลกเสียสมดุล และนี่ก็เป็นกระบวนการปรับสมดุลของโลก
เมื่อมนุษย์กำลังก้าวข้ามพ้นขีดจำกัดของชีวิตและธรรมชาติเพื่อไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า การโคลนนิ่ง การสำรวจอวกาศ การพยายามทำความเข้าใจมิติเวลา การรักษาสมดุลแห่งจักรวาลก็จะเริ่มต้นขึ้น
ทำลายทุกสิ่งและเริ่มต้นใหม่
มันเป็นวัฏจักรที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงและไม่อาจมีผู้ใดล่วงล้ำตลอดกาล
Create Date : 07 สิงหาคม 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 7 สิงหาคม 2559 18:38:23 น. |
Counter : 753 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
KTHc |
|
|
|
|