|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
..ลิง กับ ลา..
เพลง น้ำตาแสงใต้
วันนี้ตื่นเช้า ไปเดินตลาดสด..(นานมากแล้วที่ไม่ได้แวะไปหาอะไรทาน) ทักทายแม่ค้าที่รู้จักคุ้นเคยกันตามปกติ..แล้วก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีคนทัก อ๋อ...เพื่อนรุ่นพี่...เคยทำงานด้วยกันมาก่อน เมื่อนานมากแล้ว
ด้วยความดีใจก็ทักทายเล่าสู่กันฟัง หลังจากที่พี่เค้าร่วมแสดงความยินดีที่ได้เลื่อนตำแหน่ง คุณพี่ก็เริ่มเม้า..กระจายยยยยย...
เรื่องเดิม ๆ ค่ะ..ปัญหาโลกแตก..ผู้บังคับบัญชา..กับลูกน้อง.. อ้อ!..นึกออกแล้ว..ช่วงนี้เป็นช่วง..พิจารณาขั้น.... หุหุ
ฟังไปก็ยิ้มไป..ในใจก็คิดว่า.. ไม่น่าตื่นแต่เช้าเลยตรู...!!! จะว่าไปแล้วนะ..ถ้าหากผู้บริหารยึดหลักธรรมภิบาล..ในการปกครอง คิดว่าเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเกี่ยวกับการพิจารณาขั้นเงินเดือนไม่น่าจะเกิดขึ้น อันนี้ก็ไม่รู้สินะ..เดี๋ยวรอให้ขึ้นตำแหน่งผู้อำนวยการซะก่อน..อิอิ
ฟังพี่เค้าเล่าแล้วเลยนึกถึงนิทานเรื่องหนึ่ง เป็น Fw.mail เรื่อง ...ลิงกับลา...
....หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงและลา
....วันหนึ่งหญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของได้รับความเสียหาย
ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัว ก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมันอีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย
หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อม จนทำให้ข้าว ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้านมาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ
สักครู่หนึ่ง หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกล จากทางหน้าต่าง ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง
ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที
หันมองลิงและลา
เพื่อดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอก็คิดเอาเองว่า...เจ้าลานี่เอง...คือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ
ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด...จนสิ้นใจ... ..โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย...!!!
..... เป็นไงบ้างคะ..? หลายคนคงไม่ชอบตอนจบเนาะ.. แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็น ถึงความเป็น...ผู้นำ...ของหญิงชาวบ้านที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหายและมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วจึงตัดสินว่า...ลาคงเป็นผู้กระทำ
แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ และมองไม่ออกว่าผู้ที่น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือ..ลิง..ไม่ใช่..ลา..
...ความจริงถ้าเธอรู้จักสำรวจ ร่องรอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้า และรอยฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน
เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์"
...ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เล่ห์เหลี่ยม
...ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง
นายที่ดีไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้ ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม ต้องรู้จักยอมเสียสละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริง เพื่อควบคุมเจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย
มาถึงตรงนี้ ขออนุญาตอ้างอิงถึง พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี วันที่ 11 ธันวาคม 2512 ความว่า..
...ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
ต้องขอบคุณ..พี่คนนั้น..เหมือนกันนะ..! ประหนึ่งพี่จะบอกเป็นนัยว่า...เจ้าจงอย่าเป็นดังเช่นคนเหล่านั้นนะน้องนะ... ก็ถ้าเป็นเช่นนี้..สรุปว่า..วันนี้โชคดีที่ได้ตื่นแต่เช้า..และไปตลาด..อิอิ
Create Date : 05 กันยายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 5 กันยายน 2553 21:59:04 น. |
Counter : 472 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|