การสอบขับรถในอเมริกา Road test
หลังจากที่สอบผ่าน permit test มาแล้ว อย่างที่บอกค่ะ สามารถขับรถได้แต่ต้องมีคนที่มีใบขับขี่แล้วนั่งไปด้วยเสมอ เนื่องด้วยเพื่อนเอ๋จะมาเที่ยว อยากพาเพื่อนขับรถเที่ยวเอง จะให้สามีนั่งไปด้วยตลอดก็ไม่ได้เพราะฮีต้องทำงาน เอ๋เลยต้องเร่งสอบขับ หรือที่เรียกว่า road test ซะแล้ว ถึงจะได้ใบขับขี่จริง 

ก่อนการสอบขับจริง เราควรจะฝึกขับให้คล่องค่ะ ด้วยความแตกต่างมากมาย เช่น พวงมาลัยด้านซ้าย แต่วิ่งเลนขวา และไม่ว่าจะที่ปัดน้ำฝน ไฟเลี้ยว สลับข้างกับบ้านเราหมดเลย เพื่อความชัวร์เราต้องทำความคุ้นเคยกับรถคันที่จะเอาไปสอบเสียก่อน
คุณสามีเอ๋ไม่มีเวลามาสอนเพราะต้องทำงาน และอีกอย่างคงจะเป็นทุกบ้าน สอนกันเองก็กัดกันเอง
ดังนั้นคุณสามีเอ่จึงมอบหมายงานให้หาข้อมูลโรงเรียนสอนขับรถใกล้ ๆ บ้าน ค่าบริการ/ชั่วโมง หมายเลขโทรศัพท์ เดี๋ยวฮีจะจัดการติดต่อให้ 
หลังจากที่ติดต่อโรงเรียนไป ค่าเรียนที่ MA ชั่วโมงละ $40 ค่ะ ถ้าเรียน 10 ชั่วโมง ลดเหลือ $350 แต่เอ๋เรียนแค่ 3 ชั่วโมง ทางโรงเรียนจะขับรถมารับเราถึงบ้านค่ะ และจับเวลาตั้งแต่รถแล่นออกจากบ้านเราเลย
ทำไมต้องเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถ
การเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถมีข้อดีคือ 
๑.ทางโรงเรียนจะรู้ว่าจะสอบอะไรบ้าง เขาจะสอนเราครอบคลุมทุกอย่างที่ RMV จะสอบเราค่ะ รวมทั้งเทคนิคต่าง ๆ ซึ่งเราทำตามความเข้าใจมาก่อน แต่เขาจะสอนหลักการ เช่น การเลี้ยวแบบ 3 point turn ต้องทำยังไงบ้าง การถอยหลังเข้าจอดระหว่างรถสองคัน หรือ parallel park ต้องทำยังไง
๒. ลดการกระทบกระทั่งกับคนที่บ้านเพราะสอนกันทีไร ทะเลาะกัน วอนกันทุกที 
๓.ที่ MA รถที่จะใช้ในการสอบขับจะต้องเป็นรถที่มีเบรค ๒ ข้าง นั่นก็คือรถโรงเรียนสอนขับรถนั่นเอง ถ้าเราเรียนกับเขา เราก็จะมีสัมพันธภาพที่ดีและได้ส่วนลดในการเช่ารถในวันสอบขับด้วยค่ะ รัฐอื่นเอ๋ไม่ทราบนะคะ อันนี้กรณีของ MA ค่ะ
วันสอบเป็นยังไง
วันสอบโรงเรียนสอบขับรถมารับถึงบ้านเหมือนตอนเรียนค่ะ พาไปสอบ มีคนไปสอบพร้อมกันหลายคน มาจากหลาย รร ต่างก็พานักเรียนของตัวเองมา และมีบางคนที่มากันเองแต่เช่ารถมา เราต้องกรอกแบบฟอร์มคล้าย ๆ ตอนสอบ permit test ค่ะ เจ้าหน้าที่ของ RMV จะเรียกไปสอบทีละคน โดยเจ้าหน้าที่จะนั่งข้างคนขับ และคนสอนเซอร์ซึ่งก็คือครูสอนขับรถของเรานั่งด้านหลัง 
พอโดนเรียก เอ๋เข้าไปนั่งประจำที่คนขับ เจ้าหน้าที่เช็ครูปในใบเพอมิท กับตัวเรา แล้วก็สอบถามชื่อ หลังจากนั้นให้แสดง hand signal ค่ะ

หลังจากนั้นให้เลื่อนรถออกไปได้ ไม่ว่าจะเลื่อนรถ จอดรถ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาต้องแสดงสัญญาณไฟทุกครั้ง และต้องชะโงกหน้าออกไปมองด้วยว่ามีรถวิ่งมาไหม ถอยหลังก็ต้องเอี้ยวหลังไปมอง ห้ามมองแค่กระจกมองข้าง แล้วก็ให้ถอยเข้าจอดแบบพาราเรลพาร์ค แล้วถ้ามีคนข้ามถนนต้องจอด ไม่จอดปรับตกทันที เจอป้าย stop ก็ต้องหยุดจริง ๆ ห้ามชะลอ ๆ แล้วไป
เอ๋สอบครั้งเดียวผ่านค่ะ หลังจากสอบผ่าน เจ้าหน้าที่จะประทับตรา passed ให้หลังใบเพอมิท เราสามารถไปทำใบขับขี่ได้หลังจากบ่ายสองของวันที่สอบ เมื่อไปทำใบขับขี่ ทาง RMV จะออกใบอ่อน (ลักษณะเหมือนใบเพอมิท)ให้ก่อน มีรูปเราและมีอายุ 60 วัน หลังจากนั้นเขาจะส่งใบขับขี่จริงมาให้ทางไปรษณีย์ค่ะ ขั้นตอนนี้ถ้าเราไม่ชอบรูที่ถ่ายไว้แล้วสามารถขอถ่ายใหม่ได้ค่ะ
ใบขับขี่สามารถใช้แทน ID ได้ค่ะ แต่ถ้าสอบใบขับขี่ยังไม่ได้สามารถทำ ID ได้ที่ RMV ค่ะ 

บล็อคหน้ามาสัมผัสประสบการณ์ด้านการเรียนหนังสือกันบ้างนะคะ ถ้ามีข้อสงสัยหรือมีอะไรที่เอ๋พอจะช้วยไขข้อข้องใจได้ สามารถติดต่อเอ๋ได้ทาง facebook: Aey Panyada หรือ อีเมล์ kruaey31@gmail.com ค่ะ 







Create Date : 04 กันยายน 2557
Last Update : 4 กันยายน 2557 10:21:22 น.
Counter : 5261 Pageviews.

1 comments
  
ขอคำแนะนำการสอบขับขี่ที่เมกาคะ
ฉันสอบมาหลายคร้งมาก จนรู้สึกท้อ
อยู่รัฐเวสเวอร์จิเนีย คะ

E-mail noong2505@aol.com

ขอบคุณนะคะ

หนึ่ง
โดย: หนึ่ง IP: 192.99.14.36 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:1:48:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ครูปัญญดา
Location :
ชัยภูมิ Massashusett  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



คุณครูคณิตที่พักงานชั่วคราว มีงานอดิเรกมากว่าเรื่องตัวเลข รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ แอบใช้มือซ้ายในการทำงานฝีมือ แอบมั่วไปเรื่อยในการทำอาหาร ถ่ายรูปได้ทุกที่ทุกเวลา ปลูกต้นไม่ไม่ขึ้นแต่ก็ยังชอบต้นไม้แม้จะไม่รู้จักชื่อก็ตาม
New Comments
กันยายน 2557

 
1
2
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30