ชีวิตที่ไร้ถิ่น
๑. ยามเช้าในหมู่บ้านกลางป่าดอย อากาศค่อนข้างหนาว น้ำค้างพราว เกาะกิ่งไม้ใบหญ้าและชายคากระท่อมไม้ไผ่ ราวกับเพชรล้ำค่า เสียงนกไพรร้องขับขานคุยกันเบิกบาน ไก่ป่าอวดเสียงขันแข่งตอบโต้กับไก่บ้าน ทุกชีวิตฟื้นตื่นเพื่อดำเนินวีถีของตัวเองอีกครั้ง
พ่อเฒ่านั่งดื่มน้ำชาข้างกองไฟ และเหม่อมองไปทางทิศตะวันตก ผมเดินตรงเข้าไปนั่งคุยและขอดื่มน้ำชา เราคุยกันด้วยคำพูดบางคำ ต้องเอาภาษามือมาช่วยในการสนทนา เนื่องจากพ่อเฒ่าเป็นคนไทยใหญ่พูดภาษาไทยได้เป็นบางคำ ครูดอยอย่างผมพูด*คำเมือง ยังออกเป็น**ภาษาทองแดง แต่ท้ายที่สุดเราก็สื่อสารกันเข้าใจ พ่อเฒ่าเป็นคนเลี้ยงควายให้กันชาวบ้านในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่นี่เรียกแกว่า พ่อเฒ่าหน่อยหน่อยเป็นชื่อที่รู้จักทั่วไป แต่ไม่ทราบความหมาย
ผมหันไปเห็นแครอทที่ขึ้นปนอยู่กับต้นฝิ่นและผักกาดดอยข้างกระท่อม ผมจึงไปถอนนำมาล้างน้ำแล้วกินเล่นสดสด พ่อเฒ่านั่งมองผมเคี้ยวแครอทอย่างสนใจ แกยิ้มแล้วพูดว่า เฮาอยากมีเขี้ยวเหมือนคู เฮาอยากเคี้ยวข้าวฮื้อมันลำลำ ความชรานำพาฟันของพ่อเฒ่าไม่เหลืออยู่ในปากแม้แต่ซี่เดียว ทำให้ผมนึกถึงชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ มันไม่จีรัง ทุกคนทุกชีวิต กำลังเดินทางอยู่บนเส้นของกาลเวลา นำพาสู่การดับสูญหรือ ความตาย นั่นเอง บนเส้นทางนั้นมีทั้งสุขสมหวัง พลาดหวังและทุกข์ทรมาน จะถึงช้าหรือเร็ว ก็แล้วแต่ปัจจัยแห่งกรรมของตนเอง แม้กระทั่งตัวผมเองก็กำลังเดินทางไปหามัน ความตาย มันน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่อยากตาย แต่มันเป็นการหลุดพ้นของสรรพชีวิตทั้งมวล
ลูกศิษย์เล่าให้ผมฟังว่า...พ่อเฒ่าเลี้ยงควายอยู่กลางป่าเพื่อแลกอาหารและกระท่อมไม้ไผ่พอหลับนอนแกปลูกฝิ่นไว้สูบยามเหน็บเหนื่อยจากการเลี้ยงควายและไว้กินเวลาเจ็บไข้ มีผักกาดดอยไว้ทำกับข้าว ส่วนถั่วเน่า น้ำมันหมู ชูรส พริกแห้งและข้าวสาร ลูกของเจ้าของควายจะนำมาส่งให้เดือนละสองครั้ง พ่อเฒ่าเคยอยู่ฝั่งพม่า หมู่บ้านที่เคยอาศัยถูกทหารพม่ารุกราน เมียถูกฆ่าตายกลางป่า ลูกสาวสองคนถูกทหารพม่าจับตัวไป ส่วนลูกชายคนสุดท้องหนีหายไปในป่าไม่รู้ชะตากรรม พ่อเฒ่าต้องหนีมาเป็นทหารไทยใหญ่จับปืนสู้รบจนแก่เฒ่า ดวงตาฝ้าฟางไม่สามารถสู้รบได้ ต้องหลบหนีเข้ามาเลี้ยงควาย แลกปัจจัยเลี้ยงชีวิตให้รอดไปวันวัน
ในแววตาของพ่อเฒ่ามีความหวังและความเศร้าหมอง เรื่องราวมากมายถูกบอกเล่าผ่านแววตาและเสียงเพลงจากขลุยไม้ไผ่ ให้สายลมนำพา กระซิบบอกใบไม้ทุกใบกลางดอยภู
*********************************************** *คำเมืองหมายถึง ภาษาภาคเหนือ **ภาษาทองแดงหมายถึง ภาษาพูดที่ออกเสียงเป็นสำเนียงภาคใต้
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านกลางบนดอยภู
ยังไม่จบครับ มีต่ออีกครับ
Create Date : 13 พฤษภาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2551 11:28:25 น. |
Counter : 941 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
งานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ
แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง
***************************
งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|