Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
 
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
[เจาะลึก IS] Character 02 “ชิโนโนโนะ โฮวกิ” และ "IS:อาคะซึบากิ" (update1)

ไป Entry แรก + Menu ของ Infinite Stratos

[เจาะลึก IS] Character 02 “ชิโนโนโนะ โฮวกิ” และ "อาคะซึบากิ"


ชิโนโนโนะ โฮวกิ


นางเอกที่เปิดตัวคนแรกของชาว IS เรา, โฮวกิเป็นเด็กสาวอายุ 15 ปีจากญี่ปุ่นที่มาเรียนในสถาบัน IS และมาพร้อมกับสถานะเพื่อนสมัยเด็กคนแรกของอิจิกะมันด้วย ซึ่งแน่นอนว่าก็ได้อยู่ใน ปี1 ห้อง 1 เช่นเดียวกันกับพระเอก และด้วยลักษณะนิสัยปากไม่ตรงกับใจ และทำผมทรงหางม้านั่นทำให้ชาวอนิเมหลายๆคนชอบเรียกเธอกันว่า "โพนี่เทลซึนเดเระ" หรือไม่ก็ยกคำพูดติปากเธออย่าง "โซกะ โซ๋กาาา" มาเรียกเป้นชื่อเล่นกันบ่อยๆ



แต่คราวนี้เราจะไปดูสิว่าที่มาของเธอจริงๆแล้วเป็นยังไง

รูปลักษณ์ภายนอกของโฮวกินี่จะเรียกว่าเป็นถอดแบบสตรีญี่ปุ่นยุคเก่ามาเลยก็คงได้ครับ หุ่นดีมากถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับสาวๆในรุ่นเดียวกัน แต่ตัวเธอกลับมีข้อเสียในเรื่องลักษณะนิสัยที่ดูจะผีเข้าผีออกบ่อยๆ ซึ่งที่บ้านของโฮวกินั่นต้องเรียกว่าค่อนข้างแปลกพอสมควรทีเดียว เป็นโรงฝึกเคนโด้ทำให้เธอได้เรียนวิชาดาบแต่เล็กๆ และนอกจากนี้เธอยังเป็นมิโกะประจำศาลเจ้าชิโนโนโนะอีกด้วย


~~ yay.... miko~sannnn


ครอบครัวของเธอนั่นนอกจากเปิดโรงฝึกแล้ว ยังเป็นวัดชิโนโนโนะอีกต่างหาก ซึ่งโดดเด่นในเรื่องฝีมือเชิงดาบมานานแล้ว (ขนาดที่ว่า มีเพลงดาบประจำตะกูลได้) ซึ่งแน่นอนว่าตัวโฮวกิเองก็เคยเป็นมิโกะกับทางบ้านมาก่อน ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่บุคลิกพื้นฐานของเธอจะค่อนข้าง มีระเบียบเข้มงวดและจำกัดพฤติกรรมของตัวเองเยอะน่าดู (เก็บกดแสดงออกไม่ได้ประมาณนั้น)




และก็เพราะเธอถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้เนี่ยแหละ สมัยเด็กๆ โฮวกิเองก็ต้องลำบากมากทีเดียวกับการเข้าสังคมกับเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน และถูกล้อเลียนเสมอๆ ว่าทำตัวเป็นเด็กผู้ชาย และหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอตลอด จึงเรียกได้ว่าเธอในตอนนั้นแทบไม่มีเพื่อนเลยยกเว้นก็แต่ อิจิกะที่เคยเข้ามาช่วยเหลือเธอแทบทุกครั้ง



อิจิกะมองโฮวกิในฐานะเด็กผู้หญิงคนนึง...และจากมุมมองของผู้ชายที่ควรเป็นฝ่ายปกป้องเธอ...ซึ่งความประทับใจในวัยเด็กก็ได้ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น แต่ว่าเรื่องการกลั่นแกล้งนั่นเองก็ยังเป็นแค่ปัญหาปลายเหต ด้วยการที่ขาดทักษะทางสังคมอย่างรุนแรงนั้นทำให้เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลายๆครั้งมักจบลงด้วยความรุนแรงแบบใดแบบหนึ่งตลอด



โฮวกิเองก็รู้ตัวเรื่องนี้ และเธอก็ตั้งใจเรียนเคนโด้อย่างหนักเพื่อฝึกฝนการควบคุมจิตใจตัวเอง...แต่มันก็ดูไม่ค่อยจะได้ผลมากนักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเธอก็ดีใจมากๆที่ได้มีโอกาสเรียนเคนโด้กับตัวอิจิกะเอง ซึ่งในตอนนั้นเธอได้เคยขอร้องครั้งนึงว่า ถ้าเธอสามารถเอาชนะการแข่งเคนโด้ระดับประเทศได้ (ตอน ป.4) เธอจะขอให้อิจิกะได้คบกับเธอ


ทว่า...ในวันแข่งขันรอบสุดท้ายเหตุการณ์ White Knight ก็ได้เกิดขึ้น...




แน่นอนว่าโลกทั้งใบก็อยู่ในสถานการณ์ช็อค พร้อมกับที่ครอบครัวชิโนโนโนะต้องถูกคำสั่งตรงจากรัฐบาลให้กักบริเวณอย่างกะทันหัน เพื่อการคุ้มครองศจ.ทาบาเนะและครอบครัวจากการถูกปองร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งโฮวกิเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ซึ่งนั่นทำให้เธอต้องพลาดกำหนดการทุกอย่างในวันนั้นไปเพราะไม่สามารถไปไหนได้ ติดต่อใครก็ไม่ได้ ตัวเองต้องอยู่ใน Safe House กันอย่างเดียว และก็ถูกปรับแพ้การแข่งในวันนั้นไปโดยปริยายโดยไม่มีโอกาศบอกเจ้าพระเอกมันด้วย



นั่นเองก็ทำให้โฮวกิเริ่มเกลียดชังพี่สาวของตนเองขึ้นมาด้วย...ในฐานะเป็นผู้สร้าง IS และหนึ่งในต้นเหตที่ทำให้เธอพลาดโอกาศที่จได้พบกับอิจิกะในวันนั้น...และทำให้เธอพลาดโอกาสที่จะเจอเขาอีกไปนาน



หลังจากเหตการณ์ WK คลี่คลายลง, โฮวกิเองก็ทุ่มเทเวลาของเธอให้กับเคนโด้มากขึ้นและมากขึ้นไปอีก ด้วยทักษะที่ฝึกมาแต่เด็กและเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดวิชาดาบประจำตะกูลก็เป็นที่แน่นอนว่าเธอสามารถเป็นนักดาบฝีมือเลิศได้แน่นอน แต่สาเหตที่แท้จริงที่เธอพยายามฝึกเคนโด้ในตอนหลังนั้นก็เพราะ คำสัญญาที่เธอจะเอาชนะเคนโด้ระดับประเทศให้ได้นั้นมันเป็นสายสัมพันธ์น้อยนิดที่เหลืออยู่ระหว่างเธอกับอิจิกะที่เธอยายามรักษาซึ่งเธอก็ทำมันได้สำเร็จตอนอายุ 14 หรือ 1 ปีก่อนที่จะได้พบกันอีกครั้งในโรงเรียน IS



ทว่า…หนทางที่เธอผ่านมาระหว่างการแข่งขันมันก็ไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น

โฮวกิตั้งเป้าหมายไว้แค่ที่อิจิกะในตอนแรกโดยไม่สนใจอย่างอื่นเลย แต่ระหว่างการต่อสู้, เธอก็เห็นเด็กสาวมากมายร่ำร้องไห้จากการพ่ายแพ้และตกรอบออกไปเพื่อหลีกทางให้กับเธอ นั่นทำให้โฮวกิเริ่มฉุกคิดขึ้นมาว่า “การบรรลุความฝันของเธอ..แลกมาด้วยการทำลายความฝันของคนอื่น” ซึ่งมันไม่ใช่แค่การต่อสู้กับคู่แข่งคนอื่นๆเท่านั้น แต่โฮวกิเองก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้ของเธอด้วยและเมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ยิ่งรู้สึกโกรธเกลียดตัวเองขึ้นทุกทีที่เวลาที่ผ่านๆไปเธอไม่ได้เข้มแข็งขึ้นเลย แต่แค่ได้ระบายความโกรธของเธอออกไปสู่คนอื่นเท่านั้นเอง



สุดท้ายเธอก็คิดตกและตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะให้ตนเองเข้มแข็งเหมือนอิจิกะ (ในภาพความทรงจำของโฮวกิที่เขาคอยปกป้องเธอมาตลอด) และความรู้สึกนั้นน่าจะเป็นความเข้มแข็งที่แท้จริง และนั่นทำให้เธอตัดสินใจจะเข้าเรียนต่อในสถาบัน IS แต่ก็เพราะเธอตั้งความหวังเช่นนี้นั่นแหละ...



โฮวกิจึงโกรธมากที่เมื่อได้พบกับอิจิกะอีกครั้งแล้วพบว่าตัวชายในฝันของเธอกลับอ่อนแออย่างคาดไม่ถึง...และสุดท้ายก็เคี่ยวเข็ญให้ต้องมาฝึกเคนโด้กันใหม่ทุกวัน เพราะเธอรับไม่ได้ที่จะปล่อยให้อิจิกะอ่อนด้อยเช่นนั้น


แต่ว่าโฮวกิเอง ก็ไม่ค่อยมีทักษะการสอนเท่าไหร่ เวลาเธอฝึกกับอิจิกะเองนั้น จึงดูเหมือนการซ้อมพระเอกเราเป็นกระสอบทรายแทนกลายๆ (แต่อย่างน้อยเธอก็ดูมีความสุขดีนะที่ได้ฝึกร่วมกัน)


แต่อีกอย่างนึงก็คือ...เรื่องสถาบัน IS ของญี่ปุ่นก็จัดว่าเข้มงวดพอสมควรในการรับนักเรียนต่างๆ โฮวกิแม้จะมีฝีมือดีหลายๆด้าน แต่ถ้าเทียบกับเหล่านักเรียนหัวกระทิจากประเทศต่างๆที่มาเรียนที่นี้เพื่อตั้งเป้าสู่ระดับ Candidate แล้ว เธอเองก็ลำบากมากถ้าจะเทียบความสามารถในเรื่อง IS และโฮวกิเองเกือบสอบไม่ผ่านโดยเฉพาะเรื่อง “ทรรศนะคติ” ของการเป็น IS-Pilot ที่ได้คะแนนผ่านมาแบบคาบเส้น ซึ่งสาเหตจริงๆที่โรงเรียนยอมรับโฮวกิเข้ามาก็คงเพราะว่าเป็นน้องสาวของ ศจ.ทาบาเนะ มากกว่า



และจนถึงปัจจุบัน...โฮวกิยังมีปัญหาเสมอกับการควบคุมอารมณ์ “โกรธ” บ่อยครั้งที่เธอมันติดใช้กำลังในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเมื่อเธอได้ความสามารถใหม่ๆ (แต่ดูเธอจะเก็บอารมณ์ได้ดีขึ้นไม่น้อยหลังจากได้เจออิจิกะไปสักพัก)




ที่นี้ก็มาถึงอาวุธคู่กายของโพนี่เทลซึนเดเระกันมั่งละ กับ IS แบบเฉพาะตัวที่แกร่งที่สุดในเรื่อง และเป็นตัวเดียวที่สามารถข้ามไปยืน Generation 4 ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งกว่าเธอจะได้มาครอบครองก็ปาไปนิยายเล่ม3 หรืออนิเมตอน 10 แล้ว


===========================

ชื่อ: AkaTsubaki (ซึบากิสีเลือด)
นักบิน: ชิโนโนโนะ โฮวกิ
ระบบอาวุธ:
- 2x CQC (Close Quarter Combat) Energy Particle Blade
- ทรัสเตอร์แบบพิเศษ (Build-In: Wing/back Thruster)
- ระบบควบคุมการยิง Gen2
- Fold-Out Armor- Full form

Skill
- One of Ability “Kenran Butou”



ขอเกริ่นนำนิดๆ
ว่าเรื่องในโลกของ IS ก่อน, IS ส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก เพราะการที่มันจำกัดจำนวน Core อยู่แค่ไม่ถึง 500 อัน นั้นทำให้ผู้ที่สามารถครอบครองได้จะต้องเป็นกลุ่มองค์กรที่ใหญ่โตจริงๆ หรือมีรัฐบาลสนับสนุนอยู่ ซึ่งจะคัดให้กับนักบินที่เป็นกำลังสำคัญหรือมีคุณสมบัติเพียงพอเท่านั้น (Candidate) หากไม่ใช้แล้วคงได้ใช้แต่ IS รุ่นมาตรฐานธรรมดา



ซึ่งจุดเด่นของ IS-Personal นั่นจะเป็นเรื่องของการที่ตัว IS จะเก็บสะสมประสบการณ์เพื่อพัฒนาตัวเองได้ ต่างจาก IS: Mass-product ทั่วๆไป และแน่นอนว่าเด็กสาวธรรมดาอย่างโฮวกิ ย่อมไม่มีสิทธิได้ครอบครอง IS ส่วนบุคคลอยู่แล้ว ตลอดช่วงครึ่งปีแรกนั้นเธอฝึกฝนด้วย อุชิกาเนะ ซึ่งเป็น IS-Gen2 รุ่นสำหรับการฝึกทั่วๆไป จนกระทั่งก่อนเหตการณ์คดีซิลเวอร์ กอสเปลเล็กน้อยที่เธอได้รับของขวัญจากพี่สาวของเธอ, ศจ.ทาบาเนะ อัจริยะผู้สร้าง IS ขึ้น



ชื่อของมันก็คือ AkaTsubaki (ซึบากิสีเลือด) , เกราะ IS ตัวแรกที่เป็นยุคที่4 ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาจากการข้อมูลผลการทดลองเบียคุชิกิของอิจิกะ ซึ่งทั้งคู่มีคุณสมบัติเหมือนกันหลายอย่างของยุคที่4 ที่ไม่มีการติดตั้งส่วนเสริม (Equalizer) ใดๆ อีกต่อไปด้วยการผสานคุณสมบัติทั้งหมดของเฟรม+Core ไปสู่คุณสมบัติผสาน (One-Off)ที่เลียนแบบมาจาก Skill เรราคุเบียคุยะ ของเบียคุชิกิที่สร้างขึ้นมาก่อนหน้านั้นทำให้มันมีเกราะที่แข็งแกร่งด้านพลังงานอย่างยิ่ง (Fold-out Armor)


และมันยังถูกออกแบบมาเพื่อการต่อสู้แบบรอบด้านทุกระยะ (อาวุธเดียวทำได้ทุกอย่าง) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเช่น


ดาบแห่งแขนขวา, อามัตซึกิ (ฝนจันทรา): ดาบที่ถูกสร้างมาเพื่อการดวล 1:1 โดยเฉพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นดาบกึ่งพลังงาน และมีโหมดรองเป็นอาวุธยิงไกลที่จะเป็นการเรียกลำแสงสีแดงออกมารอบๆ แล้วก็รัวใส่ศัตรูที่เป็นเป้าหมาย 1 เป้า


ดาบแห่งแขนซ้าย, คาราวาเระ (ทลายฟากฟ้า): ดาบที่ออกแบบมาเพื่อการถล่มกองทัพหรือศัตรูจำนวนมากโดยเฉพาะ มีโหมดรองที่จะล็อคเป้าหมายรอบตัวทั้งหมดแล้วก็ยิงอาวุธลำแสงออกมาเพื่อทำลายศัตรูทั้งหมดรอบตัว



ศัตรูระยะไกล, โฮวกิใช้ปืนเป็นที่ไหน?? ทักษะการเล็งอาวุธก็แทบไม่มี...แต่ระบบควบคุมการยิงของ IS-Gen4 นั้นเหนือล้ำกว่ายุค3 เยอะครับ Image Interface สามารถรองรับข้อมูลสภาวะภายนอกได้ 360 องศา (จริงๆมันยัดเข้าสมองได้เลย..ถ้าโฮวกิใช้เป็น) และบริหารแจกแจ้งเป้าหมายให้กับดาบทั้งสองเล่มในมือได้อัตโนมัติ...ดูไปก็คล้ายๆกับกดเม้าส์ขวาแล้วเลือก auto-lockon เป็น Strike-Freedom ก็คงได้ครับ (จะเหนือกว่าหน่อยก็คือมันล็อคครั้งเดียวได้ทุกเป้า..กดยิงครั้งเดียวล่วงทุกเป้า) แถมยิงต่อเนื่องยิงรัวได้อีกต่างหาก



ทว่า.....พลังงานมีไม่พอใช้ T______________________T ไอ้ทั้งฟ้าถล่ม + ฝนพระจันทร์นั้นยิงได้ครึ่งกระบวนท่าก็แบตหมดแล้ว.......(แสรดด)



ดาบทั้งสองเล่มสามารถถูกใช้รบระยะประชิด (CQC) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากด้วยการที่เป็นดาบกึ่งพลังงานที่ห่อหุ้มด้วยอนุภาค ทำให้มันมีจุดเด่นของทั้งสองแบบ (Physical, Energy) แถมเข้ากับทักษะของโฮวกิที่เป็นนักดาบชั้นเลิศที่ใช้ทั้งพลังและความเร็วของซึบากิในการไล่สับคู่ต่อสู้



กลับมาว่าเรื่องอาวุธกันต่อ

ถ้าเทียตามสเปคของเครื่องแล้ว, อาคะซึบากินี่เป็น IS ที่ทรงพลังที่สุดแน่นอนในแง่ของความสามารถพื้นฐานทั้งหมด (พลัง, ความเร็ว, เกราะ) และมันยังได้รับการเสริมด้วยเกราะ Fold-Out รุ่นสมบูรณ์อีกต่างหาก (คลุมทั้งตัวเลย ไม่ใช่แค่ตัวดาบกับแขนแบบเบียคุชิกิ)

เพิ่มเติมเรื่องเกราะ Fold ที่ว่า, ว่ากันง่ายๆมันคือเกราะรูปแบบนึงที่สามารถทำหน้าที่อเนกประสงค์ได้ เช่นเสริมพลังโจมตีให้อาวุธ เพิ่ม Def Rate ให้เกราะป้องกัน หรือบูสความเร็วในการเคลื่อนที่....ถ้าเปิดเกราะนี้แบบเต็มที่เจ้า IS ซึบากินี่จะมีค่า Status ทุกอย่างเพิ่มขึ้น (ไปอีก)เป็นเท่าตัว โดยรูปแบบการใช้ Fold-Armor ที่ว่านี่ก็มีประยุกต์หลายแบบนะ เช่นโหมดเน้นความเร็ว เกราะ พลังโจมตี ฯลฯ...



..........ใครจำอนิเม IS ตอนที่1 ได้มั่ง, ตอนที่สู้กับซิวเลอร์กอสเปลตอนแรกนั้นอะ ที่เราจะเห็นโฮวกิไล่ฟาดกับกอสเปลอยู่แล้วโดนกอสเปลยิงห่าฝนบีมเข้าใส่เต็มๆทั้งชุดกลางอก....ถ้าเห็นแต่ละนัดที่กอสเปลยิงนั่นมันแรงพอๆกับปืนใหญ่สนาม (เอาง่ายๆว่าน้องๆเรลกันของลอร่า) เลยนะ ขนาดพวกริน ชารล์ หรือลอร่าที่อึดๆหน่อยยังไม่กล้าโดนตรงๆเลยต้องหนีอย่างเดียว.....แต่ Fold-armor มันทนได้.....


เพื่อใครจำไม่ได้มี youtube ให้ดูขอรับ




แค่นั้นยังไม่พอ!!! (ชักจะเป็นรายการขายตรงไปแหละ ~)

Akatusbaki ยังมีคุณสมบัติที่ Gen4 ต้องมีคือ One-Off Ability ที่ชื่อว่า Kenran Butou (ร่ายรำจรัสแสง) ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของทีมเลยนั่นก็คือความสามารถในการฟื้นฟูพลังงาน IS ของเธอเอง (Auto-recovery) และสามารถถ่ายทอดพลังงานนั้นให้ IS ตัวอื่นๆได้ด้วย ซึ่งจะเหมือนกับว่าซึบากินี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนเบียคุชิกิโดยตรงทีเดียว (เพราะเจ้าขาวมันมีปัญหาเรื่องแบตหมดเร็วค่อดๆ)


ถ้าเทียบกับ IS ของประเทศอื่นๆแล้ว ซึบากิเป็น IS ตัวเดียวที่สามารถข้ามไปถึง Gen4 ได้ ทั้งๆที่ประเทศอื่นยังอยู่ในขั้น Gen3 รุ่นทดลองกันอยู่เลยด้วยซ้ำ หากพูดถึง Gen4 กับคนภายนอก อย่างดีก็อยู่ได้แค่บนกระดาษร่างแบบเท่านั้นเอง ซึ่งนี่เป็นการแสดงความเหนือกว่าชัดๆอีกอย่างนึง ของ ศจ.หูกระต่ายเลย


(อันนี้ทดสอบ Fold-armor กัน) ดูๆแล้วผมนึกถึง Infinite Justice เลยแฮะ




อีกอย่างก็คือในการต่อสู้ระหว่าง IS การเอาเครื่อง Gen ต่ำกว่าไปสู้กับ Gen สูงๆ ก็เหมือนกับเอาเครื่องบินผิดยุคมาสู้กัน ......เหมือนกับเอาเครื่องF5 มาสู้กับ F16 หรือ กริฟเฟ่นประมาณนั้นเลยก็ได้ครับ ซึ่งแม้จะสู้ได้บ้างแต่ก็ยากมากๆ (ถ้าฝีมือไม่ต่างกันเยอะจริงๆ)


และด้วยสเปคที่สุดล้ำนี่เอง ที่ช่วยให้น้องหนูโฮวกิของเราที่ฝีมืออ่อนกว่าคนอื่นๆ สามารถสู้ได้สูสีกับสาวๆ Candidate นานาชาติได้



-----แต่ย้ำว่าไม่ต้องห่วงว่าจะเทพเกินไปครับทุกท่าน เพราะจะว่าไปโฮวกิเองก็ใช้ความสามารถของซึบากิได้แค่นิดเดียวเท่านั้นเองครับเนื่องจากพี่สาวเหมือนจะวางยากับหุ่นตัวนี้ไว้เยอะทีเดียว---- ตัวเธอเปลืองแบตยิ่งกว่าเบียคุชิกิอีก ความสามารถมี 100% เธอใช้ได้แค่ 20-30% ก็เต็มที่แล้ว (เอะอะแบตหมด)


คนต่อไปขอเวลาเขียนสักพักครับ พอจะเขียนทีไรชอบมีงานเข้าทุกทีเลย

ห้ามแปรพักต์นะ โซ๋กาาาา~~~


---
เพิ่มเติมเรื่อง One-off ability

One-Off ability นี่ไม่ใช่ใช้แล้วหมดไปครับ (ไม่ใช่ลูกปืนน่อ ) แต่มันหมายถึงคุณสมบัติผสานเฉพาะตัว ที่เฟรมของ IS นั้นได้พัฒนาจนสัมฤทธิผลแล้ว (ประมาณว่า--ทักษะเฉพาะทางก็ได้) ภาษาเทคนิคคงเรียกว่า-- Expert Skill ซึ่งในนิยายถูกบอกว่า เป็นคุณสมบัติที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร ซึ่งต่างกันไปใน IS แต่ละตัว


ส่วนการใช้ Karen Butou นั้นเป็นหลักการ recharge ซึ่งจะแตกต่างจาก IS ทั่วไปหน่อยที่จะมีการฟื้นฟูพลังงาน/ซ่อมแซมตัวเองได้เมื่อทำการปิดระบบ (Close Form) เท่านั้น แต่สำหรับ one-off ของซึบากินั้นเป็นจุดเด่นที่ทำให้ความสามารถการฟื้นฟูนั้นทำงานได้แม้จะยังมีการใช้งานเฟรม IS อยู่


-- โดยปกติแล้วการฟื้นฟูพลังงานของ IS ทุกรุ่นนั้น core มันก็ทำให้ได้ตลอดเวลาแหละครับ แต่ถ้าเปิดใช้งาน IS อยู่ อัตราการฟื้นฟูจะน้อยมาก (เพราะใช้พลังงานไปกับส่วนอื่นๆ เช่น การบิน การเปิด field คุ้มครองไพล็อต หรือปรับสภาพแวดล้อม) จนไม่สามารถจ่ายพลังงานไปซ่อมได้จริงจังนัก


ดังนั้นหลักการของ Karen B ก็คือการขยายพลังงานที่ IS-Core สร้างได้ในขณะนั้นๆให้เป็นหลายๆเท่า (เหมือนกับโยนไมโครโฟนให้คนร้องเพลง) แต่ระหว่างที่ทำการบูสพลังงานนั้น จะทำอย่างอื่นไม่ค่อยได้ ตอ้งไปอยู่นิ่งๆ


ว่าง่ายๆ ก็คือ HP/MP Recovery นั่นเอง (แต่เป็น active skill.. ต้องกดใช้ แถมมีดีเลย์อีกต่างหาก)


ปล. แบตเตอรี่ของเบียคุชิกินั่นมากกว่า 400 นะครับ (น่าจะ 6-700) แต่ซึบากิเติมให้ได้แค่นั้น เพราะสัดส่วนการถ่ายโอนพลังงานนั้นค่อนข้างขาดทุน ...energy loss ไปเยอะทีเดียว (ประมาณเติม 100 ให้จริงได้แค่ 60 )


ปล2. หลังๆ โฮวกิต้องฝึกฝนใช้ไอ้ One-off นี่อีกเยอะครับ เพราะไม่งั้นใช้ท่าไม้ตายของตัวเองไม่ได้ (ex โฮวกิมี mp-max แค่100 แต่ท่าไม้ตายแต่ละท่าใช้ 150+)


ปล3. ในเล่ม 7 เหมือนโฮวกิจะพัฒนา Foldout-armor ได้ โดยถอดปีกมาประกอบเป็นปืนรูปธนูชื่อ ugashi


Create Date : 20 มีนาคม 2554
Last Update : 22 เมษายน 2554 9:24:48 น. 13 comments
Counter : 15065 Pageviews.

 
ชาบูๆโฮกิจังจร้าาา
ไม่แปรพักต์แน่นอน โซ๋กาาาาาา//โดนเตะ


โดย: RD-sama~ IP: 182.53.105.198 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:19:52:22 น.  

 
ชาบู ชาบู โฮวกิ โฮวกิ

ถ้าใช้ดาบยิงกองทัพได้ขนาดนั้น เหนือกว่าแน่นอน
แต่มันหมดเร็วจริงหรือ ทำยังงั้นก็ไม่ได้อีก

สรุปพี่สาวเธอ รักโฮวกิมากใช่ไหม ถึงไม่อยากให้น้องสาวต่อสู้มากเกินควร


โดย: nishiae IP: 125.26.235.238 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:17:51:10 น.  

 
^
^
พี่สาวเธอนี่รักจริงครับ แต่ผมว่าเจ๊แกอยากให้น้องสาวได้สู้เยอะๆมากกว่านะ เห็นแต่ส่งเสริมให้ไปตบตีกับคนอื่น


โดย: Kross_ISC วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:16:24:58 น.  

 
ชาบู ชาบู
จะรักโฮกิต่อไป
ไม่แปรพักต์แน่นอน บุ๋ย บุ๋ย


โดย: Tomoai IP: 180.183.97.107 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:5:07:09 น.  

 
ละเอียดดี ขอบคุณมากครับ


โดย: MedGO IP: 118.172.204.4 วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:7:25:08 น.  

 
ชิโนโนโนะสู้ๆนะครับ ผมเชีย เต็มที่
รุกพระเอกหนักๆเลย จูบให้ได้ ....ให้ได้
ผมไม่ชอบชาล มารยาเยอะมาก
//video.mthai.com/member.php?id=14861131&tab=new


โดย: 5555 IP: 223.205.234.45 วันที่: 16 มิถุนายน 2555 เวลา:12:20:18 น.  

 
อยากให้โฮกิคบกันสึนะในเรื่องรีบอร์นมากกว่ารับรองถ้าสึนะอยูรสถาบันISด้วยล่ะก็ดังเเน่ขนาดพอๆกับอิจิกะเลย


โดย: สึนะ ซาวาดะ โยชิ IP: 223.206.58.156 วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:8:17:54 น.  

 
โอ้ววววว ชาบุๆๆๆๆ โฮกิเต็มที่

ชอบที่สุดในบรรดา 2D หลายๆเรื่องล่ะ


โดย: Muek9999 IP: 58.11.90.127 วันที่: 16 มกราคม 2556 เวลา:22:26:03 น.  

 


อรุนสวัสค่ะ









โดย: คุโระจัง IP: 180.183.210.182 วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:13:00:47 น.  

 

สวัสดีค่ะ


โดย: คุโระ IP: 180.183.210.182 วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:13:03:46 น.  

 
อย่ากให้โฮกิพบกับอาเบล ในเรื่องเทลรันเนอร์มากกกกกกกกกกว่า รับรองว่าหมาป่าอาเบลอยู่รสถาบันisระก็ไม่แพ้อิจิกะแน่นอน เพราะฟีมือพอพออออออกับอิจิกะแน่นอน5555+


โดย: คโระ IP: 180.183.210.182 วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:13:15:26 น.  

 
ชิโนโนโนะ โฮกิ !!!
ช๊อบบบชอบบบ


โดย: ฟิ้ววววๆ IP: 125.26.225.45 วันที่: 27 ตุลาคม 2556 เวลา:11:38:28 น.  

 
จุบให้ได้นะกับอิจิกะนะ
สู้ๆๆ


โดย: อิจิโกะ IP: 223.24.111.210 วันที่: 18 ตุลาคม 2559 เวลา:14:04:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.