Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
15 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 

สัจธรรมแห่งความเชื่อท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง

..........ในท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองผู้คนในสังคมมักจะเอาความชอบ เอาประสบการณ์ เอาความคิดเห็นของตนเองเป็นที่ตั้งว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นคือถูกต้องและมีกลุ่มการเมืองหรือกลุ่มผู้ประท้วงใดที่พูดหรือโฆษณาชวนเชื่อที่ตรงกับความคิดเดิมความชอบเดิม ก็ยิ่งจะทำให้ยึดติดหรือศรัทธาในสิ่งนั้นอย่างเหนียวแน่นจนกระทั้งเชื่อและศรัทธาอย่างไม่มีข้อสงสัยหรือโต้แย้งทำให้ผู้นำการชุมชุมใช้จุดอ่อนนี้ไปใช้ประโยชน์ในการโน้มน้าวและให้เกิดอารมณ์ร่วมได้ง่ายยิ่งขึ้นเพื่อที่ผู้นำการชุมนุมจะได้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงของตนเอง

..........ทุกการชุมนุมทางการเมืองในห้วง๗-๘ ปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าฝ่ายไหน ต่างก็เป็นเช่นนี้ แท้จริงแล้ว ความคิดความเชื่อ บางครั้งก็กลายเป็นจุดอ่อนให้บางคนบางกลุ่มนำไปใช้ประโยชน์ได้เช่นกันทุกครั้งที่มีการชุมนุมหรือประท้วง ไม่ว่าจะฝ่ายไหน ผู้เขียนจะเกิดคำถามที่ก็ไม่สามารถจะถามใครได้ก็คือมักจะเกิดความสงสัยและยังแคลงใจว่า

...........เป้าหมายที่แท้จริงของผู้นำการชุมนุมที่ไม่ได้พูดออกมาและไม่กล้าพูดนั้นแท้จริงคือสิ่งไหน ผู้เขียนไม่เชื่อแต่ละฝ่ายของการชุมชุมว่าสิ่งที่คิดและพูดนั้นจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงหรือเปล่าเช่นเดียวกับที่กลุ่มผู้นำของแต่ละฝ่ายที่ขัดแย้งกันแล้วไม่เชื่อและไว้วางใจซึ่งกันและกันนั้นเอง

..........สิ่งที่ผู้นำการชุมนุมพูด(ไม่ว่าฝ่ายไหน) ผู้เขียนก็แค่ฟังแต่ก็อยากจะถามว่าเป้าหมายที่แท้จริงของคุณคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่คุณไม่กล้าบอก

............สมัยหนึ่งชนชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม ในแคว้นโกศลเกิดความสงสัยในความเชื่อของลัทธิต่างๆ ว่า ลัทธิไหนควรเชื่อไม่ควรเชื่อโดยชาวกาลามะ ได้ถามพระพุทธเจ้า, พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสถึงความเชื่อ ๑๐ ประการ หรือที่ต่อมาเรียกว่ากาลามสูตร ๑๐ ประการ

หรือเรียกว่ากาลามสูตรกังขานิยฐาน ๑๐ หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัยหรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร อันได้แก่


อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)

อย่าปลงใจเชื่อด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)

อย่าปลงใจเชื่อด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)

อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)

อย่าปลงใจเชื่อเพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)

อย่าปลงใจเชื่อเพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)

อย่าปลงใจเชื่อด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)

อย่าปลงใจเชื่อเพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)

อย่าปลงใจเชื่อเพราะเองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)

อย่าปลงใจเชื่อเพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)


...........แต่การจะเชื่อต้อง รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษเป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น ซึ่งในสูตรนี้ในบาลีเรียกว่าเกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะดังกล่าวแล้ว

..........คนไทยอยู่ในยุคที่ตัวเองคิดว่าฉลาด เจริญ แต่ในความจริงแล้ว เราฉลาดจริงหรือเปล่า บางที แม้แต่คนที่เป็นถึงระดับดร. ก็อาจจะไม่ฉลาดก็ได้ เพราะไม่ฉลาดรู้เท่าทันความคิดความรู้สึกของตัวเองจนอาจจะถูกชักนำทางความคิดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็ได้

.........บางที่มีความรู้ก็หลงงมงายในความรู้

.........บางทีฉลาดมากก็หลงงมงายในความฉลาด

.........จนกระทั้งอาจจะตกเป็นเหยื่อในความรู้ความฉลาดของตนเองก็ได้




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2556
0 comments
Last Update : 15 ธันวาคม 2556 4:09:54 น.
Counter : 912 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


huaboonsan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





.....มีความฝันเป็นเรือ
ล่องลอยไปในทะเล
แห่งกาลเวลา............

Friends' blogs
[Add huaboonsan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.