เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
28 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
นกคีรีบูน ราชาแห่งเสียงเพลง


นกคีรีบูน (Canaries) เป็นนกเลี้ยงในกรงชนิดหนึ่ง ที่บรรดาผู้นิยมเลี้ยงนกเลี้ยงกันทั่วไปจำนวนมาก มีกำเนิดดั้งเดิมที่เกาะแคนารี

แท้ที่จริงแล้วสีสันของนกคีรีบูนป่าตามธรรมชาติไม่ได้ใกล้เคียงกับสีเหลืองเสียเลย สีของนกที่นักเดินเรือชาวสเปนนำมาจากเกาะแคนารีเมื่อแรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็น สีเขียวแกมเทามิได้มีสีอย่างเช่นปัจจุบันนี้เลย



นกคีรีบูนเมื่อยังอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ตามปกติไม่ชอบอากาศร้อนนัก เมื่ออากาศเริ่มร้อนนกคีรีบูนจะอพยพไปสู่บริเวณเขตเขา ซึ่งอากาศนุ่มนวลเย็นสบายกว่า แต่เมื่ออากาศหนาวจัดก็กลับลงมาสู่ที่ราบอีก

นกคีรีบูนเป็นนกปากแข็งกินเมล็ดพืช และก็กินอาหารได้หลายอย่าง เช่น เมล็ดเร๊ป เมล็ดแคนารี เมล็ดป่าน เป็นต้น นอกนั้นยังชอบกินอาหารผักสด เช่น ผักกาดหอม ซิควีด เป็นต้น สิ่งสำคัญควบคู่กันไปกับอาหารคือ กระดองปลาหมึก อีกทั้งเม็ดกรวดทรายขนาดเล็ก เพื่อช่วยบดย่อยอาหารในกึ๋นและสิ่งสำคัญที่สุดคือ น้ำสะอาด การกินน้ำของนกคีรีบูนไม่ได้ดื่มแล้วชูขึ้นไปเหมือนนกบางชนิด เมื่อนกคีรีบูนอาบน้ำ, มันจะจุ่มหัวลงไปในน้ำ แล้วเอาปีกตีน้ำเหมือนหนึ่งว่าจะให้ตัวของมันเปียกน้ำอย่างเต็มที่ เมื่อเป็นการเรียบร้อยมันจึงขึ้นจากน้ำ สะบัด และไซร้จนกระทั่งขนแห้ง แล้วโผขึ้นสู่คอนตกแต่งขนต่อไป ขาและนิ้วของนกคีรีบูนมีเกล็ดกำบังอยู่ แต่นิ้วของมันก็ยาวและมีกรงเล็บโค้งงอไม่มีพละกำลังแข็งกล้าอะไรนัก เมื่อมายืนอยู่บนพื้นเรียบๆ ก็ดูเหมือนจะไม่มีความมั่นคงอย่างใดเลย ฉะนั้นนกคีรีบูนจึงชอบที่จะเกาะคอนอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์นกคีรีบูนก็จะเข้าคู่กันสืบขยายพันธุ์ แต่ถ้านกคีรีบูนผู้ไม่พอใจในคู่นักตัวเมียก็จะแสดงการข่มขู่ เช่น จะใช้ปากและปีกจิกตีตัวเมียอยู่ตลอดเวลา ความสำเร็จในการผสมพันธุ์จะลุล่วงไป เมื่อนกทั้งสองมีความพอใจซึ่งกันและกันก็จะแสดงอาคารรักใคร่ ซึ่งมีพิธีตองอยู่มาก กล่าวคือ มีการป้อนอาหารให้กันและกัน รวมทั้งการแสดงกิริยาร่าเริงแจ่มใส รวมทั้งการขยับปีกอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากนกทั้งสองแสดงความพอใจเช่นนี้ การผสมพันธุ์ก็จะลงเอยด้วยความเรียบร้อย

สำหรับการสร้างรังวางไข่ของนกคีรีบูนที่มันจัดสร้างขึ้นตามธรรมชาติไม่สู้จะเรียบ ร้อยนัก คือแล้วแต่มันจะหาอะไรได้ ฉะนั้นรังจึงรกไปด้วยใบไม้ และใบหญ้า ส่วนการวางไข่ของนกคีรีบูนนั้นก็จะวางไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง ไข่จะมีสีฟ้าอ่อนๆ มีจุดสีน้ำตาลแกมแดงอ่อน ๆ ทั่วไป ระยะเวลาฟักไข่ประมาณ 13-14 วัน ลูกนกคีรีบูนเมื่อออกใหม่ก็เหมือนลูกนกทั่วไป ลูกนกจะกินอาหารของแม่ที่ย่อยแล้ว โดยคายอาหารในกระเพาะมาให้กินอีกครั้งหนึ่ง ลูกนกจะเจริญเติบโตสามารถช่วยตัวเองได้และบินออกจากรัง เมื่อมีอายุ 1 – 1 ขึ้นเดือนไป ส่วนในนกคีรีบูนตัวผู้ก็จะช่วยนกตัวเมียกกไข่และหาอาหารมาเลี้ยงลูกนกเช่น กัน

ปกตินกคีรีบูนมักจะหาโอกาส ร้องเพลงเสมอ เมื่อมันจะร้องเพลงจะมีอารมณ์เบิกบานเต็มที่ ตั้งตัวตรง ผวะหัวไปเบื้องหลังดุจดั่งนักร้องดังที่ยื่นอยู่บนเวทีต่อหน้ามหาชน ซึ่งนกคีรีบูนนี้จะมีความสามารถในการร้องเพลงมากน้อยต่างกันไป


สำหรับประวัติความเป็นมาของการนำเอานกคีรีบูนมาเลี้ยงนั้นมีข้อมูลกล่าวไว้ว่า

เมื่อประมาณ 500 ปีมาแล้ว ได้มีการติดต่อค้าขายโดยตรงกับเรือจากประเทศสเปนมายังแอฟริกา ปรากฏว่าเรือดังกล่าวมีสาเหตุต้องมาล่มแถวบริเวณหมู่หินของเกาะแคนารี อันตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา บรรดานักเดินเรือชาวสเปนจึงได้ขึ้นพักอาศัยอยู่บนเกาะนี้จนกว่าจะมีหนทางกลับ ซึ่งบรรดานักเดินเรือทั้งหลายนี้ก็คงจะมีนิสัยชอบรักสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำพวกนก และคงหันมาสนใจในนกชนิดนี้ที่มีเสียงร้องไพเราะ และไม่เคยพบเห็นมาแต่ก่อน

เมื่อได้พลัดถิ่นมาอยู่เช่นนี้จึงใช้เวลาเสาะแสวงหาเลือกนกที่ร้องเสียงดีนี้ ซึ่งในนกตัวผู้จะมีสีเขียวสดและตัวเมียจะสีจางปนเทาเล็กน้อย เมื่อได้พบว่านกเหล่านี้มีเสียงร้องที่ไพเราะผิดจากนกในสเปนครั้นเมื่อ สามารถหาหนทางกลับได้แล้วจึงจับใส่กรงที่ทำด้วยกิ่งไม้เล็กและหญ้ายาวๆ นำกลับไปประเทศของตน และตั้งชื่อมันตามชื่อที่อยู่ดั้งเดิม ต่อมานกชนิดนี้ก็ได้ความนิยมเผยแพร่พันธุ์ไปทั่วยุโรป จะมีพบได้ทุกหนทุกแห่งเพราะเลี้ยงง่ายทั้งสองสวยงาม รูปและเสียงเพลงอันไพเราะ จนได้รับสมยาว่า ราชาแห่งเพลง (King of Songsters)

แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น การเอานกคีรีบูนมาเลี้ยงกันก็เพื่อฟังการร้องเพลงอันไพเราะเพียงประการเดียว มิได้สนใจกับสีสันความสวยงามอย่างใด

สำหรับการผสมพันธุ์นกคีรีบูนให้มีสีสันต่างๆ นี้ เพิ่งรู้กันเมื่อเริ่มต้นศตวรรษนี้เอง เรื่องนี้อาจนับเป็นอุบัติเหตุก็ได้ ที่มีนักเลี้ยงนกคีรีบูนในฮอลแลนด์คนหนึ่งชื่อ เฮลเดอร์ สามารถผสมนกคีรีบูนตัวหนึ่งมีสีแปลกประหลาดไปจากนกตัวอื่น เฮลเดอร์ ได้เรียกนกตัวนี้ว่า นกคีรีบูนสีโมรา (Agace Canary) ทั้งนี้เพราะว่านกคีรีบูนนี้มีสีเหลืองกับหินโมรานั่นเอง แต่มิช้าก็ค้นพบความจริงว่าการที่นกคีรีบูน กลายเป็นสีเช่นนี้ได้ก็เพราะมีการลดสีพื้นฐานลงไป จากหลักการนี้เองจึงได้นำเอาไปผสมพันธุ์เกิดสีสันใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย

ข้อมูลจำเพาะ

ชื่อภาษาไทย นกคีรีบูน
ชื่อภาษาอังกฤษ Canaries
ชื่อวิทยาศาสตร์ Serinus Canarius
ถิ่นกำเนิด เกาะแคนนารี ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอัฟริกา

รูปร่างลักษณะ : เป็นนกปากแข็งในจำพวกนกฟินซ์ สีสันขนลำตัวมีมากมายหลายสี เช่น สีเหลืองธรรมดา สีเหลืองอ่อน(สีทอง) สีเขียวสด สีเขียวแกมน้ำตาล สีลูกกวาง สีเทา(สีเงิน) สีขาวและสีแดง แต่สีสันลำตัวดูไม่ฉูดฉาดนัก นอกจากนี้บางชนิดก็มีภู่ขน และหงอนที่บนหัวดูสวยงามน่ารักมาก

อุปนิสัย : ร่าเริง แจ่มใส ชอบเกาะคอนอยู่ตลอดเวลา และส่งเสียงร้องเป็นทำนองเพลงอันไพเราะเพราะพริ้งน่าฟังยิ่ง สมกับสมยานามที่ว่าราชาแห่งเสียงเพลง (King of songsters)

อาหาร : เมล็ดพืชชนิดต่าง ๆ เช่น เมล็ดเร็ป เมล็ดแคนารี และเมล็ดทาน ตะวัน เป็นต้น พืชผักใบสีเขียว เม็ดกรวดทราย และน้ำสะอาด

การเจริญพันธุ์ : ผสมพันธุ์วางไข่ในเดือนมีนาคม-ตุลาคม และวางไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง (อาจถึง 6-7 ฟอง)


108health
.teenee.com/



Create Date : 28 เมษายน 2555
Last Update : 28 เมษายน 2555 2:28:54 น. 0 comments
Counter : 2236 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.