เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
ไม้นิยมรวมเรื่องราวของพรรณไม้ที่นิยมไว้ให้คุณตัดสินใจก่อนมีไว้ครอบครอง










มหากาฬ



ธรณีสาร


หนุมาน


เพชรนารายณ์



เศรษฐีเรือนกลาง


เศรษฐีเรือนนอก


เศรษฐีเรือนใน


เศรษฐีไซ่ง่อน


เศรษฐีไซ่ง่อน


เศรษฐีขอดทรัพย์


ว่านพญามือเหล็ก












ว่าน (ตอนสุดท้าย) ไม้ประดับนามมงคล


จากที่ได้เสนอเรื่องของว่านมา 2 เดือน ตอนนี้ก็เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะค่ะ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้ทราบถึงรายละเอียดของว่านไม่มากก็น้อยกันนะค่ะ

วงศ์ทานตะวัน COMPOSITAE

มหากาฬ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gynura pseudo – china hispida.
วงศ์ COMPOSITAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ ผักกาดกบ ผักกาดนกเขาดำ โคก หนาดแห้ง

ลักษณะทั่วไป ว่านมหากาฬเป็นพันธุ์ไม้เลื้อย มีหัวอยู่ใต้ดิน เนื้อของหัวเป็นสีขาว ใบมีลักษณะคล้ายใบผักกาด ใบหนาและแข็ง พื้นใบสีเขียวอ่อน มีลายสีม่วงซีดๆ บนใบ ใบอ่อนจะเป็นสีม่วงแก่ ตามแขนงใบเป็นสีขาว ก้านใบเมื่อแก่จะเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีขาว ดอกมีลักษณะเป็นฝอยก้านดอกยาว มีสีเหลือง คล้ายดอกดาวเรืองแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก

การปลูก ควรปลูกในดินปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำแต่พอดินชุ่มเท่านั้น เพราะว่านมหากาฬไม่ชอบดินแฉะซึ่งจะทำให้ใบเน่าได้ง่าย ควรให้ได้รับแสงแดดปานกลาง

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล เชื่อกันว่าเป็นว่านที่มีอำนาจ หากปลูกเลี้ยงไว้ในบริเวณบ้าน นอกจากสามารถป้องกันอันตรายทั้งปวงได้แล้ว ยังทำให้ผู้ปลูกเลี้ยงมีอำนาจบารมี เป็นที่เกรงขามของคนทั่วไป


วงศ์เปล้า EUPHORBIACEAE

ธรณีสาร
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus Pulcher Wall ex Muell Arg.
วงศ์ EUPHORBIACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นตรง สูงประมาณ 0.5–1 เมตร ลำต้นสีเขียว ตรงปลายยอดเป็นสีอ่อน หากต้นแก่โคนต้นจะเป็นสีน้ำตาล ใบมีลักษณะกลมเล็กคล้ายใบมะขาม ก้านใบสีเขียว ใบจะออกทั้ง 2 ข้างของก้านใบคู่กันไปจนสุดปลายก้าน ส่วนก้านใบจะแตกออกจากลำต้นโดยรอบๆ เป็นพุ่มสวยงาม

การปลูก ปลูกในดินร่วน หรือดินปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี ควรปลูกหรือจัดวางกระถางในบริเวณที่ได้รับแสงแดดปานกลาง และควรรดน้ำให้ชุ่มทุก เช้า-เย็น

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดเพาะเป็นต้นกล้า แล้วจึงแยกต้นกล้าไปปลูก

ความเป็นมงคล ว่านธรณีสารเป็นว่านที่นับถือกันมาช้านาน โดยการนำไปเข้าพิธีประพรม น้ำมนต์ เพราะเชื่อกันว่าเป็นมงคล ปลูกไว้ในบริเวณบ้านแล้วจะดี และควรปลูกว่านธรณีสาร ในวันพฤหัสบดี ข้างขึ้น


หนุมาน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Jatropha podagrica.
วงศ์ EUPHORBIACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป
มีหัวป้อมกลมใต้ดิน ต้นขึ้นเป็นลำเดี่ยว มีกิ่งก้านบริเวณยอดของลำต้น ใบลักษณะคล้ายใบตำลึง แต่หนาและขนาดใหญ่กว่ามาก พื้นใบมีสีเขียวท้องใบมีขน หลังใบมีสีเขียวนวล และมีพรายปรอท เมื่อถูกแสงแดดจะเป็นเงาเหลื่อม ก้านใบและเส้น ใบสีแดงเรื่อๆ ก้านดอกยาวสีแดง ลักษณะของดอกมีขนาดเล็ก ออกดอกเป็นกระจุกรวมกันเป็นช่อ สีแดง

การปลูก ว่านหนุมานจะขึ้นง่ายในดินปนทราย ชอบแดดจัด รดน้ำทุก เช้า–เย็น

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว

ความเป็นมงคล เมื่อขุดหัวว่านโดยเสกคาถากำกับแล้วเก็บไว้ที่สูง เมื่อจะนำมารับประทาน หรือฝนทาตัวก็ต้องเสกคาถากำกับ จะทำให้เกิดอานุภาพหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า และถ้าเอา หัวว่านมาแกะเป็นรูปพญานาคราช และเสกคาถากำกับ เมื่อพกติดตัวจะเป็นเมตตามหานิยม หรือแกะเป็นรูปพระก็จะป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายได้ ควรปลูกในวันพฤหัสบดีข้างขึ้น


วงศ์ลิลลี่ LILIACEAE

เพชรนารายณ์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pleomele thalioides.
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป เป็นว่านที่มีหัวเป็นลำต้นขึ้นมาจากใต้ดิน มีลักษณะกลมตรงและเป็นข้อ แตกต้นใหม่ตามข้อเนื้อของลำต้นจะแข็ง ก้านใบสีเขียวยามเต็มที่ประมาณ 25-30 ซม. แตกใบอ่อนตรงกลางต้น ใบสีเขียวมีร่องตื้นๆ เรียงเป็นขีดตามความยาวของตัวใบ 5-6 ร่อง ซึ่งใบเป็นรูปหอกปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนเข้าหาก้านใบ ว่านเพชรนารายณ์มีดอกสีแดงเรื่อๆ ผสมสีเหลือง ลักษณะคล้ายกับดอกหงอนไก่ ฝักดอกเป็นสีขาว ออกดอกใน เดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม ชองทุกปี

การปลูก ควรปลูกในดินร่วนปนทรายเล็กน้อย หรืออาจใช้ดินเผาผสมใบไม้เป็นดินปลูกก็ได้ เป็นว่านที่ชอบน้ำควรรดน้ำให้ชุ่มทุกเช้า-เย็น ควรให้ได้รับแสงแดดปานกลาง

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล ว่านเพชรนารายณ์เป็นว่านที่ให้คุณทางมหานิยม เป็นสิริมงคลแก่บ้าน และร้านค้าขายโดยทั่วไป เชื่อกันว่าเป็นนะจังงัง ทำให้ผู้ที่ต้องการมาต่อว่าต่อขานกลับเป็นพูดดี คือมาร้ายจะกลายเป็นดี


เศรษฐีเรือนกลาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Chlorophytum comosum.
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ Spider Plant.
ชื่ออื่นๆ ว่านเศรษฐีธรรมดา

ลักษณะทั่วไป ว่านเศรษฐีเรือนกลาง มีหัวอยู่ใต้ดิน ไม่มีลำต้น เป็นไม้กอขนาดเล็ก ใบจะแตกขึ้นมาจากหัวโดยตรงเป็นกอกลม อยู่เหนือดิน ลักษณะใบแบน ปลายใบเรียวแหลม แต่แคบคล้ายใบตะไคร้ แต่สั้น ขอบใบขนานไม่มีจัก ปลายใบโค้งจรดพื้นดิน สีเขียวเข้ม เมื่อโตเต็มที่จะแตกไหลเหนือดิน มีต้นเล็กๆ กระจุกอยู่ ดอกมีขนาดเล็กสีขาว ออกดอกที่ละจำนวนมากๆ อยู่รวมกันเป็นช่อ และเมื่อดอกโรยจะกลายเป็นต้นอ่อนแทนช่อดอก

การปลูก ควรปลูกในดินร่วนซุยหรือดินปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี เป็นไม้ชอบน้ำและความชื้นสูง แสงรำไร หรือหากปลูกในร่มก็ควรให้ถูกแสงแดดบ้าง สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางแขวน หรือกระถางเตี้ยๆ ก็สวยงามดี

การขยายพันธุ์ โดยการแยกต้นอ่อนที่แตกใหม่มาปลูก

ความเป็นมงคล ว่านเศรษฐีเรือนกลางมีประโยชน์ในด้านป้องกันสรรพภัย และยังเป็นไม้ เสี่ยงทาย หากเลี้ยงแล้วเจริญงอกงามดี ผู้เลี้ยงก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกับว่าน


เศรษฐีเรือนนอก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cholorophytum comosum. (Anthesicum Vittatum)
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ Spider Plant
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป ว่านเศรษฐีเรือนนอกเป็นไม้กอขนาดเล็ก มีหัวอยู่ใต้ดิน ไม่มีลำต้น ใบแตกกระจายออกเป็นพุ่มอยู่เหนือดิน ใบแกมขนานคล้ายใบตะไคร้ แต่สั้นกว่ามาก มีใบด่างขาว หรือขาวนวลที่ริมใบ ลักษณะอื่นๆ จะเหมือนเศรษฐีเรือนกลางคือ เมื่อใบยาวเต็มที่จะโค้งงอลงดิน เมื่อโตเต็มที่จะมีไหลเหนือดินแตกเป็นต้นใหม่ได้เช่นเดียวกัน

การปลูก ว่านเศรษฐีเรือนนอกชอบดินร่วนหรือดินปนทราย ซึ่งระบายน้ำได้ดี ให้แดดรำไร หรือปลูกที่ร่มให้ถูกแสงแดดบ้างในบางเวลา รดน้ำปานกลาง

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากไหลไปปลูกใหม่

ความเป็นมงคล นอกจากว่านเศรษฐีเรือนนอกจะมีสรรพคุณในทางคุ้มครองป้องกันภัยแล้ว ยังถือเป็นว่านเสี่ยงทาฐานะหากว่านเจริญงอกงามผู้เลี้ยงก็จะมีฐานะเจริญรุ่งเรืองด้วย


เศรษฐีเรือนใน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cholorophytum comosum. (Anthesicum Picturatum)
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ Spider Plant.
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป ลักษณะเช่นเดียวกับเศรษฐีเรือนนอก และเศรษฐีเรือนกลาง ใบมีลักษณะเดียวกับเศรษฐีเรือนนอก แต่ลายด่างขาวหรือขาวนวลจะอยู่ส่วนกลางใบ ขอบใบเป็นสีเขียว ออกดอกเหมือนกับว่านเศรษฐีเรือนกลาง

การปลูก ควรปลูกในดินร่วนซุย หรือดินปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี หากมีอิฐหักหรือหินเล็กๆ ปนลงไปด้วยจะช่วยให้แตกกอเร็วขึ้น ต้องการน้ำปานกลางสม่ำเสมอ ความชื้นสูง แดดรำไร จะปลูกลงกระถางแขวน หรือกระถางทรงเตี้ยปากกว้างก็สวยงามดี

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากไหลไปปลูกใหม่

ความเป็นมงคล ว่านเศรษฐีเรือนใน มีสรรพคุณด้านเสี่ยงทายและป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เช่นเดียวกับว่านเศรษฐีเรือนนอก และเศรษฐีเรือนกลาง


เศรษฐีไซ่ง่อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ophiopogon Jaburan Lodd. Var. aggenteus vittatus Hort.
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ เศรษฐีขาว, เศรษฐีญวน, ซุ้มกระต่าย (กรุงเทพฯ)

ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน รากเหมือนแฝกหอม ก้านใบแผ่ออกเป็นกาบ โอบหุ้มลำต้นแบบสลับโดยรอบ ใบรูปแคบยาวเหมือนว่านเศรษฐีขอดทรัพย์ แต่ปลายใบไม่ขอด ขนาดกว้าง 1-2 ซม. ยาว 40-50 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบแคบ ขอบใบเรียบเป็นเส้นสีขาว ด้านบนเส้นกลางใบและเส้นใบเป็นร่องเล็กน้อย สีขาวหม่น แผ่นใบสีเขียว ด้านล่างเส้นกลางใบ และเส้นใบนูนมีสีเขียวสลับกับแผ่นใบที่มีสีขาวชัดเจน ดอกออกสีขาวชูก้านขึ้นสูงเทียมใบเห็นได้ชัด

การปลูก ใช้หัวแยกจากกอมาปลูก นิยมใช้ดินที่ปราศจากมลทิน หรือดินกลางแจ้งเป็นเครื่องปลูก กระถางควรเป็นทางเตี้ยจะเพิ่มความสวยงาม จัดทางระบายน้ำให้คล่องๆ และใช้ใบไม้ผุเปื่อยผสม ทรายและดินเล็กน้อย จะทำให้ว่านงอกงามอย่างรวดเร็ว ควรวางกระถางในที่ร่มจะช่วยให้ใบสวยสด เป็นเงางาม

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากไหลไปปลูกใหม่

ความเป็นมงคล เป็นว่านเสี่ยงทาย และเป็นเมตตามหานิยม ปลูกเป็นไม้ประดับ เน้นในกระถาง ราคาแพง ตั้งโชว์ในห้องรับแขกสำหรับอวดอาคันตุกะไว้ดูเป็นเกียรติแก่เจ้าของบ้าน


เศรษฐีขอดทรัพย์
ชื่อวิทยาศาสตร์ -
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ เศรษฐีกอบทรัพย์

ลักษณะทั่วไป ลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน คล้ายหอมหัวเล็ก เนื้อภายในหัวจะมีสีขาว ใบว่านเศรษฐีขอดทรัพย์ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เป็นกอ ลักษณะใบคล้ายใบกุยช่าย มีสีเขียวแก่เป็นเงามัน ปลายใบจะงอม้วนเป็นวง

การปลูก ดินที่เหมาะแก่การปลูกคือดินร่วนผสมใบไม้ผุกับทราย ระบายน้ำได้ดี รดน้ำเช้า-เย็น ให้ว่านถูกแดดบ้างเป็นบางเวลา และควรปลูกในกระถางแขวน หรือกระถางทรงเตี้ยปากกว้าง

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกกอ หรือ โดยการใช้หัว

ความเป็นมงคล ถือว่าเป็นว่านทางเมตตามหานิยม หากทำมาค้าขายก็จะซื้อขายคล่อง และยังเป็นว่านเสี่ยงทาย คือหากปลายใบม้วนเป็นวงหมดทุกใบธุรกิจการงานจะประสบ ความสำเร็จดี ยิ่งถ้าว่านออกดอกจะยิ่งมีโชคลาภยิ่งขึ้น แต่ถ้าใบตรงไม่ม้วนงอก็จะไม่มีโชคลาภ ธุรกิจการงานไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร


กวนอิม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena sanderiana
วงศ์ LILIACEAE
ชื่อสามัญ Ribbon Plant
ชื่ออื่นๆ เศรษฐีนิตยา

ลักษณะทั่วไป เป็นพรรณไม้ยืนต้น ลำต้นโตประมาณ 1-2 ซม. สูง 1-3 เมตร ลำต้นกลม เป็นข้อๆ สีเขียว ไม่มีกิ่งก้านสาขา ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกจากส่วนยอดของลำต้น มีกาบใบหุ้มห่อลำต้น สลับกันเป็นชั้นๆ ตามข้อของลำต้น ใบแคบเรียวยาว ปลายใบแหลม โคนใบสอบลงมาถึงกาบใบ พื้นใบมีสีเขียว มีสีเขียวเข้มหรือขาวพาดตามยาวของใบ ความกว้างของใบประมาณ 2-3 ซม. ยาวประมาณ 6-8 ซม.

การปลูก ควรปลูกในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ที่มีความชื้นสูง รดน้ำเช้า-เย็น แสงแดดจัด หรือแสงร่มรำไร

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการปักชำ

ความเป็นมงคล เชื่อว่าบ้านใดปลูกว่านกวนอิมจะทำให้คนในบ้านร่ำรวย มีฐานะดี เป็นต้นไม้ที่ นำเงินทองของมีค่าเข้าบ้าน นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าว่านกวนอิมเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ คนโบราณใช้ประกอบในพิธีบูชาพระเจ้าและพิธีทางศาสนา


วงศ์ขิง ZINGIBERACEAE

พญามือเหล็ก

ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia sandrerae
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ Variegated Ginger
ชื่ออื่นๆ ขิงด่าง

ลักษณะทั่วไป ว่านพญามือเหล็ก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ขิงด่าง มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินมีลักษณะ คล้ายหัวข่ามีรสเผ็ด มีกลิ่นฉุนกว่าขิง ใบเป็นใบเดี่ยว ใบยาวคล้ายกับใบขมิ้น ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นคลื่น และมีลายสีขาวบนแผ่นใบและขอบใบ ส่วนที่เห็นเป็นลำต้นเหนือดิน คือส่วนของ กาบใบที่เรียงตัวซ้อนกันอยู่ กาบใบจะมีสีเขียว โคนกาบใบสีแดงเข้ม

การปลูก ปลูกในดินปนทรายหรือดินร่วน แต่ถ้าปลูกลงดินโดยไม่ใช้กระถางก็สามารถขยายพันธุ์ ได้อย่างรวดเร็ว ว่านจะแตกหน่อหรือแง่งเร็วกว่าการปลูกในกระถาง พรวนดิน แยกแง่งออกปลูก ใหม่เป็นระยะๆ เวลาปลูกให้กลบดินให้เหลือหัวว่านโผล่ขึ้นมาเล็กน้อย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อหรือแยกแง่งของว่านมาปลูกใหม่

ความเป็นมงคล เป็นว่านสิริมงคล เหมาะที่จะปลูกเลี้ยงไว้ในบริเวณบ้านเป็นว่านที่สามารถ ป้องกันอันตรายต่างๆ และยังเชื่อกันว่าเป็นว่านที่สามารถป้องกันภูตผีปีศาจต่างๆ ไม่ให้เข้ามา ทำร้ายคนในบ้านได้ สมกับชื่อว่า “พญามือเหล็ก”


มหานิยม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Kaempferia gibertii.
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป ว่านมหานิยมเป็นว่านที่มีหัวขนาดเล็กและกลมอยู่ใต้ดิน หัวคล้ายว่านมหากาฬ และคล้ายหัวกระชาย ซึ่งทั้งใบและหัวใช้ปรุงอาหารได้ ใบมีลักษณะคล้ายหูม้า มีขนาดเล็กแต่หนา ก้านใบเป็นก้านสั้นๆ แล้วค่อยๆ ผายออกเป็นใบ ปลายใบแหลม ริมใบยกและบิดพื้นใบสีเขียว

การปลูก ว่านมหานิยมเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินปนทราย และได้รับน้ำเช้าเย็น ควรให้ว่าน ได้รับแสงแดดแต่เพียงรำไร หากโดนแดดจัดๆ จะเฉาตายได้ง่าย

การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล ว่านนี้เชื่อถือว่าเป็นว่านทางเสน่ห์เมตตามหานิยม หากนำหัวว่านไปรับประทาน จะทำให้เป็นคงกระพันชาตรี


มหาเสน่ห์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma spp.
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ ว่านดอกทอง

ลักษณะทั่วไป ลักษณะเป็นว่านมีหัว รากเป็นเส้นใหญ่ไม่แตกรากฝอย ลำต้นและใบเหมือนขมิ้น ลำต้นประกอบด้วย กาบของก้านใบหลายกาบซ้อนกัน ใบรูปใบพาย ปลายใบแหลมโคนใบมนสอบติดก้านใบ พื้นใบสีเขียว เส้นกลางใบ สีแดงเข้มหรือแดงเลือดหมู ส่วนที่เห็นเป็นลำต้นเหนือดินสีแดงเข้มเช่นกัน ลำต้นส่วน ที่ฝังอยู่ในดินและหัวเป็นสีขาว หรือขาวอมเขียว รากเป็นสีน้ำตาล ช่อดอกเป็นกาบเรียวซ้อนสับขวางกัน หลายๆ กาบ กาบใบแต่ละกาบมีดอกสีเหลือง ทองขนาดเล็ก กลิ่นหอมเย็น

การปลูก ควรปลูกว่านด้วยดินปนทรายรดน้ำมากๆ แต่ระวังอย่าให้ดินแฉะ ควรจัดวางให้ได้รับแสงแดดรำไรบ้าง พอสมควร

การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล สรรพคุณใช้ทางเสน่ห์มหานิยมแก่ผู้ปลูก แต่ไม่นิยมให้มีดอกติดต้นถึงบาน มักจะเก็บดอกเสีย ก่อนก่อนที่ดอกจะบาน เพราะเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้กลิ่นดอกว่านต้นนี้แล้วกามราคะในจิตจะกำเริบรุนแรง โดยเฉพาะสตรีเพศ จึงมีชื่อเรียกว่านต้นนี้อีกอย่างหนึ่งว่า ว่านดอกทอง ดอกของว่านคนหนุ่มสมัยโบราณจึงเสาะแสวง หาเก็บสะสมไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ หรือบดรวมกับสีผึ้งสีปาก ใช้น้ำมันทาตัว หรือใช้สีผึ้งสีปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไป พบหญิงสาว สตรีใดต่อคารมด้วย พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักใจอ่อนคล้อยตามได้ง่ายนับเป็นว่าน ที่เป็นเสน่ห์มหานิยมที่รุนแรงมาก


มหาเมฆ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma acruginosa roxb.
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป เป็นว่านที่มีหัวคล้ายหัวขิงหรือหัวไพล เนื้อในสีเขียวอ่อน หรือสีม่วงแก่ปนสีฟ้า ส่วนลำต้นจะเป็น สีแดงเข้มหรือสีแดงเลือดหมู ใบสีเขียวแกนกลางใบออกสีเลือดหมูผ่ากลางไปตลอดจนถึงปลายใบซึ่งมีลักษณะแหลม โคนใบรีและจะมนเข้าหาก้านใบ ขอบใบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย และมีกาบใบห่อหุ้มลำต้นอยู่

การปลูก ควรปลูกในดินร่วนปนทรายผสมดินลูกรังแดง วางให้หัวว่านโผล่พ้นดินขึ้นมาเล็กน้อย เป็นว่านที่ออก จะชอบแสงแดดสักหน่อย จึงควรให้อยู่กลางแจ้ง

การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล เชื่อกันว่าหากเกิดจันทรุปราคา ให้นำหัวมาปลุกเสกด้วยคาถา เสกจนพระจันทร์มืดมิด แล้วนำหัวว่านมาทาบตัวจะทำให้ผู้อื่นมองไม่เห็นตัวเรา และปรารถนาสิ่งใดก็จะสมใจปรารถนา และหากรับประทานหัวก็จะเป็นคงกระพันชาตรี

มหาหงส์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Hedychium coronarium.
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ ว่านกระชายเห็น

ลักษณะทั่วไป ต้นเป็นเง้าอยู่ใต้ดิน คล้ายแง่งข่า มีลำต้นเหนือดิน เป็นกาบใบที่ซ้อนกันอยู่หลายๆ กาบ ใบมีลักษณะเป็นรูปใบพาย ปลายใบแหลม โคนใบมน พื้นใบสีเขียว ก้านใบกลม แข็ง และสั้น ออกดอกเป็นช่อตั้งขึ้นอยู่ปลายยอด มีกลิ่นหอม เมื่อดอกใกล้โรยจะมีสีแดง

การปลูก ให้ปลูกในดินร่วนหรือดินบนทราย ชอบแดดรำไร น้ำปานกลาง ควรรดด้วยน้ำทุกเช้า–เย็น หากปลูกใส่กระถางก้นตื้น ปากกว้าง จะแตกหัวใหม่ได้รวดเร็ว

การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม เมื่อปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เป็นที่เมตตาของผู้คน และผู้เลี้ยงจะได้รับ โชคลาภอยู่เสมอ

กระแจะจันทน์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Kaempferia
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -

ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ล้มลุก หัวเป็นแง่ง ลักษณะกลมยาว ออกติดต่อกันกระจายคล้ายดั่วหวีกล้วยแจกลูกกล้วย เนื้อในของแง่งสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมฉุนรุนแรงมาก ใบและลำต้นคล้ายเปราะหอม ก้านใบสั้นหรือยาวประมาณ 3-4 ซม. ด้านในเป็นร่องกว้าง ด้านนอกกลมนูน ใบรูปกลมรีแข็งแรงและใหญ่กว่าใบเปราะ ขนาดกว้าง 8-10 ซม. ยาว 10-12 ซม. ปลายใบมนแหลม โคนใบมน แผ่นใบอยู่ในลักษณะนอนขนานกับพื้นดิน ทางด้านบนเส้นกลางใบ และเส้นใบเป็นร่อง ด้านล่างนูนเป็นสัน แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มกว่าด้านล่างขอบใบมีขลิบสีแดง ทั้งด้านบนและด้านล่าง

การปลูก ใช้ดินที่สะอาด จะเป็นดินกลางแจ้ง ดินกลางนา หรือดินเผาไฟ ได้ทั้งนั้น ผสมอิฐหักทุบละเอียดรวมด้วย หรือไม่ก็เป็นผงถ่านก็ได้ ไม่ต้องใส่ปุ๋ยก็จะงอกงามดีตามธรรมชาติ หากปลูกลงกระถางให้ใช้กระถางทรงเตี้ย ใบใหญ่ใส่ดิน สามในสี่ของกระถาง เพื่อใบจะได้โผล่ออกมาที่ปากกระถางเสมอกันพอดี

การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล ปลูกไว้เป็นเมตตามหานิยมในการเข้าหาผู้ใหญ่ ให้เกิดความเมตตาสงสาร เมื่อไป ขอความช่วยเหลือให้ทำการใดๆ และใช้ในการทำเสน่ห์จะมีอานุภาพมากในทางการค้าขาย นักขายเร่มักพกติดตัวไว้ เพราะเป็นเสน่ห์ทั้งตนเองและสินค้าที่นำไปขาย เข้าหาใครไม่มีใครรังเกียจ มีแต่ให้การต้อนรับเจรจาความด้วยดี ทำให้ขายได้ มีกำไรดี เป็นว่านที่มีกลิ่นหอมแรงมาก จึงนิยมนำว่านนี้มาบดละเอียด แล้วคลุกเข้าด้วยกัน กับแป้งหอมหรือเครื่องหอมต่างๆ เป็นเครื่องสำอางมาตั้งแต่สมัยโบราณ



จันทร์กระจ่างฟ้า (Mandevilla sp.)

ไม้เถาขนาดกลาง ลำต้นสีน้ำตาล ใบสีเขียวสดและไม่ผลัดใบ ดอกสีเหลืองสดใส ่ไม่มีกลิ่น แต่มีดอกให้ชมตลอดทั้งปี ป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ APOCYNACAE

จันทร์กระจ่างฟ้าสามารถปลูกได้ดีกับดินทุกประเภทที่มีความชื้นในระดับปานกลางและเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดด หากได้รับแสงแดดเต็มวันจะมีการเจริญเติบโตเร็วมาก

จากการที่จันทร์กระจ่างฟ้าเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสวยงามสะดุดตา เลี้ยงง่ายและโตเร็ว จึงเป็นไม้ที่นิยมปลูกเป็นแนวรั้วหรือขึ้นเป็นซุ้มเพื่อประดับตกแต่งบ้านและสวน



ฟ้าประดิษฐ์ (Convolvulus sabatius Viv.)

ไม้ประดับประเภทไม้พุ่มที่มีรูปทรงกลม มีความสูงประมาณ 0.4 เมตร ลำต้นสีเขียวและมีใบขนาดเล็กสีเขียวเทา ดอกขนาดเล็กสีน้ำเงินอมม่วง และมีดอกให้ชมตลอดทั้งปี

ฟ้าประดิษฐ์เป็นไม้ที่โตเร็ว ขึ้นได้ดีกับดินร่วนที่ระบายน้ำดีและมีความชื้นระดับปานกลาง และจะเน่าตายทันทีถ้าต้องอยู่ในน้ำขังแฉะ ชอบบริเวณที่มีแดดเต็มวัน

สำหรับในด้านของการนฟ้าประดิษฐ์ไปใช้ในงานตกแต่างบ้านและสวนนั้น นิยมปลูกในกลุ่มสวนสน แอหนัง และเวอร์บีน่า หรือประกอบสวนหย่อมทั่วไปก็ได้เพราะว่าทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดียกเว้นบริวณที่มีน้ำขังแฉะเท่านั้นที่จะทำให้ฟ้าประดิษฐ์เน่าตาย ลักษณะพุ่มที่เป็นทรงกลมสวยโดยธรรมชาตินี้ก็สามารถที่จะตัดแต่งให้เป็นรูปทรงอื่นได้บ้างแต่ไม่มากนัก นอกจากนี้ยังสามารถเติบโตได้ดีในบริเวณพื้นดินแบบชายทะเลด้วย




พอทูลาก้า, คุณนายตื่นสายหรือแพรเซี่ยงไฮ้
(Portulaca, Portulaca Rose, Sun Plant)


พอทูลาก้าเป็นพืชในวงศ์ PORTULACACEAE มีลักษณะแผ่เตี้ย มีผิวสัมผัสที่ละเอียด ลำต้นเป็นสีเขียวและใบจะมีสีที่เขียวเข้มกว่าลำต้นเล็กน้อย เป็นพืชที่มีดอกหลายส เช่น ชมพู ขาว เหลือง โดยมีทั้งประเภทกลีบเดี่ยวและกลีบซ้อน แต่ทุกประเภทไม่มีกลิ่น สามารถให้ดอกสวยงามได้ตลอดทั้งปี ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีการระบายได้ดี มีความชื้นในระดับปานกลาง และเป็นพันธุ์ไม้ที่ทนแดดได้ดีมากกว่าวันละ 6 ชั่วโมง

พอทูลาก้าในส่วนของงานประดับตกแต่งนั้นจะใช้ได้ค่อนข้างกว้าง แม้กระทั่งพื้นที่สวนริมทะเล หรือเป็นไม้เสริมไม้ประธานตามสวนหย่อมประเภท จันทน์ผา ชวนชมและไผ่ นอกจากนี้แล้วยังเป็นพืชประดับที่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี มีความทนทานต่อสภาพอากาศ เลี้ยงง่าย ไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก แต่ต้องคอยตัดกิ่งปักชำเสมอหลังจากได้เริ่มมีดอกแล้ว เพราะว่าลำต้นจะทรุดโทรมลง อายุการใช้งานไม่นานนัก


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



Create Date : 28 มีนาคม 2552
Last Update : 28 มีนาคม 2552 16:45:59 น. 2 comments
Counter : 1139 Pageviews.

 
แอบมาดูค่ะ....ได้ความรู้ติดไปด้วย
ยินดีที่ได้รู้จักน่ะค่ะ


โดย: mutcha_nu วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:18:02:43 น.  

 
ได้ความรู้ดีจังเลยค่ะ ชอบๆๆ


โดย: เจ๊ดา วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:20:51:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.