แค่ได้เขียนก็เป็นสุขหัวใจ แค่มีใครผ่านเข้ามาก็รู้สึกดี แต่ถ้าใครใจดี..ช่วยเม้นท์ให้ จะรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ...จากหัวใจ...
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 พฤศจิกายน 2559
 
All Blogs
 
บันทึกจากคราบน้ำตา





  ในหลวง..ในความทรงจำ

ตอนเป็นเด็กโง่ ๆ คนหนึ่ง เคยคิดว่า ในหลวง รัชกาลที่๙ กับ พระเจ้าของฉันนั้นเป็นเพื่อนกัน

ตอนนั้น ยังไม่ได้ไปโรงเรียน 
มีคนพูดถึงในหลวงให้ฟัง ว่าทรงเสด็จไปยังที่ต่าง ๆ ไปเยี่ยมผู้คน
ได้ดูจากภาพในทีวี เรารู้นะว่า คนนี้คือในหลวง
แต่ก็ยังไม่เข้าใจหรอกว่าในหลวงคืออะไร

เข้าใจแต่ว่า เป็นในหลวงต้องช่วยผู้คน เหมือนที่ได้ดูตามละครจักรวงศ์ตอนเช้า
แถมยังคิดแบบเด็กน้อยด้วยว่า ในหลวงต้องรู้จักกับพระเจ้าเป็นเพื่อนสนิทกันทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี

จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอก คนที่ออกช่วยเหลือผู้คนตลอดเวลา ต้องเป็นเทวดาแน่ ๆ 
จำแลงลงมาโลกมนุษย์ใช่ไหมล่ะ บอกมานะ บอกมาซะดีดี

คือจำความได้ก็บ้าคุยคนเดียวแล้ว ตลกดี จำได้ด้วยนะ ว่าเคยคุยอะไรกับตัวเองไว้บ้าง

ต่อมาพอเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์เป็น อ้อ ลืมบอกไปว่า ฉันเกิดในยุครอยต่อระหว่างรุ่นใหม่และรุ่นเก่าพอดี เพราะฉะนั้นแล้ว เราจะได้รู้เรื่องราวเก่าก่อน และยังตามทันเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ได้แบบไม่ตกหล่น 
พอเริ่มจับต้นชนปลายได้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเรา ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นประถม น่าจะอายุราวสิบขวบ ช่วงที่บ้านเราเกิดจลาจล ภาพของในหลวงเริ่มเด่นชัดขึ้นในความคิดเรา 
เพิ่งจะเข้าใจว่า ท่านมีตัวตนจริง ๆ นะ ไม่ใช่เทวดาจากที่ไหน แต่ท่านก็ไปได้ในทุกที่ดุจเทวดาผู้ปลดปล่อยทุกข์ยากให้มนุษย์ ฉันเริ่มมีความหวัง มีความคิดว่าอยากเห็นเทวดาเดินดินคนนี้ขึ้นมา
จึงถามพ่อแม่ตอนที่นั่งดูทีวีด้วยกันว่า "เมื่อไรในหลวงจะเสด็จมาหาพวกเราบ้าง?"

พ่อบอกเสียงดังเลยนะว่า "โอ้ยยย ท่านไม่มาหรอก อย่ามาฝันเลย ท่านจะไปแต่ท้องถิ่นทุรกันดาร"

????????

แล้วบ้านเราไม่กันดารเหรอ? 

"เรายังดีกว่าชาวบ้านอื่น ๆ อีกเยอะ" แม่สมทบช่วยพ่อดับฝันฉัน

"ถ้าในหลวงไม่มาบ้านเรา แล้วเราจะไปหาในหลวงได้ไหม?" แม่มองหน้าฉันจ้องไม่กระพริบ

แล้วบอกว่า "อยากเจอก็ไปสิ ในหลวงอยู่ในวัง ในกรุงเทพฯชั้นในโน่นนนนน"

เท่านั้นแหละจ้ะ คิดเหรอ ว่าเด็กโง่ ๆ คนหนึ่งจะยอมหยุดฝัน

จำได้อีกทีคือ ไม่ว่าจะมีอะไรเกี่ยวกับพระราชวัง ฉันต้องตั้งตารอดูอย่างจดจ่อ
พยายามหาข้อมูลว่า วังที่ว่า ตั้งอยู่ตรงไหน จะไปยังไง 
จนกระทั่ง วันหนึ่งตอนอายุประมาณสิบสี่ขวบ ผ่านมาสี่ปีนะ
เพิ่งจะได้เข้ากรุงเทพฯชั้นในครั้งแรก!!! 

วันนั้นไปพระที่นั่งวิมานเมฆ และเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง
ไปเฝ้าถวายบังคมเก้าอี้ตัวที่ในหลวงเสด็จประทับ แค่ได้เห็นเก้าอี้ก็ยังดี
อย่างน้อยก็เข้าใกล้ไปอีกนิดแล้ว 

ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะเนี่ย 

จะบอกว่าผูกพันในตอนนั้นเลย ยังไม่ใช่
มันเป็นความรู้สึกของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ฝันอยากเห็นคนในทีวี
แต่ทีวีก็มีดารา พระเอกมากมาย ไม่เคยมีคนไหนเลยที่จะปรารถนาอยากเห็นมากมายถึงเพียงนี้

จะเริ่มผูกพันขึ้นมาจริง ๆ ก็ตอนที่ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา จำไม่ได้ว่าปีไหน
ครูภาษาไทยให้เขียนพรรณนาความส่งในหัวข้อในหลวงของเรา

นั่นแหละ เป็นการคิดถึงในหลวงจริงจังครั้งแรก
ถึงแม้จะโตขึ้นมาบ้าง แต่แรงปรารถนาก็ไม่เคยลดลงเลย
ยังคงมีความคิดว่า ชีวิตนี้ เราจะไปให้ถึงในหลวงให้ได้ 
ท่านเป็นตัวแทนของทุกคุณธรรมความดีที่พึงปฎิบัติตาม
เป็นคนที่อยู่ในนิยาย หล่อเลี้ยงศรัทธาและหัวใจ
ภาพจำที่สุดจะประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นคือ ภาพที่ท่านปาดเหงื่อออกจากใบหน้า (ขออนุญาตใช้คำเข้าใจง่ายเพื่อให้ทุกคนเข้าถึง) 

แล้วสุดท้าย ฉันก็ได้รางวัลจากการเขียนพรรณนาความอันนั้น 
เราจำไม่ได้หรอก ว่าเขียนอะไรไปบ้าง 
จำได้แต่เพียงว่า ภาพนั้นมันตราตรึงอยู่ในสำนึกตลอดมา
ยามใดที่เราเหนื่อยจนท้อแท้หมดกำลัง 
เรามักจะบอกตัวเองเสมอว่า "เรายังเหนื่อยไม่ได้ครึ่งของที่พ่อเหนื่อย" 
คิดแบบนี้ทุกครั้ง ก็ได้กำลังใจกลับคืนมาทุกครั้งเช่นกัน

หยิบภาพในทรงจำ รวมกับแรงปรารถนาที่มีตั้งแต่จำความได้
พอโตจนกระทั่งจะไปไหนก็ได้แล้ว ไม่ว่าในหลวงจะเสด็จออก ณ ที่ใดก็ตาม
ขอให้ได้รู้ จะตามไปรอรับเสด็จ ถึงไม่ได้ไป ก็จะดูจากถ่ายทอดสดทางทีวี

ไปจุดเทียนชัยถวายพระพรทุกปี อย่าได้นับครั้ง
ถึงไปไม่ได้ ก็ทำเองกับที่อยู่อาศัย

ผูกพันไหม? ไม่น่าจะใช่
บางทีก็สงสัยนะ  ถามตัวเองเสมอว่า มาทำไมเนี่ย ลำบากขนาดนี้

ได้เจอไหม?  ก็ยังนะไม่ได้เจอสักทีนะ

วันที่๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ 
ตอนนั้นทำงานอยู่ในไซท์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งและเพิ่งจะรู้ข่าวว่า ในหลวงจะเสด็จออกสีหบัญชรตอนเช้า รู้ช้าไป ไปไม่ทัน พอรู้ปุ๊บ ก็รีบจะไปให้ทันตอนรอบค่ำ ที่มีจุดเทียนชัยถวายพระพร
ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลัวจะไปไม่ทัน จนคนที่นั่นต้องไล่ให้ไปซะ อยากไปไหนก็ไป
ใจอยู่ที่ไหน ก็ไปที่นั่นแหละ วันนั้นมีประชุม แต่ตาเรามองแต่นาฬิกา กลัวไปพลาดรอบค่ำอีก

คือแอบเสียใจลึก ๆ รอมาตั้งแต่สิบขวบเพื่อจะได้รู้ว่าในหลวงเสด็จออกเมื่อไรที่ให้ประชนชนที่ไม่ได้เดือดร้อนเฝ้ารอรับเสด็จได้ รอนานมา พลาดข่าวแค่ไม่กี่ชั่วโมง

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ผูกพันนะ ยังเฉย ๆ ยังคิดแบบเด็ก ๆ ก็แค่อยากเจอเท่านั้นเอง

เวลาผ่านไปได้ไม่กี่เดือน
ชีวิตเจอวิบากกรรมหนักมาก หนักกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า
หนักแบบ ไม่รู้จะเอาตัวรอดออกไปได้ยังไง
ศรัทธาในตัวเองที่มีอยู่ไม่เหลือเลย
คนที่เราเคยมองว่าเขาเป็นคนดี เป็นคนสมบูรณ์แบบ
พอถึงจุด ๆ หนึ่ง ก็เพิ่งรู้ว่า เขาไม่ใช่ เขาไม่ได้เป็น
มันยิ่งเลวร้ายหนักนักเมื่อหันไปมองรอบตัว
ก็ยิ่งพบว่า ทุก ๆ คนนั้นล้วนมีความชั่ว ความเลวร้ายมิได้แตกต่างกัน

คิดมาก คิดหนักมาก "กุ เกิด มา ทำ ไม?" 
คิดแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนมันมีความคิดไม่อยากหายใจแล้ว
ยิ่งรู้จักผู้คนมาก ก็ยิ่งสะอิดสะเอียน เกลียดมนุษย์ เบื่อตัวเอง
พยายามจะไขว่คว้าหาคนในนิยายอย่างที่ตัวเองเคยคิดว่ามันมีอยู่จริงนะ

ถ้าจะบอกว่าผูกพัน มันเริ่มต้นจากตรงนี้
ตอนที่พยายามมองไปยังทุกคนรอบตัว
คนเป็น ๆ จับต้องได้ ที่ได้รู้จัก 
มองไปจนลึกถึงทุกซอกมุมของชีวิตเขา
ก็แค่อยากรู้นักว่า โลกนี้มันจะมีคนสมบูรณ์อยู่สักกี่คน
ยิ่งมองยิ่งห่างไกล ไม่เห็นใคร
น้ำตาหล่นไหลอาบแก้ม 
มีคนเดินมา รีบแหงนหน้าขึ้นเช็ดน้ำตา
แล้วเห็นรูปบนผนัง ในหลวงโบกพระหัตถ์ เคียงคู่พระราชินี

"ลืมไปรึเปล่า?" ท่านยังอยู่ทั้งคน
ทำไมจะไม่มี คนสมบูรณ์และงดงามที่สุดยืนอยู่ตรงนี้
มันยิ่งทำให้ความอยากเจอตัวจริงท่านเพิ่มมากขึ้นไปอีก

อารมณ์ที่กำลังดำดิ่งลงลึก ถูกกระชากขึ้นมาทันทีนะ
พอรำลึกได้ว่ายังมี ฉันก็เริ่มแสวงหาเรื่องราวเพื่อทำความเข้าใ่จ

ก่อนหน้านั้นก็มีพอรู้เรื่องราวมาบ้าง แต่มันไม่อิน ไม่ซาบซึ้ง 
ไม่มีความผูกพันใด ๆ เกิดขึ้น ต้องขอบคุณทุกเรื่องราวอันเลวร้าย
ที่ทำให้เราเพิ่งจะเริ่มต้นค้นหาสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของในหลวงรัชกาลที่๙
เพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งว่า จริง ๆ แล้วท่านมีชีวิตเป็นอยู่เช่นไร

ทศพิธราชธรรม คุณธรรมสิบประการของพระราชาก็ท่องไปงั้นแหละ 
ไม่เคยลึกซึ้งถึงความหมายใด ๆ เลย
ถ้าไม่มีความเลวร้ายอันแสนสาหัส ฉันจะไม่ซาบซึ้งถึงความดีที่ท่านได้บำเพ็ญเพียรนี้มาเลย
เราเริ่มต้นศึกษาความหมายของคุณธรรมสิบประการก็ตอนนี้เอง
นอกจากรู้ความหมายแล้ว ก็ยังตั้งใจปฏิบัติตามด้วยการนำมาปรับใช้กับตัวเอง
เริ่มต้นไปทีละอย่าง ทานะทำได้ไม่ยาก มีขัดใจนิดหน่อยแต่ก็พอเอาใจรอดได้
มันยากตรงขันติธรรม กับขันติธรรมนี่ทำให้เราเริ่มผูกพันกับในหลวงจนรู้สึกอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
ยามใดที่ได้เห็นว่าท่านถูกหยามพระเกียรติ แล้วเราทำได้แต่นั่งมอง
ด้วยความคิด พ่อยังทนได้ คิดจะเป็นลูกพ่อก็ต้องทนให้ได้
พระอาจารย์สอนว่า คนที่หยามหมิ่นท่านก็เหมือนสุนัขที่ถ่มน้ำลายใส่พระจันทร์
มันไม่มีทางทำให้พระจันทร์นั้นมัวหมองได้เลย 
ยิ่งทำเท่าไร ตัวมันเองก็จะยิ่งเน่าเหม็นเท่านั้น
ยังไม่ค่อยแน่ใจว่า ขันติที่ยังพยายามฝึกบำเพ็ญอยู่นี้ ได้ผลถึงเพียงไรแล้ว
รู้แต่ว่า รักท่าน ต้องทำตามในสิ่งที่ท่านทำ

แล้วในที่สุดวันหนึ่งของปี ๒๕๕๕ 
สำนักพระราชวังมีประกาศว่า ในหลวงรัชกาลที่๙ จะทรงเสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม
วินาทีที่ได้ยินข่าวเท่านั้นแหละ เตรียมเสื้อก่อนเลย เสื้อตัวที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๙
ผ่านไปหกปีนะ เพิ่งจะได้ใส่ ยังคิดอยู่นะว่า ถ้าไม่มีใครไปเป็นเพื่อนก็จะไปคนเดียว
แต่ปีนั้นเพื่อนอีกสามคนก็ไปด้วยกัน ไปนั่งรอตั้งแต่ตีสอง 
ความรู้สึกมันยาวนาน อยากจะบอกพ่อกับแม่ว่า "ลูกไปถึงในหลวงแล้วนะ" 

ขอไม่เล่าตอนระหว่างรอท่าน จนกระทั่งส่งเสด็จท่านกลับวัง จะยาวเกินไป

พอจบวัน บอกตัวเองเลย ต้องกลับบ้าน ไปบอกพ่อกับแม่ให้ได้

พอถึงบ้าน เอาธงที่โบกสะบัดพร้อมกับเปล่งเสียงทรงพระเจริญไปทำให้พ่อกับแม่ดู

"ไปถึงในหลวงจนได้เนอะ" แม่บอกฉันแบบนี้ แม่ยังจำได้!!!!

ก็ไม่ได้คิดนะ ว่านี่จะเป็นวันแรก และวันสุดท้ายที่ได้รอรับเสด็จในหลวง และได้เห็นท่านตัวเป็น ๆ 

ตอนนั้นท่านเพิ่งหายจากอาการประชวรไม่นาน อยากจะเปล่งเสียงทรงพระเจริญให้ได้ยินถึงสามโลก
อยากให้ท่านมีกำลังใจ มีพลังใจ ยิ้มได้ และมีความสุข

ทุกวันนี้ แม้จะผ่านไปหลายคืนแล้ว
แต่ฉันก็ยังคงฟังได้แต่เพลงที่มีภาพในวันนั้น
อยากจะหยุดเวลาไว้แค่นั้น
ไม่อยากรับรู้ว่า เกิดอะไรขึ้น

ใจ มัน จะขาด เสียให้ได้

บางอย่างในสิ่งที่หล่อเลี้ยงศรัทธาและจิตวิญญาณมันหายไป
เสียใจที่เพิ่งจะเริ่มต้นบำเพ็ญคุณธรรมได้แค่สองข้อเท่านั้น
แค่สองข้อเท่านั้นก็ยังทำได้ไม่ถึงไหนเลย 

ไม่ได้อยากตีโพยตีพายอาลัยอาวรณ์
แต่จะให้ใช้ชีวิตต่อไป โดยไม่รู้สึกอะไรเลย
ก็ยังทำไม่ได้ ไม่มีวินาทีใดของลมหายใจที่ไม่คิดถึงท่าน
ไม่มี ไม่มีจริง ๆ ก่อนนอนก็มองรูปท่าน

แม้แต่วันเคลื่อนขบวนพระบรมศพ ก็ยังตามไปรอรับเสด็จ
ขอให้บอกเถอะ ว่าจะให้เราทำอะไรเพื่อในหลวง
อยากให้มีความพร้อมเพรียง อยากให้มีความเป็นระเบียบ
ต่อให้ต้องแลกด้วยทั้งหมดของแรงกาย เราก็ยอม เราให้ได้เสมอ
ท่านทำทุกอย่างได้เพื่อให้ประชาชนของท่านมีความสุข ความเจริญ และเป็นปึกแผ่นมั่นคง
เราก็ทำทุกอย่างได้เหมือนกัน เพื่อให้ท่านสบายใจ ทุกอย่างต้องผ่านไปอย่างงดงามสมพระเกียรติ

พ่อบอกให้อดทน ให้มีขันติธรรม ให้มีความเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน ถึงแม้จะอยากเอาขวานฟันหน้าคนบางคนให้แยกเป็นสองส่วน เราก็จะทน เราต้องทนให้ได้ ทนให้ไหว
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าต้องทน และต้องให้ ไปอีกสักแค่ไหน ถึงจะผ่านพ้นห้วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี







Create Date : 02 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 23 มีนาคม 2560 1:50:36 น. 131 comments
Counter : 2197 Pageviews.

 
พระอาจารย์บอกว่า ต้องมีสติ และมิมีอาวรณ์

หลังจากที่สิ้นสติมาหลายวัน ดูภายนอกเหมือนมันโอเค
แต่ในใจหาดีแทบไม่ได้เลย ต้องอิงแอบการทำความดีต่อผู้อื่นตลอดเวลา

มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างนี้มากมาย
มากจนไม่รู้จะจับเรื่องไหนมาคิด บางทีก็คิดพร้อมกัน
คุยกับคนอื่นต้องคอยบอกว่า เปลี่ยนเรื่องแล้วนะ

มีข้อผิดพลาดเยอะเลย ขาดทุนตัวเองยับ
เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันจะถดถอยเอาได้
เคยเป็นแล้ว ตอนนี้นะ แค่หายใจยังลำบากเลย

เขียนอย่างเดียวก็ดึงสติไว้ไม่อยู่ ยิ่งเขียนยิ่งเตลิด
ฟุ้งไปหมด จับอะไรไว้ไม่ได้ เอาแต่จะขาดใจตายอย่างเดียว

thing to do??

๑.อ่านหนังสือ วันก่อนเอาสายไฟไปหาซื้ออันใหม่
คือใช้คอมพ์หนักมากทุก ๆ วัน จนสายไฟขาด
เดชะบุญที่ไฟไม่ช็อตเป็นยายปิ้งบนเก้าอี้ ..รีบไปรีบกลับ
ของยังไม่ได้ ช่างบอกให้ไปเดินเล่น กุเคยเดินเล่นด้วยเหรอ?
ชีวิตนี้พี่เดินจริงจังตลอด เดินเล่นคือไร เดินเล่นๆ สิบกิโลแบบนี้โอเค พอแวะเข้าร้านหนังสือที่ที่ไม่ชอบเข้าเอาเสียเลย อิห่านจิกร้านบรรลัยได้ตังค์กุทุกที เกลียดมัน ..ขนาดไม่คิดจะซื้อนะ
เรื่องที่แบบไปเดินหานี่ไม่พูดถึง ไม่ได้เข้ามานานแล้ว
ตอนน้ำท่วมหัวใจจะวายกลัวหนังสือเปียก พอไม่คิดจะซื้อหนังสือเหมือนชีวิตมันเบาขึ้นเยอะ ภาระที่อยากได้บ้านไว้เก็บหนังสือเลยดูเป็นอะไรที่แค่ตู้ก็พอมั้ง เคยเห็นบ้านหลังหนึ่งมีหนังสือเต็มทั้งชั้น
โชคดีที่ได้เห็นของเขาเสียก่อน ความอยากได้อยากมีเลยดับหายไป ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เว้ยยย ที่จะเก็บรักษาหนังสือกองไว้ทั้งหลัง ตอนนี้แค่อ่านและทำตามให้สำเร็จในเล่มนั้น ๆ เป็นความสำเร็จที่ก่อให้เกิดความสุขที่สุดแล้ว
อ่านซะ ..ซื้อมาแล้วต้องอ่านให้หมด รวมทั้งที่มีคนเอามาให้ด้วย
ค้างไว้หลายเล่มอยู่นะ..

๒.มีสติ อยู่กับลมหายใจ พยายามเข้าไปต่อให้มันยากก็ต้องทำ
ช่วงนี้หลอดลมอักเสบอีกแล้ว เป็นจนเพลีย กุยอมเมิงแล้ว
นอนไม่พอแค่ไม่กี่วัน อาการกำเริบ ถึงเมิงจะสำออยไปหน่อย
แต่พี่ก็เข้าใจนะ ก็ช่วยไม่ได้ อยู่คนเดียว ทำทุกอย่างเองคนเดียว
จะให้นอนยังไงไหว นอนไม่หลับหรอก จะหนีไปก็ไม่ใช่เรื่อง
โยคะ คัดลายมือ วาดรูป คงพอช่วยได้บ้าง ของเล่นเก่ามีเท่าไร
เอามาเล่นให้หมดนะยาย

๓.ส่งไดอารี่ มีเรื่องให้คิดนะ แต่คิดว่า ..ไม่คิดดีกว่า..

๔.ทำความสะอาด วันนี้นังเด็กอ้วนไม่สบายอาหารเป็นพิษ อ้วกแตกทั่วห้อง ท้องเสีย โชคดีที่นางรู้ตัวเองเร็ว ลงมาซะก่อนจะนอนช็อกคนเดียวอยู่บนห้อง กลิ่นตลบอบอวนทีเดียว แม่นกกับลูกนอกก็ไปแล้ว เหมือนไข่จะฟ่อหนึ่งลูก ไม่รู้ทำไงฟร่ะ กับไข่ที่ฟักไม่เป็นตัว ผ้าห่มที่เพิ่งส่งซัก ดูเหมือนต้องส่งซักอีกรอบ มีเสื้อผ้าที่เก็บลงถุงดำใบใหญ่ถึงสามใบ ยังไม่รู้จะเอาไปให้ใคร ในนั้นมีตุ๊กตาอีกหลายตัว บางทีอาจจะส่งไปให้เด็กที่ศรีสะเกษ รร.ที่เคยขอไว้นานแล้ว อืมมมม ตัวมันใหญ่ไปนะ อาจจะเป็นความลำบากของผู้รับ คิดได้ไงซื้อตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ แต่คุณบุญทิ้งตัวเล็กก็แย่ต่อการพกพาแล้ว ไม่ค่อยได้ทำเองนะ โดยมากจะใช้คนอื่นทำซะมากกว่า นิสัยไม่ดี ก็จริงนะ อยู่ที่นี่มีคนทำให้ตั้งหลายคน
นอกจากวันที่ฉุกเฉินจริง ๆ ถ้าไม่ทำเองแล้วคนอื่นจะเดือดร้อน
แบบนั้นถึงจะลงมือทำเอง แล้วถ้าเราทำทุกคนก็ต้องช่วยกันทำ
เพราะมันเดือดร้อนกันหมด ..เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร นิสัยไม่ดี

๕.รอรับลูกค้า เขามาแล้ว ไม่ต้องรอ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
คนอะไรรักเมืองไทยจริงจัง พักร้อนติดต่อกันสามปี ไม่ไปประเทศไหนเลย แล้วมาเมืองไทยก็ไม่ได้ไปที่สวยงามตระการตาอะไรเลยนะ อยู่บ้านนอกกรุงเทพฯนี่เอง บอกว่าสวย บ้านเขาไม่มี


๖.นอนก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุด.

๗.ตื่นก่อนตีห้า เมิงไปนอนก่อนนะ ไม่ใช่ตีห้าแล้วยังไม่หลับ
ไอขนาดนี้ จะหลับลงไหมล่ะเมิง

เอาแค่นี้ก่อนนะ ...วันนี้มีคนมาโยนงานประณีตให้ทำชิ้นหนึ่ง
ยังไม่รู้ทำยังไง ต้องหาไอเดียก่อน แล้วค่อยดูขั้นตอนวิธีทำ
เพื่อการถวายความอาลัย บอกมาเหอะ ต่อให้ทำให้ฟรี ๆ
พี่ก็จะทำ แต่อย่าเร่งนะ มีแค่สองมือ สติก็ไม่ค่อยจะโอเค
สังขารก็เกเรอยู่บ่อย ๆ ดีกว่าไม่มีอะไรจะทำแล้วนั่งเอ๋อ ๆ โง่ ๆ
พอ..จบ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา:22:22:13 น.  

 
กลายเป็นคนอ่อนไหวทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่เมื่อไร??

มีอะไรมากระตุ้นไม่ได้เลย
ทุกวันนี้อย่าว่าแต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ แค่ผิดกลิ่นนิดหน่อยก็ไม่ได้แล้ว
ทำน้ำหนักมาตั้งเยอะ ป่วยคราวนี้กลับไปที่เดิม
เหม็นไปเสียทุกอย่าง จะให้กินอะไรได้

อย่าว่าแต่หายใจลึกยาว ทุกวันนี้แค่หายใจได้ ก็เก่งแล้ว
เข้าใจเลยว่า คนที่ไม่สามารถเดินบนท้องถนนทั่วไป
ไม่สามารถเดินตลาดสด ชุมชนแออัด ที่ที่มีมลภาวะเยอะ
พวกเขาเหล่านั้นรู้สึกอย่างไร นาเห็นใจและน่าสงสาร

จะไปทำอะไรได้ ..ตัวเองยังจะเอาไม่รอด
พรุ่งนี้ต้องแบกสังขารของพ่อไปด้วยนะนั่น

บ่นมากหน่อยเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยป่วยกับเขาเลย
หวัดคืออะไรแทบไม่เคยได้ทำความรู้จัก
นับตั้งแต่ธันวาคม ปีที่แล้ว ป่วยทุกเดือน เดือนไหนดูแลตัวเองดีหน่อยก็รอดไป ช่วงไหนใจตกก็กินยาแทนอาหารกันไป

ใจไม่โอเค ..ปล่อยไว้แบบนี้ พี่ก็ไม่โอเค
หมอนัดไปฟังปอดทุกวัน วันก่อนตั้งใจไปบอกว่า
"ไม่อยากกินยาแล้วมีทางเลือกอื่นไหม?"
หมอทำหน้าไม่ดี ทำไมล่ะ ผมว่ากินยานี่ดีที่สุดแล้ว
ถ้าไม่งั้นจะยุ่งยากกว่านี้มากนัก ต้องพ่น ต้องล้างหลายขั้นตอน
เสร็จแล้วก็ฟังวิธีการรักษาเพื่อทำความเข้าใจตรงกัน

คิดในใจ มีทางเดียว ถ้าจะไม่กินยา คือไม่ไปหาหมอ

เอาเหอะ คราวนี้ถือว่าพลาด คราวหน้าเมิงไม่ได้เข้ากระเพาะกุร็อก หึหึ

นัดเย็นนี้ บอกหมอหนูมีนัดจะไปสนามหลวง หมอทำหน้าหน่าย ๆ
ที่ป่วยมานี่ก็ไม่ใช่เพราะไปนั่งตั้งแต่เจ็ดโมงถึงสี่ทุ่มเรอะ
แต่ก็ยังมีความน่ารัก ปลอบใจให้ว่า เอาน่ะ ผมเชื่อว่าพระบารมีจะทำให้อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ

ก็ได้แต่หวังว่าต้องเป็นอย่างนั้น
เราต้องเอาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยเสียก่อนที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดปลอดภัยไปกับเราด้วย ตัวเองยังเบียดเบียนแล้วจะไม่เบียดเบียนคนอื่นได้อย่างไรกัน

ทุกวันนี้ไม่มีแล้วน้ำตา จะมีแต่ความจุกแน่นอยู่ในอก
เมื่อวานกลับมามีความรู้สึกเกลียดมนุษย์อย่างที่สุดอีกครั้ง
เกลียดตัวเองจนอยากหยุดหายใจ น่าเบื่อ ถ้าไม่มีนายคนเล็กอยู่ด้วย คงจะอาการหนักกว่านี้มากมายนัก

วันนี้หลานอ้วนเอาขนมไปแจกเด็กที่โรงเรียนแถวบ้านเนื่องในโอกาสเลี้ยงวันเกิดรวมกันถึงสามคน ทีแรกนางตั้งใจจะไปแจกคนที่ไปหาพ่อ แต่ด้วยเห็นว่ามันเกินความจำเป็น และส่วนต่าง ๆ ของบ้านเราก็ยังขาดโอกาสนั้นอีกมาก เราจึงลงความเห็นกันว่า
ถ้ามีคนเขาทำกันแล้ว เราก็ไม่ต้องไปร่วมลงมือกันแย่งทำเลย

มาดูในส่วนของตัวเอง หรือหากมีดีกว่านั้น ก็ไปในส่วนที่ความช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึงและเราเห็น เรารู้จะดีกว่า

บ้านเรายังมีความขัดแย้ง โดยเฉพาะตัวฉันเอง กับ น้องสาว
ที่ความเห็นไม่ตรงกัน ป่วยไปพักนอนอยู่บ้าน ต้องการความสงบ
นายทั้งสองคนดูแลป้าได้ดีมาก เช้าวันที่นายต้องไปโรงเรียน
และนายก็ยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก

แม่นายบ่นอุบอิบจุกจิกด้วยคำพูดที่คนเป็นแม่ไม่ควรจะพูดออกมาจากปาก ไม่ใส่ใจลูกเท่าที่ควรจะทำ พี่นอนอยู่และอ่านนิยายไปด้วยเล่มที่ติดพัน พ่อแม่นั่งอยู่ข้างนอก
ทนฟังนานพอตัว ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น
มีแต่คำพูดทิ่มแทงใจที่จะทำให้เด็กกลายเป็นคนมีปมด้อยไปทุกที ๆ ฟังอย่างนี้แล้ว หลุดเลยบอกตรง ๆ พี่ถือว่า คำพูดจากคนเป็นแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เราเป็นผู้หญิงที่ไม่มีความเป็นผู้หญิงเอาเสียเลย นอกจากจะไม่ขยันแล้วยังขี้เกียจไม่ชอบทำงานบ้าน ตื่นสายมาก แม่ยังไม่เคยว่าอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจเลยสักครั้งเดียว
แม่มักจะพูดประชดทุกครั้งที่ต้องการให้ทำอะไรอย่างที่ต้องการบ้าง แม่จะเรียกว่า "คุณหญิงเรียนเชิญ..." ตลอดมา

คิดออกไหม? ถ้าเจอคำพูดที่แบบไม่ถูกหูชึ้นมา กุจะตอบโต้มันว่าอะไร แค่น้อง ไม่ใช่แม่ ขนาดแม่ กุยังด่าได้ ถ้าพุดไม่ถูกต้อง

ไม่อยากจะจำว่า พูดกับน้องว่าอย่างไร รู้แต่มันแรงมาก
แรงขนาด พ่อสะดุ้งและเดินหนี้ ทุกคนในบ้านเงียบ
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ นางก็ฟังของนาง
พี่รู้ว่า นางโกรธ นางไม่ชอบให้ใครพูดไม่ดีด้วย
แต่พี่ก็ไม่เข้าใจนางว่า ทำไมนางถึงกล้าพูดไม่ดีกับคนอื่น

เวลาพี่พูดอะไร มักจะเป็นสิทธิขาด
เลยไม่อยากพูดกับใครมาก โดยเฉพาะคนในบ้าน

เสียใจ จะบอกว่าขอโทษ ก็ไม่ใช่เรื่อง
เพราะนั่นคือเรื่องจริงที่ต้องปกป้องนายคนโต

นายเป็นเด็กที่รักและกตัญญูกับแม่มาก
พี่พยายามเสี้ยมให้นาย มีความคิดเป็นของตัวเอง
ก็ไม่ได้ผล เป็นคนที่มีกรรมกับพ่อแม่

เหมือนเขาเกิดมาเพื่อจะทดแทนบุญคุณ

ตอนแรก ตั้งใจจะพานายไปหาพ่อด้วย
แต่นายยังเล็ก ขอคิดดูก่อน ในวันที่พี่เองก็ทำท่าไม่อยากจะไหวแบบนี้

ก็รอดู ..ตามปัจจุบันกันไป
แค่หายใจสะดวกก็โชคดีที่สุดแล้วตอนนี้

มีอะไรหลายอย่าง อยากเล่า แต่ด้วยรายละเอียดที่มากมาย
ยังไม่อยากรวบรัด ความจริงแล้ว ยังทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำว่า
มันได้เกิดอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว

สักวันอันใกล้นี้ ..พี่คงทำใจยอมรับความจริงได้สักที.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 11 พฤศจิกายน 2559 เวลา:9:35:25 น.  

 
วันนี้ทุกอย่างลงตัวอย่างที่อธิษฐานจิตไปทีเดียว

ขอให้ทุกสิ่งอย่างเป็นไปโดยง่ายดาย เหมาะเจาะ ลงตัว
เพราะตัวเองแบกภาระและสังขารไปหลายชีวิต
เกือบจะต้องยกเลิก ตอนที่เริ่มป่วยวันแรก
แล้วมันก็เป็นอย่างที่หมออวยพรให้จริง ๆ

เพิ่งทราบตอนหัวค่ำว่า ม.ธรรมศาสตร์มีรับปริญญา
เดิมตั้งใจจะออกเดินทางตอนตีสาม พอรู้เช่นนี้
ต้องเลื่อนเวลาตื่นเป็นเที่ยงคืน กว่าจะเตรียมทุกอย่างพร้อมสำหรับทุกคนก็ตีสองนิด ๆ แล้ว รีบออกจากที่พัก ไปถึงตีสามนิด ๆ
มีคนรอคิวเข้าแถวกันแล้ว ตั้งแต่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์
เรายืนครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ พี่กินโจ๊ก กินยาดักตั้งแต่ตีหนึ่ง นั่นคือมื้อเช้าเลยนะ เบลอ ๆ มึน ๆ แต่พอทนได้

ตอนยืนรอคิว มีชายร่างท้วมคนหนึ่งมาป่วนพูดไม่เข้าหู
ยังคิดอยู่ ทำไมไม่ถ่ายรุปแล้วเอาไปให้เจ้าหน้าที่ดู
พูดไม่หยุด ทำให้เสียบรรยากาศ คนจะมา เขาทำใจมาตั้งแต่บ้านแล้ว นานแค่ไหนเขาก็ทนกันได้ ไม่ต้องมาแนะนำให้ขาดระเบียบวินัยหรอก ทุกวันนี้ต้องขอชื่นชม ที่การจัดการดีขึ้นมากมายผิดหูผิดตาทีเดียว ค่อนข้างพอใจมากนะ

ตีสี่ประตูเปิดแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว
กลุ่มของเรามีทั้งผู้ป่วย สตรี เด็ก และคนชรา เพราะฉะนั้น
เราแยกย้ายกันเลยจ้ะ คนชรา พ่อเป็นต่อมลูกหมากเดินนานไม่ไหวแล้ว ก็ไปนั่งรถเข็นโดยมีเด็กอ้วนพาไป พี่ นาย และพี่สาวไปด้วยกัน ไอนิดหน่อย ตอนเจอควันรถ ไม่มาก อากาศยังสดชื่นอยู่
ปิดจมูกไป พอทนไหว เดินไปตามทางที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้
คนต่างจังหวัดมากันมากมาย เรายืนรอได้ไม่นาน มีรถบัสมาลง
เห็นแล้วตกใจ ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิด เสร็จแน่ ๆ เลย

แล้วในที่สุด เราก็ได้เข้าไปถึงท่านจนได้ ใช้เวลาไม่นานนัก
นายไม่งอแง แต่ถามจู้จี้ติดตลก แต่ถือว่า เ่ก่งใช้ได้
ถ้าไม่เอามาด้วย คงเสียดาย
มีพี่สาวเท่านั้นที่พอจะมีปัญหา ไมเกรนขึ้นตั้งแต่ออกเดินทาง
ตอนแรก ตั้งใจจะอยู่กันทั้งวัน
พอเข้าไปเฝ้าเบื้องพระบรมศพฯ เรียบร้อย ออกมาประตูตรงข้าม
ราชนาวีสโมสร เข้าห้องน้ำห้องท่า กำลังเดินไปเจอกันตามนัด
พี่ตะวันก็ทักทายพอดี

ช่วงที่เดินผ่านอาหารนี่รุ้สึกไม่ค่อยโอเคกับกลิ่น
มื้อเช้าเราเลยไม่ได้ไปขอรับอะไรมากินกันเลย

มีถ่ายรูปนิดเดียวด้วยกันตรงทางสามแพร่งพอดี

กำลังจะเดินออก แต่ผ่านซุ้มอาหาร พี่สาวอ้วกตลอดทาง

นั่งพัก กินของแจกที่เอามาแต่เช้าให้น้ำหนักน้อยลง
พ่อบีบนวดให้คลายลงมา ทำท่าจะไปกินข้าวที่กองทัพธรรม
แต่พอได้กลิ่นอาหาร เขาก็อ้วกอีก เจอเต้นของรพ.ทอ.
เหมือนจะติดแอร์ แต่ดูแล้วหมอยังไม่น่าจะมี หาทางเข้าไม่เจอด้วย กลับเลยจ้ะ กลับเถอะจ้ะ บรรยากาศอื่น ๆ ค่อยไปวันหลัง

ตอนเดินกลับ ข้ามถนนไปก็เจอรถแอร์เย็นเจี๊ยบ เหมาะเจาะ
ไม่ต้องเดินไกล นับว่าเป็นวันที่ดี ของสตรีป่วย คนชราและเด็ก

คิดว่า จะได้เปิดห้องนอนสักงีบแล้ว
ต้องขอบพระคุณร้องเท้าคู่ใหม่ที่กัด จนต้องถอดเดินเท้าเปล่า
ถ้ามิงั้นนะ คงเดินได้อีกไกล พ่อบอกไม่ไหว ขาล้าแล้ว
กลับก็กลับ ปิดทริปเลยนะ

พี่ไม่มีน้ำตา เพราะตั้งใจจะไปเอากำลังใจ
มีแต่พ่อที่ตื้นตัันจนน้ำตาไหล
ใจดีขึ้นเยอะ สังขารก็ควรแก่เวลาหายขาดได้สักที

เวลามีน้อย ยังต้องรีบเร่งเก็บเกี่ยวเวลาตามสัญญาอีกเยอะ

ใจพี่อยากเริ่มต้นวันที่ ๙๘ วันนี้ แต่เป็นไปไม่ได้
พรุ่งนี้ก็แล้วกัน

มีความสุข กับทุกสิ่งอย่างที่งดงามและลงตัว

เจอกันอีกที เร็ว ๆ นี้..


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 12 พฤศจิกายน 2559 เวลา:13:28:11 น.  

 
หนึ่งเดือนล่วงผ่านไปแล้ว...ถึงวันนี้จะเรียกได้ว่า
ใจเป็นสุข แต่มันก็สุก ๆ ดิบ ๆ สุขสลด
หน้าชื่นอกตรมอยู่ร่ำไป

อ.ยักษ์บอกเป็นกำลังใจให้ว่า "อย่าโศกเศร้าเสียใจมากเกินจนเพ้อเจ้อไป..." พูดไว้ยาว แต่คำนี้มันสะกิดใจ
เขาบอกให้ตั้งใจสานต่อ ทำงาน นี่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ยังความสดชื่นมาสู่จิตวิญญาณ ณ ขณะจิตช่วงนี้ได้บ้าง

มองฟ้าเมื่อไม่เห็นใครแล้วคิดถึงแม่

เราถูกสอนมาว่า เมื่อคิดถึงพ่อแม่ที่ได้จากไปแล้ว
ก็จงทำดีต่อคนที่พ่อแม่รักเถิด ดูแลเขาให้ดีดี
อย่างที่เขาต้องการ

มาวันนี้ รู้สึกอยากเห็นรอยยิ้มของแม่ขึ้นมาให้ชัดเจนอีกครั้ง
ท่านเหนื่อยเรารู้ แต่ด้วยรอยยิ้มของท่าน จะยังความสดชื่น
กลับคืนสู่หัวใจของพวกเราทุกคนอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับยายแล้ว แทบจะเป็นหวังเดียวที่มีอยู่ตอนนี้
รู้สึกเป็นห่วง รู้สึกต้องการให้กำลังใจมากกว่าใคร ๆ ในปฐพี
เมื่อไม่สามารถร้องขอรอยยิ้มของพ่อได้อีกต่อไปแล้ว

จะเป็นไปได้ไหม?
เมื่อแม่ยังคงอยู่ เราจะยังมีความหวังได้มีโอกาสเห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจตลอดเวลาที่ได้เห็นการปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางมหาชนอีกหรือไม่

ทั้งคิดถึง เทิดทูนและเป็นห่วง

ใจ จะ ขาด ไม่ใช่อะไรที่เกินความเป็นจริงเลย

........................................

วันนี้ยังคงรักษาสังขารเช่นทุกวัน แต่อาการเริ่มจะเป็นปกติแล้ว
ระยะต่อไปคือฟื้นฟูหลอดลมและปอด
และคงต้องหลีกเลี่ยงอาการกระตุ้นให้แพ้สุดชีวิต
ไวต่อสิ่งเร้าเหลือเกินนะ

ต้องคอยประคองตัว ประคองใจไม่ให้หล่นตลอดเวลา
หายดีเสียก่อน ค่อยคิดและค่อยลงมือทำเดี๋ยวนั้น

พรุ่งนี้วันเกิดเพื่อน เพื่อนจะกลับมาหา
มากินข้าวเย็นด้วยกัน

เสียใจที่ยังทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
แต่ไม่เป็นไรหรอก

อย่าเบียดเบียนตัวเองไม่กว่านี้เลย
เท่าที่ทำได้ คงไม่นานเกินไป
ก็แค่ทั้งชีวิตก็เท่านั้นเอง.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:4:04:01 น.  

 
วันนี้ครบ ๕๐ วัน
คิดไปเองว่า เราเข้มแข็งขึ้นแล้ว ยอมรับได้มากขึ้นแล้ว
บอกตัวเองว่า เสียใจก็รู้นะ แต่หมดเวลาสำหรับการแสดงออกแล้ว
ต้องพยายามเดินหน้าทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ และได้ทำต่อไป

มันเป็นสิ่งดีสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้
มองไปรอบกาย ยังไม่เห็นจะมีทีท่าว่าจะมีอะไรดีขึ้น
หลายคนงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย
คนดี ก็ยังคงเป็นคนดีอยู่เช่นนั้นเอง

วันก่อนไปเอาระเบียบการรับสมัคร และรายละเอียดรายวิชามา
ให้พวกเขาดู และดูท่าทีของพวกเขา
เขาไม่ได้มีความกระตือรือล้นที่จะทำเลย
งอมืองอเท้าให้ยัดเยียดสิ่งดีให้ตลอดเวลา
และแทบจะไม่คิดตอบแทนสิ่งใด ๆ
พยายามอย่างหนักที่จะต้องตั้งใจอยู่ในความปรารถนาดีต่อกัน
และความไม่โกรธ มันยากเย็นแสนเข็ญอะไรเช่นนี้นะ

เผลอโกรธไปทั่ว ด่าเขาไปหมด ไม่ให้อภัยแม้กระทั่งยุงตัวเดียวที่มันกัดดูเลือดจนบินไม่ไหว เรานอนท่าศพนิ่ง ๆ มันยังไม่เว้น
ไม่โกรธไม่ไหวแล้ว แต่ก็ต้องพยายาม
รู้นะว่าบ้ามาก คนอะไรจะไปทำได้ คุณธรรมสิบประการไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ แต่ถ้าไม่คิดจะทำ มันก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ใจแกว่งเป็นเปลใกล้ขาด แกว่งโดยไร้จังหวะ ไร้ทิศทาง

อย่าว่าเป็นวันต่อวันเลย ทุกวันนี้ต้องทำใจเป็นรายวินาที ลมหายใจต่อลมหายใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เกือบจะคุ้มดีคุ้มร้ายด้วยซ้ำไป

คนที่มันทำใจได้ มันเข้มแข็งพอ มันอยู่ได้เป็นปกติ
มันทำใจยังไงฟร่ะ
ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตรงไหน

กุทำไม่ได้สักตรง แค่จะยอมรับ ยังทำไม่ได้เลย
รูปที่ไปถ่ายมา ล้วนแต่เก็บความรู้สึกนึกคิดและทรงจำ
ยังจำได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ไม่จำ
ไม่กล้าแม้แต่จะลงรูป กลัวใจตัวเอง

จะเอาอะไรมายอมรับ

จะเอาอะไรมารองรับใจที่มันแกว่งแล้วตกลงไป

จะเขียนจม.? แค่คิดก็ลืมตาไม่ขึ้นแล้ว

5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555


น้ำตาจะไหลทำไมเนี่ยยยยย

55555555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555

ที่ผ่านมา ตลอดเวลาอยู่ได้เพราะหลอกตัวเอง
คิดมาตลอดเลยว่า พ่อไม่ได้ไปไหน
ยังอยู่กับพวกเราเสมอ และจะไม่ไปไหน
ตราบเท่าที่เรายังปฏิบัติบูชาเพื่อสิ่งอันดีงาม
เวลาใจมันไม่ตก มันโอเค เรายังใช้ชีวิตปกติ
แต่เมื่อไรที่จิตมันตก ใจหล่นวูบ
ที่ที่เคยยึดเราไว้ มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว

หลอกตัวเองต่อไป
ยังทำใจไม่ได้ ยิ่งห้ามตัวเองไม่ให้มีน้ำตา
มันก็ยิ่งไหลออกมาใหญ่ซะเถิด
ยากจัง แค่ยอมรับความจริงแล้วทำใจให้เป็นปกติยังทำไม่ได้เลย

จะบอกว่าเพ้อเจ้อก็ยอมรับ
ใจแข็งนัก ทำยังไงฟร่ะ
ต้องทำงานตลอดเวลาเลยไหม?

ต้องลาออกแล้วเดินไปตามฝันเลยไหม?

ใจจะขาด ยิ่งเจอคนไม่ดีมากเท่าไร
มันก็ยิ่งใจแกว่งมากเท่านั้น

โลกนี้มันมีสองด้านเสมอ
ร้องไห้ได้ ก็หยุดร้องได้เหมือนกัน
ต่อไป ถ้ามันจะไหล จะไม่เช็ดมันอีกแล้ว
ใครจะเห็นก็ช่างมันเถอะ
การแอบร้องไห้ ไม่ดีเลย กุเหนื่อย หายใจลำบาก

พรุ่งนี้ เช้านะ ตอนนี้ขออาบน้ำนอนก่อน พักผ่อน
พรุ่งนี้ ทำสมาธิ รักษาใจ
แล้วพยายามนั่งเขียนจดหมายให้เสร็จให้ได้

ทำให้ได้ นะยาย

ถ้าจะต้องมีน้ำตา ก็ปล่อยมันเถอะ

อย่าคิดว่าจะปรุงอะไรใส่ไปเลยนะ
แค่บอกตัวเองว่า "ยอมรับความจริงได้แล้ว หมดเวลาแสดงออกแล้ว" ใจก็จะขาดอยู่แล้ว

ทีวีที่ถ่ายทอดสดดูไม่ได้เลย ภาพและเรื่องราวต่าง ๆ ก็อ่านไม่ได้ ดูไม่ได้ กุจะทำอะไรได้บ้างฟร่ะ ฝากวัฒนธรรมเก็บและจำสิ่งต่าง ๆ ไว้ให้ครบถ้วน ยายจะกลับไปดูทีหลัง

... ใจจะขาด ...

หลอกตัวเองเสมอว่า เป็นลูกของพ่อ อย่าให้ใครว่าเอาได้
อย่าให้ใครเดือดร้อนเพราะเรา อีกไม่นานพอหมดลม
เราจะได้มีความสุข เราต้องตายให้ได้อย่างที่พ่อทำไว้ให้ดู
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ตั้งใจทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ต่อไป
จะปีใหม่อีกแล้ว วางแผนการใช้เวลาให้ดี
กลับไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้จัดเจน เพราะต้องใช้อีกมากมายทีเดียว
อยู่กับความจริงไม่ได้ ก็หลอกตัวเองไปวันต่อวันแบบนี้แหละ

อย่ามาบอกว่า มันแล้วแต่มุมมอง นี่มันหลอกตัวเองชัด ๆ

บางทีก็คิดนะ ..ถ้าว่างจะไปนั่งโง่ ๆ คนเดียวสักวัน
ก็ยังไม่ได้ไปสักที
ต้้งแต่วันคนน้อย ยันวันคนเยอะ

ทุกวันนี้แทบจะไม่ที่ทางไว้ให้สำหรับนั่งโง่ ๆ


มันต้องเอาน้ำตาข้างในออกมาให้หมด จนไม่เหลือ
คำถามคือ ปลดปล่อยมันยังไง
ตอนนี้ดูเวลาที่จะใช้แล้ว
เตรียมให้ครูแกะเพลงพระราชนิพนธ์เพื่อถ่ายทอดต่อให้เราแล้ว

ครูถามเพลงนี้เลยเหรอ? ก็เพราะยากไงครู มันดีต่อจิตใจ

ตอนนี้นะ อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องรับรู้ว่า ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว
ได้หมดค่ะ

แต่ถ้าต้องมาคิดว่า นี่อาจจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว จะไม่มีอีกแล้ว
จุดเปลี่ยนแล้วนะ ...ใจจะขาด!!!

หลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ ก่อน อีกไม่นานกระมัง เดี๋ยวก็น่าจะทำใจยอมรับความจริงได้เอง.





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 1 ธันวาคม 2559 เวลา:1:58:49 น.  

 
วันนี้ได้อานิสงส์จากผู้คนที่ได้เจอเมื่อวาน
คนที่ผ่านเข้ามาให้ได้เจอ ทำให้มีกำลังใจมาก ๆ
ทั้งจะเข้ามาอยู่ด้วยกัน และที่กำลังตัดสินใจ
เขาดูดีมีมารยาทงาม รสนิยมไม่ได้แตกต่าง
ชอบอะไรคล้าย ๆ กัน แค่ได้เจอก็รู้สึกอุ่นใจ
มันไม่เหมือนกับพวกที่แตกต่างกันคนละขั้ว
ทั้งนิสัยใจคอและการดำเนินชีวิต
คนจำพวกนั้นแค่พบเห็นก็อึดอัดในใจ
เหมือนเข้ามาเพื่อจะให้เราชดใช้กรรมและเพื่อจะจากกันไป
เมื่อสิ้นกรรม
อารมณ์ช่างแตกต่างจากวันก่อน ที่คนที่กำลังจะเดินจากไปพร้อม ๆ กันนั้นมีความคล้ายที่แตกต่างกัน
คล้ายคือเป็นชนต่างชาติคนละทวีป ที่แตกต่างคือกมลสันดาน
ช่างต่างขั้วกันเหลือเกิน คนหนึ่งมาให้ได้รู้จักว่าฝรั่งตาสีน้ำข้าว
ที่รักษ์เมืองไทยและสนใจในวัฒนธรรมของเราจริง ๆ นั้นมันมีอยู่จริง อีกคนหนึ่งช่างดูแคลนความเป็นเราและเอาเปรียนในความเป็นเราในทุก ๆ สิ่ง เจ็บใจเหลือเกิน เจ็บใจตีวเองทำไมช่างเป็นคนดีกระไรเยี่ยงนี้ เสียชื่อนังเค็มมหาประลัยหมด เซ็งตัวเอง
อย่าได้ถามว่า กุขาดทุนไปเท่าไรนะ แทนที่จะทำยอดทะลุเป้าดันมาเสียกำไรให้อิฝรั่งขี้นก คิดแล้วมันแค้นในใจ
แค้นที่อินางเมียฝรั่งคนไทยนี่แหละเปิดทางให้เขาเข้ามาเอาเปรียบคนไทยด้วยกันได้

เมิงนะเมิง ทำใจกุหล่นแทบขึ้นเองไม่ได้ ก็แค่นั้น
คนเรามันก็แค่นี้แหละ ช่างแม่ม

วันหนึ่งเจอคนดีบ้าง ไม่ดีบ้าง
เจอคนแปลก ๆ เยอะ กว่าปกติ
ทั้งมาเพื่อให้กำลังใจ บางคนผ่านมาแล้วทำให้เสียใจ
อีกวันก็ดี๊ดี มีอะไรดีดีเกิดขึ้นทั้งวัน
วันนี้ใจดูเหมือนจะดีตั้งแต่เมื่อคืน
เช้ามากางเสื่อ ตั้งใจจะไหว้พระอาทิตย์สักสามรอบ
เพราะฝึกเมื่อคืน ร่างกายเขาตอบรับเปิดสะโพกได้ดีขึ้น
ทำไปได้ครึ่งท่าข้างขวา แม่โทรหาแต่เช้า
สั่งให้ไป รพ.บอกพ่อป่วยไม่มีใครไปเฝ้า

ฟังแล้วมันฉุน กึก!!!
แม่คิดว่า "กุว่าง" !!!!
เอาอะไรมาคิด

เอาคำพูดอิน้องมาไหม? ที่รู้ว่ากุนั่งเล่นได้ทั้งวัน

แอบคิด ด้วยนะ
แล้วเมิงทำไร งานก็ไม่ได้ไปทำ ทำไมไม่ไปเฝ้าพ่อ

ความคิดนี่แบบ ร้ายกาจมาก ไม่อยากจะพูดอะไร
พูดออกมารับรอง ไม่มีดีแน่นอน

หมดคำจะพูด

ทำไม กุเป็นคนแบบนี้ฟร่ะ นังยาย

ทำไมกุไม่รู้สึกผูกพันกับคนที่บ้านเลย

ทำไมมันรู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนมากมาย
แต่กับคนไม่รู้จัก ทำไมช่างคุ้นเคยกันเหลือเกิน

ทำไมฟร่ะ??????

ทำไม

ที่ยังฝังตัวเองอยู่ได้ทุกวันนี้
ก็คิดเสมอว่าคนข้างหลังเรายังมี
และถ้าคนข้างหลังเราไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
อย่าหวังว่ากุจะอยู่เป็นที่

อย่ามาฝัน

ไม่ได้ห่วงอะไรเล้ยยย
บอกตัวเองเสมอ
เราจะไม่อยู่ที่นี่ตลอดไป
เราแค่รอเวลาเท่านั้น
ไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้าเราไปก่อน เขาก็แค่อยู่ไปตามยถากรรม
แต่ถ้าพวกเขาไปก่อน
พี่เลิกที่อยู่ของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว

จะไปให้ไร้ญาติเลยทีเดียว

ทำไมเป็นคนแบบนี้
อายุมากขึ้นกว่านี้ จะเปลี่ยนความคิดได้ไหม

ใจคงไม่แกว่งไปกว่านี้แล้ว
มันเคยรุ้สึกมาแล้ว

ไม่มีอะไรที่จะทำให้รู้สึกสูญเสียได้มากกว่าที่สูญเสียไปแล้วแหล


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 3 ธันวาคม 2559 เวลา:15:58:49 น.  

 
ใจยังไม่ดี ..และไม่รู้จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน

สำออยเหลือเกิน ถูกกระทบนิดหน่อยทำเป็นใช้ชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้
ตั้งแต่ทำงานมาก ครั้งที่แล้วคิดว่าพลาดมากแล้วนะ
พลาดแบบไม่น่าให้อภัยตัวเอง แต่ครั้งนั้นคือเปื่อยก็เลยเบลอยา
คราวนี้ก็เปื่อย เบลอยาและใจไม่ดี พลาดแบบวินาศสันตะโร
นอกจากใจไม่ดีแล้วสติเตลิดไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ บ้าแท้ ๆ
เมิงเป็นอะไรมากไหมนังยาย

จนไม่อยากจะทำอะไรแล้ว ไม่ได้มีใครว่าหรอก
ลูกค้าก็ดีแสนดี พลาดแล้วพลาดอีกก็ยังเข้าใจ
เข้าใจสิ ตังค์กรู TT ช่างมันเถอะยาย
อย่าไปเสียดาย ที่หลังต้องทำอะไรช้าลงกว่านี้
จะได้มั่นใจว่าไม่ผิดชัวร์แท้และแน่นอน

หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว
ช่วงนี้ฝึกได้ดี ร่างกายมันฟ้องว่า หายใจลำบาก
ยังมีเสมหะ แต่ไม่อยากกินยาแล้ว
เมื่อเย็นวานอาบน้ำสระผม แต่อากาศมันเย็นลงกระมัง
อาบนานไปหน่อย อาบน้ำเสร็จหายใจไม่ออกเหมือนจะไม่สบาย
ปรับอุณหภูมิสักพัก ค่อยรู้สึกดีขึ้น สำออยจังนะสังขารนะ

โดนอะไรนิดหน่อย ไม่ได้เลยทีเดียว

ตอนนี้ต้องอยู่นิ่ง ๆ เลยจริง ๆ ทำอะไรมากจะเสียหายรุนแรง
แต่ก็ยังมิวาย จะหาเรื่องหางานทำนะ ใกล้จะได้เวลาแล้ว
ต้องไปถ่ายรูป ติดใบสมัคร โอ้ยย ตื่นเต้น จะกลับไปเข้าคอก
ใช้เวลาอย่างมีระเบียบ อยู่นอกกรอบมานาน
ยามจะกลับเข้าคอกสักที มันต้องปรับตัวปรับใจกันนิดหนึ่ง

พาเด็กคนนั้นไปด้วย งานก็ต้องทำ ชีวิตก็ต้องใช้ ปัญหาชาวบ้านก็ต้องแก้ไข ใจทะลึ่งไม่ดีไม่หายขาด

ควรจะต้องเก็บปากเป็นอันมาก เดี๋ยวนี้คุ้มดีคุ้มร้ายใครพูดผิดหูนิดเดียว สาดอารมณ์รุนแรงใส่ไม่ยั้งทันที
ไม่มียกเว้น มันเหมือนเก็บความโกรธมานาน ก่อนหน้านี้ ใครทำให้โกรธจะบอกตัวเองว่า คนเหมือนกันแต่ละคนไม่เหมือนกัน เรารู้ตัวเราเหนือกว่า คิดได้มากกว่า มีโอกาสมากกว่า ใครทำอะไรให้ไม่พอใจ ระงับได้ก็ให้ระงับ จะได้ไม่ติดค้างสิ่งใดต่อกัน แล้วมันก็อภัยได้ทุกครั้ง แต่ช่วงนี้ ใครทำอะไรให้โกรธ มันคิดไม่ได้
มันรู้แต่ว่า กุก็คนเหมือนกัน ไม่ทนแม่มแล้ว จะเอาที่ไหนมาทน
คิดได้ก็รู้ แต่กุไม่ทน มันสมควรได้รับบทเรียน ทำไมกุเป็นคนแบบนี้ คือมันโมโหนะ นี่ยังไม่หมดนะ เดี๋ยวก่อนอิพวกทำงานไปซดวิตามินแอลไป ทำเป็นเห็นกุใจดี อย่าให้กุแปลงร่างนะ ยังเก็บไว้ก่อนยังไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองจริงจังสักที มีแต่คนมาบอก
แล้วอิพวกเยอะ ๆ เป็นอะไรมากมาย พอเจอหน้ากุเข้าไป ความเยอะหาย หรือว่ากุเยอะกว่า ตอนนี้ไม่ทนอะไรทั้งนั้น
ใครดูท่าจะไม่ดี กุไสหัวส่งอย่างเดียว เสียเวลาต้องมาทำใจให้อยู่ร่วมกัน ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องรักษา
ผู้คนหน้าเก่า ๆ พากันหายหนีตีจาก มีแต่คนหน้าใหม่ ๆ ที่มีพฤติกรรมแปลก ๆ เมื่อวานเหมือนจะเจอคนบนดอยเผ่าอะไรมิทราบมาจากทางเหนือสุดปู๊นนน

อย่าว่าแต่สติสตัง เอาใจให้ดีขึ้นเล้ยยย
ช่วงนี้ได้หมด ถ้าหล่อเลี้ยงจิตใจนังยายได้

พยายามสรรหาเรื่องราวดีดีมาอ่าน มาทำความเข้าใจ
แบบนี้มันเหมือนเมื่อหลายปีก่อน เราพยายามจะหาประมวลความคิดที่คนอื่นเขาเรียบเรียงไว้แล้ว อ่านจบกี่เล่ม ๆ
ไม่เคยช่วยอะไรให้ใจเราดีขึ้นได้เลย
สุดท้ายมันผ่านมาได้ด้วยการฝึกปฏิบัตินะ

คราวนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกัน แง่คิดของแต่ละคนที่คิดออกมา
ล้วนดีมากทั้งสิ้น แต่ก็ยังใช้กับเราไม่ได้
เราไม่ได้วางท่านไว้แต่เพียงในใจ ท่านอยู่กับจิตวิญญาณเป็นศรัทธาที่รองจากพระเจ้าแต่เหนือบุพการี
เราคิดมาตลอดเวลาว่าอยากเห็นท่านยิ้ม
จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เห็นท่านยิ้ม
ฝันที่อยากให้เป็นจริงตอนนี้มันยังเหลืออยู่อีกไหม?

ไม่รู้ว่ะ ..บอกไม่ถูก จะร้องไห้ก็ไม่ใช่เรื่องจะมาฟูมฟายเพิ่มเติมความไร้สติ

เห็นภาพข่าวแต่ละภาพ รอยยิ้มช่างหายากเย็นเหลือเกิน
ยิ่งมองลึกเข้าไปในดวงตา คนบางคนแล้วยิ่งสงสารจับหัวใจ

ที่เห็นมาบอกกันว่า ไม่เป็นไรนะให้เข้มแข็งให้อดทนคืออะไร
หลอกกันเห็น ๆ

............................................

พอได้แล้ว กุเหนื่อยกับการเริ่มต้นใหม่
การร้องไห้มันใช้พลังงานมากมาย
มันจะบอบช้ำกันเกินไปแล้ว

#วันที่๑๐๓ เริ่มต้นให้ดี เอาดีให้ได้
พ่อป่วยนอนอยู่รพ.นะ
ถ้าเราเป๋คนเดียว คนที่เหลือจะอยู่กันลำบาก
มีแต่คนเอาแต่ตัวเอง บางคนช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้เลย
เป็นบ้าอะไรกันนัก โกรธมากและอยากแดรกกบาล

จะให้กุอยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ เพื่อยับยั้งการไม่โกรธ???

จะพยายามลองดูสักตั้ง แต่ถ้ามีกระทบกระทั่งกุเรียกตำรวจจับอย่างเดียว กุบอกเลย.

อย่ามาเยอะใส่กุ เพราะกุจะเยอะขั้นกว่า และเยอะที่สุด
ถ้าอยากหลีกหนี ไม่อยากจะพูดด้วยกับกุ เมิงหนีไปให้พ้นวงโคจร
หนี ๆ ไปให้ห่างรัศมีสายตากุเลยนะ ถ้าเป็นไปได้ ไปตายซะ
เอาดีไม่ได้ก็อย่าสะสมความชั่วร้ายอีกเลย

ทำไมเป็นคนแบบนี้ นะ นังยาย

กุบอกเมิงแล้วใช่ไหมว่า กฎของการเผือกคือ ถ้าเขาไม่ยอมรับความจริง ถ้าเข้าไปเปิดใจให้เผือก จะไปเผือกเรื่องของเขาไม่ได้.

ถึงจะแกร่แล้วจะเผือกเรื่องของใครก็ได้แต่เมิงจะเผือกเรื่องที่เขาไม่อนุญาตไม่ได้!!

ส่งงานแล้วไปหาพ่อนะ
คงต้องคุยกันอีกครั้ง
มีนัดวันพุธ และวันพฤหัสฯ วันนี้วันอังคาร
คงพอจะทำอะไรได้บ้างนิดหน่อย

ถ้าใจมันจะไม่ยอมดีขึ้นได้เอง ก็ช่างมันเถอะ
ครั้นจะให้ไปหยิบใครมาเก็บขึ้นหิ้งบูชาก็ไม่ไหวแล้ว
สิ้นท่าน ก็หมดแล้วจริง ๆ ปฐพีนี้
พยายามจะคาดหวัง แต่ก็กลัวจะผิดหวังซ้ำซากรุนแรง

อะไรที่มันไม่ใช่ ก็อย่าพยายามยัดเยียดให้มันกลายเป็นอะไรที่ใช่
พยายามอย่างมากที่จะไม่คิด ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ตัวเองดีอยู่ว่ามันคิดตลอดเวลา ไม่มีสักเสี้ยวนาทีใดเลยที่จะไม่คิด
ยิ่งห้าม ยิ่งเหนื่อย

ยากจัง มันไม่ได้ทำกันง่าย ๆ เลย
หายใจเข้าลึก
หายใจออกยาว

บอกตัวเองว่า ดีที่สุดของเราแค่ไหน ก็เอาแค่นั้นแหละ
ส่งเด็กสองคนให้ไปเก็บบรรยากาศ
รอดูรูปและคลิปว่า พวกนางจะเก็บมาได้ดีสักเพียงใด

คนเหมือนกัน แต่ละคนไม่เหมือนกัน
การเก็บรายละเอียด รู้สึกนึกคิดก็แตกต่างกัน
ก็คงจะต้องทำใจ มโนภาพตามกันไป
บรรยากาศ คงมิได้แตกต่างจากทุก ๆ ปีมากนัก
เพียงแต่ ความสดชื่น เบิกบาน ปิติที่มี มีกลายเป็นความอาลัย
อาดูร

พยายามเข้านะ นังยาย
อย่าได้พลาดอีกเป็นอันขาด

อ้อ ลืมจะบอกว่า ขนาดพลาดกำไรตั้งมากมายแล้วก็ยังได้กำไรอยู่ดี


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 6 ธันวาคม 2559 เวลา:7:28:39 น.  

 
เมื่อวานตอนเย็นเข้าไปเยี่ยมป๊ะ..
ไปถึงเห็นนอนหายใจถี่และเร็วเหมือนปลาที่เกลือกอยู่บนบกแบบนั้น
อึ้ง งง ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง
เพราะเข้าใจดีว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นยังไง

ปลายเท้าป๊ะซีด และเย็น แต่ตัวร้อนมีไข้สูง
ตัวถูกมัดไว้ พี่ชายนั่งเฝ้าอยู่ก่อนแล้วบอกวันนี้เขาดิ้น
โดนมัดมือ ปากแห้ง ถามพี่ว่า "ทำไมเขาดิ้น"
พี่ชายตอบคงหิวน้ำจะลุกขึ้นมากินน้ำปลายเตียง

ทั้ง ๆ ที่ใส่ท่อช่วยหายใจอยู่นะ ยังไม่หยุดซ่า
อาการที่เห็นมันคือคนกำลังจะยื้อยุดฉุดลมหายใจ

โลกสีเทาวันนี้มันกว้างเกินไปนะ ถ้าจะไม่มีเธอ
ไม่เอาอ่ะ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องอยู่ต่อ
ฉันมีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง
ทำคนเดียวมันหนักเกินไปนะ
เครื่องมือปลายเท้าที่บอกการเต้นของหัวใจ และอะไรอีกสองสามอย่าง ไม่คิดจะอยากรู้ ไม่รู้จะดีต่อใจมากกว่า มันร้องดังสามสี่ครั้ง
แต่ก็ผ่านมันไปได้
คนอื่น ๆ กลับไปกันหมด พี่ชายขอตัวกลับบ้าน

หันไปมองคนอื่น ๆ ทุก ๆ คน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว
สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันไปเหมือนกัน ๆ
ชีวิตมันสั้นนัก เราต่างคนต่างมาทำธุระของตัวเอง
เสร็จงานแล้วก็จะต้องจากไป แต่งานฉันยังมีอีกเยอะ
คนของป๊ะก็ยังไม่จบดี ถึงจะหมดเวลาแล้ว
แต่เราก็ยังมีสิทธิ์อยู่ได้ต่อเสมอถ้ารู้ว่าเราจะอยู่เพื่อจะทำอะไรไม่ใช่เหรอ? พ่อจับมือมองตากัน เข้าใจนะว่าเขาจะสื่อว่าอะไร
แต่บอกพ่อไปว่า "ไม่ เราจะกลับบ้านไปด้วยกัน ถ้าจะให้รับจะต้องรับในภาวะปกติ ไม่ใช้รับเพราะสิ้นสติแบบนี้"

เคยผ่านมาแล้ว ช่วงเวลาของการยื้อลมหายใจ
นังยายผ่านได้ ป๊ะก็ต้องผ่านได้
ไม่นานน้องขึ้นมา หลังหมอมาดูอาการเคสพิเศษ
เครื่องมืออีกสองสามอย่าง พยาบาลอีกสองสามคน
เข้ามารุม เจาะเลือด เอ็กซเรย์ปอด ดูน้ำในสายที่สอดเข้าทางจมูก
หมอกับพยาบาลคุยกันด้วยศัพท์ทางการแพทย์ ไม่รู้จัก
แต่พอเข้าใจว่ามันไม่โอเคเลย เขาให้มอร์ฟีนไปเพื่อระงับอาการทุรนทุรายให้สงบลง จะได้หลับได้บ้างมิเช่นนั้นจะไม่ได้พักผ่อนเลย
ก่อนให้มอร์ฟีนรู้สึกตัวนะ เรียกยังลืมตาขึ้นมาได้บ้าง
เช็คโน่นนี่ สักพักหมอบอกดีขึ้นแล้วล่ะ หลังจากที่ดูฟีล์ม

ใจก็ขึ้นขึ้นมาหน่อย แต่อีกสักพักเข้ามาบอกใหม่
มีเพิ่มเติมหลังจากดูผลเลือด คือเลือดเป็นกรด

เกลียดคำนี้จังเลย ให้ยาไปแล้ว ยาจะออกฤทธิ์สี่สิบแปดชั่วโมง
จะรู้ผลว่าร่างกายตอบสนองได้ดีแค่ไหน

ทำไมไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลย
มันว่างเปล่ามาก ไม่โกรธแล้วด้วย

ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไรก็ช่างเมิงเถอะ
ไม่อยากจะสนใจอะไรแล้ว

.....................................

กลับบ้านไปดูแม่และนายทั้งสองคนก่อนจะมาหาป๊ะ
ไปดูต้นไม้ของป๊ะในสวนที่ขาดการดูแลมาหลายวัน
ป๊ะจัดการไว้อย่างดี แค่เอาใจใส่รดน้ำให้
ไม่มีใครทำ มะนาวลูกแกร็นขาดน้ำและไม่มีน้ำ
แต่ดกมานะ พริกเหี่ยวเฉา ตะไคร้ กะเพราะมะเขือพวง
ที่แม่เขาเจ็บใจตอนจะทำบุญซื้อแพงเหลือเกินเลยปลูกกินเอง

เอ็ดแม่เรื่องชอบว่าป๊ะ ป๊ะดื้อก็จริงแต่นังยายว่าได้คนเดียว
คนอื่นอย่าแม้แต่จะคิด

ทุกคนคิดเหมือนกันหมด
เหมือนจะรู้ตัว โดยเฉพาะแม่
เพราะทุกอย่างมันเดินไปเร็วมาก จะต้องเรียบร้อยภายในวันเดียว
ความคิดจะมายื้อเวลากัน ไม่มีในหมู่พวกเขาหรอก

เจอพี่สาวของเพื่อนสมัยเรียน พ่อเขานอนอยู่ข้าง ๆ กัน
เพื่อนคนนี้เป็นคนที่เคร่งครัดมากเป็นแกนนำสำคัญในประเด็นที่เป็นข่าวอยู่ ถึงเราจะเห็นต่างกันบ้างเรื่อง แต่เมื่อเจอกันเราจะรู้ดีกว่า
ต้องสงวนจุดยืนของกันและกันไว้ตรงไหน

พี่จะยอมเขาเสมอเพราะสิ่งที่เขายึดมั่นมันคือสิ่งดีที่เราเข้าไม่เคยถึงเลย ถามเขาเรื่องสารทุกข์ต่าง ๆ ครอบครัว บลา ๆ เขาก็ตอบมาและย้อนถามเรื่องของเราบ้าง พอรู้ว่าพี่ยังไม่แต่งงานและตอบว่าไม่มีความคิดเรื่องนี้ พี่สาวเพื่อนมองหน้าอย่างหาคำตอบ
และคงคิดว่า จะพูดเทศนาดีหรือไม่ พี่เขานิ่งและเงียบ
อย่างที่นังยายพอจะเข้าใจว่า คงต้องการเหตุผลแต่มีมารยาทพอที่จะไม่ถาม น่าเห็นใจ อยากรู้ก็เลยบอกให้

พอเขารู้เหตุผล ไม่ถามอีกเลย บอกย้ำด้วยว่า ดีแล้ว
เข้มแข็งเข้าไว้ อย่ายอมใจอ่อน นั่น ทีตอนแรกคะยั้นคะยอ
สงสังสงกา พอรู้แบบนี้ มีเล่าเรื่องน้องชายให้ฟัง
มันมีแต่ยุ่ง กับยุ่งเท่านั้น

...................................

มองไปรอบ ๆ อีกที เห็นพี่ชายที่เหลืออยู่แล้วสลดใจ
ยิ่งกว่าลูก ยิ่งกว่าน้อง และยิ่งกว่าหลาน
มีความเป็นพี่ชายนะ แต่บ้านทั้งบ้าน นังยายเสียงดังสุด

แล้วจะต้องรู้สึกยังไง ในเวลานี้

บอกไม่ถูกนะ
มันผ่านทุกอย่างมาหมดแล้ว

มองพ่อแล้วยิ่งสลดในใจ
ไม่เคยรู้สึกน้อยใจเลยที่พ่อดูแลเราไม่ดี
แต่รู้สึกไม่ดีที่ดูแลพ่อให้ดีไม่ได้

เวลาของเราสลับกันเสมอ
ตอนเป็นเด็กเราอยู่บ้าน พ่อไม่อยู่
พอเราโตขึ้นพ่ออยู่บ้าน แต่เราออกมานอกบ้าน

นานเลยกว่าจะกลับบ้านสักครั้ง
จำได้นะ ตอนกำลังเข้าวัยรุ่น
พ่อใช้ให้ทำงาน พ่อมักจะใช้เรา เพราะคนอื่นไม่เข้าใกล้พ่อ
เราก็ทำได้ทุกอย่าง แต่ช่วงหนึ่งที่มันเรียนหนักเพราะต้องเร่งให้ทันเพื่อน เรียนหนังสือซ้อมดนตรี เวลาไม่มีมากมาย
พ่อใช้ให้ช่วยงาน แต่ใช้คำไม่ดี อารมณ์รุนแรงร้ายกาจ

พอรู้สึกไม่ดีกับการทำงาน พี่สะบัดหน้าใส่พ่อ แล้วเดินหนีไปเลย
เดินออกจากบ้าน อยู่บ้านไม่มีความสุข พี่ก็เดินออกไปบ้านพี่สาว
หรือไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้าน
เป็นเด็กที่โคตรจะหยิ่ง ไม่เคยแบมือขอตังค์ใคร
ทั้งพ่อทั้งแม่ พี่ชายก็ด้วย จะมีแต่เขาเอาใส่พานประเคนให้ก็เท่านั้น ทำไมเป็นคนแบบนี้

จนที่สุด พ่อเลิกกิจการเกษตรกรเต็มขั้นเพราะไม่มีใครช่วย
กุนี่แหละ เป็นคนทำให้พ่อหมดกำลังใจ แล้วไง
ตอนนี้จะมาอยากเริ่มต้นทำอะไร ๆ ใหม่ทั้งหมด
ทั้งๆ ที่เคยทำแล้ว เบื่อ ไม่อยากทำ เหนื่อย
อยากออกนอกบ้าน พอเวลานี้กลับอยากกลับไปทำมันอีก

ทำคนเดียวไม่ได้ โลกสีเทาวันนี้ยังไงก็ต้องมีเธอ

เราจะเดินกลับบ้านด้วยกันนะ
ยังมีอะไร ๆ ต้องทำอีกเยอะ.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 8 ธันวาคม 2559 เวลา:9:11:31 น.  

 
ผ่านไปสองเดือน กับอีกสองวัน
และวันนี้ก็เก็บได้ #วันที่๑๐๗ ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว

ช่วงนี้มีแต่เรื่องให้น่าตกใจ!!

แต่ก่อนเคยมีความคิดว่า เกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ถ้าเมื่อไร รู้สึกไม่ดี พอได้เขียนแล้วมันจะดีขึ้น
เมื่ออะไร ๆ ได้ระบายออกมาบ้างแล้ว

แต่วันนี้ ความคิดมันเปลี่ยนแปลงไป
บางทีก็รู้สึกเหมือน มันมีแต่จะซ้ำเติมความบอบช้ำให้เจ็บซ้ำหนักเข้าไปอีก ยิ่งเค้นยิ่งบาดใจ ไม่เข้าใจ และจะยิ่งไม่เข้าใจ

หลายวันก่อนรู้สึกโกรธ จนเมื่อวาน ตัดสินใจเขียนป้ายห้ามไว้
ที่บนหัวเตียงและท้ายเตียง ป้ายท้ายเตียงพี่เป็นคนติด
แต่หัวเตียงเด็กด๋อยเป็นคนติด ขนาดเขียนป้ายไว้แล้วก็ยังมิได้นำพา มันเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ
คนเหมือนกัน แต่ละคนไม่เหมือนกัน
พอเวลาผ่านไป อะไร ๆ ไม่ได้แย่อย่างที่พวกเขาคิด
ใจเราก็ปลอดโปร่งขึ้น

บอกเลยว่า สัปดาห์ก่อนในวันเดียวกันนี้เป็นอะไรที่เครียดเอามาก ๆ
จนตัวเองเกือบล้มหมอนนอนเสื่อไปด้วยอีกคน
นั่งเฝ้าทั้งคืน ตากลมเย็น ๆ เช้ามาก็ยังไม่ได้นอน
สติไม่ต้องไปหา จนจำไม่ได้นะ ว่าผ่านมาได้ไงฟร่ะ

โกรธและโกรธและโกรธมาก
อ้อ มีเพื่อนเข้ามาช่วย มีหลาย ๆ คนเข้ามาช่วยดึง ๆ ไว้

ความรู้สึกแบบหัวเดียวกระเทียมลีบมันมาอีกแล้ว
แทบจะทุกคนเลยดีกว่า คิดเสมอว่า ยังไงก็ไม่รอด
พากันเตรียมตัวส่งเดินทางเต็มที่
ถ้านังยายไม่ยืนยันว่ายังไงก็ต้องรอด มันต้องผ่านไปได้
คิดไม่ออกนะ ป่านนี้จะมีชีวิตอยู่กันยังไง
ซังกะตาย สลดหดหู่ หลายสิ่งอย่าง
มองไปทางไหนก็น่าโกรธทั้งนั้น
ยิ่งไอ่พวกบ้า ๆ แม่มอยากจุดไฟเผาให้วอดวายไป
จะได้จบ ๆ คือคิดได้เHี้ยมาก

จำได้อีกอย่างหนึ่งคือ เดินหนีอย่างเดียว
เมื่่อคุยกันไปในทางเดียวกันไม่ได้ ก็เดินหนีออกมา
เข้าไปดูป๊ะเป็นพักๆ ดูก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย
"รู้สึกตัวไหม?" พยักหน้า
"ไหวไหม?" พยักหน้า
"สู้ไหม?" พยักหน้า ถามซ้ำ ๆ เดิม ๆ

ในวันที่ทุกคนถอดใจ น้ำตานองหน้าเพราะความสงสาร

เดินเข้าไปถามคำถามเดิม ๆ อีก
"รู้สึกตัวไหม?" พยักหน้า
"ไหวไหม?" ส่่ายหน้า
"สู้ไหม?" ส่ายหน้า
ไม่เป็นไรนะ นอนเลย หลับตา ทำตัวสบาย ๆ
หายใจเข้าลึก ลา อิ้ ลา ฮะ อิ้ล ลัล ลอฮ์
หายใจออกยาว . . .

ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร หลับเลย หายใจยาว ๆ แล้วหลับไปเลยยยย..

บอกป๊ะแค่นี้ แล้วเดินออกเลย พลังบวกของพี่คนเดียว
สู้พลังลบของทุกคนรอบเตียงไม่ได้
พี่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นและไม่อยากเห็นป๊ะทุรนทุราย

แล้วคืนนั้น ก็นั่งเฝ้าทั้งคืนหลังจากที่ทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้ว

เพิ่งมาทราบตอนเช้าว่า อาการที่ซีเรียสตอนหัวค่ำนั่นคือ
ภาวะไตวาย ถ้าไม่สู้ ก็มีสิทธิ์สิ้นใจได้เหมือนกัน

เราจะยื้อกันแค่หมดลม และทุกอย่างตายไปอย่างสงบ
จะไม่มีการกระตุ้นอะไรทั้งนั้น

นี่คือมันผ่านมาแล้ว สำหรับเรื่องซีเรียส
ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นมาอีก ก็ทำใจแล้ว
โชคดียังเป็นของพวกเรา ที่วันนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

พ่อป่วยคราวนี้ ได้เห็นอะไร ๆ หลายอย่างนะ
เหตุการณ์แบบนี้ มันมักจะคัดแยกผู้คนที่จริงใจ
และไม่จริงใจออกจากกันได้อย่างสิ้นเชิง
เข้าใจเลยว่า ใคร เป็นยังไง
ใครกันที่รักพวกเราจริง ๆ

ทั้งคนนอกบ้าน และคนในบ้าน
แต่ส่วนมากแล้ว จะมีแต่เรื่องดีดี
เพราะความปรารถนาดี พี่น้องที่เคยบาดหมางกัน
ก็กลับมาเข้าใจกันมากขึ้น รู้สึกดีและมีความสุข

เด็ก ๆ ที่เคยดูเหมือนจะหลงทาง
วันนี้ก็กลับเข้าสู่แนวทางสายตรงอันเดิมแล้ว

กว่าจะผ่านมาได้ ทั้งเครียดและสับสน
เย็นวันที่ซีเรียสสุด ๆ เดินกลับบ้านทั้งเบลอ ๆ
อยากจะร้องไห้หนักมากแต่มันผ่านอะไร ๆ ที่แย่ที่สุดมาแล้ว
จำได้อีกอย่างหนึ่งคือ ด้วยพระบารมีจะทำให้เราผ่านอะไร ๆ ไปได้ง่าย ๆ ท่านไม่เคยแม้แต่จะเรียกร้องให้เราไปกราบไหว้หรือสักการะท่านเลย ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นบุคคลอันมีบุญคุณสูงสุดของแผ่นดิน แล้วพวกมันเหล่านั้นเป็นใคร บังอาจมาทำให้เราสับสน
จะต้องการเรียกร้องความสนใจอะไรนักหนา
คิดว่ากุจะกลัวเมิงเหรอ? ไม่ย่ะ
เริ่มรู้สึกภูมิใจในชาติกำเนิดตัวเองก็วันนี้
โชคดีแค่ไหนที่เกิดมาเป็นมุสลิมไทย
มิเช่นนั้นนะ สับสนอีกนาน กับเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่มองก็ไม่เห็น
คืนนั้นเพลียมาก ไม่สบายกลับไปนอนกินยา ตกดึกฝันว่าท่านมาหาถึงที่บ้าน กำลังใจมาเต็ม เช้ามาพ่ออาการดีขึ้นบอกให้เตรียมเสื้อผ้าชุดที่ใส่ไปเฝ้าท่านไปให้ ขออยากไปเฝ้าท่านอีกครั้ง


วันที่เดินกลับบ้าน แม่โทรย้ำให้รีบไป แทนที่จะตรงไปหาป๊ะที่รพ.
ไม่ย่ะ พี่กลับบ้าน กลับไปตั้งสติ คุมตัวเองให้อยู่
สบายใจแล้วค่อยเดินออกมา เพราะออกมาแล้ว
ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ที่จะคุมตัวเองท่ามกลางญาติมากมาย
ที่คอยแต่แสดงกระแสลบอย่างเห็นใจที่หยิบยื่นมาให้

ก็รู้นะ ว่าชีวิตคนมันสั้นนัก จะหมดลมหายใจเมื่อไรก็ไม่รู้
แต่ไม่ใช่ตอนนี้ไง ณ เวลานี้ ป๊ะต้องรอด
และเราจะเดินกลับบ้านด้วยกัน ไม่มีทางเลือก
นังยายเลือกให้แล้ว เรายังมีสิทธิ์เลือกได้เสมอ
ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ
เรายังสู้ได้เสมอตราบที่ลมหายใจยังเป็นของเรา

ส่วนเรื่องที่จะตายยังไง ตายท่าไหน นอนตายที่ไหน
เมิงพับเก็บไปเลย เอาไว้ตัวเองเจ็บค่อยเอาออกมาใช้
ป๊ะจะตายได้ก็ต่อเมื่อ กุทำงานเสร็จเรียบร้อยและเตรียมตัวตายพร้อมแล้ว ตอนนี้ยังไม่พร้อมไง งานยังไม่เสร็จ
อะไรก็ยังไม่เรียบร้อย

เข้าใจแล้วว่า การยื้อชีวิตตัวเองว่ายากแล้ว การยื้อชีวิตคนอื่นยากยิ่งกว่า และการทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในพลังบวกแม่งยากที่สุด

........................................

วันนี้สอนป๊ะหายใจอีกครั้ง เหมือนจะทำได้ดี
ต้องดูพรุ่งนี้อีกที ว่าผลออกมาเป็นยังไง
ครบสัปดาห์แล้วสินะ ..ไวจริง ๆ

ทุก ๆ คนมีบาดแผลกันคนละนิดหน่อย
จะเอาใจใส่ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้
ต้องทำไปพร้อม ๆ กันรวมทั้งนังยายเองก็เช่นกัน

ตัวใคร ตัวมันนะ แต่ต้องไปพร้อมกัน
เรื่องราวดีดีที่ได้เห็นอีกเรื่องหนึ่งช่วงนี้ก็คือ
การที่ทุก ๆ คนยอมเสียสละความสะดวกสบาย
ชองตัวเองพร้อม ๆ กันแล้วช่วยกันทำงาน

คือเริดน่ะ คือชอบ คือทำให้หัวใจเบิกบาน
และมีความสุข สุขแบบสุก ๆ ดิบ ๆ

หลานสาวพาลูกชายไปตัดผม แต่รถคว่ำ
ลูกชายไม่เป็นอะไรเลย แต่แม่เปิดเปิง
จัดแจงให้พี่สาว กับ หลานช่วยกันหิ้วไปรพ.
หลังจากที่ผ่านไปสามวัน ช่างกระไรใจเย็นได้อีก
ไม่จัดการให้ ก็ไม่คิดจะไปด้วยนะ
จะอึดจะอดทนอะไรปานฉะนั้น
วันเดียวกันกับที่หลานรถคว่ำ ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายที่
ช่วงปลายปี อะไรกันนัก คือเรื่องเยอะมาก
เห็นแล้วปลง วันเดียวกันนั่นแหละ
มาซื้อของให้แม่บ้าน เกือบถูกรถชนเหมือนกัน
และนายคนเล็กก็นั่งมาด้วย พี่นี่แบบโกรธ
จนขาสั่นผับ ๆ ๆ ๆ คือเมิงไม่ดูตาม้าตาเรือ
คิดเลย พ่องเมิงใกล้ตายไง๊ พ่องกุนอนปะงาบปะงาบ
กุยังไม่รีบขนาดเมิงเลย โกรธหนอ
กุโกรธมาก มันรีบเบิ่งรถหนีไปเลย กุจำได้นะ
รถเมิงอะ รถแต่ง รีบหนีกลัวกุจะเห็นทะเบียน สัส
มันช่างเป็นวันเดียวที่เรื่องเยอะจริง ๆ

ส่วนทุก ๆ วันก็ซ้ำ ๆ เดิม ๆ
ที่นอนนี่ไม่ต้องคิด ไม่สามารถบอกได้ว่า คืนนี้จะได้นอนที่ไหน
หรือ ไม่สามารถบอกได้ว่า จะได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลุกตอนไหน
เห็นโทรศัพท์จากที่โรคจิตอยู่แล้ว ก็โรคจิตเข้าไปใหญ่
สะดุ้งเฮือกทุกครั้งที่ได้ยินเสียง
มันเหมือนเสียงกระชากวิญาณให้จากเราไป กระนั้น

มีเวลาเหลืออีกไม่กี่วัน
มีอะไร ๆ ต้องทำหลายอย่างตามแผนเดิม
อย่าได้คิดว่าเหนื่อยไหม?
เหนื่อยแปลว่าอะไรฟร่ะ
ทุกวันนี้แค่ไม่ป่วยก็บุญคุณถมที่ไปแล้ว

พอแล้วยาย คิดมากเกินไปแล้ว
ผ่านแล้วก็ปล่อยผ่านไปเหอะ
จม.ยังไม่ได้เขียน ไม่มีอารมณ์จะเขียนเลย
ยายต้องไปอาบน้ำ
ไปอาบน้ำ แล้วจะได้เล่นโยคะ แล้วนอนพัก
จะนั่งค้ำราตรีจนสว่างคาตาไม่ได้แล้วนะ







โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 15 ธันวาคม 2559 เวลา:23:04:54 น.  

 
พรุ่งนี้ ร้อยเก้าแล้วนะ ...จริง ๆ ควรจะร้อยเก้าตั้งแต่วันนี้
เมื่อวานเพลียมาก
เพลียกับการเดินทางทุกวัน ไป ๆ กลับ ๆ
วันหนึ่งใช้ชีวิตสามที่ สับเวลาเปลี่ยนที่กันหัวหมุนทีเดียว

ทำอะไรไม่ได้มากนักหรอก เบลอเสียมากกว่า
การควบคุมอารมณ์ตัวเอง ดูจะเป็นอะไรที่หนักหนาที่สุด

เมื่อวานเกือบตะคอกแม่ไป ขึ้นเสียงไปแล้ว
รู้สึกผิด ที่เสียงดังไปนิด
วันนี้แม่เครียดมาก มึนจนต้องมาหาหมอ
แม่จะกลัวรพ.มาก ไม่อยากเฉียดมาเลย
แกว่า ถ้าแกจะเป็นอะไรไป ขอให้เป็นโรคที่ไม่ต้องนอนรพ.
แกจะนอนตายอยู่กับบ้านเหมือนตา
ตาไม่ยอมนอนรพ. เป็นอะไรที หมอต้องไปรักษาให้ถึงบ้าน

เขามีตาเป็นไอดอล ผู้ชายทั้งโลกไม่มีใครดี
ตาดีที่สุดอยู่คนเดียว หึหึ

คือนังยายมีความโกรธ
แม่เขาคิดอย่างเดียว คือพ่อต้องตาย จะตายอยู่แล้ว
ต้องตายแน่ ๆ นังยายก็เอ็ดไปสิ
ไม่ตายหรอกตอนนี้ ยังไม่ตาย อะไรกันนัก
จะเอาตายท่าเดียว ไม่คิดมั่ง ยังไม่ถึงเวลา
ต้องสู้ให้ถึงที่สุดก่อนสิ เพิ่งจะเคยนอนรพ.แค่สองครั้ง
จะเอาเป็นเอาตายกันเลยเหรอ? คนอื่นเขานอนเป็นสิบ ๆ ปี
ยังไม่ตายง่าย ๆ เลย ฟอกไตแล้ว ฟอกอีก ก็ยังไม่เป็นไร
นี่เพิ่งจะเจอว่าเป็นไร ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
จะรีบส่งไปหาพระเจ้าถึงไหน?
คือเตรียมใจ เตรียมตัวไว้ ก็เข้าใจ
แต่ไม่ใช่ส่งกระแสลบๆๆๆๆๆๆ ออกมาบ่อยๆ เช่นนี้
ลบแล้วสบายใจก็เข้าใจ
แต่ลบแล้วมีแต่สลดหดหู่ จะพูดออกมาเพื่ออะไร?

เพราะความไม่รู้ ทำให้เสื่อม
คือเหนื่อย คือไม่ไหวจะเคลียร์
แต่ไม่นานหรอก เดี๋ยวจะบรรยายให้ฟังพร้อมกัน
วันที่ป๊ะกลับไปอยู่บ้านแล้ว
เล่าให้ฟังพร้อม ๆ กันว่า ถ้ายังใช้วิถีชีวิตแบบนี้
ต่อ ๆ ไป ร่างกายจะเป็นยังไง
แล้วจะต้องเจอกับสภาวะอะไรบ้าง

จะได้เลิกมโน ไปต่าง ๆ นานา
ลูกอิช่างมโน คุยกันที มิไหวจิตามไปเคลียร์
ไม่ได้มีความอดทนสูงอะไรขนาดนั้น

มีความตลกร้ายกันหลายอย่าง
คิดแล้วก็รู้สึกขำขัน
สถานการณ์เดียวกัน แตกต่างที่พื้นฐานความคิดและความรู้
การจัดการเป็นไปคนละทิศทางเลยนะ
พี่น้องทะเลาะกันก็เพราะแบบนี้แหละ

แต่ก็เข้าใจนะว่า เพราะมีความปรารถนาดีต่อกัน
แต่ความปรารถนาดีต่อกันมันก็ควรตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของความถูกต้องเหมาะสมป่ะ
ไม่ใช่ปรารถนาดีแบบไร้หลักฐาน ไม่มีอะไรให้เกาะ
เอนเป็นไม้หลักปักเลน ตลกร้าย!!!
ที่ว่านี่ไม่ใ่ช่พี่น้องบ้านพี่หรอกนะ
เพราะบ้านพี่เสียงพี่เด็ดขาด ให้เอ๋อกุด่าจนหายเอ๋อ
ไม่มีอ้อม ๆ วน ๆ ด้วยนะ
เวลาด่า กุด่าตรง ค.วาย คือ ค.วาย ไม่มีกระบือ หรือโค
และไม่แปลงเป็นบัฟฟาโล่ด้วย กุกลัวแม่งไม่รู้ว่ากุด่า
ด่าแล้วต้องแปลอีกก็ไม่ใช่นะจ๊ะ โน.

.......................................
พวกเขามีความพยายามมาก ..ที่จะเข้ามาช่วย
ส่งป๊ะให้ตายอย่างสงบ ก็เข้าใจในความเจตนาดีนะ
แต่ใครบอกเขาฟร่ะ ว่าป๊ะจะตายเดี๋ยวนั้น วินาทีนั้น

คิดกันอย่างเดียวเลย เท้าเย็นแล้วจะต้องไปแล้ว
รีบ ๆ ๆ เดี๋ยวไม่ได้ไป เอากลับบ้าน
จะได้มีความสุข คือไร???????

ไปเอาชุดความคิดแบบนี้กันมากจากที่ไหน กุนี่งงเต็กเลยนะ

คนกำลังจะหยุดหายใจร่อมร่อ เอากลับบ้านแล้วมันทำให้บัญชีความดีเพิ่มมากขึ้นป่ะ???
มันทำให้การถูกลงโทษในหลุมฝังศพลดน้อยลงป่ะ???
มันจะทำให้ได้เข้าสวรรค์เร็วขึ้นป่ะ???

คือไม่เข้าใจ วันนั้นนะ จำได้ บอกกับหลานว่า
"ถ้ากุไม่สบายเป็นอะไร ติดป้ายห้ามเยี่ยมนะ กุอยากพักผ่อน
ไม่ต้องเข้าไปสอนอะไรทั้งนั้น ทำเองได้ จะเตรียมตัวไปอย่างดี
ไม่ต้องเดือดร้อนให้ใครมารุมสอน รุมเฝ้า"

................................
เราควรจะร้องขอความเมตตาจนถึงลมหายใจสุดท้ายมิใช่เหรอ?
ตราบเท่าที่ยังหายใจ ตราบเท่าที่ยังมีสิทธิ์
ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพใดก็ตาม
แม้แต่ยามหลับใหล หากแต่ยังรู้ตัว มีสติ
เราก็ยังฟื้นตื่นขึ้นมาได้
นี่ไม่ได้หลับซะที สติก็ยังดี แค่เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก
จะคิดตัดใจยอมตายไปง่าย ๆ ได้ยังไง
คิดกันได้ยังไง ว่าหายใจลำบากแล้ว ลาตายเสียเถิด

คิดเหมือน ณ ปัจจุบันนี้ ปี พ.ศ.๒๓๐๐ ยุคที่การแพทย์ยังไม่พัฒนา ยุคที่การสาธารณสุขยังไม่ก้าวหน้า ความรู้ยังเข้าไม่ถึง
ความเข้าใจยังไม่เข้าถึงปชช. บร้าส์ .. เออตลก แต่เขาคิดกันแบบนี้จริง ๆ กุอึ้ง สตั๊นไปสามวันเต็ม ๆ งงเอ๋อไปกับเขา
สับสนในตัวเอง ตกลงความเข้าใจที่กุมีนี่ มันผิดหรือถูกต้องกันแน่
แบบว่ามีอะไรให้สับสนหลายอย่าง
ตอนนี้จับต้นได้แล้ว เดี๋ยวจะไปเอาปลายมาตัดแต่งให้สวยงาม
ซะก่อนจะเอามาชนกัน
คือต้องบรรยายกันอีกเยอะ

ขอเวลาแป๊บบบ ...แป๊บเดียวจริง ๆ
พอจะเข้าใจ พอจะเห็นทางไป
ขอเวลาสักพักจริง ๆ .


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 18 ธันวาคม 2559 เวลา:0:57:01 น.  

 
#วันที่๑๐๙ ขอโทษจริง ๆ ต่อไปนี้ตั้งใจจะไม่โกรธใครอีกแล้ว
ต่อให้นิดหน่อยเล็กน้อยหรือรุนแรงก็เหอะ

เมื่อวานเก็บโกรธไว้มากไป บางทีมันคิด "เมื่อไรจะหมดกรรมจากคนนี้ซะที" นี่คิดแทนคนอื่นนะ เพราะเห็นการถูกเอาเปรียบไม่ไหวจริงง ๆ
พอถึงเวลาที่เขาไปแล้วจริง ๆ กลับใจหาย
ไม่น่าไปคิดเช่นนั้นกับเขาเลย ถามว่าเขาไปจริง ๆ ดีใจไหม?
ก็ไม่เลยนะ มันเร็วเกินไป ทำใจไม่ไหว ช็อกเล็ก ๆ
ในน้ำเสียงสั่นเครือที่คนเป็นลูกโทรมาบอก
แว๊บแรกที่คิดคือ นี่คือตัวแทนที่ต้องการเหรอ?

บอกกับตัวเองไม่ถูกว่า ต้องคิดยังไง ต้องรู้สึกยังไง
รู้แต่ว่า รีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้ เพราะที่นั่นกำลังระส่ำระสาย
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงง ๆ ไปถึงคนเต็มบ้านแต่ไม่มีใครคิดจะทำอะไร ทุกคนรอคำสั่งและกำลังโกลาหลตกใจไม่หาย
ต้องรีบแล้วจริง ๆ เป็นการจากไปที่เสียเปรียบเวลา

มีแต่คนงง ไปถามใครก็ไม่มีใครกล้าฟันธงว่าต้องทำอะไรต่อมิอะไรบ้าง พ่อนอนป่วยอยู่ที่รพ.
คิดได้อันดับแรกคือ ต้องไปบอกพ่อก่อนใคร ๆ
ขอเข้าก่อนเวลา ถามอาการ แรกเริ่มดูเหมือนจะดี
พอบอกว่า วันนี้ไม่มีใครมานะ อยู่คนเดียวได้ไหม?
พ่อดูงอล ๆ ไม่สบอารมณ์และสายตามีความสงสัยปนน้อยใจ
พอบอกว่า มีคนเสียชีวิตและพอรู้ว่าเขาเป็นใคร
พ่อมีสีหน้าตกใจหัวใจเต้นแรง หายใจแรง
เลยบอก ไม่ต้องตื่นเต้น ค่อย ๆ หายใจ
มีอะไรต้องรีบทำหลายอย่าง เพิ่งเสียตอนเช้านี้เอง
เขาดูเข้าใจ ออกมาฝากพ่อไว้กับทุก ๆ คน บอกฝากด้วยนะ
มีคนตายที่บ้าน ไม่มีใครมาวันนี้
พี่เขาก็น่ารัก ดูแลให้ตลอด เดี๋ยวจะซื้อขนมไปฝากนะ
.................................

ไปจัดการเรื่องวัตถุดิบอาหารเลี้ยงแขก
แขกเต็มบ้านแต่ไม่รู้จะทำอะไร
มีเวลาเจ็ดชั่วโมงทุกอย่างต้องเสร็จเรียบร้อย
คือมันเร็วจนไม่มีเวลาคิดอะไรทั้งนั้น
ไม่ได้แบ่งงานกันทำ เห็นถามใครไม่มีใครรู้เรื่อง
เลยชิงตัดสินใจ แล้วสั่งงานให้ทันที
พี่สาวกับน้องและคนข้างบ้านไปจัดการกับใบมรณะบัตร
จัดการยังไงไม่ทราบ เขาจะมาเอาตัวไปชันสูตร
คือถ้าปล่อยไปเรื่องจะเยอะจนหมดเวลา และไม่ทันการณ์

ซื้อกับข้าวกลับมา ยังไม่จบ เห็นพี่สาวงง ๆ
ป่ะ มานี่เดี๋ยวพาไปเคลียร์ ที่พอจะเคลียร์ได้ง่ายเพราะเขาไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรมากมายและไม่ได้ทำประกันอะไรไว้เลย
ไม่ได้ห่วงหรอกนะ ว่าจะถูกชันสูตร แต่ห่วงว่ากว่าจะไปและกลับมา เวลาที่มีแค่เจ็ดชม. จะไม่ทันให้ญาติได้เยี่ยม
แค่นี้ก็แทบจะไม่มีเวลาหายใจหายคอแล้ว

สรุปเคลียร์ได้ ไม่มีใครติดใจอะไร

เคลียร์เอกสารแล้ว ก็มาถึงงานพิธี
เคยบอกแล้วว่า ช่วงนี้บ้านพี่ขาดผู้นำ
และเรื่องยังไม่เรียบร้อยดี
รอพ่อออกจาก รพ.ก่อน
พ่อจะได้มาจัดการตรงนี้เสียให้เรียบร้อย
เห็นไหม? พี่บอกแล้ว พ่อยังไปไหนไม่ได้
งานยังมีต้องทำอีกเยอะแยะ
พี่ทำคนเดียวไม่ไหว ต้องการคนช่วย

นั่งเบลอ มองตากัน พูดมากไม่ได้
เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา

โชคดีเป็นของบ้านเรา พอดีมีลูกหลานที่พอจะมีความถนัดตรงนี้อยู่
หลานก็เพิ่งจะเป็นนักเรียน ยังไม่ได้เชี่ยวชาญขนาดนั้น
แต่เพราะความสบายใจ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจ
มัวแต่มองหน้าเพราะความเกรงใจ

มานี่ นังยายเอง เคลียร์หลานชายคนโปรด
ทำได้ไหมลูก ทำไหวไหม? เคลียร์ทางเลย
คอนเฟิร์มมา เดี๋ยวทางนี้ นังยายเคลียร์

ก็ดีนะ เพราะเป็นคนกลาง ด้วยความสบายใจ
ไม่เอาใครเลย เอาลูกหลานตัวเองทำเอง
ผ่านไปได้อย่างสวยงามและสบายใจ
สมบูรณ์แบบ จบไปอีกเรื่อง

สรุปก็จบ และผ่านไปได้อีกวัน

ไม่อยากจะคิดต่อ
บอกแล้วไง
ไม่ต้องไปเตรียมตัว เตรียมงานต้อนรับอะไรทั้งนั้น
ถึงเวลามันก็ผ่านไปได้เองแหละ

ยังมีคนยังไม่ยอมหยุด อินี่ยังมีแอบโกรธ
ยังมีแอบคิดต่อไปก็คิวเมิง สันดานไม่ดีนะเมิง
คือบอกแล้วว่าอย่าโกรธ

วันนี้นะ ไปสอนพ่อหายใจ
โอกาสสุดท้ายแล้วที่จะหายใจอย่างคนปกติและแข็งแรง
ทำกายบริหารยืดแขนและหายใจเข้าออกลึกยาว

กลับบ้านตัวหนักหลังเดี้ยง
ทะเลาะกับนาย เพราะนายกวนตรีนยายมาก
นั่งยืดตัวเล่นโยคะเอาแมวมาใกล้ ๆ
บอกสอนแมวให้แกล้งยาย
นายเขาว่า "จัดการมันเลย ไอ่หู ไอ่ป้านี่ตัวแสบเลย
เล่นอะไรนิดหน่อยไม่ได้เลย มันว่าตลอด"

สะอึก เมิงเห็นนังป้าเป็นตัวแสบที่คอยแต่จะว่ากล่าวตักเตือนตลอดเวลาเลยใช่ไหม?
โมโหมากนะ ซัดให้ทีหนึ่งที่หลัง นายถึงกับอ้วกออกมาเลย
รู้สึกโคตรผิด และผิดมาก
ทำไมโมโหร้าย และโกรธแรงขนาดนั้น

คือช่วงนี้ใครทำอะไรให้ไม่สบอารมณ์ไม่ได้เลย
เกลียดแรงและโกรธแรง โกรธแบบไม่รู้ตัว
เป็นอะไรที่ต้องระงับอย่างแรง
บางทีไม่ได้พูดออกมา ไม่ได้แสดง
แต่มันแค่คิด ไม่ดีเอามาก ๆ
อันนี้รู้ตัวนิดนึง
เป็นเรื่องที่ต้องคอยเตือนตัวเองว่าคิดบวกๆๆๆๆ อยู่ตลอดเวลา

เช้าวันนั้นที่รีบกลับบ้าน นั่งคุยกับเด็กอ้วนบนรถ
คนขับตักเตือนแบบเสียมารยาท
และชี้มาด้านหลังเหมือนเห็นอะไร
แล้วเอ็ดนังยายว่า "พูดให้มันดีดี พูดเพราะ ๆ หน่อย"
พี่นี่สตั๊นแรงมากหลายนาทีเลย
คือเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด จนต้องถามว่า
"พี่เข้าใจที่หนูคุยกันเหรอ?"
เขานิ่งและเงียบและไม่สนใจ

คือ ????????

ละไว้ฐานที่เข้าใจเลยอ่ะ

ต้องตั้งสติเป็นอันมาก มาก มากและมากที่สุด
งานที่ว่าหนักและเยอะ
มันไม่ใช่งานที่ทำอยู่
แต่เป็นงานแบบที่ไม่มีใครเคยคิดจะเข้าใจ
เยอะจนบอกตรง่ ๆ ว่าอ่อนล้าจนเกือบจะสิ้นพลังอยู่แล้ว
ท้อ สับสน ไม่เคยคิดจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น

กุก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะยัดเยียดอะไรให้ทำหนักหนาละเฮ้ยยย

อ่อนเพลีย ละเหี่ยใจมาก อะไรที่เกินความสามารถอย่าเอามาเป็นภาระได้ไหม?

อยากให้โลกสงบเข้าใจ แต่โลกนี้ไม่ใช่ของกุคนเดียว
เข้าใจนะ
จบ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 19 ธันวาคม 2559 เวลา:22:32:59 น.  

 
#วันที่๑๑๐,๑๑๑
ที่ผ่านมาแล้ว..ไม่อยากจะย้อนไปคิดถึง
เข้าใจเลยว่า การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจมันทรงคุณค่ามากแค่ไหน

วันก่อนคนในบ้านตาย
วันนี้คนข้าง ๆ เตียงพ่อตาย
พรุ่งนี้คงไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอะไร
ถ้าจะไปถามป๊ะว่า "อยากตายบ้างรึยัง?"
และถ้าไม่ไหวจริง ๆ อยากจะทำอะไร
อย่างน้อยที่สุด การได้นอนอยู่บนเตียงอย่างมีลมหายใจ
มันก็ถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว

คิดมาหลายวันตั้งแต่ครั้งก่อนที่ป๊ะใกล้จะหมดลมสัปดาห์ที่แล้ว
วันเสาร์เป็นอะไรที่เซ้นสิทีฟ และอาทิตย์ทีไรก็แย่ทุกที
สามครั้งมาแล้ว พรุ่งนี้ก็เช่นกัน
ใครจะเป็นยังไง ช่างมันก่อน
ใครจะทำอะไรก็ช่างมันเถอะ
ยังไงเสาร์อาทิตย์นี้ต้องเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนป๊ะให้ได้
พี่สาวคนโตถาม ไม่ทำงานเหรอ?
"งานน่ะทำแต่ไม่ได้ไป" รู้สึกเห็นคุณค่าของงานตัวเองก็ตอนนี้
ถ้าทำงานปกติอย่างคนอื่น ๆ คงประสาทเสียเป็นบ้า
ก็ไม่ได้ทิ้งเสียทีเดียว ยังเข้ามาเคลียร์ทุกวัน
เพียงแต่ไม่ได้เฝ้าประจำการก็เท่านั้นเอง
จะไม่เข้าเลยก็ไม่ได้
ประเดี๋ยวจะหลุดหลงลืมเสียง่ายดาย

ช่วงนี้อะไรต่อมิอะไรดูแปลกตาไปหมด
หลานชายคนโปรดช่วยได้เยอะ
เขาทำให้เข้าใจคำว่า
แม่ของผู้ศรัทธา
ภรรยาของผู้ศรัทธา
พี่ป้าน้าอาของผู้ศรัทธา
หรือแม้แต่ เพื่อนของผู้ศรัทธา

ก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้าใจความหมายอันนี้อย่างลึกซึ้งเลย
ตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง
หลายชายเป็นคนที่ใคร ๆ รู้จักก็อยากตายด้วยกันทั้งนั้น
อยู่ใกล้ชิดแล้วสบายใจ
มันเป็นความรู้สึกดีดีที่บอกไม่ถูก
เขาส่งคนไปอีกโลกหนึ่งได้อย่างสมเกียรติและสมบูรณ์สวยงาม
เขาไม่เคยว่ากล่าวหรือกระแนะกระแหนใด ๆ ต่อผู้ใดเลย
อยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ดูออกจะไม่สนใจใครด้วยซ้ำ
แต่ทำให้บรรดาติ่ง ๆ ทั้งหลายกลับตัวเปลี่ยนบุคลิกกันพริบตา
ด้วยแค่คำว่า "สบายใจ"

ไม่ว่าจะด้วยเพราะอะไร
เราคงรู้สึกเหมือนกันอย่างหนึ่งว่า
ไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกครหา
ไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นมองเขาไม่ดี
หรือมีจุดด่างพร้อย
นานมาแล้ว เคยรู้สึกไม่ดีกับชีวิตในช่วงหนึ่ง
จนต้องหนีเข้าป่า เด็กคนนี้ก็ช่วยพยุงใจเอาไว้
ไม่ให้หล่นต่ำจนเกินไป

วันนี้ไม่ได้แตกต่างอะไรนัก
เราดูไร้หลัก ไม่มีหางเสือ
ห่วงจะทำอะไรไม่ได้อย่างสมบูรณ์
เด็กคนเดิมเช่นกัน เข้ามายกใจของคนทั้งหมดไว้
ชนิดที่บอกเลยว่า ได้เห็นแล้วอยากตาย
ใครล่ะ จะทำให้คนรู้สึกอยากตายอย่างมีความสุขได้เพียงนี้

พี่ไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้นหรอกนะ
แต่ก็ไม่รู้จะสร้างหวังลม ๆ แล้ง ๆ ไปเพื่ออะไร
ก็ในเมื่อการจะลาจากกันไปมันทำให้มีความสุขมากกว่า

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละ
พร้อมจะชนทุกสถานการณ์
ไม่รู้จะแขวนใจตัวเองไว้บนความคาดหวังที่ต้องรอลุ้นอยู่ทุกวันไปเพื่ออะไร วันไหนดูดี อาการทรงตัว ใจเราก็ดี๊ดีเชียว
วันไหนห่อเหี่ยวหมดกำลังใจ อาการทรุด อิใจก็พาลตกลงมาก่อนเพื่อนไม่คิดจะปรึกษากุบ้างเล้ยยย


.........................................
จะต้องแขวนแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร

เรื่องที่อยากไปเก็บเกี่ยวเพราะความอยากรู้
สรุปก็เตรียมตัวไม่ทัน หรือทันก็คิดแล้วว่า
จะเอาเวลาที่ไหนไปทำ มีแต่ความอยาก
ใจไม่มีหรอก

ถ้าจะคาดหวังอะไรได้บ้างในตอนนี้
พี่คงจะบอกว่า แค่พยุงไม่ให้ตัวเองป่วยก็บุญคุณท่วมหัวไปแล้ว


การเป็นคนขายฝัน..และเห็นคนผิดหวังเพราะมันไม่เป็นจรืง นี่มันทุเรศในความรู้สึกสิ้นดีเลยนะ.
เหนื่อยจนอยากหนีเข้าป่า..หมดอะไรก็ไม่เสียหายเท่าหมดความหวัง.

เรารู้กันเสมอว่า พี่ขายฝันให้ป๊ะ แล้วป๊ะก็ชอบบอกว่า
จะคอยดูน้ำหน้าลูก ถ้าพี่ทำได้ป๊ะจะปิดซอยทำบุญ
จะให้ทำยังไงนะ มันถึงจะเป็นไปได้ ในเมื่อลมหายใจมันไม่ใช่ของเรา แม้กระทั่งลมหายใจของเราเอง มันก็ยังไม่ใช่ของเราเช่นกัน

พอแล้วยาย อย่าเติมเยอะ
กุเพลีย

............................
ขออะไรดีดีบ้างได้ไหม?

คิดแป๊บบบ

วันนี้ตอนจะกลับมาทำงาน
ตั้งใจเอาเงินยัดใส่มือยายภรรยาของตาที่เพิ่งเสียชีวิตไป
ยายแกดูเข้มแข็งมาก แกขอบอกขอบใจใหญ่โตเสียเถิด
พี่ก็ทำได้เท่านี้แหละ

ถ้าจะมีอะไรที่ดีขึ้นมาบ้าง
คงจะเป็นการมองหน้าพ่อบนผนังทุก ๆ เวลา
พ่อบอกให้เพียร เพียรโดยไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่
และด้วยพระบารมี คงจะดึงใจของเราไว้ไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้

ไม่มีอะไรเสียหายมากไปกว่าที่มันผ่านมาแล้ว
น้ำตายังไม่แห้ง ร้องไห้ยังไม่เสร็จ
จะให้ตั้งท่าทำอะไรได้อีก

จริง ๆ แล้วมีเรื่องอยากทำต้องทำมากมาย
แต่บางทีมันหมดแรงจะก้าวขาออกไป
พอหยุดนิ่งอยู่กับที่เมื่อไร
กระแสลบก็พุ่งกระหน่ำสาดใส่ไม่หยุดยั้ง

กุโกรธนะ กุไม่ใช่คนจิตใจดี
บางทีมันโมโหจนถึงกับตวาดว่า
ถ้าไม่เลิกกุเอาตาย อย่าได้คิดไปผุดไปเกิดอีกเลย
ไม่รู้จะโกรธไปเพื่ออะไร แต่มันก็เคืองทุกที
ที่เราพยายามจะนิ่งๆ เงียบ ๆ
แต่คนรอบตัวแม่มฝอยไม่เลิก

นังยายกุให้เมิงหาอะไรดีดี
นี่ดีของเมิงแล้วอ่อ

อ่อ ..วันนี้นายกลับมาจากโรงเรียน
มาเล่าให้ฟังว่า "ป้า ๆ วันนี้ได้เพื่อนใหม่แล้ว"
เขาเล่าด้วยความดีใจ
และเราก็คุยกันเรื่องเพื่อนของเขา

คุยได้ไม่นานนัก
อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากพูดกับใครถ้าไม่จำเป็น
เวลามันระงับตัวเองไม่ได้ พลาดพลั้งอะไรไป
ขี้เกียจจะไปนั่งไล่ขอโทษ

ขอโทษลำบากนัก ก็ไม่ต้องพูดกันเลย
ดูจะดีที่สุดในเวลานี้

อารมณ์เช่นนี้มันเห็นอนาคตตัวเอง
รู้เลยนะ ว่าถ้าวันนั้นมาถึง
ตัวเองจะไปอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้

"อย่าทำให้กุรำคาญใจ"

ไม่ได้ขู่นะ
ไม่ได้ขู่เลยสักนิด

เป็นไปโดยธรรมชาติ รับได้
แต่ถ้าไม่ใช่

"อย่าทำให้กุรำคาญใจ"



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 23 ธันวาคม 2559 เวลา:22:59:47 น.  

 
บางทีก็คิดนะ ..
เวลาที่กุเครียดเรื่องความเป็นไปของชีวิตใคร ๆ
คน ๆ นั้นมันเคยเครียดเรื่องของตัวเองอย่างที่กุรู้สึกมั่งป่ะวะ

ปวดกบาลทันที เวลาใครแม่งคิดไม่ได้ดังใจตัวเอง
เป็นบ้าอะไรของเมิงเนี่ย
เมิงจะเปลี่ยนใจคนทุกคนบนโลกไม่ได้ นังยายยยยยยย

หยุด ...กุจะทำงาน.

กุฝากเมิงไว้ก่อน
ทำงานเสร็จ
เดี๋ยวกุไปรับ

จบ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 25 ธันวาคม 2559 เวลา:22:33:39 น.  

 
#วันที่๑๑๒ มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

เมื่อคืนวานเป็นครั้งที่สามแล้ว ที่ไปลุ้นยื้อลมหายใจ
รอบนี้ดีที่สุดที่ไม่ได้มีไข้และกำลังใจยังดี
แต่ดูน่าตกใจและน่าเป็นห่วงที่สุด
รีบออกจากบ้านกันราวกับจะบิน

พอมาถึง ป๊ะหลับไปแล้ว ไม่มีสติแล้ว
เรียกก็ไม่รู้ตัวแล้ว โดนให้ยานอนหลับชนิดแรง
พอเรียกไม่รู้ตัว แต่ยังหายใจไม่ได้
ถอนใจ พากันเดินออกมาข้างนอก
พี่สาวนี่สิ้นสติมาก อย่างกับหัวใจจะหยุดเต้น
แล้ววายไปก่อนเพื่อน ตวาดทุกคนในบ้านอย่างลืมตัว
พอเริ่มรู้ตัว ชวนน้องลงไปเฝ้าพระเจ้า
เวลานี้ทำอะไรไม่ได้ นอกจากสงบใจตัวเอง
ตลกดี ตอนนี้ไม่มีความคิดเป็นห่วงป๊ะเลย
รู้ว่าแกโอเค เพราะก่อนจะกลับบ้าน
ถามว่า ไหวไหม? แกบอกไหว และสู้

ห่วงแต่หมอกับพยาบาล ดูตื่นตระหนกตกใจ
ที่หาสาเหตุอาการไม่พบซะที
พรที่ขอมีแต่ขอให้ทีมนี้
ลมหายใจที่จะอยู่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการตัดสินใจของพวกเขา เหมือนคนกลุ่มนี้เป็นกรรมการผู้ตัดสินเลย
นานมากที่อ้อนวอนด้วยเรียบเรียงความคิด

พอเสร็จแล้วขึ้นมา คุยกับทุก ๆ คน
ยืนลุ้นส่งกำลังใจกดดัน
ดีดีนะเมิง ดีดีนะเมิง

สักพัก ออกมานั่ง
เขาก็เข็นเครื่องเอ็กซเรย์มา
และเข็นกลับ
แล้วก็รุมกันทำอะไรสักอย่าง
และสักพักไม่นานนัก
ก็มีพยาบาลออกมาบอกว่า โอเคแล้ว
กลับไปพักผ่อนได้
สาเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากท่องอ และมีเลือดออก
ตอนนี้เปลี่ยนท่อใหม่แล้ว เรียบร้อยดี
คือ รู้สึกเหมือนลุ้นเดอะสตาร์ให้ผ่านเข้ารอบจริง ๆ
"..คุณได้ไปต่อ.."

คิดในใจ โอ้ว ขอบคุณนะ
ขอบคุณทุกอย่างที่คิดถึงได้ ณ ขณะจิตนั้น

ขอบคุณตัวเอง ที่ตัดสินใจทำอะไรได้ทันเวลาตลอดมา
ตอนแรกคือ มีคนทักว่า กลับบ้านให้เหนื่อยทำไม
กลับไปก็หมดเวลาแล้ว ไป ๆ มา ๆ
กำลังจะขี้เกียจอยู่แล้วเชียว งานก็ยังทำไม่เรียบร้อยดี
ยังต้องทำอะไรอีกหลายอย่าง

เดือนนี้ใช้เวลาทำงานรวมกันได้น้อยมาก
ตอนนั่งเช็คข่าวจากเด็กที่บ้าน
ส่งเด็ก ๆ ไปเฝ้าดูอาการ เด็กบอกกีเหนื่อย
หายใจไม่ดี พยายามสอนให้ทำตามที่สอนไป
ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ถามหาอะไร ก็ไม่มีใครรู้สักอย่าง
เลยต้องเผ่นอย่างไวเพื่อไปดูเอง

วันก่อนดีมากจนเกือบหายห่วง
พอผ่านไปคืนหนึ่งก็ต้องกลับมาลุ้นอีก
วันนี้โล่งใจ ส่วนวันพรุ่งนี้ไม่กล้าคิดถึง
มันต้องประเมิณไปวันต่อวัน
ไม่กล้าจะฟันธงอะไรทั้งนั้น
วันไหนไม่เข้าก็ต้องบอกล่วงหน้าว่า
วันนี้จะไปไหน จะทำอะไร
สอนกันทุกเรื่อง บอกกันทุกวัน
วันนี้มีฟ้อง หวงของ
ต้องทำใจกันไป พยายามจะสื่อว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำ
โดยการชี้นิ้วไป ต้องจับมือแล้วบอกว่า รู้แล้ว ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ให้เขาไปเถอะ แกส่ายหน้า ไม่ให้ ไม่ยอม
พรุ่งนี้ต้องเข้าไปสอนใหม่ ในขณะที่คนข้าง ๆ ไม่อยู่
เกรงใจนะ รู้สึกเกรงใจมาก วันนี้พูดแรงแบบไม่ได้ตั้งใจกระทบใคร

เราไม่ชอบเอาเปรียบใครและไม่คิดจะให้ใครมาเอาเปรียบด้วย

......................................
อารมณ์เกิดแบบรู้ตัว ระงับได้เกือบสนิท
เหลือแต่ความโกรธที่ไม่รู้ตัว
บางทีเสียงดังโดยไม่ได้ตั้งใจ
พูดแรงโดยไม่ได้หวังผล
แบบเสียงดังตั้งใจตะคอกตวาดไม่มีแล้ว
พูดส่อเสียดโดยหวังจะแทงใจใครต่อใคร
ระงับได้ในระดับหนึ่ง
หยุดอารมณ์อยากด่าได้เก่งขึ้น
ไม่ทั้งหมด แต่รู้ตัวว่าทำได้ดี

เดี๋ยวนี้เวลาใครทำอะไรให้ไม่พอใจ
แค่ส่งสายตาไปนิ่ง ๆ บอกตัวเอง อย่าโกรธ
แล้วเดินหนีมันเลย
ก็ดีต่อใจไปอีก

เวลาใครทำอะไรขัดหู ชิงพูดดักหน้าเลย
"ไม่โกรธ" ก่อนความคิดมันจะสั่งการด้วยซ้ำ
กลายเป็นเรื่องตลกไปอีก

5555555555555555555555555555

เห็นน้องตีลูก คืออยากด่า
แต่บอกตัวเองว่า ลูกเขาอย่าไปโกรธ

วันนี้มาสอนนายเอาใหม่
บอกให้เรียงลำดับ การใช้ชีวิตประจำวัน
บอกวิธี แล้วบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง
นายดูเข้าใจได้ดี นายมักจะถามหาเหตุผลเสมอ
เวลาที่ไม่เข้าใจคำสั่ง
ก็ต้องค่อย ๆ อธิบายกันไป
เขาโตเกินพอ และโตเกินไป
เป็นคนไม่ยอมอะไรทั้งนั้น พอโดนแม่ตี
สั่งแม่ว่า ขอโทษลูกเดี๋ยวนี้เลย ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย
มาตีเขาทำไม เวลาโดนใครว่า โดยที่เขาไม่ได้ทำ
เขาจะรีบบอกเลยว่า ใครเป็นคนทำ ทีนี้เมิงจม
นายกุด่าจมอ่ะ บอกเลย
ตอนนั่งกินสปาเก็ตตี้ ลุกขึ้นตักใหม่ แล้วกำลังจะนั่ง
นายเล่นพิเรนทร์ชักเก้าอีกออก ทีนะที่เป็นคนระวังค่อย ๆ หย่อนลง พอเห็นไม่ถึงซะที หันมอง มันชักออกไป ดีนะไม่นั่งลงหงายหลัง หัวเราะใหญ่ซะเถิดด้วยความภูมิใจที่แกล้งป้าได้

"ขอโทษป้ายัง" นายรีบยกมือไหว้ขอโทษแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
แต่ก็รู้ว่าตัวเองผิดแบบสะใจเล็ก ๆ

ตอนออกจากบ้าน ถามว่า เดินทางคนเดียวเองได้รึยัง?
อันนี้เขายังไม่มีความมั่นใจ เพราะยังอ่านเขียนไม่ได้
เลยบอกว่า นี่แหละเหตุผลที่ต้องไปเรียนหนังสือ
รีบ ๆ เรียนเข้าสิ จะได้เดินทางเองคนเดียวได้

มีเรื่องให้คิด ให้ตัดสินใจทุกวัน

และก็ผ่านไปอีกวัน พรุ่งนี้ก็เช่นกัน
แต่ละวันมีแผนต้องทำ และมีแผนสำรองไว้ใช้เผื่อฉุกเฉิน
เจออุบัติเหตุเช้าเย็นทุกวัน ทั้งคนใกล้ตัวไกลตัว
งดเดินทางสนุกสนาน
ไปได้แต่ธุระกับ กลับบ้าน
กลับบ่อยมาก นอกจากยุ่งทั้งวัน
บางวันไม่ทำงานเลย

ค่อย ๆ จัดการไปที่ละคนพร้อม ๆ กัน
เน้นคนที่ต้องมาช่วยงานก่อน
มีความโชคดีที่ ทุกคนคิดเห็นไปในทางเดียวกัน
ยามใดที่คิดเห็นทางเดียวกัน มีความสามัคดีกัน
จะคิดการใด จะทำสิ่งใดมันทำให้มีพลังเข้มแข็ง

จริง ๆ นะ.

ขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้ได้เรียนรู้ในวันนี้
ถ้าจะให้ดี ก็ขอให้ป๊ะรีบกลับออกมาช่วยกันทำงาน
สังคมรอบข้างไม่ได้รอเรานานนัก

ต้องรีบแข็งแรงได้แล้ว
ก่อนที่อะไร ๆ มันจะสายจนไม่ทันการณ์.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 28 ธันวาคม 2559 เวลา:2:41:05 น.  

 
#วันที่๑๑๓ ทบทวน

จริง ๆ แล้ว ควรจะบันทึกตั้งแต่เมื่อวาน
เมื่อวานทั้งวันไม่ได้เข้าไปหาป๊ะ ทำงานและติดงานเลี้ยงปีใหม่
ถามข่าวจากหลานและพี่สาวที่ไปเยี่ยม
โดยรวมแล้วอาการดีขึ้นและไม่มีไข้
ไปสอนให้ป๊ะรู้จักวิธีหายใจอย่างถูกต้องลึกยาว
ผสานการหายใจอย่างภาวนารวมกับโยคะ
เน้นฝึกหายใจมากกว่าจะดูลมหายใจ

เข้าใจและทำได้ดี แต่ใจเสาะไปหน่อย
เห็นบอกว่า พอจะลากลับบ้านน้ำตาซึมหยดแหมะ ๆ
อินังยายก็สำออย พอรู้ว่าพ่อใจไม่ดี
ใจกุนี่ไปก่อนเพื่อนโดยไม่ทันได้รู้เลย
ว่าเพราะสาเหตุอะไรใจถึงไม่ดี
แต่ก่อนจะกลับวันก่อน ก็บอกแล้วว่าให้ดูแลจิตใจตัวเอง
ป้องกันมารจะครอบงำ คนข้าง ๆ เตียงก็เยอะ
เจ้าหน้าที่บางคนก็แยะ อะไรก็ไม่รู้นักหนา

คือเมื่อวานลำพังตัวเองก็จะเอาไม่รอดอยู่แล้ว
เวลาจิตมันตกนะ มันตั้งใจหล่นกันจริงจัง
ทุกเรื่องจะเข้ามาโหมใส่พร้อม ๆ กัน
มักจะต้องตัดสินใจในอะไรหลาย ๆ เรื่อง
และส่อแววว่าจะล้มไม่เป็นท่าทุกเรื่อง
โดยเฉพาะยามที่ต้องปันความคิดไปใส่ไว้ที่ตัวบุคคลใด ๆ
เห็นแล้วเพลียจิต ไม่อยากคิดเกี่ยวกับใครทั้งนั้น

ต่อไปนี้ต้องบอกกับตัวเองว่า
ใครที่เข้ามาทำให้เรารู้สึกดีดีจนผูกพันด้วย
อย่าเข้าใจ อย่าผูกสมัครรักใคร่กับใครเด็ดขาด
คือแม้แต่คนที่ทำให้สบายใจ อยู่ใกล้แล้วโอเค
แค่รู้ว่าเขาป่วย เขาไม่สบายใจ เขามีอะไรที่ไม่ได้ดังใจเรา
จิตกุก็ตกแล้วอ่ะ
สมควรขังตัวเองไว้ในป่าลึกจริง ๆ
โลกทั้งโลกเมิงสมควรจะอยู่คนเดียว
จะได้ไม่มีเรื่องของใครมากวนให้ใจมันหล่นได้ง่าย ๆ อีก

ซึ่งเป็นไปไม่ได้ป่ะ..ไม่เป็นไรหรอก
กุก็บ่นไปงั้น จริง ๆ แล้วมันหล่นและเจ็บจนเข้าใจ

หล่นเองใช่ป่ะ กุนอนรออยู่บนนี้และ
พรุ่งนี้เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมาที่เดิม
ใจมันอยู่โดยลำพังไม่ได้หรอก
มันต้องอาศัยกายสังขารในการพักพิง

อยากหล่นเมิงหล่นไป๊
จะให้กุเก็บให้เหนื่อย ไม่ย่ะ
ไม่เก็บด้วย ยิ่งเก็บ ยิ่งปลอบ ยิ่งสำออย
ไอ่สันดาน!!!!

กุสอนไม่รู้จักจำ
55555555555555555555555555555555555

แรงไปหน่อยไหม? นังยาย

ถ้ากุพูดกับเมิงดีดี เมิงเคยสำเหนียกบ้างไหมล่ะ ไม่เคย
กุเจ็บกี่ครั้ง กุปลอบเมิงมากี่ที

ใจเมิงควรจะอยู่ในที่ที่สมควรจะอยู่
ไม่ใช่ร่อนเร่ไปกับทุกเรื่องที่รับรู้มา
แล้วก็ไม่ใช่ไปอิงแอบอยู่กับใครก็ไม่รู้
มันไม่ใช่และกุไม่ยอม

ทุกวันนี้ความรู้สึกมันเปลี่ยน
จากไม่สบายใจต้องระบาย ต้องเขียนออกมา
เป็นยิ่งไม่สบายใจยิ่งต้องนิ่งให้มากกว่าระบาย

อีกหน่อยคงเปลี่ยนวิธีระบายเป็นละเลงกระมัง
.........................................

โลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน
เมื่อวานนี้รู้สึกโคตรแย่ และแย่ที่สุด
กับความซ้ำซากของใจตัวเอง
แต่พอเช้ามา ไปหาป๊ะด้วยความอ่อนเพลีย
รีบไป หลับบนรถต้องรีบย้อนกลับมาอีก

แต่ก็ยังทันเวลาพอดี
วันนี้สีหน้าดูโอเค
ตั้งแต่สิบสามตุลาคมหลังบ่ายสี่โมงเย็น
ไม่เคยมีความรู้สึกใด ๆ ดีเท่าวันนี้เลย
อาการป่วยของป๊ะที่มันดีขึ้นแบบฟ้าเหว
จากคืนก่อนที่ยื้อลมหายใจกันอยู่
และย้อนไปสามครั้งที่ผ่านมา
ทุกคนคิดอย่างเดียวกันคือ ยังไงก็ไม่รอด
สีหน้าดูหวั่นวิตกท่ามกลางกระแสลบ
รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น
หลังจากนี้ จะกลับไปอ่านและทำความเข้าใจกับมันใหม่ทั้งหมด
เรื่องของ "อนันตปัญญา"
มันใช้ได้ผลจริง ๆ บนเตียงของผู้ป่วยสิ้นความหวัง
รู้สึกขอบคุณตัวเองมากมาย
ถ้าไม่ผ่านตรงนั้นมาก่อน จะไม่มีความคิดจะหาอะไรมาปลอบใจ
หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณพ่อได้เลย

ความใกล้ตายของตัวเองสามครั้งมันสอนเราว่า
ลมหายใจเรามีค่าที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เรายังมีโอกาสเสมอถ้าเรายังรักษาลมหายใจเอาไว้ได้

สามครั้งที่ไปยื้อลมหายใจเอาไว้ให้ป๊ะคงสอนอะไรให้ป๊ะคิดได้บ้าง
ความรู้สึกใกล้ตาย แม้จะแค่เสี้ยววินาทีแต่มันยาวนานจนทำให้เราคิดอะไร ๆ ได้มากมายเหลือเกิน

ข่าวดีที่เกิดขึ้นวันนี้
มันโคตรจะดีที่สุดตั้งแต่เกิดมาเป็นพ่อเป็นลูกกันเลย

ต่อไปก็มีแต่งานที่ต้องช่วยกันจัดการให้เรียบร้อย
งานแรกก็วันเริ่มต้นศักราชใหม่
เออดีงาม เริ่มต้นวันก็ด้วยความดีงาม

การได้ลมหายใจที่สดชื่นและปลอดโปร่งของป๊ะกลับมา
นี่เป็นอะไรที่สุดจะโชคดีเป็นของขวัญอันทรงคุณค่า
เสียจนของขวัญทุก ๆ ชิ้นที่จะได้รับต่อ ๆ ไป
แทบจะหมดความหมายกันเลยทีเดียว


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 30 ธันวาคม 2559 เวลา:0:25:51 น.  

 
หยุดวันไว้ที่ ๑๑๓ และอีกไม่กี่วันก็ครบสามเดือนแล้วจะผ่านเข้าร้อยวันในอีกไม่นาน เวลาเดินไวไปไหม?

ยังไม่ทันไรก็จะก้าวล่วงไปร้อยวันแล้ว
เหมือนจะยอมรับได้บ้าง แต่อย่าให้รื้ออารมณ์เก่า ๆ กลับมานะ
ได้หนังสือมาเกือบครบทุกเล่มที่ต้องการแล้ว
ยังเหลือแต่ชุดใหญ่หกเล่มที่ของหมดและไม่ทราบจะตีพิมพ์เมื่อไร
อ่านหนังสือใหม่ให้หมดทุกเล่มนี่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบทำความเข้าใจ เราจะได้ไม่เดินหลงทิศทางทำงานเหนื่อยฟรี
เอาแต่เดาความหมายไปเรื่อย
ไม่เคยมีความรู้สึกใดที่มันขนลุกพองสยองเกล้าที่มากมายขนาดนี้
แปลกอย่างไม่คิดจะหาคำอธิบาย มันมีจิตอธิษฐานแฝงอยู่อย่างสัมผัสได้ พี่ไม่ได้มโน เพราะไม่ได้เป็นแค่คนเดียว
แปลกจนไม่กล้าเปิด ถ้าบูชาอย่างคนอื่น ๆ ได้ พี่คงทำไปแล้ว
ขอเวลาอีกสักพัก บางทีมันกลัวตัวเองหลุดไปเหมือนกัน
ตั้งสติมาหลายปี งดอ่าน งดดูมาหลายเรื่อง
กลัวตัวเอง เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้
หมดทางจะเลี่ยงแล้ว ไม่ได้กลัวนะ แค่ไม่พร้อม
ทำใจลำบาก

เรื่องอื่นขอเวลาอีกสักระยะ การทำอะไรพร้อม ๆ กัน
มันก็ทำได้ แต่คงไม่ใช่เวลานี้
มันมากเกินไป อะไรที่มันมากเกินไป ต่อให้เป็นสิ่งดี มันก็ไม่ดี

วันนี้สบายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก
สบายขนาดเก็บอารมณ์ไปฝันว่าบินได้เหาะได้ อิบร้าส์!!!!

แต่ได้ไม่นานนะ พลังหมด จะไปต่อก็ไม่ได้ เลยต้องตื่น
กุบอกแล้ว กุเยอะ 555555555555

ตอนเช้าไปลุ้นป๊ะถอดท่อ และก็เป็นไปอย่างเรียบร้อยดี
เช้าดี บ่ายดี พอตอนรอบเย็น พี่สาวเข้าไป
ถึงก็ป้อนอาหารตามใจใหญ่ซะเถิด มีสำลักสิ
หอบนิดหน่อย อินี่ กุประคบประหงมงดนี่นั่นมาตั้งหลายวัน
เมิงมาถึงตามใจใหญ่ ถูกใจเขาล่ะ

ต้องคอยบอก คอยทำความเข้าใจว่า ทำอะไรแล้วจะได้อะไร
ทำสิ่งนี้ อะไรจะเกิดขึ้น
ทำไมชอบคิดว่า เรื่องพวกนี้คนทั่วไปต้องรู้เองด้วยวะ
ทำไมเขาไม่คิดกันบ้าง ถ้าไม่บอก ก็ไม่รู้หรอก
คือมันควรจะมีกฎระเบียบออกมาให้ใช้ร่วมกันป่ะวะ
คนมาจากทั่วสารทิศมานอนด้วยกัน สันดาน พื้นฐานชีวิตก็ไม่ได้เหมือนกัน อาการแต่ละคนไม่ได้เหมือนกัน
ถ้าไม่บอก ไม่แจ้ง ไม่แนะนำ มันจะทำให้อยู่ง่ายสบายใจกันได้ยังไง แต่ละคนก็เอาตามถนัด เอาตามชอบ ตามอยาก
ตามแต่จะสบายใจ จะมีผลร้าย ผลดี ยังไงเขาไม่รู้หรอก
นี่ขนาดคน ๆ เดียวนะ เปลี่ยนคนเฝ้าแป๊บเดียว
วิถียังเปลี่ยนเลย ทุกวันนี้นะ บอกเลยไปหาไปเฝ้านี่ไม่ได้เฝ้าคนป่วยนะ พี่ไปเฝ้าคนเยี่ยมคนป่วยย่ะ

คนป่วยก็ต้องคอยสอน คนเยี่ยมก็ต้องคอยเตือน
ทุกสิ่งอย่างจริง ๆ การถอดท่อก็ไม่ใช่ว่า
จะทำให้วางใจได้ ทันทีที่พูดได้
คุยกันในขณะได้สตินึกรู้อะไรบ้างแล้ว
ทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมา
บอกป๊ะว่า ช็อกถึงสามครั้งนะ
ครั้งแรกช็อกเพราะต้านเครื่องต้านการรักษา
ครั้งที่สองช็อกเพราะภาวะไตวายเฉียบพลัน
ครั้งที่สามช็อกเพราะท่องอ เลือดออกภายใน
แต่ไม่ได้บอกหรอกว่า ที่ผ่านมาได้นั้นแลกด้วยอะไรบ้าง
ยังไม่มีใครรู้ แต่คิดว่า ป๊ะน่าจะเข้าใจ
เพราะตลอดมา นังยายเข้าไปขายฝันให้ตลอด
ขายฝันพร้อมกับทำให้เห็นว่า ทำได้จริงนะ ดูสิ
ไม่ต้องรอทำให้เห็นแล้ว
พอเริ่มเข้าใจ ก็บอกต่อให้เตรียมตัวเลยว่า
ที่พระเจ้ายังไม่เอาเพราะมีงานต้องทำอีกเยอะนะ
กลับไปทำงานก่อน ป๊ะพยักหน้ารับรู้
แล้วยังบอกให้เตรียมใจอีกว่า
ออกไปคราวนี้จัดการให้เรียบร้อยนะ
อยากได้อะไร อยากทำอะไร อยากฝากอะไรใคร
จัดการให้เรียบร้อย ป๊ะพยักหน้ารับรู้
คุยเรื่องเดินทางไกล แกส่ายหน้า "ไม่ไป"
ถามทำไมล่ะ เหนื่อย??? อืมมม เหนื่อย

อืมมม ไม่เป็นไร ให้มีแรงก่อน
ก่อนกลับวันนี้เลยสอนวิธีการเฟิร์มต้นขาเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ
นอนนานเหี่ยวหมดแล้ว ลุกไหวรึเปล่า เฟิร์มกล้ามเนื้อไปก่อน
พอสร้างกล้ามเนื้อได้ จะได้เดินได้
บอกให้นวดแขน นังยายเลยสอนท่าดัดแขนให้เลือดไหลเวียน
เอาท่าง่าย ๆ ไปก่อน อย่าเล่นใหญ่เกินไปนัก เดี๋ยวจะเหนื่อย
แกดูเข้าใจวิธีการหายใจได้ดีขึ้น
วันนี้และอัพเลเวลการหายใจ จากไปท้องให้ไล่ขึ้นมาที่ปอด
หายใจเข้ายกอกขึ้นด้วยลมหายใจ
แกก็ทำได้ดีทีเดียว
นี่แหละเลยรู้สึกสบายใจ
กลับไปดูที่บ้าน ยังทำอะไรไม่ได้มาก ไม่มีเวลามากพอ
เด็กหญิงเห็นเดินเข้ามาหา เข้ามาอ้อน
จำได้ว่าพี่ต้องพยายามหาเวลาเข้าให้ถึงว่าเด็กพวกนี้ต้องการอะไร
มีนิสัยจริง ๆ ยังไง เลยลองชวนมาด้วย
ดูอยากไปนะ แต่พอบอกให้ไปเตรียมตัว มีอิดออด มีกลัว
มีไม่อยากไปคนเดียว แต่พี่ชายเดินเข้ามาขอไปด้วยเอง
พอบอกเด็กชายว่าให้ไปเตรียมตัว เขาก็จัดการตัวเองได้ดี
ไม่ต้องให้พูดซ้ำ มีความอยากมากกว่า
เลยบอกเด็กหญิงว่า คิวของหนูคราวหน้านะลูก
ป้าไม่สามารถพกเด็กได้ถึงสองคน ป้าดูแลไม่ไหว
เลยได้เด็กชายมาอยู่เป็นเพื่อนช่วงเทศกาลปีใหม่

เสร็จนังยาย!!! ช่างเป็นการหลอกเด็กได้แนบเนียน
เขาดูมีปัญหามากกว่าที่ประเมิณไว้อีก
กลัวความสูง ไม่กล้าแสดงออก สมาธิสั้นขั้นสุด
แต่ไม่น่าจะถึงกับไฮเปอร์ ยังมีความเป็นเด็กน้อยปกติ
แค่ไม่เคยฝึกพัฒนาสมาธิ และขาดความอบอุ่นรุนแรง
ลำพังอยู่กับพ่อกับแม่ ก็ขาดอยู่แล้ว
ยิ่งพ่อแม่แยกทางกัน เขาก็ยิ่งโหยหาความรักจากพ่อ
แม่นี่ไม่ต้องพูดถึง

วันนี้ก่อนนอนเลยได้คุยกัน
กลับจากตลาดก็คุยกัน

ยากอ่ะ ยากกว่าที่คิดไว้ตั้งเยอะ
ยิ่งตอนที่เดินอยู่บนสะพานลอย
เขากลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนก
มือไม้มีเหงื่อออก
พรุ่งนี้จะลองพาขึ้นดาดฟ้า
คืออยากรู้ว่า ที่กลัว เพราะมโนไปเอง หรือกลัวเพราะเป็นโรคหัวใจอย่างนายคนเล็กที่มีความเสี่ยงสูงมาก

ยังไม่เคยมีโอกาสได้เดินทางด้วยกัน
นี่แค่เพิ่งจะเอาทำความรู้จักกันก่อน
การสื่อสารเป็นไปด้วยความลำบาก
เขาเป็นเหมือนผ้าขาวที่หม่น
จะใส่อะไรก็ได้อย่างนั้น

เขาไม่เหมือนนายทั้งสอง สองคนนั้นเป็นเด็กจำพวก
มีความต้องการของตัวเองชัดเจน
เด็กสี่คนไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักอย่างเดียว
ผ่านมานี่ก็คนที่สามแล้ว ไม่สามารถใช้วิธีเดียวกันได้
คนนี้ยากที่การสื่อสารต้องจูนกันอีกเยอะ
ไม่ใช่ว่าเครื่องรับของพี่ไม่ดีนะ
แต่เป็นเพราะว่า ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าต้องแสดงออกอย่างไร
ตัวเองต้องการอะไร นี่เป็นเพราะความขาดที่รุนแรง
เป็นลูกคนกลางและเป็นผู้ชายคนเดียวของบ้านที่ใครก็ไม่สนใจ
จะว่าไม่สนใจก็ไม่ใช่ ต้องใช้คำว่า สนใจน้อยกว่าคนอื่น ๆ

เป็นคนที่ไม่มีความโดดเด่น อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้
แล้วกุจะรู้ได้ยังไงฟร่ะ ว่าต้องทำอะไรให้เมิงแล้วทำยังไง
ได้แต่เกาหัวแกร็กๆๆๆ แหละ อิยาย

ใจเย็นนะ นังยาย เด็กเขามีชีวิตเป็นปฏิมากรรมชิ้นเอกที่ไม่สามารถเร่งรีบได้ เราควรต้องใช้ความรอบคอบและใจเย็นให้มากเท่ามาก

ทำลายความกลัวในใจเขาให้หมดก่อน
แล้วค่อย ๆ สร้างความมั่นใจขึ้นมา
แล้วอะไร ๆ มันคงค่อย ๆ เปิดเผยเมื่อเขากล้าที่จะแสดงออก
และบอกความต้องการออกมาได้เอง

ตอนนี้เขากลัวแม้แต่จะพูดความจริง
ทุกครั้งที่ซักถาม เขามักจะพูดในสิ่งที่เราอยากได้ยิน
ถ้าเขาเดาได้ว่า อะไรที่เราอยากได้ยิน เขาจะพูดสิ่งนั้นซึ่งมันไม่ใช่ความจริง มันเป็นการโกหก

คิดถึงนายคนโต วันที่เขาเลิกฉี่ที่โรงเรียน
เขากลับมาบอกยายว่า เขารู้แล้วว่า สาเหตุที่เขานอนฉี่ที่โรงเรียนเพราะอะไร??? เพราะว่าเขาอายที่จะพูดว่าเขาปวดฉี่
ตอนนี้เขารู้วิธีที่จะไม่อายที่จะพูดและรู้แล้วว่าต้องพูดอย่างไร

อดขำไม่ได้นะ

ส่วนอินายคนเล็ก วันนี้นังยายสั่งให้ไปล้างหน้าล้างตา
มันถามยายว่า
"ป้า ๆ ดิรล้างหน้าเป็นแต่ดิรล้างตายังไม่เป็น ล้างตาต้องทำยังไงอ่ะ ยังทำไม่ได้" !!!!

กุขำดีไหม???

เดี๋ยวนี้เด็ก ๆ พวกนี้มันนินทานังยายเป็นแล้วนะ
มีเอาป้าไปพูดอวดเพื่อน ๆ แถมกลับมาเล่าให้ป้าฟัง

นาย : ป้า ๆ มินจะบอกอะไรให้ ป้ารวยมากนะ รวย ๆ ๆ ยิ่งกว่าอภิมหาเศรษฐีอีก
นังยาย : มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของพระเจ้าลูก ขอบคุณนะ เอามาจากไหนว่าป้ารวยมาก
นาย : ก็เพราะว่ามินอยากได้อะไรป้าก็ซื้อให้ได้หมดเลย บังฮาเอาป้าไปพูดที่โรงเรียนอวดเพื่อน ๆ ว่าป้ามีแฟนเป็นดารา!!!
นังยาย : 5555555555555555555555555555555

....ตลอดแปดสิบวันที่ผ่านมาเพิ่งจะหัวเราะได้เต็มเสียง ระบายได้เต็มที่ก็วันนี้แหละ ....




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 31 ธันวาคม 2559 เวลา:1:44:43 น.  

 
สวัสดีวันขึ้นปีใหม่จ้ะ ..ประเทศไทยที่รัก.

เงียบกว่าทุกที โดยเฉพาะที่นี่
ตั้งใจจะไม่ทำอะไรด้วยแหละ
ครั้นจะตกแต่งด้วยสีขาวดำทะมึนก็ทะแม่ง ๆ ไปนะ

ความสุขของเราวันนี้ ดูจะเป็นสุขสุก ๆ ดิบ ๆ
จะบอกว่าไม่มีเสียเลย ก็ยังไม่ใช่
ยังพอหาได้บ้าง ของขวัญของตัวเองได้มาหลายชิ้นแล้ว
ได้เสียจนหมดสิ่งอยากได้
ใจอยากทำอะไรต่อมิอะไรให้ใครอีกหลาย ๆ คน
ทั้งที่ติดไว้ ยังไม่ได้ทำให้หลายปีแล้ว
และที่ตั้งใจจะทำให้ใหม่
แต่ด้วยใจที่ไม่ปกติตั้งแต่ป๊ะเข้ารพ.
งานการซึ่งเป็นเรื่องปกติ ก็ยังไม่อยากทำ
เดือนที่แล้วทำงานพลาดแบบระเนระนาด
พลาดอย่างไม่ให้อภัยตัวเอง แต่ก็ต้องยอมมัน
ไม่ไปซ้ำเติมความผิดพลาดของตัวเอง
ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร
ย้ำบอกตัวเองเสมอว่า ไม่โกรธ ไม่โกรธ สติ หายใจ
ห้ามป่วย ใจเย็น พูดซ้ำ ๆ กับตัวเองแบบนี้
ที่ใด หรือใครก็ตามที่มีแต่กระแสลบพาลจะทำให้โกรธ
ต้องรีบเดินออกมาและหนีให้ไกล
สร้างหวังให้ตัวเองให้ได้เสียก่อนที่จะขายฝันให้ใคร
ยามที่มีแต่ข่าวร้าย ระลึกเสมอว่า "อย่าประมาทความดี"
เป็นตู้บริจาคไม่ได้ ต้องรี่เข้าใส่ หย่อนตังค์ใส่ตู้บริจาคเสมือนหยอดเงินลงกระปุกออมสิน ทำแบบนี้ทุกวัน ๆ ๆ ๆ
จนใกล้จะได้เวลาเต็มที่ แรก ๆ ทุกคนเห็น ไม่เข้าใจ
บางคนมีกระแนะกระแหนว่า ให้ทำเยอะ ๆ ไปเลย
จะได้สมหวังเร็ว ๆ พอเวลาผ่านไป และได้เห็นอะไรต่อมิอะไร
พยายามอธิบายให้เข้าใจ ในความพอเพียงของตัวเอง
ทำบุญเท่าที่เราไม่เดือดร้อนและพอใจจะทำ
เมื่อผ่านพ้นมาแล้ว ทุกคนพูดเหมือนกัน ปาฎิหารย์มีจริง

รู้สึกขอบคุณจนมิรู้จะขอบคุณยังไง

ถ้าวันนั้นสิ้นสติและอ่อนแอ
ยอมทำตามยถากรรม ปล่อยไปและไม่สู้ ไม่พยายาม
นึกไม่ออกเลยนะ ว่าวันนี้จะเป็นยังไง
อาจจะปลอบใจตัวเองอย่างมีความสุขอยู่กับอะไรไม่รู้และที่ไหนไม่รู้ก็ได้นะ

ขอบคุณทุกคำสั่งสอน ขอบคุณทุกกำลังใจ
ขอบคุณทุกสิ่งอย่างที่ได้พบเจอ ผลักดันให้เราก้าวข้ามมันมาได้
เดือนที่ผ่านมาช่างเป็นเดือนที่โคตรบีบคั้นหัวใจสิ้นดี
ตั้งแต่ซีเรียสครั้งแรกกคืนวันที่แปด คืนวันที่ยี่สิบ และคืนวันที่ยี่สิบหก มีโอกาสให้ลุ้นได้ตลอด วันต่อวัน
แต่พอหลังคืนวันที่ยี่สิบแปดอะไร ๆ ก็พลิกจากร้ายกลายเป็นตรงกันข้าม และวันพรุ่งนี้ป๊ะจะได้ออกจากที่นั่นแล้ว

ในวันที่เปลี่ยนคืนวันพอดี ถ้าไม่เรียกกว่าของขวัญชิ้นพิเศษแล้วจะให้เรียกว่าอะไร มันคือความสุขไหม ไม่รู้สินะ
แต่มันโคตรจะสบายใจเลยจริง ๆ

.......................................

วันนี้พาเด็กชายไปตลาดอีกครั้งหนึ่ง
แต่จับมือเดินไปด้วยกัน
ยามจับมือเดินเขาเดินได้ดีนะ แต่พอปล่อยให้เดินลำพัง
ดูยังวอกแวก ยังปล่อยไม่ได้ สมาธิเขาสั้นมาก ๆ
ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน เหมือนเคยได้ยินปู่บอกว่า ครูที่โรงเรียนแจ้งมาว่าเด็กเรียนหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง จำสลับกัน
ตัวเลขยังจำไม่ได้ บวกเลขก็ผิด ตอบผิดตลอดเวลา

ตอนเป็นน้อย ๆ ไม่มีใครเคยคิดจะบอก ปล่อยเลยผ่านมาจนป่านนี้แล้ว นังยายได้แต่เกาหัวแกร็ก ๆ เอาไงดีฟร่ะ
นี่ถ้ากุไม่เสือกเข้าหาเด็กเอง จะมีใครคิดจะบอกกรูไหม?

อย่าโกรธ!!

คิดถึงตอนที่ดึงนายออกมาจากบ้านพ่อมัน
ถ้ากุไม่เสือกถามหลานเองว่าแม่อยู่ไหนทำไมไม่มา
กุจะรู้ไหมว่ามันทิ้งลูกให้อยู่เพียงลำพัง
โอ๊ยยย อย่าโกรธ!!

ยาก ผ่านมาสองวันแล้ว ยังงมเข็มอยู่เช่นเดิม
พาไปซื้อของ เขาดูดีใจจนทำตัวไม่ถูก
ทุกอย่างในชีวิตยังไม่เคยมีอะไรเป็นของตัวเองจริง ๆ
ทุกอย่างได้รับการถ่ายทอดตกทอดมาทั้งหมด
ในวันที่เขาได้สิ่งของเป็นของตัวเอง
มีคำหนึ่งที่หลุดเป็นคำพูดออกมา
"มีเยอะเดี๋ยวน้องก็แย่ง"!!!!

อืมมม นังน้องนี่ตัวแสบและร้ายกาจ เดี๋ยวให้นังยายจัดการเด็กชายให้เรียบร้อยเสียก่อนเถิด นังน้องเมิงเจอนังยายแน่

ถามเด็กชายว่า บังรู้ไหม? ว่าทำไมป้าถึงเอาหนูมาอยู่ด้วย??
พยายามอธิบายให้ฟังว่าต่อไปเขาจะต้องทำอะไร ๆ ๆ ในระยะสิบปีข้างหน้า เด็กชายดูพอเข้าใจ
แต่เมื่อบอกว่า ต่อไปหนูต้องดูแล ปกป้อง พี่น้องและแม่นะ
ในแววตาเขาดูมีกังวล สีหน้าดูไม่มั่นใจตัวเอง
ยายถามว่า หนูรู้ไหม? ครอบครัวหนูมีใครบ้าง?

ตรงนี้เด็ดเลย เด็กชายตอบไม่ได้ว่าครอบครัวตัวเองมีใครบ้าง
หลาย ๆ คนที่บอกออกมา ไม่ใช่คนในครอบครัวตัวเองสักคน
เขาจำแต่คนที่มีหน้าตา มีสิทธิ์ มีเสียงในชีวิต
แต่คนในครอบครัวตัวเอง ไม่มีความสำคัญในชีวิตเขา
ถึงว่า นั่นเอง เด็กชายถึงอยากตะเกียกตะกายกลับไปหาพ่อ
และโหยหาพ่อมากยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง

ไม่รู้เหมือนกันนะว่า ก่อนหน้าที่ไปรับข้อมูลอะไรมา
พี่ไม่รู้ว่า สิ่งที่ฝังอยู่ในหัวของเขาคืออะไร
ถ้าจะมีบางอย่างที่พอจะรู้บ้าง
น่าจะเป็นการเลียนแบบในพฤติกรรมกดขี่ทางเพศ
ทั้งปู่และพ่อ ดูจะมีอภิสิทธิ์เหนือทุกคนในครอบครัว
เขาเป็นผู้ชายคนเดียวของบ้าน มีลักษณะเหมือนปู่และเหมือนพ่อมาก แต่ขอโทษ นั่นมันอดีต
ตอนนี้เหรอ? ถ้าเป็นอย่างนี้กุแทบจะแดรกกบาลเมิงเลย
เลิกจำและจงเลิกคิดว่า จะมีอะไรเหนือสิทธิสตรีเพศ

เป็นคนผู้ชาย เมิงมีหน้าที่ต้องเดินอยู่ข้างหน้าคนในปกครอง ใช่!!
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า งอมืองอตรีนทำสร้นตรีนหมาอะไรไม่เป็นสักอย่างแล้วตะบี้ตะบันตะแบงจะออกไปเดินนำหน้าอย่างโง่ ๆ
มันบัดซบชีวิตเกินไปไหมเมิง ความอดทนกุมี แต่ไม่ใช่กับเรื่องที่ไม่สมควรจะต้องทน

อย่าใจร้อนนะยาย ค่อย ๆ หาสาเหตุไป
พี่เชื่อว่าไม่นานหรอก เดี๋ยวยายก็จะได้รู้

มาอยู่ด้วยกันสองคืนแล้ว พี่ยังไม่ได้เห็นรอยยิ้ม หรือเสียงหัวเราะเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพี่เอง คือกุไม่รู้จะจูนยังไงให้สื่อสารกันรู้เรื่อง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ต้องบอกเสมอว่า ให้ทำอะไรและต้องทำอะไร พี่ไม่ได้ว่างนั่งเลี้ยงเด็กอย่างเดียว
คือนี่กุก็ยุ่งวุ่นวายตลอดเวลาเหมือนเดิม แค่อดทนไม่ตวาดเขานี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ถ้าเป็นนาย ป่านนี้โดนไปหลายป้าบแล้ว

เอาว่ะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไปนัก
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ได้ไฮเปอร์จนแก้ไขไม่ได้
เขายังขัดเกลาได้ ถ้าให้ประเมิณในตอนนี้
พี่คิดว่าเด็กชายแค่ขาดการอบรมสั่งสอนที่ถูกต้อง
ขาดการพัฒนาทุกด้าน พอเอามารวมกับสมาธิสั้นเลยดูแย่มาก
จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

แค่ถูกยัดเยียดเทคโนโลยีเร็วเกินไป น่าจะยังถอนตัวทันมั้ง
อันนี้กุปลอบใจตัวเองนิดนึง

ณ จุด ๆ นี้เอาแค่นี้ก่อนสำหรับเด็กชาย
เจอกันอีกที พี่จะพาเดินทางใกล้ ๆ
เมื่อได้เดินทางแล้ว คงพอจะเห็นอะไรต่อมิอะไรเพิ่มมากขึ้นได้

มีความน่ารัก มีความเบาใจ
ที่ทำอะไรต่อมิอะไรได้เอง
มีความอึดและถึกทนเหมือนแม่มันไม่มีผิด
พี่มีเวลาเหลือไม่ถึงสองปี สำหรับเด็กคนนี้
เริ่มต้นเสียบัดนี้ ทันและไหวแน่นอน

.................................

วันนี้ไม่ได้ดีมาก และไม่ได้แย่นัก
แต่จะพยายามสรรหาอะไรทำให้ชาวบ้านเบิกบานกว่า
ที่ผ่านมาแล้ว
การเสือกเรื่องชาวบ้านยังคงเป็นงานของเราเช่นเดิม
เพิ่มเติมคือความเบิกบานของชาวบ้านก็เป็นงานของเราเช่นกัน







โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 1 มกราคม 2560 เวลา:2:23:53 น.  

 
คิดถึง "พ่อ" ทุกวัน
ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตแค่ไหนก็ยังคิดถึง ระลึกถึง

กำลังใจจวนจะหมด
เหนื่อยและเพลีย


เชอะ แต่อย่าคิดว่ากุจะยอมเมิง โน โน
แค่เพลียไม่ได้แปลว่า กุจะยอม

อยากทำสร้นตรีนหมาไรก็ทำไปเถอะ
อย่าได้คิดว่า กุจะสนใจ
โง่ขนาดนั้น บังอาจมีหน้าจะมาขึ้นหน้ากุ
เมิงมันละเมอเพ้อกันไปใหญ่
โอ๊ะ!!! นี่ไม่ได้ด่านะจ๊ะ อย่ามาโกรธกุ
โน โน ถ้าจะด่ามาตราฐานกุเจ็ดหน้ากระดาษ
กุยืนด่าเมิงได้ทั้งชาติแหละ
เกิดก่อน เกิดหลัง มันไม่สำคัญเว้ยยย
คนจะสำคัญหรือไม่สำคัญมันอยู่ที่
เมิงทำประโยชน์อะไรให้แผ่นดินบ้าง
ไม่ใช่อาศัยอยู่เฉย ๆ ไม่สร้างประโยชน์
แล้วมาสำคัญตัวผิดคิดว่าตัวเองนั้นสำคัญ
จะเรียกร้องหาสวรรค์วิมานอะไรของเมิ๊ง

นี่กุไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคือง
กุไม่ได้ด่านะ กุแค่ทำความเข้าใจเฉยๆ เอง
คนเราคิดจะอยู่ด้วยกัน มันต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน
ที่ผ่านมา กุไม่รู้นิ ว่ามีเมิงอยู่ เมิงจะมางอนทำเHี้ยไร
เมิงก็แค่สรรพสิ่ง ไม่ได้วิเศษสำคัญอะไรเลย
โน โน อย่าสะเหล่อ มาทางไหน ก็ควรจะกลับไปอยู่ที่เดิม
เพิ่มเติมคือ ควรปรับปรุงความรู้ให้มันเป็นปัจจุบันบ้าง
ไม่ใช่มัวแต่หลงยืดอยู่กับอดีต
มันผ่านมากี่ยุค กี่สมัยแล้ว
จะมัวมายืดติดอะไรอยู่นักหนา

เป็นไรมากไม่เนี่ย
กุไม่อินกับเมิงหรอก โน!!!!

.........................................
นังยาย
กุอนุญาตให้เมิงคุยกับมันแค่วันนี้เท่านั้นนะ
หลังจากนี้ จะไม่มีการเจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น

ถ้าเมิงจะอยู่กับกุ
กุจะเป็นคนวางกติกาทุก ๆ อย่างเอง
อยู่กับกุ ต้องช่วยกุทำงาน
ไม่มีทางเลือก!!!

กุทำงานเสร็จแล้ว จะวินวิน
วินตามความหมายนี้คือ
คุณจะสงบสุขในที่ที่เคยอยู่อย่างสงบสุข
เราจะไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
เราจะปกป้องคุณตามอำนาจและสิทธิ์ที่เราถือครองอยู่เท่านั้น
นอกเหนือจากนั้น เราจะไม่กระทบสิทธิ์ใครด้วย
เราบอกคุณแล้วไง ให้ปรับปรุงข้อมูลความรู้บ้าง
ยุคสมัยมันเปลี่ยน อำนาจก็เปลี่ยน สิทธิต่าง ๆ เปลี่ยนใหม่หมด

คุณมันถูกเทคโอเวอร์ไปตั้งนานแล้ว
จะมาเพ้อเจ้ออะไรอีก

กุไม่ได้จะต่อรองนะ
แล้วกุก็ไม่เจรจาด้วย
นี่เป็นทางออกสุดท้ายของเมิง
และมีตัวเลือกเดียว

ถ้าไม่พอใจ จะฆ่ากุให้ตาย
กุทำไปเลย กุตายรึก็ดี
ภาระจะได้หมด จบ ไม่ต้องทำ
...ส บ า ย ใ จ...


.......................................

เราเตือนพวกคุณแล้ว
อย่าริบังอาจทำให้กุไม่สบายใจ
ถ้าเมื่อไร พวกเมิง เมิง และเมิงทั้งหลาย
ทำให้กุรำคาญใจ
นอกจากกุจะไม่ช่วยใครแล้ว
กุก็แค่ปล่อย.

แค่นั้น

.........................................

ปล่อยจริง ๆ ไม่ได้ขู่นะ โน โน
อย่ามโน ว่ากุจะล้อเล่น

ลงทุนแลกทุกอย่างขนาดนี้
ถ้ายังงี่เง่าไม่ร่วมมือกับกุ
กุปล่อย.






โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 4 มกราคม 2560 เวลา:9:27:07 น.  

 
#วันที่๑๑๔ ก้าวข้ามผ่านคืนวันอันโหดร้ายและร้ายกาจ

ความรู้สึกมันอัดแน่นไปด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมายจนไม่อยากจะจำไว้เลย
และพี่จะไม่จำแล้วจะไม่บอกให้ใครรับรู้ จะมีเพียงคนไม่กี่คนที่จะเข้าใจ
แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกได้ดีทั้งหมด ต้องเอาทุกคนมารวมกัน
ถึงจะรู้เรื่องได้กระจ่างชัด

ไม่อยากให้มีใครเลยต้องมาแบกรับอะไรอย่างที่เป็นอยู่
เพิ่งจะเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่า การไม่รู้อะไรเสียเลยมันช่างดีกว่าเป็นไหน ๆ ถ้าจะมีใครไม่เข้าใจก็ช่างมันเถอะ ดีแล้ว ดีอยู่แล้ว

รอดตายมาได้นี่ก็บุญคุณถมที่ไปแล้ว

มีหลาายอย่างสำเร็จ
มีหลายอย่างยังต้องใช้พยายามอยู่
และมีอีกหลาย ๆ อย่างที่ล้มเหลวไปแล้ว

พวกมันสลับหมุนเปลี่ยนกันมาทักทายวันละสามเวลา
ไม่ใช่ว่า วัน ๆ หนึ่งมันจะผลัดคิวกันมาเสียเมื่อไร
ต้องรู้ทันมันอย่างมาก วันไหนเงียบ ๆ อย่าหลงดีใจ
ต้องหมั่นทำตัวให้ยุ่งเหยิงวุ่นวายเข้าใจ
พอมันคิดว่าเป็นพวกเดียวกันจะได้ไม่ส่งอะไรเข้ามาบ่อนทำลาย

ฮ่ะ ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เอาสิ เมิงเข้ามาเลย คิดว่าแน่ก็เข้ามา
อย่างดีกุแค่ตาย อิฉิกไห สันดานหมา

ตายก็ดี อยู่ก็ได้
ไม่ได้อยากได้อะไรนักหนา
เมิงอยากทำไร ก็ทำไปเถอะ
แต่เมิงทำไรกุไม่ได้หรอก
สันดานหยาบถ่อยอย่างนั้น
มีรึกุจะเอามาใส่ใจ
เรียกร้องไปเถอะ

เรื่องของเมิงสิ

กุจะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จมันก็เรื่องของกุป่ะวะ

ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร

ไม่ได้คาดหวังอยากจะได้อะไรอยู่แล้ว

โลกเน่าๆ แบบนี้ก็อยู่ได้
อยู่ได้ตั้งนานมาแล้ว
ทนอยู่ต่อไป จะเป็นอะไร

ช่างมันสิ

อย่ามาคิดว่ากุจะทำอะไรให้อีกนะ

ไม่ได้ตัดพ้อนะ

จริง ๆ ไม่ได้อยากบอกว่า ให้รอไปก่อน
รอไม่ไหวก็ตัวใครตัวมัน

กบอกเมิงแล้วไง อย่ามาทำให้กุไม่สบายใจ หรือรำคาญใจ
แค่จะตัด ง่ายนิดเดียว
แค่ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
ชิ ถึงจะไม่ใช่สันดาน
แต่อย่าสะเหล่อคิดว่า กุจะทำไม่ได้

กุทิ้งได้หมดแหละ
สำเหนียกไว้ด้วยสิ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 มกราคม 2560 เวลา:10:28:07 น.  

 
#วันที่๑๑๕ ตั้งใจให้ดี จะได้เป็นไทแก่ใจ

รู้ว่าเหนื่อย แต่อย่าได้หวังว่ามันจะมีความเหนื่อยที่น้อยลง
ตั้งใจให้ดี อย่ายอมพลาดอีกเป็นอันขาด
เทมาหมดหน้าตักแล้ว
พลาดอีกคราวนี้ มันคงหวังลมหายใจกุแน่

อะไรที่มันคอยจะดึงความสนใจให้ออกห่างสิ่งที่กำลังทำอยู่
ทิ้งมันให้หมด
ตัวเองยังทิ้งได้
อย่าได้คิดว่า จะมีอะไรที่กุทิ้งไม่ได้

อย่าบ่นเยอะยาย เสียเวลา ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล
ฟ้าสางจะเก็บหมดหรือเปล่า

ไม่ทันก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องเครียดเกินไป
แต่กุจะเอาให้ครบ.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 10 มกราคม 2560 เวลา:0:26:20 น.  

 
#รักษาใจไว้อย่าให้หล่น
สิ่งใดหรือใครก็ตาม ที่มันจะทำให้เราไขว้เขว
ตัดมันออกไปซะยาย ไม่ต้องอยากรู้ตอนนี้ก็ได้
ยายต้องวางให้ได้นะ ยายจะปล่อยใจมันตามอยากอยู่อย่างนั้นไม่ได้
พอไม่ได้อย่างใจมัน มันก็งี่เง่า ทำให้เราเหนื่อยเพลียอ่อนแรง
กี่ครั้งแล้วนะยาย
มันงี่เง่า มันมักง่าย มันเอาแต่ใจตัวเอง
มันต้องการอะไรของมันนักหนา
มันจะอยากรู้อะไรนัก
รู้แล้วก็แบบนี้ทุกที
พอเมิงรู้นะ เมิงก็มานั่งทะเลาะกะกุแบบนี้ตลอด

ก่อนจะอยากรู้อะไร ถามกุมั่ง
ถามกุหน่อยว่ากุอยากรู้ด้วยไหม?

สุดท้ายก็ต้องมานั่งจัดการกับใจตัวเอง
ไอ้สิ่งที่ไปแสวงหามาเพื่อให้ได้รู้ มันมีประโยชน์อะไร
เมิงไม่ได้อยากได้ข้อมูลเชิงอย่างนั้นมานานนักหนาแล้วนี่

นังนี่นี่มาเพื่อจะทำให้กุไขว้เขวและทำงานได้ช้าแท้ ๆ เลย

...............................

วันนี้ส่งของไปศรีสะเกษ ค่าส่งแพงมาก แต่ก็ไม่เกินที่คิดไว้
ตอนแรกอินี่คิดเลย แม่มทะแพงกว่าค่าของที่ส่งไปป่ะฟร่ะ
ดีนะ กุซื้อของไว้หลายพัน ค่าส่งเลยถูกกว่า


ถ้ากุซื้อของไปพันเดียวนี่กุนั่งเช็ดน้ำตาเลย


ของแม่ฮ่องสอนนี่ขอไปอย่างช้า ๆ เลย
พื้นที่ห่างไกลเข้าถึงยากเช่นนั้น
ส่งไปทั้งที ต้องให้ได้ประโยชน์สูงสุด
จะส่งอะไรทีนี่คิดนานเลย
ถ้าค่าส่งจะแพงขนาดนั้น แบกน้ำหนักไปเองกับเพื่อน ๆ ดูจะคุ้มค่ากว่านะ อยากไปแต่เวลายังไม่เอื้ออำนวย

เมื่อวานช่างมัน วันนี้เริ่มต้นเอาใหม่ ทำให้ดี ทำให้ได้
เขารอเราอยู่ ทำเสร็จแล้วจะได้กลับไปฟื้นฟูสภาพจิตใจป๊ะ
หยุดขายฝันไม่ได้เลย นอกจากจะต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจป๊ะแล้ว
ก็ต้องคอยประคองใจมะไม่ให้ตกหล่นตาม ๆ กันไป
อยากจะถามมะว่า อดทนอยู่ด้วยกันมาตั้งนานได้
แค่บั้นปลายชีวิตทำไมไม่คิดจะอดทนต่อไป
จะแสดงออกให้การงานที่ทำมาทั้งหมดเสียหายทำไม

มีอารมณ์มันมีกันทุกคนแหละ
แต่อารมณ์โกรธฉุนเฉียวมันเป็นของมารร้าย
ไม่เก็บมาใส่ใจจะดีกว่าไหมล่ะ?

ซื้อวอคเกอร์แบบพับได้ให้ ดีใจใหญ่บอกให้ซื้อให้ตั้งนานแล้ว
แต่ก็ไม่ได้สนใจไปแสวงหา
มีความหวงของ มีความเห่อของด้วยนะ

พี่ก็ชอบนะ ดีต่อใจไปอีก
ยามที่เอาของที่เขาต้องการไปให้ และแม่เขารอมานาน
เขาจะอวยพรให้ทุกครังว่า "ขอพระเจ้าประทานสิ่งที่ดีกว่า ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป"
ตั้งแต่เกิดมาเป็นแม่เป็นลูกกัน ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยได้คุยกันหรอก
เราคิดกันคนละทาง สวนทางกันตลอด
หลายอย่างที่เขาคิด ที่เขาทำ เราต้องบอกกับตัวเองว่า
เขาถูกปลูกฝังมาแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดในเวลานั้นแล้ว
และตลอดมาก็บอกตัวเองด้วยว่า
กุจะต้องแหกกฎแหกกรอบนี้ให้สำเร็จ
เรื่องแบบนี้จะไม่ตกทอดไปสู่ลูกหลานเด็ดขาด

รู้สึกผิดนะ เพราะบางอย่างมันก็มีมุมมองที่เป็นแง่งามในตัวของมัน
เราจะไปยกเลิกจารีตทั้งหมดที่มีมาแต่เดิมไม่ได้
บางอย่างมันเป็นกุศโลบายอันแยบยล ซึ่งเราเองก็ควรจะรักษาไว้ด้วยซ้ำ

คิดเหรอ? ว่าป๊ะออกจากรพ.แล้ว ชีวิตจะง่ายขึ้น
มันไม่เคยมีอะไรง่ายขึ้นสักอย่างเลย

ดีอย่างหนึ่งที่ได้พอหายใจหายคอ
ได้พอขยับตัวไปทำอะไรได้บ้าง
เกือบตกหล่นหลาย ๆ สิ่ง
ต้องกลับมาลิสต์ไปทีละอย่าง
ค่อย ๆ เก็บรายละเอียดของแต่ละคนไป

งานพี่ยุ่ง วอนอย่าด่าเยอะ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 11 มกราคม 2560 เวลา:17:19:06 น.  

 
#วันที่๑๑๗ ตั้งหน้าตั้งตาทำไปให้สมบูรณ์
สำเร็จเบ็ดเสร็จแล้วค่อยมาตัดสินใจ
ใครจะอยู่ ใครจะไป เราจะไปใช้ความคิดอย่างหนักในตอนนั้น
ณ เวลานี้ ไม่ต้องคิด..เข้าใจตรงกันนะ นังยาย.

ชักจะเริ่มเกลียดตัวเองมากขึ้นๆๆๆๆๆ เรื่อย ๆ แล้วสิ
วันนี้นอนทั้งวันเหมือนเคย
หลับใหลไม่รู้สึกตัว
จะสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่กินข้าวห้องนั้นทีไร ก็จักอ่อนแรง
ปฏิบัติภารกิจไม่ครบถ้วนทุกทีเชียว
นอกจากทำไม่ได้แล้วยังอ่อนเพลีย อ่อนแรง
ลองมากี่ทีก็เป็นแบบนี้ทุกที

เอาใหม่ ไปทำธุระก่อนนะ
พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน เนอะยายเนอะ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 13 มกราคม 2560 เวลา:19:37:10 น.  

 
#วันที่๑๑๘ อดทนไว้นะยาย

มีภาระต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างกองอยู่
ทั้งเบื้องหน้าและด้านหลัง

เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้
ที่ทำได้คือ จัดการมันให้หมดเสียทุกอย่าง
อะไรต่อมิอะไรจะต้องเข้าที่เข้าทาง

ที่ที่ไม่ใช่ที่ของตัวเอง
เมิงก็รีบ ๆ ไปซะเถอะ
จะมามัวต่อสู้กันหาพระแสงอะไร เหนื่อยกายใจกันเปล่า ๆ
อย่างมาก กุก็แค่ตาย กุทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร
ใครจะตาย ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้อยากได้ ไม่ได้อยากมี
เมิงจะเป็นสร้นตรีนหมาอะไรก็เรื่องของเมิงเหอะ

แรงมีแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น
อะไรที่มันเกินกำลัง ก็อย่าเอามาเป็นภาระเลย

ไม่เห็นมีอะไรยากนี่

เมิงมันบ้าและโง่เกินไปแล้ว ที่มาบีบคั้นคนอย่างกุ
กุไม่กลัวเมิง มีไรม่ะ


เสียใจเหรอ? ตายไปเลยสิ

............................
อยากอยู่ก็อยู่นะ อยู่ด้วยกัน
ช่วยกันทำบุญสร้างกุศล
อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันทำงาน ทำมาหากิน
เห็นไหมว่า มีเรื่องต้องทำอีกเยอะ
อย่างอมืองอตรีน
อย่าหวังว่ากุจะหยิบเมิงขึ้นหิ้ง

เมิงมีค่าก็แค่ทาสรับใช้ความอยากของกุนิ
ไม่ใช่จะมาเป็นเจ้านาย จะเอานี่ จะเอานั่น
เป็นทาสรับใช้เพื่อจะสร้างประโยชน์ให้คนอื่น ๆ ต่อ ๆ ไปอีกที
สำเหนียกไว้สิ

อย่าสะเหล่อ คิดบังอาจใช้ให้กุทำนี่ทำนั่น

โน โน ไม่จ้ะ
กุจะทำแต่เฉพาะหน้าที่เห็นว่าเขาเดือดร้อนจริงๆ เท่านั้น

ผ่านมาหลายวัน ยินดีด้วยนะ กับความชนะอย่าหน้าด้านหน้าทนของเมิง
ดีใจไหมล่ะ ก็แค่นั้นแหละ

หมดเวลาของเมิงแระ

ออกไปซะ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 14 มกราคม 2560 เวลา:11:49:51 น.  

 
เมื่อวานได้การ์ดอวยพรวันปีใหม่จากคุณหญิงแม้นวาดยายบ้านไกล
และวันนี้ก็ได้ที่ระลึกจากไปรษณีย์ไทย
มันดีต่อใจนะทั้ง ๆ ที่ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่กำเนิดมาจากความโศกเศร้าอาลัยอาวรณ์

บอกไม่ถูกว่าต้องใช้ความรู้สึกอะไร
เมื่อคืนไปสรรหาซื้อขอให้เด็ก ๆ บนดอย ที่เคยไปออกค่ายอาสา
คิดถึงเด็ก ๆ คิดถึงอาหารที่พวกเขาทำให้กิน
ช่างไม่อร่อยและช่างกินไม่ได้เอาเสียเลย
แต่นั่นก็เป็นอาหารที่ดีที่สุดที่พวกเขามีแล้ว
พอได้กิน ได้ชิมแล้วมันโคตรสะท้อนใจ
แทบจะกินอะไรไม่ลง ในคำที่เรามักจะพูดว่า "ไม่อร่อยเลย"
แต่มันก็ยังดีกว่าสิ่งที่พวกเขามีและดีที่สุดที่ทำมาเลี้ยงเราวันนั้นแล้ว

แค่คิดว่าจะทำ มันก็อิ่ม พอยิ่งกำลังทำยิ่งทำให้เบิกบานอิ่มเอม
เรียกเด็กสองคนลงมาช่วย แม่บ้านอีกสองคนก็อาสาตามมาช่วยด้วย
เลยทำให้งานที่คิดว่าจะหนักหนาใช้เวลามาก กลับจบลงอย่างรวดเร็ว รอเขาเปิดทำการปณ.เมื่อไร ก็จะขนไปส่ง
ค่าส่งคงแพงอีกเหมือนเดิม แต่ก็ต้องยอม พี่กลัวจะส่งไปไม่ถึงมากกว่าเสียค่าขนส่งแพงนะ เข้าใจ เพราะมันไกลและเข้าถึงยากจริง ๆ

เช้าวันนี้ตื่นสาย เมื่อคืนแพ้ตัวเอง นอนปวดท้อง
ช่องท้องน่าจะมีปัญหา หรือเมื่อวันก่อนยกของหนัก กับฝึกท่ายากมากเกินไป ฝืนทำจนเจ็บตัว

ตื่นลงมา เปิดโทรศัพท์เช็คข่าว ยังไม่ทันไล่ดูอะไรเลย
เจอคลิปเหตุการณ์จริง แต่เช้า ..

จะหลบไปตรงไหนให้ทัน
แต่ตั้งแต่วินาทีนั้น ทั้งฟีตก็มีแต่เรื่องนี้

จะมีสักวันไหม?
ที่ชีวิตจะได้เจอแต่เรื่องดีดี ไม่ได้มีเรื่องราวที่น่าเสียใจมาแอบแฝง

บางทีการต้องแบกรับอะไรมาก ๆ มันก็ทนต่อแรงกระแทกไม่ไหวหรอกนะ

ดูอะไรแล้วไม่มีความสุข ก็อย่าไปดู
ทำอะไรแล้วไม่มีความสุข ก็อย่าไปทำ
อยู่ที่ไหนแล้วไม่มีความสุข ก็อย่าไปอยู่
คิดอะไรแล้วไม่มีความสุข ก็อย่าไปคิด

ขอบคุณมันเสีย เรื่องที่เข้ามากระทบใจทุกเรื่อง
ขอบใจนะ ขอบใจแต่หยุดไว้ตรงนั้นแหละ
หยุดก่อร้างสร้างความผูกพันกับใครอีก
เท่าที่มีอยู่ก็มากเสียจนสะสางไม่จบไม่สิ้นแล้ว

มีใจก็ใช้ได้แต่เฉพาะในที่ในทางที่ควรจะใช้
บางทีก็อยากสั่งตัวเองว่า
เมิงเลิกนอกกรอบนอกคอกเสียที กุเหนื่อย
ไม่ไหวจิเคลียร์ ขอให้ภารกิจเดือนหน้าเป็นงานสุดท้ายที่จะทำ

ต่อ ๆ ไป คิดจะทำอะไร อย่าเอาใจเป็นที่ตั้ง
อย่าให้ความสำคัญกับความรู้สึก
เป็นแบบนี้บ่อย ๆ บรรลัยอย่างเดียว

....................................

ใจน่ะมี และยายก็ควรจะวางมันไว้ในที่สมควรจะอยู่
นะยายนะ ร้อยสิบแปดแล้ว

เมื่อท่านจากไป แท้จริงเราก็ต้องตามจากไปด้วยเช่นกัน

ตราบเท่าที่เรายังคงหายใจอยู่
จะทำสิ่งใดเพื่ออะไรยังคงเป็นสิทธิ์ของเราเสมอ.

ไม่มีอะไรจะขอแล้ว
อยากได้อะไรก็เอาคืนไปเถอะ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 14 มกราคม 2560 เวลา:17:27:26 น.  

 
#วันที่๑๑๙ จะต้องวางใจของตนเองไว้ตรงไหนจึงจะคุมใจของทุกคนให้อยู่หมัด

ดูจะสิ้นสติกันหมดแล้วทุก ๆ คน
หัวใครหัวมัน ใจใครใจมันป่ะวะ

คิดอะไรกันเองไม่เป็น คุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
กว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ
ทำไมเรื่องไม่น่าจะยากอะไร กลับผ่านมันไปไม่ได้ ไม่เข้าใจ
ที่ผ่านมาคืออะไร
ความอดทนที่บอกว่าใช้มาทั้งหมดคืออะไร
มันไม่มีอะไรทำให้ดีขึ้นมาบ้างเลยเหรอ?


จากที่ไม่อยากโกรธ ไม่อยากอารมณ์ร้าย
ไม่อยากด่ากระจาย
จนตอนนี้ไม่แน่ใจแล้วว่า จะคุมตัวเองได้นานแค่ไหน

เวลากุโกรธ กุไม่ได้เป็นแม่พระนะ

คนทุกคน มีอารมณ์เหมือนกัน
แต่ไม่ได้หมายความว่า
คนทุกคนจะโกรธคน ๆ หนึ่งได้เหมือนกัน
เคยสอนคนอื่น ว่าไม่ให้ทำ ไม่ให้โกรธ
แล้วทำไม ตอนนี้ทำไม่ได้อย่างที่เคยสอนสั่งคนอื่นไว้????

อย่าให้พี่หลุดนะ
กุหลุดตะคอกออกไปเพราะเก็บกลั้นไม่ไหวนี่
กุไม่รับประกันว่าใครจะเสียใจบ้าง

ที่สุดแล้ว บอกว่าจะงดเดินทาง
ถ้ามันอัดอั้นจนเกินไป
ถ้าเมื่อไรกุต้องก้าวเท้าออกไปสักก้าว
กุจะไม่กลับมาอีกเลย

ต้องมีพลังสักแค่ไหน ถึงจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อย
ทันเวลา

กุไม่ได้เหนื่อย ไม่ได้เพลีย
ก็แค่สับสน

อย่ามาบีบบังคับ คาดคั้นใจกุมากนัก
ความน่าสงสารทำอะไรกุไม่ได้
สำเหนียกไว้


........................

พลังกุล่ะ ..จะเอามาจากไหนมากมายเพียงพอจะจัดการทุกเรื่องให้เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ

ตอนนี้ไม่รู้ว่ะ อิยาย
กุไม่รู้แม้แต่กุจะต้องทำอะไรก่อน แล้วต่อไปต้องทำอะไร

แต่ช่างมันเถอะ ช่างมัน
แค่ที่มีอยู่ แค่ที่เป็นอยู่บริวารก็มากมาย
พอจะทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกตั้งหลาย ๆ อย่าง
เอาตัวเองให้รอดก่อน
จัดการกับความคิดให้ได้โดยด่วนที่สุด

ห้ามป่วย
ห้ามเพลีย
ทำงานวน ๆ ไป

เฉพาะเรื่องที่มีอยู่ในมือตอนนี้ก็มากมายล้นบ่าแล้ว

อย่าไปคิดหาเรื่องมาเพิ่มเติม

อย่าไปคาดหวังในชีวิตของใครต่อใคร
ชีวิตใคร ชีวิตมัน
เกิดมาคนเดียว ตายคนเดียว
จำไว้

ถ้าตัดสงสารไม่ได้ ยายจะทำงานใหญ่ไม่สำเร็จ

ขอร้องนะยาย ..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ห้ามใช้ความโกรธกับบุพการี
พี่ขออย่างเดียวเท่านี้เอง

ไม่ได้ยากเลยใช่ป่ะ

...................................
ถ้านังสังขารมันอ้อนอยากป่วย อยากเหนื่อย อยากเพลีย
ก็ปล่อยให้มันตายห่านไปเลย

อ่อนแอนัก ก็ไปตายซะ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 15 มกราคม 2560 เวลา:1:01:11 น.  

 
เมื่อวานนี้ ..ควรจะเป็นวันที่มีความสุขนะ

แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น
ป๊ะป่วยทางกาย อาการหนัก
แต่มะป่วยทางใจ อาการหนักหนาสาหัสมากกว่า

คนที่เก็บทุกอย่างตลอดมาเป็นเวลาห้าสิบกว่าปี
ภายนอกดูเป็นคนเข้มแข็ง ไม่รู้สึกอะไรกับใครเขาเลย
ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น ไม่เคยเห็นแม่มีอารณ์กับใคร

จะมีก็แน่นังยายนี่แหละ ที่กล้าทะเลาะกับแม่มากกว่าคนอื่น ๆ
แม่ด่าพี่หนักและด่าแรง แรงชนิดที่กุจำยันตาย

แม่พยายามทำเรื่องที่เชาคิดว่าถูกต้องและสมควรทำ
แต่แม่คงไม่รู้ว่า สิทธิของใครของมัน
พี่ยอมแม่ได้ทุกเรื่องนะ ยกเว้นเรืองของตัวเอง
ถ้าเป็นเรื่องที่กระทบเรา ชีวิตของเรา พี่ขอตัดสินใจเอง
ขอจัดการเอง ต่อให้มันเป็นเรื่องที่ดูไม่ดีในความคิดเขา
แต่ถ้าเป็นความต้องการของเราแล้ว บอกเลย ทางใครทางมัน

มีปัญหากันตลอด เพราะเราคิดไม่เหมือนกัน
แม่เป็นคนดีเป็นเด็กดีของพ่อของแม่
พ่อของแม่สั่งให้ทำอะไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้นต่อให้มันเป็นเรื่องที่ต้องขัดคำสั่งเพื่อสิ่งที่ดีกว่าของอนาคตตัวเอง แม่ก็ไม่ยอมขัดคำสั่ง คิดแต่ว่า พ่อตัวเองสั่งแล้วต้องทำ

ส่วนพี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น พ่อแม่สั่งไปเถอะ ถ้าพี่เห็นว่ามันไม่สมควร
ทำตาม กุก็ไม่ทำไง อยากสั่ง สั่งไปสิ สิทธิ์ของคุณที่จะออกคำสั่ง แต่เรื่องที่จะทำตามหรือไม่นั้น มันเป็นสิทธิ์ของฉัน จะทำหรือไม่ คนออกคำสั่งไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

กุโดนด่าประจำ จนเขาไม่คิดจะพูดอะไรกับพี่แล้ว

ถ้าพูดมากเดี๋ยวมันเชิดหน้าใส่ ไม่งั้นเดี๋ยวมันตะคอกให้อีก

กุเลว อันนี้กุรู้ รู้ตัวนิดนึง

มันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไรดี แต่จิตใจกุต้องดี
ใครจะมากระทบใจกุไม่ได้ กุไม่ยอม
ขนาดตัวเอง ยังไม่เคยเอาชนะมันได้เลย

สุดท้ายแล้ว มองไปรอบ ๆ บ้านตัวเอง
ทุก ๆ คนล้วนแต่มีความบอบช้ำทางใจด้วยกันทั้งนั้น
ถูกกระทำกันคนละนิด ละหน่อย สะสมเข้าจนที่สุด
กลายเป็นคนป่วยทางใจ

แล้วจะให้พี่เริ่มต้นลงมือสะสางที่ตรงไหน
ขนาดแม่ตัวเอง ทั้งที่เคยเข้าใจว่า
เป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดในสามโลกแล้วนะ
ยังเป็นแบบนี้ พี่เห็นน้ำตาป๊ะแล้วใจไม่ดีเลย

มันใช่เวลาจะมาดราม่าอะไรตอนนี้
เคยมีความคิดนะว่า ตัวเองทำอะไรผิดพลาดมาหลาย ๆ อย่าง
จนกระทั่งทุกวันนี้ยังรู้สึกผิดติดค้างในใจ
แต่พอมาเจอสถานการณ์อย่างเมื่อวานนี้

ตอนนี้บอกเลย กุโคตรภูมิใจในความเลวของตัวเองสิ้นดี

มันน่าภูมิใจมาก ถ้าย้อนเวลาได้
จะทำให้สะท้านไปทั้งวงการ
กุจะไม่ทำเรื่องเงียบ ๆ
จะเอาให้ดังไปสามโลก
เอาให้สะเทือนไปทุกสถาบันครอบครัว
ต่อให้จะต้องทำผิดกับใครมากมายก็ช่างมันเหอะ
อย่างน้อยที่สุด
กุก็รู้ตัวเองดีว่า เราทำไปเพื่อรักษาใจตัวเอง

จนกระทั่งเอาตัวรอดอยู่มาได้จนทุกวันนี้

...........................
ตัวพ่อก็ต้องรักษา ใจแม่ก็ต้องรีบเยียวยา

คนหนึ่งอยากให้เอาใจ อีกคนก็ไม่เข้าใจ
พยายามไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล

แรงแค้นแรงอาฆาตมันมีมากกว่าความเมตตาความปรารถนาดี

ใจเย็น ๆ นะยาย
ค่อย ๆ แก้ ค่อย ๆ รื้อไปทีละเรื่อง
ก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น มันเดินต่อไปด้วยกันไม่ได้หรอก

บอกแม่ว่า ฟังได้นะ อยากระบายอะไรออกมาพูดให้หมด
ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ เล่า แต่อนุญาตเล่าให้เรื่องละรอบเดียวเท่านั้น อย่าพูดเรื่องหนึ่งสิบรอบ จนจำได้หมดแล้ว
ชีวิตคนเรามันจะเลวร้ายหรือดีงามสักแค่ไหน
สุดท้ายแล้ว มันก็ผ่านไปแล้ว
จะไปย้อนคืนกลับให้เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีก

เราทำได้แต่ยอมรับมัน เข้าใจมัน และตั้งใจว่าต่อไปจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีก

อยากจะถามว่า เป็นไงล่ะ ต่อไปจะบังคับใครให้ทำอะไรอยู่อีกไหม

ถ้าพยายามไกล่เกลี่ยแล้วไม่เป็นผล
นังยายจะจับหย่ากันจริงจังให้ดุ
จะได้ไม่ต้องติดตามกันไปโลกหน้า
ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกัน
ก็เจอกันแค่โลกนี้ก็พอ

ใครจะว่ายังไงก็ช่างมันปะไร
คนเราอยู่ด้วยกันมันต้องมีความสุข
อย่ามาแกล้งทำเป็นอยู่ดี แกล้งมีความสุข
แค่จะจริงใจต่อหัวใจตัวเอง ยังทำไม่ได้เลย

จะรักษาหน้า รักษาครอบครัวไปเพื่ออะไร

พอขู่แม่ว่า ถ้าไม่เลิกแค้น ไม่เลิกโกรธ จะจับหย่านะ
เดี๋ยวดำเนินเรื่องให้ จับคนอื่นหย่ามาเยอะแล้ว
จับพ่อกับแม่หย่าสักครั้งจะเป็นไรไป

เงียบ คือ แม่กุเงียบและเงิบ

คงไม่คิด ว่า อิเด็กเปรตคนนี้มันจะคิดอ่านได้ถึงเพียงนี้
พี่ไม่ได้ขู่เล่น ๆ นะจ๊ะ
พูดจริง แล้วทำจริงด้วย

คือกลับบ้าน อยากเห็นรอยยิ้มของคนในบ้านและทุก ๆ คน
อยู่นอกบ้านมันวุ่นวายพอแล้ว

ไม่อยากได้ยินใครว่าใคร ใครบ่นใคร
และไม่ใช่ต้องมาเก็บกดทนในสิ่งที่ไม่สมควรทน
เพราะ พี่ไม่ได้เกิดมาเพื่ออดทน
กุมาเพื่อจะชน อะไรจะอ่อนแอช่าง
แต่บ้านพี่ต้องเข้มแข็ง

ถ้าบ้านไม่น่าอยู่ บ้านไม่เข้มแข็ง
ก็ทำให้มันแตกสาแหรกไปเลย
จะได้ให้รู้ ๆ กันไป
เวลาต้องก้าวเดินออกไปฝังตัวอยู่ที่อื่น
จะได้ไม่รู้สึกผิด.

ไม่ได้ขู่นะ เอาจริง.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 16 มกราคม 2560 เวลา:22:00:47 น.  

 
มีแต่เรื่องหนักใจ พี่ขอเรื่องดีต่อใจบ้างได้ไหมล่ะนังยาย

เมื่อวานนี้ เสร็จปาร์ตี้ที่บ้านแล้ว
พี่ก็นัดนังเด็กอ้วนไปหาพ่อ
ที่ที่ฝากใจไว้ที่นั่น

จะไปทำไมก็ไม่รู้ แต่ไปแล้วก็ได้กำลังใจกลับมาด้วยเสมอ
การบริหารจัดการเข้มงวดทุกขั้นตอน

ไม่ได้อยากจะไปทำอะไร ก็แค่อยากเก็บทุก ๆ อย่างไว้
ในความทรงจำ อยากมีภาพจำที่จับต้องได้
มันยังทำใจยาก
แค่คิดว่าจะบอกเล่าอะไรน้ำตามารีบแล่นมาแล้ว

จะครบร้อยวันอยู่แล้ว ยังทำใจไม่ได้ดีไปกว่าวันแรกเลย

รถแท็กซี่ขาไปจิตใจดี บริสุทธิ์บริการดี
แต่รถขากลับ จ้องจะเอาเปรียบ กุรู้นะ เมิงจะพากุอ้อม
ขณะที่เรานั่งหลับใน ขับรถบ้าไร ถามทางกุทุกแยก
ทั้ง ๆ ที่ทางมันเป็นทางตรง เมิงจะเลี้ยงไปไหนหนักหนาล่ะ
มีหน้ามาแถมตังค์ให้ตั้งสี่บาท
แบบนี้แหละ ที่คนบางคนเขาว่า แท็กซี่ขี้โกง
คือถ้าไม่รู้ทันว่าคิดไรอยุ่ก็เสร็จตั้งแต่แยกแรกแล้ว
พยายามชวนคุย เมิงไม่ต้องมาคุย กุหยิ่ง
พยายามจะเลี้ยว เลี้ยวพ่องเมิงกุบอกให้ตรงไปให้สุดถนน
เมิงไม่เข้าใจคำว่าสุดถนนหรือยังไง ขนาดสุดแล้วกุยังบอกให้ตรง
มันจะงงไรหนักหนา แค่ขับตรงไปเนี่ย เข้าใจยากนักเหรอ?

อิยาย นี่เรื่องดีแล้วอ่อ เออ กุขำมัน
ดีตรงที่มัน พยายามจะหลอกกุ แต่กุไม่หลงกลมัน

มันคงโกรธกุตั้งแต่ มันจะวนตั้งแต่ทีแรก แล้วแต่กุสั่งให้ไปทางนี้ๆๆๆๆ สาสสสส เลิกซะนะ นิสัยเHี้ย ๆ อย่างนี้
ถ้ารถติดอันนี้กุเข้าใจนะ แต่นี่ถนนว่างจนแข่งวิ่งควายได้
เสือกจะเลิกไปทางลัดทางอ้อม บลา ๆ ๆ ๆ
มีความพยายามจนน่าโมโห อินี่คิดเลย นี่ถ้าเป็นต่างชาติ
หรือต่างเมืองไม่รู้ทาง เมิงจะฟันค่ามิเตอร์ไปเท่าไรฟร่ะนี่

ถ้าได้เจออีก จะไม่ใจเย็นแล้วนะ
พฤติกรรมสั่งให้วิ่งตรงเสือกถามกุทุกแยก
ยิ่งโกรธมากก็ตอนที่ ไม่ได้สั่งให้เลี้ยว เมิงเลี้ยวซ้ายมาแล้วถาม ไปทางโน้นไหม?

เห็นกุหลับ บ้านกุอยู่มีน จะพากุไปนวมินทร์
เมิงคิดว่า ชื่อถนนพ้องเสียงนี่มันเป็นพี่น้องกันไปทางไหนก็ได้ ??

มันคงอึ้งที่กุตื่นมาแล้ว กุบอกได้ว่า ตรงนี้คือที่ไหน
55555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555

กุขอบใจ จะได้รู้ไว้ ทีหลังจะได้นั่งถ่างตาไว้
ต่อให้มากี่คนก็ตาม
พี่จะได้เลิกประมาท นั่งหลับบนรถที่ไว้ใจไม่ได้

จะได้รู้ไว้ที่หลังจะไม่กลับดึก
ถ้าต้องไปอีก จะได้ไม่ต้องกลับ

....................................

ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยที่สุดในยุทธจักร
แต่มันอร่อยจนผิดสังเกตไปป่ะ
ถ้าไปกินอีก จะต้องถามให้หายข้องใจว่า
น้ำซุปนั้นท่านได้อย่างไรมา
บางทีก็อยากจะบอกว่า "อยากรู้นะแต่ ไม่ อยาก ถาม "
555555555555555555555555555555555555555

ทำไมกุเป็นคนอย่างนี้
คือตอนนี้นะ อยากเป็นคนที่ทำก๋วยเตี๋ยวได้อร่อยมาก
สักวันเถอะ จะปรุงน้ำซุปแปดรส

ตอนเย็นมีสายโทรเข้ามา ถามหา แล้วแนะนำตัวว่าเขาคือใคร
คือตอนแรกคิดว่า เป็นพวกที่เราเคยส่งอะไรไปประกวดตรงนั้นตรงนี้ คุย ๆ ไป อ่อ มาจากไปรษณีย์
เป็นความรู้สึกที่ดีมากนะ สร้างขวัญและกำลังใจได้มากที่เดียว
อย่างน้อยเราก็ได้รับรู้ว่า วงการนี้ได้พยายามแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว
ถึงมันจะไม่ใช่ทุก ๆ ที่ แต่ก็ยังดีที่ยังมีบางคนคิดจะพยายามทำ

รู้สึกดีต่อใจมากมาย หลังจากที่มันแย่จนหมดความอยาก
แว๊บแรกที่ได้ฟังเขาพูดว่า นโยบายของเขาคือ
พยายามสร้างสำนึกที่ดีในการให้บริการ มันคิดถึงนกเงือกที่หายไปทันที พี่ไม่ได้คิดถึงอย่างอื่นเลย

อยากได้คืนไหม? กุอยากสิ ถึงมันจะไม่ได้มาอยู่ในมือเรา
มันก็ควรจะไปในที่ที่มันสมควรจะอยู่

แต่มันก็นานมาก จนคนเอาไปคงไม่คิดจะเอามาคืนแล้วแหละ
ช่างมัน คิดถึงไปก็เท่านั้น หมดใจจะสร้างเอาใหม่เสียเปล่า ๆ

อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้รู้ว่า คนที่เขามีหน้าที่แล้วมีสำนึกพยายามทำในสิ่งที่ดีกว่าให้เกิดขึ้นมานั้น มันยังพอหาได้และมีอยู่จริง ๆ
วันนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะติดต่อไปถามว่า
"ขอโทษนะคะ คุณชื่ออะไร?" เพื่อจะได้จำไว้ว่า คนแบบนี้
ชื่อนี้ ควรค่าแก่การจดจำ.

เรื่องของเขา เป็นเรื่องที่น่ารัก เสร็จแล้วเมื่อไร
จะเอามาเล่าให้ฟังแน่ ๆ เชียว
และพี่จะเล่าให้น่าประทับใจที่สุดทีเดียวแหละ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 16 มกราคม 2560 เวลา:22:50:03 น.  

 
#วันที่๑๑๙ครั้งที่๒ ไม่เป็นไร..
สถานการณ์ที่บ้านตอนนี้ดูไม่ดีเลย
แม่จากที่ไม่เคยพูดอะไรกลายมาเป็นคนแพล่มพูดไม่หยุด
พูดแต่เรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทุกวัน

ทุกคนเอาแต่ตัวเอง สนใจแต่ตัวเอง
เอาแต่ใจตัวเอง
เห็นแล้วอนาถใจ
บางทีก็คิดนะ นี่กุกำลังทำเพื่ออะไร
เตือนอะไรไม่ฟัง พูดอะไรไม่สนใจ
ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรื่องจริง มันคือความจริงที่จำเป็นต้องรู้

มัวแต่ไปสนใจฟังเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่ไม่จริง
เรื่องที่ทำให้ตื่นตูม ของจริงพูดไม่ฟัง
แถมมีการบอกว่า ไม่ต้องมาบอกไม่สนใจ

คืออะไรฟร่ะ ????

จะให้กุคิดยังไง จะให้กุทำตัวยังไง

อยากจะเล่นบทบาทไม่สนใจเลย ก็ได้นะ
อันนี้ถนัดอยู่แล้ว โคตรถนัดเลย
แล้วพี่ก็มั่นหน้ามากกว่า การไม่สนใจเลยไม่มีใครเล่นได้ดีเท่าพี่อีกแล้ว จะวัดกันดูก็ได้

ไม่ได้งอนนะ อยากได้แบบนี้ก็จะตามใจ
คนเราถ้าไม่พอใจจะอยุ่ด้วยกัน
จะมาบอกว่าอดทนไปเพื่ออะไร

ไร้สาระ หลาย ๆ เรื่องที่ทำให้พี่ไม่เข้าใจ และ ไม่พอใจ
บางทีแทบอยากจะก้าวเท้าออกไปให้พ้น ๆ ทาง
นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรก
หลายครังเป็นแบบนี้
เท่าที่จำได้ พี่ก็หนีออกจากบ้านแทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว

ไม่พอใจเมื่อไร พี่ก็คว้ากระเป๋าเดินออกจากบ้านตลอดเวลา
ยังไม่เคยมีสักที ที่จะพาใครหนีออกจากบ้าน

อย่าทำให้พี่โมโห ถ้ายังได้ยินอะไรที่ไม่สมควรได้ยิน
กุได้พาป๊ะหนีออกจากบ้านแน่ ๆ

แล้วเขาจะยอมไปกับเมิงไหมล่ะนังยาย

ไม่รู้ว่ะ
ป๊ะเคยบอกพี่ว่า "กุไม่ใช่คนบ้า ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ กุไม่ใช่คนที่จะบังคับใครให้อยู่"
คือเรื่องมันนานมาแล้ว เขาไม่มีความจำเป็นจะต้องรักษาหน้าตาเพื่อใครอีกแล้ว ทุกคนก็ตายกันไปหมดแล้ว
เขาจะมาบังคับใจให้อยู่ด้วยกันไปเพื่ออะไร

คิดเองนะ ว่าป๊ะจะเข้าใจ
ไม่อยากอยู่ ก็แยกกัน ห่างกันสักพัก
คนหนึ่งรักษากาย อีกคนจะได้รักษาใจ
ถ้าคิดถึงกัน อยากเจอกัน
ก็จะพาไปหา
มันไม่ใช่ยุคสงครามโลกครั้งที่๑ นะเว้ย
การเดินทางจะได้ลำบากขนาดเดินเท้าหลายวัน

ก็เอาสิ แค่นี้เอง ไม่เห็นจะยาก
อยากทำอะไร ก็ตามใจก็แล้วกัน
ตายไป จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน

การจะไปเคลียร์อะไรต่อมิอะไรหลาย ๆ อย่าง
มันก็ต้องเริ่มต้นที่บ้านป่ะวะ
เข้าบ้านแล้วหาความสุขไม่ได้
ก็ทำบ้านให้แตกสาแหรกไปเลย
กุจะได้รู้ว่า
บ้านหลังนี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้าไปเอากำลังใจอีกแล้ว

สบายใจดี เวลารู้ว่า อะไรมันพังไปแล้ว
ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเฝ้าคอย
ว่าเมื่อไรมันจะกลับมาดีได้ดังเดิม
ในเมื่อ อยู่กันแล้วหาความสุขไม่ได้

ก็ไม่ต้องไปอยู่

ถ้าคิดอยากจะอยู่ด้วยกัน
ก็ต้องมีเมตตาจิตที่ดีต่อกัน
มีความปรารถนาดีต่อกัน
อยู่ด้วยกันแล้วต้องสามัคคีกัน
อยู่กันได้ด้วยความสงบสุข

ไม่ใช่มาต่อต้านกัน
คะค้านกัน จะเอาชนะกัน
เอาแต่ใจตัวเอง ไม่พูดกันให้เข้าใจ

ไม่เข้าใจซึ่งกันและกันแล้วจะมาบอกว่า
อดทนกันมาเพื่ออะไรวะคะ
กุก็ไม่เข้าใจ
แล้วจะบอก มาสอนกุว่า ให้ใช้ความอดทนไปเพื่ออะไร
ก็ในเมื่อ ความอดทนบนพื้นฐานที่ไม่ถูกต้อง
มันไม่เคยมีผลดีกับใครเลย

มีอะไรที่มันไม่ถูกที่ ไม่ถูกทาง
มันก็ต้องแก้ไขป่ะวะ

เออ วุ้ย กุไม่เข้าใจ

เอาสิ อยากทำไรก็ทำ
อย่าให้กุอยากทำบ้างก็แล้วกัน

กุบอกเลย เล็กๆ ไม่
ถ้าถึงเวลากุจะเลือก กุจะตัดสินใจ
แม้นแผ่นดินที่จะกลบหน้า
กุก็จะไม่ขอใชแผ่นดินเดียวกัน
ถ้ามันยังหาความสงบสุขบนหน้าผืนแผ่นดินไม่ได้

ไม่เป็นไร นะยาย
ไม่เป็นไร

โกรธใครก็ได้
แต่อย่าใช้ความโกรธกับบุพการี.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 18 มกราคม 2560 เวลา:23:07:01 น.  

 
#วันที่๑๒๐ อดทนต่อไป
วันนี้เริ่มต้นวันไม่ดีเลย ..
เพลียใจแบบว่าเซ็งสุด ๆ
ทุกเรื่องมารวมอยู่จุด ๆ เดียว
บางทีมันก็อดคิดไม่ได้นะว่า
ทำไมต้องเป็นกุด้วยฟร่ะ??????????

เป็นบ้าอะไรกัน งอมืองอติง ทำไรกันไม่ได้แล้วรึยังไง
จะให้กุทำทุกเรื่องทุกอย่างภายในเวลาเดียวกัน
แล้วงอแงมันหมดทุกคน บ้ารึไง
เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว

พอย้อนเวลาดูอะไรต่อมิอะไร
มันชัดเจนจนพูดไม่ออกกับสิ่งที่เห็น
ปล่อยวางก็ไม่ได้ และช่างมันก็ไม่ได้
ให้กุทำไง ร้องแร๊พเลยไหม โอ้วเย่ วอทซัพ เฮ่ อะฮ๊ะๆ
หรือให้กุร้องเพลงฉ่อย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ให้กุทำอารายยยยย

เกาหัวแปดที ทำท่าจะขึ้นไปอาบน้ำ
เห็นแล้วเซ็งนอนแม่ม

นอนคิดเรื่องป๊ะ จะทำไงดีถึงจะพาแกมาอยู่ด้วยกันที่นี่ได้

คิดจนหมดเวลา พี่สาวโทรมาตาม บอกไปเจอกันที่รพ.
พี่ก็ลุกขึ้นอาบน้ำ พอไปถึงแล้ว ก็ขึ้นไปข้างบนเลย
ในเวลาที่มันสายแล้ว
ไปเจอป๊ะปุ๊บ ป๊ะก็บ่นปั๊บ บ่นอุบอิบน้อยใจลูกไม่รัก
ปล่อยให้รอ จนต้องเอ็ดว่าอย่าโมโหเดี๋ยวใจไม่ดี
เข้าไปกอดโอ๋ รีบเก็บของ
แล้วสั่งแกว่า "กลับไปบ้านอย่าไปบ่นพวกมันล่ะ"
แกก็เถียง ไม่ให้บ่นไรล่ะ แต่พี่ก็รู้แหละ ว่าแกเข้าใจ
พอพูดกันรู้เรื่องแกก็บอกคนรอบ ๆ ว่าผมคนอารมณ์ร้อน
คือตอนทำนี่ไม่คิดเลย ว่าคนอื่นจะรำคาญ

พากลับออกมา ขอให้พาไปฉีดยา ความดื้ออะนะ

ก็ตามใจ ชวนสองรอบแล้วนะ ณ จุด ๆ นั้น
ตอนจะกลับเข้าบ้าน ชวนอีก
"ไปอยู่ด้วยกันไหมสักเจ็ดวันพักฟื้น" ทีนี้ร้องโฮ้ยยเลย
อ้างต้องมาหาหมอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่อยากไป
ก็ได้นะ ไม่เซ้าซี้ อยากทำไรทำเล้ยย
พี่แกล้งแหย่ แล้วจะมาหาหมอกับใคร
ทีนี้ นั่งเช็ดน้ำตา เหมือนจะรู้ตัวว่า ถ้ามาเองไม่ได้
จะหาคนพามาไม่ค่อยได้

นั่งมาสักพัก มีเพ้อเรื่องคนที่รพ.ลือกันว่าเขาสลบไปสี่วันสี่คืน
ใคร ๆ ก็คิดว่าตายไปแล้ว ไม่รอดแล้ว
พี่นั่งเงียบ ไม่อยากเล่าให้แกได้ใจว่าตอนนั้นพี่ขอแลกลมหายใจของแกมาด้วยอะไร ได้แต่บอกตัวเองว่า สักวันเมื่อเขาหายดี
ค่อยบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง
พยายามให้ก้าวเดินแต่เพราะนอนมานาน ขาไร้แรงไร้กำลัง
น้ำหนักตัวมาก เดินไม่ไหวเลย

พ่อกายไม่ดี แม่ใจไม่ดี พอสองคนนี้รวมกัน
คนที่ต้องวางตัวเป็นกลาง พี่ก็ทำได้แต่สังเกตดู
อยากได้อะไร ก็ให้หมด ถึงรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์กับเขา
แต่ถ้าอยากได้ก็จะให้

ดูทุก ๆ คนจะรู้สึกตัวเรียกสติกลับมาได้บ้าง
หลานชายคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุขับรถชนคนข้ามถนน
กรามหัก ไหปลาร้าแตกหน้าเบี้ยวไปเลย
เด็กคนนั้นตาดำแตก อาการหนักทั้งคู่
มันจะมีดีบ้างก็ตรงที่ ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกตัวมากขึ้น
ว่าไม่ควรใช้ชีวิตโดยประมาท

เสพข่าวร้ายกันเป็นว่าเล่น ตั้งแต่เช้ามาไม่มีเรื่องดีเลย
บอกตัวเองว่า "ไม่เป็นไร"
ตอนแรกเหมือนอยากทิ้งบ้านไว้อย่างนั้น
แล้วกลับมาเคลียร์ที่ทำงานเลย
แต่ดูแล้วว่า ถ้าไม่อยู่นี่ บอกไม่ถูกว่าถ้าผ่านไปแล้ว
เราจะกลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้อีก

วันนี้ใครทำให้พี่ไม่พอใจกุแดรกกบาลหมดอ่ะ
กำลังสุมไฟได้ที่ทีเดียว

พอกลับบ้าน เพิ่งจะรู้ว่า พี่สาวออกจากบ้านไปรพ.
ตอนโทรหายังไม่ออก เหมือนจะออกไปช่วยกันขนของกลับบ้านนะ
แต่มันช้าไปแล้ว พี่นี่บอกเลย มีอารมณ์กรุ่น ๆ อยู่
แต่พยายามสะกดมันไว้ว่า มันผ่านไปแล้ว กุกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว

ถ้าพี่เปิด ป๊ะก็จะอารมณ์ขึ้นตาม
เพราะเราสั่งเขาไว้ไงว่า "กลับไปบ้านอย่าไปบ่นพวกมันนะ"
เขาฟังนะ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
บอกว่าไม่ให้บ่น ก็ไม่บ่น
จากที่ของทำท่าจะขึ้น พอเห็นป๊ะไม่ขึ้น
พี่ก็ลงได้เหมือนกัน

พาไปที่อื่นก่อนจะเข้าบ้าน ทางนี้ก็กระวนกระวาย ไปไหนกันนานสองนาน นี่ดีนะ ที่ป๊ะไม่ยอมตกลงไปด้วยกัน

ถ้าป๊ะตกลงไปอยู่ด้วยกันนะเมิง ไม่ต่ำกว่าสามวันอ่ะ กุถึงจะเอามาคืน
ไม่พูดก็ไม่พุด พี่ก็นิ่ง ป๊ะก็นิ่ง ทำตัวน่ารักนิดนึง
พอเขาทำตัวน่ารัก ก็มีแต่คนอยากเข้าใกล้
แม่จากที่เคยมึน ๆ ตึง ๆ ไม่สนใจ
พอป๊ะเรียกใช้ พี่แกล้งทำเป็นไม่รุ้เรื่อง นอนหลับตาอย่างนั้น
แกก็เข้ามาเอาใจได้ ไม่ยักจะตายนี่

แหม่ นึกว่าจะดีกันไม่ได้ นึกว่าจะบ่นไม่หยุด
วันนี้จะพาไปหย่าให้รู้แล้วรู้แรด

55555555555555555555555555555555555

..........................................
พอได้เห็นอะไรดีดี ใจจากที่ไม่มีดีเอาเสียเลย
มันก็สบายขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น
เริ่มเช็คดูอะไรต่อมิอะไร
จึงได้รู้ว่า ของที่จัดส่งไปให้เด็ก ๆ ถึงมือพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
คุณครูเขาส่งภาพอันดีต่อใจมาให้ดู

คำถามที่ทักทายไปถามหัวหน้าปณ.กันทรลักษ์
ก็ได้รับการตอบกลับ พร้อมกับส่งรูปภาพมาให้ดู
อยากมีเวลามากกว่านี้นะ วันนี้เอาไปแค่นี้
จากที่เริ่มต้นวันไม่ดีเลย พอเคลียร์ทุกอย่างได้ลงตัว
อะไร ๆ ดีดีมันก็เกิดขึ้น
บอกตรง ๆ ตอนเข้าไปเจอป๊ะแล้วป๊ะบ่นโวยวาย
มันรู้สึกโกรธมาก โกรธกุไมอ่ะ กุเพิ่งมาป่ะ กุไม่ได้นัดป่ะ
กุจะรู้ไหมว่าต้องมาเวลาไหน นี่ก็เร็วที่สุดแล้วสำหรับเรา
อายไหม? ความอายมันไม่มีหรอก รู้สึกดีใจที่เข้ามาเจอตอนเขาโมโหพอดี มิงั้นก็จะไม่เข้าใจคนอื่น ที่บอกว่าโดนบ่นนั้นโดนยังไง

เขาบ่น ก็ไม่ได้บ่นเรา คือบ่นคนอื่นให้เราฟัง
พี่ก็ทำได้แต่ห้ามให้รู้จักควบคุมตัวเอง
บอกว่าอย่าโมโห เดี๋ยวใจไม่ดี
พอเริ่มผ่อนคลายถึงกำชับอีกครั้งว่า กลับไปบ้านอย่าไปบ่นพวกมันนะ .. คิดเลย ถ้าพี่สาวมาเห็น หรือถ้าพี่ชายมาเจอนี่ คงเป็นเรื่องดราม่ากันอีก ระงับอะไรไม่ได้กันแล้ว

แม่ชอบฟ้องว่าเขาอย่างนั้น เขาอย่างนี้
แต่พี่ก็เข้าใจป๊ะว่า ทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น
แม่ก็มโน ส่วนป๊ะก็ใจร้อนเกินไป

จะปล่อยเลย ก็ยังไม่ได้
พวกนี้มันชอบให้พี่เหนื่อย
พอดูวุ่นวาย ๆ มันคงสะใจ
ได้ จะเอาแบบนั้นก็ได้
อยู่ที่ทำงานก็นั่งเงียบทำหน้าเป็นนางยักษ์
กลับบ้านแทนที่จะได้พักหน้าบ้าง
กุก็ต้องกลับไปทำหน้านิ่ง ๆ เป็นยักษ์ง่วงนอน

มีความชอบให้อินี่โมโห
นี่กุต้องหาที่พักหน้า
ต้องหาที่ปล่อยของอีกแล้วเหรอนี่
เป็นอย่างนี้นาน น้ำลายบูดแน่ ๆ เลย
ดีเหมือนกัน แผ่นดินของเราจะได้จบเพลงซะที
ทำท่ามาหลายเดือนแล้ว.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 20 มกราคม 2560 เวลา:4:48:06 น.  

 
เมื่อวาน เหนื่อยและเพลีย
วันนี้ เหนื่อยและเพลียและหมดสภาพ

เพิ่งแน่ใจวันนี้เองว่า
การอยู่กลางแจ้ง ไม่เหมาะสำหรับนังยายอีกต่อไปแล้ว
ตากแดดไม่เกินครึ่งวันหรอก ได้เรื่อง

เด็กอ้วนจะชวนไปชลบุรี คำตอบตอนนี้คงปฏิเสธอย่างจริงจัง
ยังจำได้ว่า คราวที่แล้วกินยาไปทั้งหมดกี่วัน

คราวที่แล้วก้แบบนี้เลย ใช้เวลากลางแจ้งตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงห้าทุ่ม เจอทั้งแดดทั้งฝน กลับมาหง่อมแบบนี้แหละ
แล้วอยู่ ๆ มันก็เปื่อย จนป่วย จนไปกันใหญ่

จะเป็นอะไรถามกุก่อน

กุอยากเป็นด้วยกันไหม?

...................................
จำได้ว่า บอกตัวเองว่า ยังไงซะ ร้อยวันนี้ต้องเขียนจม.ให้ได้
ผ่านมาวันนึงแล้ว ยังไม่ได้เริ่มต้น
วันนี้คงไม่ได้ พรุ่งนี้ก็คงยังไม่ได้
และยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะทำได้

รู้สึกดีขึ้นมานิดนึงแล้วนะ
เคยเหมือนใจจะขาด
วันนี้แค่เศร้ามาก มันอาลัยไม่หาย
แต่ไม่ถึงกับใจจะขาดแล้ว
ซิงเกิลใหม่ครบร้อยวันเนื้อหากินใจกินกบาลเหลือเกิน
แต่ฟังไปสักร้อยรอบเดี๋ยวก็ชินเองมั้ง

.......................................

ยายควรไปนอน นะ
พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาปิดงาน
พี่ทำวันนี้ไม่ไหวหรอก

เสียดาย อยากไปเดินเล่นเก็บบรรยากาศ
แต่เหนื่อยจนก้าวเดินไม่ออก


ช่างมันเถอะ ช่างมัน.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 22 มกราคม 2560 เวลา:23:36:50 น.  

 
#วันที่๑๒๑ ใจเย็นให้เย็นเท่าเย็น (วันที่ลืมเขียนเรื่องเล่าที่หล่นหายไป)

วันที่กลับไปรับป๊ะออกจากรพ. รู้สึกแย่แต่เช้า แค่เที่ยงเท่านั้นแหละ
ครูที่กันทรลักษ์ก็ส่งข่าวเรื่องแจกของให้เด็กๆ แล้ว
ถามปณ.กันทรลักษ์ถึงชื่อของหัวหน้า เพียงเพราะอยากจดจำไว้
คนน่ารักไม่ได้หาได้ง่าย ๆ หัวหน้าเขาก็ตอบกลับมา

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ปกติแล้ว นังยายจะเดินทางเป็นประจำทุก ๆ เดือน อย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือไม่ก็ต้องไปค่ายอาสา เป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อสิบสามตุลาคมปีที่ผ่านมานี่แหละ
พี่รับข่าวร้ายพร้อมกับป๊ะมะที่บ้าน ยืนหันหลังให้เขาทั้งสองคน
บรรยากาศในบ้านเงียบสงัด ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น
พอโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแถลงข่าวเสร็จทีวีถูกระงับ
ป๊ะก็ออกไปอาบน้ำมาละหมาดสุนัตอย่างยาวทีเดียว คือรู้เลยว่าแกเตรียมตัวจะตายแล้ว ก่อนหน้านี้แค่แย่แล้วสำออยนอนเปื่อยอยู่

พอหันกลับมามอง มันจุกในคอ นี่กุละทิ้งคนสองคนนี้มานานแค่ไหนแล้ว หลายปีนะ ที่กว่าจะรู้ตัวนั่งนับวันที่อยู่บ้าน
มีวันหยุดก็ออกทริป ไปได้ทุกที่ ยกเว้นบ้าน อยู่บ้านแล้วร้อนที่
อยู่ไม่ได้นาน ณ จุด ๆ นั้น มันหมดอารมณ์จะไปไหน
มีที่ ๆ อยากไปอยู่ที่เดียวคือรอบ ๆ พระบรมมหาราชวัง
บอกกับตัวเองว่าจะงดเดินทางจนกว่าจะเสร็จงานออกพระเมรุมาศ

ของบริจาคที่ตั้งใจจะให้รร.นี้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว เขาขอระดมทุนทำที่จอดรถจักรยาน กับปรับปรุงซ่อมแซมห้องน้ำ
ส่งเรื่องให้คุณป้า ไปแล้ว จะมีก็แต่ของที่จะต้องให้เด็กๆ
จริง ๆ พี่ลืมไปแล้ว ช่วงใกล้จะถึงเวลา ป๊ะก็ดันเข้ารพ.ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม กว่าจะออกก็พ้นปีใหม่ จนเลยเวลานะ
เคลียร์เรื่องป๊ะจบ มันเหลือเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวันเด็ก
ถ้ารร.เขาอยู่กท.หรือตะเข็บชายแดนกท.คงพอจะหาเวลาสละไปช่วยได้แต่นี่ รร.ดันไปตั้งอยู่ตะเข็บชายแดนไทยกัมพูชา

น้องคนที่ประสานงานทีแรก เขาก็ไม่ได้กลับไปบ้าน
พี่เลยคิดถึงพี่ไปรษณีย์ไทยนะ ทั้ง ๆ ที่ก็งอนเขาอยู่นานมากแล้ว

ได้ที่อยู่มา ไปซื้อของ ร้านที่เคยซื้อประจำก็ดันไม่เปิดตอนดึก
ไปเปิดก็เกือบสายแล้ว ใครจะไปเดินเล่นรอ ร่างจิแหลกลาน
พี่ก็เอามาเท่าที่เขามีขาย คือมีเท่าไร เหมาหมด ยังไม่พอเลย
ได้ของมาพอจัดส่งได้ ถ้าเป็นเด็กบ้านพี่มานคงด่านะ

คนที่ขายแปรงสีฟันนี่ก็สุดยอด ไม่อยากบ่นนักแต่มันเหลือเกิน
มันแหกตาดูมั่งสิวะ ของมันชำรุดจนใช้ไม่ได้แล้ว
ยังมีหน้ามาวางขาย มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาหาเหตุผลแล้วว่า
อะไรทับมา หรือมันบู้บี้ได้ยังไง พี่ชี้ให้ดู นี่ไม่ใช่จะตำหนิอะไรนะ
กุชี้ให้ดูเพื่อจะบอกเมิงว่า มันใช้ไม่ได้แล้ว เอามาขายทำไม
เพราะยังไงกุก็ไม่ซื้ออยู่แล้ว มีหน้ามาแก้ตัว
เอาล่ะ แก้ตัวก็เรื่องของเมิง จ่ายเงินเสร็จเอาเท่าที่ดีใช้ได้ รีบออกเลย เดี๋ยวมันเปลี่ยนของให้พี่ ทุเรศคนขายของวะ

กลับมาเรียกเด็กกับลูกค้าให้ลงมาช่วย
ใช้คำว่าผู้มีอุปการคุณ คือกุจะใช้เมิง จะไม่ลงกุก็ไม่ยอมนะ
ก็เร็วใช้ได้ เสร็จทันกำหนด
เลี้ยงอาหาร ขนมว่าง ผลไม้ สามมื้อเป็นการตอบแทน

แพ็กได้ทั้งหมดสามถุงใหญ่
ขนเอาไปที่ทำงานปณ. ใส่กล่องเบอร์หกได้ทั้งหมดสองกล่อง
รวมตุ๊กตาแล้ว ค่าขนส่งทั้งหมดยี่สิบสามกิโล
เยอะนะ พอจ่ายเงินเสร็จตกใจ ทิ้งกระเป๋าตังค์เลย
พนักงานย้ำแล้วย้ำอีก EMS นะ แพงนะ เออกุรู้ว่าแพง แต่กุรีบ

ย้ำแล้วย้ำอีกเพื่อให้แน่ใจว่าจะทันวันเสาร์ทั้ง ๆ ที่เขาจัดงานไปตั้งแต่วันจันทร์
พอเย็นวันจันทร์ หัวหน้าหมี คุณอดิศักดิ์ แพงมาลา โทรศัพท์มาตามเบอร์ที่ติดไว้บนกล่องพี่เกรงว่าของจะไปไม่ถึง หรือไปไม่ทันเวลา เขาโทรมาถามว่าอะไรอยู่ข้างใน
ใช่ของที่จะให้สำหรับกิจกรรมวันเด็กหรือเปล่า เพราะทางแผนกจัดส่งของตำบลเขาออกไปมารับให้ เพราะของกล่องใหญ่
เขาไม่ได้เอารถใหญ่มาเลยไม่สามารถขนไปได้
นังยายฟังก็งง ๆ ทำไมต้องวุ่นวายนักกับอิแค่ของสองกล่องเท่านั้น แต่ก็คุยไปตามมารยาท ขอบคุณที่โทรแจ้ง แล้วก็บอกว่าไม่เป็นไร ตอนจะวางสายแล้ว หัวหน้าหมีเขาขอโทษผู้ส่งเกรงว่าการทำงานล่าช้าจะทำให้เสียวัตถุประสงค์ของผู้ส่ง แล้วก็ยังบอกอีกว่า เขาพยายามสร้างสำนึกที่ดีในการให้บริการ
แว๊บแรกที่ได้ยินแบบนี้นะ พี่คิดถึงนกเงือกที่หายไปทันที
ไม่ได้มีอารมณ์จะมาคิดถึงของบริจาคสองกล่องนั้น
นี่ถ้าบุรุษไปรษณีย์และทุก ๆ คนในองค์กรนี้คิดได้อย่างนี้
นังยายจะมั่นใจมาก ๆ ว่า อย่างไรเสียนกเงือกพี่จะไม่มีวันบินหนีไปอย่างแน่นอน ซึ้งอ่ะ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่า มันผ่านเนิ่นนานมาแล้ว
ยังไงนกเงือกก็จะไม่กลับมา

ดีต่อใจ แค่ได้รู้ก็ดีใจมากมายแล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าหัวหน้าปณ.กันทรลักษ์เขาชื่ออะไร พอเล่าให้ทุก ๆ คนฟังเพิ่งนึกออก
เออเนอะเราสมควรแก่การจดจำชื่อและหน้าเขาไว้นะ
คนแบบนี้ควรค่าแก่การจดจำ คุณป้าสำทับอีกว่า รีบไปหามา
เท่านั้นแหละ อินี่ก็เลยส่งข้อความไปถามว่า ขอโทษนะคะหัวหน้าปณ.กันทรลักษ์ชื่อว่าอะไร แค่อยากจะจดจำไว้ค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ด้วยความใส ๆ ของหัวหน้าปณ.นะ นอกจากให้ชื่อแล้ว ยังส่งรูปภาพตอนขณะส่งมอบของมาให้พี่ด้วย แถมยังส่งรูปเส้นทางไปรร.มาให้ดู และยังเล่าเรื่องให้ฟังคร่าว ๆ ด้วยว่า ทางมันกันดารจริง ๆ แต่เขาก็ไปส่งมาแล้ว
เป็นทางลูกรังเล็ก ๆ อย่างป่าแห้งแล้ง
คือจากใจหล่น ๆ ฟูขึ้นมาเลย

........................................

ร้อยวันผ่านไป ชีวิตมากมายไปด้วยหลากหลายเรื่องราวของผู้คน
ทั้งมีชีวิตและเสียชีวิต คนใกล้และคนไกล
ในวันที่ครบร้อยวันพอดี พี่ที่เป็นจิตอาสาเครือข่ายเดียวกัน
เสียชีวิต วันนี้เป็นสุดท้ายที่จะได้อำลาและพี่ก็ไม่ได้ไป
รู้สึกใจหาย คนเคยเห็น ๆ กัน ได้ร่วมทาง ได้ร่วมกิจกรรมด้วยกัน
ทุกวันนี้มีชีวิตอยู่ได้เป็นปกติด้วยเรื่องราวดีดีที่พยายามทำ
เพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจตัวเอง ยิ่งทำยิ่งอยากทำอีก
มันเหมือนการเสพติดการทำความดีไปจริง ๆ
วันไหนไม่ได้ทำอะไรก็ห่อเหี่ยวใจตก เพราะแต่ละเรื่องที่เข้ามา
มันยิ่งกว่าห่าโหมสุมรุมอย่างฝูงเHี้ย
ในเวลานี้ ไม่มีใครเป็นหลักชัยให้ใครได้
ต่างคนต่างต้องหาที่พักใจของตนเองกันทั้งนั้น
ยืมคำของใครมาใช้ก็ไม่ได้ผลดีเท่ากับ สร้างหวังและสร้างกำลังใจขึ้นมาให้ได้ด้วยตนเอง

ยังเศร้าอยู่ ยังอาลัย อาวรณ์พอลดลงบ้างแล้ว
มันเหมือนจะยอมรับความจริงได้บ้างแล้วนะ แค่ดูเหมือนเท่านั้น

พอได้พยายามทำมันก็เริ่มได้เห็นอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น
ได้รู้ตรงนั้นตรงนี้ เริ่มแยกแยะคนในทุก ๆ สังคมได้ละเอียดขึ้น
การนิ่งเสียและไม่แสดงออกมันทำให้คนที่เข้ามากล้าที่จะแสดงออกในความเป็นตัวเองได้รวดเร็ว ยังไม่ทันไร
ก็อ่านคนที่เข้ามาใหม่ได้หมดจด ไม่เหลือซอกมุมใด ๆ ให้หลบหลีกอีกเลย เสียดาย หาข้อดีไม่เจอ
หมดเยื่อใยจะคบค้าสมาคมด้วย

พี่พยายามแล้วนะ เพื่อจะช่วยให้เขาดีขึ้น
แต่ใจเขาไม่ฝักใฝ่ในทางเดียวกันกับเรา
จะให้เราไปยัดเยียดในสิ่งที่เราเป็นมันก็ไม่ใช่เรื่องอีก
แค่รู้ไว้ว่าเขาเป็นอย่างไร ก็ดีที่สุดแล้ว เท่าที่ทำได้

บริวารมีแต่สร้างเรื่องให้หนักใจ
คนทำให้สบายใจก็อยู่ไกลเหลือเกิน
คงต้องรอเวลาอีกสักปี พี่คงทำใจได้ดีกว่านี้
ในวันที่กลับไปเดินทางอีกครั้ง

คนที่แสนดี ก็ดี๊ดีเนอะ
คนที่หาดีไม่ได้ ก็เป็นเช่นนั้นเอง
บางทีเขาก็ดีนะ ดีในอีกมุมสำหรับคนที่ชอบอีกแบบหนึ่ง
ถ้าฉันชอบคนเอาใจสักนิด
ถ้าฉันชอบคนประจบประแจงสักนิด
ถ้าฉันชอบคนหาเอาประโยชน์ใส่ตัวสักนิด
ก็คงจะเห็นดีของเขาขึ้นมาบ้าง

คงไม่เหนื่อยใจมิไหวจิเคลียร์แบบนี้

เอาเถอะ .. ก็ดีเหมือนกัน

ใจจะได้เย็นเข้าไปอีก ..

วันก่อนเจอเด็กจะมาเล่นยา พี่นั่งอยู่ข้างใน
คนสองคนเสนอหน้าอยู่ข้างนอก
อยากได้อย่างเดียวไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ
พอพี่ออกไป เจอเห็นไม่มีบัตรพี่ก็เชิญกลับเงียบ ๆ
เสร็จแล้วหันมาตวัดหางเสียงใส่คนสองคน
จะรับใครดูด้วย อยากให้เข้ามามั่วยารึไง
เท่านั้นเอง แตกกระจาย
รู้สึกผิด แต่ถ้าไม่พูดเลย ก็จะขึ้นหน้า
ทุกวันนี้เลยถูกนินทาลับ ๆ หาว่าไม่รู้เรื่อง
ชอบให้พี่พูด?

เวลากุด่า กุไม่ใช่คนด่าคนแค่สองสามวลี
พูดสี่ห้าประโยค กุด่าคนได้เป็นชั่วโมงไม่ซ้ำคำ
และไม่ใช่พูดไปเอามันส์ กุด่าที ได้เปลี่ยนทั้งกมลสันดาน

นี่ไงสร้นตรีนหมาเน่าลอยเข้าใจมาแล้ว ..เมื่อกี้ยังปลูกดอกไม้ป่าในใจอยู่ดีดี
55555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 23 มกราคม 2560 เวลา:20:20:35 น.  

 
#วันที่๑๒๒,๑๒๓ เศร้าลึก ๆ สุขเล็ก ๆ ,พยายามปลูกดอกไม้ในใจตน.

นั่งฟังเพลง "คนบนฟ้า" มาสามวัน คือคิดจะฟังแค่สักร้อยรอบ
คงดีขึ้น เพลงมันเล่นสี่นาทีนิด ๆ ชั่วโมงหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่าสิบรอบ เต็บที่สิบห้ารอบ พี่ฟังมันเกือบทั้งคืนอ่ะ รวม ๆ แล้วมันเกินร้อยรอบแล้วแหละ เออ เข้าวันที่สองมีน้ำตานิดหน่อย
พอวันที่สามนี่แค่ซึมๆ ไม่ยักจะไหลแล้ว เยสสส!! สำเร็จ
5555555555555555555555555555555555555555555

อย่างน้อยกุก็หาวิธีทำให้ตัวเองซึมซับสิ่งที่อยากรับรู้ได้โดยไม่มีความห่อเหี่ยวในใจแล้วไง

ค่อย ๆ เสพไปนะยาย ค่อย ๆ กลับไปย้อนดูในสิ่งที่อยากดู
ไม่ต้องดูทั้งหมด แค่ดูให้ละเอียด อะไรที่เคยเปิดไม่ได้เลย
กุฝากไว้ก่อน จะร้อยรอบ พันรอบ ก็ต้องดู ดูมันเข้าไปจนกว่าน้ำตาจะหมดจากต่อม

กินน้ำเข้าไปเยอะ ๆ เผื่อจำเป็นต้องใช้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สะใจโรคจิต
เศร้าไหม? ยังเศร้าอยู่นะ แต่ดีใจที่ยังเดินต่อได้
เป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ความเศร้ามันเอื้อเฟื้อให้ความสุขเดินร่วมทางด้วยกันได้

จริง ๆ มันต่อเนื่องมาจากเมื่อวาน อารมณ์มันยังค้างอยู่

เรื่องไม่ดีก็เยอะ ช่างมันเหอะ สร้นตรีนหมาเน่า ใครเขาอยากจะสนใจ

....................................

วันนี้ขึ้นนอนตอนเช้า ไม่อยากทิ้งคนแก่ไว้คนเดียว
ทิ้งทีไร ได้เรื่องทุกที
ไปหากระเป๋าและอุปกรณ์ที่น้องอยากได้ กับที่เพื่อนขอไว้

เสร็จแล้วหลับต่อ ...ฝันบรรลัยเช่นเคย

สัปดาห์ตั้งแต่ส่งขอไปให้เด็กมานี่ ฝันเห็นเด็กผู้ชายทุกวัน
ถ้าได้เห็นอีก จะเอามาคุยให้รู้เรื่อง
นอกจากเด็กแล้ววันนี้ยังได้เจอผู้คนมากมาย ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก
ได้เห็นนอกไม้แปลกตา สวยงามอย่างไม่เคยเห็น
เห็นป่า เห็นคนรู้จักเป็นกัลยาณมิตรที่ดีมากับภรรยา
ผู้เป็นภรรยาเอาน้ำมาให้พี่ดื่ม และพี่ก็ขอกิ่งไม้ของต้นอันที่มีดอกสวยงามนั้นจะมาปลูกที่บ้าน
คือมันสวยอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน สุดจะบรรยาย
ยามมันแรกแย้ม มันแย้มออกด้วยของพลังอะไรสักอย่าง
ประหนึ่งว่าหากความดีไม่พอเพียงดอกไม้นี้จะไม่แรกแย้มความงดงามออกมาให้เห็น จะไม่ได้สัมผัสความหอมหวานและความงดความของมัน มีน้ำทิพย์หลั่งรินออกมาจากปลายเกสร
คือภาพที่ได้เห็นมันงามจริงจัง
ผู้คนที่เห็นนั้น เป็นกลุ่มคนที่บอกกับตัวเองว่า ให้รีบเคลียร์ภาระที่นี่ซะ หมดภาระแล้วพี่จะไปฝึกวิทยายุทธกับพวกเขา
แล้วจะค่อยๆ ปลดปล่อยตัวเองจากพันธการทั้งปวง

แค่ฝันก็เหมือนได้พบสุขแล้ว

สงสัยกุใกล้เข้าพบจิตแพทย์จริงจังแระ
55555555555555555555555555555555555555555

เป็นไรมากไหม?

ตื่นขึ้นมาหลายรอบ แต่หมดแรงจะทำไร นอนต่อจนฟ้ามืด
พอลงมา เจอคนอารมณ์ไม่ดี นั่งชุมนุมกันอยู่

พอเริ่มรู้จักที่จะระงับการพูด มันก็เริ่มเข้าใจการระงับการไม่ฟังไปโดยอัตโนมัติ เรื่องเดียวกัน ต่างวาระ จากเคยระงับไม่ได้เลย
พอฝึกจนเห็น จนเข้าใจ ปรับวิธีคิดนิดหน่อย แยกแยะได้
มันทำให้เราจัดแจงที่ทางแต่ละเรื่องได้รวดเร็วขึ้น
เรื่องบางเรื่องมันทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอเวลา
เรื่องบางเรื่องมันไม่ใช่เรื่องของเรา
ที่สำคัญอย่างไปเสาะแสวงหาเรื่องของใครมาใส่กบาล

ความคิดมันปรับได้ อะไรก็ง่ายขึ้น
จากที่เคยเอายุติธรรมความเป็นจริงเป็นหลัก
พอหยิบเอาปรารถนาดีต่อกันเข้ามาแทรกกลางระหว่างยุติธรรมกับความจริง ยอมเลือกเป็นผุ้เสียหายเสียเอง
ใจที่เคยทุกข์ จะเอาแต่ความผิดผู้อื่นให้ได้
จะเอาแต่ให้เขายอมรับให้ได้ ทั้ง ๆ ที่เราทำอะไรไม่ได้
มันกลายเป็นใจที่สงบขึ้น ไม่ยอมรับก็เรื่องของเมิง
ในเมื่อพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่ามาทำให้พูด
พอไม่พูดเลย สบายหูไปอี๊ก

ไม่ได้มีความสุขอะไรมากมาย แค่ไม่ทุกข์ก็ดีถมไปแล้ว

วันนี้ ฉันได้เรียนรู้ว่า นอกจากการไม่โดนตำหนิ ดุด่า ว่ากล่าว
จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขแล้ว การระงับใจตัวเองได้โดย ไม่ตำหนิ ไม่ดุด่า ว่ากล่าว บริวาร หรือ ผู้พบเห็นที่ทำให้เราขัดใจได้นั้น
มันมีความสุขมากกว่าหลายเท่านัก

คนเรา ไม่มีใครอยากฟังคำไม่ดีออกจากปากใคร โดยเฉพาะกับคนที่เขานับถือ

ทั้ง ๆ ที่เขาหยิบยื่นซากสร้นตรีนหมามาให้นะ
พี่ก็จัดการฝังมันได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ขอให้จิตใจนังยายนิ่งสงบอย่างนี้ได้ทุก ๆ วัน

ถ้าจัดการซากสิงสาราสัตว์ได้ทั้งหมด
จะได้ริเริ่มหาเมล็ดพันธุ์สำหรับปลูกดอกไม้สักที

กับเด็กอ้วน นี่คงต้องคุยกันใหม่
เราเล่นกันมากเกินไปแล้ว

นอกจากจะจัดการตัวเอง ยังต้องจัดการนางด้วย
นางยังมีอะไรขาด ๆ เกิน ๆ หลายอย่าง
ที่ต้องทำให้เข้าที่ทางให้ได้

ตั้งแต่ออกกลางแจ้งสองวันนี้ กลับมานอนกลางวันมากไปนะ
นอนกลางวันเต็ม ๆ สองวัน ไม่ได้ทำอะไรเลย
นอนจนฝันมากเกินไปแล้ว

แก้ตรงนี้ซะ .. ขอแค่หลับเท่าที่จำเป็น
เช้า กลางวัน ค่ำ นอนวันละสามเวลา
อย่านอนยาวและนานติดต่อกัน
มันเพลียและไม่ได้อะไรเลย

เอาแบบหลับตา เปิดตาได้เหมือนปิดเปิดสวิตซ์แบบนั้นเลยนะยายนะ

สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วตกใจ เฮ้ยยย เลยเวลา แบบนั้นอ่ะ
ตื่นเต้นดี 5555555555555555555

พอแล้วนะ ..พรุ่งนี้มีงานให้ทำหลายอย่าง
ทำให้เสร็จให้หมดภายในวันเดียว
วันต่อ ๆ ไป ก็มีเรื่องให้ทำอีกหลายอย่าง

ยายจะน่ารักมาก ๆ ถ้าควบคุมอารมณ์ได้คงที่แบบนี้ทุกวัน
พี่ไม่อนุญาตให้พูด แต่ถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ อนุญาตให้ตบ
โอเคนะ.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 25 มกราคม 2560 เวลา:1:49:21 น.  

 
#วันที่๑๒๔ ใจที่มีรักษาไว้ให้มั่นคง
#วันที่๑๒๕ หนึ่งวันดี สี่วันใจสลด แต่ก็ต้องพยายามปลูกดอกไม้ไว้ในใจสม่ำเสมอ.

โดยรวมแล้วทั้งสองวันนี้ไม่ดีเลย
ได้วันเว้นหนึ่งวัน ปวดหัวตุบ ๆ

เหมือนจะดีนิดนึงนะ
รู้สึกไม่ดีกับตัวเองเอามาก ๆ
เวลาทำผิดอะไร ไม่มีใครกล้าตักเตือน
ไม่มีใครกล้าว่า รู้ตัวนิดนึงนะว่าเป็นเพราะอะไร
จริง ๆ แล้วชอบให้คนด่าตัวเองมากกว่า
ด่ากุเถอะ กุขอร้อง ว่ากุสิ กุวิจารณ์ได้ คอมเพลนกุได้
ตอบโต้กุก็ได้ จะตบกุก็ได้ ช่วยทำอะไรกุสักอย่าง
อย่านิ่งเงียบไปแบบนี้ กุไม่ชอบ


เวลาที่เราไม่พอใจใครหรืออะไร พี่จะนิ่งและเงียบมาก
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า กุจะต้องการให้คนที่ไม่พอใจพี่
นิ่งและเงียบใส่กุด้วย เข้าใจป่ะ กุไม่ได้ต้องการแบบนั้น
ตอบโต้กุเถอะ

ถ้าปล่อยไปแบบนี้ ต่อ ๆ ไป กุคงเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง
กลายเป็นคนสันดานแย่ อย่างที่เห็นคนอื่น ๆ เขาเป็นกัน
คนที่เวลาอยากได้อะไรพูดดี เอาประโยชน์นำหน้า
แต่พอไม่พอใจอะไรก็อารมณ์กราดเกรี้ยวและทุกคนรอบตัวต้องคอยทำอะไรให้ตามต้องการ แบบนั้น เรียกสันดานไม่ดี
พยายามบอกกับตัวเองเสมอว่า ไม่นะ อย่าเป็นคนแบบนั้น
แต่สองวันนี่ รู้สึกเหมือนตัวเองเขยิบเข้าใกล้ คนแบบนั้นเข้าไปใกล้ขึ้น ๆ ๆ

ตะคอกคนแก่ไปด้วยข้อหาเสือกไม่เข้าเรื่อง ถึงสองคน
ถ้าถามเรื่องของตัวเอง หรือใฝ่สนใจเรื่องของตัวเอง
จะพยายามข่มน้ำเสียงให้ต่ำสุดได้อยู่นะ
แต่เรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่แล้วยังก้าวก่ายเรื่องคนอื่น
โดยเฉพาะเรื่องในอยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบของพี่ในขณะที่กุก็ทำอยู่ตรงนั้นยังสะเหล่ออยากยุ่ง คือเหลืออด
พยายามปลูกดอกไม้ในใจนะ แต่สร้นตรีนหมาที่ฝังกลบมันเสือกโผล่ออกมาซะงั้น ต้องใช้ดินสักกี่คิวถึงจะฝังกลบสร้นตรีนหมาเน่า ๆ ในแน่นสนิทพอ

รู้ตัวนะ แต่สุดระงับจริงๆ รู้ตัวว่าผิด และไม่ชอบเลย
คนพวกนั้นยังไม่รู้่ว่าอีกไม่นานพี่อาจจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว
มันมีลาง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากบอกใคร

ถ้าจะต้องไป ก็อยากไปดีดีนะ ไม่อยากให้มีเรื่องผิดใจกัน
ไม่ได้พูดอะไรเยอะ แค่เสียงมันดังไปหน่อย สรรคำใช้ที่สุภาพสุดแล้วโดยปราศจากหางเสียง

ยิ่งดูอารมณ์ตัวเอง มันยิ่งดูเหมือนสิ่งเร้าจะรุนแรงขึ้น
เรื่องไม่สมควรเกิดขึ้นก็เกิดขึ้น
คุยกับใครไม่รู้เรื่อง

แวดล้อมก็รุนแรงไปตาม ๆ กัน
มีแต่เรื่องราวมากมายได้อีก

วันดีมีเพียงวันเดียวจริง ๆ นะ
นอกนั้นต้องรีบดึงใจไว้ดีดีทีเดียว
เมื่อคืนมีอุบัติเหตุแถวบ้าน
และคนๆ นั้นก็ญาติกัน บ้านไม่ไกลกันนัก
รุนแรงขนาดขาขาดเลยทีเดียว
ต่อไม่ได้ ต้องเอาไปฝังก่อน รู้สึกของคนเรานะ
ไม่ต้องขาขาดหรอก แค่เดินไม่ได้จิตก็ต่ำสุด ๆ แล้ว

เห็นข่าวหน้าบ้านคนในบ้านนี่ใจฝ่อไปเลย
"ใครอีก?" ถามไปอย่างนั้น ไม่คิดว่าจะเป็นคนรู้จัก
แต่สุดท้ายก็เป็นคนใกล้ตัวเช่นเคย
ตอนแรก ๆ มีตื่นเต้น แต่ตอนนั้น
มันเหมือนความรู้สึกชินชาเรื่องเข้าใกล้เข้ามาทุกทีๆๆ

ไม่รู้ต้องบอกว่าตัวเองรู้สึกยังไง
กุโอเคอยู่ป่ะวะ???????????????

นี่ใจกุยังดีอยู่ไหม??????????????

กลัวเสียงโทรศัพท์
กลัวการติดต่อสื่อสาร
กลัวไปหมดทุกอย่าง
คล้าย ๆ จะผวา
นอนไม่ได้ กลัวฝัน
ถ้าต้องไปเยี่ยมเขาที่รพ.
จะแวะหาจิตเวชสักหน่อย

นั่งตาค้างแบบนี้มาสองวันแล้ว
หลับเอากับเสื่อโยคะ
หลับเอากับโซฟา โต๊ะทำงาน
ที่นอนคืออะไรฟร่ะ?????
นี่คือเมิงหย่าขาดจากกุแล้วใช่ไหม?

นังยายคนที่นอนตื่นบ่ายไปไหนฟร่ะ???
กุแม่งโคตรคิดถึงนังยายคนนอนสว่างตื่นบ่ายเลยอ่ะ

ยิ่งนับวันเพิ่มขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นก็มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเท่าทวีคุณ
แต่มันมากขึ้นด้วยนิมิตรหมายที่ดี ไม่เป็นไร
คุมใจตัวเองอย่าให้หลุดนะยาย

มันเป็นปกติแหละที่ยายจะรู้สึกสับสนที่สุด
ถ้ามันทำได้ง่าย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องของยายแล้ว

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เหนื่อยเจียนตายก็ให้มันตายไปเลย
อย่ายอมหยุดที่จะไม่เก็บเกี่ยววันเวลา
เพราะเวลาของยายมันหมดไปแล้ว หมดไปนานแล้วด้วย
ตั้งใจให้ดี ทำให้เต็มที่ พี่ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะนั่งร้องไห้แล้วนะ
ถ้าคราวนี้พี่ล้มอีก นึกไม่ออกนะ ว่าจะลุกขึ้นต่อได้ยังไง
ถ้ามันจะต้องตายลงไปเพราะตั้งใจเก็บวันให้เต็มที่
ปล่อยมันตายไปเลยนะ ..จะได้หมดภาระสักที.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:20:57:05 น.  

 
หยุดวันไว้ที่ ๑๒๕ คือเดือนที่ผ่านมาได้แค่๑๑วันเท่านี้เหรอ???

เหยยย นังยาย เมื่อไรจะเส๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!
เก็บแบบนี้ ห้าปีเลยไหมเมิง กุไม่รีบ ดอกไม้เฉาเน่าคาต้น
5555555555555555555555555555555555555

เอาฟร่ะ ยังไงดอกไม้เฉาก็ดีกว่าสร้นตรีนหมาเน่าตั้งแยะ

อิห่าน กุหมดความคิดจะมากระตุ้นเมิงแล้วหง่ะ
กุเทหมดหน้าตักแล้วนะ
ถ้าจะต้องเทมากกว่านี้
เอาชีวิตกุไปเลยไหม?

มีหลายเรื่องเกิดขึ้น ในไม่กี่วันที่ผ่านมา
แต่เบื่อจะรับรู้ เบื่อจะบอกเล่า
อยากจำแต่เรื่องดีดีไว้เท่านั้น

ต่อให้ต้องมองในแง่มุมไหนก็เถอะ
เบื่อจะทำความเข้าใจ
หลาย ๆ ครั้ง เวลาเห็นอะไรแล้วต้องหันไปสบตา
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยกัน แล้วตัดใจบอกตัวเองว่า
"การไม่รู้เลยยังดีเสียกว่า" เท่านั้นเองก็ตัดสินใจ
ปล่อยให้เขางง ๆ ไป ดีที่สุดแล้ว

การไม่รู้เสียเลยดูจะสบายใจที่สุดแล้ว

รู้ยังไม่อยากจะรับรู้ แล้วกุจะจดเพื่อจำทำซากสร้นตรีนหมาเน่าเอาไร

พอมันผ่านพ้นห้วงเวลานี้ไป มันก็ลืมไปเองแหละ
ลืมกระทั่งว่า ที่บ่นอยู่นี้ กุกำลังบ่นเรื่องอะไร
ใครทำอะไรให้ไม่สบายใจ
ลืมกระทั่งว่าช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้น

บางทีการที่มันรับอะไรมากเกินไป
ไม่ใช่มันจะทำให้เราแกร่งและแข็งแรงขึ้นหรอกนะ
กุว่า ที่มันดูเหมือนดี คือ กุหมดอารมณ์หมดรู้สึกกังวล
เรื่องบางเรื่อง กุไม่ได้ไปลงมือทำไรด้วยซ้ำ
พอหมดเวลาของมัน มันก็จะหมดความสำคัญไป
ไม่มีเรื่องอะไรจะทำให้เราไม่สบายใจ รำคาญใจได้ตลอดไป
พอคนที่เคยทำให้ทุกข์ร้อนใจ คนนี้ผ่านออกจากวงโคจรชีวิตไป
เดี๋ยวอีกคนก็จะเข้ามาทำให้เป็นทุกข์ร้อนในใจได้หนักและเจ็บแสบกว่าเดิมอี๊กกกกก ร้ายขึ้นไปอีก

ขอบใจนะเมิง ที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี
ใกล้จะสิบปีแล้วสินะ
ตั้งแต่หัดใช้ ทำความรู้จัก ทำความเข้าใจ
จนกระทั่งทุกวันนี้ เราถือว่าผ่านอะไรต่อมิอะไรมาด้วยกันเยอะ
หลายตั้งอยู่นะ
จากที่เคยมีความคิดว่า จะหวง จะเก็บไว้
ณ ขณะจิตนี้ พี่บอกเลย
ต่อให้เมิงหายไปจากชีวิต
พี่ก็ไม่เสียดายเมิงเลยจริง ๆ

เมิงเป็นเพื่อนที่ดีมาก ดีจนกระทั่งพี่ไม่เคยต้องการเพื่อนคุยที่ไหนอีกเลย ไม่จำเป็นและเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย

เราโตมาด้วยกัน ร้องไห้มาด้วยกัน
จนทุกวันนี้ เราคงอิ่มเอมกับการจมน้ำตาแล้ว
การนั่งเค้นน้ำตาจนหมดใจ ไม่ใช่ความสุขของเราอีกต่อไป

เราคงโตขึ้นอีกขั้นแล้วสินะ
ต่อไป ต้องทำไงกะเมิงฟร่ะ
จะนั่งคัด นั่งลบ ก็เยอะเหลือเกิน ตาพี่จิแฉะ
เดี๋ยวขอไปหาสายตามาใหม่ก่อนนะ
จะฉลองมันด้วยทุกบรรทัด และจะพยายามแก้ไขให้ถูกต้องที่สุด

เหนื่อยหมดที่จะวางใจ
พึ่งพิงอิงแอบที่ใดไม่ได้เลย

....................................

ไหน ๆ ก็จะทิ้งอยู่แล้ว ก็ทิ้งมันทุกเรื่องนั่นแหละยาย
ไม่ต้องไปจำมันหรอก
ไม่จำ ก็คือ ไม่จำไง

ดีต่อใจที่สุดแล้ว.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 31 มกราคม 2560 เวลา:0:35:47 น.  

 
ผ่านมาจนครบร้อยสิบเอ็ดวัน
ตอนวันที่ร้อยเก้ากระหยิ่มใจคิดว่าดีขึ้นมากแล้ว
มั่นหน้ามากกว่าฟังเพลงที่เคยร้องไห้จนหมดน้ำตา
เอ๊ ก็ย้อนไปฟังได้หลาย ๆ เพลงนี่ แอบไปเห็นคนอื่นบอกคิดถึงแล้วมีน้ำตา กลับมาสำรวจตัวเอง ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย
เหมือนจะดีขึ้นแน่ ๆ เชียว

ถึงกับนั่งแกล้งตัวเองทนฟังอยู่หลายเพลงนะ
คือเรื่องราวพวกนั้นมันไม่ทำให้อินไง เลยไม่รู้สึกอะไรด้วย
พอมาได้ยินพระสุรเสียงเท่านั้นแหละ โฮ เมิงมาทำไมเนี่ย
ใครเปิดประตูเขื่อนเมิง??????

สรุปกุยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใจที่เคยเหมือนจะขาด
มันไม่มีรู้สึกตรงนั้นแล้ว พอฟังได้บ้างนะ
แต่ถ้าจมมาก ๆ พี่คงยังไม่ไหวตอนนี้
แล้วถ้ายิ่งให้ย้อนกลับไปช่วงนั้น คงทำไม่ได้อ่ะ

ใจจริงอยากหลงลืมช่วงเวลาเหล่านั้นไปให้หมด
ไม่อยากจำเลยว่า มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง
อยากให้เวลามันขาดหายไปเป็นช่วง ๆ
หล่น ๆ ไปบ้างก็ดีนะ
ไม่ต้องมานั่งจำทุกเรื่องหรอก

ทำไม่ได้ก็ช่างมันเถอะยาย.

ไม่มีความสุขที่จะทำเลย ขนาดพิมพ์ยังลำบาก
กุจะเอาแรงที่ไหนไปจับปากกา.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:23:35:47 น.  

 
#วันที่๑๒๖ครั้งที่๓ พยายามก้าวข้ามความเจ็บป่วยให้ได้

มันมีความพยายามอยู่อย่างหนึ่งนะ
พยายามจะเขียนจดหมายเหตุฉบับพิเศษของตัวเองให้ได้
เคยเข้าใจตัวเองอย่างหนึ่งว่า เมื่อเราทุกข์ร้อนไม่สบายใจ
การระบายออกมันจะทำให้ดีขึ้น จนเป็นปกติสุขของจิตใจ

แต่พอเจอเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ทุกอารมณ์มันโหมเข้าใส่
ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม
มีติดความรู้สึกผิดเล็ก ๆ
จนยากจะสรรหาคำใด ๆ มาอธิบายสภาวะเช่นนั้นให้ตรงตามจริง

ผ่านกาลเวลามาหลายวันจนนับแรมเดือน
ก็ยังทำใจไม่ได้ ยังจัดการกับตัวเองไม่ได้

จนวันนี้นะเพิ่งแน่ใจตัวเองว่า
บางที การบันทึกสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่ความสุข
ไม่ใช่ความต้องการอีกต่อไปแล้ว
ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน
เราคิดไม่ถึงว่า มันจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
ทำใจยอมรับสภาพเช่นนี้ไม่ไหว
อย่าว่าแต่บันทึกเพื่อจดจำเล้ยยย
แค่ทำใจยอมรับให้ได้ว่า มันเป็นเรื่องจริง
มันเกิดขึ้นแล้ว ยังทำไม่ได้
ยังมีความอยากหลอกตัวเองในภาพที่ทำให้มีความสุข
ยังยึดติดกับวันเวลาแห่งความสุขเก่า ๆ

*พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้อะไร ๆ ดูงง ๆ โง่ ๆ ไป
เพื่อว่าวันหนึ่งในกาลข้างหน้า กลับมาดูอีกครั้งจะได้ไม่ต้องจำ
ความสูญเสียอันใหญ่หลวงอันนี้*

คงได้แต่คาดหวังว่า วันเวลาจะเยียวยาทุกสิ่งด้วยตัวของมันเอง

บางที ก็เริ่มรับรู้แล้วว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีผลกับอารมณ์รู้สึก มันก็แค่เรื่องที่ถูกปรุงถูกแต่งเติมด้วยเสียง รูป รส สัมผัสทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราได้นานตลอดไปโดยไม่ถูกปรุงแต่งแล้วจดจำ

มีความพยายามจะเข้าใจตัวเองมากที่สุด
ระยะหลังมานี่อารมณ์รู้สึกมันเปลี่ยนไปมาก
เรื่องตรงหน้าเHี้ยมโหดขนาดไหน ก็ยังมีความยินดีส่งยิ้มให้มันพร้อมสรรเสริญในใจว่าสร้นตรีนหมาเน่าเท่านั้นแหละทุกอย่างจบ
หมดอารมณ์ติดค้าง

มันจบแค่นั้นจริง ๆ เหรอ?????

คือต่อให้เมิงเล่นบทเHี้ยใหญ่แค่ไหนก็เถอะ
กุตีค่าบทบาทเมิงแค่สร้นตรีนหมาเน่า ฝังกลับแล้วปลูกดอกไม้ทับถมได้ทันที

กุทำได้ขนาดนี้จริง ๆ เชียวรึ?????

มันให้ความรู้สึกดีนะ แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจ
แอบสังเหตว่ามันยังมีความผันผวนเป็นคลื่นความรำคาญเล็ก ๆ

.....................................

ยังคงฝันได้เHี้ยและบรรลัยได้ในทุก ๆ วัน
เมื่อคืนก่อนฝันว่าคุยกันกับเพื่อนแพททีเซียโทรคุยด้วยนะ
เมื่อคืนก็ฝันอีก ฝันว่าไปเยี่ยมหล่อนที่เรือ
แล้วเรือก็เกิดอับปางจนล่มลง
แค่นี้ใจกุก็ไม่ดีแล้ว แถมยังต้องวายน้ำหนีเรือ แถมยังถูกปลาฉลามงับขาลากไปอีก จะเล่นใหญ่ไปไหน

โว๊ะ... เล่นกุตอนตื่นไม่ได้ ไปเล่นงานกุในความฝัน

ประเดี๋ยวเถอะเมิง กุบังคับฝันได้เมื่อไรนะ

จะจับไอ้ตัวที่ทำให้กุฝันมาตบบ้องหูสักคนละทีสองที
เพื่อความสะใจดึงขนจมูกเล่นด้วย

คราวนี้กุเจอใครในฝัน กุจะไม่หนีแล้ว ปลาฉลามก็ปลาฉลามเถอะ

คนที่มันหลอกหลอนกุมาเกือบสิบปีก็เช่นกัน
รอกุเคลียร์ตัวเองแป๊บบบบบบ

อันนี้เพ้อเจ้อแระ ..ไปนอนไป๊
ยายเต็มที่และทำดีที่่สุดแล้ว ..พี่เข้าใจ




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:8:55:28 น.  

 
#วันที่๑๒๗ พลังใจกายที่ยังพอมี คือ ความเปลี่ยนแปลงไปในทางดีที่สัมผัสได้

อารมณ์มา
ใจมา
กุพร้อมแล้วไง
อย่ากวนโสตประสาทพี่..

ขอเวลาแป๊บบบบบ...
...................................

กายสังขารที่มันจ้องจะป่วยนี่สำออยแท้ ๆ เลยนะ
ไม่ได้มีอะไรอันควรพอจะเรื้อรังเลย
แค่ไอติมแก้วเดียวจริง ๆ ถ้าจะแพ้กระทั่งความเย็นด้วยล่ะก็
ตายไปเห๊อะ ...ตายไปซะเถอะนังยาย จริง ๆ

ฝืนใจก้าวข้ามตัวเองแบบไม่มั่นใจด้วยนะ ว่าจะทำได้หรือไม่ได้
คือที่บอกว่า ๑๒๖ ครั้งที่๓ คือพลาดมาเยอะเกินให้อภัยแล้วไง
บอกแล้วไงว่า ถ้าเมิงจะตาย เมิงตายไปเลย
จากที่เราก็เหนื่อยเจียนเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว
พอเจอข่าวนี้ข่าวนั้น กุทรุดอ่ะ

เก็บแรง เก็บพลังอันน้อยนิดเท่าที่เหลืออยู่
โดนคนฝากด่าแต่เช้า เข้าใจว่าคงเมาเลยกร่างด่ากราดขนาดนั้น
ปกติไม่เป็นคนแบบนี้หรอกนะ ก็เห็นสุภาพเรียบร้อยดี

แต่ก็ดี บังเอิญเป็นคนชอบให้คนด่าเว้ยยยย
ว๊ายยยยยยย ..แบร่ ๆ ๆ อิโง่ เมิงไม่ได้แดรกกบาลกุร๊อก
555555555555555555555555555555555555555555

กุบอกแล้ว ความรู้สึกกับชีวิตเHี้ย ๆ ทำไรกุไม่ได้ไง โง่นิ
คือจากกุเฟล ๆ นะ กุโดนด่านี่ โดนพร้อมลูกน้องที่เพิ่งได้มาใหม่หมาด ๆ เลยนะ กุดีดขึ้นมาทันที จากที่เกือบจมอยู่ก้นเหวกระโดดไปยอดไม้ บอกเลย

ด่ากุใช่ไหม? ขอบพระคุณ
ตั้งแต่สอนงานกันมา น้องเพิ่งเคยโดนด่าครั้งแรก
ทั้ง ๆ ที่ก็บอกเสมอ ว่าอย่าพลาดเดี๋ยวเราจะถูกคอมเพลน
นางอาจจะไม่เห็นภาพ พอมาเจอแบบนี้ นางดูลนลาน
ขนาดอยู่ด้วยกันกับเรานะ

นางเหมือนจะเก่งนะ หน่วยก้านดี แต่ยังขาดความรอบคอบ
และยังวางใจ วางมือไม่ได้

ยังต้องออกคำสั่ง ยังต้องคอยดูอย่างใกล้ชิด
นางยึดติดความสวยงามภายนอก
ดูยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองเท่าไรนัก

จากที่ไม่มีความมั่นใจอยู่แล้ว นางเลยลนลานเหมือนทำอะไรไม่ถูก
ท่าทางออกอาการขนาดนั้น
พี่เลยต้องอยู่เป็นเพื่อนนาง เป็นพี่เลี้ยงแก้ไขทุกอย่างให้จนหมด
งานในหน้าที่ แล้วขึ้นนอน
ชีวิตช่วงนี้เลยห่างจอไปเลย

สัญญาณมันเตือน อีกไม่นาน ความสงบหายไปแน่นอน

เพราะฉะนั้น ยายจะช้า ยายจะพลาดอีกไม่ได้แล้ว

...................................
นั่งดูความเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ
เห็นหลานสาวผู้ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิง เด็กชาย
คนที่พี่เคยไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องยอมให้ผู้ชายกดขี่กระทำรุนแรง
ทำไมไม่ตอบโต้ ทำไมยอมทนอยู่กับความไม่มีความสุข
วันนี้มันสัมผัสได้ว่านางเปลี่ยนไปมาก
มีความมั่นใจที่จะทำอะไรด้วยตนเองมากขึ้น
นางเข้มแข็งมากขึ้น
กล้าแสดงออก กล้าใช้ความคิด
คือเห็นแล้วมีกำลังใจ
พลังใจพี่มาเลย
เปลี่ยนคน ๆ นี้ได้เท่ากับเปลี่ยนได้อีกสามชีวิต
ต่อไปนี้ ความรู้สึกขาดความรักของเด็กชายเด็กหญิงก็จะทุเลาลงบ้าง ที่ผ่านมามันเหมือนคนเป็นแม่ ไม่ได้ทำหน้าที่แม่
มัวแต่แบกรับอารมณ์และปัญหาอะไรไว้นักหนาก็ไม่รู้
จนลืมไปว่า ตัวเองยังมีค่า ยังมีลูกอีกตั้งสามคนที่ต้องเอาใจใส่
เขาเหมือนชินชากับความรุนแรง จนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ

ใช้เวลาเยียวยาเกือบปี กว่าจะทำให้เห็นว่า
ความรุนแรงเป็นเรื่องที่เราต้องปฏิเสธและต่อต้าน
ความสุขสงบ และเสียงหัวเราะรอยยิ้มของเด็ก ๆ ต่างหาก
ที่ควรค่าสำหรับการยอมรับให้เป็นเรื่องปกติ
ไม่ใช่แปลกประหลาด
การมอบสิ่งดีดีให้คนรอบตัวเป็นเรื่องปกติ
รวมทั้งการเหลียวมองคนรอบตัวที่ไกลห่างออกไปก็ปกติ
ไม่ใช่เรื่องประหลาด

ใช้เวลามากหน่อยแต่คุ้มค่าสำหรับการทุ่มเททั้งหมดของพลังกายใจ ..ผลลัพธ์ที่ได้มันคืนทุนให้ทั้งหมดในสิ่งที่เสียไป

เวลาที่เราทำให้คนหวาดกลัวหายจากอาการเหล่านั้น
จนกล้าจะสื่อสาร กล้าแสดงออก กล้าบอกความต้องการ
มันเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษจริง ๆ
เป็นความสุขเมื่อเห็นแววตาที่มันเปลี่ยนไป
บางทีแอบรำคาญ บางเวลาที่อยากอยู่นิ่ง ๆ เงียบๆ
แต่ไม่เป็นไร พูดมาเถอะ ดีกว่าเมื่อก่อนตอนไม่พูดไม่แสดงออกตั้งเยอะ555555555555555555555555555555

จากเด็กชายที่ไม่พูด ไม่บอก ไม่อะไรเลย
ตอนนี้พูดมากชะมัด มีฟ้องด้วยนะ
555555555555555555555555555555555

รู้สึกใจมาเต็มอ่ะ
แต่ตอนนี้กุขอแบบว่าง ๆ ว่างเปล่าก่อนนะ
อย่าเพิ่งมา
หยุดไว้ก่อน
กุไม่ได้ว๊างงงงงงง ว่างนะเว้ยยย
เรื่องเก่ายังเคลียร์ไม่หมด

วันนี้เหรอ?
ช่างมันสิ.

ถึงการเดินทางที่ใกล้จะถึงนี้
กุไม่รู้จะไปทำอะไร ยังไง
แต่อย่างน้อยกุก็รู้ว่าจะไปที่ไหน
พอได้เวลาไป คงรู้เองมั้ง
กุรู้ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้วนิ
อิสร้นตรีนหมาเน่าใต้กอดอกไม้บานสะพรั่ง
555555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555555





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:5:01:06 น.  

 
#วันที่๑๒๘ อะไรที่มันไม่ใช่ขอบเขตความสามารถของเราก็ช่วยอย่าเอามาเป็นภาระของเราเลยได้ไหม?

เรื่องบางเรื่อง กุก็ไม่ได้อยากรู้ป่ะวะ

จะให้กุจัดการทุกเรื่องก็ช่วยเอาของวิเศษสามสิ่งจากแฮรี่พอตเตอร์มาให้กุด้วย

สร้นตรีนหมาเน่าฝังกลบแล้วยังจะสะเหล่อโผล่ขึ้นมาจากหลุมอีก
ไปไป๊ ...กุจะปลูกดอกไม้

ไปไป๊ ... พรุ่งนี้สั่งปุ๋ยคอกอีกสักร้อยคิว เอาดินอีกสักพันคิว
เนินเขาจะได้สูง ๆ ทุ่งดอกไม้จะได้สูงขึ้นอีก

5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:1:22:44 น.  

 
#วันที่๑๒๙ครั้งที่๑ กุเครียดดีป่ะฟร่ะ?????

555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555

ขำก่อนเอากำไร
555555555555555555555555555555555

ใจจริง กุก็อยากจบการรับรู้ไว้แค่นี้
บางทีอาการเครียดมันก็แค่อะไรงง ๆ โง่ ๆ
ที่หาทางออกของความทุกข์ของชาวบ้านไม่เจอป่ะวะ

บางทีกุก็ขำตัวเอง สร้นตรีนหมาเน่า
บางทีกุก็ไม่เข้าใจหรอกนะ กุจะเครียดทำไมฟร่ะ
ก็ในเมื่อ กุมาเพื่อช่วยผู้คนพวกนี้นี่หว่า
มันไม่ใช่ปัญหาของกุป่ะวะ
แล้วกุจะเก็บมาเครียดเพื่อ ก็แค่แก้ปัญหาให้คนพวกนี้ไม่ได้
ก็ช่างมันเถอะปล่อย ๆ ไป อย่างที่ใคร ๆ เขาก็ทำกันป่ะวะ

555555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555555



"เมิงทนเห็นอยู่ไหวเหรอนังยาย?"

แต่บางทีกุก็คิดนะ ..ตัวมันเองยังไม่คิดเลย
แล้วกุจะคิดแทนมันทำไมฟร่ะ?????

ไม่คิดค่ะ อิยาย ยังไม่ถึงเวลาที่ยายจะต้องใช้สมองส่วนเวลาช่วงนี้
กับเรื่องที่มันยังมาไม่ถึงเรา
ตัวใครตัวมัน ชีวิตใคร ชีวิตมันสิคะ

เราจะไม่เอาพื้นที่ของความสุขแทนค่าด้วยความทุกข์ใจของชาวบ้านนะคะ นังยายขาาาาาาาาา

แอ่ๆๆๆ เห็นป่ะ กุปลูกดอกไม้ไว้บานสะพรั่งเชียว
555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555

แต่บางทีกุก็คิดนะ
กุควรไปพบจิตแพทย์ได้ยังฟร่ะ

555555555555555555555555555555555555555

ตอนนี้กุยังยึดหลักกุอยู่อย่างหนึ่งว่า
เมื่อใดก็ตาม ที่เรายังควบคุมสถานการ์ได้อย่างมีสติดีอยู่
แปลว่า "กุยังไหว?" เคมีในสมองกุยังโอเค
ยังไม่ต้องการปรับ
ถึงกุจะนอนไม่ค่อยเป็นปกติอย่างชาวบ้าน
แต่ก็พอมีเวลาให้หลับตาลงบ้าง
ถึงจะมีเสื่อโยคะเป็นที่นอน
ก็ยังดีกว่า ไม่ได้ใช้ชีวิตแนวราบบ้างเลย

...........................................

แวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลง
วันนี้โทรกลับบ้าน ไม่ได้กลับหลายวันแล้ว
ได้รับข่าวดี
ป๊ะหายเป็นปกติแล้ว เดินได้แล้ว ใช้ชีวิตปกติได้แล้ว
คือยินดีที่สุดก็เรื่องนี้ พยุงใจขึ้นมาได้มาก

มิเสียแรงที่ยอมเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อก้าวข้ามตัวเอง
ทีนี้ก็เหลือการรักษามันให้คงไว้ อย่าให้สูญค่าไปอีก
พยายามมาหลายครั้งแล้ว
แต่มันยึดติดความสบายตัวสบายใจ
ใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ นอกกรอบมานานแสนนาน จนผู้คนติดภาพนี้
พอต้องกระโดดกลับไปที่เดิม
มันยังไม่ชิน นอกจากเราไม่ชินแล้ว คนรอบตัวที่ไม่รู้ว่าเราเป็นยังไงมาก่อน ก็มีอาการประหลาดใจจนเสียมารยาทขอเอ่ยถาม
เมิงกล้าถาม กุก็กล้าตอบ
ก็ดี จะได้ดูใจตัวเอง ดูอีโก้ตัวเอง
ว่าจะลดลงมากแค่ไหน
ยอมที่จะทิ้งตัวเองได้มากแค่ไหน

มันยากตรงที่ ทำไมความเป็นตัวเองที่ติดมาตั้งแต่เกิด
มันช่างเป็นยากเย็นเสียเหลือเกิน
ก็เป็นมาตั้งแต่เกิดป่ะวะ มันควรจะง่ายดายสิ
แต่สำหรับนังยาย แม่งยากเย็นเสียเหลือเกิน
ยากที่สุดในชีวิตกุแระ ไม่เคยทำอะไรแล้วรู้สึก
ขัดใจอะไรไปเสียทุกอย่างแบบนี้เลย

ไม่ทำก็ไม่ได้แล้ว ไม่อยากให้มันรู้สึกผิดติดตัวไปตลอดชีวิต
ความรู้สึกผิดลึก ๆ มันกัดกร่อนจิตวิญญาณจนแทบจะสิ้นพลัง
จะต้องกล่าวคำขอโทษขออภัยอีกสักกี่แสนล้านครั้งก็คงไม่หาย

สำเหนียกไว้นะยาย
ไม่พลาดคือทางรอดสุดท้ายของสรรพชีวิต
อย่าทำให้ใครเดือดร้อน


ถ้าจะป่วย ..เมิงก็ตายไปเสียเลยเถิด.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:23:33:17 น.  

 
#วันที่๑๒๙ครั้งที่๒ เริ่มต้นไม่ดีแต่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

ผู้คนมุ่งตรงมาหายาย
หลายคน ทั้งมาเอาประโยชน์
และมาให้ข้อมูล

ได้รู้อะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นอีก
ดีเหมือนกัน มันทำให้เราอ่านอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยเข้าใจออก
ได้เห็นภาพรวมชัดเจนขึ้น
ในสิ่งที่ยังไม่เคยเข้าใจ

ก็แค่นี้เอง เขาก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง
ยิ่งรู้ยิ่งปลง

หมดคำวิจารย์ ไม่อยากยุ่งเกี่ยว
และไม่อยากคิดถึง

ได้แต่บอกกับตัวเองว่า
"อย่าทนจนกระทั่งความเกลียดมนุษย์ในใจมันพอกพูน
จนหมดความอยากเป็นมนุษย์"

ถ้าตราบใดที่กุยังต้องพึ่งพาลมหายใจ
ขอโลกสวย ๆ ไว้ให้กุได้ชื่นชมบ้าง

คนยังมีอยู่อีกเยอะ
ถ้าทำอะไรตรงนี้ไม่ได้มากไปกว่านี้
จากลากันด้วยดีเถอะ

กฎของการเสือกข้อสำคัญคือ
เมิงไม่สามารถจัดการเสือกเรื่องของเขาได้
ถ้าเขาไม่อนุญาตให้เมิงยัดเยียดสิ่งที่ดีกว่าเข้าไปในชีวิตของเขาได้.

ความปรารถนาดีต่อกันรู้ แต่ไม่ใช่จะใช้ได้กับคนทุกคนบนโลก

.......................................

สำเหนียกไว้นะ...

พี่ไม่ได้เก่งเว้ย
พี่ไม่ได้แข็งแรงด้วย
กุแค่พร้อมจะมีเรื่อง

เวลากุพร้อมอ่ะ เรื่องไม่ค่อยจะอยากมาหากุร๊อก
พอกุเผลอนะ สะเหล่ออยากจะมาหา สร้นตรีนหมาพวกนี้

พอจะจับสังเกตออกนะ
ว่าเขาพยายามหาโอกาสพูดอะไรบางอย่าง
แต่ถ้าพูดไป มันต้องหยั่งชั่งใจหลายสิ่่งหลายอย่าง
เพราะความเอาหักอย่างเดียวของนังยายนี่แหละ
กุจะไม่งอให้ใครทั้งนั้น
เอาดิ กุไม่แดรกปลาเก๋าหรอก กุแพ้อาหารทะเล

....................................
อยากบอกอะไรบางอย่าง
แต่พูดไปตายเกลื่อนครึ่งเมือง

ขอเวลาสักระยะ
จัดการกับตัวเองได้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองพอใจเมื่อไร
กุจะดับเครื่องชนมันทุกคนบนโลกเลย

ตอนนี้บอกตรง ๆ

ยาย ไม่ พร้อม.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:2:54:26 น.  

 
นังยาย ...พี่ว่าเมิงเอาเวลาไปใส่ใจชีวิตชาวบ้าน
และครอบครัวชาวบ้านมากเกินไปแล้วนะ
เกินครึ่งของวันทีเดียว
วัน ๆ นี้คิดแต่เรื่องของชาวบ้าน
เมิงช่วยกลับมาคิดเรื่องตัวเองบ้างสักสองชั่วโมงก็ยังดี
"ถือว่าพี่ขอร้องนะ"

ดูแลตัวเองบ้าง เมิงควรจะทำกิจวัตรประจำวันที่คนปกติเขาทำกัน
ให้ได้ทุกวัน เมิงจะคิดทำไม๊ หนักหนาเรื่องชาวบ้าน
มันยังไม่คิดเรื่องของมันเล้ยยยย ไปคิดแทนเขาทำไม๊
อิห่านจิก อิสร้นตรีนหมาใต้กอดอกไม้

กุได้ข่าวว่าเมิงเล่นดมท่อขี้แต่เช้า จนป่านนี้แล้วเมิงยังไม่ได้ไปอาบน้ำ
55555555555555555555555555555555

อิยาย ทำไมเมิงทำกับสังขารกุแบบนี้

55555555555555555555555555555555555

วันนี้นะ นังเด็กอ้วนมานไปงานเกษตรแฟร์ แล้ว
ยายก็สั่งให้นางซื้อกุหลาบมาให้
ไม่ได้ชอบหรอก แต่อยากปลูก
ที่อยากปลูกเพราะมีความคับแค้นใจว่า
กุวาดรูปกุหลาบทีไร ได้กุเละทุกที
แล้วกุก็ไม่เคยหลาบจำด้วยนะ
เอาฟร่ะวาดไม่ได้ ปลูกให้มันออกดอกได้ก็ยังดี
คือมั่นหน้าไง ทั้ง ๆ ที่ไม้ดอกนี่เป็นอะไรที่เคมีไม่ตรงกัน
ไปด้วยกันไม่ได้เลย

ฝากนางซื้อพันธุ์มะเขือ ป๊ะอยากได้
จะเอากลับไปให้ จะได้มีอะไรทำบ้าง
กลัวจะเฉาเหงาเกินไป
แล้วนางก็ซื้อว่านหางจรเข้พันธุ์ใหญ่เบ้งเลยมาให้

กุตกใจอ่ะ ตกใจมาก เห็นแล้วสะท้านอก
เHี้ยแล้วไง ใหญ่ขนาดนี้แล้วกุต้องซื้อกระถางขนาดไหน
แล้วกุจะเอาไปไว้ที่ไหน ถ้าเอาขึ้นห้องนี่กุตายแน่ ๆ
กุคงต้องใช้ดินสักสิบกระสอบอ่ะ
55555555555555555555555555555

สึด หาพันธุ์มาให้ไม่ได้ดูสังขารกุเล้ยยยยยย

แล้วนางก็รีบไปพร้อมบอกว่าให้สองผืน
พี่ก็ยังไม่รู้หรอกนะ ว่าคืออะไร
จนมาเปิดดูจึงรู้ว่าเป็นผ้าคลุมไหล่ที่ชอบ
แต่เราเอามาให้กับศีรษะ

อันนี้ไม่ได้สั่ง นางซื้อมาฝากให้ใช้

วันนี้เป็นอะไรที่มีคนเข้ามาคุยด้วยเยอะ
ด้วยหลากหลายสาระมากมาย

มีทั้งเรื่องที่น่ายินดีและเรื่องที่น่าเป็นห่วง
เรื่องเยอะเสียจน ไม่อยากจำสักเรื่อง

....................................
พรุ่งนี้จะทำอะไรยังไม่รู้
คิดถึงเด็กที่บ้าน
นี่คงเป็นปีแรกที่ทำงานอยู่คนเดียว
ทุกอย่างดูง่ายดายขึ้น
บนความลำบากใจ

เสร็จจากเดินทางรอบนี้
อะไร ๆ คงชัดเจนขึ้น

ช่วงนี้ก็ใช้ชีวิตแบบงง ๆ โง่ ๆ ไปก่อน

ไปอาบน้ำนะยาย แล้วเมิงควรจะพากุไปใช้ชีวิตแนวราบบ้าง
เมิงควรไปดูแลต้นไม้กุบ้าง
นางสะแล๋นแต๋นจะออกดอก นางน่ารัก
พรุ่งนี้เมิงต้องไปหากระถางมาใส่ว่านหางจรเข้ที่เพิ่งได้มา

ให้กุวางไว้ที่ไหนฟร่ะ???????????????????

เออเนอะ นี่ปัญหาใหญ่หลวงของเมิงเลยนะเนี่ย

คิดสิคิด น่าคิดกว่าเรื่องชาวบ้านตั้งแยะ



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:3:15:29 น.  

 
#วันที่๑๓๐ เรื่องเยอะเกินไป
#วันที่๑๓๑ครั้งที่๑ ความเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรมแต่ก็ทำใจไม่ได้สักที

อยากจะเขียนจดหมายลาตายล่วงหน้าไว้ก่อนเลย
ไม่อยากทำแล้วจดหมายเหตุรัตนโกสินทร์ มันปวดร้าวใจเกินไป
ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงและไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเฝ้าดูทุกอย่าง เฝ้าดูทุกคนจากไป

กุตายก่อนได้ไหม? นะ ให้กุไปก่อน
เป็นน้องมานาน อยากไปนอนรอเป็นพี่เขาบ้าง

เริ่มรู้สึกอิจฉาคนไปก่อน ไปเร็ว ไปในเวลาที่เหมาะสม
น่าอิจฉา

นอนเล่น ๆ ในหลุมศพคงจะชิวกว่าใช้ชีวิตอยู่กับคนมากมาย ๆ
เยอะ ต่อให้ต้องถูกทรมานกับความไม่รับผิดชอบตัวเอง
แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครบอกอยากกลับมาหากุสักคน

ป๊ะเคยสอนว่า มีชีวิตอยู่ ใช้เผื่อคนที่เขาไม่มีโอกาสกลับมาด้วย
ชีวิตเรานี้มีไว้เพื่อคนที่จากไปแล้ว

สอนอะไรกุเนี่ย สอนให้รู้จักแต่แบกรับอะไรก็ไม่รู้

บ่นไรของเมิงวะยาย
อยากตายก็เริ่มต้นหาไรทำสักอย่างได้แล้ว
อะไรที่ทำแล้วรู้สึกว่า
วันหนึ่งที่กุไปนอนที่ไหนในเวลานานแสนนาน
จะรู้สึกอิ่มใจ ไม่อยากกลับมาเพื่อแก้ไขอะไรอีกแล้ว
อะไรที่ทำแล้ว จะไม่เป็นภาระของลูกหลาน
อย่างที่กุรู้สึกอยู่อย่างทุกวันนี้

หึ ขอโทษที่บ่น

ไม่ได้ท้อเว้ยยย
กุแค่เบื่อ กับการทำความเข้าใจความรู้สึกตัวเอง

บางทีก็แค่อยากให้ภาพในวัยเด็กกลับมา
ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่า
ยิ่งนับวันความสงบจะห่างไกลออกไปทุกที ๆๆๆ ก็เหอะ

ไม่เป็นไรมั้ง

เมิงมีหน้าที่ตั้งใจพยายามทำ
ไม่ได้มีหน้าที่มานั่งบ่น

นังยายยยยย...คิดแล้วไม่มีประโยชน์ คิดทำไม?


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:23:08:57 น.  

 
ครบสี่เดือนที่วันนี้สินะ...เร็วเนอะ

ตลอดสี่เดือนมานี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับความรู้สึกเห็นได้ชัดเจน
เหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนหวงความรุ้สึกแย่ ๆ
ปกติแล้ว เมื่อรู้สึกไม่ดีต้องระบายออกมา
ต้องเอามันมาตีแผ่ดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เลวร้ายแค่ไหน เจ็บช้ำปานใด
แต่ครั้งนี้ มันเขียนไม่ออก
ไม่รู้จะใช้คำใดแทนค่าทุกความรู้สึก
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ที่เป็นอยู่มันเรียกว่าอะไร
ไม่อยากจำ ไม่อยากจด ไม่อยากแม้แต่จะรับรู้ว่ามันเกิดขึ้นมาแล้วจริง ๆ จุกแน่นในอกว่ะ เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ เฮ้ออออ

แค่จะพูดยังยากเลย

จะเป็นแบบนี้ไปอีกถึงเมื่อไร
จะนับวันแบบนี้ไปอีกเท่าไร
ภาพที่เซฟเก็บไว้ยังไม่กล้าดูทุกรูป
ได้แต่เก็บ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ
ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มแววตาเป็นประกายซึ่งไม่ค่อยได้เห็น

เก็บเหรียญที่ตกในที่ต่าง ๆ ได้หลายเหรียญทีเดียว
ผู้คนไม่ค่อยสนใจ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ใครต่อใครจะเดินเหยียบย่ำไปย่ำมา มันไม่ใช่สิ่งของที่จะตกต้องถึงพื้นด้วยซ้ำ

มีหลายสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงไปตาม ๆ กัน
เกือบจะแทบทุกอย่าง
หลายคนจากไปตาม ๆ กัน

จะให้พยายามคิด พยายามทำยังไงยายก็ไม่ชิน
เอาให้ยอมรับให้ได้ก่อน
ถ้ายังเป็นแบบนี้
ยายไปต่อไม่ได้ บอกตรง ๆ

เสพติดความดี หยุดทำแล้วรู้สึกแย่
จริง ๆ ก็ทำอยู่ทุกวันแต่เมื่อมันเสพติดแล้วมันต้องเพิ่มขึ้นๆๆๆ
ถึงจะดึใจเอาอยู่

................................

อย่าเอาความรู้สึกของทุกเรื่องมายำรวมกัน
ยายต้องแยกแยะเว้ยยย

ถ้าการหลอกตัวเองมันทำให้อยู่ต่อได้
ก็ช่างแม่งเหอะ กุยังรับไม่ได้
ไม่เห็นจะเป็นไร ยังพอมีเวลาอีกตั้งหลายเดือน

จะให้รีบยอมรับไปไหน

อย่าไปกะเกณฑ์มัน
คนปกติหายไปกุยังใช้เวลาทำใจเป็นสิบปี

ไม่เห็นจะแปลกมั้ง

เขียนไม่ได้ ..ก็ช่างมันเถอะ.





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:2:36:05 น.  

 
#วันที่๑๓๑ครั้งที่๒ นอนทั้งวันเลย..หลับไปพร้อมน้ำตา

จำไม่ได้แล้ว ว่าจิตตกด้วยเรื่องอะไร ข้อดีของการไม่แจกแจงรายละเอียดมันดีแบบนี้เอง เดี๋ยวผ่านไปสักระยะก็ลืม

วันนี้พี่ขอแต่เรื่องดีดีนะ มีเท่าไรขุดขึ้นมาให้หมด

เมื่อวานเกลียดกังวลความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ อย่าง

ช่วงนี้มีคนเข้ามาเยอะแยะมากมาย มาขายขนมจีบอยากติดต่อหาผลประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่อำนาจตัดสินใจไม่ใช่ของเราซะที

ไม่เก็บไว้สักราย อยากขายก็ขายไปเถอะ ไม่ซื้อ ไม่เอา
บางคนมีเอาผลประโยชน์มาล่อ จะเอาเท่าไรก็ให้ แต่ขอให้ช่วยเขา

โถ คิดได้อย่างไร ใครเขาสั่งสอนให้ทำแบบนี้

ไปไป๊ ไปที่อื่น คนเรานี่ก็นะ ฝากอะไรไว้กับความหวัง ความฝันและอนาคต อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นโอกาสคนเราก็พร้อมจะทุ่มเทได้ตลอดเวลา แล้วก็ห้ำหั่นกันเพื่อโอกาสทางผลประโยชน์

และสุดท้ายก็สามารถทำได้ทุกเรื่องเพื่อทำลายคนขัดขวางผลประโยชน์ตัวเอง ก็แค่ความหวังแท้ ๆ ถ้าไม่มีความคาดหวัง ไม่โลภ ทุกเรื่องอันเลวร้ายจะไม่เกิดบนโลกใบนี้

"ความหวัง" เป็นตัวอันตราย มีทั้งประโยชน์และมีทั้งมหันตภัย

นี่คือเรื่องดีดีแล้วเหรอ? นังย๊ายยยยยย

เอาดีดีดิ๊ ..
........................................

อืมมมมมมมมม

อย่าคิดนาน มันพอมีอยู่แหละ คิดสิคิด

เมื่อคืนวาน ซื้อขนมปากิมเจ้าใหม่มาสองถ้วย
คือเขาทำแบบไม่หวงกะทิ อร่อยหวานมัน ชอบกิน
ซื้อทีก็จะมีมาฝากแม่บ้านด้วยเสมอ

ไม่อยากกินคนเดียว แต่เมื่อวานไม่ได้ให้แม่บ้านไว้
เกรงว่าเขาจะคิดว่าเอามาบรรณาการที่ฝากนั่งแทน

เลยไม่ได้ให้ เดี๋ยวเสียนิสัย

ตอนแรกคิดว่าจะเก็บไว้กินคนเดียวสองถ้วยเลย
กินรอบดึก เผื่อหิวไรงิ
พอกำลังนั่งกินลุงแกมาพอดี

มันแบบเออกุกินอยู่ แล้วกุก็อร่อยพึงพอใจด้วย
กุจะกินคนเดียว
ไอ้คำสุดท้ายนี่สะกิดใจ กินคนเดียวอร่อยป่ะ
ไม่ได้แบ่งอะไรให้ลุงแกนานมากแล้ว
ตั้งแต่หมั่นไส้แกที่ไปเข้าข้างเชียร์คนผิด

พี่งดความเมตตาทุกอย่างเลยนะ
แล้วอีกไม่นานแกก็ต้องไป

ไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้เลย
ความเป็นจริงแล้ว
เราอยู่ด้วยกันทุกวัน
ถ้าเคมีเราไม่ได้ต้านกันขนาดนี้
อย่างน้อยพี่ก็คงจะมีความสุขบ้างเล็กน้อย
แต่เพราะอะไร ๆ มันรวมกันไม่ได้จริง ๆ
เรากลายเป็นคนจิตวิตกจริตกังวลทุกสิ่งอย่าง

วางใจอะไรไม่ได้ แต่ก็ยอมแหละ ดีกว่าเกิดเรื่องแล้วมาแก้ไขทีหลัง

เอาชนะตัวเอง ปากิมอีกถ้วยตัดใจไม่กิน
แล้วยกให้ลุงแก่

แกดูดีใ่จเพราะตั้งแต่พี่เอ็ดไปคราวนั้น
พูดไม่ดี ไม่มีหางเสียงแล้วยังไม่เคยทำอะไรดีดีให้แกอีกเลย

ปกติก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว สันดานกุไม่ดีไง

พอทำอะไรที่เรียกได้ว่าดีขึ้นมานิดนึง
ดูเขารู้สึกดี และพี่ก็มีความสุขไปด้วยนิดนึง

ดีจัง เอาชนะตัวเองได้

55555555555555555555555555555555555555555


หลายวันมานี้ หลานสาวแม่ของเด็กหญิงเด็กชาย
เริ่มติดใจการเสพแสงจากพี่ตะวัน
ช่วยกันเก็บตะวันมาฝากยายทุกวันเลย
รู้สึกดีมากมาย นางเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง
หลังจากที่ผ่านวิบากกรรมหนักหนาสาหัส
พี่เริ่มเห็นแววของแสงสว่างที่ปลายทาง
จากเด็กสาวที่มีแต่ความทุกข์ในใจแผ่ขยายมาถึงลูก ๆ
ตอนนี้ประกายความสุขมันเริ่มฉายแวว

งานหนักที่เคยเหนื่อยใจว่าจะแก้ไขพฤติกรรมเด็กหญิงเด็กชายยังไง พอคนเป็นแม่เริ่มคิดได้ ตั้งตัวติด เริ่มรักตัวเอง
และเริ่มที่จะรู้จักสร้างความรักความอบอุ่นให้ลูก ๆ ได้
ถึงแม้ว่าสถาบันครอบครัวเขาจะเหมือนขาดอะไรบ้างอย่างไป
แต่ถ้าคนเป็นแม่เป็นได้ทั้งพ่อและแม่ได้ ความขาดที่หายไป
ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ดีกว่า มีอยู่แต่สร้างแต่ผลร้าย

เมื่อความรุนแรงและความทารุณไม่เกิดขึ้นในชีวิต
ไม่ต้องดำเนินชีวิตด้วยความหวาดระแวงใด ๆ
ความสดใสและความสุขมันก็สร้างขึ้นได้ไม่ยาก

ไม่น่าเชื่อนะ ว่าความรับผิดชอบในน้ำเงินแค่ไม่กี่หมื่น
ซื้อคนได้ทั้งชีวิต
เขาเหมือนถูกซื้อไปด้วยเงินไม่กี่หมื่นทำให้คนในครอบครัวหมดสิทธิ์ชี้ขาดในทุกเรื่อง พออดีตสามีทำเรื่องไม่ดีต้องโทษ
ทำให้ต้องเสียเงินค่าอะไรมิทราบไม่กี่หมื่น เด็กคนนี้ต้องรับผิดชอบตรงนั้นแล้วพอตัดสินใจแยกทางกัน ด้วยอะไรมิทราบเขามิได้เล่าให้ฟัง เขายอมจ่ายตรงนี้ให้แทนเหมือนแลกกับอิสรภาพตัวเองกลับมา อะไร ๆ มันดูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหมดเลย
ที่เหลือก็ค่อยมาเยียวยากันทีหลัง
อยากจะบอกว่าเป็นความรู้สึกดีดีที่ไม่ได้ปล่อยปละละเลยในวันนั้น
ถ้ามัวแต่แยกลูกเขาลูกเรา จนลืมไปว่า เด็กก็แค่ผ้าขาวที่อาจจะมีเปื้อนฝุ่นไปบ้าง ถ้าไม่ตัดสินใจตอนนีั้น ตอนนี้ไม่รุ้จะเป็นยังไง
การขายฝันของเด็กวันนั้น มันเป็นการสร้างนิสัยที่ดี
ทำให้วันนี้ทำงานได้ง่ายขึ้น มีกำลังใจมากขึ้น
อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า เราเริ่มมีทีมแล้วนะ

เราไม่ได้ทำงานคนเดียวแล้ว

แผ่ขยายวัฒนธรรมกันต่อไป
เรื่องนี้ ดีที่สุดแล้วตอนนี้
สี่กุมารของพี่กำลังจะเข้มแข็ง
แข็งแกร่งเมื่อไรจะให้ออกไปแสดงอภินิหาร
555555555555555555555555555555555

บอกตรง ๆ ว่า กุคาดหวัง
หวังเอามาก ๆ ในเมื่อไม่มีใครทำให้
อยากเห็น อยากได้
ก็ต้องทำเอง สิวะ

.....................................

เรื่องอื่นๆ ชั่นแม่ม.
จะหลับทั้งน้ำตาอีกกี่คืน ก็ช่างมันปะไร


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:22:25:31 น.  

 
ไหน ๆ 132 ครั้งที่1และ2 สร้นตรีนหมาจริง ๆ เชียว
อดซะอิ่มทีเดียว 555555555555555

หิวเหรอ? แย่เหรอ?
วันแรกมันง่วงเว้ยยย ไม่ได้นอน แล้วแบบหล่นๆ
ต้องทำงาน แต่ตาจะปิด คืออยากซดกาแฟนั่นแหละ
พี่เขาบอกมีซุปเนื้อ แล้วร้านนี้นะ ไม่ได้ขายประจำ
ปกติเป็นคนทำกับข้าวอร่อย ซุปเนื้อที่ไม่ได้ใส่น้ำส้มและรสจัด
เคี่ยวเนื้อจนนุ่มมันน้อย หายากมาก
ถึงมีก็ราคาสูง พอร้านนี้ทำเป็นเมนูพิเศษ
มันก็อดไม่ได้ที่จะไม่ลองชิม ซึ่งปกติเป็นคนงดกินเนื้ออยู่แล้ว
พลีชีพอ่ะ บอกเลย ปรุงรสด้วยพริกขี้หนูสวนกลิ่นหอม
เคี่ยวเนื้อทั้งคืน แถมมีส่วนหางวัวติดมาด้วย

วันที่มันแบบเพลีย ๆ เซ็ง ๆ พอได้กินอะไรที่แปลกแตกต่างจากปกติ คือดีอ่ะ ระยำคนจริงจัง 55555555555

เป็นการแพ้ตัวเองได้อร่อยจริง ๆ

................................
แล้ววันนี้อีกกลับบ้านเนอะ พอกลับบ้านก็ต้องกินข้าวบ้านสิ
จะต้องเดินทางอีกไม่กี่วัน ไปหลายที่
แต่ละที่ไปธุระสะสางหลายเรื่อง
บางที่มีบอกอีก หากินเองนะ
แล้วเคยไปไง ไม่มีร้านอร่อยอยู่รอบ ๆ นั้นเลย
กินไม่ได้ด้วย ไปอยู่ตั้งหลายวัน
นังยายนี่แบบจะพกครัวเคลื่อนที่ไปด้วย
คือยังไงก็ต้องเก็บวันให้หมด ไม่อยากพลาดแล้ว
กลับบ้านแม่บอกว่า จะทำแกงส้มมันให้กิน
แปลกใจ อะไรคือแกงส้มมัน
ไปหาซื้อผักมาให้แม่
ทุกทีแม่จะใช้พริกแกงที่ซื้อเขามาปรุงเพิ่ม
แต่แกงหม้อนี้แม่โขลกน้ำแกงเองทุกอย่าง
พริกแห้งแม่ผสมพริกสดเพิ่มรถจี๊ดจ๊าดเข้าไปด้วย
กะปิแม่ก็ใส่เพิ่มจนกลิ่นโชยเตะจมูก
หอมแม่ก็ใส่แบบล้นครก ครกแค่ไหนใส่หอมแค่นั้น
ไม่รวมเนื้อปลาที่โขลกน้ำแกงนะ ล้นอ่ะจ้ะ
ตอนแรกว่าจะกินตอนเย็น
พอแม่ให้เอาเครื่องแกงขึ้นต้ม ปรุงรสแล้ว กลิ่นมันหอมหวลยวนใจมาก อดใจชิมรสไม่ได้เลยนะ
ชอบชิมรสหน้าเตา สรุป ก็อดจนอิ่มอีกวัน

กินไม่รู้จักอิ่ม กินจนท้องจะแตก
ระยำนังยายจริงจัง
5555555555555555555555555555555555

ยิ่งมันไม่ได้กินข้าวบ้านนานเท่าไร
อารมณ์ทุรนทุรายยามเห็นหม้อแกงมันก็พลุ่งพล่านเท่านั้นนะ

ครัวบ้านนังยายนี่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตกลางวันมาก
เข้าบ้านไม่ได้แระ

5555555555555555555555555555555555

ถ้าเมื่อไรจิตตกต้องรีบกลับบ้านอ่ะ
เอาอารมณ์เฮงซวยไปโยนใส่ครกแล้วผสมลงหม้อแกง

สร้นตรีนหมา ถ้ากินได้เหมือนอุ้งตรีนหมี ป่านี้กุรวยแล้ว

............................................

ไม่อยากเดินสำรวจรอบบ้าน
ถ้ามันจะเปลี่ยนแปลง ขอดูอีกทีตอนเสร็จเลยแล้วกัน
จะได้รับรู้ทีเดียว

เริ่มจะแน่ใจแล้วว่า อะไรคืออะไร

วันนี้พาป๊ะ กับ แม่ไป รพ.
พอจะเริ่มหายใจได้ดีแล้วบ้าง
อะไร ๆ เหมือนจะดีขึ้น
ประคับประคองกันต่อไป
ไม่มีสิทธิ์จะบอกว่าเหนื่อย
หันไปทางไหนก็มีแต่เรื่องต้องให้เคลียร์
รอให้ไปเคลียร์

อะไร ๆ ยามจะมา ก็มาพร้อม ๆ กันทุกทิศทาง

คนที่ไม่เคยมีเรื่อง อยู่ ๆ ก็อยากสร้างเรื่อง อยากจะมีเรื่องขึ้นมา
คงได้เวลาที่เขาต้องออกไปจากที่นี่กระมัง

ต้องนิ่ง ๆ เข้าไว้อีกใช่ไหม?

ผู้ใหญ่ด้วยกัน เวลาจะตบตีกัน มันก็ดีอย่างนี้เอง
นิ่งใส่กัน ใส่หน้ากากเข้าหากัน

แบบนี้ใช่ไหม? ที่เขาเรียก
ฉลาดมาก วินาศมาก
ฉลาดลึก วินาศลึก

เสแสร้งมาก ร้ายมาก
เสแสร้งลึก ร้ายลึก

ขู่คนของตัวเองว่า
ถ้าใครเป็นชนวนให้เขาฉะกัน คนนั้นไปให้การณ์กับตำรวจเอง
ไม่ช่วยและไม่เคลียร์ให้ เออได้ผลนะ

เอาดิ เอาสิ เขาจด ๆ จ้อง ๆ กัน ยิ้มสวยแยกเขี้ยวใส่กัน
ใครเปิดฉากก่อนคนนั้นแพ้
เหมือนเล่น มดตะนอยมาต่อยต้นพริกคนไหนดุกดิกคนนั้นต้องตด.




คืออะไรคนพวกนี้
เปิดเผยตรง ๆ ไม่ได้เลย
เคลื่อนไหวอะไรก็ต้องแอบ ๆ หลบ ๆ มุด ๆ
ขนาดกุจะบ่น กุยังต้องแอบบ่นเล้ยยยย

เอาดิ เอาดี๊

พอแล้วยาย .. ระยำขนาดนี้ จะไปคิดถึงมันทำไม? หึหึ


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:22:35:28 น.  

 
#วันที่๑๓๒ครั้งที่๓ ทีเดียวนะเออ ..แล้วมันก็ผ่านไป

ช่วงนี้มีแต่เรื่องนะ บางเรื่องก็ไม่อยากยุ่งด้วย
แทบจะไม่อยากเดินไปหาเพราะไม่อยากรับฟัง
ไม่อยากเป็นชนวนให้คนเขาขัดแย้งกันรุนแรง

ช่วงนี้มีคนจะเดินจากไปหลายคน
หนึ่งในนั้นมีแม่ลูกคู่หนึ่ง
ที่ผู้เป็นลูกเคยถามนังยายว่า
"เด็กวัยรุ่นเป็นยังไงเหรอ? ทำไมพี่ถึงมีปัญหา"

คือวัยรุ่นไม่มีอะไรหรอก ถ้าไม่มารวมกันเยอะ ๆ
พี่ก็ไม่ได้อยากต่อว่าวัยรุ่นทุกคน
เด็กดีดีพี่ไม่ว่าหรอก แต่ที่ัดักคอไว้คือ
เคสที่จะมาหาพี่เพียงลำพัง พี่ไม่รับ อยากมา
เอาผู้ปกครองมาด้วย เพราะพี่จะไม่คุยกับเด็ก
จะคุยกับผู้ปกครองเท่านั้นจ้ะ
เขาดูเข้าใจ และรับฟัง
ที่จริงเขาเป็นเด็กที่ดีทีเดียวเรียนเก่งไม่เกเร
เพิ่งจะมาได้คุยกับแม่เขาก็วันนี้เอง
ถึงเพิ่งได้รู้้ว่า เด็กคนนี้น่าสงสาร และครอบครัวนี้ก็น่าสงสาร

ทำได้แค่นี้แหละ ยังไงก็คาดหวังว่า
ขอให้เขาได้มีโอกาสที่ดีที่จะปรับเข้าหากัน
ขอให้ได้คุยกันด้วยความเข้าใจ
เด็กที่หัวใจแหลกสลายจากคนเป็นพ่อเป็นแม่
มันร้ายกาจเกินจะเยี่ยวยา
เพราะต่อให้เขาดูเป็นคนที่ดีของสังคม
แต่ภายในใจลึก ๆ แล้ว เขาเหมือนคนเก็บกด
โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการที่พึ่งพาพึ่งพิงอิงแอบ

วันนี้เด็กพูดว่า แม่จะมาต้องการอะไร เพราะตอนที่เขาต้องการ
แม่กลับทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง
มันสะท้อนใจจนน้ำตาแทบไหล

ทำได้แค่รับฟัง แล้วก็บอกเล่าว่า
สังคมสมัยนี้มันมีคนดีดี สังคมดีดีอยู่ตรงไหน
ก็ลองไปค้นหาดู นังยายเอาหนังหน้ารับประกันว่าดีจริง
พี่ก็ผ่านจุดที่โคตรเลวร้ายมาด้วยคนดีดี กับสังคมดีดีตรงนั้นเหมือนกัน

ถ้าวันนั้นไม่ไปเจอคนพวกนั้น
นึกไม่ออกนะ ว่าตอนนี้จะฝังตัวอยู่กับมุมใดของแผ่นดินนี้
แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะเตลิดไปถึงไหน

เมื่อก่อนยามใดที่มันเครียดจนคิดอะไรไม่ออก
ชอบออกเดิน เดินไปเรื่อย ๆ เดินโง่ ๆ เดินไร้จุดหมาย
ทุกวันนี้ไม่รู้เพราะอะไร จำไม่ได้แล้วนะ
ว่าเดินโง่ ๆ คนเดียวครั้งสุดท้ายเมื่อไรฟร่ะ

ลืมไปแล้วจริง ๆ .

.......................................
เห็นแววตาของคนเป็นแม่
แล้วคิดถึงผู้ชายคนหนึ่งคนซึ่งเกิดในปีเดียวกัน
แต่สภาพโดยรวมแตกต่างกันมาก เขาหน้าแก่เกินอายุจริงมาก
วันๆ ทำงานอยู่แต่กับเครื่องจักร อยากมีเพื่อน
อยากมีคนคุยด้วย
เขาเคยบอกว่าแบบนี้

วันนั้นเห็นวน ๆ อยู่ตรงสวน พี่เลยตะโกนทัก
หวัดดี สบายดีนะ

แกดีใหญ่มาก รีบบอก ขอบคุณนะ เขาดีใจมากที่มีคนทักทาย

เออหนอ ..ชีวิต

มันทำให้คิดไปถึงใครอีกหลาย ๆ คน

มีแต่คนใจไม่ปกติ
มีแต่ความเศร้าเหงาสิ้นหวังเบือ่หน่าย
ทั้งคนที่ยังมีชีวิตอยู่ และคนที่ตายจากไปแล้ว

ยายเอาแต่ใจตัวเองอ่ะ
เมิงคิดถึงแต่ความสุขความสบายใจตัวเอง
มานานหลายปีแล้ว

การสังเกตผู้คนแปลกหน้าดูจะสิ้นประสิทธิภาพไป
ไม่สนใจใคร ไม่คิดจะใส่ใจใคร

จริง ๆ กุก็สั่งตัวเองนั่นแหละ
ว่าเลิกยุ่งเลิกคิดเรื่องชาวบ้าน
ไม่อยากรู้จักใคร ไม่อยากผูกพันกับใครแล้ว
แต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้
มันพลอยอดสงสารไม่ได้

ทำอะไรสักอย่างนะยาย
ทำเถอะ ..พี่ไม่โอเค
ถ้าตัวเองใจดีแล้ว แต่มองไปรอบ ๆ ตัวเจอแต่คนใจห่อเหี่ยว

ถ้าใจมันจะดีขึ้น มันต้องดีขึ้นไปด้วยกัน.

แบบนั้น พี่ถึงจะโอเค.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:21:13:40 น.  

 
#วันที่๑๓๓ เครียดได้ไหมฟร่ะ???

คุยกับตัวเองมาหลายวัน
ควบคุมตัวเองได้ดี
ไม่มีปัญหาขัดแย้งภายในตัวเองมาสักพักนึงแล้ว
รู้สึกดีขึ้นนะ

เวลาที่มันไม่ขัดแย้งกันรุนแรงอย่างนี้ พี่โอเค

พยายามบอกตัวเองว่า อยู่กับปัจจุบัน
อย่าไปเดือดร้อนเรื่องชาวบ้าน

มันอดคิดไม่ได้นะ
มันมีแว๊บ ๆ เข้ามาในห้วงคำนึง

เขาเตือนว่า ให้แยกให้ออกระหว่างข้อเท็จจริงกับความคิดเห็น
อย่าฟังอะไรแล้วคิดว่ามันคือความจริงไปเสียทั้งหมด
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และบางทีตาเห็นก็ไม่เท่าเนื้อในจริง ๆ
คนเรามันตบตากันได้ทีหลาย ๆ ปี
ถ้าคาดหวังกับใครมาก ๆ เข้าอาจได้ผิดหวัง
อย่าไว้ใจแม้กระทั่งตัวเอง

มีคนเตือนแล้วว่า อย่าไปยุ่งจะดีกว่า
พี่จะพยายามกันตัวเองออกมา

แต่บอกเลยนะ เตือนไว้ก่อน

พี่จะพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเสมอกันแต่ ...

อย่าเถียงกุแม้แต่จะคิด

ถ้าเถียงกุเมื่อไร แม้กระทั่งกระทบกระทั่งก็เถอะ
กุเอาตาย กุบอกเลย

ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย

ถ้ากุทำอะไรก็ไม่ได้ด้วย
กุหนีเข้าป่าอ่ะ
คือรอฟีลลิ่งนี้มาเนิ่นนานหลายปีแล้ว


555555555555555555555555555555555555555555

เอาดิ ..จะเครียดไปทำไมฟร่ะ
ไม่ใช่ปัญหาของกุนิ

คนสร้างเรื่องมันยังไม่คิดเล้ยยยย
ไปคิดแทนเขาทำไม๊

เวลาก็มีอยู่น้อยนิด
พลังก็มีอยู่จำกัด
เอาอะไรมาให้กุทำหนักหนาล่ะเนี่ย

เพาะมะเขือไว้ จะขึ้นไหม?
ฝากเด็กอ้วนรดน้ำต้นมะเขือ
นางบอก เมิงหิ้วไปด้วย สึด

พึ่งพาอะไรให้ดูแลบรรดานาง ๆ ของพี่ไม่ได้เลย
คนพวกนี้นะ จำไว้
ต้นไม้ใครต้นไม้มัน
มันไม่ยอมดุแลให้กันจริง ๆ นะ

รดใครรดมัน จะเผื่อแผ่เจ้านางกุบ้างก็ไม่ได้

สงสารนางว่ะ

ต้องหาวิธีทำน้ำหยดใช้ได้สัปดาห์แล้ว
ไปตั้งหลายวัน เพิ่งจะเพาะยังไม่งอกเลย
แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะงอกเมื่อไร

จะรอดบ้างไหม? น่าสงสารแท้ ๆ

ลุ้นมะเขือให้งอกนี่น่าเครียดกว่าตั้งแยะแน่ะนังย๊ายยยยยย

555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:1:07:57 น.  

 
#วันที่๑๓๔,๑๓๕ เก็บได้ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว

ออกเดินทางครั้งนี้อุปสรรคมากมายไปหมด
แต่ก็มีความโชคดีที่ได้พบเจอแต่คนดีดี มีน้ำใจ
ไปที่นั่นแต่ละครั้งไม่เคยรู้อะไรเลย
ไปมันทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ ไม่รู้กระทั่งว่าจะไปซุกหัวนอนที่ตรงไหนให้สะดวกสบายใจ ตลกตัวเอง ตลกเพื่อนด้วย
นางก็ยอมไปด้วยกัน ทุกที่เหมือนกัน
เจอนางครั้งแรกก็นอนด้วยกันเลย
คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน นอนด้วยกัน
ย้ายที่นอนหลายที่ ก็ยังคงนอนห้องเดียวกัน

ไม่ได้สนิทกันเลยนะ รสนิยมก็แตกต่าง
เคมีดูจะไปกันคนละสูตร ถ้ามีใครอีกสักคนที่มีข้อจำกัด
มารวมตัวกัน คงอดตายกันทั้งหมด
ต่างคนต่างมีข้อจำกัด แต่เราก็ไปด้วยกันเสมอทุกครั้งที่มีภารกิจแบบนี้ นางมีแค่ใจเท่านั้นแหละ ที่พอจะเข้าใจไปด้วยกันได้

ใจนางงดงาม ใจนางสวย
วันเดินทาง ไปหากินแต่เช้า
พอนั่งรถอาการโรคกระเพาะนางกำเริบ
ยุ่งวุ่นวายต้องเปลี่ยนแผนเดินทาง
ยังไงก็ต้องเอาความปลอดภัยของนางไว้ก่อน
จากที่เหมือนจะได้ไปตะลอน ๆ เดิน ๆ ๆ เอาตามความสบายอารมณ์ พี่เลยขอเซฟสังขารที่สุด

พากันไปหาหมอก่อน ฉีดยาระงับปวดกันเลย มิงั้นไปต่อไม่ได้
นั่งพักสักแป๊บ พอรู้สึกดีขึ้นค่อยเดินทางต่อ
แล้วเราก็ลากสังขารกันไปจนได้
ลงรถตู้เห็นแดดแล้วถอดใจ
อย่าว่าแต่นางเล้ยยย นังยายเนี่ย
เจอแดดแล้วไมเกรนจะกุมขมับ

วันนั้นทั้งวันเราเลยไม่ได้ไปเดินเล่นที่ไหนสักที่
พอหาที่พักได้พอใจ จริง ๆ แทบไม่ได้เลือกเลย
เจอทำเลใกล้ตลาด สะอาด ปลอดภัย คนดูแลไว้ใจได้
เราจอดตรงนั้นเลย โปร่งโล่งดีนะ
ราคาไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้อยู่ในข้อจำกัดของเรา
ดีที่อยู่ใกล้ตลาด เพราะเราต้องแบกน้ำหนักกันหลายอย่าง

ทุกอย่างดูโอเค ลงตัว เป๊ะ เหมือนคุ้นชินกับการทำแบบนี้มาก

มากันสองคนนะ ไม่รู้จักใครสักคน ไม่รู้กระทั่ง กุมาทำเHี้ยไรเนี่ย
พากันเดินไปงง ๆ ช่วยกันตัดสินใจ
ร้านรวงปิดเกือบหมดแล้วนะ ณ เวลาที่ไปเดินหาซื้อของ
ของที่ต้องการไม่มีขาย ตอนแรกคิดจะซื้อมาเก็บไว้ก่อน
พอมองเห็นป้ายร้านมีเบอร์โทรศัพท์ เราก็จัดการโทรติดต่อสั่งเอา
แม่ค้าก็น่ารัก บางร้านไม่ขาย แต่สั่งก็ทำให้ได้
ไม่เคยเจอหน้ากัน ก็รับทำให้ เออน่ารักดี

ตอนออกมาซื้อของเช้ามืดนี่ประทับใจสุด ๆ กาแฟอร่อยและถูกมาก ตลาดเช้าที่นี่ของสดและถูก ข้าวต้มขายดีดูบ้าน ๆ และน่ากิน
เราก็ลองกันแต่เช้า ชอบอ่ะ จะกลับไปกินอีก
ถ้าไม่ติดว่า มาทำธุระปะปังหลายสิ่งอย่าง จะเดินให้อร่อยเลย

ซื้อของจนถือไม่หมด บอกเพื่อนให้เอาของไปขึ้นรถก่อนไหม?
นางรีบตอบว่าไปสิ แล้วทำไมไม่บอกเล๊าาาา กุไม่ไหวตั้งนานล๊าววววว 555555555555

มีความถึกและอึด ไม่บ่นซ๊าาากคำ

กลับมาอาบน้ำ เตรียมตัวเดินทางกันเลย
พี่คนขับรถตรงเวลาเป๊ะ!!

พอไปถึง เราก็ติดต่อตามที่มาคุยกันไว้แล้ว
ข้าวของเราเยอะมาก แต่มากันสองคน
พอดีมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งมากับลูกสาวแวะมาทำบุญเหมือนกัน
เขาก็คนต่างถิ่น เราก็คนต่างถิ่นเลยชวนพี่ทำพร้อมกับหนูไหม?
หนูมากันสองคนเอง ของหนูเตรียมไว้เยอะเลย

เขาตกลงทำด้วยกัน พอเสร็จเรื่องเรียบร้อยดี
ทั้งสองคนแม่ลูกรีบออกปากชวนจะไปส่งให้ได้
เป็นธุระจัดการให้ทุกอย่าง คือ มีความน่ารักขั้นสุด
เป็นอะไรที่แบบว่า เฮ้ยยย!! ดีต่อใจมากมายอ่ะ
คนไม่รู้จักกันมาเจอกันแล้วต่างคนต่างกระทำแต่สิ่งดีต่อกัน
กินข้าวต้มร้านนั้นว่าดีแล้ว เจอสองคนแม่ลูกนี่ยิ่งดีเข้าไปอีก

ด้วยความที่ไม่ได้สนใจอะไรต่อกันเลยนะ
เราก็จำแต่เพียงว่าคนแปลกหน้าที่ดีต่อกันแค่นั้น
ไหว้ลาพี่เขาก็ลงจากรถ มาหากาแฟกินอีกคนละแก้วก่อนขึ้นรถตู้กลับ แล้วมาแยกย้ายกับเพื่อนตอนถึงกท.แล้ว เพื่อนไปต่อ
นังยายก็ไปต่อ

ไปทำไมไม่รู้แต่อันนี้รู้นะ ว่าจะไปที่ไหน
จริง ๆ แค่อยากไปนั่งนิ่ง ๆ อย่างโง่ ๆ แบบนั้น
มันมีไม่กี่ที่ในโลกนะที่ไปแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ

ลืมเล่าให้ฟังว่า ก่อนเดินทางคืนนึ้น
ไปรับเพื่อนแล้วก็ไปนั่งมองรูปบนยอดตึก
ที่นี่ก็เช่นกัน มันมีไม่กี่ที่ในโลกนะที่ไปอยู่ตรงนั้นแล้ว
ทำให้รู้สึกว่าความเจ็บปวดที่มากับกาลเวลาไม่สามารถทำร้ายเราได้

ไม่รู้ว่าไปทำไปอีกเหมือนกัน แต่รู้สึกชอบตรงนั้นมากที่สุด
ดีต่อใจที่สุดแล้ว ถ้าว่างได้อีกเมื่อไร
จะเอาเวลาทั้งหมดของวันไปนั่งโง่ ๆ ให้นานเท่านานจนรับความจริงได้สักที

วันนี้ลงเสาเอก และวันนี้ก็กลับบ้าน
แม่ถามกินข้าวได้ไหม? แล้วแม่ก็เรียกกินข้าว
เล่าให้แม่ฟังว่าพลาดทุกวันมาหลายวันแล้ว
โดยเฉพาะช่วงที่ย้ายที่นอน
เราไม่รู้ตัวเองว่า สังขารมันอ่อนแอขนาดไหนแล้ว
รู้นะว่าแพ้ฝุ่น รู้นะว่าหลอดลมไม่ดีแล้ว
แต่ไม่คิดว่ามันจะมากมายขนาดรับไม่ได้เลย

ส่วนเรื่องสร้นตรีนหมาเน่าไม่อยากไปคิดถึง
ปวดกบาล ทำเท่าที่ทำได้ แก้ไขเฉพาะเรื่องตรงหน้า
เสือกเฉพาะเรื่องที่เขายินยอมให้เสือก

นอกนั้น ชีวิตใครชีวิตมัน ตัวใครตัวมันเถอะ
ทรัพย์สินใคร ใครก็ปกป้องเอาเอง

ชีวิตเรา เราก็ต้องดูแลทำตามสัญญาให้ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นกัน.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:23:22:34 น.  

 
#วันที่๑๓๖,๑๓๗,๑๓๘ อยากเอาติงก่ายหน้าผาก
พอจะเข้าใจและรู้สึกอะไร ๆ ได้ชัดเจนขึ้น
สุดท้ายแล้วอะไรบางอย่างมันก็บอกว่า
เพราะความไว้วางใจที่ได้รับมากกว่าใคร ๆ เพื่อน
ก้อนแห่งความลำบากใจจึงกระจุกอยู่ในใจนังยายเพียงผู้เดียว

มีปัญหา กุก็รู้นะ แต่ขอตัวช่วยกุด้วย
ไม้กายสิทธิ์น่ะมีบ้างไหม?
ผ้าคลุมล่องหน
หินอัคนีถือไว้แล้วกุเป็นอมตะ
55555555555555555555555555555555555555555


สัสไม่ให้อะไรกุสักอย่าง
แต่จะให้กุทำได้ทุกอย่าง ประสาทเปล่า กุเนี่ย
อิเHี้ย ..ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างใจ
กุก็ไปรับจ้างเป็นนางฟ้าแล้ว สึด.

พอเลย เรื่องสร้นตรีนหมา ๆ พรรค์นี้
คิดได้แค่นี้ ดีที่สุดแล้ว

ชีวิตใคร ชีวิตมัน
พวกเอ็งต้องยอมรับความเป็นจริงข้อนี้
กุจะมีสิทธิ์เสือกเรื่องของชีวิตคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อ
เขายินยอมและเต็มใจต้อนรับกุให้เข้าไปเสือก
ในวันที่เขาเขี่ยผงออกจากตาเองไม่ได้
แต่ถ้าเขาไม่แม้แต่จะยอมรับความผิด
หรือไม่แม้แต่จะอยากให้กุรู้

พวกเมิงจะให้กุสร้นตรีนหมาอะไรได้ฟร่ะ

จะทำให้ก็ได้ ขอไม้กายสิทธิ์กุด้วย
นี่กุหายตัวยังไม่ได้ เหาะเหินเดินอากาศก็ยังไม่ได้
กุไม่ใช่ผู้วิเศษ สำเหนียกไว้สิ

รอกุแป๊บบบบ ...กุมีวิทยายุทธเยี่ยงผู้วิเศษขี้เป็นทองคำได้เมื่อไร กุจะกลับมาจัดการให้นะ

5555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555555

สร้นตรีนหมา นี่ดีนะ กุสัญญากับตังเองว่าจะหยุดเที่ยว
ไม่งั้นกุเข้าป่าแล้ว.
โชคดีเป็นของเมิงนะเนี่ย
สำเหนียกไว้สิ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 5 มีนาคม 2560 เวลา:2:02:28 น.  

 
...

อยู่ ๆ ก็เดินทางมาถึงจุดที่ ไม่มีอะไรจะแสดงออก
ทั้ง ๆ ที่ภายในใจมันอัดแน่นไปด้วยความลำบากใจมากมาย

รู้ทั้งรู้ แต่ก็ทำอะไรมากมายไม่ได้
ในเมื่อไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้รับรู้
จะให้นังยายทำอะไรได้บ้างฟร่ะ

พอแล้ว .. กุรู้สึกเต็มที่นานแล้วจริง ๆ

จากเคยมีมาตรฐานอยู่ที่เจ็ดหน้ากระดาษนะ
ณ จุด ๆ นี้ บรรทัดเดียว กุก็ยังเขียนไม่ออกจริง ๆ .

อึดอัด.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 6 มีนาคม 2560 เวลา:22:54:22 น.  

 
เอาจริง ๆ อ่ะ...
คนมันจะเลว ..ก็เรื่องของมันปะวะ?

เมิงจะไปเสือกเรื่องของเขาทำไม๊ นังย๊ายยยยยย

คิดทำไม
จะไปช่วยมันทำไม

กุเบื่อเมิงสองตัวในสังขารกุมาก ๆ เลย
นังสร้นตรีนหมา จะเอาอะไรก็เลือกสักอย่าง
จะให้กุยุ่ง หรือ จะไม่ให้กุยุ่ง
ถ้าจะให้กุยุ่ง กุทำอะไรได้
แต่ถ้าจะไม่ให้กุยุ่ง กุเลือกได้ด้วยเหรอ?

อิเHี้ย .. จะอะไรก็เลือกสักอย่าง

ทำสวยดีกว่า นังยาย
ถ้าจะต้องเข้าไปยุ่ง
ก็ขอกุยุ่งแบบสวย ๆ
5555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555

ยุ่งไปทำกับข้าวไป ก็อิ่มดีนะ
ยุ่งอย่างเอร็ดอร่อย ได้รสชาติ
กุต้องสรรหาเมนูเด็ด ๆ เพิ่มเติมแระ
55555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555

..........................................

เมิงควรจะนอนได้แล้วยาย
เดี๋ยวถึงเวลายุ่งแล้วหน้ากุไม่ปัง
เมิงควรจะคิดสำเหนียกไว้ตลอดเวลานะว่า
หน้ากุนี่สำคัญนัก
หน้ากุนี่เป็นนายเมิง
หน้ากุนี่แหละเป็นเรื่องควรค่าแก่การรักษา
ปัญหาเฉพาะหน้ากุเนี่ย ควรค่าแก่การใส่ใจ

เรื่องชาวบ้านคิดทำไม?
ต้องจดจำใส่กบาลไว้หนัก ๆ
ถ้าเรื่องชาวบ้านทำให้รอยตรีนกุขึ้นหน้าอย่าไปสนใจมัน

ให้มันเอาเงินมากองตรงหน้ากุก่อนแปดหลักแล้วกุจะจัดการให้
วันนี้ตอนเช้ากุแค่ฝันว่าเขาเอาตัวเลขมาให้กุตรง ๆ หกตัว
คิดเหรอ ว่าเห็นชัด ๆ แบบนั้นแล้วกุจะเชื่อ
ไม่จ้ะ

กุจะช่วยคิดช่วยและลงมือทำก็ต่อเมื่อกุมีเงินกองตรงหน้าแล้วแปดหลัก ถึงเวลานั้นกุจะกรุณาเจียดสมองอันน้อย ๆ ของกุนี่นะ
ไปคิดให้ว่าต้องทำอะไรบ้างก่อนหลัง หนึ่ง สอง สาม สี่

ตอนนี้กุต้องนอนไง
เดี๋ยวหน้ากุไม่ปัง เสียงกุเวลาด่าใครไม่ดังสามโลกนี่
ก็ยังใช้ไม่ได้

เข้าใจใช่ป่ะ

เออ ...หัดเข้าใจอะไรง่าย ๆ ซะบ้าง

อยากให้กุเสือก ก็ได้ แต่ต้องตามนี้นะ
นอกเหนือจากนี้

เรื่องของพวกเมิงเถอะ
ไม่เกี่ยวกับกรูนิ

ดอกไม้สวยกำลังเบ่งบานบนซากหมาเน่า

555555555555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:1:45:17 น.  

 
#วันที่๑๓๙ เริ่มต้นนับหนึ่งเอาใหม่..

อย่าปล่อยให้เรื่องสร้นตรีนหมาเน่า พาให้ใจเสียใจตก
จนเสียงานใหญ่ ..มันก็แค่สร้นตรีนหมาป่ะวะ
พวกเมิงมันก็แค่สร้นตรีนหมา มีค่าแค่นั้น

สำเหนียกเอาไว้

กุไม่สนใจ ก็คือ ไม่สนใจไง ตอแยอยู่ได้
เจอก็หยิบ ไม่เจอจะให้กุไปเสาะแสวงหา?
ประสาท ดูหน้ากุด้วย หน้าตากุดูโง่มากนักเหรอ?

หน้ากุนี่ ไปพบจิตแพทย์ได้ยังฟร่ะ?
5555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555

....................................

งานใหญ่รออยู่ป่ะวะ นังยาย

บางทีเมิงก็ต้องจัดคิวด้วย อะไรมาก่อน
อะไรสำคัญกว่า
เมิงอยากให้ทำ เมิงก็ต้องรอ นะหัดเข้าใจอะไรง่าย ๆ ด้วย
.. ต้องรอ ..

เมิงรอมาตั้งนาน จะรออีกสักหน่อย จะเป็นไรไป

ถ้าคิดจะมาทำให้กุไขว้เขว ฝันไปก่อน
กุแค่สับสนเรียบเรียงไม่ถูก
ไขว้เขวกับสับสน แตกต่างกันนะ
สับสนว่า ต้องยังไงต่อ แต่กุมาทางของกู๊ ดูกุด้วย
มองหน้ากุดีดีดี๊ กุมีทางของกุ
ซึ่งกุเลือกไว้นานแล้ว ไม่มีไขว้เขวนะจ๊ะ

กุก็แค่สับสนว่า มันเกี่ยวอะไรกับกุตรงไหน
กุมีสิทธิ์อะไรไปเสือกเรื่องของพวกเมิ๊งงงง
ดูหนังหน้ากุด้วย

แค่นี้เขาก็หมั่นไส้จนอยากจะฆ่ากุตายห่านแระ สึด.

.......................................

กุเข้าใจพวกเมิงนะ แต่พวกเมิงก็ต้องเข้าใจกุ ณ จุด ๆ นี้ด้วย

เคลียร์เรื่องนั้นจบ ก็ต่อเรื่องนี้ ถ้าจบเรื่องนี้ แล้วจะเจออีกสักกี่เรื่อง

เห็นกุเป็นอะไร๊

........................................

วันก่อน เจอผู้หญิงคนหนึ่ง
เขาบอกให้พี่สอนเธอหน่อย
มองเข้าไปในแววตา มันฟ้องว่าเธอเป็นทุกข์มากจนไม่อาจเก็บกลั้นแววตาได้ ..เศร้าเสียจนไม่อยากมอง

พี่ได้แต่บอกเธอว่า
รู้ว่าทุกข์ แต่ไม่จำเป็นว่าเราจะจมไปกับมัน
บอกกับตัวเองว่า รับรู้และปล่อยมันไว้ตรงนั้นไม่ต้องปรุงเสริมใส่ในรายละเอียดว่าที่ทุกข์ทุกข์ยังไง
มองให้รู้ว่าทุกข์แล้วทำทุก ๆ วัน ทุก ๆ นาทีให้มีความสุขก็พอ
แล้วเดี๋ยวทุก ๆ วันที่ผ่านไป มันก็จะกลายเป็นอดีตที่มีความสุขได้เอง

เธอดูเข้าใจและสีหน้าแววตาเริ่มเปลี่ยนไป
ดูสบายใจขึ้น

บอกเขาได้ ..แต่กุเนี่ย
กุคิดไม่ออกจริง ๆ นะ
ว่าเรื่องสร้นตรีนหมาเน่าอันนี้
กุจะมองให้เป็นเรื่องตลกโปกฮาได้ยังไง

ตลกร้ายฉิกไห

วันก่อนบอกน้องมันว่า แกเป็นคนสวยไง เป็นนางเอก
ก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้แหละ กรรมของคนสวย
555555555555555555555555555555555555

คืนนี้กุสวยไม่ได้หรอก
พรุ่งนี้ก่อนนะ กุค่อยไปทำหน้าให้สวย

55555555555555555555555555555555555555

นี่ไง ปัญหาเฉพาะหน้าของกุ
ต้องส่องกระจกชะโงกดูหนังหน้าไว้นะยาย
อย่าให้สร้นตรีนหมามาเกาะหน้ากุ นังยายจะไม่ยอม.

5555555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 มีนาคม 2560 เวลา:23:12:20 น.  

 
#วันที่๑๓๙,๑๔๐ เป็นอะไรที่ไม่สบายใจเอาเสียเลย

พอดูเหมือนจะมองเห็นทางออก ก็ถูกขัดขวาง แต่ก็เป็นที่พอใจอย่างมาก ก็ดี ไม่ให้ยุ่ง ก็ไม่ได้อยากยุ่งด้วยหรอกนะ
ตัวใครตัวมันเถอะ

เราต้องเอาตัวของเราให้รอดก่อนจะยื่นมือไปรับภาระของผู้อื่นมาแขวนคอไว้

พยายามอย่างมากที่จะไม่กินยา ..แต่ไม่รู้ว่าจะรั้งไปได้อีกนานเท่าไร หายใจไม่สะดวกเลย
อากาศแบบนี้ด้วยแล้ว แทบจะไม่ต้องคิดจะเอาแรงไปสู้

ตอนนี้ไม่มีอะไรดี มีแต่ใจเท่านั้นแหละ ที่ต้องพยายามประคองไม่ให้มันตกต่ำไปมากกว่านี้

เอานายมาอยู่เป็นเพื่อน เหมือนจะช่วยได้บ้างนะ
บางทีพี่ก็พยายามจะคิดให้มันขำเข้าไว้ แต่มันตลกร้ายเกินไปไง
กุขำไม่ออก

อยากจะเล่าให้ป๊ะฟังแทบขาดใจว่า ตอนที่เขานอนอยู่บนเตียง
ในคำว่าปาฎิหารย์ของทุก ๆ คนนั้น พี่แลกด้วยอะไรมาบ้าง
วันนี้เขาเตรียมโอนทรัพย์สินบางอย่างให้พี่ถือไว้ คงคิดพยายามจะจัดการ แต่พี่บอกเลย สิ่งที่ควรทำคือไปเฝ้าพระเจ้าที่บ้านของท่าน
เพราะนี่คือสิ่งที่เขาขอเพื่อให้ได้กลับมา เขาอ้างเดินไม่ไหว
แต่ขับรถได้ป่ะวะ ขับรถตะลอน ๆ ๆ ได้ ทำไมอ่ะ
ระยะทางแค่ไม่กี่เมตร ไม่ถึงสองร้อยเมตรด้วยซ้ำ ทำไมไปไม่ไหว

อยากบอก อยากเล่า แต่เกรงว่าความกังวลทั้งหมดที่เรามีอยู่จะแพร่กระจายออกไป ไม่อยากให้ใครเลยแม้แต่คนเดียว
จะต้องมาแบกรับหรือรับรู้ในรู้สึกเช่นนี้
มันโคตรลำบากใจ ขนาดบอกแค่อย่างเดียว ถามว่าทำไมยังไม่ไปเฝ้าพระเจ้า พอเหมือนถูกเราติง แกก็เริ่มขยับตัว ฮึดฝืนเอาอีกหน่อย

อย่ารู้เลยจะดีกว่า

........................................

ขอเรื่องดีดีบ้างได้ไหม นังยาย

เรื่องที่แบบว่า แค่คิดก็ฮาลั่นแล้ว
กุหัวเราะเต็มเสียงครั้งสุดท้ายเมื่อไรฟร่ะ
ทำไมช่วงนี้มีแต่กลิ่นความตาย สะอิดสะเอียนเต็มทีแล้้ว

คิดนานจังฟร่ะ ...เรื่องดีดีย์ ไม่มีเลยอ่อ???

- ไปนอนมาสามวัน ดีไหมฟร่ะ? 55555555555555555

คนเHี้ยไรนอนยาวได้ขนาดนั้น นี่ ๆ คือดีย์จนจำไม่ได้แล้วว่า
กุนอนยาวล่าสุดเมื่อไร ถึงสถานที่มันจะไม่หรูหราสะดวกสบายแต่กุก็สบายใจป่ะวะ สบายจังตังค์อยู่ครบ ไม่เสียค่ากิน ค่านอน ค่าเดินทางเป็นสามวันที่ไม่ได้ใช้ตังค์สักบาท ไปนอนอย่างที่ไม่ต้องใช้ความคิดสักนิดเดียว นอนโง่ ๆ อยู่กับพื้นที่ที่เหมือนจะปลอดภัยที่สุด นอนมองอะไรต่อมิอะไร มองไปมองมา มันก็อยากรู้ว่า ถ้าที่นี่ไม่มีฉันแล้ว มันจะเป็นยังไง บางทีนะ การได้อยู่นิ่ง ๆ โง่ ๆ
มันก็เป็นอีกรสชาติหนึ่งของชีวิต บางทีเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกกับทุกสิ่งก็ได้
อย่างที่เด็กหญิงติงพี่เมื่อวันก่อนที่เล่าเรื่องราวของซีอุยคนกินเด็กให้เธอฟัง เธอบอกว่า "ทำไมป้าต้องเล่าเรื่องนี้ให้หนูฟังด้วย หนูไม่อยากรู้ ป้าไม่ต้องเล่าทุกเรื่องก็ได้นะ"
55555555555555555555555555555555555555555

จริงของมันนะ เด็กน้อยมันยังรู้เลยว่า เรื่องอะไรที่ทำให้มันไม่มีความสุข ไม่ต้องรู้ก็ได้ ทำไมเรื่องง่าย ๆ แค่นี้กุต้องให้เด็กน้อยสอนด้วยฟร่ะ?

-ไปกินมะม่วงต้นหน้าบ้านมา เป็นมะม่วงการะเกด จิ้มเกลือเม็ดใหญ่ นังเด็กด๋อยมันแย่งกินด้วย และความเลวของมันนะ
มันเอาจิ้มเกลือเสร็จแล้วนางก็เอาปากมาพ่นให้กุดม เล๊ววววววว
เลวกว่ากุได้ไงอ่ะ คิดว่ากุจะยอม กุก็เอามั่งสิ แหลกอะไรแล้วกินปากแรงฟร่ะ วินาทีนั่นนะแต่อยากแดรกสร้นตรีนหมาเน่าสักสิบตัว
พ่นชี้ปากให้มันดมนี่สะใจสุด ๆ แระ นี่กุเล่นอาไร แบบนี้แถวบ้านกุเรียกรักกันปานแหกปากดม
555555555555555555555555555555555

มันคือมะม่วงที่แม่จะทำน้ำพริกมะม่วงด้วยนะ

กินมะม่วงเสร็จก็ด่าเด็กหน้าบ้าน เก่งกะหมากล้ากะเด็กจะใครล่ะ
เรียกเด็กบ้านตัวเองเข้าบ้านเด็กบ้านอื่นเลยหน้าม่อยกลับไปเลย
สมควรโดนด่านะ เล่นอะไรไม่สร้างสรรค์เอาไม้ฟาดต้นไม้ซะนี่
นังยายก็บอก เมิงลองเอาไม้มานี่ ให้กุฟาดกบาลคนละทีซิจะได้รู้สึกว่าโดนฟาดมันรู้สึกยังไง ต้นไม้อยู่ของมันดีดี หนักหัวกบาลเมิงเรอะ ผลัดกันฟาดก็ได้ ฟาดหัวเมิงอ่ะ สนุกไหม? แล้วทุก ๆ คนก็อยู่ในความเงียบ

เสร็จแล้วนังด๋อยมันก็ล้อเลียน มานี่ ๆ ดูตัวซะก่อน ตัวเท่าแมงทำเป็นเสียงดังลั่นซอย 55555555555555555555555

คือกุสงสัยมาก ๆ เลยนะ ถ้ากุไม่ด่านี่
ไม่มีใครคิดจะว่าอะไรเด็ก ๆ เกเรบ้างเลยเรอะ
จะเก็บมันไว้ทำพ่องเมิงเรอะ เกะกะเกเรไม่สร้างสรรค์อย่างนั้น
ยังจะทนดูกันอยู่ได้ ดีไม่ดีไม่รู้ รุ้แต่กุสบายใจ
555555555555555555555555555555555555555555

เรียกเด็กเข้าบ้านก็จับควายอาบน้ำ ต้องใช้คำว่าควายทีเดียว
ไล่อาบน้ำวันละสองรอบก็ยังคลุกฝุ่นเป็นควายอยู่ดี
ตลกดี อาบน้ำให้เด็กหลายเจนแล้วจากรุ่นสู่รุ่น
ถ้าโตมาแล้ว นังยายไม่ได้อาบน้ำให้นี่เท่ากับไม่ใช่หลานยายนะ
เออว่ะ เป็นหลานกุ กุต้องอาบน้ำให้ทุก ๆ คน ก็เป็นความสุขไปอีกแบบ ชอบจับเด็กอาบน้ำ มันรู้สึกดี ไม่ชอบเห็นเด็ก ๆ มอมแมม เวลาจับเด็กมอม ๆ อาบน้ำแล้วแต่งตัวน่ารัก จับมาฝึกจอมยุทธมันรู้สึกโคตรดีอ่ะ ชอบ แล้วก็ชอบที่เห็นว่าเด็ก ๆ เขาชอบ นอนตื่นสายอีกวัน นายและนายคนเล็กมาแอบถามว่า
เขาได้ดาวคนละกี่ดวงแล้ว ตอนนี้ขายฝันเด็ก ๆ เรื่องเก็บดาวแล้วจะเดินทางกัน วัน ๆ ไม่ต้องทำไรกันแล้ว
เก็บดาวกันอย่างเดียว อวดกันใหญ่ทั้งหัวดำหัวขาว
ช่วยกันอวด คือดีย์อ่ะ แจกดาวคนแกร่บ้างดีมั้ง จะได้สดชื่น
5555555555555555555555555555555555555555

เรื่องไม่ดี ก็มีอยู่บ้างนะสามวันที่ไปนอนมอง แต่ก็ไม่ได้สนใจ
และไม่ได้อยากรู้ ไม่ต้องรู้ก็ได้

มันคิดถึงใครหลาย ๆ คนที่คอยมาเตือนสติเราไม่ให้หลงทาง
ต่อให้เมิงเอาสิ่งใดมาล่อ มันก็แค่นั้นแหละ
กุไม่ใช่ผู้วิเศษไง จะให้กุทำอะไรได้ดีกว่านี้
แค่นี้ก็เดนตายแล้ว มากกว่านี้ เมิงรอไปชาติหน้าตอนบ่าย ๆ
รอกุตายจากไปเสียก่อนค่อยมาเจรจา บางทียามที่ต่างคนต่างเป็นผีด้วยกันแล้ว จะได้คุยกันรู้เรื่องกว่านี้ โดยไม่ต้องอาศัยใคร
หรือไม่ต้องทำอะไรให้ใครเดือดร้อน
บางทีกุก็คิดนะ ..ถ้ากุยังมัวแต่ละล้าละลังอยู่ พอดีเถอะ
กุตายจากไปแล้วเดือดร้อนลูกหลานกุต้องไปพยายามทำให้สิ่งที่กุอยากจะทำให้สำเร็จอี๊ก
ถ้ากุยังไม่ตั้งใจทำมันให้ดีจนใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันนี้

ไอ๊สึด คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง มาบอกกุในฝันให้กุแม่งตรง ๆ ครบหกตัวเลย แล้วเสือกบอกกุไม่ให้กุบอกใคร แล้วเมิงดูหน้ากุซิ กุเคยเหรอ? กุซื้อ กุเล่นหรา ถึงกุจะรู้ว่ามันอยุ่ที่ไหน แล้วมันใช่ธุระกุเหรอ? ไม่ใ่ช่ธุระโกงการอะไรของกุเมิงทำความเข้าใจเอาซะใหม่นะ

พยายามเข้าใจอะไรง่าย ๆ ซะบ้าง ข้อจำกัดกุมี
ดูกติกากุด้วยย ใจดีเข้าใจแต่ไม่ใช่อะไรก็ได้
ทางกุมีเดิน ภาระกุก็มีต้องทำ รอมาได้ตั้งหลายปี
เมิงจะรอกุอีกสักระยะหนึ่งเมื่อกุหมดหน้าที่แล้ว
เมิงรอไม่ได้ เมิงก็เชิญไปหาคนอื่นช่วยเมิงเถิด

กุไม่มีความสามารถจะทำอะไรตรงนั้นให้พวกเมิงได้หรอก

กุไม่ได้บิดพริ้วนะ ไม่ได้เล่นลิ้นด้วย กุพูดจริง
อย่ามาบีบคั้นให้กุต้องเลือกอะไรเลย
เพราะกุเลือกของกุมาตั้งนานแล้ว.

...สำเหนียกไว้สิ...

จำไว้นะนังยาย ทั้งความฝัน ทั้งใจปรารถนา
ถ้ามันไม่ใช่ทางที่เที่ยงตรง นั่นไม่ใช่ที่ที่เมิงจะเดินไป

ขออีกที่เดียว...ให้ไปตามที่เคยบอกว่าจะไป
พรุ่งนี้จะพานายไปเดินเล่นสวนสัตว์ดุสิต
ผ่านไปผ่านมา..รู้ทั้งรู้แต่ไม่เคยอินกับสิ่งนั้นเลย

ไปซะให้จบเรื่อง..ยายจะได้กลับมาเดินในทางของยาย
วกไปวนมาจนไปไม่ถึงไหน เกือบสามปีผ่านไปแล้ว ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย .. พี่ขอที่สุดท้ายจริง ๆ
หลังจากนั้นแล้ว ไม่ว่ายายจะเจอกับอะไร คือ ต้องรอ ..เท่าานั้น.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 14 มีนาคม 2560 เวลา:3:37:27 น.  

 
ทรมาน..
ต้องหักห้ามใจหลายเรื่อง ไม่สบายแต่ไม่อยากไปหาหมอ
รออีกสองวันนะยาย .. ถ้ามันยังไม่ดีขึ้น ค่อยไป
พี่ไม่อยากกินยาเยอะ ๆ แล้ว
เดี๋ยวนี้หยุดเล่นโยคะแม้แต่วันเดียวเป็นเรื่องทุกที
เอาเสื่อไปทิ้งไว้แต่ละที่ที่เดินทาง คิดว่าจะได้กลับไปอีกเร็ว ๆ นี้
เลยไม่ได้แบกกลับมาด้วย
กลายเป็นเราไม่ต้องกลับไปแล้ว ยาวเลยทีนี้
จะให้ไปเอา ก็ยังไม่สะดวก ติดต้องทำอะไรหลายๆ ๆ อย่าง
วันนี้ก็สิ้นสุดการตัดสินใจแล้ว ดีใจและโล่งใจไปนิดนึง

........................
วันนี้นายกินก๋วยเตี๋ยวถ้วยที่ ๓ ของชีวิต
และเพิ่งใช้ตะเกียบสำเร็จครั้งแรก
ด้วยความภูมิใจ เรื่องนี้ต้องเอาไปอวดเพื่อน ๆ ว่าข้าฯนี่นะ
ใช้ตะเกียบเป็นแล้ว
55555555555555555555555555

กลับมาคราวนี้ มีความกวนตรีนเต็มเหนี่ยวเลยทีเดียว
นังยายไม่ได้ชวนมาด้วยนะคราวนี้ เขาขอมาเอง
เพราะระยะหลังนี้ เราไม่สามารถบังคับให้เขาทำอะไรตามใจเราได้อีกแล้ว คำพูดคำจา ก็ระวังให้มาก ๆ เข้า
ทุก ๆ คำ ทุก ๆ การกระทำที่ส่งผ่านไปให้เขา
จะย้อนกลับมาหาเราทันทีทันใดเสมอ ไม่ต้องรอ
ไวยิ่งกว่าเครือข่ายใด ๆ ไวปานอยู่ในสวรรค์
คิดปุ๊บติดปั๊บไม่ต้องผ่านระบบประมวลผลใด ๆ
มันเป็นไปโดยผ่านระบบประสาทอัตโนมัติของมันป่ะวะ
55555555555555555555555555555555555

วันนี้ตอนกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ พี่ทิ้งนายไว้กับเด็กอ้วน
แล้วไปทำธุระเล็ก ๆ น้อย ๆ
กลับไปเด็กอ้วนฟ้องว่าเขาเกเร อยู่ไม่นิ่งเลย
มันอันตรายเพราะเราอยู่กันข้างถนน
พากันไปร้านขายของ พี่ซื้อเสร็จแล้วออกมารอเด็กอ้วนนอกร้าาน

นายออกอุบายแกล้งเด็กอ้วน โดยให้พี่บอกเด็กอ้วนว่า
นายถูกจับตัวไปแล้ว พอนายทำท่าไปแอบ กุทิ้งเลย
พอจะทิ้ง เขากลัวถูกจับไปจริง ๆ ก็เดินมาถาม
"ป้า ๆ ทำไมไม่แกล้งนินาล่ะ" สงสัยไง อุตส่าห์คิดค้นอุบายมาแกล้งพี่
"นินาเป็นหลานคนโปรดรู้ไว้ซะด้วย" ทำหน้าสงสัยเอามาก ๆ
"แล้วทำไมป้าด่ากันพูดกันไม่ดีล่ะ" มันเริ่มมีการสังเกตพฤติกรรมตั้งแต่เมื่อไรฟร่ะ???

"ที่ด่ากันน่ะเพราะรักกันมากไงไม่โกรธกันด่าได้"
นายทำหน้าเหมือนรับรู้ แต่คงยังไม่เข้าใจอะไร ๆ
เหมือนช็อกที่เพิ่งรู้ว่า พี่เป็นหลานคนโปรดเพราะเขารู้มาตลอดว่าในบรรดาเด็ก ๆ นั้นป้าโปรดเขามากที่สุด
กลับมาคราาวนี้ ว่าอะไรมากไม่ได้ พี่เลยบอกว่า
ต้องเข้าใ่จไว้อย่างนะ หลานป้าไม่ได้มีแค่คนเดียว
แล้วป้าก็เทไปหมดแล้ว จนคนโปรดไหน ๆ ป้าก็เทได้ทั้งนั้นแหละ

ใช้ได้ดีทีเดียว ..อย่างน้อยก็ทำให้เขาอึ้ง
บอกเลยว่าไม่มีทางที่เขาจะย้อนกลับมาว่า
ป้าก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว ป้าไหน ๆ เขาก็ทิ้งได้ทั้งนั้นแหละ
เพราะป้าอย่างนังยายมีคนเดียวในโลกจ้ะ
5555555555555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:3:23:19 น.  

 
เก็บ #๑๔๑ ไม่ได้สักที เพราะไม่ยอมไปหาหมอแท้ ๆ เชียว
เสียเวลาไปหลายวัน

มีหลายสิ่งอย่างผ่านเข้ามา แต่เก็บอะไรไว้ไม่ได้เลย
ที่จริงก็ไม่เชิงเก็บไม่ได้ แค่ไม่อยากจำมัน ไม่อยากเอาใจไปใส่มันมากกว่า ไม่ใช่เอาใจใส่นะ เอาใจไปใส่น่ะถูกแล้ว

บางสิ่งอย่าง รู้ด้วยซ้ำว่า ถ้าสนใจมันจะอารมณ์ไม่ดี
เดี๋ยวนี้ใจไปเร็วมาก รีบชิงบอกตัวเองว่า เขาอยู่ไม่นาน
เดี๋ยวเขาก็จะจากไป
เดือนนี้บริวารหายไปสองคน ไม่ค่อยถูกจริตกันเท่าใดนักหรอก
แต่ก็อดใจหายไม่ได้ คิดอยู่ว่า พี่คงต้องเร่งทำอะไรบ้าง
ให้กับคนสองคนนี้ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ได้นะ แต่น้อยกว่าพ่อแม่พี่
บางทีเวลาตะคอกเขา ทั้งสองคนแหละ ก็แอบคิด
ถ้าพ่อแม่กุถูกทำแบบนี้บ้าง กุคงเดินไปตบกบาลคนตะคอกพ่อแม่กุอ่ะ บางทีมันก็ปล่อยไว้ไม่ได้ แต่จะพูดไปก็ปากหมา ๆ จะคิดอะไรออกให้มันเป็นคำที่ดีที่สุด
อย่างเมื่อวาน อยู่ ๆ เอาผ้าขี้ริ้วมารับแขก อายไหม ไม่นะ
แต่มันไม่ใช่เรื่องสมควรทำ พี่ก็แค่ไปเก็บลง และเลือกไม่พูดดีกว่า
จะเรียกมาสั่งสอน ก็ผิดใจกันอีก
ตอนนี้ต้องเก็บปากไว้มาก ๆ คนขอโทษคนไม่เป็นอย่างกุนี่นะ
ไม่สมควรจะพูดกับใครเลยด้วยซ้ำ

การทำดีกับคนที่ไม่ชอบสำหรับพี่นี่ เป็นเรื่องเด็ก ๆ ง่าย ๆ ไปด้วยซ้ำ ตอนนี้พี่เขยิบไปขั้น ยิ้มให้กับคนที่รู้ทั้งรู้ว่ามันแทงเราข้างหลังอย่างเลือดเย็น

บนเส้นทางของธุรกิจไม่มีใครจริงใจกับใคร
ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่าไร ความจริงใจต่อกันก็หายากขึ้นเท่านั้น

ไปเถอะ ใครจะอยากไปก็เชิญ นี่ไม่ใช่ทางของพี่แน่นอน
ปล่อยนังยายไว้ตรงนี้แหละ กุจะหยุดอยู่แค่นี้
ถึงจะต้องถดถอยไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร
ไม่ได้อยากเติบโตไปเอารัดเอาเปรียบแล้วสร้างปัญหาให้ใครเลย

บางทีพี่ก็ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย
ทำไม??????????????????????

คำถามยาวเหยียดเป็นเรื่องที่อยากถามแต่ไม่ได้ต้องการคำตอบ
และบางทีถ้าจะมีใครสักคนมานั่งคอยตอบทุกปัญหาที่สงสัยให้สบายใจได้ ก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อย

คงจะเหมือนกันกับที่นายถามว่า "ป้า ๆ ตอบทุกคำถามได้หมดเลยเหรอ?"

ผ่านไปหนึ่งปี เขามีพัฒนาการที่ผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ น่าสนใจอย่างมีนัยยะ

ส่วนหนึ่งเพราะพื้นฐานชีวิตเขาไม่เหมือนเด็กๆ ทั่วไป
เกิดมาจากปัญหา
เติบโตมาบนความขัดแย้ง
เริ่มเรียนรู้จากวิกฤตบ้านเมือง
เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเดินทาง
แล้วค่อยไปลำดับความคิดในโรงเรียน
นายไปโรงเรียนด้วยคำสั่งของนังยาย
"ลูกไปหัดเซ็นชื่อมานะเราจะไปต่างประเทศกัน"
จุดหมายเขามีแน่นอนว่าต้องไปโตมาจากโรงเรียน
และตอนนี้ก็ดูเหมือนเขาจะเริ่มรู้แล้วว่า ไม่มีที่ไหนจะอยุ่แล้วมีความสุขเท่ากับอยู่กับป้า เมื่อก่อนต้องรั้งอย่าเพิ่งกลับเดี๋ยวก่อน วันนี้ค่อยไป แต่ตอนนี้ต้องไล่ เมื่อไรจะกลับ อยากกลับรึยัง?

แล้ววันนี้ อยู่ดีดี เขาก็ถาม
"ป้า ๆ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม? มินบอกเพื่อนว่า ป้ารวยมาก
ป้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ รึเปล่า?"

ไปโม้กับเพื่อนที่โรงเรียนมาว่าป้ารวยมาก
ไม่เคยเข้าใจความหมายของเด็กหรอกนะว่า รวยของเขาหมายถึงอะไร ถามว่า อะไรคือรวยในความหมายของหนู?

ก็มีทั้งเงิน มีทั้งทอง โอเค ถ้าอย่างนั้นป้าก็รวย เพราะป้าก็มีทั้งเงินและก็มีทองด้วย

แล้วป้าเป็นอภิมหาเศรษฐีไหม? อะไรคืออภิมหาเศรษฐีล่ะ
ก็มีทุกอย่างที่อยากได้ โอเค งั้นป้าก็เป็นอภิมหาเศรษฐีนะ เพราะป้าก็ได้ทุกอย่างที่อยากมีแล้ว

..แต่ป้าคิดว่านะ หนูควรจะไปโม้กับเพื่อนว่า ป้าใจดีมาก ๆ ดีกว่าจะไปโม้กับเพื่อนว่า ป้ารวยมากนะ เพราะถ้าป้าแค่รวยแต่งก ไม่ใจดี ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับใครเลย
แต่ถ้าป้าใจดี แต่ป้าไม่รวย ป้าก็ยังสร้างประโยชน์กับคนอื่น ๆ ได้ ใช่ไหม?..

คนรวยมันมีหลายประเภทนะลุก
คนรวยประเภทเศรษฐีในเรือนยาจก ก็คือ คนที่กินอยู่สะดวกสบายอิ่มหนำสำราญในบ้านเล็กๆ แต่เขามีความสุข
คนรวยประเภทยาจกในเรือนเศรษฐี ก็คือ คนที่อัตคัดกินเขียมตระหนี่ทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านหลังใหญ่โต กลัวทรัพย์จะหดหาย คิดว่าเขาจะมีความสุขไหม?

ส่วนป้าเป็นเศรษฐีในเรือนของเศรษฐีไม่ใช่ของป้า ก็คือ ป้ากินอยู่สบายในบ้านหลังเบ้อเร่อแต่ก็ไม่ใช่ของป้าแต่เป็นของเศรษฐีเขา


ทำไมเอาป้าไปคุยกับเพื่อน ทำไมไม่เอาเรื่องของพ่อแม่ไปคุยกับเพื่อนล่ะ?

พ่อกับแม่ไม่มีอะไรน่าคุย!!!

เวรล่ะกรู
ปีถัด ๆ ไปนี่กรูไม่ต้องพกเด็กไปเป็นฝูงเหรอ
นายบอกว่า เขามีเพื่อนหลายคนแล้ว มีเป็นฝูงเลย
55555555555555555555555555555555555555555

คิดถูกคิดผิดฟร่ะนี่
พรุ่งนี้ต้องสอนใหม่

หนูควรจะไปคุยกับเพื่อนนะลูกว่า
"ป้าเราอ่ะ โหดและดุมาก ๆ ด้วย เอะอะอะไรก็นั่งกอดอกหลับตาๆๆ"
ทันไหมฟร่ะตรู
555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:0:35:49 น.  

 
#วันที่๑๔๑,๑๔๒ เสียเวลาไปมากเกินพอแล้วนะยาย

ตั้งใจดีทุกวัน แต่มันทำไม่ได้ ต้องกินข้าวกินยาตามเวลา
ไม่งั้นพี่ก็คงไม่รอด

การมีนายอยู่ด้วยมันช่วยลดอาการฟุ้งไปมากมายทีเดียว
ไม่มีสิทธิ์จะเฝ้าหน้าจอนาน ๆ
เปิดจอปุ๊บกระโดดขึ้นตักด้วยความรวดเร็ว

วันนี้บ่นแต่เช้า ไม่มีเพื่อนเล่นเลย มีแววติดเพื่อน
จนป้าต้องบอกว่า เล่นกับป้าก็ได้ เดี๋ยวเล่นด้วยนะคะที่รัก

เขาดูชอบคำนี้มาก ติดเอาไปใช้
ช่วงบ่ายเขาเล่นเป็นชาละวันล่อตะเข้
ให้นังป้าเป็นตะเข้เขาเป็นนักแสดงชาละวัน

"ท่านสุภาพบุรุษและสตรีทุกท่านวันนี้เราจะมีการแสดงจรเข้ตัวเด็ดสุดในประเทศไทย ทุกท่านเตรียมพบกับจรตัวโปรดของโพ้มได้เลยคับ มันชื่อว่า ป้าญามังคุดตุ๊ดเมืองไทยยยยยยยย"

คือ กุกลายเป็นตะเข้และกุก็เป็นตุ๊ดด้วย!!!
555555555555555555555555555555555555555

เห็นพัฒนาการเขาป่าว นอกจากการประมวลความคิดแล้วคำพูดคำจาก็มีการพัฒนาขึ้นด้วยนะ
นายเป็นคนชอบดูหนัง ดูทีวี ดูการ์ตูน ดูคลิป ดูยูทูปและดูทุก ๆ อย่างอย่างสร้างสรรค์ด้วยนะ ดูแล้ววิจารย์และกำกับได้แสดงได้ต่อยอดได้

ตอนหัวค่ำดูการ์ตูนบั๊กมั้ง อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า
"ป้า ๆ เขียนจดหมายด่าเจ้านายป้าสิแล้วก็ลบทิ้งมันเป็นการระบายอารมณ์อย่างหนึ่งที่ไม่เดือดร้อนใคร"

เออวุ้ยยย เป็นความคิดที่ดีให้นังยายทำตามการ์ตูน

ตอนน่ารักก็ดูดีแต่ตอนงอแงนี่น่าถรีบ

มาคราวนี้นอกจากจะใช้ตะเกียบเป็นแล้ว ยังขึ้นอีสุกอีใสด้วย
ตอนแรกว่าจะเอามาสอนทำอาหารอย่างง่าย หุงข้าว ทำความสะอาด แต่พอป่วย ต้องงดไปก่อน หายดีแล้วค่อยว่ากัน

.........................................
ต้องรีบทำของที่ระลึกให้คนสองคน
ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรได้ดีแค่ไหน
แต่พี่จะพยายามให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

ทุกวันนี้คุมใจไม่ให้โกรธได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้ว
กับคนที่กำลังจะไปนะ
ส่วนคนที่ยังอยู่ ต้องศึกษาสันดานกันอีกนาน

ไม่ได้คิดว่า ตัวเองจะต้องทนอีกแล้ว
ความรู้สึกที่มันบอกว่า ทำไมต้องเป็นกุก็ค่อย ๆ จางหายไป
เวลามีอะไรมากระทบ มันรู้ทันหมดเลย คือดีว่ะ(ค่ะ) อิเHี้ยเมิงทำได้ว่ะ 55555555555555555555555
เรื่องก็เยอะนะ ไม่เคยจะน้อยลงเลย
บางทีมันเพลียแย่จนหลับไปแต่ก็ฝันว่าให้นิ่ง ๆ เข้าไว้
ตัวเองหลับไปแล้วไม่รู้เรื่อง กายหยาบสันดานแย่มาก
แต่กายละเอียดมันบอกว่าหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ
เสร็จแล้วกุฝันว่ากุนั่งทำสมาธิอยู่
คือไรฟร่ะ
555555555555555555555555555555555555555555

ไม่ได้อยากได้คำตอบนะ แค่งง ๆ ว่าตัวเองเป็นไรมากเกินไปป่าว

จริงๆ แล้ว กำลังจะบอกว่า ที่รอดจากความเจ็บป่วยรอบนี้มาได้
ด้วยฝันวันนั้นนะ ฝันว่านั่งสมาธิอยู่แล้วมันนั่งแบบนานและสมบูรณ์ตามขั้นตอน พอรู้สึกตัวคือกุนั่งหลับอยู่หน้าจอ
แล้วก็ดีขึ้นเลย คิดว่าจะต้องไปหาหมอซะแล้ว
ตลกร้ายเกินไปไหมชีวิต
นี่เป็นครั้งที่สองนะ ที่เจ็บตัวแล้วมันฝันว่าได้รักษาตัวเองในขณะที่ฝันอยุ่ ครั้งแรกนั่นฝันว่่ามีคนมาดัดหลังให้
เจ็บจนกรีดร้องแทบสิ้นชีพวายปราณ

มีความตลกแต่ก็ช่างมันเถอะป่ะวะ

.....................................
ความรู้สึกที่มันบอกว่า ทำไมต้องเป็นกุ
เดี๋ยวนี้มันมองเป็นถ้าเราไม่ช่วยเขาแล้วเขาจะเป็นไปในแบบไหน
ถ้าพอประคองรอดไปได้ ก็อย่าไปเปลืองตัวยุ่ง
แต่ถ้าจะเอาตัวไม่รอด อย่าไปคิดเลยว่าใครจะทำ
มันคิดไปถึงว่าต้องทำยังไง มากกว่าจะยึดว่า ต้องเป็นกุด้วยเหรอ?

ผ่อนคลายขึ้นนะ เรื่องบางเรื่องหมดทางออก ก็ไม่เป็นไร
เฝ้าพระเจ้าดีกว่า

ตัวความเครียดนี่มันมาเป็นลูก ๆ เลยนะ
ถ้าไม่ได้ฝึกให้ร่างกายผ่อนคลายยืดหยุ่นจะไม่รู้เลยว่า
ร่างกายที่ปกติ กับ กายหยาบที่ตึงเครียดมันแตกต่างกันอย่างไร

เมื่อรู้ความแตกต่าง การสกัดกั้นไม่ให้มันอยู่กับเราได้นานจนสะสมเป็นโรคภัยจึงทำได้ดีขึ้นมากมายก่ายกอง

อีกเรื่องหนึ่งที่พอใจมากเมื่อไรที่มีสิ่งกระทบคือ
ยามใดที่เจอทางตันจะถามตัวเองว่า ตัวเองมีความสุขดีรึยัง
ถ้ายังเอาตัวเองให้รอดก่อน ใครจะทำไรช่างมัน
เวลาคิดไรไม่ออก ทำกับข้าวดีกว่า ไหน ๆ ก็เครียดแล้ว
ก็กินให้เอร็ดอร่อยไปเลย
มันเหมือนกับ กองขี้ กับ กองข้าว
คนเรารู้นี่ ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองต้องการ
มองให้ชัด ขี้ กับ ข้าว เมิงจะแดรกอะไร
เมื่อเจออะไรตึง ๆ ก็บอกมันว่า "ว๊ายขี้..ไม่แดรกค่ะ"555555555

กุกินข้าวค่ะ ทำกับข้าวดีกว่า อร่อยกว่าเยอะ

5555555555555555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555555555555555555

โลกนี้..กุน่ากลัวสุด
...สำเหนียกไว้สิ...


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:2:50:27 น.  

 
#วันที่๑๔๓ กินข้าวจ้ะทำเองได้ ไม่ได้กินขี้ไม่ต้องเอามาเสิร์ฟ

หึหึหึ

วันนี้มีแต่คนเอาขี้มาปาหน้าจะให้ยัดห่านให้ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
เก่งมากลูกพ่อ อิเHี้ยเมิงคุมใจตัวเองอยู่แล้วจริง ๆ เหรอเนี่ยยย

ตอนเช้าเจอตัวน้อย ๆ นิสัยเอาแต่ใจแต่พี่ก็ทำใจดีทนอยู่ได้
อยากทำอะไรก็ทำเลย พอช่วงสายเริ่มมีปากเสียงกันครั้งแรก
จนนายต้องถามว่า "เขาด่าทำไม?" นายมีนิสัยเหมือนแม่ตรงนี้
เวลาเจอใครครั้งแรกจะให้ใจเขาหมดเลย พอเขาเริ่มทำตัวไม่ดีก็ค่อย ๆ ออกห่าง วันนี้บอกทีหลังไม่เล่นด้วยแล้ว
คงเคืองมากที่อยู่ ๆ ก็มาตะคอกใส่เขาอย่างไร้เหตุผล

พอเที่ยงเจอตัวยานแม่ชนกัน รู้สึกสงสัยว่ามันธุระโกงการอะไรของเขาที่จะต้องเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของเรา อันนี้ยอมรับได้เพราะถือว่าเราผิดที่แก้ไขปัญหาเองไม่ได้ ขี้กุไม่กินไง จะให้กุไปเล่นน้ำขี้กุก็ไม่เอาด้วยป่ะ ตอนนี้ต้องสะกดใจตัวเองมาก ๆ เลย
เจ้าตัวเหมือนรู้นะ ลงมารีบแก้ตัวทำเสียงอ่อย ๆ ไม่ต้องมาอ่อย
เพราะพี่แค่ไม่ยิ้มพูดเต็มเสียงไร้หางเสียงความดังระดับแปดสิบมันแผดไปสามโลกหล้าอันนี้พอเข้าใจ
ดีนะที่ข่มใจตัวเองไว้อยู่หมัดตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นได้มีเคืองกันยาว
พอตกเย็นเจอตัวระดับปรมาจารย์ หงุดหงิดพิษโลกร้อน
เรื่องนี้พี่ไม่ผิดนะแต่ในตำแหน่งที่ยืนอยู่ไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรในลักษณะโต้แย้งได้ทั้งนั้น ก็ได้แต่นั่งเงียบแล้วสังเกตปฎิกิริยาว่าคนเช่นนี้จะแสดงความร้ายกาจได้เพียงไหน มองอย่างนิ่งเงียบ

มองอย่างนิ่ง และนั่งอย่างเงียบ
เอาสิ เอาให้เต็มที่กันไปเลย
อยากรู้เหมือนกันว่า ภายใต้หน้ากากเรียบเนียนสงบเสงี่ยม
และมีมารยาทนั้นแอบซ่อนไปด้วยอะไร

คนอยู่ด้วยกันนะ ถ้าไม่เจอปัญหาก็จะไม่รู้ใจกัน
เมิงคิดว่าเรื่องพวกนี้ จะทำไรกุได้เรอะ

แฮ่ ๆๆๆ รอกุก่อน พรุ่งนี้ขอแบบนี้อีกวันนะ
จะทำกับข้าวกินให้อร่อยเลย
เพิ่งค้นพบ ณ จุด ๆ นี้เองว่า คนที่เขามีความสุขจากการกิน
มันรู้สึกเช่นไร ยิ่งเครียดยิ่งต้องกิน กินเข้าไป กินซะให้หายเครียด
แลดูดีอ่ะ แล้วที่ผ่านมาคือไร เครียดจนไม่กินไม่นอนปัญญาอ่อนได้ใจนิกุนี่ ทำไปได้ เครียดแล้วเบื่ออาหาร ขาดทุนจริงชีวิต

................................
ความสุขของวันนี้คือ การไม่ได้ด่าใคร
ส่งขี้มาใช่ไหม? กุไม่แดรกเอากลับไป
สุดท้ายคนเอาขี้มาเสิร์ฟก็ไปนั่งกุมขมับตามธรรมเนียม
55555555555555555555555555555555555555


วันนี้ดูข่าวในพระราชสำนัก บอกว่า มีไดอารี่ภาพฝีพระหัตถ์ขาย ... เอออยากได้ อยากจะชู้ดเด็กกลับบ้านจะได้ออกไปตะลอน ๆ

ทำไงฟร่ะ ทำไงถึงจะไปเอามาได้ นี่ เรื่องที่ต้องคิดหนัก ๆ เลย

5555555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:3:37:16 น.  

 
#วันที่๑๔๔ อารมณ์ไม่ดีเลยไม่อยากจำ

อย่าไปรู้เลยว่าทำไมถึงไม่ดี
นอกจากอารมณ์จะไม่ดีแล้ว ก็ยังทำไม่ดีอีกด้วย
วันนี้เอาทุกเรื่องมาลงกับนายเมื่อนายทำอะไรให้ไม่พอใจ
แทนที่เราจะใจเย็น นายโดนกระทำหลายครั้ง
ยิ่งถูกกระทำยิ่งกวนตรีน มีความเป็นเด็กผู้ชายเกเรสูง
ควบคุมได้และไม่ได้สลับกันไป
มีต้นไม้เป็นตัวช่วยเบรกอารมณ์ โดยภาพรวมแล้ว
ควบคุมได้ดีทีเดียวนะ แต่เสียที่เอาความรุนแรงไปลงที่นาย

นายตะคอกกลับตอนที่ใช้ให้หยิบกรรไกร "น่ารำคาญ"

ได้พูดแบบนี้ใช่ไหม? งั้นวันนี้ไม่ต้องพูดกัน
พี่ก็ทำต้นไม้ไป ส่วนนายก็เปิดการ์ตูนดู
ทำต้นไม้เสร็จพี่ก็นอนพัก แล้วปล่อยนายไว้ลำพังทั้งวัน
จนเลยเวลาอาหารกลางวันเลื่อนมาเรื่อยจนเย็นจวนมืด พี่ถึงลุกขึ้น

ใช่ รำคาญใช่ไหม ป้าก็รำคาญและจุกจิกหัวใจมาก
งั้นเราต่างคนต่างอยู่ เอาเงินให้แล้วบอก อยากกินอะไรก็ไปหาซื้อเอาเอง ไม่ช่วย

ลงมาเหมือนกัน แต่ซื้อไม่เป็น ก็ขึ้นไปเหมือนเดิมและอดไปด้วยกันจนเย็นแล้วถึงได้กิน
55555555555555555555555555555555

ตอนทายาแก้คันให้ก่อนนอน พูดล้อเลียน บอกหลายครั้งแล้วไม่ฟัง พูดอีกครั้งพี่ตบจนหน้าชาไปเลย แต่ก่อนจะทำบอกแล้วนะ
บอกแล้วว่าไม่ชอบพูดอะไรหลายครั้ง เวลาพูดหัดฟังบ้าง
นอกจากไม่ฟังแถมยังล้อเลียน นิ่งไปเลย ซึมไปด้วย
รู้สึกผิดมาก ๆ

จริง ๆ เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหนักหนา ออกจะน่ารักด้วยซ้ำ
ถ้าพี่ไม่อารมณ์เสียเรื่องพวกนี้จะไม่เกิด
เวลาที่มันต้องทำอะไรให้ไม่เกิดความผิดพลาดเลย
แล้วถูกรบกวนสมาธิมันแทบคลั่งและอยากฆ่าตัวสาเหตุ

เป็นเรื่องที่ไม่ได้อยากจำ แต่ต้องสำเหนียกไว้มาก ๆ
วันพรุ่งนี้และต่อ ๆ ไป จะระงับอารมณ์ให้ถนัดใจมากกว่านี้
ใครทำให้อารมณ์เสีย ฉะมันเลยต่อหน้า ไม่ต้องเก็บไว้อีกแล้ว

มันไม่ควรจะเอาเรื่องไม่ดีกับคนหนึ่งไปลงกับอีกคนหนึ่ง

นายมักจะขอถามเหตุผลเสมอทุก ๆ เรื่องที่ข้องใจ

วันนี้ไปหาหมอเจอเด็กผู้หญิงขี้โวยวาย
เขาถามว่า แล้วเขาขี้โวยวายไหม?

หนูไม่ขี้โวยวายหรอกแต่หนูมักจะคุมสติตัวเองไม่อยู่
"อะไรคือคุมสติตัวเองไม่อยู่"
เราสนทนากันถึงขั้นนี้เชียวรึ

บางทีพี่ก็คิดนะ เราเร่งเขามากเกินไปรึเปล่า
เด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งเราจะยัดเยียดภาระอะไรนักหนาให้เขา

ไม่ดีเลยนะ

เขาจะทำอย่างไรก็น่าจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ไม่ใช่ไปยัดเยียดความเป็นคนมีเหตุและผลเกินวัยจนหมดความสนุกสนานและงดงามของชีวิต

วันนี้พานายเข้าเฝ้าพระเจ้า และขอพร ก็อยากรู้ว่ามีความต้องการอะไร
-ขอว่าว
-ขอพับกระดาษเล่นกับเพื่อนที่ไม่เหมือนกัน

ได้เลย กุเกิ้ลจัดให้
55555555555555555555555555555

ว่าว นังยายทำให้ได้ แต่พับกระดาษนี่ต้องมีตัวช่วย
เขาไม่ค่อยมีสมาธินะ แต่พอเล่นพับกระดาษแล้ว เล่นได้เป็นวัน่ ๆ
คงจะชอบเอาจริงเอาจัง

จริง ๆ แล้วเขาน่ารัก อารมณ์ดี ไม่ค่อยงอแงแต่กวนตรีนสูงมาก
ดราม่าและเป็นเด็กที่มีปัญหาครอบครัว
ยายไม่ควรจะไปเพิ่มความกดดันให้เด็กนะ
ตอนยายเป็นเด็กภาระที่ต้องดูแลบ้านเริ่มตอนเก้าขวบสิบขวบนะ
จะยัดเยียดให้เขาเร็วเกินไปไหม? นายเพิ่งจะย่างหกขวบเอง
ต้องค่อย ๆ เป็นไปสิ
การเดินทางก็ไม่ควรจะรีบร้อน เท่านี้เขาก็ดีถมไปแล้ว
ขึ้นรถ ลงเรือ จะเหลือแต่เครื่องบินที่ยังไม่เคยพาขึ้น

วันนี้เขาบ่นอีกอย่าง "ไม่คิดเลยว่าชีวิตต้องมาเจ็บปวดอะไรอย่างนี้ต้องเป็นอีสุกอีใส"

นังยายเลยเทศน์ให้อย่างยาวเลย แค่นี้เจ็บปวดเหรอลูก โตขึ้นนะจะมีอะไรให้เจ็บปวดอีกเยอะเลย อาจจะมีอุบัติเหตุรถคว่ำแขนขาหักฟันหักกระดูกหัก กระโหลกยุบ ผ่าตัด เลือดออก สารพัด
ถ้าใช้ชีวิตด้วยความประมาทนะ รอคอยความเจ็บปวดได้เลย

เรามีสัญญาใจกันว่า หายแล้วจะซื้อของเล่นให้ ซื้ออุปกรณ์การเรียนที่อยากได้ให้ เขาอยากได้หลาย ๆ อย่าง
ปีนี้ใกล้จะหกขวบปีแล้ว ต้องรีบเซ็ตวิถีชีวิตเขาให้เข้าที่
จะได้เติบโตขึ้นด้วยความพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งอย่างบนโลกอย่างมั่นใจ

ไม่มีอะไรเสียหาย เมื่อทำด้วยความตั้งใจ
ใกล้จะสำเร็จแล้ว แต่ก็เร่งไม่ได้
เขาเป็นมนุษย์ เป็นปฎิมากรรมชีวิตที่มีเลือดเนื้อและหัวใจ
ที่ไม่มีสิ่งได้ควบคุมและคาดหวัดได้เลย

นายเป็นอะไรที่มีความหายกับช่วงเวลานี้มาก
วันที่ไปเฝ้าหน้าเบื้องพระบรมโกศ ยังไม่คิดเลยนะว่า
จะพากันไปด้วยกันได้ยังไง แต่ถ้าไม่พาไปแล้ว
เราจะเล่าต่อไม่ได้ว่า อะไร ตรงไหน ยังไง
พอเราได้ไปด้วยกันแล้ว มันทำให้กาลเวลาที่เราต้องการจะบอกเขา
ไม่มีอะไรตกหล่น สมบูรณ์ และเขาก็เห็นภาพ เข้าใจทุกเรื่องอย่างลึกซึ้ง

ต้องขอบคุณเขาด้วยการพยายามข่มใจ อดทนกับทุกสิ่งเร้าอารมณ์ให้ขุ่นมัว
ตอนนี้ยิ่งเป็นอะไรที่น่ารำคาญ กวนใจอยู่ตลอดเวลา
คิดว่าเมิงจะทำไรกุได้เหรอ?

ไม่จ้ะ ขอโทษทีนะ
วันนี้ดอกไม้ในใจพี่มันบานเสียแล้ว
ถึงจะเป็นคุณนายเรือนนอกที่ดอกเล็กกระจิดริด
แต่มันก็เบ่งบานเฟร้ยยยยยย

...ผิดหวังล่ะเซ่ ... สมน้ำหน้า ทำไรกุไม่ได้ร๊อกกกกก


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:4:31:06 น.  

 
#วันที่๑๔๕ ใครสงบใจได้เร็วกว่าคนนั้นชนะ

ในบรรดาเรื่องราวทั้งหลายที่ทำให้เราลำบากใจ
บอกกับน้องเลยว่า พี่ชอบคนที่เกลียดขี้หน้าเรา
ไม่ชอบเรา ทำไม่ดีพูดไม่ดีกับเรามากกว่านะ
เพราะคนพวกนี้นะ ไม่มีทางนำเรื่องลำบากใจมาให้เราได้
เวลามีเรื่องกันที ด่ากันได้ถนัดปากหน่อย..

เด็กมันมองหน้า เลยอธิบายเป็นหนังการ์ตูน

เอ็งคิดดูนะ เขามาบอกว่า เขาจะไป
จะให้พี่พูดตอบว่าไง ไปวันไหนคะ เตรียมของพร้อมยัง
ในเมื่อเรามีหน้าที่ต้องรั้งเขาไว้ป่ะเมื่อมันพิจารณาโดยตั้งไว้บนผลประโยชน์

อันที่จริงที่ตอบไป ในใจน่ะไม่ได้คิดอย่างนั้น
แต่มันคือคำตอบที่สุภาพที่สุดที่คิดได้ตอนนี้แล้ว
เปลี่ยนห้องไหม ลองดูก่อน???

จะให้พูดว่าไง อยากไปก็ไปดิ ใครล่ามโซ่ไว้ล่ะ?
นี่เลย คำนี้เลยในใจ กั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หรือ จะให้กุพูดว่า "เชิญ ต้องจุดธูปด้วยไหม?"

555555555555555555555555555555555555

คงอีกนานอ่ะ ไม่หมดเวรกรรมกันง่าย ๆ หรอก

เพลียใจ

อีกเคสก็คงจะเป็นเรื่องความจงรักภักดีที่ถ่ายทอดให้กันและกันไม่ได้ ส่วนตัวใคร ก็ส่วนตัวมันฟร่ะ
คิดได้ยังไงฟร่ะ ก็คนมันไม่เชื่อฟัง มันเห็นต่าง มันเห็นไส้กัน
จะให้ไปบังคับให้เขามีไมตรีต่อกัน แสดงความเมตตา เคารพกัน
จงรักภักดีต่อกัน มันใช่ป่ะ ตัวเองอ่ะ เคยบังคับใครให้รักตัวเองได้บ้างไหม? มันเรื่องส่วนบุคคลของแต่ละคนไหม?

คน ๆ หนึ่งเขารักเรา เขาฟังเรา อยู่ ๆ จะมาบอกให้ไปพูดให้เขารักคนอื่นด้วย อยากให้รัก ก็ทำตัวให้น่ารักก่อนดิวะ(วุ้ย)
เมิงทำตัวกันแบบนั้น จะสั่งให้กุไปบอกใครให้มามีไมตรีเชื่อฟังและภักดีต่อเมิงได้ไง

แง TT นังยายทำอะไรได้บ้างฟร่ะ??????

..................................
จริง ๆ สองวันนี้ดีมากเลยนะ
มีเรื่องเยอะ แต่คุมตัวเองได้ดี
นายเป็นกำลังใจเดียวที่มีอยู่ตอนนี้
เขาทำตัวน่ารักมาสองวันแล้ว
หลังจากโดนตบหน้าหงายไปวันนั้น
พอเมื่อวานจะตบอีก บอกว่าพูดแบบนี้ป้าจะตบซ้ายตบขวาตบหน้าตบหลัง มาานต่อเลยแล้วมินก็จะตบป้าไปพร้อม ๆ กัน สนุกสนานไปเลย 5555555555555555555555555

หาได้สำเหนียกไม่ การเลี้ยงดูผู้ชายมันก็ดีอย่างนี้ที่รุนแรงได้ทนมือทนเท้า แต่ไม่ใช่ว่าจะทำแบบนี้ได้กับทุกคน
นายคนเล็ก และเด็กชายไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้เลย
จิตใจเขาบอบบางมาก ส่วนนายนี่ เขามีความเป็นคนสองบุคลิก
ภาคหนึ่งเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ภาคหนึ่งเป็นเด็กน้อย

ถ้าเขาสำนึกได้ว่าผิดจริง ทำโทษไปเถอะไม่มีร้องไม่มีแสดงอาการ
อยู่บ้านแม่ยายเลี้ยงกับไม้มะขาม แต่ไม้มะขามก็ถูกขโมยไปซ่อนคงกองได้ไม้ฟืนกองใหญ่ เผลอไม่ได้ เป็นขโมยไม้ไปซ่อน
เรื่องแผนการนี่ไม่ต้องเป็นห่วง จอมบงการวางแผนอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไรเขารู้ว่าเขาไม่ผิด ไม่มียอมอ่ะ เอาตายเลย
วันก่อนเด็กหญิงแย่งของเล่นแล้วยังหยิกเขา เจอนายเอาเหล็กทิ่มจนเลือดออก โชคดีนะที่ไม่ทิ้มที่ลูกกะตา ได้แผลไปเล็กน้อยตามระเบียบ นังยายเลยต้องแยกมาขัดเกลาซะก่อนจะเล่นอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้ เริ่มจะเข้าที่แล้วนะ
ขอเวลาอีกสักระยะ ตอนนี้เริ่มจูนความคิดให้เข้าใจตัวเองได้ดีแล้ว
ต่อไปจะต้องเข้าใจผู้อื่นและเข้าใจสังคม

มันดูจะมากเกินวัยไป แต่ในแวดล้อมที่เขาต้องเจอ
มันจะพาให้เอาตัวรอดได้
วันนี้นอนกับแม่ พรุ่งนี้อาจจะถูกพ่อมาพาไปอยู่ด้วย

อยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ลูกต้องมีความสุขและไม่ถูกใครครอบงำความคิด



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 26 มีนาคม 2560 เวลา:23:38:22 น.  

 
#วันที่๑๔๖ ...

แทนค่าจุดไข่ปลาสามอันด้วย
จะแอบคิดว่าเหนื่อยยังไม่มีสิทธิ์

กุพักเรียบร้อยแระ
ฝันบรรลัยเหมือนเคย แต่ฝันแบบนี้ต้องยอมจ้ะ
จำได้ไม่ถนัดนักว่า เนื้อเรื่องมันเป็นยังไง
เพราะในฝันนั้นดูตัวเองยังงง ๆ ไม่หาย

ตื่นมายิ่งงงหนัก นั่งทบทวนมาหลายนาทีแล้วยังไม่ชัดเจน
ยิ่งไม่เข้าใจ รู้เพียงว่า มันดีต่อใจนักนะ

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน จำไม่ได้แล้วว่าปีอะไร
แต่ระลึกถึงไม่ยากหรอก ปีที่บ้านเราอ่อนแอที่สุดนั่นแหละ
แย่จนกลัวใจตัวเเอง ไม่มีฝันครั้งไหนจะเลวร้ายและน่ากลัวได้เท่าครั้งนั้น แปลกดี ชีวิตพี่ผูกติดอยู่กับความฝัน
หลาย ๆ ครั้งเหมือนโดนผูกมัดอยู่ ถ้าไม่พยายามแก้ไขให้เรียบร้อย มันจะคอยหลอกหลอนอยู่แบบนั้น

และทุก ๆ วันที่มานั่งนับวันนับคืนแบบนี้
ก็เพราะไม่อยากให้ภาพแบบนั้นมันเกิดขึ้นมาจริง ๆ
กลัวที่สุดเลยคือ กลัวบ้านพังเหลือแต่ซากปรักหักพัง
จนต้องอพยพย้ายถิ่นฐานหนีเอาชีวิตรอด

เคยรู้ว่าถ้าเราฝึกสิ่งใดแล้ว ภายในเดือนหนึ่งก็จะเคยชิน
และจะทำได้ง่ายขึ้น สงสัยจะยกเว้นแต่สิ่งนี้กระมัง
ตัวเลขยิ่งมากยิ่งจะขาดใจตาย
คงอ่อนพลังมากสินะ ไม่ชอบบันทึกสิ่งใด ๆ ตอนตัวเองไร้พลังเลย แต่คราวนี้ต้องจำ ทุกครั้งที่เป็นแบบนี้
จะมีใครสักคนเข้ามาสอนในความฝัน
ที่ผ่านมาเป็นสงฆ์เข้ามาเพื่อเสวนาธรรม
คราวนี้เปลี่ยนไป เห็นเป็นคุณคนบนเรือในฝันวันนั้น
จริง ๆ แล้วเห็นเธอบ่อยมากจนไม่แปลกใจอะไร
แต่ทุกครั้งที่เห็นไม่เหมือนกัน คราวนี้เธอมาสอนเลย
มานั่งอยู่ข้างหน้า ตอนแรกงง ๆ เพราะเรานั่งติดกับเธอ
แต่เห็นด้านหลังและไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร
งงอยู่นาน จนเธอหันหน้ามากระซิบ สรุปเรื่องที่สอนมา
พี่นี่ตกใจ จนสะดุ้งตื่น ตื่นมาแล้วลืม เธอสอนอะไรบ้างฟร่ะ
จำได้แต่ว่า นั่งงง ๆ งงจนตื่น

เหนื่อยแล้วไง??

ทำไรกุได้ไหม? ไม่.
ถ้ามันจะต้องตาย ก็ให้มันตายห่านไปเลย

บางทีก็คิดนะ ไหน ๆ ก็ตามฝันเรื่อยมาจะชีวิตวุ่นวายได้ขนาดนี้แล้ว ก็ตามมันจะสุดทางเดินเลยละกัน
เดี๋ยวนี้เขาอัพเลเวลขนาดมาสั่งงานสอนงานกันในฝัน

ไม่ใช่แค่มาลากไปดู หรือมาพาไปให้เจอ
เรื่องเก่าเรายังไม่หายข้องใจ ตามดูในชีวิตจริงเท่าไรก็ยังไม่เห็น

................................
ถ้าพอจะมีสิ่งใด ๆ ให้ชื่นใจได้บ้าง

วันนี้ คุยกับนาย แล้วได้เห็นว่าพัฒนาการทางสมองเขาโตขึ้น
จนเกินความสามารถของเราจะตอบคำถามโดยไม่ค้นคว้าแล้ว
ตำราเท่าที่มีก็ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางเล่มสำหรับเด็กเล็ก
บางเล่มสำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ส่วนสำหรับเด็กประถมวัยนี่ไม่เคยมีว่ะ ต้องไปหานะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปด้วย
พยายามที่จะติดตามคอยเป็นติ่งครูและนักจิตวิทยาชื่อดังหลาย ๆ คน ต้องขอขอบพระคุณพวกหล่อนช่วยนังยายได้มาก

เมื่อก่อนตอนไปออกทริปด้วยกันเพื่อนมักจะตั้งคำถามว่า
แกเลี้ยงหลานให้โตเกินวัยไปหรือเปล่า
นิทานก่อนนอนแกก็ให้ฟังเลี้ยงลูกให้เป็นมังกร
ทั้งเล่มมีแต่ตัวหนังสือ ไม่มีภาพให้น่าสนใจเลย
ตอนนี้นะ จะมีอย่างเดียวก็หนังสือธรรมะที่ยังไม่เคยหยิบมาอ่านให้ฟังนะ ไม่งั้นก็ลอกพิมพ์กันไปเลย

เขามีความอยากแต่งประโยค อยากเขียนหนังสือเก่ง ๆ ในวันที่ยังจำตัวอักษรไม่ได้ ชอบไหม ชอบนะ แต่จะยังไม่สอนให้หัดเขียนหรอก รอให้มันได้วัยที่ควรจะเขียน ตอนนี้ก็วาดรูปแล้วพูดเพ้อเจ้อไปก่อน เวลาเล่นอะไรเพลิน ๆ มีความชอบพูดคนเดียว
พอถาม ก็บอกว่าเขากำลังใช้จินตนาการ

แววเขามานะ ..มีความเป็นผู้กำกับสูง
นังยายไม่สามารถออกคำสั่งโดยไม่มีเหตุผล
ถ้าจะสั่งอะไรก็ต้องมีเหตุผลรองรับ
และวันนี้ พี่ก็เป็นทาสรับใช้นายเต็มตัว
หลอกอะไรก็ไม่เชื่อแล้ว

นังยายเลยบอกว่า "เดี๋ยวพรุ่งนี้นะ ป้าจะซื้อขนมกรุบกรอบ น้ำอัดลม ให้กินนะ จะได้ลดความฉลาดลงบ้าง ผักก็ไม่ต้องกินหรอก
โดยเฉพาะผักบุ้ง พอกินแล้วสายตาดี นมก็ไม่ต้องกินแล้วเปลือง
กินแล้วฉลาดเกินไปแล้วเนี่ย พอฉลาดแล้วหลอกยาก"

นายหัวเราะชอบใจในสิ่งที่ได้ยิน "ก็แปลว่ามินโตเต็มที่แล้วเหรอ?"
ดีดีดี จะกินขอแม่กินก็ได้ จะกินผัก กินแครอท กินนม"

คือเวลาบอกว่าให้ทำอะไร เขามักจะปฏิเสธกระทำในสิ่งตรงข้ามเสมอด้วยความเต็มใจ แต่ถ้าบอกให้ทำอะไร มักจะต่อต้าน

"ไม่ต้องเป็นเด็กดีหรอกนะ ดื้อ ๆ ไปเถอะ ป้าชอบ ไม่เปลือง
พอดื้อแล้วนะ ป้าจะไม่สนใจ ไม่เอาใจใส่ จะไล่ไปอยู่กับยายขอทานปากซอย"

ตอนนี้นะ ใช้เล่ห์กลนี้เฉียบขาดนัก
555555555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555555555

เรื่องของนาย ..มีมากมาย ไม่ซ้ำกันสักวัน
วันใด เมื่อพี่ไม่อยู่ที่นี่แล้ว
พี่จะยกทุกล็อกอินให้นาย เอาเก็บไว้ใช้

เมื่อวานเกเรไปสามเรื่อง
โดนตีไปหนึ่งที น้ำตาเล็ดน้ำตาไหล
ปกติโดนตีแล้วไม่เคยเจ็บไม่เคยร้องไห้
โดนเมื่อวาน เบา ๆ แต่ด้วยอารมณ์รำคาญกำลังทำงานอยู่
แล้วรบกวน มุดเข้าไปแอบใต้โต๊ะ

เรียกออกมากอดแล้วให้ตีคืนให้หยิกคืน
ตีคืนอย่างแรง หยิบเจ็บด้วย
สงสัยจะแคร์มากขึ้น
ถ้าเขาไม่ใส่ใจอะไร เขาไม่มีร้องไห้
เป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกกระทำแล้วร้องไห้ไม่เป็น
ปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายที่ยังอุ้มไหว นั่งตักได้
ปีหน้าคงหมดปัญญา เขาโตขึ้นเร็วมาก

มาหาป้าคราวนี้ บอกได้เลยว่า "จบคอร์ส"
ดูนิทานชีวิตจนหมดแล้วทุกตอน

การมีนิทานชีวิตให้ดูช่วยเราได้เยอะ
ทำให้เราบอกอะไร ๆ ได้ง่ายขึ้น
เพราะเขาเอาไปเปรียบกับการ์ตูนแล้วเข้าใจได้ทันที

มีเวลาแล้วจะพาไปนั่งรถไฟในทริปยาว ๆ แล้วก็จะพาไปกิน
ติ่มซ้ำต้นตำรับด้วย

พรุ่งนี้จะไปซื้อผ้ามาทำเป็นธงและผ้าพันคอ
ออกจากคอร์สยายไปนี่
นายคงต้องช่วยนังยายทำงาน ตามที่ได้รับมอบหมาย
พี่คงต้องเล่าให้นายฟัง ทุกเรื่อง
เราต้องการผู้ช่วย
เราไม่สามารถทำอะไรคนเดียวได้

เวลาเข้าที่แล้ว และเขาสามารถทำอะไรได้เองตามป้าสั่งแล้ว
เดินทางใกล้ๆ ได้ เปิดปิดประตูเองได้ ใช้ปลั๊กไฟได้
ที่เหลือคือจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง
แล้วก็ดูเวลา ใช้โทรศัพท์พื็นฐาน จำเบอร์ขอความช่วยเหลือ

มันเป็นอีกสเต็ปหนึ่งที่ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง
ค่อย ๆ บอกไป เขายังมีเวลาอีกตั้งเยอะ

เป็นอะไรที่มีความสุข
และเพิ่มพลังใจได้มาก
เรื่องคนพวกนั้นเหรอ?

ช่างมันสิ
สร้นตรีนหมาเน่า
55555555555555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 29 มีนาคม 2560 เวลา:4:30:50 น.  

 
#วันที่๑๔๗ อดทนเวลาที่ฝนพรำ..แต่พี่ก็ชอบนะ

บอกไม่ถูกเลยว่า มันรู้สึกอย่างไรบ้างกับอารมณ์ช่วงนี้
ทุกอย่างดูรุนแรงไปหมด

เหมือนจะควบคุมได้ แต่พอหลุดแล้วมันหลุดแรงกว่าปกติ
เมื่อวานตวาดเสียงสูงแหลมกับนายไปครั้งหนึ่ง
แต่แค่แป๊บเดียว ก็ควบคุมกลับมาได้เหมือนเดิม
งอนกันประเดี๋ยวประด๋าว ที่น่าสนใจมากเลยคือตอนหัวค่ำ
เริ่มหลุดมีน้ำโมโห นายรีบชิงบอก "ใจเย็น ๆ "

ฟังแล้วก็ขำขำนะ คำนี้พี่บอกนายตอนกลางวันตอนสั่งให้พับผ้าห่มผืนใหญ่แล้วเขาใจร้อนทำไม่ได้ ใจเย็น ๆ สิลูกไม่ต้องใช้แรงมาก
ใช้ปัญญาพับเอา ง่ายนิดเดียว ที่สำคัญคือเล็งให้มันเข้ามุมพอดี

คนกำลังจะขึ้นนะ พอได้ยินเด็กน้อยพูด "ใจเย็น ๆ "
เสียงสูงที่กำลังจะขึ้นหายจ้อยไปเลย ขำจนกรามค้างปวดหัว
อารมณ์แบบปัญญาอ่อนหัวเราะจนสุดเสียงไม่มีเรี่ยวแรงนี่
หายไปนาน สองสามวันนี้มันกลับมา ก็ดีนะ พี่ชอบ

................................
พานายนอนตอนหัวค่ำ ..คืนนี้ฝันบรรลัยกว่าทุกวัน
เห็นผู้คนทั้งรู้จักและไม่รู้จักมากมายกว่าทุกครั้ง
บรรลัยกว่าทุกที แต่คนเลวนะที่บรรลัย
เหมือนจะสมฉายาอิเค็มมหาประลัยเลย
คือ พี่ฝันว่า พี่เข้าไปเสือกทำลายทุกเรื่อง
โผล่ไปที่ไหนที่นั่นบรรลัย
ประเด็นคือ แล้วกุไปโผล่หลายที่มากอ่ะ

555555555555555555555555555555555555555

สกัดแก๊งขนยาเสพติด ช่วยผู้หญิงให้รอดจากการค้ามนุษย์ ทลายบ่อนที่ผู้หญิงพวกนั้นถูกเข้ามาขายของ
ผูกกันเป็นเรื่องด้วยนะ มันบอกว่า เดี๋ยวนี้เขาตั้งบ่อนกันกลางตลาดนัด มีตลาดบังหน้าแต่ข้างในเป็นที่รู้กัน ย้ายไปเรื่อย ๆ เพื่อหนีการจับกุม กุคิดอะไรของกุอยู่ฟร่ะนี่
กุฝันนะ อย่ามายุ่งกะกุ

แล้วก็มีคนยืนร้องเพลงด้วยนะ เหมือนเป็นนักร้องเลย
แปลกที่เขาเป็นคนที่เหมือนจะรู้จัก
ยังแอบคิด สรุปเมิงเป็นนักร้องอ่อ เมิงร้องเพลงได้จริงๆ อ่อ
อยากเข้าไปยืนดูแล้วถาม เมิงมาทำอะไรตรงนี้55555

ชีวิตจริง กุว่ามันวุ่นวายเหลือรับทานแล้วนะ
ฝันยังบรรลัยกว่าหลายเท่านัก
คือ เมิงช่วยทำใจให้สงบ ๆ ลงกว่านี้หน่อยได้ไหม?
เมิงควรจะฝันอะไรสวย ๆ เงียบ ๆ
ไม่อึกทึกครึกโครม ไม่ต้องไปเสือกอะไรกับเขาทุกเรื่องก็ได้
นี่วัน ๆ กุนี่แบบ งดข่าวสารการรับรู้ทุกเรื่องแล้วนะ
เมิงยัง ๆ ๆ
ฝันได้ภาพสมจริงยิ่งกว่าหนังของฉลอง ภักดีวิจิตร อีก
เสื้อผ้าหน้าผม เซ็ตฉาก อาวุธครบมือ
แน่นอนล่ะ หนังอาฉลองเขาถ่ายอยู่แต่ที่เดิม เดินวนไปวนมาอยู่นั่น
แต่ฝันเมิงนี่ตะลอน ๆ ๆ ไปเสือกทั่วราชอาณาจักร

อิเHี้ย ช่วยอยู่นิ่ง ๆ ไม่ต้องไปไหนเลยนะเมิง
กุกลัว เมิงนี่มันเหมือนแม่เหล็กดึงดูด
ไปที่ไหนเจอเรื่องที่นั่น

แบบที่กุเห็นเนี่ยยย ไปขี้เลยแล้วกดชักโครกไป
อยากให้คนเลวบรรลัย ก็ใช่
แต่อย่ามาบรรลัยตอนกุไปอยู่ตรงนั้น เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
เข้าใจใช่ป่ะ
ต่างคนต่างอยู่
สร้นตรีนหมาเน่าจะบรรลัยเรื่องของมัน
ส่วนกุเนี่ย ดอกไม้กำลังเบ่งบานทั่วลานกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาาาา

ใจเย็น ๆ .


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 30 มีนาคม 2560 เวลา:5:56:12 น.  

 
#วันที่๑๔๘ ผ่านไปด้วยดี

ที่จริงเริ่มร้อยสี่สิบเก้าไว้ แต่ก็รู้แหละว่ามันเก็บไม่ได้หรอก

ตอนเช้าพานายกับนายคนเล็กกินข้าว ตอนแรกว่าจะไม่กินด้วย
ต้องชิมต้มไก่เลยปล่อยเลยตามเลย

เมื่อคืนนอนกับแม่ป้าและน้า
อุตส่าห์ปิดปากเรื่องน้องมาทั้งคืน
ไม่อยากให้แม่รู้จากปากของเรา
และไม่อยากให้นายรับรู้เรื่องไม่ดีของแม่
พอนั่งกินข้าว แม่เปิดประเด็นมองหน้านายป้ารู้ใจ
นายถึงกับกินข้าวไม่ลง วางช้อนและเกเรช็อตไปเลย

เขารักแม่เขามากจนใครแตะต้องแม่ไม่ได้
แม่ทำอะไรก็ถูกเสมอถึงแม้จะทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องการก็เถอะ

สงสารก็สงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ให้ความสุขกับเขาได้แต่ไม่สามารถทำให้เขาหายทุกข์ได้
ที่ทำได้คือ สอนให้รู้จักกับทุกข์และรู้จักวิธีการปล่อยวางก็แค่นั้น
เพราะต่อให้นังยายจะให้สิ่งที่ดีที่สุดในโลกหล้าเท่าที่ป้าจะหาให้ได้
มันก็ยังดีไม่เท่ากับสิ่งที่ได้จากพ่อและแม่
ต่อให้นังยายจะพยายามทำตัวให้เหมือนทั้งพ่อและแม่เท่าใด
สุดท้ายยายก็ทำได้ดีที่สุดแค่เพื่อนเท่านั้น

วันนี้บอกนายว่า นายเป็นได้แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ
หมาเหงา ๆ ด้วย ไปวาดรูปไป เราจะเอาความทุกข์ไปสร้างเป็นรูปวาด เขาไปหยิบกระดาษมา เสร็จแล้วก็ลงมือ ได้ภาพหมาหน้าตาประหลาด ดุร้ายแต่แอบเหงา ซึ่งก็คือเขาและวาดหมาตัวเมียอีกตัวแทนตัวแม่และวาดหมาตัวเล็กตัวผู้อีกตัวในช่องว่างที่เหลือ
แล้วบอกว่า นี่คือตัวพ่อ และนี่คือ ครอบครัวหมา

ทุกอย่างในชีวิตเขามันหมายถึงความอยากอยู่กับครอบครัว
ถ้านังยายจะทำอะไรให้ได้ ก็คงจะมีคลิปที่ป้าเก็บไว้ให้
นั่นเป็นภาพสุดท้ายที่เคลื่อนไหวที่ป้ามีและครอบครัวนายยังอยุ่ดี
ยังไม่ได้แยกย้ายกันไปไหน

ไม่ชอบจำอะไรแบบนี้ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจ
และต้องผ่านไปให้ได้ ภายนอกเขาไม่ได้แสดงออก
จริง ๆ แล้วมันก็คือเหตุผลทั้งหมดที่เขาเรียกร้องความสนใจ
ด้วยพฤติกรรมเกเร ถ้าคนเป็นแม่ลดละอัตตาและหยุดเห็นแก่ตัวสักนิด นายจะไม่ต้องมาเรียนรู้ความทุกข์อะไรเช่นนี้

ผ่านเข้ามา..และมันก็จะผ่านไป
"ป้า ๆ เราไปฮอลลิวู้ดกันไหม?"

ชีวิตนายไม่ใช่นิยายหรือละครน้ำเน่า
เพราะนายของพี่เป็นผู้กำกับจ้ะ
55555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:22:58:55 น.  

 
วันนี้พานายไปจองตั๋วรถไฟมา ..แลเห็นความลำบากตั้งแต่ยังไม่จองแล้ว คนจะมากมายมหาศาลล้านแปดอะไรปานนั้น
คือถ้าไปคนเดียวกุทิ้งทริปนี้แล้ว ไปเก็บเอาใกล้ ๆ หรือไม่ก็เปลี่ยนทิศไปเลย เปลี่ยนวันไปเลย เปลี่ยนแนวเป็นนอนเล่นในเมืองกรุงไปเลย หารือกับนายแล้ว นายไม่ยอม ยังไงก็จะไปให้ได้
เพราะนังยายไปหลายครั้งแล้วแต่ละครั้งเขาไม่ได้ไปด้วย
รู้สึกผิดที่ไปผจญภัยเพียงลำพังกับเพื่อนแพททีเซียไม่พกเขาไปด้วย
คราวนี้เขาโตมากพอที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี
พี่ให้เขาจัดทำบัญชีรายจ่ายเอง จดบันทึกสิ่งต่าง ๆ โดยมีป้าเป็นเทรนเนอร์คอยบอกว่า เขียนอะไรใช้ตัวอะไรบ้าง

ก็ถือว่า ผ่านไปด้วยดีเยี่ยมทีเดียว ไม่เลวร้ายมากมาย
แค่ต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเยอะ ๆ เคยเจอมาแล้วและมันแย่มาก
ไม่ชอบเลย เราจะต้องเตรียมตัวดีดีเลย เซฟตัวเองสุด ๆ
การเดินทางแบบนี้มันทรมานนะเว้ยเฮ้ยยย ที่ชอบไปเพราะไม่ค่อยมีคน พอมาเจอคนเยอะ ๆ แล้วกุไปทำไมฟร่ะ??????

........................................

จดจำไว้ว่า วันนี้ไปซื้อตั๋ว ทริปนี้เป็นทริปแรกด้วยนะ
ที่เราเดินทางกันเพียงลำพังสองคน
ปกติก็ไปด้วยกันแต่ก็มักจะมีคนอื่นเสมอ

ก็ต้องคอยดู เขาเป็นคนอยากไปมากกว่า

กลับมานอนฉี่แม่งบนรถเมล์ ด้วยความฟินตื่นเต้นจะได้เดินทาง
นี่ป้าสัญญาว่าจะเก็บไว้เป็นความลับไม่บอกใครนะเนี่ยยย
ไม่ได้บอกใครเล้ยยยยยย
55555555555555555555555555555555555555555

ขำอ่ะ

อารมณ์เสียวันแดงเดือด ทะเลาะกันยกหนึ่ง
ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด พอควบคุมอารมณ์ได้ก็คุยกับเขาดีดี
ตื่นเต้นเหรอลูก??? ควบคุมตัวเองให้ได้สิ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
ทำได้อยู่แล้ว เขาก็ไปหยิบกระดาษวาดรูปอันเดิมมานั่งวาดรูป

จากภาพเดิมที่มีครอบครัวหมาเหงา วันนี้เขาลบภาพพ่อหมาตัวผู้ออกไป แล้วแทนค่ามันด้วยที่ดูดขี้หมา
แล้วตัวหมาอันแรกที่เป็นตัวเอกฟันแหลม ๆ ที่แทนตัวเขาเองเปลี่ยนเป็นแทนค่าด้วยนังยาย บอกว่า อันนี้เป็นหมาป้านะ
และตัวหมาตัวเมียที่เป็นแม่หมาก็แทนด้วยตัวเขาเอง
ในภาพคือ นายและนังยาย ฟังดูแปลก ๆ และแปลกใจ
เลยถามนายว่า "ป้ามีค่าในสายตาและความคิดลูกตั้งแต่เมื่อไร?"
"มีมาตั้งนานแล้ว ไม่รู้เหรอ?"
ก็ใครจะไปรู้ เห็นลูกพูดถึงแต่แม่ กับ พ่อ
ป้าทำอะไรให้มากมายเท่าไร ก็ไม่เคยเห็นป้าอยู่ในความคิดเลยสักนิด

รู้สึกดีนะ แต่ไม่ชอบแบบนี้เลย
มันหมายความว่า นายเริ่มมีความละเอียดลึกซึ้งซับซ้อนมากขึ้นในระบบความรู้สึกนึกคิด นั่นหมายความว่า เมื่อเขาพูดว่า "ทุกข์"
นั่นคือ เขาเป็นทุกข์จริง ๆ

ความเป็นเด็กน้อยที่ไม่รับรู้อะไรค่อย ๆ เลือนลางหายไป
ต่อให้พ่อแม่จะเป็นเช่นไร ก็ยังมีความหมายในทางดีสำหรับเขาอยู่
แต่เมื่อ เป็นเช่นนี้ ทันทีที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ ทำไม่ดีให้เขาเห็น
มันคือทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งทิ่มแทงใจเขาได้ทุกเมื่อ

ขนาดไม่รับรู้ กุยังด่า แม่มันได้ตลอดเว..
วันนี้เด็กมันรู้เรื่องแล้ว ไม่อยากจะคิดต่อเลย

เคยคิดนะว่า ..เมื่อนายรู้จักช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
ป้าคงจะหมดกังวลเลิกห่วงได้เสียที
ทำไมพอมันมาถึงจุด ๆ นี้แล้ว
มันห่วงเสียยิ่งกว่าห่วงอีกฟร่ะ



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 4 เมษายน 2560 เวลา:18:35:09 น.  

 
วันนี้เดินทางแล้ว..
ควรจะทำท่าตื่นเต้นสักเล็กน้อยพอเป็นธรรมเนียมปฏิบัติดีไหมฟร่ะ?

เมื่อก่อนจะดูเป็นกังวล เขาจะอยู่กันอย่างไร
ใครจะมาเฝ้าแทน จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นไหม?
คิดทำไม สิ่งมีชีวิตมันต้องรู้จักเอาตัวรอด
ได้ หรือ ไม่ได้ ก็รู้เองแหละ

หลัง ๆ นี่ไม่สนใจอะไรเลย
ไม่ส่งคนมา ช่าง
ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ
ปล่อยจริง ๆ นะ ไม่ได้ปล่อยเล่น ๆ

แบกมาตั้งนานแสนนาน พออยากปล่อย มันหมดอาลัยจริงจัง

เมื่อวานเราไปเตรียมหาของเล่นกัน ของเล่นพี่น่ะมีอยู่นะ
แต่อยากให้นายมีของเล่นเป็นของตัวเองและเราก็มีเหมือนกันด้วย
พี่อยากได้สมุดเล่มเขื่องแต่นายก็อยากมีด้วย ซึ่งมันดูจะเกินวัยไปหน่อย นังยายเลยต้องยอมลดมาตราฐานตัวเองลงมานิด
เล่นเหมือน ๆ กันกับเขา เขาต้องการให้เราเหมือนกัน
จะได้ประชันกัน

แม่โทรมา ทำเสียงอ่อย ๆ อยากรู้แต่ไม่อยากถามนักหรอก
มันเรื่องของเขา บ่นคิดถึงจะมาหา พี่บอกเลย ถ้าจะมาเอาตังค์มาให้ลูกผลาญด้วย จะไปเที่ยว ทุกอย่างมันจบแค่ที่ตรงนั้น
เลยไม่พูดต่อ ให้นายพูดไปคนเดียว เขาชวนลูกเขาไปเที่ยวสวนสัตว์ ที่นายไปบ่อยมากแล้ว ในความคิดเขา ที่ไหนก็ได้ที่มีแม่เขาไปได้หมด แล้วเขาก็มีความอยากให้พ่อไปด้วย ขอแม่อยากให้ชวนพ่อไปด้วย นังแม่ทำอิดออด เพราะจะเอาคนอื่นไปแทน
แต่คงเพราะทนเสียงอ้อนของลูกไม่ไหว
"นะ นะไปปีละครั้งก็พอ" ปีหนึ่งมีสามร้อยหกสิบห้าวัน
จะอดกลั้นฝืนทนอยู่กับคนที่ลูกต้องการแค่วันเดียว มันคงไม่ชักดิ้นชักงอตายกระมัง

สุดจะทนนะ ..ไม่ได้อยากพูดถึงเลย
สงสารนายมากมาย เพราะเขาเป็นเด็กที่คิดมาก คิดละเอียดอ่อน
คิดเหมือนนังยายเลย

...........................................

ทำให้นายหายทุกข์ไม่ได้ แต่นังยายก็ให้ความสุขไปแทนที่ตรงนั้นได้ป่ะวะ เขาก็รู้ด้วยนะว่าเราจะเก็บความสุขกัน สะสมเอาไว้ให้เยอะ ๆ เลย

ทริปนี้นังยายจะเป็นเทรนเนอร์ นายเขาจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด ..ก็คอยดูกันไป๊ จะทุลักทุเลกันปานไฉน

แค่คิดดูกุก็เพลียจนร่างจิแหลกแล้ว.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 7 เมษายน 2560 เวลา:7:27:16 น.  

 
#วันที่๑๔๙ เบื่ออารมณ์แบบนี้ที่สุด

ฤดูร้อน ๆ แบบนี้มันทำให้เหนื่อยและเพลียได้ง่าย
เหนื่อยจนอยากปล่อยหมดเลยทุกอย่าง
กำลังไปได้ดี กับตัวเองในแบบที่อยากทำ
เจออากาศร้อนแล้วมันแพ้เหงื่อตัวเอง
จบกันเลย ต้องไปหายาหาทางทำให้ตัวเองไม่คันคะเยอ
เพราะปกติไม่เคยมีเหงื่อออกเลย อยู่ในที่ร่มตลอดเวลา
และรักษาอุณหภูมิไว้คงที่มาก ไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป

พอต้องออกไปเจอกับอะไรที่สังขารมันไม่คุ้นและไม่ชิน
อยากจิร้องไห้ ทำไมโลกมันอยู่ยากเย็นอะไรปานฉะนี้
ไปไหนมาไหนนี่พกผ้าขี้ริ้วเลยนะ
ที่ไหนไม่ได้ทำความสะอาดต้อนรับเราไว้ก่อน ต้องลงมือทำเอง
ยิ่งตอนนี้ ที่บ้านกลายเป็นทาสแมวกันหมดแล้ว
นอนบ้านเป็นอะไรที่ทรมานใจสุด ๆ อยู่ได้ไม่นาน
แมวพเนจรมาอาศัยคลอดลูก พี่แกก็ใจดีรับเลี้ยงทั้งแม่ทั้งลูก
ป๊าดดดดดดดดดด นังยายเอ็งไปนอนที่อื่น ที่นี่แมวยึดไว้หมดแล้ว
นังหู นังเน่ นังมะลิ อิพวกนี้มากันทีแพ๊คสาม ลูกหลานตกกระป๋องกันเป็นแถว ความเป็นทาสแมวนี้ มันระบาดกันไปทั่วเมือง
เช้ามา "กินอะไรลูกวันนี้?" นี่ไม่ใช่คำถามสำหรับคนอีกต่อไป
แต่เป็นคำถามที่มีไว้สำหรับถามแมว

มันอะไรกันฟร่ะ โลกของกรูตอนนี้

คนแพ้ขนแมวอย่างกรูนี่ หมดคุณค่า ไม่มีความหมายในสายตาต่อไปแล้ว ใช่ซี้ ชิ

.....................................

ไม่ได้อยากบ่น และไม่ได้อยากคิดด้วย
แต่มันต้องใส่อะไรให้สมองไว้ให้รก ๆ บ้าง
เวลามันว่างแล้วมันเพี้ยน ๆ ไปนะ

คืนก่อนฝันได้น่ากลัว อยากบอกตัวเองให้มาก ๆ
แค่ฝัน แค่ฝันเท่านั้น ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องจริงสักอย่างเดียว
แค่ฝัน อย่าไปจำมัน ช่างมันเถอะ

แค่ฝัน ช่างมันเถอะ

แค่ฝันเข้าใจป่ะ อย่ามาหลอกหลอนกรูอีกเลย
กุรู้อยู่แล้วป่ะ ว่าต้องทำอะไร

เกลียดความรู้สึกแบบนี้
ไม่อยากทำอะไร
ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไร
ไม่อยากรู้จักใคร
ไม่อยากใส่ใจกับใครแล้ว
เท่าที่เป็นอยุ่
เท่าที่ดูแลอยู่ก็มากมายเกินพอดีไปแล้ว

พอมันเหนื่อยมาก ๆ เข้า มันก็พาลจะงอแง

.................................
หายไปเดินทางมาหลายวัน ทะเลาะกับนายทุกวัน
วันละนิด วันละหน่อย แต่เราก็คงไปด้วยกันได้
เขากลัวมาก ที่จะพูดว่า "เราแยกทางกัน เป็นแบบนี้คงไปด้วยกันไม่ได้แล้ว" มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเด็ก นังยายรู้นะ
ใช้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร เพราะสิ่งที่ได้ผลคือ การบอกว่าจะให้ดูสปายคิดส์ เราตกลงกันว่า เมื่อนายเก้าขวบปี ถึงจะให้ใช้เทคโนโลยี ตอนนี้ที่จะส่งให้เล่น มีแต่กระดาษกับปากกาเท่านั้น

นายชอบมาก และนังยายก็ชอบด้วย เพราะเมื่อไรที่ส่งปากกาและกระดาษให้ คือโลกจะสงบสุขและเกิดสันติสุขมาก
555555555555555555555555555555

ข้อตกลงเมิงมันสัปดนมาก วาดรูปแข่งกันไหม?
ถ้าใครสวยกว่าได้ใส่หน้ากากยอดมนุษย์
แต่ถ้าใครแพ้สวยน้อยกว่าต้องดมดูยอดมนุษย์

ความเลวนี้ไม่ต้องสั่งสอนกันเลย

เราเดินทางกันในฐานะเพื่อน
ไม่ได้วางแผนนะว่าชีวิตจะต้องเจออะไรบ้าง
อยากเขียนบันทึกนะ เพราะมันฮามาก และโหดมากด้วย
แต่จะไม่เอาไว้ที่นี่หรอกนะ ที่นี่มันต้องซึม ๆ หน่อยป่ะ
นี่กุบันทึกคราบน้ำตาป่ะวะ จะมาฮาอะไร

สิ่งหนึ่งที่ชอบมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้คือ
ตอนแรกตั้งใจเก็บเสื้อผ้าแล้ว สีฉูดฉาดมาก
แต่เพิ่งนึกออก เฮ้ยยย ไว้ทุกข์อยู่ป่ะวะ
เลยหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้แล้วเปลี่ยนใหม่หมด
เอาที่ใส่อยู่ทุก ๆ วันเข้าไปแทน โทนดำหมด
เหลือชุดนอนอันเดียวที่เป็นลายดอก

แล้วพอไปเจอแวดล้อมจริง ๆ ก็น่าปลื้มใจ
ชอบนะที่จะเห็นบรรยากาศแบบนั้น
ผู้คนแถวนั้นเขาจิตใจเป็นไปในทางเดียวกันหมด
โดยเฉพาะในตัวเมืองทับเที่ยง เมืองสงบที่พี่ชอบมาก
ชอบทุกอย่างที่เป็นที่นั่น ความเก่าคลาสสิค ไปหลายครั้งแล้วจังหวัดนี้ ก็ยังคงอยากไปอีก ยังมีอีกหลายที่ ที่ยังไม่ได้ไปเก็บรายละเอียด รอบนี้ให้เวลากับการเดินสำรวจทับเที่ยงเต็มที่
เดินวน ๆ อยู่อย่างนั้น จนจำได้หมด
พี่เจ้าของที่พักก็น่ารักจนอยากจะเขียนรีวิวให้ แต่ห้องพักเขาไม่ได้มากมาย เขาทำเล็ก ๆ แต่ก็ใส่ใจ บริการประหนึ่งไปเที่ยวบ้านเพื่อน โชคดีที่ตัดสินใจไม่ผิด
ที่อยู่ไม่ค่อยสบายแต่บริการที่ใส่ใจเต็มที่พี่ให้เต็มร้อยไปเลย

บริการดีเยี่ยมจนรู้สึกเกรงใจ ไม่ได้เก็งกำไรหรือค้ากำไรเกินควร
ด้วยเพราะ พี่ไปเจออิเจ้ที่โกลกมาด้วยแหละ
เมื่อผ่านอิเจ้มาได้ ทุกคนบนโลกล้วนใจดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

แต่เขาก็ดีจริง ๆ นี่ไม่ได้ประชดอิเจ้


ช่างเป็นการเดินทางที่เรื่องเล่าเยอะมาก คงแบ่งได้สิบกว่าตอนทีเดียว

เติมเต็มนะ ใจหล่น ๆ ขาด ๆ
ใจที่ไม่ยอมรับ ใจที่ไม่รับความจริง
จะเขียนจดหมายก็เขียนได้เลย
มีสมาธิมากพอ

มันทำให้มองทะลุปรุโปร่งได้ทั้งหมด
ความปรารถนาดีต่อกันในความหมายที่จะทำให้เราอยู่รอดตลอดรอดฝั่งในทุกสถานการณ์คืออะไร
ความอดทน ความเข้าใจ และการมีความเพียรคืออะไร

กลับมาต้องเร่งทำงานให้เรียบร้อย
ทุกอย่างที่ยังค้างไว้
รอช้าไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว
ตัวเองต้องรอด คนรอบตัวก็ต้องรอดด้วย
เราเหนื่อยเข้าใจ แต่เพื่อให้คนอื่นเขาสิ้นเรื่องทุกข์ยากลำบากใจ
เหนื่อยเท่านี้มันเทียบกันไม่ติด


ขากลับ นั่งรถไฟตู้นอนกลับมา
ไม่อยากนั่งเพราะกลัวหลับแล้วไม่รู้ตัว
สรุปพี่ก็ไม่ได้หลับทั้งคืน กังวลหลายอย่าง หลับไม่ลง
นายดูดีใจกับการได้นอนกลับมาแบบนั้น
เช้ามา เจอดาวและแสงอรุณ สวยเหมือนภาพวาด
มันงดงามอยู่ตรงเส้นขอบฟ้าไกล ๆ
ก่อนจะนอนเขาเปรย อยากให้แม่มาด้วย ป้านอนข้างบน
เขากับแม่จะนอนข้างล่าง ป้าต้องมาด้วย เพราะแม่คงมาไม่เป็น
ในความคิดของเด็กน้อยคนหนึ่ง เมื่อไรที่เขารู้สึกสวยงาม
และมีความสุข เขาก็อยากให้แม่คนที่เขารักที่สุดมาอยู่ด้วย

ขากลับบ้าน พี่เลยถาม รักใครมากที่สุด
ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่า เขาต้องตอบว่าแม่เขาอยู่แล้ว
แล้วก็ถามต่อว่า "แล้วอยากอยู่กับใครมากที่สุด"
อยากรู้ว่าจะตอบว่าอะไร
"ก็ต้องอยากอยู่กับป้าสิ เพราะอยู่กับป้าแล้วมีความสุขมากกว่าอยู่กับแม่"

อืมมม เคลียร์ไหมนังยาย รักแม่เว้ยยย แต่ชอบอยู่กับป้า

พี่ปิดคอร์สการเดินทางกับนายแล้ว เพราะเขาต้องเรียนหนังสือ
เอามาอยุ่ด้วยบ่อย ๆ จะเรียนได้ไม่เต็มที่
ปิดเทอมต้องไปเรียนภาษาอาหรับ
วันนี้เด็กชายขอร้องอยากมาด้วย ก็เลยเอามาทิ้งไว้
ให้อยู่กันสองคน เด็กสองคน ผู้ใหญ่สามคน เอาเด็กไม่อยู่
ปวดกบาลกันเป็นแถว

ต่อไปจะเป็นเรื่องของเด็กชายและเด็กหญิงอีกสองคน

เมื่อพี่จัดการนายได้เรียบร้อยก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิดแม้แต่น้อย

นายปรึกษาเรื่องที่จะทำให้เด็กชายไม่ถูกหลอกลวงจากมารร้าย
อินี่มันจอมวางแผนอยู่แล้ว

นึกไม่ออกใช่ไหม? นายพี่ขนาดไหน
คิดว่ากุขี้บ่น คิดมาก หรือเปล่า??

นายพี่มากกว่าพี่สิบเท่า กุว่านะ
ตอนเด็ก ๆ อ่ะ กุน่ารักเรียบรร้อยกว่านี้เยอะ
อย่างน้อยกุก็ไม่เคยขโมยไม้เรียวไปแอบป่ะวะ
กุนี่อย่างดีก็แค่เอามือรับไม้เรียวแล้วจับหัก
เรื่องขโมยไม้เรียวไปซ่อน ไม่จ้ะ

555555555555555555555555555555555

ลูกน้องกุนิ ..จะรอดไหมฟร่ะ โลกของนังยาย.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 14 เมษายน 2560 เวลา:1:53:07 น.  

 
#วันที่๑๔๙(ครั้งที่๓) อยากได้สังคมเยี่ยงไรก็ต้องทำตัวให้สอดคล้องกับสังคมเยี่ยงนั้น
วันนี้จ้ะ ให้หลานขับรถมาส่งขึ้นแท็กซี่กลับมาทำงาน โบกรถแล้ว กำลังจะขึ้นมีถุงพลาสติกปลิวว่อนลอยมารถจะเหยียบอยู่แล้ว
มันยังคงปลิวต่อไปจนไปหยุดที่ท้ายรถ ถ้าไม่เก็บมันก็จะปลิวไปเรื่อยๆ ได้อีก ของพี่ก็ไม่ใช่แต่ถ้าไม่เก็บมันก็คงจะอยู่แบบนี้เรื่อยไป จนคนกวาดขยะจะมากวาดเอาตอนรุ่งสางนั้นแหละ
ถ้าเป็นคุณ ..คุณจะทำอย่างไร?
เหมือนมันไม่ใช้หน้าที่ของเรานะ แต่ถ้าเราเสียเวลาสักห้าวินาทีเดินไปหยิบและเอามาด้วย เจอถังขยะก็ทิ้ง แค่นี้จากภาพที่มันจะรกหูรกตา ก็จะกลายเป็นสะอาดขึ้นไปได้อีกนิดหนึ่ง
เล่าให้ฟัง ไม่ได้จะบอกว่า ตัวเองเป็นคนดีอะไรหนักหนาหรอก
แต่ประสงค์ที่ต้องการคือ เวลาจะทิ้งอะไร จะใช้อะไรหัดรู้จักคิดกันเสียบ้าง เพราะส่วนตัวนังยาย เมื่อต้องซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ
นังยายจะปฏิเสธการรับถุงใส่ของอยู่แล้ว เราถือได้ มีกระเป๋า พลาสติกมันใช้เวลาย่อยสลายนานแสนนาน ต้องการให้ช่วยกันลดปริมาณพลาสติกด้วยการไม่ใช้ หรือใช้ให้น้อยที่สุด
พลาสติกอันนี้คนทิ้งอาจไม่ได้ตั้งใจ เพราะมันปลิวได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว แต่ถ้านังยายรู้เห็นนะ ว่ามันมักง่ายทิ้งขยะ
บอกเลยนะ กุเห็น กุด่า ด่าตรงนั้นเลย
...มักง่าย..น่ารังเกียจ.
อย่าปล่อยให้ความมักง่ายกลายเป็นเรื่องเคยชิน
#อยากให้บ้านเมืองสะอาดก็รับผิดชอบในส่วนของตัวเองด้วย.
นังยาย
๑๖/๔๑๒๕๖๐


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:8:54:00 น.  

 
#วันที่๑๕๐ (ยังไม่สำเร็จ) หนึ่งปีผ่านไปชีวิตกระท่อนกระแทนบนเสื่อโยคะ
เล่าให้ฟัง..
นังยายเป็นคนมีปัญหากับกายสังขารมากที่สุด
ชีวิตคนปกติควรจะกิน นอน และขี้ได้ภายในวันเดียว
ชีวิตนังยายปกติไม่ใช่แบบนั้น ถ้าวันไหนทำสามสิ่งได้ภายในวันเดียวนะ วันนั้นจะเป็นวันที่สุดแสนวิเศษชีวิตดี๊ดีอ่ะ
จ้ะ แค่นี้พี่ก็มีปัญหาแล้ว เรื่องอื่น ๆ ไม่ต้องพูดถึง
ไม่ต้องคิดว่าร่างกายมันจะเรรวนอารมณ์จะแปรปรวนขนาดไหน
แพ้ทุกอย่างยกเว้นใจกุเนี่ยชนะทุกสิ่ง
เดชะบุญ โชคดีที่เจอคลิปของครูกาญวันนั้น
ต้องขอบพระคุณทุกอย่างที่นำพามาให้ได้เจอ
ผ่านมาหนึ่งปี แทบจะไม่มีอะไรพัฒนาเลย
ร่างกายยังคงไม่พร้อม และยังแข็งทื่อ
อะไรที่เปลี่ย่นแปลงไปจนอยากเล่า??
สังเกตได้จากสีของเลือดที่ออกมาทุกเดือน
สังเกตได้จากอาการตอนไมเกรนขึ้นแต่ละครั้ง
สังเกตได้จากแข้งขาที่เดินเหินสะดวกไม่เจ็บไม่ขัดบ่อย ๆ แล้ว
สังเกตได้จากเวลาที่เราฝึกอย่างมีวินัยระบบขับถ่ายเราดีขึ้นออกทุกเช้า
กินได้มากขึ้น นอนเอาบนเสื่อ และถ้าทำทุก ๆ วันจะถ่ายได้ดีและหมดพุง
.................................................
เล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่อจะอวดว่า กรูตัวนังยายนี้ไม่มีอะไรดีเลย
เสียทั้งตัวยังต้องแก้ไขอย่างรีบเร่งก่อนโรคภัยจะปักหมุด 555
จ้ะ สังเกตร่างกายและสำรวจจิตใจกันต่อไป
โลกเราล้วนเปลี่ยนแปลง ร่างกายก็เช่นกัน
จิตใจช่างแม่มมัน เมื่อสมองวิเคราะห์แล้วเห็นควรสั่งให้เปลี่ยน
เมิงก็ต้องเปลี่ยน จะเอาแต่ใจ แยกร่างกันไปเลยไป๊
เมื่อทำในสิ่งที่รักไม่ได้ ก็จงรักในสิ่งที่ทำ (ลุงใจดีบอกมาโดยการไปแอบอ่านของเขา)
ตอนแรกไม่เข้าใจ ยังไงก็รักไม่ได้ แต่นังยายลืมไปนิว่า
กุมีเรื่องต้องทำตั้งหลาย ๆ ๆ เรื่อง เมื่อรักเรื่องนี้ไม่ได้
ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องเป็นตัวเลือกให้รัก
สิ่งใดที่ทำให้มีความสุข มันควรค่าอย่างยิ่งสำหรับทุ่มเทให้กับมันในเวลาที่ค่ามันน้อยนิดและไม่เคยหยุดนิ่ง
เมื่อศรัทธาย่อยยับและดับสูญ เหมือนจะยอมรับได้นะ เปล่า!!!
เพิ่งคิดได้ หาเอาใหม่ ศรัทธาที่จะดับสูญไปพร้อมกับตัวเอง
#อยากได้โลกเช่นไรก็จงทำตัวเช่นนั้น เมื่อไม่มีใครสร้างโลกในแบบที่เราต้องการได้ เราต้องลงมือสร้างและทำด้วยตัวเราเอง
เพราะอย่างน้อยที่สุด โลกในแบบที่เราต้องการ มันก็อยู่รอบ ๆ ตัวเราเอง
นังยาย
๑๗/๔/๒๕๖๐


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:22:10:50 น.  

 
อยู่ ๆ วันนี้ก็คิดถึงพี่ชายขึ้นมาจับใจ
นานมากแล้ว ที่ไม่ได้ใช้อารมณ์แบบนี้
นานจนลืม..

เรื่องของน้องเป็นสิ่งเร้าให้หวลคิดถึง
เกลียดขี้หน้านางตอนนางโง่ อ่อนแอ
สร้างแต่ความเดือดร้อนใจให้คนอื่น
แล้วยังเตือนไม่ฟัง
พอได้ยินว่าแม่เป็นทุกข์นอนก่ายหน้าผาก มันร้อนใจ
อยากจะกลับบ้านไปจิกหัวมันตบเอาหัวโขกฝาให้ขี้เลื่อยออกมาบ้าง

กุทำจริงนะ ตอนเป็นเด็กหมั่นไส้นางที่เจ๊ะแจ๊ะงี่เง่าพี่ก็ซัดนางประจำ พอนางโดนนางก็จะเอาคืน
ตัวนางใหญ่กว่า แต่นางเหนื่อยง่าย ทะเลาะกันทีไร
เนื้อนางหลุดทุกครั้งเพราะเล็บพี่คมมาก

เราเลิกตีกันก็ตอนที่นางเลิกเดินตามพี่แล้วไปเดินตามเพื่อนนั่นแหละ

นางเป็นเด็กที่น่ารำคาญในสายตาเรา
นางจะทะเลาะกับพี่ชายเป็นประจำ
เพราะอยู่คนละทีมกัน
พี่ชายอยู่ทีมยาย พี่จะตามใจยายมากกว่าน้อง

ทั้งชีวิตของพี่ชายทะเลาะกับยายแค่ครั้งเดียว
ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วเขาก็จากไปเลย
โดยที่นังยายยังไม่ได้เอ่ยคำว่าขอโทษ
มันเป็นตราบาปฝังใจตลอดมา ตลอดเวลา

มันทำให้เราเปลี่ยนจากหลังตรีนเป็นหน้ามือ
จากเด็กนิสัยไม่ดีที่ไม่เคยสนใจแยแสความรู้สึกของใครเลย
กุกลายเป็นคนสนใจความรู้สึกของทุกๆ คนใกล้ตัว

ไม่อยากทะเลาะกับใคร โดยเฉพาะคนในบ้าน
กลัวเขาจะตาย หรือ หายไปโดยยังไม่ได้คืนดีกัน
หรือขอโทษ ขออภัยกัน

เร็ว ๆ นี้ น้องมันสร้างปัญหาให้คนในบ้านปวดหัว
เราพยายามจะทำความเข้าใจมันมาก
แล้วพี่ก็เดาถูก มีอะไรบ้างในตัวนางที่พี่จะไม่รุ้จัก
และแล้วมันก็สารภาพกับพี่สาวคนหนึ่งว่า
ที่มันเป็นเช่นนี้ เพราะมันคิดว่า คนที่ไปติดพันเขามีลักษณะคล้ายพี่ชาย จะด้วยนิสัยหรืออะไร พี่ก็ไม่รู้นาง
นางคิดได้ไงฟร่ะ ที่จะหาใคร ๆ มาแทนคน ๆ หนึ่ง

มันแทนกันได้ด้วยเหรอ??????

พี่ชายกุไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
พี่กุมีความกวนตรีนสูงมาก
พี่กุมีความปากหมาสุด
พี่กุอ่ะ ลูกพี่นักเลง
ตอนที่พี่อยู่นะ กุไม่เคยกลัวสิ่งใดเลยบนโลกใบนี้

พี่กุทำกับข้าวอร่อย เขาชอบทำแกงส้ม กับ ต้มส้ม
พี่ชอบกินเนื้อทอด
พี่ชอบดูซุปเปอร์เซญ่า
ตัวนังยายชอบปาแมนมากว่าเพราะปาแมนบินได้

พี่จากไปสิบหกปีแล้ว ครบรอบปีก็วันที่ยี่สิบหกเดือนนี้และ
ตอนสองทุ่มครึ่ง ..

ทุกอย่างในวันนั้นยังติดแน่นในหัว ไม่มีอะไรหายไปเลย

ถ้าการที่กุจะต้องหาใครสักคนมาแทนที่พี่ชาย กุคงฆ่าตัวตายห่านไปแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันนั้นที่ทะเลาะกัน เขาคงเมาอะไรมาสักอย่าง
มากับอีกคนที่คอยเดินตาม พี่เห็นแล้วโกรธมาก
คำพูดคำจาที่คิดไม่รอบคอบ
พูดออกมาให้คนที่คิดทุกคำที่ฟังนี่นะ
กุคงเก็บไว้ทำพ่อไหม?
กุก็ด่าสิ และแช่งด้วย ถ้าจะอยู่แล้วชั่วได้ขนาดนี้ก็ไปตายซะ

กุพูดแค่นี้เอ๊งงง ..แม่ด่ากุ อิเด็กอกตัญญู แม่พูดแค่นี้เอง

สักพัก เราสองคนพี่น้องเลยต่างคนต่างออกจากบ้านไป

และตั้งแต่วันนั้น นังยายก็ไม่ได้เห็นหน้าพี่ชายอีกเลย
มาเจอกันอีกที มากอดกันอีกทีร่างดำ ๆ นั้นก็แข็งเป็นหินไปแล้ว

ไม่มีหรอก อย่าไปหาเลย
โลกนี้มันไม่่มีใครแทนใครได้

ร้องไห้มากๆ ก็เหนื่อยนะยาย

ยายควรจะทิ้งความจำในส่วนที่เจ็บปวดออกไปให้หมด
มันผ่านไปนานมากแล้ว

ยายควรต้องจำแต่สิ่งดีงาม เรื่องที่น่าประทับใจ

ทั้งชีวิตของพี่ชายเราไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้ง ๆ ที่พี่ก็แหย่และแกล้งทะเลาะกับน้องคนอื่น ๆ ตลอด

พี่ชายเป็นผู้ปกป้องเป็นผู้พิทักษ์
พี่ชายทำให้คนละแวกนั้นรู้จักยายหมดทุกคนแต่ยายไม่รู้จักใครเลย
เขาจะรู้ว่า ยายคือน้องพี่ หูตาพี่ชายกระจายไปทั่วท้องถิ่น
ถ้าออกจากรร.แล้วตอ้งตรงดิ่งกลับบ้าน
พี่ชายอ่านจดหมายยายทุกฉบับ ฟังโทรศัพท์ของนังยายทุกสาย
บางทีคุยกับเพื่อนนาน ๆ แล้วมันปวดขี้ เฮ้ยยย เมิงคุยกะพี่กุไปก่อนนะ กุไปขี้ก่อน เพราะพี่กุยกหูฟังตลอด
5555555555555555

ยายไม่เคยฟ้องพี่สักครั้งว่าถูกใครรังแก แต่พี่ก็คอยจัดการคนรังแกยายได้ตลอด บางทีก็สงสารเพื่อน มันคงอยากแหย่เล่นตามประสาเด็ก ๆ ยายยังไม่รุ้เล้ยยย ว่าถูกแกล้ง สรุปแล้วอิเพื่อนโดนพี่ชายเตะอย่างแรง แล้วถาม "มันอยู่ของมันดีดีเมิงแกล้งมันทำไม?"

................................
ยายควรจะเปลี่ยนความคิดถึงให้เป็นพลัง
ยายจะเติมประจุลบทำไม
พี่ชายไปนอนก่อนก็เพื่อจะให้เราช่วยทำให้เขานอนได้สบายขึ้น
ในทุก ๆ เวลาที่คิดถึง ควรจะทำให้เขาได้อยู่เย็นเป็นสุขใจ
อย่างน้อยก็นอนอย่างสบายใจที่สุด

ชอบฟังเพลงลูกหิน พี่ชายชอบร้องให้ฟัง
ทุก ๆ ครั้งที่เขากลับมาบ้าน ก็จะทำกับข้าวให้กิน
ฝีมือเขาอร่อยเอร็ดสูตรเด็ดรสจัดจ้าน ตอนนั้นนังยายยังทำกับข้าวไม่เป็นสักอย่างเล้ยยย พี่ทำให้ทุกอย่าง
พอจะออกไปทำงาน เขาจะถามเสมอ มีเงินใช้ไหม? จะเอาเท่าไร
พี่จะรู้ดีเสมอว่าอินี่ไม่เคยแบมือขอเงินใคร
ให้เงินน้องแล้วก็จะสั่งดูแลตัวเองนะ ดูแลบ้านนะ ดูแลพ่อแม่นะ ดูแลน้องนะ ดูแลหลานนะ อยากได้อะไรให้บอก

ตอนนั้นกุเป็นเด็กตัวเล็กนิดเดียวเองป่ะวะ
แต่ก็โตกว่าเด็กทุกคน สั่งอะไรนักหนาล่ะเฮ้ยยย

ยังคิดอะไรไม่เป็นเม็ดเป็นหน่อย พี่ชายบอกให้ดูแลทุกคน
อินี่ก็ไปซื้อขนมมาเลี้ยงเด็ก ๆ
พี่บอกให้ดูแลทุกคน อินี่พาเด็กเล่นโปลิสจับขโมย สนุกสนานสำราญใจ ความซนและพิเรนทร์พ่อคว้าไม้จะตี ไปเว้ยยย วิ่งเข้าสวน จ้างให้ก็หาไม่เจอร๊อกกกก
กุก็ดูแล้วไง เขาให้อภัยเราแล้ว กลับเข้าบ้านได้

เหนื่อยเหลือเกินแล้วพี่เอ้ยยย..
ถ้าจะมีทางเป็นไปได้ ช่วยกลับมาเขกกระโหลกอิน้องบ้าให้มันรู้สึกตัวแรง ๆ สักที
เผื่อมันจะสำเหนียกได้ว่า ..หยุดหาคนมาแทนที่พี่ชายได้แล้ว..

....................................
ร้องไห้มามากพอแล้ว ..ยิ้มบ้างก็ได้
ชอบมากที่สุดเลยตอนที่ยายเป็นเด็กน้อยพี่ชายยังไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน พี่เล่นอะไรก็กระเตงน้องไปด้วย ขี่คอกันไป
พี่จะมีเคล็ดลับวิชาซ่อนแอบที่หาเท่าไรก็ไม่เจอ
หาจนมันต้องเลิกเล่นกันไปเลย

พี่จะสอนวิชาหากินในป่า เก็บมะม่วงแล้วมาทุบเอากับต้น
ขุดหลุมเอาหินตั้งจุดไฟเผาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เอาดินมาพอกไข่แล้วเผากิน สอนทำบ้านจากใบไม้ ที่พี่ไม่ได้สอนคือกระโดดถีบบ้านให้พังแต่ยายชอบมากเลยอันนี้ ทำบ้านพังไว้ใจน้อง

สอนทำว่าว เอาว่าวขึ้น บังคับว่าว ดูทิศทางลม มันเจ๋งอ่ะสำหรับเด็กน้อยคนนึง

จำได้อีกอย่างหนึ่ง พี่สอนว่า อะไรที่ใครเขารักมากต้องแย่งมาให้ได้ มันแปลว่ามันคือของดี
55555555555555555555555555555555555

สอนดีมาก ยังจำมาใช้กระทั่งทุกวันนี้
ถ้าไม่มีใครสนใจรักษา หรือหยิบใช้ อะไรที่มันตกถึงเรา
นั่นคือของไม่ได้เรื่อง

จำได้อีกอย่าง เวลาพี่ชายซื้อเสื้อผ้าใหม่มาใช้ จะเอามาไว้บ้านให้คนอื่นได้ลองใส่ก่อน ถ้าเขาใส่แล้วชอบ บอกว่าดี เห็นใส่หลายครั้ง เขาจะแย่งกลับไป บอกว่า นี่ของกุนะ
ถ้าไม่ดี เมิงเอาไป

ทุกวันนี้นังยายก็ยังใช้สูตรนี้ ..ลองดิ๊ ดีปุ๊บ เอาตังค์ไปตัวนี้กุเอา

มีอยู่อย่างเดียวที่นังยายไม่สามารถทำได้
พี่ชายจะชอบแกล้งตดแล้วกำมาปล่อยให้คนอื่นดม
กุตดไม่เป็นว่ะ มันเสียชาติเกิดก็ตรงนี้แหละ

เดี๋ยวก๊อนนน กุฝึกพลังลมปรานเรียกตดให้ได้ก่อน
ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่านังยายจะล้มเหลว
สักวันหนึ่งเถอะ กุจะบังคับตดเอาให้ได้ คอยดู๊
5555555555555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:1:42:23 น.  

 
#วันที่๑๕๐ครั้งที่๔ เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน
แทบสิ้นชีพวายปราณ

เมื่อวานนอนก่ายแม่ แม่บอกว่า ตัวเมิงร้อนจี๊ไปหายากินไป

จับคลำสังขารตัวเอง ไม่เห็นจะร้อนเลย แม่เอาอะไรมาพูด
แต่เมื่อวานเพลียมาก สองวันแล้วที่หลับเอาตอนบ่ายสามโมง
ตื่นตอนห้าโมงเย็น สรุปได้งีบ วันละสองชั่วโมง
ตั้งแต่ตาลุงจากไป ชีวิตลำบากกาย แต่ก็สบายใจดีนะ
โลกนี้เป็นของเราในยามค่ำคืน แน่ละ หมาสักตัวก็ยังไม่กวนใจ

ร่างกายเริ่มแย่ กังวลจนปรับตัวไม่ได้
เริงร่าอยู่กับความเงียบสงัด
ความคิดฟุ้งพล่านแต่หยับจับอะไรไม่ได้เลย

เมื่อวานตอนเที่ยง ท้องมันเริ่มประท้วง
กินเข้าไปเยอะนะ แต่ถ่ายไม่ได้

มันร้อนข้างใน จนกระทั่งวันนี้มันแพร่กระจายออกมาข้างนอก

ตัวร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเลย เพลียมากสุด
ตอนใช้ชีวิตบนเสื่อโยคะ มันเลยทำให้รู้ว่า แย่แน่แล้ว
ถ้ายังจัดการเวลาของชีวิตไม่ได้
อีกไม่เกินสามวัน เมิงล้มหมอนนอนเสื่อแน่ ๆ

เมื่อวานนี้มันน่าจะแพ้ขนแมว ตาปูดตาบวม
นอกจากขนแมวแล้วยังมีส้มตำที่กินไปได้แค่สมคำ

อาหารทะเลมันแพ้สะสมตั้งแต่เดินทาง
กินมาหลายอย่าง เลยไม่รู้ว่าแพ้ตัวไหนกันแน่

ยาแก้แพ้ก็กินนะ แต่ก็แพ้ยาด้วย ชีวิต

555555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555555

นี่ยังไม่รวมที่นอนหายใจไม่ออก จุดแน่นเพราะแพ้ยาคืนนั้นนะ
บอกไม่ถูก รู้แต่ว่า มันจะตาย หายใจแต่แค่คอ
เลยหลับไป ก็ดี ที่ยังตื่น

นอนอยู่บ้าน แอบคิด
นี่ถ้ากุตายไป ใครจะหาศพกุเจอไหมฟร่ะ??

เขาจะรู้กันไหม? ว่ากุตายแล้ว

ไม่ใช่เออ มันหายไป ก็ปกติไง ไม่ต้องหา
ถ้าตายไปนี่แย่เลย ต้องรีบทำสมุดบันทึรหัสผ่านหลาย ๆ อย่างไว้

..........................................

วันนี้ก็ไม่ค่อยดี แต่ไม่เป็นไร
เมิงเอาชนะกุไม่ได้อยู่แล้ว
ยังไม่สำเหนียกอีกหรือ

นอนนานวันนี้ฝันเห็นเด็กคนหนึ่ง ดื้อมากทีเดียว

แค่ฝัน

ช่างมันเถอะ.

....................................
ไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอดไป
ไม่มีใครทำเรื่องยุ่งวุ่นวายใจเราได้ตลอดไป
ไม่มีใครสร้างความทุกข์ใจให้กับเราได้ตลอดไป

ร้อยห้าสิบ ก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งเลยนะ
รีบ ๆ เก็บเข้าสิยาย
ยิ่งเพลีย ยิ่งเหนื่อย ก็ยิ่งต้องตั้งใจเก็บให้มากขึ้น.

ในวันที่ได้ครบสองร้อย พี่ขอแสงสว่างอันเจิดจ้า
ที่ปลายอุโมงค์เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองด้วยนะ

ไม่ลังเลก็เข้าใจ แต่บางทีมันก็อยากเห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมบ้าง
เข้าใจกุด้วย กุแกร่แล้ว
555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 19 เมษายน 2560 เวลา:22:03:06 น.  

 
#วันที่๑๕๐ครั้งที่๕ เอาให้มันครบสิบไป๊

วันนี้รู้สึกไม่ดีเลย ทำตัวเองแท้ ๆ
เอาเรื่องไม่ดีก่อน

ตั้งใจจะกลับไปอบตัวให้ครบสามครั้งติดต่อกัน
ทำไปได้แค่สองครั้ง เห็นแดดแล้วหมดแรง
ออกเวรแล้วขึ้นไปอาบน้ำ หมดแรง นอนดีกว่า
คืออัลไลลลลล...

นอนก็ฝันบรรลัย มีคนโทรมาปลุกอี๊ก แต่เรียกเถอะ
ฝันได้น่ากลัวเกินไป๊

นอนไม่มีความสุข ตื่นก็ไม่มีความสุข

ไม่อยู่หลายวันต้นไม้เหี่ยวเฉาทีเดียว ต้องทำอะไรสักอย่าง
กระถางมันคงเล็กเกินไป ดูพวกนางไม่ค่อยมีความสุขกับกระถางอันใหม่ที่ได้มาเอาเสียเลย
ดูมันไม่เหมาะกับการเป็นที่อยู่ของพวกนาง พวกนางคงต้องการ
บ้านหลังหย่ายยยยย สักหน่อย
อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวจะเอากลับบ้านทั้งหมดนั่นแหละ
นายพี่โตแล้ว สั่งนายให้ดูแลตอนยายไม่อยู่ได้แล้ว เป็นเรื่องน่าพอใจ

พรุ่งนี้มีนัด และวันเสาร์ก็มีนัด
หมดแรง หมดกำลังใจ
ต้องไปเก็บกำลังใจซะก่อนจะกลับมาทำอย่างอื่นต่อ

หมดเรื่องจะคิด
หมดคำจะพูด
ไม่อยากรู้สึก
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เอาเข้าจริง ๆ แล้ว
เวลานั้นตัวเองจะต้องใช้ความรู้สึกอะไร
จะร้องไห้ได้ไหม?

จริง ๆ แล้วอ่ะ ช่วงนี้เป็นอะไรที่เสพติดความดี
ตั้งแต่เก็บเหรียญนับแบงก์มา
ช่วงนี้เวลาเห็นแบงก์เห็นเหรียญแล้วใจมันฝ่อ
แล้วมันก็ปวดใจทุกครั้งเวลาเจอเหรียญตกอยู่กับพื้นแล้วผู้คนพากันเหยียบย่ำเพราะมันไร้ราคา
เจอบ่อยมากนะ เฉลี่ยสัปดาห์ละเหรียญเลย
ขยันทำตกกันเนอะ เวลาที่เจอในแท็กซี่นี่ พี่จะบอกเจ้าของรถเลย
เก็บด้วยค่ะ อย่าทิ้ง...

พี่จะเก็บไหม? ถ้าพี่ไม่เก็บหนูขอ

เรื่องนี้ ดีหรือไม่ดีไม่รู้นะ
แบงก์๗๐ปี พี่ได้มาสองใบ
ก่อนหน้านี้ลูกค้าคนหนึ่ง เขารู้ว่าเราเป็นยังไง
ก็เลยเอาแบงก์ร้อยมาให้ จำไม่ได้นะว่า ตอนนั้นเนื่องในโอกาสสำคัญอะไร

ก็ยินดี เพราะอันนี้พี่ยังไม่ได้
แล้วคนนี้เขาจะไปแล้ว
เธอมักจะซื้อของมาฝากเสมอ ยามไปต่างจังหวัด
พี่ก็เกรงใจ เล่าให้ฟังไม่ได้เลยว่า จังหวัดไหนมีอะไร
เมื่อเขาทราบ ไปตรงไหนก็จะหิ้วของฝากมาให้เสมอ

ตัดใจให้นะ ทั้ง ๆ ที่ก็อยากเก็บไว้ทั้งสองใบ
ให้ของสะสม ของที่เราก็รัก

พอเอาลงมา เขานั่งอยู่ในร้าน
พี่ที่อยู่ที่ร้านก็อยากได้ คือแบบ กุก็มีแค่สองอันป่ะวะ
เขาบอกว่า เขาก็ยังไม่มี
ไม่มีแระ มีแค่สองอัน
ถ้าเจอ จะซื้อมาให้นะ เท่าไรก็คงต้องซื้อ

รู้สึกแย่ ทำไม ไม่ให้ตอนที่เขาอยู่ลำพังฟร่ะ???

พลาดตลอด นังยายนิ

แต่เรื่องนี้ทำให้รู้สึกดีเลย
ทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่ค่อยดีนักนะ

น้องคนนึงเป็นครูจบวิทย์มา
พ่อเขาเพิ่งเสียชีวิตเนอะ เลยต้องออกจากโรงเรียนเอกชนหน้าเลือดแห่งหนึ่ง แถวนี้แหละ

นางไปเป็นติวเตอร์ นี่ก็หน้าเลือดไปอี๊ก
เก็บค่าคอร์สก็แพงนะ แต่ให้ครูแค่เสี้ยวเดียว
นั่งคุยกันสามคน เราไม่ค่อยได้คุยกันหรอก
น้องเขาเป็นเด็กดีและขี้เกรงใจ ดีเกินไปสำหรับสังคมแบบนี้อ่ะ
จำไว้นะ สังคมสมัยนี้ ต้องร้ายนิด ๆ ชีวิตจะดีขึ้นเยอะ
จริง่ มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ

พอคุยกัน ก็แนะนำ เออ ไปตรงนั้นสิ ตรงนี้สิ
ไปเหอะ แล้วชีวิตจะดีขึ้น ฮาาาาาาา

ไม่อยากพูดมากนะ มันจะกลายเป็นการพาดพิงผู้อื่น
ประเด็นคือ เรื่องสุดท้ายนี้เป็นชีวิตที่ไม่ดีเลยของคนอื่นนะ
แต่มันทำให้เราช่างรู้สึกดีขึ้นเยอะ

เอาใจช่วย

วันพรุ่งนี้และมะรืนนี้ ..ไม่ว่าจะทำอะไร
พี่จะอวยพรให้เธอปลอดภัยและมีชีวิตที่ดีขึ้น
รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาที่จ้องจะเอารัดเอาเปรียบ

คนที่มีฝันสวยงามและยังมองโลกในแง่ดีนั้นหายาก
ควรค่าแก่การปกป้องและคุ้มภัย
คนแบบนี้ จะทำให้โลกนี้น่าอยู่

ไม่รู้แหละ ในเมือฝันของพี่มันทำให้เป็นจริงไม่ได้
นังยายจะพยายามทำทุก ๆ อย่างเพื่อประคองฝันของคนรุ่นใหม่ ๆ
ให้มันเกิดขึ้นจริงจนได้

บางทีก็คิดนะ การเอาแง่ความจริงของวงการชั่ว ๆ ใครคราบคนดีมาเปิดตัวในที่ที่สมควรและเหมาะสม
มันควรค่าแก่ผู้แสวงหาเพื่อความปลอดภัยของคนที่ความเชื่อมั่นในศรัทธายังไม่ถูกทำร้าย.

นาน ๆ จะได้เจอสักคน.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:23:28:11 น.  

 
#วันที่๑๕๐ ครั้งสุดท้ายจริง ๆ แล้ว

เพลียอะไรเบอร์นั้น เพลียจนต้องไปล่าหากำลังใจ
จิตไม่ได้ตกนะ แต่มันระเหเรร่อน ตอนไปเที่ยวคงลืมเอากลับมาด้วย
55555555555555555555555555555555555

ความตั้งใจนี่ไม่รู้เอาไปวางไว้ตรงไหน
ทุกวันนี้จะทำอะไรเหมือนจับสลากเลือกมา
เออ วันนี้ทำอันนี้ก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

............................................
ณ จุด ๆ นี้นะ
-มีคนงานที่พร้อมจะฟังและทำตามคำสั่งยาย หนึ่งคน ทีมงานเขาต่างหาก
-มีเด็กน้อยอยู่สี่ บวกหนึ่งคนต้องคอยสังเกตพฤติกรรมและคอยเติมฝันให้เป็นรูปร่าง สองคนอยู่ในความดูแล อีกสองคนอยู่ในความอุปถัมภ์ หนึ่งคนไป ๆ มา ๆ
-มีเด็กอ้วนหนึ่งคนที่ต้องคอยประคับประคองกันไปไม่ให้อ่อนแรง ไม่ให้ใจหล่น
-มีคนแก่ที่ต้องคอยติดตามอาการอยู่เรื่อย ๆ สองคน
-มีต้นไม้สามชนิด สามสิบกว่ากระถาง
-มีปลาสองตัว
-มีพี่จิบ ที่ต้องคอยเช็คสภาพให้ใช้งานปกติ
-คนที่นี่ไม่เอามารวมมันมากมายเกินจะจับมาลิสต์เป็นข้อ ๆ

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นไม่ได้หยิบมาปะปนกันเลยนะ
แค่เรื่องจำพวกนี้ที่ต้องคอยดูอยู่ห่าง ๆ ทุก ๆ วัน
มันก็หมดเวลาจะไปทำอะไรแล้วป่ะวะ

วันหนึ่งทำสิ่งนี้ได้ อีกสิ่งหมดเวลาจะหันไปแล
น้อยมาก ๆ ที่จะทำทุกสิ่งได้ในวันเดียวกัน
เพราะแต่ละสิ่งอย่างมันต่างสถานที่
มาคิดดูแล้ว นี่เมิงเสียเวลากับการเดินทางมากมายเลยนะ

ต้องหาวิธีที่จะคอยดูเรื่องพวกนี้โดยไม่ต้องเดินทางบ่อย ๆ
กุเพลียกะแดดฤดูร้อนปีนี้มาก ยอมแพ้
เมิงเก่ง เมิงร้อน เมิงมันสุดยอดดดดด

นี่ยังไม่รวมสังขารพี่เลยนะที่ยังต้องแก้ไขอีกหลาย ๆ อย่าง
พอมาเล่นโยคะแล้วมันพบว่า มีอวัยวะหลายส่วนที่ไม่ค่อยจะโอเค
เจ็บขัดและไปต่อไม่ได้ หายใจไม่ได้

เอาทีละเรื่องนะนังยาย
อะไรที่มีความสุข ทำมันก่อน
พรุ่งนี้ยายต้องไปหากระถางกับดินมาใหม่
ต้นไม้มันเฉาแดดและที่อยู่มันเล็กเกินไป
ไม่อยู่หลายวัน ต้นไม้เฉากำลังจะตาย
สงสารพวกนาง
จัดการนางเรียบร้อยแล้วต้องพาไปหาที่อยู่ใหม่ พวกนางจะอยู่กันเป็นป่าในเมืองไม่ดีนะ

เอาว่านหางจรเข้ต้นยักษ์กลับไปก่อนเลย ใหญ่เกินไปที่จะเก็บไว้บนที่สูง

โหระพาก็ต้องเอาไปให้คนอื่นปลูก มันดูจะรูปร่างผอมเพรียวใบเรียวเล็กทุกวัน ๆ ปลูกพืชกินได้เป็นไม้ประดับหมดอ่ะ

เจ้านางเรือนนอกเท่านั้น ถึกทนที่คุณคู่ควร
หนีเที่ยวเป็นเดือนก็ยังไม่ตาย อย่างแย่ที่สุดนางก็แค่ใบเฉา

.....................................

เมื่อวานพาคนแก่มาวัดสายตาจะตัดแว่น
ปรากฎว่า วัดหาค่าอะไรไม่ได้เลย
ลุ้นกันว่า จะโชคดีมีต้อหิน หรือต้อกระจก
โชคดีจัง มีตัวเลือกให้ลุ้นด้วย
เดือนหน้านางมีนัดกับหมอ
นางชอบว่าแฟนนางว่าใจเสาะนู้นนี้
แหน พอตัวเองเจอมั่งทำเป็นกลัว นิสัย

ไปสอนนางแกว่งแขน ทำท่าบริหารต่าง ๆ
วันก่อนโน้นจับนางทำโยคะ นางชอบนะ
แต่ถ้าจะให้ทำเอง นางไม่ทำ

ต้องสอนนางใหม่ในหลาย ๆ อย่าง
เกี่ยวกับแนวคิดการใช้ชีวิตให้อยู่กับปัจจุบันให้ได้อย่างมีความสุข

นางเป็นหญิงยุคก่อน นางติดความคิดที่ พี่รับไม่ค่อยได้เท่าไร

โชคดีที่นางยังฟังบ้าง ต่างกับแฟนนางนะ
ถ้าคิดไม่เหมือนกัน ด่าก่อนเพื่อน เรื่องฟังเอาไว้ทีหลัง
โถ คิดว่าพี่จะยอมหรือ ไม่ฟังก็ช่าง
กุพูดเร็วกว่าอยู่แล้ว พูดเสร็จกุเดินหนี
ปล่อยให้งง แล้วคิดเอง
บางที การที่เรายัดเยียดอะไรมาก ๆ เข้า เขาก็ดูเป็นสิ่งนั้นไม่มีคุณค่า ชอบนัก พูดให้งง แล้วเมิงคิดเอาเอง

ก็ได้ผลหลาย ๆ สิ่งอย่าง

ต้องใจเย็นมาก ๆ ก็นางสองคน

คนที่ดูเหมือนไม่รักกัน พอยุให้เลิกกัน แหม่ทำเงียบ

ให้มันรุ้ซะบ้างอิยายเป็นใคร
5555555555555555555555555555555555555555

ถ้าสองคนนี้แข็งแรงและสุขภาพดีนะ พี่จะไม่เหนื่อยเลย
กำลังใจก็คงจะดีกว่านี้
ไม่ได้หวังเลยนะ ว่าสองคนนี้จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
อยู่แบบนี้ไปก็ไม่เป็นไรหรอก ทุกวันนี้นางผู้หญิงก็เดินได้โดยไม่ได้ใช้วอล์กเกอร์แล้ว แค่ยังเดินไม่ได้ไกล

นางผู้ชายนี่ดื้อด้านหน่อย ไม่รู้มันรั้นได้ลูกคนไหน
พูดอะไรไม่ค่อยอยากฟัง ชอบจะลองของอยู่เรื่อย
พอตะคอกเสียงดังมาก ๆ ก็มีแอบดราม่าบีบน้ำตา

เกิดมาก็ยังไม่เคยแก่ซะที
ไม่รู้หรอก อารมณ์คนแก่มันเป็นยังไง

ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับสองนางกันไป
ใจพี่จริง ๆ อยากพานางไปหากำลังใจนอกบ้าน
ตอนยังเรียนอยู่ เราสัญญากันไว้กับนางผู้หญิงว่า
เรียนจบแล้วเราไปเที่ยวกันนะ

นี่แหละทำให้พี่อยากตบ อยากฆ่านังน้อง
จากนางไม่มีภาระต้องดูแลอะไร
นางต้องอยู่บ้านเลี้ยงเด็กอ่อน
จนสุดท้ายนางเดินไม่ได้สะดวกเหมือนเดิม

พี่จะยอมไหม? ไม่จ้ะ
เป็นได้ มันก็ต้องหายได้
ถึงวัยของนางมันยากที่จะกลับมาเป็นปกติได้เหมือนเดิมก็เถอะ

พี่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ถ้าใจเราต้องการเสียอย่างเดียว
และถ้าเราสามารถทำให้ร่างกายมันไปด้วยกันกับใจได้อย่างสามัคดีแล้ว ไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้

ความยากมันอยู่ตรงที่ พี่ต้องพยายามที่สุด
ที่ต้องทำให้นางสองคนเชื่ออย่างที่พี่เชื่อด้วย

เพราะนางสองคนถูกปลูกฝังมาตลอดเวลาว่า
สิ่งใด ๆ ในโลกล้วนถูกบันดาลจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

บันดาลก็เข้าใจอยู่นะ
แต่มันก็ต้องเกิดจากเหตุและผลที่มันเป็นมาและเป็นไปด้วยป่ะวะ
จะให้อยู่ดีดีแล้วเกิดขึ้นมาเลย โดยไม่มีเหตุไม่มีผล
มันไม่ใช่
อยากมีสุขภาพที่ดีต้องดูแล ไม่ใช่งอมืองอเท้า
กินไม่ยับยั้ง แล้วมาบอกว่า ตายก็ฝัง อยู่มานานแล้ว

บางทีก็อยากจะตะคอกกลับนะว่า ก่อนตายล่ะ คิดบ้าง
ถ้าการอยู่การตายมันง่ายเหมือนปิดเปิดสวิซต์ไฟก็ดีสิ

อยากตายเมื่อไรก็ปิดไป๊ พอแระ เบื่อโลก
แบบนี้มันได้เหรอ?

มันมีหลายเรื่องมากที่ต้องปรับมาคุยกันให้รู้เรื่อง

สงสารนางสองคนเหมือนกัน
เวลาที่นาน ๆ พี่จะกลับไปบ้านสักที
พอไปเจอแล้ว นางนั่งจ๋อย ๆ ดูจ๋องก๋อยผิดปกติ

ไม่ค่อยมีใครอยากคุยกับนางคนผู้ชาย เพราะนางชอบดุชอบด่า

นางคงเหงา ขอเวลาสักนิด ขอคิดดูก่อน
ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกหรอกว่าต้องทำไงกับนาง

แดดวันนี้แรงจนไมเกรนเกาะกินกบาล
พอกลับไปเด็ก ๆ ช่วยกันยกของลงจากรถแท็กซี่
หนักเหมือนกันแต่พวกเขามีความตั้งใจพยายามจะช่วยยกลง
เสร็จแล้วเด็กหญิงเม็ดแซบเดินมาบอกว่า
"ป้า ๆ วันนี้พวกเรายังไม่ได้กอดป้าเลยนะ"
มีความขอกอดเอง นางเอาตัวรอดได้ดี
เสียใจที่ไม่ได้พาพวกนางเดินป่าอย่างที่ตั้งใจไว้
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ก่อนเปิดเทอมอาจจะไปไปเดิน ๆ ที่ไหนสักที่
เอาระยะแค่สามกิโลก็หอบแดกนังยายแระ

ใจร้อนกับเด็กพวกนี้ไม่ได้เลย
เริ่มมีความเข้าใจชีวิตกันมากขึ้นแล้ว
แต่ยังไม่รู้จักเวลานัก
กลับไปคราวนี้ พี่จะสอนให้รู้จักเวลา
แล้วก็ให้ดูเวลา ดูนาฬิกาเป็นกันทุก ๆ คน

จะได้ไม่ต้องคอยบอกบทว่า จะต้องทำอะไร แล้วยังไงต่อไปอีก
ตอนนี้พวกเขาทำตามคำสั่งได้ดี แค่ยังคิดกันเองไม่เป็นในเรื่อง
ของตัวเอง ต้องคอยบอกตลอดเวลา
ขอเวลาสักสัปดาห์ รู้วิธีแล้วนะ แต่ต้องให้เวลาพวกนาง ๆ

พอก่อนตาจิปิด...


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:1:06:47 น.  

 
วันนี้พี่คงจะทำได้แค่ช่วยเจ้านางเรือนนอกไม่ให้เฉาตาย
กับคุยกับเด็กอ้วนบ้าง

อย่ายอมแพ้ตัวเองนะยาย

สี่ปีแล้วนะ ยังไปไม่ถึงไหนเลย
มันนานเกินไปแล้ว
ยิ่งปล่อยไว้นาน ยายจะยิ่งเพลียมากขึ้นๆๆๆ ไปอีก

........................................

ปรับเวลาเอาใหม่ กลางวันกับอินี่ต้องรักษาระยะห่างออกไปก่อน
อย่าหวังว่าพี่จะออกจากใต้ชายคาก่อนหกโมงเย็น

เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้ามองออกไปแล้วยังเจอแสงแผดจ้า

แค่นั่งมองแดดจากในที่ร่มก็พอแล้ว
เอาตัวเองให้รอดจากช่วงนี้ไปก่อน
ไม่งั้นนะ นอกจากจะช่วยอะไรใครไม่ได้แล้ว
ยังเหมือนจะเป็นภาระทำให้เขาลำบากใจร้อนใจอีกตะหาก

เมื่อวานนี้ให้นายนวดหัวให้ นายก็นวดให้ยายด้วยศอก
พอนวดใกล้จะดีขึ้นแระ นายบ่น ก็ปวดหัวเหมือนกัน
ทำให้บ้างสิ เออพอแล้ว เดี๋ยวป้ายืดเส้นตัวเองก็ได้
แทบอ้วก แต่ผ่านไปได้

ไมเกรน ผื่นคัน แสบร้อนและอ่อนเพลีย

เจอแดดแล้วมาเป็นเซ็ตเลย

...........................
เด็ก ๆ อยากได้ปลาสวยงามเพิ่มคนละตัว
แต่พี่คิดแล้วว่า จะไม่ซื้อให้ และไม่หามาให้หรอก
พวกเขายังดูแลตัวเองไม่ได้ดีเลย
ถ้าเอาปลามาดูแล เดี๋ยวก็ตายหมดกันพอดี
น่าสงสารมัน มันควรจะได้ไปอยู่กับคนที่สมควรเลี้ยงดู
ให้มันมีความสุข จะเลี้ยงปลาแต่ไม่มีเวลาอยู่กับที่ทุกวัน ๆ
ออกทริปที ก็เป็นภาระที แบบนี้ก็แย่
แค่ต้นไม้ก็เป็นห่วงจนไม่มีความสุขแล้ว

วันนี้วันอาทิตย์ เขาหยุดเรียนกันหนึ่งวัน
แต่ไม่เป็นไร แม่เขาก็หยุดงานเหมือนกัน

เด็ก ๆ คงชอบที่จะได้อยู่กับแม่มากกว่าที่จะอยู่กับยาย
มันเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์นะ
เขาอยากให้แม่ทำให้เขามีความสุข
เขาอยากให้แม่ดูแลเอาใจใส่เขา

วันก่อน นายสองคนทะเลาะกันกับเด็กชาย
เพราะว่าเด็กชายมาล้อนายสองคนว่า "แม่แกจะมีพ่อใหม่เค้าจะฟ้องพ่อแก"
นายคนโตออกคำสั่งให้น้องชกเด็กชาย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองตัวเล็กกว่าเขาตั้งเยอะ นายคนเล็กมันเคยยอมใครที่ไหน ตัวก็ไม่ถึงนะ
แต่กระโดดชกหน้าเขา
เขาตัวใหญ่กว่า เขาก็สู้น่ะซี 55555
พอตัวเองเพลี่ยงพล้ำมันก็ร้องให้ยายช่วย
เด็กชายตาลีตาเหลือกรีบแก้ตัว น้องทำก่อน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
กลัวว่าจะโดนตี

พี่พยายามจะเสี้ยมให้นายทั้งสองคนรักษาผลประโยชน์ของตัวเองนะ แต่ถ้ามันฟังเราบ้างก็คงจะดี
เด็กพวกนี้มันรักแม่มากโดยไม่ต้องสอนสั่ง
รักแม่แบบผิด ๆ ด้วย

บางทีก็คิดนะ แล้วกุไปคิดแทนพวกเขาทำไม
ก็ในเมื่อคิดเองเป็นขนาดนี้แล้ว

เด็กชายกับเด็กหญิงและพี่สาว นี่เอาตัวรอดได้เก่ง
แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว
พวกเขาโตกว่านายทั้งสองคน
กำลังอยู่ในวัยที่ใส่อะไรก็ได้เช่นนั้น

วันนี้พี่คงจะไม่ได้ออกไปไหน
พรุ่งนี้แต่ฟ้าสางตอนที่พี่ตะวันยังไม่เข้างาน
ต้องรีบแว๊บหายตัวไปโผล่ที่บ้านให้ทัน

นายขอสัญญาหนึ่งข้อ "ป้า ๆ สัญญานะ ว่าจะเอากระดาษกลับมาให้อีก มินจะพับปิ๊กกาจู"

กิจการใหญ่โต งานพับกระดาษของเขาล่ะ




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:12:51:06 น.  

 
#วันที่๑๕๑ หมดความรู้สึก หมดคำจะพูด

วันนี้ก่อนขึ้นนอน สองแม่ลูกนั่งอยู่ด้านนอก
พี่นั่งอยู่ข้างใน เก็บข้าวของเตรียมจะออกไปจากตรงนี้
คนลูกพี่รับได้นะ ถ้าเทียบกับเด็กสมัยนี้หลาย ๆ คน
นางเอางานเอาการดีทีเดียว ขาดก็แต่ความรอบคอบ
ซึ่งหายากจากคนสมัยนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร
นักหรอก เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะอยู่ด้วยกัน
ควรจะทำอะไรบ้างใช่ไหม?
เพื่อเป็นที่ระลึกของการโคจรมาเจอกัน
เวลาเกือบสี่เดือนที่มาใช้ชีวิตร่วมกัน
ทำให้เราอ่านเด็กคนนี้ได้จนหมดสิ้นไปเลย
อ่านจบทั้งครอบครัว

คนแม่เองที่รับไม่เคยได้ ไม่ชอบ และคิดว่าไม่น่าจะอยู่ร่วมกันได้
พี่พยายามจะช่วยเขาแล้ว แนะนำไปทุกอย่างแล้ว
ถ้ามากกว่านี้ กุก็ต้องลงมือทำเองซึ่งมันก็คือชีวิตกุป่ะ
มันไม่ใช่ชีวิตเขาน่ะซี ก็ได้แค่นี้
ได้แค่ไม่ทำให้เขาเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตของเรามากเกินไป
คนเราจะเติบโตมาเป็นคนเช่นไร
เลือดของแม่ของแม่ มีส่วนแค่นิดเดียว
สภาพแวดล้อมมีอิทธิพลอีกนิดหนึ่ง
ที่เหลือเป็นจิตใจและความคิดของคน ๆ นั้นล้วน ๆ
ครอบครัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสนับสนุนว่า
ที่คิดมาแล้วทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง

อย่างน้อยที่สุดนะ พี่ก็ชื้นใจได้อย่างหนึ่งว่า
กุไม่ผิดเลยเว้ยยย ที่กุนอกคอก กุปกติ
คนที่มันยอมอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกต้องแล้วยังไม่ยอม
เปลี่ยนแปลงอะไรเลยตะหากที่มันผิดปกติ
มันผิดที่ไม่ยอมใช้สมองและกำลังต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงจนสุดความสามารถ กุไม่ผิด
55555555555555555555555555555555555555

ขำว่ะ คนเก่าไป เดี๋ยวคนใหม่ก็เข้ามา
และกุยังคงอยู่ที่เดิมเป๊ะ!!!!

จะต้องรู้สึกอะไร แล้วจะต้องพูดอะไร?????

บอกกับคนลูกว่า จะไปเมื่อไร บอกพี่ด้วยนะ
จะฝากชุดไปให้ลูกสาว
นางบอกว่านางอยากได้ มันเป็นชุดเจ้าหญิงแอนนา
นางว่าอย่างนั้น ยายไม่รู้จักหรอก ยายรู้จักแต่สโนว์ไวท์

การคุยกันในแต่ละวัน มันต้องเปลี่ยนเป็นคุยกันเพื่อให้เขาออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้ดีขึ้นกว่าเดิม

มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ชอบเลยคือ เหมือนการหลอกใช้เขาไปวัน ๆ
มีอะไรทำไมไม่คุยกันไปเลยตรง ๆ ฟร่ะ???

บอกไปตรง ๆ เขาจะรับได้ไหม?

ปัญหาของเขาป่ะ กุไปคิดแทนเขาทำไมอีกแระ

........................................

เมื่อวานได้ไดอารี่ใหม่มาเล่มหนึ่ง
ไดอารี่ที่อยากได้ เป็นไดอารี่ในตำนาน
เป็นภาพวาดลายเส้นมีความตะมุตะมิ เห็นแล้วถ้าไม่คิดอะไรก็เฉย ๆ นะ
แต่พอทราบว่าใครเป็นคนวาด
พี่ต้องยืนขำอยู่นานมากตรงข้ามกำแพงสีขาวที่ทอดยาวตลอดถนนนั้น

ขำขำและมีกำลังใจในการวาดการ์ตูนขึ้นเยอะ
อ่านเรื่องราวในภาพวาดเหล่านั้นจนหมดทั้งเล่ม
มันทำให้มองขาดเลยว่า
ต่อไปนี้นะ สถาบันครอบครัวของได้รับการเอาใจใส่และสนับสนุนมากขึ้นมั้ง คิดเช่นนั้น

คิดอย่างไร ได้อย่างนั้น
ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น
ที่ผ่านมา มันเป็นเช่นไร ก็เพราะต้นแบบคิดในแบบกว้าง ๆ
โดยมองข้ามในส่วนย่อย ๆ เช่นสถาบันครอบครัว
เห็นแล้ว มันทำให้เราเข้าใจได้หมดจดเลยว่า
ที่ผ่านมาเพราะเหตุใดคำถามที่มากมายในหัวจึงไม่มีคำตอบ

เห็นภาพแล้วรู้ทันทีว่าสิ่งที่ต้องการนั้นคืออะไร
น่าใจหาย ที่รู้ว่า มันเป็นเช่นนี้เอง

ก็ได้แต่คาดหวังว่านะ มันจะดีขึ้นในแบบที่คิด

อ่านแล้วงงใช่ไหม?
นั่นแหละคือสิ่งที่พี่ต้องการ
งงก็ดีแล้ว
55555555555555555555555555555555555555

.......................................

สถาบันครอบครัวมีความสำคัญมากที่สุดนะ
ถ้าครอบตรัวไม่ดีเสียอย่างเดียวแล้ว
การจะไปแก้ไขอะไรที่ห่างตัวออกไป
ก็มักจะมีปัญหา ที่เป็นเช่นนั้น
ไม่ใช่เพราะครอบครัวทำให้มีปัญหา
เพราะทุก ๆ สิ่งล้วนมีปัญหาเป็นของมันอยู่แล้ว

ถ้าคนที่ครอบครัวเขาอบอุ่นดี
เวลาเจอกับปัญหาใด ๆ
คนพวกนี้มักจะแก้ไขปัญหาได้ถูกต้องเหมาะสม
ไม่นำอารมณ์ตกค้างส่วนตัว มาใช้ประกอบกับการตัดสินใจ

แต่ผิดกับคนที่ครอบครัวไม่อบอุ่น
จิตใจขาดบางสิ่งที่ควรจะมี หรือมีพฤติกรรมรุนแรง
คนพวกนี้น่าเป็นห่วงเวลาเจอกับปัญหาแล้ว
จิตใต้สำนึกของเขาจะทำงานจนบางที ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่า
ที่ทำไปนั้นเพราะอะไร

ครอบครัวอบอุ่นไม่ได้แปลว่าต้องอยู่กันครบ
แต่มันหมายถึงการเอาใจใส่ดูแลไม่บกพร่องต่อความรับผิดชอบ

เด็กอ้วนพี่ก็ขาด นางน่าสงสาร แม่ของนางมีระบบความคิดที่ติดฟุ้งเฟ้อ นิยมความสมบูรณ์แบบ
นางมีความขาด ๆ เกิน ๆ อยู่หลายอย่าง
นางบอกกับพี่ว่า ถ้าแม่ต้องการสิ่งใดนางจะทำในสิ่งตรงกันข้ามให้หมดเลย

ชีวิตใคร ชีวิตมันป่ะวะ
จะให้กุรู้สึกอะไร
จะให้กุพูดอะไร

มองแล้วก็เงียบ ..




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 24 เมษายน 2560 เวลา:0:32:51 น.  

 
#วันที่๑๕๑ ครั้งที่๓ เกือบดีแล้วแต่ยังเอาดีไม่ได้

วันแรกเจอแกงส้มผักกระเฉดที่บ้าน โหแพ้ตั้งแต่เปิดสำรับเจอกับข้าวแล้วอ่ะ เห็นแก่ของกิน อิย๊ายยยยยย

วันที่สองนี่เด็กอ้วนชวนไปกินติ่มซำ555555555555

ก็เหนื่อยแหละ กลางคืนไม่ได้นอน ทำงาน กลางวันก็ต้องทำงานอีก
ยัดคาเฟอีนยาว ๆ ไป ตอนนี้ก็ยังเพลีย
โยคะแทบจะช่วยอะไรไม่ได้เลยนาทีนี้
ร่างกายมันต้องการพักผ่อนมาก ๆ

วันแรกนั้นฝนทำท่าจะตก ลงมาได้สองเม็ดครึ่งถึงป่าวเมิ๊งง
แต่พี่ก็กลับบ้านแหละ ซื้อขนมปังกับไอศกรีมไปฝากเด็ก
ขำนาย กินเสร็จอ่ะป้า ให้ตังค์ส่งเงินมายี่สิบบาท
เสร็จแล้วไปบอกเพื่อนว่า แกรที่พวกแกรกินอ่ะเค้าเลี้ยงนะ
เพราะว่าเค้าให้ตังค์ป้าไป จ่ายกุยี่สิบบาทนี่นะ

นอน ๆ อยู่ อยากหลับเขาเข้ามาอ้อน
"ป้าเอากระดาษปากกามาจดซิ จะฝากซื้อของหน่อย"
ยี่สิบบาทของเมิงนี่อย่างกะของวิเศษทำได้ทุกอย่างเลยนะ
พอไม่สนใจก็บอก เร็ว ๆ ซี้ สั่งมาเกือบสิบอย่าง
ทำยังกะกุเป็นผู้ช่วยเชฟ แล้วนายเป็นเชฟหย่ายยยยย
สิ่งที่ต้องการ
-ข้าวโพด
-แป้งข้าวโพด
-ไข่ ๔-๕ ฟอง
-เนย
-ขนมปัง
-ถั่วบด (เนยถั่ว)
-น้ำตาลทราย
-แยมสตอเบอร์รี่
-ซํมติงอีกสองอย่างจำไม่ได้

มีบอกวิธีทำด้วยนะ นี่คือโครงงานของเขา

ผ่านไปสิบนาที มาตาม ไหนล่ะของที่สังให้ไปซื้อ?????

คือให้ตังค์กุยี่สิบบาทนี่นะ จะเอาทุกอย่างหมดนี่เลยอ่อ
555555555555555555555555555

เดี๋ยว ๆ กุเพลียแป๊บบบบบบบ

นอนสักพัก สอนแม่ทำโยคะ แล้วก็กลับมาทำงาน

.................................
อีกวันทำได้แต่ดูแลเปลี่ย่นกระถางต้นไม้ กระถางเดิมใบน้อย ๆ
เอาไว้เก็บของเถอะ
เหมือนจะต้องซื้อกระถางใหม่ให้ต้นส้มเช้าข้างล่างนะ
มันใหญ่จนล้นกระถางแล้ว
เดี๋ยวจะหักไปปลูกข้างหลังตึกให้รอบบริเวรเลย

วันนี้ต้องพยายามอย่างที่สุด
ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้สิ่ง่ใด

ที่มันไม่ได้แย่ลงไปกว่าเดิมก็เพราะเมื่อวานนี้
โปสการ์ดชุดที่สั่งซื้อมาแล้ว
เป็นงานชุดที่มีคุณค่าทางใจมากขั้นสุด
บอกกับเจ้าของงานว่า อยากวาดได้บ้าง
เขาสอนนะ แต่อยู่ไกลกันเกิ๊น
ถ้าใกล้ ๆ หรือโซนเดียวกันก็ยังดี
ก็จะหอบสังขารไปเรียน

ต้องพยายาม บอกน้องที่กำลังจะไปว่า
เดี๋ยวใกล้ ๆ วัน ที่จะจัดแสดงภาพ
อย่างที่เคยทำ แต่ขอเวลาสร้างก่อนนะ
อีกอย่างคือ บอกเขาว่า จะพาไปหา ไปเฝ้าท่าน
พี่คะยั้นคะยอให้พวกเขาไปหลายครั้งแล้ว
บอกวิธีก็แล้ว ได้แต่ทำท่าอยากไป
แล้วมันก็ใกล้เวลาที่เขาจะไปแล้วด้วย

พี่รู้สึกเสียดายเวลาแทนพวกเขา
มันควรเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านี้ไว้นะ
ในที่สุด กุก็อดคิดแทนคนอื่่นเขาไม่ได้

ก็แค่นั้นแหละ ..ทุกวันนี้เตรียมหาซื้อของที่จะแจกจ่ายเดือนหน้า
เตรียมงานกันเป็นเดือน ๆ เลยหรือนี่

วันนี้ช่วยเหลือใครไม่ได้หรอก
พี่ต้องประคองตัวเองไม่ให้ป่วย
แค่ไม่ป่วยก็ดีที่สุดแล้ว
เก็บได้ก็ดี เก็บไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะยายนะ
กุรู้เมิงไม่ได้แข็งแรง กุชอบ
มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้กุรู้สึกว่าเมิงยังมีความเป็นคนอยู่บ้าง
เวลาที่เมิงแม่งถึก ๆ ทน ๆ กุละเกลียดเชี่ย ๆ
มันเกินไปนะ คนเรามันก็ต้องอ่อนแออ่อนไหวแบบนี้แหละ

5555555555555555555555555555555555555555555

เมิงจะทำไมกุ เมิงจะกดดันอะไรกุนักหนา.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 26 เมษายน 2560 เวลา:5:41:41 น.  

 
#วันที่๑๕๑ครั้งที่๔ รู้สึกแย่.
เวลาด่าใคร บ่นใคร ระบายอารมณ์ใส่ใคร มันรู้สึกตัวเองใหญ่เกินไปที่จะอยู่ในสังคมแคบ ๆ ยิ่งคนได้รู้มากเท่าไร ความสะใจก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น ไม่ดีเลยนะ
ชอบใจ สะใจ ก็ใช่ แต่ไม่ดีเลย ทำให้ตัวเองออกห่างจากความเมตตา

ตอนพิมพ์ไปก็แค่อยากระบายแค่รู้สึกไม่อยากเก็บไว้
ผ่านไปคืนหนึ่งเพิ่งมาคิดได้ว่า ถ้ายอดขายเขาจะตก
ก็ให้ตกเพราะเขาทำตัวเขาเอง หรือถ้าเขาจะถูกใครคอมเพลนก็ควรให้โดนด้วยตัวเองดีกว่าไหม?

วันนี้จ้ะ เพื่อนพี่ไปจัดซื้อของที่ร้านเดียวกันกับที่ไปซื้อเมื่อวาน
แล้วอิเพื่อนพี่นะ เป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในสามโลก ณ เวลานี้แล้ว

เมิงอย่าได้ทำให้กุไม่พอใจ หรืออย่าได้ขัดใจกุ
นางไปปราณีใครหรอก
เป็นอย่างที่คิด นางไป และไปจัดรายการซะอึ้งและทึ่งกันไปเลย

อย่าได้ให้เล่า ไม่อยากคิดต่อ
แต่พอเถอะ ต่อ ๆ ไป จะหาวิธีระบายอย่างอื่น
ที่ใจเย็นขึ้นเพราะวันนี้ดูแลต้นไม้ให้มันฟื้นตัว
เจอมดแอบอากาศร้อน ๆ ตามรู ตามท่อระบายน้ำ
ตอนแรกก็คิดหาทางกำจัดมัน พอทำมันมาก ๆ เข้า
เออเฮ้ยยย จริง ๆ แล้วเราก็ใช้ชีวิตอยู่กับมดก็ได้นี่หว่า
เราไม่จำเป็นต้องมีระเบียบจัดห้ามมดขึ้นแม้แต่ตัวเดียวหรอก
มดบ้าง นกบ้าง ถ้ามันไม่ได้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคก็ช่างมันประไร

อยากอยู่ก็ อยู่ ๆ ไปเถอะ ขี้เกียจไล่แล้ว

.........................................

อะไรก็ได้หมด แค่อย่าทำให้กรูรำคาญใจก็พอ

เมื่อวานเป็นวันที่ดี ได้โปสการ์ดมาชุดหนึ่ง
ตั้งใจจะสร้างมันให้ได้
อย่างน้อยที่สุด ทุกครั้งที่คิดถึงเท่ากับสมาธิที่ทำได้และกำลังใจที่มองเห็นจับต้องได้
ดีกว่านั่งซึม ๆ ไปวัน ๆ ป่ะ นังยาย.

นอกจากงานชุด ร้อยตะวันแล้ว
ก็ยังไม่เคยตั้งใจทำงานชุดไหนมากเท่านี้มาก่อนเลย

พี่มีเวลาให้นะ ..อย่าคิดมาก ทำเลย.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 27 เมษายน 2560 เวลา:23:26:17 น.  

 
เมื่อวานไปส่งนายกลับบ้านนะ ..แต่ก็ยุ่งและเคืองจนลืมไปว่า
วันนี้ต้องทำบุญครบรอบสิบหกปีป่ะวะ
บอกตรง ๆ ลืมสนิทไปเลย

จะคิดเสียว่า ได้ทำบุญกับเด็กแล้ว

เมื่อคืนฝันแปลก ฝันเห็นบ้านตัวเอง
ทั้ง ๆ ที่นอนอยู่ที่ทำงาน
ฝันว่าพี่กลับมาบ้าน แต่คนในนั้นมันไม่ใช่พี่ว่ะ
มันเป็นใครก็ไม่รู้ หน้าไม่เหมือนเลย
มากับเด็กชายคนหนึ่ง และผู้หญิงคนหนึ่ง
มาคุยกัน หารือเรื่องที่มันผ่านมาแล้วเป็นเวลากว่าสามร้อยปี

ตลกตรงที่เรื่องไม่เป็นเรื่องแต่เห็นเป็นเรื่องราวใหญ่โต
จะให้เล่าไหม แต่ก็ไม่อยากจำนะ
อย่าไปใส่รายละเอียดเลย มันไร้สาระมีค่าแค่ความฝัน

ติดใจตรงที่ไอ้คนนั้นมันเข้าออกบ้านยังกะเป็นบ้านตัวเอง
พูดเยอะแล้วก็นั่งยิ้ม แล้วให้กุยอมรับมันอีก
เฮ้ยยยย กุก็ด่าสิ ในฝันก็ด่า
นี่มันบ้านกุนะ เมิงมาทำไรกัน

แต่ก็รับได้ เออ ๆ ผู้หญิงคนนี้น่ารักดี
ที่จริงเหมือนเคยเห็นคนนี้แบบนี้สองครั้งแล้ว
กับคนอื่น ไม่ซ้ำกัน ชอบมาเหมือนมาเยี่ยมนะ
แต่ก็มักจะพาคนอื่น ๆ ติดตามมาด้วยเสมอ

แล้วที่มันติดใจอีกอย่างหนึ่งคือ กุก็มักจะคิดเสมอว่า
คนนี้พี่ชายนะ กลับมาหาอีกแล้ว

จะดีกว่านี้ป่ะ ถ้าเห็นเป็นหน้าพี่จริง ๆ ไม่ใช่หน้าคนอื่นแบบนี้
ตั้งแต่พี่จากไปนะ ไม่เคยฝันเห็นเลยสักครั้ง
ใกล้เคียงที่สุดตอน ที่ทำผิดแล้วเหมือนมีเสียงมาตะโกนเรียกอย่างโกรธมาก เสียงนั้นเป็นเสียงของพี่ชาย พี่จำได้ดี
แต่มันแปลกตรงที่ ไม่ได้ฝันและเขาอยู่คนละโลก คนละมิติ

วันนั้นนะ ถ้าพี่มีชีวิตอยู่ ได้มีคนตายกันไปข้างหนึ่ง

หลังจากนั้นเหมือนเขาจะโกรธ หรืออะไรไม่ทราบได้

พี่เป็นคนไม่ดีนัก แต่พี่ก็ดูแลเราอย่างดีที่สุดกว่าพี่น้องทุกคนบนโลก

เรามีสัญญากันหลาย ๆ ข้อ
กระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ลืม
พี่เป็นตัวอย่างของผู้ปกป้องดูแล
เป็นตัวอย่างของการแบกความรับผิดชอบไว้ทั้งหมดคนเดียว

กุไม่ได้อยากแบกรับอะไรอย่างนี้ไว้หรอกนะ
ทั้งชีวิตไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะต้องมาแบกรับอะไรมากมาย
ถ้าพี่ไม่สั่งให้ดูแลทุก ๆ คนแทนเขา คิดเหรอ?
ว่ากุจะทำเอง ไม่จ้ะ

เสียใจจนไม่มีอะไรมาทดแทนได้
ไม่รู้จะต้องทำยังไงเหมือนกัน
ให้ความรู้สึกผิดในใจมันลดลงมาได้บ้าง

ดีที่สุดที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ จะพยายามไม่พูดไม่ดีกับใคร
กุพยายามสุด ๆ แล้ว

พี่ตายในขณะที่กำลังไปทำงานให้เรา แล้วก็จากไปโดยไม่ได้เอ่ยคำขอโทษกัน โกรธตัวเอง ถ้าไม่ปากร้ายปากพล่อยก็จะไม่ต้องทำให้ใครเสียใจ ตอนพูดบอกเลย มันสะใจมาก ๆ อยากให้คนฟังมันแดดิ้นลงไปตรงนั้น

รู้สึกผิดและพลาดมาก จนบางทีอยากด่าคนแล้วรู้ว่าถ้าพูดไปเขาจะเสียใจ กุร้องไห้แทนก็ได้ แค่เดินหนีออกมาทุกอย่างก็จบป่ะ

ไม่ต้องไปว่าเขา ไม่ต้องไปด่าเขา หุบปากเลยนะเมิง นังยาย

ลืมก็ดีแล้ว ..

บางทีก็คิดนะ ถ้าพี่ยังอยู่แล้วเอากุไปแทนชีวิตคงดีกว่านี้เยอะ
รู้แบบนี้ตอนจะจมน้ำตายไม่น่าตะเกียกตะกายขึ้นมาเลย
ตอนที่จะตกเหวตายก็ไม่น่าจะขอกลับมาเลย
ตอนที่กำลังจะหยุดหายใจ ก็ไม่น่าจะเอาอะไรไปแลกกลับมาเลย

ตายตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว

....................................

คิดได้ขนาดนี้แล้ว เตรียมตัวตายซะ
เอาให้งานออกมาดีที่สุด
บางทีก็คิดนะ จะตายทั้งดี
ตอนเกิดมาคนเดียว ตอบกลับขอเพื่อนเยอะ ๆ ได้ป่ะ
55555555555555555555555555555555555555555555

ใครจะตายด้วย ..ยกมือขึ้น!!!


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 28 เมษายน 2560 เวลา:2:38:28 น.  

 
#วันที่๑๕๒ครั้งที่๒ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม มันผ่านเข้ามาและเดี๋ยวมันก็จะผ่านออกไป รักษาใจรักษาตัวเองเอาไว้ให้ดีดี

ใจไม่ดี
ตัวไม่ดี

มันร้อนไปหมดเลย

..............................
วันนี้มีนัดพาครอบครัวหนึ่งไปเฝ้าสักการะเบี้องพระบรมศพฯ
ปากบอกว่าอยากไป แต่ไม่ขวนขวายหาสิ่งใดเลย
อ้างว่าเขาไม่มีตังค์
ท่านไม่เคยบอกให้ใช้เงินมากมายเพื่อให้หาท่าน
จริง ๆ ท่านคงไม่ต้องการให้ใครต้องเดือดร้อนกายใจเพื่อไปหาท่านด้วยซ้ำ พี่คิดเช่นนั้น
แต่สำหรับครอบครัวนี้จำเป็นต้องให้ไปเพราะพี่อยากให้เขารู้ว่า
ที่เขาคิดไว้มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย
เขาเดินหลงทางไปมาก นานเท่าไรพี่ไม่ทราบ

ถ้าการมากรุงเทพฯคราวนี้ของพวกเขา
ไม่ได้มาเจอกับนังยาย บอกเลยคนแบบนี้อยู่คนละฟากกับเราแน่นอน
คำพูด ความคิด ได้เผลอพูดออกมาให้ได้ยินตอนแรก ๆ นี่
อยากจะบอกว่า ขวานจามปากเท่านั้นที่คู่ควร

พี่ควรจะดีใจใช่ไหม? อย่างน้อยที่สุดเลยยายก็กำลังเบรกคนหลงทาง และกำลังปรับความคิดของเขาได้ ยังจำวันแรกที่เจอเขาได้
มีเวลาอีกสองวัน วันนี้และพรุ่งนี้เท่านั้น ที่พี่จะทำอะไรให้พวกเขา
ให้ดีที่สุด

การทำดีกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า มันให้ผลดีเช่นนี้เอง..



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 29 เมษายน 2560 เวลา:8:13:41 น.  

 
ได้คนงานมาใหม่ อยู่ด้วยกันสามวันเริ่มจะรำคาญ
ในความรู้มากไม่เข้าท่าของเขา

นี่กุจำเป็นต้องเอาหัวโขนมาใส่อีกแล้วหรือ
คิดว่าชอบ? ทำหน้าตึงมากก็ไม่ได้ ใจดีมากไปก็ไม่ดี

คำถามแปลก ๆ มีมาเรื่อย ๆ
วันนี้มาชวนคุยเรื่องเทคโนโลยีและชวนคุยเรื่องพระเครื่องของสะสม
เขาคงอยากคุยกระมัง ไม่น่าจะมีอะไร
ก็ตามประสาเด็กน้อยในความคิดของคนทั่วไปที่นิยมความสำเร็จทางบริโภคนิยม นังยายนี่แทบจะเชิญออกตรงทางเข้าอ่ะ

คือต้องเป็นกรูทุกครั้งไปใช่ไหม? ที่ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับคนที่เดินเข้ามาใหม่ๆ และท้ายที่สุดพอกุกลับมาเป็นตัวเองคนพวกนั้นก็ต้องกระเด็นออกไป เพราะกุจะทนกับความไม่เป็นตัวเองไม่ได้นาน

.......................................

กำลังตัดสินใจว่า จะเลิกแอบอยู่ในโลกส่วนตัวแระ
แต่ก่อนจะออกไปข้างนอก
จะทิ้งมันให้หมดเลยทุก ๆ อย่าง
ไม่อยากได้มันเก็บไว้สะสมอีกแล้ว
มันหนักเกินไปที่จะแบกทุกอย่างไว้ทั้งหมด

ไม่รู้เหมือนกันว่า ชีวิตมันเดินมาถึงจุด ๆ ที่ ไม่อยากคิดอะไรได้ยังไง

เกิดเรื่องขึ้นเหมือนกัน เลวร้ายเหมือนกัน แต่ใจมันบอกว่า
อย่าเสือกถ้าเขาไม่ได้เอ่ยปากขอร้องให้ช่วย

จบข่าว.

ไม่ต้องต่อรองอะไรกับหัวใจอีกแล้ว

บอกไม่ถูกว่า จะต้องใช้ความรู้สึกอะไร
ผู้ชายหน้าตารูปร่างดีคนนั้นที่เดินมาเคาะประตูพร้อมผู้หญิงเมา
ลุงคนขับรถที่ใส่เสื้อสีเหลืองกับปฏิทินเก่า ๆ
ลูกศิษย์กับเด็กน้อยและสามี
เพื่อนสาวที่เพิ่งกลับมากับหลากเรื่องราวที่เป็นประสบการณ์ใหม่
ปัญหาที่มันซุกอยู่ใต้ชายคาบ้าน
ฝันบ้าและฝันดี

คือถ้าเรื่องพวกนี้มันค่อย ๆ ทยอยกันมานะ
กุก็ยังพอเจียดเวลาไปเพ้อเจ้อได้บ้าง
เมิงเล่นยกพวกกันมาแบบนี้
มาทางไหนไปทางนั้นเลยไปไป๊

หลายวันมานี้ขี้เกียจที่สุดในรอบปีเลย

"คนทุกคนนะ มีเหตุผลที่จะละความเพียรได้เสมอ
แต่ เราผู้ปฏิบัติซึ่งความเพียรพึงแสวงหาเหตุผลเพื่อครองตน
ให้ตั้งด้วยความเพียรจนกว่าการงานอันสำคัญนั้นสำเร็จ"

ไม่มีใครบอกคิดได้ตอนนั่งรถฟรีไปสนามหลวงในวันที่พาเธอคนก่อนไปหาเวลาที่ดี ก่อนจะแยกย้ายกันไป

ถ้าจะต้องมีอะไรเก็บไว้สักอย่าง
ก็คงจะเก็บไว้แต่หมวดนี้
นอกนั้น ..ทิ้งมันซะเถอะ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 4 พฤษภาคม 2560 เวลา:2:16:02 น.  

 
#วันที่๑๕๒ ซ้ำซาก แพ้ตัวเองจนอ่อนใจเกินไปนะบางที

รอกระดาษแผ่นเดียวมาจนจะครบสัปดาห์แล้ว
ยังไม่มีวี่แววว่าจะเดินทางมาถึงเลยสักนิด
รู้ทั้งรู้นะว่ามันเสี่ยงที่ของจะหายไป
แต่พี่ก็ชอบที่จะยอมเสี่ยงเพื่อให้ได้มีความรู้สึกดีเล็ก ๆ
กับความทรงจำดีดีที่จับต้องได้

เกลียดตัวเอง เกลียดทุกคนรอบตัว เกลียดไปหมดทุกอย่าง

เกลียดทุก ๆ คนที่มันจ้องแต่หยิบปัญหามาให้คิด
หรือเราอาจจะไม่เก่งพอ ที่จะเปลี่ยนทุกเรื่องที่เคร่งและเครียดให้เป็นเรื่องขำขันได้

เมื่อก่อนนี้ทำความดีเพียงหนึ่งสิ่งแอบอิงได้ตลอดปี
มาตอนนี้ทำความดีสิบอย่างมีความสุขเพียงลมวูบเดียวที่พัดผ่านกลางวันในฤดูร้อน
เสพติดความดีอ่ะ ยิ่งได้ทำยิ่งต้องทำมากขึ้นๆๆๆๆๆ แบบเท่าทวีคูณ ใจหล่นๆ มันถึงจะอยู่รอดได้แค่วันต่อวัน

...........................................

บอกเลยว่าไม่อยากคิด แต่กุเคยปล่อยอะไรได้บ้างไหม?
ไม่จ้ะ ปล่อยอะไรที่รับรู้มาไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

เกลียดตัวเองตรงนี้ ทำไมชอบเสือกเรื่องของชาวบ้านนักนะ
ทุก ๆ ทีมักจะสังเกตเห็นแต่คนที่มีใบหน้าอมทุกข์
วันนี้พี่ได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่พบเจอกี่ครั้งก็มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ และเป็นคนที่ดูหน้าแล้วสบายใจ
ก็เลยอดที่จะถามเขาไม่ได้ว่า "พี่เป็นคนอารมณ์ดีเนอะ เจอที่ไรก็ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลาเลย"

ยังเสือกต่อไปอีกว่า "พี่มีเรื่องเครียดบ้างไหม? เคยไม่พอใจอะไรบ้างไหม? แล้วทำยังไงกับมัน"

น่าสนใจตรงนี้ แกบอกว่า เวลาที่ใครทำให้พี่ไม่สบายใจ พี่จะชอบอยู่คนเดียว และจะอยู่ดูตัวเองนิ่ง ๆ

เธอพูดอย่างกับว่าฝึกปฏิบัติมาอย่างดีหลาายสิบปี
อินี่นี่พยายามมานานมาก กับการบอกตัวเองว่า อย่าด่า อย่าว่า
อย่าไม่พอใจเขา แต่กุไม่เคยทำได้เลย บอกตรง ๆ
ทั้งด่าในใจและด่ากราด ด่ากระทบกระเทียบ ด่าฝากลมฝากแล้ง
ด่าหมากระทบคน ด่าเด็กฝากไปหาผู้ใหญ่
ทำไมกุเป็นคนแบบนี้ฟร่ะ ????

ไม่ดีเลย เกลียดตัวเอง วันนี้ก็หลุดไปหลายคำ


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 6 พฤษภาคม 2560 เวลา:7:09:11 น.  

 
ใกล้จะครบเจ็ดเดือนแล้ว ..วันนี้พาเด็กหญิงตัวอ้วนไปเฝ้าท่าน

ไร้ความรู้สึกเศร้าหมอง ไม่มีอาวรแล้ว
สภาพแวดล้อมต่างๆ เปลี่ยนไปมากทีเดียว
มีหลายอย่างเกิดขึ้น
อีกหลายสิ่งดับสูญไป รวมทั้งใคร ๆ อีกหลายคน

เด็กหญิงตัวอ้วนเก่งมากมาย บอกครั้งเดียวรู้เรื่อง
แต่ด้วยเพราะนังยายไม่ทราบดอกนะว่า
เขาถูกเลี้ยงด้วยข้อมูลอะไร
เราทำได้แค่บอกแต่ในสิ่งที่ถูกต้องตามความเป็นจริง
"ป้าทำไมรู้อ่ะ?" มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุก ๆคนต้องรู้ไหม?
พี่ก็เลยถามกลับไปว่า "แล้วทำไมหนูไม่รู้ล่ะ!!??"
ป้ารู้ไม่ผิด คนไม่รู้ในสิ่งที่ต้องรู้สิผิด
หนูต้องไปแสวงหาในสิ่งที่ควรรู้นะ รู้ไหม?
นี่เป็นเมืองหลวงของเรา
เป็นหัวใจ เป็นหลักใหญ่สำคัญของเรา
มันรากฐานความเป็นมาอันยาวนาน
จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นอย่างดี
การสร้างทุกสิ่งอย่างที่นี่มีเหตุผลอันดีงามเสมอ
แต่เราต้องหาที่มาของมันด้วยตัวเอง
เราจะได้รู้ว่า สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นมันแฝงด้วยความรู้สึกภูมิใจเช่นไร

เด็กหญิงนิ่ง และฟังอย่างตั้งใจ

แอบคิดคนเดียว ...ใจดีแล้วแบบนี้
ก็กลับไปดู ก็กลับไปฟังในสิ่งที่เก็บไว้ได้แล้วซี

ลองดูอีกสักตั้ง
จะพยายามอีกสักที
ก็มีแอบไปดูบ้างแล้ว
แต่ก็ดูได้ไม่นานนักหรอก

.....................................
วันนี้ได้นั่งรถกอล์ฟด้วย
รอบที่แล้วได้นั่งรถจิตอาสา
ก่อนขึ้นรถได้ฟังเพื่อนร่วมเดินทางที่ไม่ได้มาด้วยกันเปรย
กับเพื่อน ๆ ของเขา

จะไม่บอกว่าเขาพูดว่าอะไร เพราะสิ่งนั้น สำหรับเราแล้ว
ไม่ค่อยดีเอาเสียเลย

แต่จะบอกสิ่งหนึ่งว่า
ในทุก ๆ ครั้ง ที่นังยายเข้าไปเฝ้าท่าน
จะบอกกับตัวเองเสมอเลยว่า
ตั้งแต่ไม่มีท่านแล้ว เราได้ดูแลตัวเรา บ้านของเรา
สังคมของเราไปอย่างไรแล้วบ้าง
มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับเรา
มีอะไรคืบหน้าในสิ่งที่เราได้แก้ไข
เวลาที่มองไปยังเบื้องพระบรมโกศ
มันจะอิ่มเอมและตื้นตัน

ทราบดีเสมอว่าทุกครั้งที่เดินทางไป
เรามักจะกลับมาพร้อมด้วยกำลังใจและพลังใจ
ต่อให้ไม่ได้เข้าไปในนั้น แค่ได้อิงแอบอยู่กับกำแพงสีขาว
ยืนตรงข้ามกันก็พอใจแล้ว
วันนี้บอกเลยว่ากำลังใจยังเต็มอยู่
แต่มาเพราะพาเหลนมาเฝ้า
เราจะไม่ทำงานคนเดียวแน่
สิ่งที่ต้องการคือ การส่งรูปแบบและแนวคิดการดำเนินชีวิต
ต่อ ๆ ไปให้กับคนรุ่นหลัง

.......................................
มีคนชอบถามยายว่า "เข้าไปมากี่ครั้งแล้ว?"
คำถามนี้ ไม่ได้นำความภาคภูมิใจสำหรับคำตอบที่จะบอกเลย
บอกเลยว่า นังยายรู้สึกละอาย ถ้าจะบอกความจริงในปริมาณที่มากเท่ามาก รู้สึกละอายใจเป็นอย่างมากทุกครั้งที่อ่อนแอและแพ้ภัยตัวเอง วันใดที่มันเหนื่อยและเพลียใจมาก จนน้ำในตามันหล่น
ยายก็จะเจียดเวลาไปเสมอ และมันก็น่าตกใจในปริมาณที่ไม่อยากนับ
ไม่ใช่เรื่องที่ดี
ไม่ใช่เรื่องที่อยากอวด
ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจ
ทุก ๆ ครั้ง ตั้งแต่ครั้งไปรับเสด็จฯ วันเคลื่อนพระบรมศพ
ถามตัวเองเสมอ เราจะอยู่อย่างไร เราจะเอาใจไปไว้ที่ไหน???

ใจกุจะอยู่ตรงไหนล่ะนับจากนี้ เชื่อไหมว่า
จนบัดนี้ ดวงใจมันก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่เคยเปลี่ยนไปไหน
ได้แต่รับรู้ว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลง
และสิ่งนี้คือ เวลาที่กำลังใจเปลี่ยนไป

"เสียใจได้ แต่อย่าเสียใจจนเพ้อเจ้อ" อยากจะถามคนพูดประโยคนี้ว่า จุดสมดุลของความเสียใจมันอยู่ตรงไหนเหรอ????

ใจต้องแข็งแค่ไหนถึงจะใช้ชีวิตอย่างปกติได้
บ่อย ๆ ครั้งเลยนะ ที่คิดตลอดเวลาว่า
กุนั่งอยู่ตรงนี้ทำไม????????

ยิ่งนั่งยิ่งเกลียดตัวเอง
ยิ่งนั่ง ความเป็นคนยิ่งหมดไป
ยิ่งนั่งอยู่ตรงนี้ปากยิ่งร้าย อารมณ์ก็ร้ายขึ้นทุกทีๆๆๆๆ
จะให้นังยายฝึกขันติไปถึงไหน
นังยายต้องใช้ความเพียรไปอีกเท่าไร
ถึงจะเปลี่ยนคนตรงนี้ให้มันเป็นไปอย่างที่เราอยากเห็น

เวลาคิดแบบนี้ทีไรนะ คำตอบมันมาอยู่ตรงที่
"กุตายไปนี่แหละ..ง่ายที่สุด คำตอบสุดท้าย"

ใจจะขาด .. มันเป็นอย่างนี้เอง

..........................................

จริง ๆ แล้ว วันนี้เป็นวันที่ดีนะ

เป็นวันที่ดี และ ดีมาก

แต่ทำไม นังยายถึงไม่รู้สึกถึงความสุขเลยก็ไม่รู้

มันเสพติดความดีขั้นรุนแรง
วันพรุ่งนี้ และต่อ ๆ ไป
ต้องวางแผนการทำความดีให้เป็นรูปธรรม
จะทำแบบอยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรไม่ได้แล้ว

เป้าหมายต้องชัดเจน ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ผ่านมา

ไม่ได้ทำเพื่อใคร หรือต้องการอะไรเลยนะ

ที่ทำไปทั้งหมด เพราะเห็นแก่ใจตัวเองทั้งนั้น

อะไรจะเกิดขึ้นช่างมัน
แต่ใจกุต้องรอด
ศรัทธาต้องกลับมา
ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ใคร
ก็ต้องเอากลับมาไว้ที่ตัวเอง

ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเองนี่นะ!!!!



อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะยาย
เอาใจให้รอดเป็นพอ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 8 พฤษภาคม 2560 เวลา:1:40:53 น.  

 
ในเวลาหนึ่งเดือนและสองเดือนแรกที่ยังยอมรับความจริงไม่ได้
เสียใจจนสิ้นสติ ..ปกติแล้ว พี่จะวนเวียนอยู่กับเงิน ๆ ทอง ๆ
การนั่งนับเงินในเดือนแรก และ เดือนที่สองที่ผู้คนเขาแห่แหนพากันเก็บเงินไว้เป็นที่ระลึกนั้น ทำเอาพี่ทำงานพลาดจนหัวใจ
เสียเงินเพราะนับเงินพลาด เข้าเนื้อตัวเองไปหลายครั้ง

ทั้งนับเงินพลาด และทำตัวเลขพลาด
อัปยศชีวิต พลาดได้อย่างไม่น่าอภัย

พอตั้งสติได้ มันก็เริ่มคิดได้ว่า พ่อไม่เคยสอนให้เราทำเช่นนี้
แล้วเราจะเห่อเก็บเงินเป็นที่ระลึกทำไม????????????????

หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เก็บไว้เยอะ หลายแบงก์
หลายเลข เลือกแต่เลขสวย ๆ ยิ่งช่วงที่ป๊ะป่วยด้วย
ช่วงนั้นเป็นอะไรที่สิ้นสติ พอป๊ะหาย ได้สติคืนมา
พี่ก็เลยนำเงินส่วนใหญ่ที่เก็บและหาเหตุผลไม่ได้ว่า
เก็บมันเพื่ออะไร เอาไปทำบุญซะหมดเลย
เพราะเดือนนั้นทำบุญทุกสัปดาห์ ไล่แก้ไขในสิ่งที่ตัดขัด

จะพอมีเหลือก็ที่เป็นแบงก์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึกจริง ๆ

แต่ช่วงสามเดือนหลังจากนั้น พี่เลิกสนใจแบงก์เลขสวย
ที่ตัวเองนั่งนับอยู่แล้ว แปลกที่พอเลิกสนใจมันกลับพบบ่อยมากขึ้น

พบไปก็เท่านั้น มันไม่มีคุณค่าใดต่อจิตใจอีกต่อไป

มีเงินชนิดเดียวที่มีค่าสำหรับจิตใจในเวลานี้คือ
บรรดาเหรียญหรือเงินที่พบเห็นว่ามันตกอยู่กับพื้น

และตั้งแต่ตั้งใจเก็บมันทุก ๆ ครั้งที่พบนะ
มันก็มีโอกาสเจอได้เรื่อย ๆ เลย
ทั้งเหรียญ ๒๕ สตางค์ ๕๐ สตางค์ ๑ บาท ๒ บาท ๕บาท
๑๐บาท แบงก์๒๐ แม้กระทั่งล่าสุด แบงก์๕๐๐ บาท

อันหลังสุดนี้ ไปเจอกับน้องที่หน้าห้างฯแห่งหนึ่ง
แต่ตอนเห็นนั้น ได้เห็นด้วยว่าใครเป็นคนทำหล่นไว้
กำลังจะด่าทีเดียว คนเHี้ยนี่ทิ้งขยะ
แต่พอไปดู เฮ้ยยย เงินนี่หว่า ต้องรีบวิ่งตามให้น้องเอาไปคืน
รู้สึกดีป่ะล๊าาาาา อ่ะแน่นอน

ส่วนเหรียญ๑๐นี่ กำลังไปตลาด รอจะข้ามถนนกับทอมอ้วนคนหนึ่ง
นางทำเหรียญตกลงไปแล้วก็ไหลไปกลางถนน พี่ก็เห็น
รถก็วิ่งเร็ว นางคงอาย หรือกลัวตายหรือสิ่งใดไม่ทราบ
แต่นังยายน่ะ กลัวว่า รถคันไหน หรือใครจะมาเหยียบเหรียญมากกว่า เลยรีบวิ่งลงไปแล้วหยิบมันขึ้นมา ต่อหน้าเจ้าของมันนั่นแหละ ส่งให้มันพร้อมกับสั่งว่า "อย่าทิ้งพระเจ้าอยู่หัวฯ"
เขารีบขอโทษและขอบคุณไปในคราวเดียวกัน

ไม่ได้เสียใจเลยที่ไม่ได้เหรียญวันนั้นกลับมาสะสมไว้
ยินดียิ่งที่ได้เห็นเหรียญสิบของตัวเอง แล้วยังจำได้ว่า
ครั้งหนึ่งมีใครคนหนึ่งรับปากเราว่า จะไม่ทิ้งท่านอีก

เหรีญ๒บาท และหนึ่งบาท เคยเก็บได้ในแท็กซี่
และก็บอกให้เจ้าของรถเขาเก็บ

ทุกวันนี้เวลานั่งนับเหรียญ จะมีความสุขมากกว่าการนั่งนับแบงก์
เพิ่งจะคิดออกว่า ควรจะแยกไว้นะ
เหรียญที่เก็บได้ กับเหรียญเงินทอน

เงินที่เก็บได้ตามพื้นถนน ทำให้เรามีความสุขมากกว่า
เงินที่ไปแสวงหามาได้โดยใช้เงินมูลค่ามากมายไปแลกเอามา

หลังจากนี้ไป ก็ตั้งใจแล้วว่า จะไม่พยายามหาเงินเลขสวย ๆ
จากเงินที่เรานับปกติ มันได้มาง่ายเงินไป
พี่จะเก็บแต่ของที่ไม่มีใครแยแสมัน

รูปภาพก็เหมือนกัน จะไม่นำไฟล์สวย ๆ ภาพที่ไม่เคยเห็น
ไปอัด ไปขยาย และจะไม่ลงทุนซื้อภาพหรือทำภาพใด ๆ

ภาพที่ได้มาตอนไปร้องเพลง มีสองภาพ แต่ยายจากพิจิตรขอไปแล้วหนึ่งภาพ จำได้นะ ว่ารูปนั้นคือรูปไหน เคยคิดจะไปซื้อมาแทนอันที่ให้เขาไป
แต่ตอนนี้ไม่อยากได้มันแล้วแหละ
เคยบอกกับตัวเองเสมอ เราจะไม่ทิ้งท่าน
ปฏิทินเก่า ๆ รูปที่ขาด ๆ จะเอาไปทำให้มันคงอยู่ในสภาพดี
แล้วมันจะอยู่กับเราตราบนานเท่านาน
พี่จะเก็บของเก่า เอามาถนอมให้มันคงทนได้นานที่สุด
มันควรจะอยู่ในที่ที่ควรอยู่

เคยฝันว่า ครั้งหนึ่ง ตอนที่กำลังใจเสียที่สุด
ฝันว่าท่านเสด็จไปประทับที่บ้าน ให้ปชช.ทั่วไปได้เข้าเฝ้า
ในฝันนั้น ท่านชี้นิ้วรับสั่งว่าตรงนั้นยังไม่ดี ตรงนี้ต้องแก้ไข
ภาพที่ทำเรียบร้อยแล้ว จะเอามาติดตั้งในตำแหน่งที่ฝันว่า
ท่านทรงประทับ.

เฉพาะเงิน กับ รูป ที่เก็บของคนอื่นทอดทิ้งไว้
ก็มากมายเอาการ ไม่ใช่น้อยเลย

.....................................

ถ้าจะต้องทำของใหม่
จะทำแต่เพียงภาพบรรยากาศทรงจำ
ในแต่ละวันที่เดินทางไปตรงนั้น
เก็บได้เป็นเล่ม ๆ แหละ

บอกอะไรให้ว่า พี่ชอบถ่ายรูปที่มันสร้างภาพจำให้คนอื่น ๆ
จริง ๆ แล้วในทุก ๆ ครั้งที่เดินทางไปตรงนั้น
เรามักจะได้รอยยิ้มกลับมาเสมอ ถึงแม้ว่า
บางทีมันก็มีบ้าง ที่ได้เจอคนที่ขัดหูขัดตาไปหน่อย
แต่ถ้ารู้จักที่จะทำความเข้าใจเขา และพยายามบอกกับตัวเองว่า
เราต้องมีความปรารถนาดีต่อคนทุกคนที่พบเห็น
เราก็จะเอาใจดีดีกลับมาได้ไม่ยาก

ที่น่าจดจำมากที่สุดก็คือ เวลาเราไปถ่ายรูปแล้วเห็นว่า
คนที่เขาดูเงอะ ๆ งัน ๆ เซลฟี่หามุมที่ดีให้ตัวเอง
พออินี่แอบเสือกชะโงกไปดูที่หน้าจอเขา
โหยยยย โคตรห่วยเลยว่ะ!!!

ด้วยความเสือกของกรูที่มันระดับความรุนแรงขั้นสุดอ่ะนะ
จะบอกให้ว่า มันอดไม่ได้สักที ที่จะบอกเขาว่า
"ขอโทษนะคะ หนูถ่ายให้เอาไหม?"

บางทีนะ กล้องเขาก็โคตรห่วยไม่แพ้กับฝือมือเขาเลย
ถ้ามันอยู่ในตำแหน่งที่พอจะช่วยเหลือให้เขาได้รูปที่ดีกว่าได้
ก็ใช้กล้องของตัวเองนี่แหละถ่ายให้
แล้วส่งให้เดี๋ยวนั้นเลย

ทุกครั้งที่เดินทางไป ..ก็มักจะได้ทำอะไรแบบนี้เสมอ
แต่ก็ไม่เคยเก็บภาพเขาไว้เลยสักครั้งเดียว

มันเป็นการกดชัตเตอร์ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกทรงพลังมหาศาล

มันคิดถึงตัวเองนะ เวลาที่ได้เห็นตัวเองมีรูปดีดี
ในบรรยากาศที่สวยงาม
เราก็มักจะจดจำคนที่ลั่นชัตเตอร์ในภาพประทับอันนั้นของเราได้ดีเสมอ

ความเสือกของอินี่ ก็มีดีแค่ตรงนี้แหละ
555555555555555555555555555555555555555





ขอบพระคุณท่านทั้งหลาย ที่กรุณาตอบรับให้อิฉันได้เข้าไปเสือก.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 8 พฤษภาคม 2560 เวลา:5:52:57 น.  

 
ตื่นขึ้นมาเช้าวันนี้..รู้สึกปลงตก

พี่ก้าวช้าไปก้าวหนึ่ง เด็กหญิงตัวอ้วนโตเกินที่จะแก้ไขอะไรได้แล้ว
ไม่สามารถจะยัดเยียดอะไรให้ได้
เขามีบาดแผลลึกที่ไม่มีใครทั้งนั้นยอมรับ
แม้กระทั่งตัวเขาเอง

มันเป็นเวรกรรมอะไรของนังยายที่ต้องมารับรู้และรู้อยู่คนเดียว
พ่อแม่ก็ไม่ใช่เป็นแค่ยายพี่สองของยายอีกที
ออกจะห่างออกมาตั้งไกล ไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้น

มองไปยังอนาคตแล้วละเหี่ยใจ จะให้กุทำอะไร บอกมาสิ

อึดอัดใจ บอกใครก็ไม่ได้ กลัวผู้ฟังได้ยินแล้วจะเสียใจ

แม่มันจะรู้ไหม? ว่าลูกคิดแบบนั้น
พ่อมัน ปู่มันจะเข้าใจไหม สิ่งที่ตัวเองทำไปไม่ใช่แค่ทำร้ายตัวเองแต่ยังทำให้ผ้าขาวผืนนั้นหม่นหมองไปด้วย

อะไรที่มันยังไม่เข้าที่เข้าทาง ล้วนมาจากพฤติกรรมการดูแลทั้งสิ้น
ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรเลย

เอามาอยู่ด้วย ก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรได้มากมาย ทำได้แค่ทำให้ดูว่า
จริง ๆ แล้ว ความเป็นจริงของชีวิตคืออะไร

เขาอยู่ในวังวนของความสมบูรณ์แบบที่ต้องสร้างให้ตนเองสมบูรณ์แบบในสิ่งที่คิดว่าสังคมต้องการ

มันมีอยู่จริง ๆ เหรอ?

ทุกวันนี้ เวลาคุยกัน ต้องคอยย้ำสม่ำเสมอว่า
"อยู่กับความเป็นจริงลูก อย่าอยู่กับมโนกรรม"
คนเรามันผิด มันพลาดกันได้ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเสมอไป
ใครไม่รู้ว่าเราเป็นอย่างไร ไม่เป็นไร ช่างหัวมัน
แต่เราต้องรู้ให้ชัดเจนว่าเราเป็นอะไร มีจุดบกพร่องอะไร เราจะได้แก้ไข มาแรก ๆ ไม่ยอมรับอะไร พี่มีเวลาแค่ไม่ถึงสัปดาห์
พี่จะไปทำอะไรได้

ความจงรักภักดีไม่ใช่สิ่งที่จะส่งมอบกันได้ง่าย
เมื่อวานนี้หลุดอารมณ์ร้ายใส่เขาไปครั้งหนึ่ง
"ถ้าหนูพูดแบบนี้ให้ป้าได้ยินอีกป้าจะตบปากหนูให้เลือดกลบปากเลยนะเพราะว่าสิ่งที่หนูพูดไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเล่นๆ ได้ พูดอะไรต้องคิด ต้องรู้ความหมายอย่าปากพล่อยให้ได้ยินอีก"

เขาฟังนะ ก็ได้ ไม่พูดอีกก็ได้

คือไม่รู้ว่าไปรับข้อมูลอะไรมา และพี่ก็ไม่ได้อยากถาม ไม่ได้อยากรู้ด้วย อยู่กันไม่ถึงสามวัน มันบ่งบอกเลยว่าเคมีเราเข้ากันไม่ได้
เขาต้องปรับตัวและยายก็ต้องปรับตัว
ทำได้แค่บอกว่า หนูอยากทำอะไรก็ทำได้เลย เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ป้าอยากให้หนูใช้ชีวิตได้เอง

ทุกอย่างคิดเอง ทำเอง เมื่อคืนเหนื่อยเลยนอนท่าจรเข้แล้วเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาอาบน้ำพบว่า เขาจัดการตัวเองได้ดี
ปิดไฟ และเปิดไฟจากโคม ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยดีมาก ๆ ต่อไปนี้ ก็หายห่วง จะเหลือแต่วิธีคิดเท่านั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ ที่พี่พอจะค่อย ๆ ช่วยปรับให้ได้

ชีวิตใคร ชีวิตมันสินะ

..................................

ใกล้จะปิดเคสเด็กหญิงและเด็กชายทั้งหมด พร้อมกันกับนายทั้งสองคน เด็กทุก ๆ คนรู้แล้วว่าเมื่อโตจนพร้อมแล้วมีภาระอะไรต้องทำ กะเกณฑ์อะไรไม่ได้หรอกนะ สัญญาเมื่อยังเป็นเด็กมันเปี่ยมไปด้วยความฝัน แต่ก็ไม่ใช่จะมีอะไรมาการันตีได้ว่า ฝันนั้นจะยังคงอยู่ไปจนถึงเมื่อไร

ที่ยายทำให้ทั้งหมดก็เพื่อจะให้โอกาสกับเด็กน้อยทุก ๆ คน
และเพื่อความหวังที่ว่า สักวันหนึ่งเมื่อหนูมีกำลังมากพอ หนูจะรู้จักให้โอกาสแบบนี้ ก็คนที่ยังขาดโอกาสที่จะมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ บ้าง
เขาดูเข้าใจ และดูตกใจกับสิ่งที่ได้รับรู้ มันมองเห็นได้ชัดเจนว่า
สิ่งนี้มันทำให้เขาสับสน เพราะช่างแตกต่างกับทั้งหมดที่เข้าใจมาโดยตลอด.

"ป้าทำไมป้าไม่มีแฟนทำไมป้าไม่มีลูก?"
"ถ้าป้ามีแฟนและถ้าป้ามีลูกหนูคิดว่าป้าจะเอาหนูมาเลี้ยงพาหนูไปเที่ยวซื้อเสื้อผ้าให้หนูและจะมีเวลาดูแลหนแบบนี้ไหม?"

....เงียบ....

ทุกอย่างดูเงียบและงง
เพราะสิ่งที่เขาเข้าใจมาโดยตลอดคือ
คนจะดีและสมบูรณ์แบบต้องมีแฟนหล่อและต้องมีลูก

แต่พอรู้ว่า ถ้าป้ามีสิ่งเหล่านั้น ตัวเองจะขาดทุกอย่างที่ต้องการ
ในเวลานี้ มันเลยทำให้เขาเงียบงันไป

...ยายไม่ผิดใช่ไหม? ที่ต้องพูดความจริงในเวลาแบบนี้...

ไม่ได้อยากทำลายฝันอันมโนแจ่มของเด็กน้อย
แต่ความเป็นจริงคือสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ.

พี่ต้องการอยู่กับความเป็นจริง
ไม่ต้องการภาพชีวิตที่งดงามสวยหรู

จะมีก็แต่นายคนโตเพียงผู้เดียวเท่านั้นกระมัง
ที่พอจะเข้าใจว่า ความเป็นจริงของชีวิตคืออะไร

สำหรับเด็กน้อยคนอื่น ๆ มันช้าเกินไปก้าวหนึ่ง
เขาไม่ได้อยู่กับเราตั้งแต่เล็กๆ

คอยดูกันว่า ..นายคนโตจะทำงานได้ดีแค่ไหน

นังยายก็อยากรู้เหมือนกัน.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 พฤษภาคม 2560 เวลา:15:30:39 น.  

 
เมื่อวานกลับไปส่งเด็ก ๆ และวันนี้ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าใดนัก

กลับไปบ้านเจอป๊ะ ที่บอกอะไรไม่ค่อยอยากจะเชื่อฟัง
ใจมันหล่นแบบหาที่อยู่ไม่เจอ และไม่อยากจะคิดอะไรไม่อยากจะทำอะไรให้ด้วย พยายามบอกกับตัวเองว่า ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้อยู่
อย่าปากร้ายไม่ว่าจะกับใครทั้งนั้น

ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไร ยิ่งอดทน
ยิ่งนิ่ง ยิ่งเฉย เวลาหลุดขึ้นมาทีนี่
มันดูรุนแรงกว่าที่เคยเป็น
ไม่ได้ชอบตัวเองแบบนี้เลยนะ

ความพยายามไม่เคยพัฒนาขึ้นเลย
พยายามนิ่ง?? อะไรคือนิ่งของเมิง
เมิงสรรหาเรื่องทำได้ตลอดเวลา
จนบางทีพี่ก็คิด รู้จักเหนื่อยบ้างไหม?
แล้วเมิงก็บ่น เมิงเพลีย อิห่านจิก

นี่ขนาดเมิงปฎิเสธไปเยอะแล้วนะ
อะไรคือนิ่ง

พยายามเงียบ. อะไรคือเงียบ?????

อดทน เก็บปาก คืออะไร???

พี่เห็นก็แต่ความบ่อยที่น้อยลง
ไม่บ่นดะ บ่นทุกเรื่อง
แต่สกิลการด่าเมิงนี่นะ
มันไม่ได้ลดน้อยถอยลงเล้ยยยย

และยิ่งนับวันเมิงจะยิ่งแกว่งตีนหาเสี้ยน
แกว่งปากหาเลือดด้วย

ไม่ดีเลยนะ เกลียดตัวเอง
ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข

วันนี้ถ้าพอจะมีเรื่องดีดีบ้าง
ก็คงเป็นเรื่องที่น้องแม่ของนายผ่านมาหา
แล้วก็เล่วเรื่องเก็บเงินแบงก์๒๐ได้
เอามาโชว์พี่ พี่ก็เลยยึดเลย
ยึดมาเก็บไว้แล้วเอาอีกใบไปแลก

นางว่ากำลังจะเหยียบอยู่แล้วเชียว

ในที่สุด พี่ก็ได้แบงก์๒๐ ซะที
ยังคิดอยู่เลยว่า จะเก็บได้ตอนไหนนะ

ถ้าเก็บไม่ได้ก็คงหมดหวัง
ไม่คิดจะไปสร้างเรื่องเพื่อให้ได้มีมันไว้หรอก

.............................
นานแล้วที่ไม่ได้คุยกับเพื่อน ๆ เลย
มันเบื่อที่จะรับรู้เรื่องราวในชีวิตของใคร
วันนี้ก็เลยทักไป
เคยเห็นว่าเขาเวิ่นเว้อ จะเตือนก็ดูไม่ค่อยดีนัก
เตือนเบา ๆ ไม่ค่อยจะเป็นกับใครเขา
พี่เลยเลือกที่จะไม่ติดต่อ ห่างออกมา
เวลาผ่านไปเขาคงดีขึ้น สิ่งมีชีวิตทุกชนิดย่อมรู้จักเอาตัวรอด

"ไม่เผาได้ไหม?" เพื่อนถามคำถามนี้
มันรู้สึกเหมือนเอามีดมากรีดลงตรงกลางใจ
ถ้าจะเอาความรู้สึกมาเป็นตัวชี้นำเหตุการณ์
เราคงจะบอกว่า ที่ต้องการเห็นคือ
รอยยิ้มบนใบหน้า ความก้าวหน้าของผู้คน
ภาพสวยงามในบรรยากาศบ้านเมือง
ความงดงามของวันเวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน

แต่ ... เราเลือกได้ไหม?
ให้อะไรบ้าง บังเกิดขึ้นในแต่ละวัน

เราปฏิเสธได้สักครั้งไหม?
ในทุกเรื่องราวที่ไม่เคยคิดจะต้องการ

ถึงไม่อยากให้เกิดขึ้น
ถึงไม่อยากจะยอมรับ
แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่า
สิ่ง่นี้คือความเป็นจริง

นี่เป็นเรื่องจริง มันเกิดขึ้นแล้ว
มันไม่ใช่ความฝัน

เศร้าได้ เสียใจได้ อาลัยได้ แต่อย่าอาวรณ์
มันยากฉิกไหก็ตรงที่
ตัวกุเอง กุยังทำไม่ได้เล้ยยย
ยังมีหน้าไปสอนให้เพื่อนเข้มแข็ง
ไม่อาวรณ์ อิเHี้ย...

จะให้กุนิ่งได้ยังไง
เวลาที่มันเห็นว่ามีใครมางอแงงี่เง่า
เรียกร้องนี่นั่นงอมืองอตรีนไม่ทำห่านไรเลย
แค่ด่ามันยังน้อยไป
จริง ๆ แล้วอยากสาปให้มันกลายเป็นหินโสโครกด้วยซ้ำไป

วันนี้ไม่ดีเลย...

ไม่ดีเอามาก ๆ

อะไรคือความไม่โกรธ จริง ๆ แล้วกุโกรธและเกลียดมันมาก

เกลียดตัวเองด้วยทำไมต้องไปรู้เรื่องของมัน
ทำไมกุไม่รู้แค่เรื่องที่มันอยากให้รู้
ทำไมกุไม่ทำโง่ ๆ ไป จะได้จบ ๆ
ชื่นชม ชื่นชอบ ดีจัง เก่งจัง
น่านับถือ สร้นตรีนหมา

ทำไมกุเป็นคนแบบนี้
ต้องคิดยังไงฟร่ะ ถึงจะวางเฉยได้

คืออยากด่า คืออยากแดรกกบาลมันตลอดเวลา
คือสายตามันแผ่รังสีอำมหิดไปแล้ว
เมิงอย่าให้กุของขึ้นนะ
กุบอกแล้วไง
ถ้ากุจะกลับไปอยู่บ้าน ของแบบนั้นจะต้องไม่มี
อย่าให้กุเห็น มันกับกุอยู่ด้วยกันไม่ได้
และถ้ากุจะอยู่ มันต้องออกไป

จะเอายังไง ให้กุเผาแม่มเลยดีไหม?
ไม่ต้องด่า ในเมื่อเอาดีไม่ได้
ก็ให้มันหายไปจากโลกนี้เลย
เอาแบบนั้นไหม????????????

เกลียด.


เราต้องปรารถนาดีต่อกัน เหรอวะคะ?????

ตัวมันเองยังไม่รัก ปรารถนาดีต่อกันแล้วมีอะไรดีขึ้นมา

บอกเลยนะ ..
ถ้าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ความอดทน พี่ทนได้
แต่ถ้าไม่ใช่เรื่อง

เอามันให้ห่าง ๆ ออกไป
อย่าให้มาเจอ
เพราะนังยายจะไม่ทนเด็ดขาด.




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 11 พฤษภาคม 2560 เวลา:23:59:33 น.  

 
#วันที่๑๕๓-๑๕๖ ได้มาด้วยความยากลำบาก ขอพลังจงสถิตจนกว่าจะสำเร็จ

ตัวเลขยิ่งมาก ความยากก็มากขึ้นเรื่อย ๆ
หลายครั้งที่คิดจะปล่อย อยากวางแล้ว เหนื่อยและเพลียใจ
เหมือนรู้สึกว่ากำลังแบกโลกไว้ทั้งสามใบ


............................
เคยรู้สึกเกลียดอะไรแบบที่จะไม่มีวันยอมรับมันได้ไหม?
แล้วถ้าวันหนึ่งเรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นกับตัวเอง
ก็ยังเอาตัวรอดพ้นออกไปไม่ไหว
ทุกเรื่องที่เกลียดกลับทำเองซะหมดเลย

แล้วจะไปหาความเชื่อมั่นตรงไหนเหลือไว้ให้หล่อเลี้ยงใจตัวเอง

เวลาไม่เคยเยียวยาสิ่งใด
สิบปีผ่านไป วกมาที่เดิม ความรู้สึกก็ยังกลับมาที่เดิม
ทุกอย่างเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเกลียดตัวเองมากขึ้น่

บางทีก็คิดนะ ถ้าเราความจำเสื่อมอะไรๆ ก็คงจะง่ายขึ้น

..............................

เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งดีใจไป
กุก็แค่ทำความเข้าใจอารมณ์ตัวเอง
กุก็แค่อ่อนไหวป่ะวะ
ไม่ได้หมายความว่า กุจะยอมแพ้ซะหน่อย

พวกเมิงต้องสำเหนียกไว้นะ ว่า
กุจำได้เสมอ กุกลับมาเพื่อจะชนะทุกสิ่งอย่าง
กุไม่ได้กลับมาหายใจเพื่อจะยอมแพ้แม้แต่ใจตัวเอง

มันก็ต้องมีบ้างแหละ

บางเวลาที่เผลอใจออกไป ทำใจหล่น ๆ หาย ๆ ไปบ้าง
มันก็ต้องมีบ้างแหละ

บางเวลาที่เหมือนจะเพลี่ยงพล้ำจนเกือบจะยอมแพ้

แต่ยังไงก็ต้องยังคงก้าวเดินออกไปต่อ

กุยังไม่ได้หยุดหายใจ

สำเหนียกไว้สิ

... แค่เพลีย ไม่ได้หมายความว่า กุ แพ้ แล้ว ...


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:14:19:30 น.  

 
#วันที่๑๕๗-๑๖๐ ว่างเปล่า

เรื่องเยอะแยะแต่กลับให้ความรู้สึกว่างเปล่า
การไม่ใส่ใจเรื่องชาวบ้านมันดีแบบนี้เอง

กลับบ้านทุกวันวันนี้ก็เข้าวันที่สามแล้ว
ได้ยินเสียงไอของป๊าแล้วใจจะขาดไม่อยากได้ยิน
ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย แรก ๆ รู้สึกโมโห อยากด่า
อยากสมน้ำหน้า แต่พอจับความรู้สึกตัวเองได้
ก็ชั่งมันสิ จะเป็นหรือจะตายเลือกเอา
อยากมีชีวิตอยู่อย่างไร
อยากจะตายด้วยภาพเยี่ยงไร เลือกเอา
เลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่พี่เชื่อว่า
คนเราสามารถเลือกวิถีทางเดินแห่งความตายได้เสมอ

จะไม่เตรียมตัวก็ช่างประไร ใครสนใจล่ะ
แม่พยายามจะฟ้อง แต่อิยายก็หาฟังไม่
จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ

พี่พยายามจะฟ้อง อิยายก็หาอยากฟังไม่
ตัวใครตัวมันเหอะ

มีใครหลายคนพยายามจะยัดเยียดให้รับรู้ความทุกข์ยากของตัวเอง
แล้วไงล่ะ ใครสนใจ ปัญหาใคร
เรื่องของเมิงสิ

ทำไมกรูเป็นคนอย่างนี้ฟร่ะ?????
55555555555555555555555555555555555555555

รู้สึกแบบว่างเปล่ามาก
วันก่อนตะคอกผัวงี่เง่าของหญิงคนหนึ่ง
ทำเป็นอวดรู้อวดเก่ง แล้วกุแคร์ไหม?

ไม่จ้ะ ถึงจะไม่รุ้ต้องทำยังไง
จำเป็นที่กุต้องเครียดป่ะ?
ก็มันยังไม่รู้อ่ะ ให้รู้ก่อนดิ ค่อยคิดต่อ จะเอายังไง

ปัญหามีแก้ไขไม่ได้ เครียดทำไม?
ปัญหามีแก้ไขได้ แล้วจะเครียดไปใย???

ตอนนี้เหรอ? รู้สึกสมองมันกลวงมากเลยอ่าาาา
5555555555555555555555555555555555555

........................................
เมื่อวานนี้นั่งวินมอร์เตอร์ไซด์กลับบ้าน
พี่สามพอรู้ ด่ากรูใหญ่โต ด่ากรูไมอะ ก็รถมันติด
แล้วมันก็ถามว่า เคยนั่งรถไกล ๆ แบบนี้ป่าว???

โห กระจอก นี่ถือว่าใกล้สุดแล้ว แค่ยิ่สิบกิโล
กุเคยนั่งไกลกว่านี้อี๊ก แล้วก็โหดกว่านี้ด้วย
เลี้ยวเป็นงู ติดทุกแยก
นี่ก็ดีเท่าไรแล้วที่กุไม่วิ่งกลับบ้าน
จะวิ่งกลับบ้านแม่งก็ไกลเกิ๊น ถ้าแค่สองกิโลก็น่าจะพอลุ้น
ตั้งยี่สิบกิโล รอกุอัพรุ่นเป็นมาราธอนก่อนนะ ค่อยด่ากรูอีกที
5555555555555555555555555555555555555

เป็นพวกชอบตุนอาหาร ชอบตุนกับข้าว
ไม่รู้จะตุนไปทำไม กินไม่เคยหมด
ไปตลาดทุกวันไง บางทีไม่ได้อยากกินหรอก
แต่ไหนๆ ผ่านตลาดแล้ว ซื้อหน่อย
ซื้อเป็นสันดาน เห็นร้านเปิดใหม่ไม่ได้ ยังไม่เคยกินร้านนี้
ไหนลองดิ๊
5555555555555555555555555555555555555

กลับบ้านวันแรก เมื่อไม่ได้กินอะไรแล้วก็เลยขนอาหารสดส่วนหนึ่งกลับบ้าน มันดูเป็นของเหลือ แต่มันก็คือของกุนี่แหละ
ซื้อสองกินหนึ่ง ซื้อหนึ่งอันใหญ่กินไปสองคำ
แล้วก็ทำแบบนี้ประจำ
ปกตินะข้าวผัดจานหนึ่ง สั่งสาย ๆ กินทีละไม่กี่คำ
ถ้าจะให้หมดจาน ข้าวผัดจานนั่นจะอยู่ได้ทั้งวันแหละ
จนเดี๋ยวนี้เลือกกินข้าวผัดเพราะกินไม่เคยหมดในคราวเดียวสักที

หลัง ๆ เลือกที่จะกินมื้อเย็นมื้อเดียวทั้งวัน
ให้หิวมาก ๆ จะได้กินหมดทีเดียว
ก็ยังจะซื้อมาเกินความต้องการอยู่ดี

แบบนี้สันดานไม่ดี

พี่สาวมันขำ อิงก!!!

ก็กุเสียดาย กินไม่หมด
เอากลับไปเด็ก ๆ ชอบมาก
วันนี้ต้องซื้อขนมกลับไปฝากเป็นรางวัลของเด็กดี

.........................................
วันนี้มีคนทิ้งดอกกุหลายไว้สามช่อใหญ่มาก โชคดีจัง^^
โรงเพาะเห็ดของพี่คืบหน้าไปเยอะแล้ว
ติดที่ฝนตกลงมาเยอะ ที่ตรงนั้นน้ำท่วมทุกปี
ชะงักไปเลย ดีนะยังไม่ได้เอาเชื้อลง
ค่อย ๆ ปรับแก้ไขไป

ปีนี้รู้สึกดีกว่าปีที่ผ่านมา
แนวร่วมของยายมากขึ้นเรื่อย ๆ
ความพยายามนับจากตัวคนเดียว เดี๋ยวนี้เริ่มแสดงพลังของความอบอุ่น
ไม่ได้นึกเสียใจอะไรแล้ว แค่ประคองสิ่งต่าง ๆ ให้มันคงอยู่ไว้
แบบนั้น บางคนตายจาก บางคนอ่อนแรง เป็นเรื่องธรรมดา
ที่คนรุ่นเก่าจะตายไปและคนรุ่นใหม่จะเข้ามาแทนที่

เด็ก ๆ ในบ้านพี่นี่เป็นสุดยอดกำลังใจจนแทบโพล่งระเบิดหัวเราะออกมา ขำดี
เด็กบางคนยังต้องผจญกับชะตาชีวิต แต่ชีวิตใครก็ชีวิตมันนะ
ทำได้เพียงหยิบยื่นความรู้และโอกาสให้

เราไม่สามารถที่จะคิดแทนใครทุกเรื่องได้

#ดอกไม้ที่คนอื่นทิ้งไว้บนขาหน้าข้างหนึ่งของหมาเน่าใต้เนินดิน

5555555555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 29 พฤษภาคม 2560 เวลา:12:11:51 น.  

 
#วันที่๑๖๑-๑๖๓ รำคาญโฆษณาตรงมุมบนขวามือมาก ๆ เลย

มันไม่ได้น่าสนใจเลยนะ

มัน น่า รำ คาญ

หาเองได้ค่ะ อยากรู้อะไร สอดรู้สอดเห็นเดินเข้าไปหาเองได้ค่ะ

เป็นมาหลายครั้งแล้ว และก็หายไป
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าต้องทำไง
ไม่ได้ว่างนะคะ

รอกุเคลียร์อะไรต่อมิอะไรเสร็จก่อน

มันจนถึงขนาดต้องไล่ใส่โฆษณาทุกบ้านแบบนี้
เดี๋ยวมีเลิกคบ เบื่อ


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:13:29:29 น.  

 
#วันที่๑๖๔-๑๖๖ โลกช่างน่ารัก

เปล่ากุประชด!!

แต่อย่างน้อยที่สุด พี่ตะวันเมื่อเย็นวานเขาก็น่ารักนะ
ส่องแสงอย่างไม่เกรงใจเมฆฝน
จนตกก็เรื่องของฝนสิ
จะครึ้มก็เรื่องของเมฆ
กุจะส่องแสง พวกเอ็งมีอะไรม่ะ??

ก็นั่นแหละ ทุกเรื่องราวที่มันพยายามจะรุมทึ้งให้หงายหลังล้มตึงไป ก็เรื่องของเมิงสิ ใครสนใจล่ะ ใครจะงับก็งับไป
ก็ไม่ได้เกี่ยวกับนังยายป่ะวะ!!

คนเHี้ยๆ ก็ยังคงความระยำอยู่คงเส้นคงวา
ณ องศาที่แสงส่องกระทบลงกับผืนน้ำ สว่างเป็นสีทองระยิบระยับ
ภาพที่เห็นช่างขัดแย้งกันกับฟ้าที่เบื้องบน และแค่องศานี้เท่านั้น
ที่จะมองเห็นได้ ย้ายจุดยืนภาพที่เห็นมันก็เปลี่ยนไป

เข้าใจแล้วยัง ..ว่าทำไมคนเราถึงคิดเห็นและแสดงออกไม่เหมือนกัน

พี่สาวมักจะพูดเสมอว่า รูปนี้เมิงแต่งใช่ไหม?
กุไม่เชื่อหรอกว่า ท้องฟ้าจะสวยอย่างนี้
ทะเลจะสวยอย่างนี้ ตะวันจะสวยอย่างนี้

นางไม่เคยเชื่อรูปที่พี่สื่อออกไปเลย
เพราะไม่ว่าจะเจอบรรยากาศเช่นไร
พี่ก็จะโชว์แต่ความสวยงามเสมอเท่านั้น

จริง ๆ แล้วดูง่ายออก เพราะพี่เป็นคนไม่ชอบแต่งรูป
ถ้าเห็นเป็นขาวดำ นั่นน่ะกุแต่ง
แต่ถ้าสีมันค่อนข้างจะเหมือนธรรมชาติ นั่นคืออยากให้เห็นอย่างที่เราเห็นจริง ๆ
ยัง ยังจะไม่เชื่อ
บางทีก็แอบคิด อยากพานางออกไปดูโลกกว้าง ๆ บ้าง
อยากให้นางได้ลองใช้ชีวิตในอีกแบบหนึ่งที่นางไม่เคยได้สัมผัส
เป็นห่วงนางนะ เพราะนางขี้โรค

นี่เป็นเรื่องดีเพียงเรื่องเดียวของหลาย ๆ วันที่ผ่านไปนี้เลย

...................................

หลาย ๆ ครั้ง ภาพที่น่าประทับใจก็ไม่ได้เกิดจากวันที่ดีอย่างที่คาดหวัง เกือบจะทุก ๆ ครั้ง เราเก็บภาพที่ประทับใจได้จากวันห่วย ๆ กับสถานที่เดิม ๆ เพิ่มเติมคือใจที่ว่างพอจนมองเห็นความงามที่มันซ่อนอยู่ในห้วงเวลาอันแสนสั้น พลาดแล้วพลาดเลย

....................................

ช่วงนี้ นังยายมีชื่อเสียงทางด้านการดูแลเด็ก ๆ เป็นพิเศษ
ปีที่แล้ว ได้ขึ้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ชักชวนคนทำความดีในโอกาสพิเศษวันแม่ คืออยากถามไอ่คนเลือกรูปว่า ที่พกเด็กนี่ไม่ใช่พี่่รักเด็กนะ
แต่เพราะเด็ก ๆ เขามีปัญหา เราจึงอยากเพิ่มเติมส่วนที่สร้างความสุขให้กับเขาได้บ้าง
ช่วงนี้งอล ๆ เด็กบางคน ที่พยายามจะให้ในสิ่งต่าง ๆ
ก็เพื่อหวังว่า สักวัน เขาจะรู้จักคุณค่าของการได้รับ จนอยากที่จะเป็นผู้ให้บ้าง แต่เขาคงขาดมากเกินไป
แทนที่จะรู้จักแบ่งปันเลยกลายเป็นคนที่เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

ไม่โทษใครเลย โทษตัวเอง ที่ให้เวลากับเด็กพวกนี้น้อยเกินไป
เด็กบางคนได้รับจนเหมือนเกิน ๆ ไปนิด
เด็กบางคนเกิดมาไม่เคยได้รับอะไรเลย
นอกจากให้ไม่เป็นแล้ว ยังหวงเผื่อคนอื่นอีก

หงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน บางทีมันอดทนเอาไว้ไม่อยู่
ก็ไม่ได้อยากตะคอกหรือพูดไม่ดี
แต่บางที คำพูดที่มันได้ยิน มันไม่คิดจะอยากรับรู้

คนเหมือนกัน แต่ละคนไม่เหมือนกัน
แม้แต่คนบ้านเดียวกันเอง ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำทางความคิด
วิถีชีวิต การกินอยู่ หลับนอน
แตกต่างกันหมด ส่่วนตัวใคร ส่วนตัวมัน

บางเวลามันรู้สึกน้อยใจนะ บอกเลยบางทีเกือบจะร้องไห้

ทั้งชีวิตของนังยายตั้งแต่พี่ชายจากไปแล้ว
พี่หมดที่พึ่งพิงจริง ๆ
เรามีหน้าที่ช่วยทุก ๆ คนแต่ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะรับความช่วยเหลือจากใคร

ความรู้สึกเดิม ๆ มันกลับมา
ตั้งแต่ครั้งที่เพิ่งรับรู้ว่า ชีวิตของแต่ละคนเป็นอย่างไร
มันเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจเอามาก ๆ ถึงอยากจะฆ่าตัวตายเลยนะ
ตอนนั้นฮิตกันมากในหมู่เพื่อน ๆ เพื่อนรุ่นเดียวกัน ตายกันเยอะ
เหตุผลบางคนก็ไม่น่าตายด้วยซ้ำ เขายังตายกันไปแล้ว

เฮ้ยยย!! อย่ามโนไป เล่าให้ฟังเฉย ๆ ตอนนี้กุโอเค

ทำไมวะ??? คนอื่นและใครต่อใครเขาก็ทำเลวทำชั่วกันได้หมดเลย
จะเกเรยังไงก็ได้ ชีวิตเขาจะทำอะไรก็ได้ ไม่เห็นมีใครว่าเลย
แล้วทำไมกุจะทำบ้างไม่ได้???????

กุก็แค่อยากเลว ๆ ร้าย ๆ บ้างป่ะวะ

มันเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตเลยนะ
เวลาที่กุได้ทำความระยำสักอย่างหนึ่ง
แล้วก็เล่าให้ใครๆ ฟังอย่างหน้าตาเฉยว่า "กุทำแล้ว"
และอิคนฟังก็ทำหน้าตกใจ ไม่เชื่อ จ้างให้ก็ไม่เชื่อ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่เชื่อก็เรื่องของเมิงสิ
แล้วเวลาที่ได้คุยกับเพื่อนแก๊งกำจัดปลวก คุยอวดกันเรื่องใครเลวกว่ากัน นี่มันโคตรมันส์ในชีวิตจริง ๆ นะเมิง

ความจังไรนี้ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ นะ
มันเป็นความสะใจโรคจิตเล็กๆ เออกุทำ.

ไม่ดีเลย ถ้ากุรู้ว่าทำเลวแล้ว ก็แค่นี้แหละ
กุจะไม่ทำ สาบานได้
แม่งไม่เจ๋งเลย

เข้าใจนะว่า การถูกบังคับให้ต้องทำความดีตลอดเวลามันรู้สึกยังไง
ช่วงเวลาดีดีแบบนี้ นังยายจึงไม่เคยเซ้าซี้ให้ใครไปเป็นเพื่อนอีก
ไม่ว่าจะเป็นนายทั้งหสองหรือเด็กหญิงชายคนใด หรือเพื่อนคนไหนก็เถอะ อยากไปค่อยมาบอก ใครทำใครได้ ตัวใครตัวมัน

ไม่ไปเหรอ? ดีสิไม่เปลืองรางวัลสำหรับคนดี กิกิ
จะเก็บกักตุนไว้กิน ไว้ใช้คนเดียว กุงก

บางวันแม่ห้ามนายคนเล็กด้วยนะ
พอห้ามก็ไม่อยากจะฟังหรอก วันไหนห้าม วันนั้นจะรีบเตรียมตัวไป

อยากทำอะไรก็เชิญเลย ตามสบาย แต่จะบอกให้อย่างหนึ่งว่า
ทำอยางไรได้อย่างนั้น แล้วก็จะทำให้เห็นทันทีด้วยว่า ได้อย่างนั้นคือได้อย่างไร

เล่นเด็ดใบไม้ กระชากยอดไม้ หราาาา มานี่สิ กุก็หยิกมันเนื้อแทบหลุดติดมือเลย เจ็บไหม? นี่แหละความรู้สึกของต้นไม้เขาเวลาที่ถูกเราเด็ด จำไว้จนตายเลยนะ อย่าไปทำร้ายสิ่งมีชีวิตใด ๆ อีก
จะทำร้ายใคร คิดด้วย ถ้าตัวเองถูกทำบ้าง จะรู้สึกอย่างไร

ขอบคุณกุด้วย กุอุตส่าห์หยิกซะเนื้อแทบหลุดติดมือ
ทีหลังเห็นจะไม่หยิกแล้ว จะเอามีดฟันมือเลย

ก็บอกแล้ว ว่าไม่ได้รักเด็ก.

........................
หัวค่ำเมื่อวาน ขำนายมาก
ช่วงนี้เขาติดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ
พูดตาม ทำตาม ทุกอย่าง
"ป้า ๆ มินจะไม่ไปไหนหรอก ถ้าไม่มีคู่หูอย่างป้าไปด้วย"

นี่กุไปเป็นคู่หูเมิงตั้งกะเมื่อไร
555555555555555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 5 มิถุนายน 2560 เวลา:12:02:52 น.  

 
#วันที่๑๖๖,๑๖๗ ชีวิตคือความยากลำบากอย่างปกติ

ในแต่ละวันที่ต้องก้าวผ่านมันไป ไม่เคยมีวันไหนที่จะสัมผัสความสงบ
ง่ายดายตลอดรอดฝั่งได้ทั้งวันเลย
ความสงบมีบ้าง ก็แค่เศษเสี้ยวของเวลาที่สายลมแห่งความกรุณาพัดพามาให้ได้สัมผัส

ตัดสิ้นทุกอย่างแล้ว ก็ยังมีผู้คนพยายาดยัดเยียดเอามันมาฝากไว้อีก
ปฎิเสธแล้วก็ยังไม่ยอมหยุดตื๊อ เอาหน่าาาาา ขออยู่ด้วยสักพัก

เป็นแบบนี้ตลอดเวลา ก็พยายามนะ ที่จะแก้ไขในทุกสิ่งอย่างที่มันเกิดขึ้น จนตอนนี้ยอมรับแล้ว เออ เอ็งเก่งจริง ๆ เลยว่ะ
โลกผู้น่ารักเสียเหลือเกิน

ยอมแพ้ไหม?
เปล่า กุแค่เหนื่อย เปื่อย และเพลีย

บางทีก็คิดนะ
การที่เราได้เจอใครสักคนที่คิดอ่านไปในทางเดียวกัน
และได้เดินร่วมทางเป็นเพื่อนร่วมทางกัน
การเดินทางนั้นมันจะวิเศษต่อความรู้สึก

ไม่ว่าต้องเจอกับอะไร เราก็จะผ่านมันไปได้ด้วยความรู้สึกดีดี

แต่ถ้าทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันกลายเป็นสิ่งตรงกันข้ามล่ะ?

ถ้าเรารู้สึกตัวเร็ว ว่าคนที่ไปด้วยกัน ไม่ได้คิดอ่านเหมือนกัน
เราก็จะปลีกตัวออกห่างได้เร็ว ไม่เปลืองตัวไม่เปลืองเวลา
แต่ถ้ากว่าจะรู้สึกตัวล่ะ???

ความยากของการเดินทางมันอยู่ตรงนี้แหละ
เราไม่มีทางรุ้ได้เลยว่า เราจะเจอกับอะไรล่วงหน้า
แม้แต่การเดินทางที่ได้วางแผนมาเป็นอย่างดีแล้วก็เถอะ

เพราะฉะนั้น ฉันจึงชอบไปคนเดียวเที่ยวรื่นรมย์ใจกว่ากันเยอะ

ขอเวลาสักพักนึง จริง ๆ
เพื่อจะยอมรับความจริง

ไม่อยากรู้ ไม่อยากจำ แต่ต้องยอมรับมันใช่ไหม?
จะครบแปดเดือนแล้วสินะ

วันนี้พ่อของเพื่อนอาสาคนหนึ่งเสียชีวิต
สิ้นสุดการเดินทางของลมหายใจ
การดิ้นรนต่อสู้กับโรคร้าย

ไม่รู้หรอกว่าเมื่อไรวันอย่างนี้จะเดินทางมาหาเราและคนใกล้ตัว
วันก่อนแม่ไปหาหมอตาปรากฎว่าตาดำของแม่รักษาไม่ได้แล้ว
มีแต่รอเวลาเสื่อมไป ๆ ๆ ฟัง ๆ ไปได้ยินเสียงคล้ายจะสิ้นความหวัง แม่ไม่เคยบอกว่า ให้พาไปไหน หรือต้องการอะไร
เหมือนเขาจะรุ้ว่าสิ่งที่พูดออกมามันจะกลายเป็นภาระของเราทันที

เมื่อวานหลังจากที่นายคนเล็กถึงบ้านแล้วเล่าให้แม่ฟังว่าเจอกับอะไรบ้าง แม่บอกหลานว่า ทีหลังพาโต๊ะไปดูด้วยนะ

ก็แค่บอกว่า อยากไป จะพาไป
สิ่งแวดล้อมและทุก ๆ อย่างรอบ ๆ ตัวกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
โลกช่างน่ารัก ขยันเหวี่ยง
ความสุขของวันนี้ คือ การมีเพื่อนมาบอกว่า
ชอบรูปที่เราถ่าย ขอเอาไปใช้นะ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่มีคนมาบอกขอใช้รูปของเรา
มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอีกนิดนึง
ไม่ได้ภูมิใจหรือปลื้มใจอะไรหรอก
มันรุ้สึกเออเฮ้ยยย มีคนชอบเหมือนเราในแบบที่เราชอบ
เท่ากับว่า การเดินทางอันนั้นของเรามีประโยชน์กับคนอื่น ๆ นะ
มันก็เหมือนกับการที่เราไปแอบดูคนอื่น ๆ เที่ยว แล้วรู้สึกดีดี
ไปกับมุมมองที่เขาถ่ายทอดออกมา
เขามีความสุข จึงอยากให้เรามีความสุขในแบบของเขาด้วย

เราไม่ใช่คนที่ถ่ายรูปเก่ง เทพ หรือสวยงามอะไร
แต่เราจะบอกกับตัวเองเสมอว่า ณ องศานี้ คือความสุข
ที่หาไม่ได้จากการนั่งอยู่กับที่ อยากมีต้องออกเดินทางไปหามัน

และความสุขในแต่ละภาพจำ ย่อมแตกต่างในทุก ๆ องศาเสมอ
เมื่อใดที่เรามีความสุข เรามักจะจำจุดที่เรายืน ตำแหน่งที่เรารับรู้
โลกมันกว้างขวางนัก แต่จุดที่ทำให้เรามีความสุขนั่นคือที่ของเราในเวลานั้น ๆ

.........................................
วันนี้ตื่นมาด้วยสภาพที่ไม่ค่อยโอเค
ปวดหัว เจ็บข้อเท้า หิว เมื่อย
อาบน้ำ เอาข้าวของออกจากกระเป๋าเดินทาง แล้วมาทำงานเลย
ปกติเดินทางไม่เคยซื้อของฝากใคร
แต่คราวนี้ต้องมีของฝาก
ของที่ดีที่สุด ของที่เราชอบที่สุด
เอามาฝากเพราะคิดถึงและขอบคุณที่ทำหน้าที่แทนเรา

ตื่นขึ้นมาด้วยความคิด อยากมีประโยชน์ให้กับตัวเอง
ตื่นขึ้นมาด้วยสำนึก สักวันเราจะตายและตายอย่างมีความสุข
ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงที่ทำให้ตกใจ และตระหนักว่ามีปัญหารอทักทายเราอยู่

แล้วชีวิตมันก็ยุ่งยากวุ่นวายตามปกติของมัน
โลกเขาน่ารัก น่ารักจนไมเกรนขึ้นมาและหายลงไปเอง

หายปวดหัวแระ กลับบ้านได้
555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 12 มิถุนายน 2560 เวลา:19:28:00 น.  

 
ครบรอบแปดเดือนสินะ
เข้าไปที่วัดโพธิ์มา ไปเช็ดกระจกที่มีฝุ่นละเอียดเกาะเกรอะกรัง
อยากจะเฉียดเข้าไปดูสักนิด
แต่ก็เกรงว่า เราจะทำให้ภาพโดยรวมนั้นมัวหมอง
แต่งตัวไม่เรียบร้อยเท่าไรนัก

รถวิ่งผ่านตึกสันติไมตรี เห็นรูปแล้วสะท้านในใจ
ที่พักโดยรอบเต็มหมดแล้วนะ ณ เวลานี้
เต็มและแน่นมาก ๆ สอบถามเอากับที่ไปพักประจำ
เขาก็ใ่จดีนะ แจ้งมาว่า สามารถไปฝากสัมภาระได้
ไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน อะไรแบบนี้ได้
เข้าไปนั่งพักได้ เป็นลูกค้าประจำแต่จองไม่ทัน
ไม่คิดว่าจะเต็มไว้ปานนี้

ความรู้สึกตอนนี้มันไม่ค่อยโอเค ไม่รู้ว่าที่ไม่โอเค
เกิดจากสาเหตุอะไร
มันก็จะเคว้งคว้างหน่อย
มันก็จะลอย ๆ หน่อย
มันไม่รู้สินะ ศรัทธาที่เคยมีอยู่มากมาย
ตอนนี้ไม่รู้จะเอาไปตั้งไว้ตรงไหน

นอกจากจะไม่รู้สึกดีแล้วยังดูออกจะหล่น ๆ อยู่ตลอดเวลา
บางวันที่มันเหมือนจะดูดีขึ้น เปล่าหรอก
กุรู้ เมิงหลอกตัวเอง นังยาย

คนที่พาไปเฝ้าท่านแต่ละครั้ง
น้อยนักนะ ที่จะคุยกันเข้าไจ
แบบมองตาก็รู้ใจเลย นอกจากเด็กอ้วนแล้ว ไม่มี มองไม่เห็น

ชีวิตนังยายตอนนี้ก็มีแต่เด็กอ้วนที่ตอนนี้มันก็ไม่อ้วนแล้วด้วยเท่านั้นแหละ ที่พอจะคุยกันรู้เรื่อง ในแบบที่ต้องประคองกันต่อไป

เวลาที่เรารู้สึกท้อใ่จสุด ๆ เกือบจะไม่ไหวแล้ว
ต้องย้ำตัวเองเสมอว่า อย่าแสดงออกให้เขาเห็น
เพราะเขาเห็นเสมอว่า เราทำได้ อยู่ได้ เขาก็ต้องทำได้ด้วย

บางทีก็อยากจะบอกว่า เมิงก็ไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ป่ะวะ
กุก็ท้อได้ แต่กุแค่ไม่บอกเมิง

บางอารมณ์มันอยากจะถามว่า เราต้องใช้ความปรารถนาดีไปอีกเท่าไร ถึงจะกระตุกใจใครบางคนได้บ้าง สักนิดก็ยังดี

เวลาไม่เคยช่วยอะไรก็แบบนี้แหละ

จริง ๆ มันไม่เคยทำให้เราดีขึ้นเลยสักนิด

ยิ่งนานวัน และยิ่งรับรู้ว่าเรายังเหมือนเดิม
มันก็ยิ่งตอกย้ำความอ่อนล้าอ่อนแอลงไปทุกทีๆๆๆๆ

ยายยังคิดอะไรดีดีไม่ได้ ตอนนี้
คิดกี่ที ก็ออกมาแบบนี้ตลอดเลย

การเดินทางไปในแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย
ไหนจะคนที่ไม่เข้าใจ คนที่เห็นเราเป็นของแปลก
ไหนจะครอบตรัวที่ไม่ได้เป็นอย่างเราทุกคน
คนรอบตัว เพื่อน

ช่างมันเถอะ ..ใช่ไหม?

วันนี้ใช้น้ำตาจนเหนื่อยแล้ว พักไว้ก่อน
ครบเก้าเดือนค่อยมาปล่อยมันอีกที

แบบนี้ก็ได้เหรอ?
55555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 13 มิถุนายน 2560 เวลา:19:06:57 น.  

 
#วันที่๑๖๘ ครั้งที่๑ ยอมใจตัวเอง

วันนี้นัดนังเพื่อนแพททีเซียไว้
นางมีกำหนดเดินทางไกล
เส้นทางที่นางต้องการไปมีความไม่แน่นอนอยู่มาก
นางเลยว่า ยังไงก็ขออาศัยพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองซะหน่อย
เอาฤกษ์เอาชัย กุก็ไปกับเขาแหละ
ทั้ง ๆ ที่ยายก็รู้ว่า ปฎิเสธดีกว่าไหมฟร่ะ?

แต่ถ้ายายไม่ไป แพทจะไม่มีเพื่อนไปเลย
หรืออาจจะไม่ได้วันนนี้ หรือไม่ก็อาจจะไม่ได้ไปครบที่ต้องการ

จะได้แต่ที่ที่คนรู้จักส่วนมากเท่านั้น

กุเหรอ? กุอีกแล้วเหรอ? เออเมิงไง

บางทีเวลาที่เข้าไปในสถานที่แบบนั้น
พี่ก็ถามตัวเองนะ มาทำไม?

วันนี้ก็เหมือนทุก ๆ วันที่เข้าไป
แตกต่างตรงที่ รวบหมดเลยวันเดียวเท่านั้นนะ
ปกติแล้วที่ที่หนึ่งใช้เวลาค่อนวันนะ

การเดินเท้าวันนี้ บอกอะไรกับเรามากมาย
และนังยายก็บอกอะไรกับระหว่างทางเดินมากมายด้วยเช่นกัน

มันอบอุ่นจนตับแลบ เย็นจังเล้ยยย บ้านเราเนี่ย

ประเด็นคือ ตั้งใจจะไปถ่ายรูปตำหนักหนึ่งแถวสะพานพระรามแปด
แต่ไปช้าไป คิวยาวจนไม่ได้เข้า
เดินดูได้แต่รอบ ๆ เดิน ๆ ไปโดนยามเป่านกหวีดไล่(คนอื่น)
สำหรับนังยายโดนเชิญให้ไปตรงที่คนเยอะ ๆ
เอ๊ะ ไม่เข้าใจเหรอ? ว่าไม่ชอบคน
มาถ่ายสถานที่ไม่ได้ถ่ายคน
และไม่ได้อยากเซลฟี่ พี่ไม่ได้เข้าไปชมข้างใน
พี่ยามเข้าใจพี่บ้างไหม?

อารมณ์เสีย กลับเหอะ อยู่ไปก็เท่านั้น

พอไม่ได้ดังใจ นางก็มีชวนงอกอีกที่
โดยนางเข้าใจว่า บิดากฎหมายไทย คือ เสด็จเตี่ย

ยายก็มองรูปปั้น เออหน้าไม่เห็นเหมือนเสด็จเตี่ยที่เคยเห็นเลยวุ้ย
แค่ชื่อก็ไม่ใช่แระเมิง "รูปนี้อาจจะเป็นต้นฉบับก็ได้นะ"
นางเถียง ไม่ใช่แระเมิง คนนี้ กุรู้จัก และคนนั้นกุก็รู้จัก
เขาคนละคนกัน คนที่แกรต้องการมาสักการะไม่ใช่คนนี้!!!

นั่นแหละโจทย์ของวันนี้

เอาไงอ่ะ ยอมเหรอ? ่ไม่จ้ะ
คือนางรู้ว่ามีอยู่ แต่นางไม่รุ้ว่า อยู่ตรงไหน
มหกรรมการเดินวน ๆ ไปจึงบังเกิด
ไม่อยากจะเล่าเลยว่า เดินไปเจอกับอะไรบ้าง
5555555555555555555555555555555

จากบางลำภูนะ มาเทเวศน์ มาลานพระบรมรูปทรงม้าฯ
กลับไปตรงชมรมคนจันทบุรีฯ ลัดไปทางวังแดง
อ้อมวังแดงกลับไปเทเวศน์ เพื่อไปถามยามว่า
เสด็จเตี่ยที่นี่ มีไหม?
ยามบอกว่า อยู่นางเลิ้ง!!!
ความรู้ใหม่ของนาง เออ ถ้านางเลิ้งเมิงไม่ต้องเพิ่งแม่งแระจีพีเอส
เดี๋ยวยายพาเดินเอง ยายรู้จักดี
พานางเดินเลียบคลองไป
ออกมัฆวาน เจอตลาด หิวอีกแระ
ออกตลาดแทนที่กุจะพาเลี้ยวซ้าย
นางว่า จีพีเอสให้ไปทางขวา อ่ะขวาก็ขวา
เชื่อนาง ก็เดินไป จนเจอตู้ปณ.๑๐๑๐๐
อิเHี้ย กุว่าไม่ใช่แระ ๆ เนี่ยมันออกห่างไปทุกทีแล้วนะเมิง ขืนเมิงเดินต่อได้เจออีกองค์ตรงผ่านฟ้าอ่ะ 5555555555

พานางกลับมา พอเดินไปสักพัก
นั่นไง ๆ ๆ ๆ เจอแล้ว ดีใจปานเจอเหมืองทองคำ

เมิงถามยามเลยว่า ที่นี่มีเสด็จเตี่ยไหม?
แล้วอยู่ตรงไหน?

ยามก็ใจดี ชี้ไป ๆ กุก็เดินวน ๆ กันไป
จนเจอบ้านในตำนาน เฮ้อออ ดีใจ หามัน..จนเจอ
เดินตั้งแต่บ่ายสองคนเกือบหกโมงเย็น
5555555555555555555555555555

แต่ก็มีแวะกินนั่นกินนี่แหละ
กินทุกร้านในตำนาน
เฮ้ยยย ร้านนี้ต้องกิน ท้องยังใส่ได้อีกเป่า

สำคัญคือ ตอนแรกถามนาง
จะเดินหรือเปล่า จะได้เตรียมตัว เตรียมรองเท้าถูก
นางบอกไม่ต้องเดินก็ได้ สามกิโลกท.ไม่เหมือนตจว.นะ
อ้าาา จัดเลยจ้าาา กระโปรง คัตชูส้นเตี้ย
5555555555555555555555555555555

ตอนนี้นั่งเจ็บเล็บอยู่ เหมือนมันจะถอดออกมากองต่างหาก

.......................................

เสร็จภารกิจของนางเรียบร้อย แทนที่จะหยุดเดินแล้วหาแท็กซี่กลับสบายใจ ๆ ไม่มีนะ

มีขอย้อนกลับมาตลาดนัดเลียบคลองก่อน
ยายก็พาเดินเลาะกำแพงเลยจ้ะ
ออกจากตลาดนัดแล้วยังหาสำเหนียกไม่
นี่ถ้าไม่ค่ำ อีกสามกิโลถึงอนุสาวรีย์ ก็อาจจะมีเดินได้ต่อนะ

สำเหนียกไหม? ไม่จ้ะ

สมควรป่วยไหม?

...สมน้ำหน้า...

ขอบคุณสังขาร

จำไว้อย่างหนึ่งนะ เมิงจะเป็นอะไรก็เรื่องของเมิง
แต่กุไม่ได้กลับมาเพื่อจะแพ้ทุกสิ่งอย่าง
กุไม่ได้กลับมาเพื่อจะอ่อนแอกับทุกเรื่อง
กุกลับมาเพื่อจะทวงคืน และพี่จะต้องชนะ
จำไว้.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 18 มิถุนายน 2560 เวลา:3:15:58 น.  

 
#๑๖๙-๑๗๒ โลกงอแงนิดนึง แต่ความฝันวันนี้ดีต่อใจเป็นพิเศษ

นอนเพลินตอนตีห้า
เห็นพระอาจารย์เดินนำหน้าเรียงแถวกันไปเฝ้าทูลกระหม่อมน้อยทีละคน
ในมือถือการ์ดใบหนึ่งเอาไว้ ตั้งใจจะเอาไปอวยพรและเป็นหลักฐานสำคัญสำหรับการมาเข้าเฝ้าครั้งนี้ ในนั้นเหมือนพระอาจารย์เขียนรูปเจดีย์ไว้องค์หนึ่ง เต็มหน้าการ์ด
พอเดินเข้าไปถวายความเคารพแล้วก็ยื่นการ์ดใบนั้นให้ท่าน
ท่านนำปากกาหมึกสีดำมาเขียนคำว่า "หนึ่งในเมืองไทย" ทับเจดีย์องค์นั้นอย่างวิจิตรงดงามเป็นอักขระที่อ่อนช้อยที่สุด

ด้วยแถวรอคิวเข้าเฝ้านั้นยาวมาก ยายเป็นคิวที่สอง จึงต้องรีบออกแล้ว ทูลลา ก่อนจะออกไป ท่านรับสั่ง "พยายามอย่าเขียนผิด ถ้ารู้ว่าผิดให้รีบแก้ไขเสีย" งง ๆ นะ ไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร
แต่ก็จำใส่ใจ รับด้วยเกล้าฯ และจะกลับมาแก้ไขทุกอย่างที่ตั้งใจให้ผิดเพื่อให้มันมีตำหนิไว้บ้าง จะรีบแก้ให้ไวที่สุด

พอออกมาจากห้องโถงนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ตื่นสายมากนะวันนี้

สะดุ้งตื่นจากอะไรหลาย ๆ อย่าง
นานแล้วที่ไม่ได้เห็นท่านในฝันแบบนี้
ครั้งสุดท้ายคือเห็นกันในเรือที่กำลังจะล่มและมีผู้คนกำลังด่าทอท่าน เกลียดมันพวกนั้น

ดีใจที่ได้เห็นใบหน้าที่สดใสไร้กังวลอีกครั้ง
ถึงแม้มันจะเป็นแค่ความฝันก็เถอะ

"พยายามอย่าเขียนผิด ถ้ารู้ว่าผิดให้รีบแก้ไขเสีย"

ท่านเปรียบเสมือนพระอาจารย์ที่ ยายยึดถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตมาตลอด

คิดถึงมากไปกระมัง พรุ่งนี้จะไปเฝ้าส่งเสด็จจริง ๆ เลยเก็บไปฝัน.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 21 มิถุนายน 2560 เวลา:14:05:20 น.  

 
#วันที่๑๗๓-๑๗๕ โค้งสุดท้ายแล้วก็ยังทำได้ไม่ดีพอ

สามวันสุดท้ายนี้โลกมันมืดมิดและวุ่นวาย ๆ หน่อยนะ
ข่าวไม่ดี เรื่องไม่ดี และใจก็ไม่ดี
ก็ไม่ได้อยากคิดโทษตัวเอง
แต่บางทีมันก็อดคิดไม่ได้
ยังดีไม่พอ ยังพยายามน้อยเกินไป????

ท้องฟ้ามืด แต่แสงสีทองยังส่องอย่างแรงกล้าไม่ลดละลงเลย
เมฆฝนเผลเมื่อไร แดดร้อนแรงทันที

บางวันแสงสวยเกินห้ามใจต้องขอเดินเท้าออกตามเก็บมันไว้

ต้องเดินออกห่างบ้านที่มีแต่ยอดไม้ไปไกลกว่าจะได้แสงสวยสมใจ

โลกทั้งโลกหมดที่จะวางใจ
นับวันจะฝากใจไว้กับสิ่งที่สูงขึ้นๆๆๆ ทุกที

เหมือนจะดี ตั้งใจหวังว่าเป็นแบบนั้น
เหมือนจะเข้าใจแล้ว
และเหมือนจะทำใจได้แล้ว

ยอมรับได้แล้ว แน่จริง ๆ เหรอ?

ใจนังยายเนี่ย น่ากลัวที่สุดแล้ว

กลัวใจตัวเอง

อารมณ์คงที่อยู่นะ มีแอบร้าย ๆ บ้างแต่ก็เอาอยู่
ปากหมาเหมือนเดิม แต่รู้ตัวทุกครั้งที่จะพูด
มันก็ห้ามทัน
แวดล้อมแม่มไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย แต่กุทำใจยอมรับได้

อะไร ๆ ก็ดูจะตลกร้ายไปหมดเลย

"ถามจริง ๆ ถ้าจะเข้าไปทำงาน นี่จะมีปัญหาอะไรกับลูกค้าไหม?"

คนถามนี่เขาคิดได้เนอะ ว่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เมิงเอาอะไรมาคี๊ดดดดดดด 55555555555

ไม่มีหรอก เรื่องที่จะไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาคือไม่ทำอะไรไง..

เมิงจะต้องทำ มันก็ต้องมี แต่มันก็ต้องเคลียร์ป่ะวะ
เลือกได้เหรอ? ว่าจะทำ หรือ ไม่ทำ
ในเมื่อเลือกไม่ได้ ก็ช่วย ทำในวิถีที่จะต้องป้องกันและประเมิณสถานการณ์ไว้ให้เลวร้ายที่สุด

ก็พอจะเดาออกว่าต้องเจออะไรบ้าง
แต่เพราะผ่านมาเยอะแล้ว มันเลยชินชาไปเฉยเลย

กุก็รู้นะ ว่าเมิงจะเข้ามา
แต่ก็กรุณาช่วยจัดระเบียบเรียงคิวกันมานิสนุง
จะเป็นพระคุณอย่างสูง
กราบขออภัยในความไม่สะดวก

จะยัดเยียดภาวะตึงเครียดให้ใช่ไหม?
เชิญป้ายสถานีต่อไปค่ะ

จะเผื่อแผ่?? ไม่ ๆ โน ๆ กุมีแล้ว ขอบใจ

................................

อย่างวันก่อนออกบวชสองวัน พี่สาวเล่าให้ฟังว่า
มีหญิงคนหนึ่งมาที่บ้าน มาบอกขอรับบริจาคพร้อมกับเล่า
เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของเขาให้ฟังว่า
แร้นแค้นถึงขนาด ต้องเอาข้าวบูดมาล้างน้ำแล้วหุงให้ลูก ๆ หลาน ๆ กิน

ไม่รู้หรอกนะ ว่าสิ่งที่พูดมีความจริงเท็จแค่ไหน

นังยายถามพี่สาวว่า "แล้วไง..ต้องแสดงความรู้สึกยังไง? สงสาร"
นางว่า "เล่าให้ฟัง" ก็ฟังแล้วควรจะจบป่ะ

ที่จริงอยากจะถามพี่สาวว่า ทำไมไม่ถามเขาว่า
ในเมื่อไม่มีข้าวกิน ทำไมยังปล่อยให้ข้าวบูดได้

แต่ก็เคยอ่านเจอว่า อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องการบริจาคทาน
ไม่คิดก็ไม่คิด สงสารนะ แต่ก็ไม่ได้เห็นใจ

พอวันต่อมา ก็มีความรู้สึก อยากให้บ้านเป็นแบบนั้นบ้าง

อยากมีความรู้สึกว่า ไม่มีอะไรจะกินเป็นเช่นไร
อยากรู้ว่า อาหารแต่ละมื้อมีคุณค่ากับชีวิตเช่นไร

ก่อนหน้านี้ เคยบอกว่า เป็นพวกชอบตุน
เห็นตลาดไม่ได้ เป็นต้องซื้อตุน
ช่วงนี้พี่เลยไม่คิดจะซื้ออะไรไปฝากใครทั้งนั้น
หนึ่งคือไม่ชอบหิ้วเวลาไปไหนไกล ๆ

วันต่อมาเลยกลับบ้านไปพบว่า
ไม่มีใครเตรียมอะไรไว้กินทั้งนั้น
เกือบจะเป็นคนไม่มีอะไรจะกินอยู่แล้วเชียว

พอได้เวลาจะกินจริงจัง นางก็เดินออกไปซื้อหาอาหาร
เปิดตู้เย็นเขี่ย ๆ ดูของสดวัตถุดิบที่แช่ไว้
เด็กสองคน คนชราสองคน นังยายและพี่สาว
มีแค่หกชีวิต จะกินอะไรมากมาย
เมื่อได้เวลากินแล้ว สิ่งมีชีวิตก็ต้องรู้จักการเอาตัวรอดอยู่ดี

สอนนายทั้งสองคนทำไข่เจียว
นายคนโตเขาว่า ทำเป็นแล้ว แต่ยังติดตอกไข่ไม่เป็น กับเปิดเตาแก๊สไม่เป็น เออ มันยังไม่สมควรจะทำด้วย ถึงเป็นก็ยังไม่ปล่อย

สิ่งของที่เรามีอยู่ มันเกินความจำเป็น
และบางสิ่งมันก็ดูจะมากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ

มากเกินจนเกือบจะกลายเป็นความฟุ้งเฟ้อ
จุดสมดุลไม่รู้อยู่ตรงไหน

กลับบ้านทุกวันเกือบเดือน ยังไม่เจอความสมดุลของแวดล้อมเลย

มองไม่เห็นทางสมานความขัดแย้ง น่าหนักใจ

ไม่มีความเสียสละ
ไม่มีความปรารถนาดี
จะมีก็แต่การแก่งแย่งชิงดี

ทำไมมันช่างยากเย็นแสนเข็ญเช่นนี้ล่ะชีวิต

พยายามน้อยเกินไปใช่ไหม?

ยังคิดไม่ออก ว่าจะต้องทำยังไง
เพื่อให้เจอกับจุดสมดุลที่ต้องการ
แต่มั่นใจว่า ในเวลาอีกไม่นานนับจากนี้
จะต้องเจอมันอย่างแน่นอน

ไม่ได้ท้อหรอกนะ
ก็แค่ยังมองไม่เห็นทาง
โลกมันมืดเหมือนฟ้าครึ้ม ๆ วันฝนกระหน่ำ.

ลงมากันให้พอนะ.. อากาศเย็นดี พี่ชอบ
55555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 25 มิถุนายน 2560 เวลา:23:28:57 น.  

 
ความเปลี่ยนแปลง กับ นิยามความสุขที่เปลี่ยนไป

คิดถึงตอนเป็นเด็ก ๆ เนอะ
จำได้นะ เคยมีความคิดว่า
ถ้าทุก ๆ คนได้อยู่บ้านพร้อม ๆ กัน
ไม่ต้องมีใครต้องออกไปไหนนาน ๆ
ก็คงจะมีความสุขดี อยากเจอใครก็ได้เจอ
อยากเล่นกับใครก็ได้เล่น
อบอุ่น คึกครื้น มีความสุขพร้อม ๆ กัน

ความคิดแบบนี้ยังคงติดอยู่จนกระทั่งโตขึ้นมา
จนวิเคราะห์สังเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ได้เอง
ช่วงที่หัดใช้ความคิดอย่างเป็นระบบใหม่ ๆ
ฝันยังแรง แรงยังมี ยังแอบคิดนะ
ถ้าเราประสพความสำเร็จหากแต่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
เราคงไม่มีความสุข ความสำเร็จของเราต้องมีผู้ชื่นชม
และสักวันหนึ่งเราต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือทุก ๆ อย่าง
ที่ต้องการ เพื่อจะสร้างความสุขให้กับทุก ๆ คนรอบตัว
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะของทุก ๆ คนรอบตัวคือความสุขของเรา

กุเคยคิดแบบนั้นว่ะนังยาย

ทุกวันนี้เหรอ?
ฉันใช้ความพยายามอย่างมากที่สุดนะ
เพื่อจะตอบคำถามตัวเองว่า
"ความสุขที่แท้จริงของเราคืออะไรกันแน่?"

เพราะเมิงมันไม่เหมือนชาวบ้านไง
เกิดมาเพื่อจะมาทำอะไร
กุยังตอบตัวเองไม่ได้เลย

เคยคิดบอกกับตัวเองว่า

"กุพอแล้ว ชีวิตต่อจากนี้ เราจะเดินเข้าหาความตายแล้วนะ"
เคยคิดนะว่า อายุประมาณนี้ กุจะตายแล้ว
แต่กุก็อยู่เลยมาสามสี่ปีแล้ว ยังไม่ตายซะที
555555555555555555555555555555555555

ทุกวันนี้เลยต้องมาคว้านหาความต้องการของตัวเองใหม่

"เมิงต้องการอะไรกันแน่?"

ที่ไม่ชอบเลยคือ "ขยะ"
แน่นอนที่สุด ไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ตาม
ยังไงก็ต้องพยายามลดขยะและมลภาวะจากชีวิตของตัวเองให้น้อยที่สุด

ฉันจะไม่สร้างขยะ และจะไม่สร้างปัญหาใด ๆ ไว้เหนือแผ่นดิน

เคยคิดนะ ว่าคนเราจะมีความสุขได้ ชีวิตต้องดี
อะไรคือ ดี??????

มองดูจนเหนื่อยใจไปเอง จนไม่อยากมองแล้ว
ยิ่งมองดูยิ่งเหนื่อยและอ่อนล้าเอามาก ๆ ด้วย

ไม่มีชีวิตใดสมบูรณ์และดีจริงจัง

ดีเหรอ? ดีของใคร วัดค่าจากอะไร??

เคยคิดว่า คนเราจะกินอาหารให้อร่อย
กับข้าวต้องมากมาย อร่อยโอชะ
บรรยากาศต้องสวยงาม คิดแบบเด็ก ๆ

แต่พอได้เจออาหารอันโอชะ สังคมดีเวอร์บรรยากาศสวยหรู
แต่อยู่ผิดที่ผิดทาง มันโคตรไม่อร่อยอ่ะ

ตรงกันข้าม ในวันที่โคตรเหนื่อยนอนอยู่กลางถนน
กินข้าวฟรีข้างทาง แต่แม่งโคตรอร่อยอ่ะ

บางวันนะ ความสุขปิติยินดี มันก็มาในภาพที่ไม่ได้น่าจดจำ
บางทีมันก็เป็นแค่สายลมแผ่วๆ ในวันอากาศร้อนที่เราเดินอยู่กลางป่าอย่างเหน็ดเหนื่อย

และบางครั้งนะ วันที่คิดว่าบรรลุทางแห่งความสำเร็จแล้ว
เราก็กลับอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางคนแปลกหน้ามากมาย

ไม่เห็นจะเหมือนกับที่เข้าใจตั้งแต่แรกเลยสักนิด

...........................................

ณ ขณะจิตนี้เหรอ?
กับปัญหาข้างหน้าที่มีอยู่กองโตแบบนี้
ไม่ต้องคิดไปถึง จุด ๆ ที่แก้ไขปัญหาได้หรอก

เอาแค่ เก็บปัจจุบันที่วุ่นวายให้แข็งแรงไม่ป่วย
และถ้ายิ้มได้ด้วย ไม่อารมณ์เสียด้วย
ที่สำคัญที่สุด ขี้ได้ด้วยวันละแค่ศอกเดียว
ก็คงจะมีความสุขมากมายเกินประมาณ

สุขา สุอจฺระ
การขี้ดี ชีวีมีสุข
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เมิงช่วยจริงจังบ้างได้ป่ะ?
เมิงเล่นตลอดเลยนังยาย

สำเนียงการเขียนกุยังเปลี่ยนอะ คิดดูดิ
วิธีคิด วิธีแสดงออก เปลี่ยนหมดจ้ะ

เคยคิดนะ ว่า เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นสิ่งนั้น สิ่งนี้
เพราะถ้าวันหนึ่งที่มันเป็นจริง ๆ ขึ้นมา
เราจะได้ไม่ต้องระวังอะไรอีก

คือเคยคิดว่า "ให้ระวังมารยาทแท้ เราจะได้ไม่ต้องระวังมารยาทใด ๆ อีกต่อไป" ไม่ได้คิดเอง นี่คือพุทธสุภาษิต จำมาใช้

แต่หลัง ๆ นิยมเถื่อน ถ่อย แต่ไม่โปรดสถุนนะ

ถ่อยจนชินจนติดเป็นสันดานแระ
ถ้าจะต้องปรับ คงต้องใช้เวลานานนิดนะ

ความคิดที่จะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ มันหมดไปพร้อมกับ
ความศรัทธาในสิ่งนั้น ๆ แล้ว

หลาย ๆ คนที่รู้จัก พยายามบอกให้ทำแบบนี้ ๆ ๆ
สุดท้ายแล้ว อิยายก็ไม่ได้ทำอะไรสักที
ไม่ใ่ช่ว่าทำไม่ได้ แต่ความต้องการมันไม่มี
มันไม่ใช่ความสุขอีกต่อไปแล้ว

แม้กระทั่งที่นี่เอง ก็ยังเปลี่ยน
เคยมีความสุขกับที่นี่มาก
แต่เมิงก็ทำกุหัวเสียหลาย ๆ ครั้ง
ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่

ความสุขที่คิดว่า ถ้าทำเช่นนี้ มีอย่างนั้นแล้วจะเป็นความสุข
วันนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว

อะไรกันนะ .. คือ ความสุขจริง ๆ ถาวร มั่นคง
ไม่จากไปไหน อยู่กับเรานิรันดร์

มีมันอยู่แล้วรึยัง????

อะไรที่แค่วาบขึ้นมาในความคิด ก็เป็นสุขในจิตใจแล้ว?????

ก็พอมีบ้าง?? ในอดีตที่ทำมาแล้ว
กลิ่นหอมที่หอมจนอยากไปสัมผัสอีก
หอมอย่างที่ไม่รุ้จะไปหาได้จากที่แห่งใดบนโลกใบนี้

แปลก!!!!
มันคือความสุขที่สุด แต่กลับบอกเล่าให้ใครฟังไม่ได้
รับรู้ได้เฉพาะแต่คนที่เกี่ยวข้อง

ก็อยากบอกนะ แต่คงต้องรอให้ผ่านไปอีกหลายสิบปี
ในวันที่อะไร ๆ ลงเอยด้วยปกติสุขแล้ว

ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ในวันที่ฉันทำทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จะเล่าให้ฟังแน่ ๆ ว่าที่ผ่านมาและกำลังดำเนินไป
และจะผ่านไปนี้ มันเป็นความสุขเช่นไร

สุขแบบสุก ๆ ดิบ ๆ
นับวันคุณค่าของความสุขดูจะยิ่งใหญ่ขึ้นทุกที ๆ ๆ

เคยคิดอย่างเอาจริงเอาจัง
จะอยู่เฉย ๆ แล้ว
จะไม่ทำอะไรให้ใครแล้ว
จะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ยุ่งกับใครแล้ว

ทุกวันนี้ก็ยังคงคิดเช่นนั้นเสมอ

เคยทำได้ไหม????

.................................

เดินทางมาไกลแสนไกล
ไกลจนหมดสิทธิ์จะเลือกทางเดินใด ๆ ให้ตัวเองได้อีก
ต่อให้ทางข้างหน้าเป็นหุบเหวก็ต้องข้ามมันไปจนได้

รู้ว่ากระโดดข้ามมันน่ะยาก
แต่ถ้าให้ย้อนกลับไป หรือหยุดอยู่กับที่
มันยากยิ่งกว่า

เพราะฉันไม่ได้กลับมามีลมหายใจเพื่อยอมแพ้กับอะไรทั้งสิ้น

แต่ฉันกลับมาเพื่อทำอะไร ไม่ได้มีหน้าที่ต้องบอกใคร

ขอโทษที่ยังพยายามได้ไม่ถึงไหน

ขอโทษที่ทำให้ได้แค่นี้เอง

ขอโทษ

ขอโทษนะ

ความสุขของวันนี้ ณ ขณะจิตนี้เหรอ?????

ความไม่สบายใจ ความกังวล
ความเสียสละสิ่งของ เนี่ย แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

ได้เห็นหน้าดำ ๆ ตัวอ้วนใหญ่ สันดานแย่ ๆ นิสัยกวนตีน
กับเด็กผู้ชายตัวผอม ๆ ที่เดินตามก้น
เห็นมันแล้วอยากจะแช่งให้ถูกสอยตัวไปเร็ว ๆ
มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกัน
คือพี่ไม่อยากกระทำมัน อยากให้มันออกไปจากวงโคจรชีวิตเร็วๆ
มันก็เป็นความสุขของการรอคอยอย่างหนึ่ง

ทำงานได้แย่มาก เสียชื่ออิเค็มมหาประลัยหมด
แต่ก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง

ได้โดนด่า ก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง ดูตัวเองจะมีความสำคัญ

ได้กอดพี่ป้าน้าอา ขออภัยกันและกัน มันก็จะชื่นใจ ๆ หน่อยนึง
ได้กินของอร่อย ๆ มันก็สุขอย่างปกติของคนทั่วไป

ได้หมดค่ะ
ง่ายดายไปหมดเลย ชีวิตกุเนี่ย

สมน้ำหน้านัก เมิงถึงต้องวุ่นวาย ๆ กับเรื่องชาวบ้านไงอิยาย

ต้องคิดใหม่ ทำให้ชีวิตตัวเองดูยาก ๆ เข้าไว้
อะไร ๆ ก็ยากไปหมด เผื่อเรื่องชาวบ้านจะลดความสำคัญกับชีวิตเมิงลงบ้าง (ก็ได้เหรอ?)

55555555555555555555555555555555555

เชื่อไหม? ชีวิตนังยายเนี่ย
วันนี้เดินมาถึงจุด ๆ ที่

เห็นปัญหากองอยู่ตรงหน้า
แล้วกุนั่งหัวเราะได้

และการได้หลอกด่าคนเลวนี่ เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน.




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 26 มิถุนายน 2560 เวลา:0:57:13 น.  

 
หลุดมาสองวันแล้ว

วันแรกเหนื่อยจนเหมือนจะตายเสียให้ได้
วันที่สองนี่ แพ้ใจตัวเอง

ยากจริงวุ้ยยยย
การถือศีลนอกเดือนอันประเสริฐมันไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างที่คิด
ความชินเป็นปกติ ช่วยอะไรไม่ได้เลย

ยิ่งนับวันได้มากเข้า อุปสรรคยิ่งมากตาม
ทั้งงานทั้งสิ่งแวดล้อม
คำถามมากมาย วุ่นวายขายปลาแดก (น้องมันบอก)

ถ้าไม่มีใจที่ตั้งมั่นจริง ๆ มาไม่ถึงร้อยวันหรอก

ความพยายามคงยังไม่มากถึงพอ จนทำให้มั่นคงตลอดรอดฝั่งได้
ยังต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา

บอกกับกัลยาณมิตรท่านหนึ่งว่า
ความสุขบัดเดี๋ยวนี้ต้องลุ้นเหมือนสลากกินแบ่ง

ความน่าจะเป็นมันน้อยมากจนเกือบจะสิ้นหวัง
มีมายั่วเป็นงวด ๆ เดือนละสองครั้ง
ตามโอกาสที่จะได้เดินทางออกไปหามัน
5555555555555555555555555

ชีวิตแทบจะตัดขาดจากผู้คนซึ่งนำพาความสุข
แต่มักจะวนเวียน ๆ อยู่กับผู้คนซึ่งมีแต่ทุกข์นำพา

กุดูมีบุญมากใช่ไหม?
เกิดเป็นคนที่มีแต่ผู้อื่นช่วยเหลือนับว่าเป็นคนมีบุญ
แต่ได้เกิดเป็นคนที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นนับว่ามีบุญยิ่งกว่า

ห่านลากไส้ บุญแท้ ๆ เชียว
5555555555555555555555555555555555

"อนุโมทนาสาธุ..ถ้าพี่ช่วยหนูได้สำเร็จหนูขออนุโมทนาบุญนี้ ขอให้พี่เจริญ ๆ "

กุอยากจะบอกว่า ไม่ต้องพูดอะไรเลยได้ไหม?
ที่ทำไปนี่เพราะไม่อยากเป็นเครื่องมือให้ใครทำการเอาเปรียบใคร
โดยเฉพาะคนที่มีอันจะกินเหลือเฟือแล้ว

ถ้าเป็นไปได้ ประหนึ่งกุมีคฑาวิเศษ จะเสกให้คนจำพวกนี้เห็นคุณค่าของการให้ไม่หวังผลตอบแทน มากกว่าการแสวงหาผลประโยชน์ในสิ่งที่ตนเองสามารถจะทำได้

ก็ทำได้แค่นี้แหละ เสียใจที่ทำได้แค่นี้
แต่ไม่เป็นไรหรอก ชีวิตใคร ชีวิตมัน
ถ้าทำมากกว่านี้ ชีวิตนั้นก็ของเรา ไม่ใช่ของเขาแล้ว
เป็นแค่มนุษย์ขี้เหม็นๆ คนหนึ่งจะทำอะไรมากมาย

สองสามวันนี้ ยังคงวนเวียน ๆ อยู่กับเรื่องเก่า ๆ
ที่มันค้างอยู่ในใจ

เด็กอ้วนเคยถามว่า "ถ้าย้อนเวลาได้ จะกลับไปแก้ไขเรื่องอะไร?"

ตอบนางว่า ถ้าย้อนเวลาได้ จะไม่แก้ไขอะไรทั้งนั้น แต่จะทำให้สะใจกว่าเดิม ถ้ารู้ว่าต้องมานั่งจิตตกแบบนี้บ่อย ๆ
จะทำให้มันถึงที่สุดให้ทุก ๆ คนจำเราจนตาย ไม่ใช่เรามานั่งเสียใจ จำในสิ่งที่ทำไว้คนเดียว

ทุก ๆ วันนี้ก็เลยปรับตัวเองซะใหม่ทั้งหมด
อะไรที่คิดว่าถ้าไม่ได้ทำแล้วจะเสียใจมาก จะรีบ ๆ ทำทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำมันไปเพื่ออะไร

อยากบอกทุก ๆ คนว่า "ขอโทษ" ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าขอโทษเพราะอะไร

เมื่อคืนฝันไม่ดีเลย ฝันว่าฟันหน้าเหมือนจะหลุด
เลือดกลบปาก แต่ก็จับมันยัดใส่ไว้ที่เดิมไม่ให้มันหลุดไปไหน
แล้วก็ตื่นมั้ง ตอนที่นอนอยู่ที่บ้านก็ฝันไม่ค่อยโอเค
แต่ครึ่งหลับครึ่งตื่นบอกมันว่า แค่ฝัน
อย่ามาหลอกกุ กุไม่เชื่อ. สัสอย่างนี้ก็ได้เหรอ?

หลังจากที่ฝันดีมาก ฝันร้ายก็ตามมาหลอกหลอนกันติด ๆ

.........................................

บอกแล้วว่างดเดินทาง ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
อยากกลับบ้านบ้าง อยากกลับไปดูแลพ่อแม่แล้วก็บ้าน
ได้ปลามาใหม่สองตัว คนถามว่าซื้อมาเท่าไร เพราะสวยมาก
จะให้ตอบยังไง รู้นะว่ามันแพง แต่ขอโทษพี่ได้มาฟรี
เจ้าของร้านเขาให้มา ก็ดูแลกันไป
อยู่กับพี่ต้องถึก ๆ ทน ๆ เอากลับไปไว้ที่บ้าน เพราะอากาศดีกว่ามาก เขาดูจะกระดี๊กระด๊า ตื่นเต้นบนบ่อปลาแรดตัวโต

เดือนหน้า จะพยายามทำปิดเคสโรงเพาะเห็ด
ฤดูฝนหญ้าขึ้นเร็วมาก ไม่กี่วันเขียวครึ้มท่วมต้นมะนาว
แปลงผักน้ำก็ท่วมเป็นปกติของฤดู ตรงนี้มันต้องทำโคก หนอง
นาปลอกซีเมนต์ก็ได้อยู่ แต่ทำผืนนาคงไม่พอ

ไม่รู้ต้องทำยังไง ให้พ่อกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ต้องพูดยังไง
ต้องทำยังไง
ต้องขายฝันด้วยอะไร
แค่นี้ก็ทุ่มให้หมดทุกอย่างแล้ว
ต้องเปลี่ยนตัวเอง อย่างที่ทำตอนเขาป่วยหนัก?
ต้องเคร่งครัดมากกว่านี้??

สำหรับแม่ ..หลังจากที่ไปหาจักษุแพทย์มา
ทำใจไว้ได้เลย ต่อไปนี้ดวงตาแม่ จะมีแต่เสื่อมลงๆๆๆ
หมดทางรักษาแล้ว เพราะตาดำมันเสื่อม แก้ไขไม่ได้
แข้งขาแม่ดีขึ้น เดินได้ตัวเกือบตรงแล้ว
หน้าใส ไขมันลดลง ดูคล่องตัวไม่อุ้ยอ้าย

แม่อยู่กับนายคนเล็ก
ก่อนนังยายจะกลับบ้าน
นายคนเล็กเขาเห่อเพื่อนชายคนใหม่ของแม่
ทิ้งยายให้นอนคนเดียว
พอพี่กลับไป พี่ก็ดึงตัวกลับมาโดยเอาเอ็มวีอยู่อย่างจงรักฯมาล่อ
ตามด้วยโดราเอม่อน แล้วก็เพลงทรงพระเจริญ
คิดหนัก แล้วก็เดินกลับมา
นอนด้วยกันเกือบเดือน
พอวันใกล้จะออกบวช
ยายถาม "ถ้าป้าไม่อยู่บ้านแล้วจะนอนกับใคร"

สำนึกของเขาคือ เขาเป็นลูกป้า
ใครได้ฟังก็หาว่านังยายมโนไปเอง
หวังจะแอบลักไก่เอาลูกเขามาเป็นลูกตัวเอง

เป็นความภูมิใจของคนไม่มีลูก!!!

นายคนเล็กเขาโตมากับยาย
ติดยายมาก ใครก็เข้าใกล้ยายไม่ได้
เพิ่งจะมีปีนี้ที่เริ่มไปโรงเรียน
พอบอกให้ไปกอดยาย หอมยาย
เขาบอก เขาอายไม่กล้า

ยายถามเขาว่า "ถ้าโต๊ะตายแล้วจะอยู่กับใคร"
นายคนเล็กตอบแบบไม่คิดเลยว่า "อยู่กับป้า"

พ่อแม่ไม่เคยมีในสารบบความคิดของเด็กคนนี้
แม่เขาคือแม่ของนายคนโต
ส่วนตัวนายคนเล็กเป็นลูกป้า

เมื่อก่อนจะไม่ถูกกันเท่าไร
เขาไม่ชอบคนเสียงดัง ไม่ชอบถูกดุด่าว่ากล่าว
ทุกวันนี้ถ้าจะตักเตือนก็ต้องสรรคำใช้ให้ฟังดูดี มีหลักการเท่านั้น
ถ้าพูดไม่ดี เขาจะชี้หน้าให้หุบปาก
เป็นอีกคนที่อยู่ด้วยแล้ว นังยายต้องปรับอารมณ์อย่างมาก
โกรธไม่ได้ ว่าก็ไม่ได้ เลี้ยงยาก
แต่พูดรู้เรื่อง ไม่กวนทริน อย่างนายคนโต

ติดซื้อทาโกะยากิกลับไปฝาก
ฝนตกเกือบทุกวัน
ทาโกะหายไปกับสายฝน

ส่วนเคสของเด็กหญิงชายคนอื่น ๆ พี่ปิดเคสไปแล้ว
เหลือไว้แต่ค่าเล่าเรียนภาษาอาหรับที่ยังต้องจ่ายให้ทุก ๆ เดือน
รับมาเป็นภาระเพราะไม่มีใครสนใจจะให้เขาไปเรียนพร้อมกันนายสองคน ทั้งบ้านของเขาก็ไม่มีใครให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลย
มันน่าเป็นห่วง ดีใจที่ตัดสินใจเร็ว ไม่ตกหล่น
พี่คิดว่า พี่ทำดีที่สุดแล้ว เพราะชีวิตใคร ชีวิตมัน
ช่วยอะไรมากกว่านี้ ก็ไม่ใช่แล้ว
ช่วยมากไป จะกลายเป็นเรื่องยัดเยียด
ไม่อยากให้มันดูเป็นช่องว่างเพราะระหว่างนายคนโตกับเด็กหญิงเขาอายุเท่ากัน เรียนอยู่ห้องเดียวกัน
เขาควรจะมีความรู้ในเรื่องเดียวกันเท่า ๆ กัน

ส่วนจะเลือกปฏิบัติตัวอย่างไร มันเรื่องของเขา
ต่อไปเขาจะไม่ได้อ้างว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่มีใครส่งเสริม
ไม่มีใครสอน กุสอนแล้ว กุให้โอกาสแล้ว
ส่วนจะเป็นไปอย่างไรต่อ เรื่องของพวกเมิง

........................................

ไม่มีเด็กคนไหนที่ต้องเป็นห่วง
เด็ก ๆ เขาเลือกที่จะมีครอบครัวที่ได้อยู่พร้อมหน้า
ถึงแม้ว่าคนที่เข้ามาแทนที่จะไม่ใช่พ่อจริง ๆ ก็เถอะ
แต่เพราะสื่อที่เขาเห็น
ชีวิตที่สมบูรณ์มันต้องมีทั้งพ่อและแม่ มีวันที่สวยงาม
คนที่อยู่ลำพังอย่างนังยายจึงดูจะเป็นคนที่น่าเป็นห่วงที่สุด
อย่างที่นายคนโตมันวางแผนเอาไว้ ให้พี่บุกไปหาเฮียที่บ้าน
55555555555555555555555

ป้า ๆ ถามจริง ๆ เถอะ ป้ารวยจริง ๆ ไหม?

อะไรคือรวยเหรอลูก??

ความคิดแบบเด็ก ๆ น่ะ
นังยายเอาดินสอที่ซื้อให้เขาแพ็คหนึ่งกลับบ้าน
แล้วเอาออกให้เขาใช้ แล้วบอกว่า ถ้าหมดแล้วก็มาเบิกใหม่
แต่ต้องใช้ให้หมดก่อน ไม่ใช่เอาไปใช้ไม่ระวัง

นั่นก็ไปอวดเพื่อนอีกว่า ตัวเองมีดินสอเยอะแยะ
แจกใคร ๆ ก็ได้ ถ้าเองอยากได้มาเบิกที่ป้า
ป้ามีเยอะ

ถ้าแบบนี้คือรวย ป้าคงรวยมาก ๆ เลยลูก
ป้าแจกของเด็ก ๆ ทุก ๆ ปีเล้ยยย
แจกทุกอย่างโดยเฉพาะช่วงวันเด็ก
5555555555555555555555555555555555

แต่ตอนนี้ป้าต้องจนมาก ๆ เลย
เพราะป้าไม่มีอะไรจะกิน
กินอะไรเข้าไปป้าก็แพ้ขึ้นผดผื่นน้ำเหลืองเสียไปหมด
จนจริง ๆ เลยชีวิตแดรกไรไม่ล่ายเลย ชีวิตบัดซบ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เด็ก ๆ ไม่ต้องการอะไรนอกจากสาระในชีวิตเพื่อความสนุกสนาน
นังยายชอบพาเด็กออกทริป เพราะตอนเป็นเด็กคิดเสมอว่า
ถ้าไปไหนก็ได้คงเป็นความสุขมากสำหรับเด็กอย่างเรา
ตอนเป็นเด็กนังยายหนีออกจากบ้านเสมอ
ชอบเดินไปเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ก็ยังชอบเดิน
แต่ที่ ๆ เคยเดินเมื่อตอนเป็นเด็กมันเดินไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

บางทีอยากบางเด็ก ๆ เขาเดินไปยังทุ่งนาที่ยายเคยเดินเล่น
แต่ทุกวันนี้มันเสี่ยงและน่ากลัวเกินไป
คนจากถิ่นฐานอื่นเข้ามาทำงาน
เคยมีคนตาย เคยมีแคมป์คนงาน เคยมีหมาจรจัดวิ่งไล่กัด
สารพัดจะมี จะไปเดินทอดน่อง นั่งเล่น นอนเล่นเหมือนเดิม
ไม่มีอีกแล้ว อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมด

........................................

ทั้งบ้านก็หมดเรื่องให้ห่วงเท่านี้
ชีวิตอื่นเขาเอาตัวรอดของเขาได้หมดแล้ว
จะไปห่วงอะไร ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครชีวิตมัน
ที่เป็นของยาย ก็มีพี่จิบ ที่ต้องกลับไปขัดสนิมให้
มีเรือที่ต้องกลับไปดูและเก็บรักษาให้ดี
อยากเอาเขาออกใช้ แต่ไม่รู้จะไปใช้ที่ไหน
มีปลาสี่ตัว มีต้นไม้
ต้องขอบคุณคนเนรคุณพวกนั้นที่เผยธาตุแท้
มิเช่นนั้นก็ยังจะมีหนังสืออีกกองโตที่ต้องเป็นห่วง
พอเป็นแบบนี้แล้ว ช่างมัน กุไม่ห่วงเมิงแระ
ความคิดของพวกเนรคุณ ไม่รู้จะห่วงไปทำไม

.....................................
ก่อนดวงตาของแม่จะดับมืดไป
อยากให้แม่ได้เห็นความสวยงามในทุก ๆ วัน
ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีแค่ไหน

กลับมาดูที่ทำงาน
เมื่อก่อนมีห่วงมากมาย
ตอนนี้มันเลิกห่วงหมดแล้ว
มีคนใหม่ ๆ เข้ามาให้ทำความรู้จักเรื่อย ๆ เลย
คนใหม่ที่มานี้ มีทั้งดีและไม่ดี
ทั้งคนทั้งหมา
โย่งตายแล้ว หมีก็เข้ามาแทนที่
เห่าคนผ่านไปผ่านมาไม่เลือกหน้า
ขี้เรื้อนโดนคนใจร้ายขับรถชนหาหัก
เป็นหมาขาเป๋พิการไปข้างหนึ่ง น่าสงสาร

ตั้งแต่ป้าตุ้มออกไป ก็ไม่มีใครที่จะทำให้ผูกพันและเป็นห่วงเป็นพิเศษ ทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามา อยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองเป็นหลัก
พี่ชั้นสี่ที่มักจะไปทำงานอาสาเสมอ นั่นก็ไม่ได้อยากทำความรู้จัก
ดูเป็นคนขี้คุย คุยให้ฟัง ก็แค่รับฟัง
พี่ชั้นสองที่มักจะเอาของมาฝาก ก็รับไปทุกครั้งแต่ก็ส่งต่อทุกที
ไม่เคยเก็บไว้
ป้าที่บ้า ๆ บอ ๆ ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม เพิ่มเติมคือนังยายเพิ่งรู้ว่าแต่เป็นโรคประสาท ปล่อยให้สงสัยมาตั้งนาน
ลูกก็นะ ใจคอ เอาคนเป็นแม่มาอยู่รวมกันกับคนอื่น
ถ้าไม่คุยด้วย ก็จะไม่รู้ว่าแก่ไม่ปกติ
นอกนั้น ไม่มีอะไรพิเศษทุก ๆ คนเหมือนกันหมด
ผลประโยชน์ตัวเองจะหวงแหนนัก

มีบางคนก็เหมือนจะดี พอมีเรื่องขึ้นมา ถึงรู้นิสัยจริง ๆ ว่าเป็นยังไง จะบอกว่า นังยายเปลี่ยนไป มันไม่ใช่
กุยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย
ยังคงปฏิบัติต่อทุก ๆ คนเหมือนเดิม
นิ่งยังไง ก็ยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้น

อ่อ มีเพื่อนคนหนึ่งที่ยังพอเจียดความเป็นห่วงให้บ้าง
ที่บอกแบบนี้เพราะตอนแรกไม่คิดจะคบกันเป็นเพื่อน
เขาดูเป็นคนโรคจิตช่วงแรก ๆ
ดูมีรสนิยมแปลก
มารู้จักกันทีหลัง หลังจากที่หลาย ๆ คนไปกันหมดแล้ว
เริ่มคุยกันตอนที่เขาไปสิงห์บุรีกลับมา
แล้วเขารู้ว่า ยายเพิ่งไปสิงห์บุรีมาเหมือนกัน
เขาตัดสินใจเดินตรงเข้ามาถาม
"ทำไมถึงไปที่นั่น" (เพราะมันไม่ใช่ที่ที่เราจะไป)
ก็เล่าให้ฟัง ก็คุยกัน
แล้วหลังจากนั้น พอมีอะไรเขาก็มักจะเข้ามาถามเสมอ
จึงทำให้รู้ว่า เขาเหงามาก ทำงานอยู่กับเครื่องจักร
ไม่ได้คุยกับใครเลยวัน ๆ หนึ่งคุยกับผู้คนแค่ไม่กี่คำ

เขาบอกว่า เขาอยากมีเพื่อน อยากให้มีคนทักทายเขาบ้าง

เออแค่ทักทาย กุทักเมิงให้ก็ได้ฟร่ะ
นังยายก็เลยบอกทำความเข้าใจให้ว่า
คนเรามันมีหลายประเภท
เพราะนายทำงานกับเครื่องจักร เลยอยากคุยกับคนอื่น
แต่คนอื่นบางทีเขาเจอผู้คนมากมาย พอไม่ได้ทำงาน
เขาก็อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากคุยกับใคร

จะทักใคร จะคุยกับใครก็ดูหน้าเขาด้วย
พร้อมจะคุยไหม?
แต่ถ้าเหงามาก อยากคุย คุยกับเราได้
เพราะเรามีหน้าที่ต้องซัพพอตความรู้สึกของทุกคนตลอดเวลา
ที่อยู่ที่นี่อยู่แล้ว แต่ถ้าเราออกไปจากที่นี่
เมิงอย่าตามไปคุยกับกุนะ
เพราะกุก็ต้องการความเป็นส่วนตัว ในยามที่ไม่จำเป็นต้องคุยกับ
ใครเช่นกัน

มันมีจริง ๆ นะ คนที่อยากคุยกับคนอื่น ๆ บ้าง
แต่ไม่ใช่กุนะ

นังยายชอบที่จะคุยกับตัวเอง
อย่ามายุ่งกับกุ
กุมีปัญหาไร กุจัดการตัวเองได้
ถ้ากุเหงามาก ๆ กุก็คุยกับตัวเองได้
กุสามารถจัดการกับความเหงาของตัวเองได้
ถ้าจะต้องมีใครเข้ามาแล้วสร้างปัญหาให้กุเพิ่ม
เมิงหยุดอยู่ตรงนั้นเลย
ไม่ต้องการ ไม่จำเป็นเลย

หมดแระ ไม่มีใครที่เลวร้ายจนรับไม่ได้
ไม่มีใครดีมากจนอยากจะผูกพันด้วย
ลุงคนที่บ่นประจำก็ไปแล้ว
ชีวิตเหมือนจะดี ดีจริงป่ะวะ

เช้ามา .. นั่งมองเด็กทำความสะอาด
ถ้าขยันหน่อยก็มีฝึกโยคะสูดอากาศโดยมากแล้วจะไม่ขยัน
ถ้าวันไหนไม่ได้กลับบ้าน ก็ขึ้นนอนตอนเช้า
พอขึ้นนอน ตบะมักจะแตก นอนแล้วเตลิด
ไม่ชอบเลย และมักจะไม่ได้นอน
พอไม่ได้นอนก็นั่งรับแขกทั้งวัน
ทั้งหน้าตาบู้บี้แบบนั้น

พอแดดร่มแล้วถึงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
เข้าตลาดไปทำธุรกรรมตามปกติ
หาของกิน ว่างหน่อยก็แวะไปคุยกับคนเคยน่ารักที่ร้านกาแฟ
แวะอ่านหนังสือ แวะเก็บตะวัน

แล้วก็กลับมานั่งรับแขกต่อด้วยหน้าตาที่บอกบุญไม่รับ

จนมืด จนดึก เป็นแบบนี้ทุกวันๆๆๆ

ถ้าวันไหนตะวันส่องแสงทักทายกับกระจกที่สะท้อนเข้าตา
วันนั้นจะได้ปืนขึ้นดาดฟ้าและชีวิตจะดูมีสีสันหน่อยนึงนะ

ถ้าวันไหนโลกเขาน่ารัก เขาจะเหวี่ยงคนน่ารัก ๆ ให้เดินมาหา
แต่ไม่ค่อยมีหรอก นานทีปีละหนก็เก่งแล้ว

ช่วงไหนชีวิตดี๊ดีเพื่อนจะเอาทริปเดินทางมาเสิร์ฟ
ได้ออกไปดูโลกกลม ๆ ถ่ายรูป ยัดห่าหาแดรกกันที
แต่กว่าจะไปได้ มีเรื่องต้องเคลียร์ตอนไม่อยู่ตลอด
มีเรื่องให้ลุ้นเป็นสลากกินแบ่งตลอด

ถ้าวันไหนได้กลับบ้าน ก็จะครื้นเครงเป็นพิเศษ
เดือนหน้าที่จะถึงนี้ ดูแล้วไม่ค่อยจะโอเคนัก
เอาตัวเอาใจตัวเองให้รอดก่อน
เรื่องอื่น ๆ ค่อยไปคิดทีหลัง

ใครจะเป็นยังไงก็ช่างแม่มทะ

ใครสนใจล่ะ

สองวันมานี้ใจมันไม่ดี
จ้องแต่จะตกอยู่นั่นแหละ
อยากตกก็ตกไปสิ
กุไม่ไป เมิงจะทำไม๊

....................................
ที่นี่มีต้นไม้ของฉันอยู่หลายต้น
ก็ต้น ๆ เดียวนั่นแหละ มันแตกหน่อแตกกอ
ก็เลยต้องแยกมันออก
ตอนแรกคิดจะทำสวนสวยเล็ก ๆ ไว้ดูเล่น
ตอนนี้คิดใหม่ ไม่เอาเก็บไว้เองแล้ว
เดี๋ยวจะเอาลงมาข้างล่าง
เอามาให้มันสวยให้คนอื่นได้ชื่นชมบ้าง

มันไม่เป็นไรตายไปง่าย ๆ หรอก
ก็เพราะว่ามันเป็นต้นไม้ของฉัน
มันถึกและทนจะตายไป.





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:3:00:04 น.  

 
ตัดหมดเรื่องชาวบ้าน..ทีนี้มาดูเรื่องของตัวเอง

วันก่อนเคยบ่นว่า คนอื่นเราช่วยได้ แต่ทำไมพอถึงคราวตัวเอง
ไม่มีใครช่วยเราได้เลย ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้
พอวันถัดจากนั้น เด็กอ้วนก็เข้ามาบ่นให้ฟัง
ว่ามีแต่ช่วยคนอื่น ทำไมไม่มีใครช่วยเขาได้เลย

ฟังแล้วมันแบบจุกในอก เข้าใจโดยทันทีไม่ต้องอธิบาย
เรื่องบางเรื่องมันไม่สามารถแก้ไขได้
ต้องปล่อยให้เวลามันผ่านไปเอง
แล้วมันจะจากไปเช่นกัน

เด็กอ้วนส่วนตัวเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร
จะเรียกเด็กอ้วนตอนนี้นางก็ไม่ค่อยอ้วนแล้ว นางดูแฟ๊บ ๆ

แม่นางดูจะเป็นปัญหาที่สุด
นางไม่ยอมรับความจริง
นางติดหรู นางยึดติดกับอดีตที่สวยหรู
ยึดติดกับความสบายที่เคยฟุ้งเฟ้อ
รักลูกแบบแปลก ๆ เป็นคนที่เข้าใจยาก
ชอบคนที่เปลือก เน้นรักสนุกสนาน ไม่ชอบความลำบาก

เคยคุยกันนะ เมื่อก่อนที่ยังพอคุยกันได้
เริ่มจะไม่คุยกันตอนที่ นังยายเริ่มแยกตัวเพราะความเห็นที่ไม่ตรงกัน

ช่วงที่เขาเริ่มทำงานใหม่ ๆ

เราเริ่มเห็นไม่ตรงกันเพราะนังยายเลือกความอาย
ไม่ขอเลือกมีชีวิตอยู่กับความทุกข์
แต่เขาชอบความสบายต่อให้จมกับความทุกข์เขายอม
พอเห็นไม่ตรงกันแบบนี้ นังยายก็ต้องขอแยกทาง
คงคุยกันไม่่รู้เรื่องแล้ว

อีกทีหนึ่งก็ตอนที่เขาแต่งงานให้ลูกชายครั้งแรก
นังยายพยายามที่จะบอกว่า อย่าไปตัดสินชีวิตเด็กด้วยการแต่งงาน
มันไม่ใช่วิธีที่จะจบปัญหา แต่มันเป็นการเริ่มต้นของปัญหาในลักษณะใหม่ ๆ ฟังที่ไหน ไม่เชื่อ ไม่ฟัง
คิดว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้บาปของพ่อแม่นั้นหมดไป
คิดว่าจะตัดลูกออกไปจากความรับผิดชอบของตัวเองได้

เออคิดไปสิ ตอนนั้นพี่ตัดสินใจหนีเที่ยว เพราะไม่อยากปากร้ายใส่ใคร สุดท้ายมันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ และแยกทางกันที่สุด
ปัญหาเรื่องเดิม ๆ ก็ยังคงอยู่ มีแต่ทวีความรุนแรงขึ้น
จนแต่งงานครั้งที่สองของลูกชาย กุก็อยู่ แต่บอกเลยไม่ไป

แล้วมันก็เป็นสาเหตุทั้งหมดของความทุกข์ของเด็กอ้วน

แค่คิดจะลงไปแก้ไข ก็บ้าไปแล้ว
เจ้าตัวปัญหามันไม่เปิดโอกาสให้เข้าไปช่วย
แล้วเมิงจะทำอะไรได้
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวใจ
แล้วจะทำอะไรได้เหรอ?

เป็นสิ่งมีชีวิตมันต้องรู้จักเอาตัวรอด
มือทรินดีดี ยังไงเขาก็ต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเอง

เคยคิดนะ อยากช่วยอะไรบ้าง
แต่เขาไม่เปิดโอกาสแม้แต่จะให้เจอ

ช่วยอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ
ทำได้แต่ดูอยู่ห่าง ๆ
.........................................

มีแค่นี้แหละ ปัญหาของเด็กอ้วน
ช่วยได้แค่พยายามพยุงตัวเองให้แข็งแรง
พยายามเติมใจให้เข้มแข็ง
อย่าปล่อยใจให้ตกหล่นบกพร่อง

เราคงจะอยู่ด้วยกันเป็นคู่ดูโอ
ไปจนตายจากกันไปข้างหนึ่ง
บางทีก็รู้สึกผิดนะ ที่นางมักจะบอกว่า
เมิงนั่นแหละที่สอนกุผิด ๆ
ทำให้กุเป็นคนที่แปลกแยกไม่เหมือนชาวบ้าน
เมิงนั่นแหละที่สอนกุให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง
สอนให้กุไม่อยากอยู่ร่วมกับใคร


มันจะยิ่งมีความรู้สึกผิดมาก
ถ้าวันนั้นเราเกิดสับสนกับตัวเองว่าที่ทำอยู่นี้ถูกต้องแล้วใช่ไหม?
ยิ่งวันไหนที่จิตตกรู้สึกแย่
ถ้าอยู่ลำพังมันก็ดีหน่อย ช่างมันสิ
แต่ถ้าเรารู้สึกไม่ดีแล้ว มองไปเห็นคนข้าง ๆ ไม่ดีด้วย
มันจะยิ่งแย่มาก ๆ

ต้องพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อจะบอกนางว่า
ที่เราทำมาทั้งหมดนี้ถูกต้องแล้ว
อย่าหยุดทำให้เดินต่อไป

แรก ๆ ก็มีเหนื่อย ๆ หน่อย
แต่พอได้ทำแล้วนางบอกว่า
รู้สึกดีจังเลยติดการใช้ชีวิตด้วยการให้แบบนี้แล้ว
ใจมันอิ่มนะ มันหายเหนื่อย
อย่างน้อยที่สุดถ้าเราตายลงไป
ก็ยังมีเด็กอ้วนหนึ่งคนที่ยังคงจะเดินทางต่อไป
ในแบบที่เราอยากให้โลกนี้มีคนเช่นนี้บ้าง

เราไม่ได้ทำทุกอย่างลงไปเพื่อจะให้ชีวิตเรามีอะไรขึ้นมา
เพื่อจะสะสมให้เราเป็นเช่นนั้น
แต่ทั้งหมดที่เราพยายามทำก็เพื่อจะบอกว่า
เราต้องการให้โลกเน่า ๆ มันมีคนอย่างที่เราต้องการบ้าง
ต้องการเช่นไร ก็ต้องทำเช่นนั้น
ถ้าเราไม่ทำ โลกก็จะไม่มี

ที่เราทำไปทั้งหมด ถูกต้องแล้ว
ไม่มีอะไรผิดพลาดเลย
ที่มันดูเหนื่อย ๆ หน่อย เพราะคนทำมีน้อย
ต้องพยายามทำต่อไป
เมื่อคนทำเช่นนี้กลายเป็นโรคระบาดติดต่อกันมาก ๆ เข้า
เราก็จะเหนื่อยน้อยลงไปเอง

555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555

เป็นกำลังใจให้เด็กอ้วน
สักวันชีวิตนางจะยั่งยืน
ครอบครัวนางจะดีขึ้น

แอบคิดนะ นางจะสามารถแพร่เชื้อแบบนี้ไปได้อีก
ไม่มากก็น้อย หรืออาจจะไม่สามารถแพร่เชื้อไปไหนเลยก็ได้.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:4:02:42 น.  

 
วันนี้ก็ตบะแตกอีกแล้ว ..เลว!!
5555555555555555555555555555

รู้สึกตึง ๆ นิด ๆ
มีหญิงคนหนึ่งพยายามจะเข้ามาตีสนิท
ลูกค้าก็ไม่ใช่ ทำตัวเป็นคนมีศีล มีธรรม
แต่มักจะเอาเปรียบคนอื่น ผลักภาระให้คนอื่นดูแลซะงั้น

บ้ารึเปล่า ไม่แน่ใจนะ
พยายามจะเดินเข้ามาตีซี้ ฝากของ
ซึ่ง ดูหน้ากุดีดีนะ ไม่ใช่กรมประชาสังคมสงเคราะห์ค่ะ
เด็กโทรไปฟ้อง
บอกเด็กว่า ทำถูกต้องแล้ว
โลกตอนนี้ต้องร้ายนิด ๆ ชีวิตจะดีมาก ๆ

นังยายเป็นคนประเภท ไม่เอาเปรียบใคร
และก็ไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบหรือ ถูกใช้ให้เป็นเครื่องมือทำร้ายผู้อื่นด้วย

ช่วงนี้อึดอัด ๆ หน่อย มีเรื่องสำคัญสองเรื่อง
ที่รู้ล่วงหน้า ถ้าเวลานั้นมาถึงจริง ๆ ก็คงมีความอลหม่านพอตัว
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
เขาคิดว่า ตัวเองแน่นอนแล้ว
แต่ด้วยหนี้บุญคุณที่มี
ลองดูสิ อย่าได้ให้มีสิ่งใดขัดหูขัดใจนังยายเชียว
พอใจก็ไป
ไม่พอใจก็ไป
ทุกวันที่ที่อดทนนั่งอยู่เพราะไร้ความรู้สึกทั้งพอใจ หรือไม่พอใจ

มันเฉยกับทุกเรื่อง
เพราะตัดขาดทั้งความรักและความเกลียดต่อทุก ๆ คนที่นี่
มาเนิ่นนานแล้ว

ใจหายวาบเหมือนกัน
..............................................
นั่งย้อนดูแต่ละคนที่จับขึ้นหิ้ง
มีมากมายเหลือเกิน
คนแรก ชื่อพี่ดา
คนนี้เอ็นดูนังยายมากเป็นพิเศษ

ถึงเขาจะไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบอะไรนัก
แต่คนกลุ่มนี้ก็เป็นคนประเภทเดียวที่สนใจว่า
เรารู้สึกอย่างไร
ถ้าเป็นคนปกติ ฉันต้องการอะไร ฉันไม่สนใจหรอก
ว่าเธอจะตอบสนองให้ได้หรือไม่ พร้อมบริการหรือเปล่า

แต่พี่คนนี้ เมื่อมีความต้องการ แต่พอมาเจอนัยตาที่เต็มไปด้วยน้ำ
เจิ่งจนล้นออกมาเก็บไม่มิด
ความต้องการที่มีมันเลยเปลี่ยนเป็นของขวัญปลอบใจ
เพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น

เก็บพวกเขาขึ้นหิ้งไม่ใช่เพราะเขาทำดีมีของมากำนัลอะไร
แต่รู้สึกรักคนกลุ่มนี้เพราะเขามีความจริงใจและมีความรับผิดชอบมากเป็นพิเศษ เป็นคนแรก ๆ ที่เราให้ความสัมพันธ์อันดีด้วย
คุยกันได้ทุกเรื่อง ผ่านเรื่องราวกันมากมาย
ทั้งเรื่องของเขาและเรื่องของเรา

ต่อให้นังยายจะเจอกับอะไรก็แล้วแต่
สำหรับพวกเขา เราคือคนดีที่ดีมาก ๆ

พี่เริ่มเรียนรู้โลกสีเทาจนดำมืดมิดและอโคจรก็จากเรื่องเล่าของพวกนี้ เล่าให้ฟังและกีดกันไม่ให้เราเข้าไปอยู่ในจุด ๆ นั้น่

ช่วงที่กำลังผจญกับกองวิบากกรรมกัน
พี่จะมีหนังสือธรรมะที่ซื้อมาอ่านสองเล่มใหญ่
เป็นของท่านพุทธทาส ว่าด้วยเรื่องทุกข์จนจบนิพพาน
อ่านแล้วก็วาง เพราะเอาไปใช้ไม่ได้เลย
เข้าใ่จนะ แต่ไม่ได้นำไปใช้

ผู้ชายของพี่เขาที่ออกจะเกเรเพลบอยหน่อย
มาหยิบยืมไปอ่าน แล้วก็หายไปนานหลายเดือน
โผล่มาอีกที พี่ดามาเขามาเยี่ยมนังยาย
มาบอกให้อนุโมทนาบุญ
ที่เขาเป็นเช่นนี้ได้ดีเพราะหนังสือของนังยาย
พร้อมกับขอบิณฑบาตหนังสือสองเล่มนั้นเพื่อศึกษาพระธรรม
แล้วส่งต่อให้พระรูปอื่น ๆ ต่อไป

ฟังดูดี แต่ก็แอบขำ
นี่กุดูเป็นแบบนั้นเหรอ?
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ได้พวงมาลัยมาบูชาพระด้วย
ยิ่งขำหนักเข้าไปอีก
มีเอาพวงมาลัยมามอบให้แล้วบอก
ให้ไว้บูชาพระ


มันเป็นความทรงจำที่ตลกดีนะ
เป็นช่วงที่ชีวิตครื้นเครงมาก
มีเรื่องได้ทุก ๆ วัน
เรื่องเยอะทีเดียว แต่อยากจำเฉพาะสองเคสนี้เท่านั้นแหละ

ทุก ๆ คนบอกว่า ..ไปก่อนนะ แล้วจะกลับมาหา
ในจำนวนสี่คนเขากลับมาแค่พี่ดาคนเดียว

แล้วไม่ได้กลับมาหาเราด้วยนะ
มาทำธุระ แล้วเราบังเอิญไปเจอกัน

ต่อจากนั้น ...ไม่อยากจำแล้วล่ะ

รู้แค่ว่า เขาดีกับเรามากเท่ามากที่คน ๆ หนึ่งจะทำความดี
ต่อคนไม่รู้จักได้

โลกเหวี่ยงมาให้ได้เรียนรู้ และสุดท้ายก็พาเขาจากไป
ต่อให้จะพยายามยึดติดกันและกันไว้เท่าใดก็ตาม
เมื่อหมดกรรมต่อกัน ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตาย
สุดท้ายแล้วเราก็จากกันอยู่ดี

เราคงเดินร่วมทางกันไม่ได้ เพราะวงโคจรเขากับเรา
ต่างกันสิ้นเชิง.

พี่คนนี้ สอนให้เรารู้ว่า
อย่ามองคนภายนอก ความสวยหรูมันก็แค่เปลือกที่เขาแสดงออกเท่านั้น และก็ย้ำนักย้ำหนาว่า คนไม่ดีที่มันพูดดีกับเราอย่าไปไว้ใจ
อย่าไปคบ อย่าไปไหนด้วยกัน เราจะเดือดร้อน

สิ่งนี้แหละที่ทำให้รู้สึกรักจนต้องเอาขึ้นหิ้ง
ต่อให้เขาจะเป็นเช่นไรก็ตาม เขาไม่เคยจะดึงให้เราลงไปจมอยู่กับสิ่งที่เขาเป็น เป็นความโชคดีของนังยาย
ที่ได้เจอทั้งความดีและความชั่วร้ายที่เดินมาทักทายพร้อมกัน


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:23:48:14 น.  

 
เมื่อพี่ดาออกไป ในช่วงเข้าปีที่สอง
ครอบครัวน้องฟ้าใสก็เข้ามา

เรื่องที่จำไว้มีเยอะนะ แต่อยากเก็บไว้ในสำนึกแต่เรื่องที่ดีเท่านั้น
อะไร ๆ ที่มันค่อนข้างจะล่อแหลมต่อความเสื่อมเสียของผู้อื่น
ก็อย่าไปแตะต้องข้องแวะมันเลย

ครอบครัวน้องฟ้าใสเข้ามา เหมือนจะไม่มีอะไรให้น่าผูกพัน
พ่อแม่เป็นคนทางใต้ตอนกลางจังหวัดใหญ่
สีหน้าบึ้งตึง ไม่ยิ้มแย้ม ดุดัน
คิดว่ากลัว? ไม่จ้ะ ชอบคนแบบนี้
เพราะนังยายก็เป็นคนเช่นนี้เหมือนกัน

มันต้องจับขึ้นหิ้งเพราะพ่อของน้องที่ดูหน้าดุ ๆ บึ้ง ๆ
พอขนของส่วนตัวเข้าห้องเสร็จ
เดินตรงมาหานังยายประหนึ่งว่าจะมาเอาเรื่อง
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบานุ่มนิ่ม
"สวัสดีปีใหม่ครับ" พร้อมกับมอบพระองค์หนึ่งให้
เป็นหลวงปู่ทวดที่ดูค่อนข้างเก่า ๆ หน่อยและขลังมาก

กุจะดีใจดีไหม? คนอื่น ๆ ได้จตุคาม
มีคนที่ได้แค่สองสามคน แต่พี่ได้หลวงปู่ทวดคนเดียว
ตลกร้ายกับชีวิตฉันจริงจังอีกแระ

แรก ๆ ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน
จนกระทั่งเขามีปัญหามาปรึกษา
พอได้คุยแล้วยาวเลย
ก็คุยกันได้เรื่อย ๆ ในฐานะที่ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาคล้าย ๆ กัน
เรียนคณะเดียวกัน เรียนรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน
นิสัยไม่ได้แตกต่างกัน และที่สำคัญคือเขาเป็นพี่เนอะ
ก็มีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า

รู้จักตั้งคำถามที่ไม่ละเมิดเรื่องส่วนตัวมากนัก
ต่างคนต่างเข้าใจและให้เกียรติกัน
เราเชื่อมโยงผูกพันกันเพราะน้องฟ้าใส
ยามใดที่เขาไม่ว่าง ก็มักจะเอาน้องมาฝากไว้
ไปตลาด ไปธุระประเดี๋ยวประด๋าว

วันนั้น วันที่เขามาปรึกษาว่าจะย้ายที่อยู่ใหม่
จำได้สนิทใจเลยว่า นังยายสีหน้าสลดเปลี่ยนไปแบบเห็นได้ชัด

ช่างเป็นช่วงที่อ่อนไหว สนิทกับใคร ผูกพันกับใคร
ไว้ใจใคร หรือรักใครไม่ได้เลย
พอเริ่มจะรู้สึกดี เขาก็มักจะต้องเดินออกไปจากชีวิต

แม่ฟ้าใสฉลาดมากพอที่จะจับความรู้สึกโดยไม่ได้พูดอะไร

แล้วเขาก็เตือนว่า "ยายเป็นคนละเอียดอ่อนและอ่อนไหวมากนะ
อย่าอยู่คนเดียวให้หาเพื่อนคุยบ่อย ๆ คนแบบนี้พูดอะไรกระทบใจไม่ได้เลยนะ จะคิดอยู่อย่างนั้น คิดมาก คิดฟุ้งซ่านจนกว่าจะได้รับการแก้ไข"

กุยังไม่เคยรู้ตัวเลยว่า กุเป็นคนแบบนี้ ฟังนางพูดแล้วนังยายถึงกับสะอึก

ทุกวันนี้น้องคงโตเป็นสาวแล้ว

จะว่าไป พี่เริ่มต้นมองที่นี่เป็นบ้านของตัวเองก็ตอนที่มีฟ้าใสเข้ามา
แม่ฟ้าใสมักจะทำอะไรที่มีกลิ่นไอบ้านนอก ๆ เสมอ
เราเริ่มนับญาติกัน เริ่มมีหยิบยืมเครื่องปรุงอาหาร เริ่มชิมรสฝีมือ
สุดท้ายตอนที่เขาย้ายที่อยู่ จานชามที่เคยเปิดร้านอาหารก็ถูกถ่ายทอดเป็นมรกดตกทอดหลายชุดทีเดียว

มันให้ความผูกพันรู้สึกเหมือนมีพี่สาวที่คอยดูแล ติเตียนอะไรต่อมิอะไรให้ดูเข้าที่เข้าทาง น้องฟ้าใสเป็นเด็กคนแรกของที่นี่

พอครอบครัวนางออกไป มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะใจหาย

จนกระทั่งไม่นาน ครอบครัวน้ององุ่นก็เข้ามา
ความน่ารักสดใสของทั้งแม่ทั้งลูก
ครอบครัวที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง
ลูกชอบของทวดองุ่นที่อร่อยและประณีตมาก
มันจับทุกโสตประสาทของทุกคนที่พบเห็น

แต่เขาก็อยู่ด้วยไม่นานนัก ก็ออกไป
และกลับเข้ามาหาอีกตอนที่องุ่นโตแล้ว
และเพิ่งทราบว่า แม่กับพ่อเขาแยกทางกัน
นำความเสียใจมาให้นังยายเป็นอย่างมาก

ยังจดจำสีหน้าและแววตาของทุก ๆ คนได้ดี

สองครอบครัวนี้มาเพื่อให้รู้ว่า โลกนี้มันไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

พรุ่งนี้จะเล่าเรื่องยายนุชกับแม่ไอป๋องแป๋งให้ฟัง



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:3:00:41 น.  

 
#วันที่๑๗๖ ความสุขของการเอาชนะใจตัวเองเป็นเช่นนี้..

เมื่อได้เรียนรู้การจากลาบ่อย ๆ เข้า
นังยายก็เริ่มไม่อยากคุยกับใคร
ตอนนั้นมีปัญหากับลูกน้องสูงวัย
ที่พยายามจะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ตีตนไปคบกับลูกค้าบางประเภทราวกับได้เงินค่าจ้างจากพวกนั้น
คือเซ็งจนอยากจะเดินหนีไปไกล ๆ
และเราก็หยิ่งมาก ปากร้ายมาก
ด่าคือด่า ไม่มีเก็บอารมณ์

เกลียดมนุษย์ขี้เหม็นๆ มาก
คือจำได้ว่า พี่ก็อยู่ของพี่ดีดี
แต่ดันเสือกถูกยัดเยียดว่าเป็นลูกท่านหลานเธอ
มีอภิสิทธิ์พิเศษ วางท่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้
ประสาทจะแดรก กุจะต้องแคร์พวกเมิงไหม?
ไม่อ่ะจ้ะ ไร้สาระ
ใครสนใจล่ะ ตอนนั้นมีเพื่อนใหม่จากโซเซียล
แล้วก็เป็นกัลยาณมิตรด้วย วัน ๆ หนึ่ง
แทบจะไม่เงยหน้าคุยกับใครเลย
มีประเด็นให้ติดตามมากมาย
เรื่องไร้สาระเลยไม่มีคุณค่าอะไรเลย

ยายนุชเดินเข้ามาหาช่วงนั้นพอดี
ต้อนรับยายนุชด้วยกริยาที่ไม่ดีเลย
สีหน้าก็ไม่ได้ต้อนรับขับสู้
ขายแต่จุดด้อย รับได้ก็อยู่ด้วยกัน
รับไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่
สันดานแย่นะ ตอนนั้น
ไม่ได้เต็มใจจะบริการนัก
ยายเขามากับเพื่อน
ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะมาอยู่ด้วยกัน

ทุก ๆ วันที่ยายกลับจากทำงาน
ยายจะทักทายด้วยคำสั้นๆ
กินข้าวรึยัง?
กลับมาแล้ว..
วันนี้ยิ้มรึยังจ้ะ..

ยายทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์ขสมก. เป็นรถแอร์
ยายเป็นคนสวย หน้าตาดีมีนัยตาค่อนข้างเศร้า
ยายเกิดปีเสือ อายุเท่าพี่สาวคนแรก
มากกว่านังยายยี่สิบปีพอดี

เพราะอินี่สันดานไม่ดีไง
ก็มักจะมีปากเสียงกันบ่อย ๆ ด้วยเรื่องงี่เง่า
ที่ไม่น่าจะเกิด
เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้น พี่จะไม่พูดอะไรเลย
เพราะเราถือว่าคำพูดเราศักดิ์สิทธิ์
คำไหนคำนั้น ชี้เป็นชี้ตาย ทำให้คนหมดอนาคตได้
เราก็ไม่พูด และเราก็ไม่อยากรังแกคนที่ไม่มีทางให้เลือกเดิน
หรือคนที่ไม่มีทางสู้เรา

ส่วนคนจำพวกนั้นที่ตั้งก๊กออกไป รวมหัวกัน
พยายามจะใส่ร้ายให้เสียหายจนได้
จริงไม่จริง แค่ได้พูดถือว่าสนุกปาก
พี่ก็ปล่อยไป เพราะไม่ได้มีผลร้ายกับเรา

แต่นึกภาพออกป่ะว่า อยู่กับคนจำพวกนี้หน้าตากุจะบูดขนาดไหน

โคตรจะท้อแท้ น้ำตาไหลซึมตลอดเวลาที่อยู่คนเดียว
มองไปรอบตัวหาที่พึ่งทางใจไม่ได้เลย
หมายถึงในชีวิตจริงนะ
จะมีก็แต่ยายนุชคนเดียวในช่วงนั้น
ที่พยายามจะทักทายเราในทุก ๆ วัน
ยายเป็นเหมือนน้ำค้างกลางแสงแดดที่คอยชะโลมใจ

หนัก ๆ เข้า ยายนุชก็เดินเข้ามานั่งคุยด้วย
ในยามที่พี่นั่งอยู่คนเดียว
ก็ปรับความคิดจูนเข้าหากัน

ยายสอนว่า เราคนทำงานบริการอย่าปล่อยให้สีหน้าบูดบึ้ง
มีอะไรให้เก็บไว้ในใจ อย่าปล่อยให้ใครเห็นสีหน้าที่แท้จริง
แล้วหน้าตาเนี่ย แต่งบ้างอะไรบ้าง
ไก่งามเพราะขนคนเรามันงามเพราะแต่ง
จริตจะกร้านเราต้องมี คนทั่ว ๆ ไปที่เราเห็น ๆ กันอยู่เนี่ย
ไม่มีใครชอบฟังคำพูดไม่ดีหรอก
เขาก็อยากฟังแต่คำพูดดีดี ไพเราะเสนาะหู
บางครั้งเราไม่อยากพูด แต่ถ้ายังทำงานบริการตรงนี้แบบนี้อยู่
เราก็ต้องรู้จักพูด เหมือนพี่แหละ บางทีอยากด่ามันจะตาย
แต่ก็ต้องข่มใจไว้ น้ำขุ่นเอาไว้ข้างใน น้ำใสเอาไว้ข้างนอก...

ยายเค้าก็คงจะได้ยินอะไรไม่ดี ๆ เกี่ยวกับนังยายมานะ
แต่ยายนุชทำตัวเป็นผู้ประสานรอยร้าวต่าง ๆ
ยายเป็นคนเดียวที่กล้าเดินเข้ามาคุยกับพี่ตรง ๆ
ยายนุชบอกให้ปรับ นังยายก็ปรับตามที่บอกที่สอนมา

ยายนุชเป็นคนที่สอนให้เรารู้จักการเป็นคนบริการมืออาชีพ
อย่างที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อนเลย

เคยทำว่า ทำไมถึงตัดสินใจเลือกที่จะมาอยู่ด้วยกัน
มักจะถามคำถามนี้กับหลาย ๆ คน

ยายก็ตอบเหมือน ๆ กับทุกคนว่า
มันฟังดูจริงใจดี รับได้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไป
จะได้ไม่มาต้องมีปัญหากันทีหลัง

ยายนุชทำให้นังยายรักที่จะบริการให้ผู้อื่นสุขสบายใจ
รู้สึกปลอดภัย ยายจะพูดเสมอว่า ยิ้มรึยัง?
อย่าปล่อยให้ใบหน้าขาดรอยยิ้ม
ต่อให้เจอกับอะไรก็แล้วแต่ จงยิ้มเข้าไว้ ยิ้มสู้
ในใจเราอยากจะด่ามันเท่าไรไม่เป็นไร
แต่ใบหน้าอย่าขาดรอยยิ้ม

ยายอธิบายว่า ถ้าคนเขาเห็นใบหน้ายิ้มแย้มแล้วเขาสบายใจ
อารมณ์เขาก็จะดีตามเราไปด้วย ไม่มาหาเรื่องเรา
อย่างที่เอ็งเป็นทุกวันนี้ หน้าแม่งกวนตรีนชิบหาย
ยายบอกกับนังยายตรง ๆ อินี่ก็ขำก๊าก ๆ ๆ

อันนี้รู้ตัวนิดหนึ่ง

ตั้งแต่ทำตามที่ยายนุชบอก แวดล้อมก็เริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้น
คนปากไม่ดี ก็ยังไม่ดีอยู่อย่างนั้น
แต่มันก็ทำให้นังยายมีความสุขมากขึ้น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง โดนคอมเพลน ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
คิดถึงยายนุชนะ ยิ้มเข้าไว้ อย่าให้ใบหน้าขาดรอยยิ้ม
ไม่นานคนด่ามันก็เดินจากไป
และหลังจากวันนั้น นางก็เลิกด่า และกลับมาปรึกษาพูดคุยกันดีดี

555555555555555555555555555555555555

เล่าให้ยายนุชฟัง ยายว่าเอ็งเก่งมาก
ทำต่อไป
ครั้งหนึ่งเคยคุยกันว่า หากยายไม่ทำงานแล้ว เราไปเที่ยวกันนะ
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ไปไหน

นอกจากจะมีเรื่องส่วนตัวแล้ว ก็ยังมีประเด็นแม่ป๋องแป๋งด้วย
นางเป็นคนที่ พี่ไม่เคยคิดจะทำความรู้จักเลย
นางเป็นเด็กเกเร เป็นเมียคนที่สองของผู้ชายสองคน
แล้วก็พยายามจะดึงตัวผู้ชายไว้ ตีโพยตีพาย
เช้าร้องกรี๊ด ๆ กลางวันตามผัวดึก ๆ ก็ออกไปลั้นลา
เป็นเช่นนี้ทุก ๆ วัน จนคนเขาเบื่อหน่าย
ปรึกษาคนอื่นไปทั่ว จนผู้คนเขาพากันนินทาให้เมามันส์ปาก

พี่ก็ปรึกษายายนุช จะให้หนูทำยังไง หนูเบื่อมาก
เพราะมีคนบ่นให้ฟังหลายคนมาก

ยายบอกว่า ฟังมันไปเถอะ
เราอยู่กันอย่างนี้ ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่
ถ้ามันไม่เล่าให้เราฟังแล้วมันจะไปเล่าให้ใครฟัง
ถือซะว่าฟังเสียงนกเสียงกา มันก็แค่อยากระบาย
ไม่ได้อยากแก้ไขสันดานส่วนตัว

กุต้องฟังเมิงใช่ไหม?

ยายบอกให้ฟัง นังยายก็ฟัง
จนที่สุด ไม่ไหวล่ะ
ไม่ชอบเลย การที่คน ๆ หนึ่งดูเหมือนเป็นตัวตลก
ให้คนอื่นพูดในทางเสีย ๆ หาย ๆ
มันเดือนร้อนใจกันไปทั่ว
ผัวนางไม่มาหา ติดผู้หญิงคนใหม่กระมัง
ปล่อยให้นางดูเป็นคนไร้คุณค่า
ค่าห้องก็ไม่มาจ่าย ถึงเวลาต้องเชิญออกไป
พี่ก็ทำจม. แต่สอดแทรกคำด่าไปด้วยสักสามหน้ากระดาษได้กระมัง

ร่ายให้นางฟัง ลำดับความสำคัญของชีวิต
แล้วก็บอกวิธีแก้ไขให้นาง

นางรับฟังนะ และนางก็เอาไปปฏิบัติตามทุก ๆ อย่าง

ทุก ๆ วันนี้ จากนางคนที่น่ารำคาญและดูเป็นอิบ้าไร้ค่า
กลายเป็นคุณแม่ที่เลี้ยงลุกได้เก่งมาก
รู้จักพัฒนาตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุข

เห็นนางมีความสุขดี ก็มีพลังงานบางอย่างสิงสถิตอย่างประหลาด

ทั้งยายนุชและแม่ป๋องแป๋งออกไปในเวลาใกล้ ๆ กัน
ป๋องแป๋งชื่อนี้ยายนุชเป็นคนตั้งให้
ถ้าอนาคตไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงป๋องแป๋งคงได้เป็น
นักกีฬาเทควันโดทีมชาติ ก็คอยดูกันไป

คิดถึงนางทั้งคู่ คนที่ผ่านความทุกข์มาด้วยกัน
พี่กับนาง โดนด่าไม่แพ้กัน ต่างกันที่ คนที่มันด่าพี่ พูดโดยไม่มีมูลความจริงเลย แต่เรื่องของนางนั่นเป็นเรื่องจริงที่ถูกใส่สีตีไข่
ความรู้สึกคงไม่ได้แตกต่างกันมาก

ต่อหน้าคนพวกนั้น นางก็ยิ้มแย้มคุยดีด้วยได้ ทำอย่างที่ยายสอนเปี๊ยบ
แต่กับฉัน อินังยาย กุทำไม่ได้หรอก กับคนที่มันว่ากุลับหลัง
ต่อหน้ากุไม่จิกหัวตบกบาลก็บุญคุณถมที่ไปแล้ว

บอกยายนุชว่า ถ้าคนที่หนูคุยด้วย เป็นลูกค้า ต้องทำเพราะมีหน้าที่หนูจะพยายามยิ้มแย้มแจ่มใส ต่อให้โดนด่า หนูก็จะยิ้มสู้เสมอ
แต่ถ้ามันไม่ใช่ลูกค้าและหนูไม่ได้มีหน้าที่จะดูแลความรู้สึกมัน
เมินซะเถอะ หางตาก็จะไม่แล

"ก็เป็นซะแบบนี้" แต่ก็ดี พี่ชอบนะคนแบบนี้แทนที่จะยิ้มแล้วหลอกด่ามัน มันส์กว่าตั้งเยอะ ดู๊ ดูเขาสอน
55555555555555555555555555555555

วันที่สองคนที่ออกไป
พี่รู้นะ ว่าจะไปเมื่อไร
รู้อะไรไหม? เพราะกลัวจะกลั้นน้ำตาไม่ได้
ยายนุชออกไปแต่เช้าตรู่เพราะไม่อยากต้องอำลาใคร
ทิ้งกุญแจไว้ แล้วไปเลย

พี่ก็ไม่กล้าจะตื่นขึ้นมาเพื่อดูว่าเขาไปแล้วจริง ๆ

ไม่มีแล้ว คนที่เดินผ่านเพื่อมาบอกว่า
"กินข้าวรึยัง?"
"ยิ้มแล้วรึยัง?"

คิดถึง และยังคงคิดถึงเสมอ..




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:3:34:27 น.  

 
#วันที่๑๗๗ ๑๗๘ ๑๗๙ และ วันที่๑๘๐ นอนร้องไห้ทุกคืน

จันทร์จะเต็มดวงกระมังเลยควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
เพี้ยนเกินไปหน่อยนะ

วันสุดท้ายนี่ ขึ้นไปกินข้าวต้มกุ้งจนหายใจจะไม่ออกอยุ่แล้ว
คว้ายาแก้แพ้กินเข้าไป แต่ก็ลงมานอนร้องไห้จนปากบวม ตาบวม
ดีนะ แค่บวม กินก่อนลุ้นทีหลัง แค่ตัวเดียวเองทำสำออย

เมื่อวานนี้ ๗ กรกฎาคม ก่อนหน้านั้นหล่นไปสองวัน
ใจก็หล่นตามมันไปด้วย แล้วมาเจอข่าวนักร้องคนดังเสียชีวิตอีก
ตายง่ายตายดายแท้ฟร่ะ น่าอิจฉาสุด ๆ เมื่อก่อนเจอรู้ว่าใครตายจะสลดใจ ถ้ารักหน่อยก็พลอยเสียใจไปด้วย เดี๋ยวนี้พอรู้ว่าใครตาย มันรู้สึกอิจฉาตาร้านผ่าว ๆ ตายอีกแระ โชคดีจัง
จากที่อยากยื้อชีวิตใครต่อใคร พอมาเจออะไรบ่อย ๆ เข้า
มันเริ่มรู้สึกว่า จะตายเหรอ? ตายไปเลยไป จบ ๆ เรื่อง
ทำไมกุเป็นแบบนี้วะคะ????

.........................................
กลับมาค้นหิ้งความทรงจำกันต่อ..
หลังจากยายนุชออกไป นังยายก็แทบจะไม่ได้คุยกับใครอีกเลย
เริ่มระวังตัวระวังใจมากขึ้น ดูจะเก็บตัวแล้วก็สนุกกับของเล่น
ที่หามาเล่นใหม่ ๆ ตลอดเวลา
จำได้ว่า ช่วงนี้ชื่นชอบการเล่นละเลงสีเอาจริงเอาจัง

การละเลงสีลงบนกระดาษขนาดโปสการ์ดแล้วติดแสตมป์เป็นงานอดิเรกที่แสนรักสร้างความสุขให้เสมอ แล้วมันก็ดึงดูดผู้คนเอามาก ๆ

เก็บตัวนะ แต่ก็มีคนเข้ามาขอคุยด้วยเสมอ ๆ หลาย ๆ คน
คุยไปคุยมา เริ่มก่อตัวความเป็นครอบครัวขึ้นอีกแล้ว
ชีวิตช่วงนี้ คือดีย์อ่าาาา ดีทุกอย่าง สมบูรณ์แบบ
ช่วงปี ๒๕๕๒- ๒๕๕๓ เรื่องเยอะนะ แต่ไม่เป็นไร อารมณ์ดี
พี่ให้อภัย 55555555555

ครอบครัวเรามีหลายคน มีทั้งเพื่อน น้ำผึ้ง กับ น้ำพุและ สามีมโนของทุกคน ป้าตุ้ม พี่เดือน พี่ไก่ มัสซี่ น้องรัตน์ ครูพลอยและเพื่อนครู เอ็นเซ็มบา มีน่า และอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยถึง
มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ที่บอกไปดีทั้งหมด อยู่ทีมยายนะ พวกนี้
มันมีความน่าจดจำที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นช่วงนี้ จัดการได้หมด
ตายกันไปข้างหนึ่ง

เรื่องมากมายพวกนั้น รวมถึงที่น้ำมักจะล้นท่วมเอ่อเป็นน้ำตก
วันนั้นมีคนไม่อยู่ แล้วก๊อกแตก น้ำล้นออกมาเป็นน้ำตกตอนหัวค่ำ
ไม่มีแม่บ้านทำงานแล้ว นังยายอยู่คนเดียว เรียกใช้ใครก็ไม่มี
น้ำท่วมตึกแบบนี้ ยังไงก็ต้องซับน้ำทั้งหมดเองคนเดียว ทุกชั้น
ย้ำ ทุกชั้น!!!

ตกใจเหมือนกัน แต่กลัวคนอื่นจะเดือดร้อนมากกว่า
โชคดีที่ส่วนใหญ่อยู่ห้องกัน ไม่งั้นต้องเปิดเข้าไปเช็ดในห้องให้ด้วย

ไม่เคยคิดเลยว่า จะได้เจอกับอะไรน่ารัก ๆ ในระหว่างเรื่องยุ่ง ๆ
วันนั้นตอนที่วุ่นวายกับการจัดการให้น้ำมันแห้งไปให้เร็วที่สุด
ลูกค้าที่เข้ามาใหม่ ชื่อ นันทณศักด์ เดินมาถามว่า มีอะไรให้ช่วยไหม? แล้วเขาก็ช่วยวิดน้ำ และไม่กี่อึดใจต่างคนก็ต่างเปิดประตูออกมา วิดหน้าห้องใคร หน้าห้องมัน ที่ต้องจำคือ คนนี้ห้องเขาไม่ได้เดือดร้อน แต่เดินมาขอช่วยเอง ช่างน่ารัก

หลังจากเหตุการณ์นี้ ก็เริ่มสังเกตเห็นได้ว่า นังยายทำงานง่ายขึ้น
ไม่ต้องคอยสอดส่องอย่างวิตกจริตแล้ว เพราะพวกเขาจะช่วยกันดูแลกันและกันเอง พอสังคมมันดี เรื่องราวดีดีก็ทยอยเกิดขึ้นทดแทนเรื่องห่วย ๆ
มีเรื่องราวขำขัน ดีต่อใจ ก็มาเล่ามาแชร์ให้กันฟัง
เราเริ่มมีประเพณีเคาะห้องในคืนวันเกิดที่ใครได้เจอก็น้ำตาร่วง
คือ กุจานอนป่ะวะ 555555555555 และต้องเป็นเวลาตีสองด้วยนะ ไม่ดึก กุก็ไม่ทำ 55555555555555

กับเพื่อนสองคนในเดอะแก๊งกำจัดปลวกนี่สำคัญนะ
เราเริ่มพากันล้างห้องน้ำสาธารณะ พากันเล่นดนตรี พากันร้องเพลง ที่เราชอบกันมากที่สุดคือ ปาร์ตี้ งานกินต้องมา
ต้องทำเองด้วยนะ ต้องทำให้ชาวบ้านเหนื่อย ต้องทำให้เพื่อนเดือดร้อน กินเสร็จก็เม้าส์ต่อ การเม้าส์ของอิพวกนี้ก็คือการฟังเพื่อนด่าเพื่อน ผลัดกันด่า ด่ากันไป ด่ากันมา เพลิดเพลิน
ด่ากันเสร็จ ก็เล่นดนตรีร้องเพลงกัน ฮาาาา

อย่าเชียวนะเว้ยยย เข้าใจแล้วใช่ป่ะ ว่าทำไมชีวิตช่วงนี้ถึงไม่กลัวอะไรเลย เกิดอะไรขึ้นผ่านได้หมด เมิงลองแหยมมาดิ
เพื่อนกุแดรกกบาลอ่ะ เพื่อนกุนี่ปากร้ายที่สุดในสามโลกเลย

พวกนี้แหละ ที่เคยเล่าให้ฟังว่า เวลาคุยโอ้อวดกัน
เราจะอวดแต่ความเลวทรามของตัวเอง ใครเHี้ยได้ขึ้นสุดกว่าชนะ
55555555555555555555555555555555

พออวดความเลวทรามกันแล้ว ก็ด่ากัน ทำไมตอนนั้นทำ โง่นิ
ด่ากันเสร็จก็หัวเราะได้ต่อ แล้วก็จบด้วยการเล่นดนตรี
55555555555555555555555555555555

ที่วนลูปเช่นนี้เพราะเพื่อนกุเป็นครูดนตรีเว้ย มันก็เป็นไปด้วยประการฉะนี้แล

ต่อให้รักกันมากเท่าใด ต่อให้เกลียดกันเท่าใด
สุดท้ายก็ไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอดไป
สุดท้ายแล้วเราก็ต้องจากกันไปอยู่ดี
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา แต่เพื่อนก็มักจะพยายามกลับมาหาเสมอ

ปีละครั้งก็ยังดี ช่วงที่เพื่อนแยกย้ายออกไปนั้น จิตตกเหมือนกัน.

ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ
ช่วงชีวิตที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่กับเรานาน

เมื่อไรก็ตาม ที่ชีวิตมันวนไปถึงจุด ๆ ที่ได้พบกันคนที่ทำให้เรามีความสุข ก็จงเก็บเกี่ยวความสุขและความดีให้ยอดเยี่ยมและดีที่สุด

ผู้คนที่ผ่านเข้ามาทุก ๆ คนส่วนใหญ่เป็นได้แค่ลูกค้า
แต่นางสองคนเดินเข้ามาทักทายและทำความรุ้จักกันในฐานะเพื่อน

ถ้าจะใช้คำว่า "มันมีไม่กี่คนหรอก" ก็ดูจะน้อยเกินไป
สำหรับนางสองคนนี้ ต้องเลือกใช้คำว่า "มันไม่มีหรอก ไม่มีอีกแล้ว" ที่จะได้เจอคนที่รวมกันแล้ว ทั้งสามโลกหล้าไม่ต้องกลัวอะไรเลย อย่าให้กุรวมตัวกันนะ ผีก็ผีเถอะ เจอเพื่อนกุหน่อยเป็นไร 5555555555555555555555555555

มันก็ปกติเนอะ เมื่อเพื่อนไม่อยู่แล้ว เราจะดูเศร้าสร้อยหงอยเฉาเหมือนต้นไม้ใกล้ตาย

ก็ไม่ได้เฉาอะไรมากมายอะไร แต่หัวเราะเต็มเสียงกับคนข้างที่อ้าปากได้กว้างที่สุด ครั้งสุดท้ายนั้นไม่รู้เมื่อไร จำไม่ได้แล้ว

นี่กุหัวเราะครั้งสุดท้ายเมื่อไร นึกออกแต่ร้องไห้อย่างหนักล่าสุดเมื่อคืนนี้

ก็แค่เรื่องปกติ ของคนที่รู้ว่า อะไรคือความสุข อะไรคือความดีงาม อย่างไหนเรียกว่าความทุกข์ แบบไหนคือเลวทราม

มันปกติจะตายไป

เพื่อนสองคนของฉัน ก็คือคนที่นั่งข้าง ๆ ในเอ็มวีข้างบนสุดนั้นแหละ
ในวันที่เพื่อนไม่อยู่ และศูนย์รวมจิตใจก็จากไป
มันก็ปกติ ที่เราจะนั่งจำทุกคราบน้ำตา ว่าคราบนี้ท่านได้แต่ใดมา

.............................................

มันปกติมาก ที่วัน ๆ จะนึกถึงแต่ว่า เมื่อไรนะ จะตายสักที
อิจฉาคนไปก่อน ช่างโชคดีเหลือเกิน เกิดมาผจญภัยได้ไม่นาน
ไปสบายเสียแล้ว ช่างน่าอิจฉา.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 9 กรกฎาคม 2560 เวลา:5:03:45 น.  

 
#วันที่๑๘๑,๑๘๒ ...

ต้องเขียนอะไรบ้างใช่ไหม?

เราเดินทางมาถึงจุด ๆ ที่ หมดเวลาสำหรับที่ตรงนี้แล้ว
ที่จริงมันหมดไปตังนานแล้ว แต่เพราะอะไรไม่รู้สินะ
ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

แต่พอตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไรก็ตาม
ก็จะวิ่งไปชนมัน ที่ที่ไม่ใช่ที่นี่

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มันก็ดูจะใจหล่น ๆ หาย ๆ หน่อย
สองวันที่ผ่านไป บอกกับตัวเองว่า ให้ใช้ชีวิตประหนึ่งจะไม่มีพรุ่งนี้ให้ใช้ บอกเด็กที่ต้องดูแลให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ในวันที่พี่ไม่อยู่ดูแลแล้ว เด็กก็ดูจะถอดใ่จ ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนหรอกนะ
บอกแค่ไม่อยู่

ไม่มีใครจะมีชีวิตอยู่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
และพี่จะไม่ยอมอยู่เป็นคนสุดท้ายเพื่อมองดูทุกคนจากไป

ความรู้สึกมันกัดกร่อน แผลเดิมเพิ่งจะเยี่ยวยามันจนดีขึ้นได้ไม่นาน
ให้กุนั่งจมอยู่กับความรู้สึกเดิม ๆ อีก ไม่ไหวนะ

เด็กที่เข้ามาใหม่ ๆ ก็พูดเหมือนทุกคนที่เดินออกไป
"ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วเขาจะอยู่ยังไง" พี่ก็เห็นทุกคนที่เดินออกไปพูดแบบนี้หมดแหละ แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ เขาก็ต้องไป
และไม่เห็นมีใครย้อนกลับมามีชีวิตอยู่แบบลูปเดิมเลยสักคน

เอ้อ มีอยู่คนหนึ่ง ชื่อคุณนิด เธอเดินกลับมา
ขออยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ มีแฟนมาอยู่ด้วย
ทุกวันนี้ เธอเสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความที่สามีเป็นคนไม่เอาใจใส่
น่าสงสาร กลับไปตายที่บ้าน เป็นไข้ปอดอักเสบ

นิดอายุเท่านังยายนะ เธอเป็นคนน่ารัก ไม่ค่อยได้คุยกัน
เธอชอบคิตตี้ สิ่งของทุกอย่างภายในห้องจะเป็นลายคิตตี้

บางคนก็มีแวะเวียนมาบ้างบางครั้งที่จำเป็น

บางคนมาเพื่อพาเพื่อนมาหาที่อยู่ที่สบายใจ

เร็ว ๆ นี้มีคนที่เราไปเป็นลูกค้าเดินมาหา เพื่อจะมาเป็นลูกค้าเรา
แต่นางอยู่แค่ไม่ถึงเดือน รับไว้เพราะเป็นคนมารยาทดี และเขาเดือดร้อนจริง ๆ

มีเคสน่าเป็นห่วงอยู่อันนึง
ทุก ๆ วันเดินเข้าเดินออกเหมือนไม่ได้ประกอบอาชีพ
ลักษณะแบบนี้ เดาไม่เคยพลาดสักที
แต่เมื่อไรจะมีใครมาสอยไปซะทีก็ไม่รู้
พวกนี้ระมัดระวังตัวดีนะ
มันอาจหาญมาก ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก
รู้ว่าไม่นาน แต่จะไม่ใช่พี่ที่เป็นตัวชี้เป้าแน่นอน

...................................

หายไปนานกับเรื่องแบบนั้น

ต้องเตรียมตัวจัดการกับสมบัติบ้าของยาย
มีสองวิธีคือ เก็บมันไว้ กับ เอามันทิ้งไป

ต้นไม้ของฉัน
โปสการ์ดของฉัน
หนังสือของฉัน
อุปกรณ์ของฉัน

กีต้าร์หลานมาเอาไปแล้ว
พาหนะมีเรือ กับ จักรยาน จริง ๆ อยากเอาไปให้คนที่เขามีความต้องการใช้มากกว่านะ

-ของสะสม
-รูปวาด หนักใจสุดก็ตรงนี้แหละ ปลดลงมาห่อกันกระแทกแล้วเอาเก็บดีกว่านะ
-เสื่อโยคะจะเอาติดตัวไปผืนหนึ่ง หมอนเดินทางใบหนึ่ง พอแระ
-ที่ยากอีกอย่างหนึ่งคือ ไฟล์รูปที่มีอยู่มากมาย กับข้อมูลต่าง ๆ
กำลังตัดสินใจอยู่นะว่า จะทิ้งหรือจะเก็บไว้ดี นี่ก็ทิ้งไปเยอะแล้ว
-มีสัญญา รับปากอะไรไว้แล้วยังไม่ได้ทำ ต้องรีบทำให้หมดทุกอย่างนะ ค่อย ๆ นึก ค่อย ๆ ทำไป
-คุณบุญทิ้งและคุณต้นกล้า จะเอาไปไว้ที่ไหนนะ?!

หรือจะพาคุณบุญทิ้งไปด้วยทุกที่บนโลกใบนี้

ครกหินใบเล็ก ที่เอาของแม่มาใช้ ตั้งใจแล้วว่าจะยกให้ต๋อย
ไปไว้เป็นที่ระทึก

เสื้อผ้าโบราณและเครื่องประดับ

ทำไมสมบัติบ้ายายเยอะจังฟร่ะ เมิงต้องพิจารณาตัวเองใหม่แล้วนะ นังยาย บอกว่าอย่าหาอะไรมาเพิ่มอีก ไม่เข้าใจหรือไง

แค่ต้นไม้อย่างเดียวก็แย่แล้วนะ ต้องตัดใจยกให้ใครไปแล้วแหละ

ธงชาติและธงภปร. ต้องเก็บกลับไปด้วยนะ

ต้องโยกไฟล์ต่าง ๆ ค่อย ๆ จัดการไปนะ

..........................................

-ต้องทำรูป อัดรูปที่ถ่ายให้ใครหลาย ๆ คน เยอะเลย รีบทำก่อนอย่างอื่นเลย ติดไว้หลายคนมาก รอก่อนนะ รอมาหลายปีแระ

-ต้องไปหาใครหลายคน บางคนกำลังป่วยอยู่ รีบไปเลย

ตอนแรกคิดว่า จะไปอย่างไม่ลาใคร
มาคิดอีกที ถ้าเป็นเรานะ คงจะเคืองมาก
ถ้าอยู่ดีดี มีใครสักคนที่ไว้ใจวางใจและฝากความหวังไว้มาก ๆ
มาเดินจากไปโดยไม่ลากันสักคำ
แก้ไขปัญหา เขาแก้ไขได้อยู่แล้ว แต่ถ้าผูกพันกันมากปานนั้น
อยู่ ๆ จะไปโดยไม่ลากันสักคำ คงไม่ใช่สันดานนังยายไหม?

ขอหาวิธีบอกลาดีดีให้ได้ก่อนนะ พร้อมเมื่อไร ก็คงจะบอกออกมาเอง

มันก็จะรู้สึกจุกอยู่ในลำคอหน่อย ๆ
ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร

ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยู่ที่ไหนได้นานเท่านี้มาก่อนเลย
แม้กระทั่งบ้านตัวเอง ยังไม่เคยเป็นห่วงและอยู่ได้นานเท่านี้เลย

ผูกพันกับทุกสรรพสิ่งอ่ะ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทุกตัว
สมุดจดงานทุกเล่ม แก้วกาแฟทุกใบ
และพี่ตะวันจากดาดฟ้า ฟ้าสวย ๆ จากที่นี่
คงจะไม่มีให้ดูอีกแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าฟ้าสวย ๆ วันสุดท้าย
จะมาถึงเมื่อไร

ฉันจะคิดถึงที่นี่เสมอนะ
ที่ที่อยู่แล้ววุ่นวายใจที่สุดในโลกเลย
5555555555555555555555555555555555555



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 12 กรกฎาคม 2560 เวลา:3:57:46 น.  

 
#วันที่๑๘๓ และหยุดไว้ ไปเริ่มต้นใหม่ที่ ๑๘๔

เป็นความรู้สึกที่แปลก อย่างบอกไม่ถูก
ไม่มีทั้งความดีใจ หรือเสียใจ
ไม่มีทั้งยินดี หรือ ไม่ยินดี

แลเห็นปัญหามากมาย แต่กลับรู้สึกไม่อยากสนใจใยดี

ถ้าคนเราจะตายแล้ว มีความรู้สึกเยี่ยงนี้ก็ดีสิเนอะ

ม่ะ กุจะตายแระ รออยู่ 555555555555555555

ถ้าการตาย มันเปรียบเสมือนการเดินทางอันไกลโพ้น
ความรู้สึก ณ ขณะจิตนี้ก็เช่นนั้นเลยแหละ

ตระเตรียมให้ตนเองพร้อมสำหรับเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง
เตรียมสำหรับคนอยุ่ และเตรียมสำหรับที่จะต้องใช้ส่วนตัว
ในที่ที่จะไป

ไม่ได้มีความพร้อมอะไรเลย เป็นเช่นนี้ทุกครั้งตลอดมา
จนนังเพื่อนมันถามว่า สรุปเรานัดกันเรียบร้อยดีแล้วใช่ไหม?
เหมือนอะไร ๆ ก็ยังไม่แน่นอนไม่ชัดเจนสักอย่างเดียว
ไม่จองสำหรับการเดินทาง
ไม่จองที่พัก
ไม่รู้จะไปไหน หมายถึงจุดหมายเจาะจงแต่ละที่
ไม่รู้จะกลับเมื่อไร
ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ไปแล้วจะกลับมาใช้ชีวิตยังไงต่อ

อาจจะมีการตัดสินใจในขณะที่เดินทางเลย
หรืออาจจะกลับมาตั้งตัวก่อน

ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น นี่คือกุจริงจังแล้วใช่ป่ะ
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยจริงจังอะไรแบบนี้มาก่อนเลยชีวิต
ตั้งใจจะปล่อยชีวิตให้ลอยตัวแบบจริงจัง!!

5555555555555555555555555555555555555555

กุรู้อยู่อย่างเดียว ณ จุด ๆ นี้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันต้องผ่านห้วงเวลาของพระราชพิธีฯ ไปก่อน มิเช่นนั้นแล้ว กุไม่มีทางรวบรวมสติให้เป็นคนปกติได้

วันนี้ใจดี พรุ่งนี้จิตตก มะรืนชีวิตก็ดี๊ดี อีกวัน ก็อับเฉาอีกแล้ว
ประเดี๋ยวกุก็นอนร้องไห้จะเป็นจะตาย คุ้มดีคุ้มร้ายบ่อย ๆ
กุได้ปรึกษาจิตแพทย์จริงจังอ่ะ

.....................................

สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำได้ดี
ถามเด็กว่า ทำอะไรกินวันนี้
เด็กตอบ ไม่รู้ และตั้งแต่เขารู้ว่า
พี่จะไม่อยู่ ดูเขาไม่มีความสุขเลย

รู้สึกเสียใจที่บั่นทอนกำลังใจเขานะ
เพิ่งจะเข้ามาอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน
ยังไม่ได้สัมผัสกับความสนุกสนานเลย
ก็ต้องมาเจอกับอะไรที่มันรันทดแล้ว
มีอยู่สองคน ก็ปาร์ตี้ได้
อยู่กับพี่ซะอย่าง กลัวอะไรกับเรื่องไม่สนุกสนาน
บอกเด็กว่า ชอบกินผัดกะเพราไหม?
เด็กบอกว่าชอบ แต่ทำไม่อร่อย

งั้นพี่ทำให้กิน มันย้อนถามว่า
"พี่ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ?" อิสัส!!!!

เมิง กุทำเป็นทุกอย่างแหละ กุแค่ไม่ทำเฉย ๆ เอง
ดูหน้ากุด้วย กุนี่ "นังยาย"

เด็กต่างด้าวอ่ะ น่าสงสาร
มาทำงานด้วยความจำเป็น และเลือกงานไม่ได้นักหรอก
ได้เจ้านายดี ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่สุดของชีวิตแล้ว

ปล่อยให้หากินกันเอง เพราะอยากรู้ว่า เขากินอะไรเป็นอาหารหลัก
พี่ไม่อยากเจ็บใจอย่างที่ผ่านมาแล้ว ก็คอยดูไปเรื่อย ๆ
แรก ๆ เขาก็มีชวนกินที่เขาทำ
แต่เขาทำอย่างที่บ้านเขากิน ซึ่งเรากินไม่ได้เลย
มันทั้งมัน ทั้งหวาน แต่เป็นอาหารคาวนะ
เลยบอก ทีหลังไม่ต้องชวนพี่แล้ว ถ้าพี่อยากกิน เดี๋ยวพี่บอกเอง

กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ ก็สองเดือนแน่ะ
ตอนนี้ พอรู้แล้วว่า เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
อะไรที่กินด้วยกันได้ ก็พากันไปตลาด ให้ไปช่วยหิ้วของ

พอกลับมา ก็มาช่วยเป็นลูกมือ
ตอนเย็นก่อนผู้ช่วยจะกลับบ้านที่ตจว.
เลยแอบสุมหัวกันกินนิดนึง
คนที่เป็นแฟนเด็กคนนั้นออกไปข้างนอก
พอกลับมา เมียไม่ได้ทำอะไรให้กิน
เพราะเขากินกันจนท้องจะแตกแล้ว
คงหิวมาก
เดินมาถาม "พี่ ๆ ผมขอกินของพี่ได้ไหม?"

"อ้าวเมิง พี่ทำให้กินก็ต้องกินได้สิ แต่มันไม่มีอะไรแล้วอ่ะ"
พอไปดู ยังมีอีกเป็นถ้วย

กินไม่พอ ดีกว่ากินทิ้งกินขว้าง
เกลียดที่สุดตอนซื้อมาแล้วต้องขนทิ้ง

เด็กผู้ชายคนนี้ ถือว่าเป็นลูกคนมีอันจะกินของชาวกะเหรี่ยงนะ
คนที่นั่นเขาเลี้ยงลูกดีมาก
ปล่อยให้ลูกมาผจญชะตาชีวิตด้วยตัวเอง
จะพบเจอกับอะไรก็ช่าง
ถึงเวลาต้องทำงาน ก็ต้องออกจากบ้านมาทำมาหาเลี้ยงตัวเอง

ไม่มีโอ๋ ไม่มีช่วยเหลือ
เด็กผู้ชายคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่ดีมากมายนัก แต่ถือว่าดีกว่าวัยรุ่นบ้านเราเยอะ ดีกว่าเยอะเลยแหละ

กลับไปอยู่บ้านตัวเอง ก็สบายอ่ะ
มีความพยายามจะเรียนรู้ภาษาไทย
พี่เลยยื่นพระบรมราโชวาทให้อ่าน
อ่านไปเถอะ อ่านไปเรื่อย ๆ
ไม่เข้าใจความหมายตรงไหน ค่อยถาม จะอธิบายคำไทยเป็นไทยให้ฟัง

เด็กสองคนนี้ ไม่ได้รู้สึกผูกพันเท่ากับลูกศิษย์และสามีเขา
นั่นแค่เห็นก็ผูกพันกันเลย เหมือนจากกันมานานแสนนาน

จะผูกพันกันอย่างไร พี่ก็คงอยู่ได้แค่นี้
เขาเป็นคนเก่ง ปรับตัวเข้ากับใครก็ได้
พี่เชื่อว่ายังไงเขาก็ต้องเอาตัวรอดได้

........................................
ตลอดชีวิตที่นั่งอยู่ที่นี่
พี่มีแม่บ้านเพียงคนเดียว
คนที่รั้งไม่ให้ไปครั้งแรกด้วยคำว่า
"พาเขามาอยู่ก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อน
จะทิ้งเขาไปง่าย ๆ แล้วเขาจะอยู่กับใคร แล้วจะอยู่ยังไง"

ตอนนี้นะ อยากจะเดินไปถามว่า ตั้งแต่ออกไปได้
นี่ไม่คิดจะกลับมาเยี่ยมกันบ้างเลยนะ
555555555555555555555555555555555555

ใจเสียและรู้สึกแย่มากมาย ตอนที่เขาไม่อยู่แล้ว
แต่ก็ผ่านไปนานแล้วป่ะ
ยังคงคิดถึงอยู่ตลอดมา
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พี่ไม่เคยมีแม่บ้านคนใดทำงานถูกจริตพี่เลยสักคน ไม่มี บางคนนะซ้ำร้ายขนาด ท้าพี่ว่า ลองมาเป็นแม่บ้านดูบ้างสิ อยากให้ทำก็ทำเองสิ

กุก็ได้แต่แอบคิด ถ้ากุได้เป็นแม่บ้านนะเมิง
กุทำได้ดีกว่าเมิงร้อยเท่าพันเท่าแน่นอน

มันเป็นความอัดอั้นในใจนะ กับอาชีพแม่บ้านเนี่ย

ถ้านังยายจะต้องไปทำงานแบบนั้น
พี่จะทำให้ได้อย่างแม่บ้านของพี่
ทำด้วยสำนึกในหน้าที่
ทำด้วยไม่ต้องบอก
ทำแล้วไม่ต้องมาตรวจซ้ำ

พูดแล้วก็คิดถึง อย่ามาว่ากุนะ เดี๋ยวกุด่ากลับ
แล้วก็อย่ามาแตะต้องคนที่กุรักนะ
เดี๋ยวกุด่าแทน
ด่าแทนไม่พอ ยังเก็บมาเล่าให้กุฟังอี๊ก
555555555555555555555555555555555555


พี่ใช้แม่บ้านเปลือง ใช้เยอะ
ไม่อยากจะนับเลย
ไม่คิดจะจำด้วย
คนที่ไม่คิดจะเรียกว่าแม่บ้าน
เพราะตำแหน่งนี้ พี่มีไว้ให้แม่จันคนเดียว

ชื่อเล่นคือ ดวงจันทร์ แต่ชื่อจริงคือดวงอาทิตย์

..........................................

คิดถึงเนอะ ตอนที่ไปเดินเล่นกัน
ตอนที่นั่งคุยกันในครัว
ตอนที่เขามาถามโน่นถามนี่
ไม่รู้ก็ถาม รู้แล้วก็เอาไปปฏิบัติตาม

คิดถึงตอนที่พาแม่บ้านไปวัด
แกยังบอกเลยว่า อยากพาลูกมาด้วย
อยากมาหลาย ๆ คน
หลายปีผ่านไป ก็ยังไม่มีใครได้ไปพร้อมแก
5555555555555555555555555555555555

คิดถึงตอนที่แกเอาซีดีประเพณีบุญบั้งไปมาให้ดู
แล้วบอกว่า ให้เราไป
อินี่ก็มีสัญญาว่าจะไปแน่นอน ตั้งแต่ปีสองพันห้าร้อยสี่สิบเก้า
จนบัดนี้สองพันห้าร้อยหกสิบ กุยังไปไม่ถึง
55555555555555555555555555555555555555

ชีวิตกรูเนี่ยยย จะไปดูบุญบั้งไฟได้ปีไหน????


เห็นไหมว่า นังยายติดสัญญากับใครต่อใครไว้มากมายขนาดไหน?
มีอีกเยอะ ขอกรุค่อย ๆ คิดก่อน
คนนี้อยู่หนองคาย ตั้งใจว่าจะไปเก็บทีเดียวต้น ๆ ปีหน้านะ

พรุ่งนี้จะไม่ลืม จะมาเล่าเรื่อง แม่น้องข้าวหอมให้ฟัง^^





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 15 กรกฎาคม 2560 เวลา:2:43:26 น.  

 
#วันที่๑๘๔ #วันที่๑๘๕ อยากพ่นสักเจ็ดหน้ากระดาษ

หายไปเก้าวัน เดือนนี้ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ช่วงที่หายไป ต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจอย่างหนัก

เรื่องให้ขำก็เยอะ เรื่องขำไม่ออกก็มาก
พอมานั่งคิดถึงทุกคนที่เก็บขึ้นหิ้ง
แล้วมันยิ่งพาใจให้เศร้าหมองลงไปอีก

กุจะคิดทำไมก็ไม่รู้ แต่กุก็คิดถึงตลอดเวลา
กับเรื่องของทุก ๆ คนที่เคยคุยกัน
และให้สัญญาต่อกัน
ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ อย่างที่พูด
จะบอก จะสัญญากันไปเพื่ออะไร

ถ้าว่างเดี๋ยวเราไปกันนะ
ยังไงพี่ก็จะกลับมา
จะแวะมาหาบ่อย ๆ
ยังไงก็ไม่ลืมแน่ๆ

มันมีสักกี่คนกันเชียวที่พูดและหมายความอย่างที่พูดจริง ๆ

มันมีนะ คนที่ทำจริง ๆ ไม่ใช่ไม่มี
ทุกวันนี้ก็ยังคงทำอยู่ แค่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม

ในใจมันรู้ดีเสมอว่า วันหนึ่งอันใกล้นี้ซึ่งไม่แน่ใจว่าเมื่อไร
หมดเวลาของตัวเองแล้ว ก็ต้องเดินออกไป

แต่ละวันที่มันผ่านมาในช่วงเวลาต่อจากนี้
มันเลยดูจะรันทดใจมาก ๆ หน่อย

เด็กกระเหรี่ยงที่เข้ามาใหม่ อยู่ไม่นานก็เริ่มอ่านค่าของสายตาได้
โดยไม่ต้องพูดกัน

ปิดเคสจริงจัง เราจะค่อย ๆ ถอนตัวออกไป
ช่วงนี้มันเป็นอะไรที่ดีต่อความรู้สึกมากมาย
ทำร้ายกุสิ
ด่ากุสิ
ทำให้กุไม่พอใจสิ
ทำอะไรก็ได้ สักอย่างหนึ่ง
เพื่อให้กุรู้สึกไม่ผิดถ้าต้องกระทำอะไรสักอย่างลงไป

กรุณาช่วยทำร้ายกุเถอะ กุขอร้อง
55555555555555555555555

อยากโดนกระทำอย่างรุนแรง
จะได้ตัดสินใจง่าย ๆ หน่อย

ถ้ามันยังเงียบ ๆ เรียบร้อยปกติสุขแบบนี้

ก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนะ พูดไปใครจะเข้าใจ
ไม่ได้กลัวความลำบาก กุแค่ไม่กล้าทิ้งเขา
ไปโดยไม่บอก ก็เกรงใจมันเป็นการเสียมารยาทมาก
จะบอกตรง ๆ ก็กลัวเขาจะรั้งไว้ไม่ให้ไปอย่างเคย ซึ่งกุเคยพยายามแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ
เราคงพยายามน้อยเกินไป
แต่ถ้าเราแสดงให้เห็นว่า เราไปได้ อยู่ได้
อยากไปมาก หมดเวลาสำหรับที่นี่แล้ว
ที่สำคัญคือ ความคิดเราไปด้วยกันไม่ได้แล้ว
แยกย้ายกันเถอะ เป้าหมายของฝันเราไม่เหมือนกัน

ยังพอมองเห็นทางออกชัดเจนขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ

.......................................

กลับบ้านก็มีแต่เรื่อง
เป็นเรื่องใหญ่ ของคนอยากเป็นใหญ่
ไม่เคยอยากยุ่งด้วยเลย
ใจจริง ๆ อยากปล่อย ๆ ไป
แต่ถ้าการปล่อยมันกระทบกับคนหมู่มากทุกๆ คนที่นั่น
กุคงเสียใจและไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต

สุดท้ายกุก็ไม่เคยปล่อยอะไรออกจากความคิดเลย

อาการหนักนะกุเนี่ย

เสร็จจากงานนี้จะขอหนีเข้าป่าสักเดือน
ไม่ครบเดือนจะไม่ออกจากป่าจริง ๆ

บอกไปใครจะเชื่อ ว่ากุคิดอะไรอยู่
ขนาดบอกพ่อ พ่อกุยังไม่อยากจะเชื่อเลย
คนอะไรดื้อด้านได้ใจจริง ๆ
พูดอะไรก็ฟังหมดนะ แต่พอให้ทำ ทำที่ไหน
อ้างโน่นอ้างนี่
สงสัยต้องจับมานั่งคุยกันใหม่
ชอบให้ตะคอก
ชอบให้ดุ เสียงดัง

ใจเย็น ๆ นะยาย .. ใจเย็นลงอีกเยอะ ๆ เลย

.....................................

ไปสำรวจสังคมใหม่ที่อยากไปอยู่
เจอหน้ากันครั้งแรกก็เขม่นกุเสียแล้ว
"มีรอยสักหรือเปล่า?" ในใจนี่อยากจะบอกว่า
สักพ่องเมิงสิ ทั้งชีวิตกุไม่คิดจะสัก สำเหนียกไว้ด้วย
แต่ก็ต้องฝืนทำหน้าเซ่อ แล้วตอบว่า ไม่มีไม่เคยค่ะด้วย

มันก็ยังไม่เชื่อนะ บอกที่คอล่ะ อ้าวอินี่
กุนี่แบบอยากจะตอบว่า
ถ้าจะมีร่องรอยที่ต้นคอ มีรอยเดียวคือรอยแก๊สน้ำตา
แต่มันก็หายไปนานแล้วเว้ย อิเHี้ย จะเอาอะไรกะกุนัก
ดูหน้ากุนี่ กุดูเป็นแบดเกิร์ลมากนักเหรอ?
ตากุแค่กวนตรีน แล้วกุก็ใส่แว่นพลางสายตาไปแล้ว
กุเกรงใจเมิง ถ้ากุโชว์ตาเต็ม ๆ
ได้จิกหัวตบกะเมิงอ่ะ

แต่กุก็แบบ คิดทันเว้ย ว่ามันไม่ใช่ที่ของกุไง
มันไม่ใช่ลูกค้ากุไง จะไปอะไรกับมันไม่ได้
แล้วกุจะอยู่กับเขาได้อ่อ
5555555555555555555555555555

คือคนที่กุต้องการให้เขาด่ากุ
ทำร้ายกุ คือคนที่นี่เว่ย
ไม่ใช่คนที่ใหม่ ๆ
เมิงสับสนอะไรป่ะนังยาย
เมิงควรจะลดความมั่นหน้าเมิงให้เหลือต่ำที่สุด
ความมั่นหน้าไม่ต้องพกเยอะ
เมิงจะวีนทุกคนไม่ล่ายยยยยยย สำเหนียกไว้สิ

กุขำอีกเรื่อง
คนเมืองนั้นแม่งไร้น้ำใจสุดติ่ง
"ไปไหนถามพี่ได้ พี่รู้หมด"
กุก็รู้ แล้วกุก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะไปไหน
มันมีที่ไหนให้ไปบ้างอ่ะ???

กุก็ย้อนถามซื่อ ๆ แบบนี้
แม่งด่ากุเลย
"พูดไม่น่าฟัง พูดแบบนี้ไม่น่าฟัง"
อ่าวอิเHี้ย หลอกแดรกตังค์กุไม่ได้ ด่ากุอี๊ก
เมิงไม่เคยได้ยินสโลแกนกุอ่อ
ค่ารถไม่ได้แดรก ค่าแดรกกุจ่ายไม่อั้นน่ะ

แล้วแม่มก็บ่น ๆ ๆ ๆ ๆ สัส บ่นหาพ่องเมิงอ่ะ
กุเดินของกุอยู่ดีดี มาถามกุนี่นั่น
เมิงคิดว่ากุเป็นง่อยหรือไง

ดูหน้ากุนี่ มาตราฐานตรีนกุอ่ะ เดินวันละยี่สิบกิโล
แค่สองสามกิโล เมิงจะให้กุนั่งรถ?????

ประสาทจะแดรกป่ะวะ คะด้วยก็ได้ กุแถมให้

อารมณ์เสีย นี่กะว่าจะอยู่ต่ออีกวันสองวัน
เจอคนพวกนี้ กุกลับบ้านดีกว่า
ตอนจะกลับนะ

คิดเลยว่า ถ้าคนเมืองนี้มันเป็นแบบนี้หมด
กุจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลย
จะกลับแล้ว ขอเจออะไรแบบดีต่อใจบ้าง
เพราะมาหลายวันแล้ว ยังไม่เคยเจอคนจิตใจดีเลย

เดชะบุญ เดินเข้าไปทำบุญสักหน่อย หมดกระเป๋าเท่าที่มีแบงก์ย่อย

พอเดินออกมา เจอร้านอร่อย สุขใจจริงจัง
ความสุขของกุก็อยู่ตรงนี้แหละ
เดินมาเหนื่อย ๆ แล้วยัดห่านเข้าไปเต็มที่

ออกมาจากร้านเก็บหลักฐานซะหน่อย
ออกมาเรื่อย ๆ หลงมาเจอตึกสวย ๆ
พอเดินไปถ่ายรูป
ก็มีเจ้าหน้าที่แก่ ๆ คนหนึ่งมาเชิญให้เข้าไปดูนิทรรศการ
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ
ทั้งเจ้าหน้าที่ด้านหน้า และเจ้าหน้าที่ข้างใน
นางช่างน่ารักเหลือเกิน

ความขุ่นเคืองในใจที่มีมาหลาย ๆ ที่
หายไปพริบตา หายไปไม่เหลือร่องรอยตกค้างจริง ๆ นะ
ดีต่อใจจริง ๆ

สักพักเราก็เดินถึงจุดหมาย
แล้วไปกวาดตามองทุกที่หมายที่กองอยู่ตรงหน้า
คิดแระ ว่าเวลาเรามีน้อยเหลือเกิน
ที่ใกล้ๆ ที่อยากไป ไม่มี มีแต่ที่ไกล ๆ
เราก็เลยตัดสินใจกลับบ้านกันทันที
แล้วไปลั่นกันต่อภาคอื่น ภาคนี้ปิดทริป

ซื้อตั๋วกลับ บ้าน
นั่งหลังแม่ลูกอ่อน
แม่กับลูกเหมือนจะไม่สบายนะ
อ้วกทั้งคู่ กลิ่นก็ชวนอ้วก
กุนี่แบบ เฮ้ยยย ต้องนั่งดมอ้วกไปตลอดทางเหรอ?

ไม่ไหวนะ สักพัก แม่ขอลงกลางทาง
โดยที่ไม่ได้มีใครเชิญให้ลง
และเจ้าหน้าที่บนรถบขส.ยุคใหม่คีนนั้น
ก็บริการได้ประทับใจจริงจังมากมายอ่ะ

คือเราใช้บริการบขส.ตลอดมา
นี่ถือได้ว่า เป็นมิติใหม่ของบขส.เลยทีเดียว
ดีต่อใจสุด ๆ

.....................................

กลับมาก็เข้าบ้าน
ก็เลยเพิ่งรู้ว่า ที่ไม่อยู่แม่ไม่สบายมาก
อ่าว... ก็ไม่บอก

ทีงิ ล่ะไม่บอก

สรุปก็ไม่ได้ไปไหนต่อ
เวลามันไม่พอจริง ๆ

..........................................

กุง่วงนะยาย
แต่ไม่อยากหลับ
กุกลัวฝัน เกลียดฝัน
มันหลอก มันหลอน
หลับบนรถกุก็ฝัน
ขนาดนั่งหลับกุยังฝัน
เป็นเHี้ยไรของเมิงนักหนาล่ะนังย๊ายยยย

ดูเมิงจะฮาร์ดคอมากเกินไปแล้วนะยาย

ช่างแม่งเหอะ มันก็แค่ฝัน
อยากฝันก็ฝันไปสิ
เมิงอาจจะมีอยู่จริง แต่เมิงไม่ใช่ของจริง
แค่ตื่น ทุกอย่างจะจบ

แค่นี้เอง ไม่เห็นจะยากเลย

ต่อไปก็เจอกัน อีกห้าวันถัดไป

คิดให้น้อย ทำให้เยอะ
เมิงควรจะคิดแต่เรื่องที่กุกำหนดให้คิดเท่านั้นนะยาย
เรื่องที่กุบอกว่า กุไม่มีความสุขที่จะคิดแล้ว
เมิงก็ช่วยมืดบอดมองไม่เห็นบ้าง
เมิงจะเสือกสู่รู้ไปทุกเรื่องไม่ได้

.................................
กรกฎาคม ปีนี้ไม่ค่อยดี
เป็นกรกฎาคมปีแรกที่โคตรจะเศร้าหมอง
และมันคงจะทวีความเศร้าหมองเช่นนี้ไปอีกเท่าตัว
มันเวลามันรัดเข้าไปทุกที ๆ ๆ

................................
ไปนอน พรุ่งนี้ต้องใช้ปากและสมองทั้งวัน.







โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 25 กรกฎาคม 2560 เวลา:1:24:10 น.  

 
#วันที่๑๘๕, ๑๘๖, ๑๘๗
แค่ตัดสินใจว่าจะยุ่งหรือไม่ยุ่ง แค่นี้
ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกินนะใจ

แค่จะเสือกหรือ ไม่เสือกแค่นี้เอง วุ้ย!!

แค่คิดก็ใจไม่ดีแล้ว จะให้กุทำไรได้ฟร่ะ
เอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องของเราป่ะ แต่ก็แอบใช่นิดหน่อย

ใจไม่ดี เป็นเHี้ยไรของมันก็ไม่รู้
ตอนเย็นนี่คิดว่าจะลุยแม่งแล้ว
สักพัก หนึ่งลูกค้าแม่งงอแงเอารถออกไม่ได้
จากที่จดจ่ออยู่กับเรื่องนี้
พอโดนขัดจังหวะเลยไปหาดูระเบียบที่ปฎิบัติกันจริงๆ แล้ว
ทำอย่างไร เขาก็คงใช้วิธียกมือกระมัง เห็น ๆ หน้ากันไป
เลยต้องใช้เวลารวบรัด

คิดอีกที ถ้าทำอะไรภายในคืนนี้มันก็จะน่าเกลียดไปนะ
กุดูไม่ต่างอะไรกับคนพวกนั้นเลยซึ่งกุเกลียดการกระทำแบบนั้นมาก แล้วกุจะไปทำเหมือนเขาทำไม บ้าสิ กุไม่ได้บ้าขนาดนั้น

เกลียดอะไร กุอยู่ตรงข้าม อะไรที่กุเกลียด กุจะไม่เฉียดไปใกล้
จริง ๆ เอากุไปฆ่าให้ตา ง่ายกว่าให้กุไปทำตัวแบบนั้น

ไม่จ้ะ กุไม่ทำ

แล้วเมิงจะมานั่งคิดทำเHี้ยไร ว่า จะทำหรือไม่ทำ
ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาตัดสินใจแล้ว

ถ้าให้กุทำนะ
กุจะเดินไปถามมันต่อหน้าว่า
"ทำไมถึงอยากได้อยากเป็นนัก?" เออ ถ้ากุจะทำ กุจะทำแบบนี้
ถ้ามันเปิดโอกาสให้ถาม กุก็จะถามให้สุดประตูทางออกเลย

ถ้ากุจะทำอะไรในคืนนี้นะ นังยายจะนั่งลิสต์ ๆ ๆ ๆ
คำถาม ไว้เป็นหางว่าว ไว้ไปถามมันพรุ่งนี้ เพราะกุอยากรู้จริง ๆ

ลอบกัดเป็นหมาบ้า คงไม่ใช่นังยายแระ

ทำแล้วไม่สบายใจ
ทำแล้วต้องหลบๆ แอบๆ ก็ไม่ใช่กุป่ะ

คิดแบบนี้นะ สบายใจขึ้นตั้งเยอะ
คิดแบบตอนแรก ใจไม่ดีเลย

เขาอยากได้อยากเป็น แล้วกุไม่อยากให้เขาได้
แต่กลับให้อีกคนหนึ่งได้และเป็นเท่ากับ กุก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเขาป่ะวะ

เหมือนกันเลย ไม่ได้แตกต่าง แล้วกุจะไปทำแบบนั้นเพื่ออะไร

นอนดีกว่า เตรียมตัวให้พร้อม เจอกันก็ถามมันต่อหน้านั่นแหละ
ที่จริงกุชอบให้คนเขาเกลียด ๆ กุ มันรู้สึดี!!!!

ปล.โหลดการ์ตูนมาใหม่ ไม่อินกับมันเลย วู้ ไม่ได้อย่างใจ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 29 กรกฎาคม 2560 เวลา:20:40:32 น.  

 
#วันที่๑๘๘ เมื่อวานอารมณ์เมิงสร้นตรีนหมาเน่ามาก..มาวันนี้อารมณ์เมิงดี๊ดีล่ะนังย๊ายยยย.

อย่างน้อยนะ ..กุก็สบายใจนอนตายตาหลับไปเรื่องหนึ่ง
มันเป็นอะไรที่ นอนตายตาหลับน่ะ ท่านผู้อ่าน
แต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่ดำเนินไปวันนี้ มันก็จะเป็นหนังคนละม้วนกัน

ความรู้สึกรันทดใจที่เราทนกันมายี่สิบกว่าปีก็จะกัดกร่อนบั่นทอนกันต่อไป

บางปีนะ เดินกลับบ้านพร้อมน้ำตา
กุไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่ถ้าเราไม่เริ่มต้นที่จะพยายามทำมันแล้ว
บ้านที่เราอยากเห็นว่ามันดีงามสงบสุขก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

เมื่อคืนกุยังคิดเลยว่า ถ้ามันไม่ใช่อย่างวันนี้
กุจะไม่ยอมกลับบ้านอีกเลยตลอดชีวิต
กุจะหนีให้สุดขอบฟ้าไปเลย

พอมันเป็นแบบนี้แล้ว ความรู้สึกนอนตายตาหลับมันบังเกิด
แสงเทียนท่ามกลางมรสุมใหญ่มันโชติช่วงชัชวาล
ถึงรู้ว่ามันหนักหนาสาหัส แต่มันก็เต็มไปด้วยความหวัง

เหนื่อยแทนนะ ต่อให้ไม่มีอะไรจะเดิมพันอีกแล้ว
พี่ก็จะพยายามทำตรงหน้าให้ดีที่สุด
หน้าที่ใคร หน้าที่มัน
อย่างน้อยกุก็รู้อย่างหนึ่งว่า
กุไม่ได้ทำงานคนเดียว
มันดีต่อใจตรงนี้

ชีวิตคือดีย์อ่าาา บอกเลย

เอาคืนนี้ให้พ้นไปวันหนึ่งก่อน
พรุ่ง่นี้ไม่รู้หรอก ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง

อย่าพูดมาก

พอ.

พรุ่งนี้จะไปหย่อนโปสการ์ดให้ตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องรอจดหมายใครแล้ว
กุคุยกับตัวเองได้
กุเขียนด่าตัวเองได้

สัสชีวิต.

รักแกรนะ

นังยาย.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 30 กรกฎาคม 2560 เวลา:21:23:57 น.  

 
#วันที่๑๘๙ เวลามีน้อยอย่าปล่อยให้ตกหล่น

มันไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลยนะ
ที่เราจะสร้างชีวิตของคนๆ หนึ่ง
ให้มีทั้งความเป็นผู้นำ ความรับผิดชอบ ความครองใจผู้คน
มีไหวพริบ มีปัญญาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
โดยเฉพาะคนที่ต้นทุนชีวิตต่ำมาก เหมือนการเริ่มต้นชีวิตใหม่

แม่ง ชีวิตกุนี่ ไม่เคยส่งเรื่องง่าย ๆ ให้กุทำบ้างเลย
อุตส่าห์แอบคิดว่าเหมือนจะดี ไม่น่าจะยากเย็นอะไรมาก

ไม่เก่งไม่เคยกลัว กลัวแต่คนคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว
ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่ยอมรับอะไรอีกเลย
ทำไมกุต้องเจอแต่คนแบบนี้ตลอดเลยวะคะ ห๊ะ นังยาย

ไม่เข้าใจ .. ส่งมาตะละคน วุ้ย หงุดหงิดใจ.

เด็กอ้วนมันบอกว่า "เมิงอย่าดูถูกคนมากเกินไป คนบางคนถ้าไม่รู้คือไม่รู้จริง ๆ เมิงอย่าไปคิดว่าเขาจะรู้บ้าง อย่าเอามาตราฐานเมิงไปวัดกับเขา"

ถ้าไม่รู้ ก็บอกสิ ถามสิ บอกกุ๊ ว่าโง่ ไม่รู้ ช้า ไม่เข้าใจอะไรก็บอก

เถียงกุ ด่ากุ ถามกุได้ อย่าให้กุทำเหมือนคุยอยู่คนเดียว
ตะคอกคนไม่โต้ตอบ
เสียงกุดัง และหน้ากุก็กวนตรีน อันนี้กุเข้าใจนิดนึง

พยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้คู่มือ
พอสุดท้ายก็ต้องกลับมาพึ่งคู่มือ
ถ้ายังพอคุยกันได้ อยากให้คุย เพราะมันจะเข้าใจได้ลึกซึ้งมากกว่า

บุคลิกไม่ดี
ไม่พัฒนาตัวเอง
ความรู้รอบตัวไม่ทันต่อเหตุการณ์

ประเด็นคือ กุจะทำยังไงให้เขาเป็นคนที่ทุก ๆ คนที่นี่เชื่อมั่น????

ในเมื่อตัวเขาเองยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย

เริ่มต้นจากตรงไหนล่ะ????

.....................................
เขาเดินเข้ามาที่นี่เพราะมีปัญหาทางด้านการเงิน
เขาต้องการเงินจึงจำเป็นต้องมา
อีกเหตุผลหนึ่งคือด้วยวัยที่มากแล้วไปที่ไหนก็ไม่มีใครต้องการ
แต่ข้อหลังนี่มันฟังไม่ขึ้นนะ
จริง ๆ พี่ก็คิดเสมอว่า ต่อให้อายุเรามากเข้าแต่ด้วยประสบการณ์ที่แน่นปึกและบุคลิกที่ยังทำงานได้ไม่เป็นปัญหาอะไร
ก็คงจะปฎิเสธกันยาก
แต่โดยรวมแล้วเกินวัยและไร้ประสบการณ์ต่างหากที่ถูกปฏิเสธ

ซึ่ง กุไม่ได้ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นไง
ปัญหาคือ กุจะเริ่มต้นปรับความคิด แนวคิดเขาตรงไหน
ให้เข้าใจสิ่งที่เขาเป็น และเข้าใจบริบทของสังคมโดยรวม
ว่าเมิงจะต้องทำตัวเช่นไรจึงจะควบคุมสถานการณ์ให้มันเป็นปกติสุขได้

ผ่านไปสองสัปดาห์เห็นแต่ปัญหาซึ่งไม่คิดว่าจะเลวร้ายได้ขนาดนี้

พยายามอย่างหนักที่จะหาจุดยืนร่วม
จริง ๆ แล้วก็เป็นความผิดของพี่เองด้วย
เขาเพิ่งมาทำงานได้วันเดียว พี่หนีไปเที่ยวเสียแล้ว

เขาก็คงอยากจะรู้ว่า ชีวิตนังยายเนี่ย มันเป็นไปเป็นมาอย่างไร
ซึ่งแค่คิดว่าอยากจะรู้ก็ผิดแล้วเมิง
จะให้กุมานั่งเล่าสาธยายว่า กุเป็นอย่างนั้น กุเป็นอย่างนี้
ฝันเหรอจ๊ะ?
พ่อแม่กุเอง กุยังไม่เคยบอกเล้ยจริง ๆ
แทบจะไม่มีใครเลยบนปฐพีนี้ที่จะรู้ว่าจริง ๆ พี่เป็นยังไง
ต่างคนจะต่างรู้ในมุมที่ตัวเองจะเข้ามามีส่วนรู้เห็นแค่เท่านั้น

เมิงจะมาถามกุว่า กุเที่ยวแล้วสนุกไหม?
เมิงก็ไปดูรูปที่กุให้ดูสิ เออ แค่นั้นแหละ
ถ้ากุใจดีหน่อย ก็จะเรียบเรียงบันทึกให้อ่าน
แต่กุก็คงไม่ได้บอกเมิงทั้งหมดหรอกนะว่า
แต่ละที่ที่ไปนั้นตัดสินใจบนพื้นฐานของอะไร

กุไม่ได้อยากให้ใครมาเข้าใจ
ขอแค่กุเข้าใจตัวเองว่า กำลังทำอะไรในทุก ๆ ขณะจิตของกุ
กุก็พอใจแล้ว

ถ้ามันไม่ได้เกี่ยวกับเมิง เมิงก็ไม่ต้องเสือกอยากถาม
แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับเมิง เมิงก็ควรจะถามป่ะวะ?
ไม่ใช่สงสัยลังเลแล้วใช้ความรู้สึกส่วนตัว ความคิดส่วนตัว
มาตัดสินกุ ว่ากุต้องเป็นแบบนั้น กุต้องเป็นแบบนี้

มันไม่ใช่นะ อย่ามโน!!!!

เมิงต้องแยกแยะเว้ย ว่าอะไรเป็นข้อเท็จจริง อะไรเป็นแค่ความคิดเห็น
โดยเฉพาะคนที่อยู่เหนือคนอื่น เมิงต้องใช้เมตตาจิตให้มากขั้นสุด
เมิงคุยกับทุก ๆ คนได้ แต่ได้แค่รับรู้ รับฟัง และวางมันไป
ก่อนที่จะเอาเรื่องที่รู้มาไปพูดอะไรกับใคร เมิงก็ต้องวิเคราะห์ให้ออกก่อนว่า สิ่งที่รู้นั้นเป็นข้อเท็จจริงส่วนไหน และเป็นข้อคิดเห็นส่วนไหน

เมิงนั่นแหละที่ไม่ดีนังยาย
เมิงสอนเขาแล้วเขาไม่อิน
เมิงมันให้เวลาเขาน้อยเกินไป
เมิงมันเอามาตราฐานการเรียนรู้ตัวเองมาใช้กับเขา
เมิงต้องปรับวิธีการใหม่

บอกให้ทำอะไรนี่พยักหน้ารับรู้
แต่เอาจริง ๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง
ต้องให้ออกคำสั่งอ่าาาา

แล้วทีนี้กุจะสื่อสารยังไงให้เขาสำเหนียกว่า
เขาต้องทำอะไรและไม่ควรทำอะไรฟร่ะ

วันนี้คอมเพลนไปเพราะรับคนเข้ามาไม่ดูลักษณะให้ดีก่อน
เป็นบุคคลประเภทที่กุแบนไม่อยากให้มาอยู่ในวงโคจร
ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
การทำแบบนี้มันไม่ได้ช่วยอะไร จริง ๆ
มันไม่ทันแล้ว เมื่อรับเข้ามาแล้ว ก็เฝ้าระวังกันต่อไป
ต้องให้เจอกับปัญหาหนัก ๆ จะได้รู้สึกว่า ทำไมถึงบอกว่า
ให้ดูดีดี มาวันแรกถามหากระเป๋าหลักหมื่น
นังยายเลยถามว่า ในกระเป๋ามีอะไร? ถึงดูร้อนใจ
นางว่า ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่กระเป๋านางซื้อมาแพง.

หมดคำจะพูด กุต้องเดือดร้อนกับกระเป๋าหลักหมื่นของเมิงไหม?
กุไม่รู้หรอก เพราะกุนี่แทบจะใช้กระเป๋าฟรีอ่ะจ้ะ
กระเป๋าผ้าทำมือเย็บเองไรงิ กุใช้แบบนั้น
กุไม่อินหรอก หลักหมื่นแล้วยังไง

ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย ไม่อยากคิดและไม่อยากจะพูดถึง

พี่พยายามจะปล่อยนะ ให้ทำเอง ให้คิดเอง
ให้ผจญกับสถานการณ์ด้วยตัวเอง
ปรากฎว่า กุต้องมานั่งแก้ไขให้ทุกอย่างเลย
เหอๆๆๆๆ
555555555555555555555555555555555555555555

สงสัยอะไรให้ถาม
ไม่ถาม บอกไม่มีอะไรจะถาม
เสร็จแล้วก็ทำผิด เพราะไม่รู้ คิดว่าน่าจะถูก
เหยย กุไม่ได้เล่นขายของ กุเอาจริง
ชีวิตกุไม่มีอะไรต้องพลาด พลาดคือเจ็บตัว
เพราะฉะนั้นห้ามพลาด
เข้าใจอะไรยากเย็นฟร่ะ

พอพูดแบบนี้ก็กลายเป็นไม่กล้าจะตัดสินใจอีก

อ้าว!!!

ให้กุทำยังไง????

อ่อมีดีอยู่ข้อหนึ่งคือ เป็นคนที่อัธยาศัยดี
ดีกว่ากุเยอะ

แต่เวลาจะเจรจานี่ต้องให้แพทเทินไป พูดตามแพทเทินนี้นะ
อย่าเจรจาออกนอกลู่นอกทาง และเก็บรายละเอียดให้หมดนะ
ปล่อย ลองปล่อยให้สื่อสารเอง เสร็จแล้วก็ไม่จบกระแส
เลยต้องให้ติดต่อกลับไปขอโทษ ขอรายละเอียดเพิ่มเติม

อยากจะรู้จริง ๆ ชีวิตโตมากับสภาพแวดล้อมแบบไหน
อายุไม่ได้แตกต่างกับนังยายมากมายเลยนะ
เพราะมากกว่านี้ พี่ก็เจอมาแล้ว
แต่ก็ไม่ได้ขนาดนี้ไง
ลุงคนนั้นเขาต้นทุนชีวิตดีกว่าพี่ตั้งเยอะ
แทบจะไม่ต้องสอนอะไรให้เลย เพราะเขาไม่ฟัง
5555555555555555555555555555555

สุดท้ายก็ปล่อยอะ เอาไปอ่านเอง เรียนรู้เอง
สุดท้ายเขาก็ปรับตัวได้ ย้อนกลับมาถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ

แต่สำหรับคนนี้นี่ ขอเวลากุนั่งเกาหัวแป๊บสักวันสองวัน
ขอกุทำความเข้าใจเขาก่อนนะนังยาย
อยากจะมองให้ชัดกว่านี้
อยากรู้ว่าที่พูดมานั่นอะไรคือจริง อะไรคือสร้างภาพให้ดูดี
ตอนนี้กุแยกแยะไม่ออก
เหมือนที่ผ่านมา เขาพยายามทำตัวให้เรามองเขาดีทั้งหมดเลย

ปล่อยอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว

ไม่ใ่ช่กุไม่วางใจนะ กุวางแล้ว และพลาดหมดแล้วด้วย
55555555555555555555555555555555555555555

สมน้ำหน้าตัวเอง

ฝันหวานของกุ ดับสนิทเลย
นี่กุฝันว่าอีกเดือนหนึ่งนะ กุออกแรดในโลกกว้างได้เลย
เจอแบบนี้
จะให้กุพูดว่าอะไรฟร่ะ?

55555555555555555555555555555555555555555555555


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 31 กรกฎาคม 2560 เวลา:23:24:11 น.  

 
#วันที่๑๙๐ เลยครึ่งทางมาแล้ว

เมื่อเผลอตัวไปคิดว่า มันเหลือเวลาอีกเท่าไร
ใจมันก็ฝ่อและดับวูบลงไปทันที

กุไม่ได้ดีขึ้นหรือทำใจได้สักนิดเลย
นับวันมันยิ่งเฟล มันแย่มาก
ยิ่งอยู่ยิ่งเกลียด เกลียดตัวเอง

พยายามบอกตัวเองว่า อย่างอแงพร่ำเพรื่อ
มันไม่มีคำพูดใดจะพยุงใจให้ดีขึ้นทันตาอีกแล้ว

วันก่อนพระอาจารย์ถามว่า
"ทำสถิติเข้าไปกี่ครั้งแล้ว"

ยอมรับเลยว่า มันรู้สึกละอายแก่ใจ
จนไม่กล้าจะเข้าไปอีก เพราะไปกี่ครั้ง ๆ กลับมาก็ยังเหมือนเดิม
ไปเอากำลังใจเหรอ กลับมากุก็ยังเป็นเหมือนเดิมเลย
หรือจะเปลี่ยนวิธีไปเลย จากจดจ่ออยากรู้อยากเห็นอยากไป
เฝ้ามองตลอดเวลาเป็น หนีไปในที่ที่ข่าวสารเข้าไม่ถึง
ช่วงเวลานั้นตัดขาดจากทีวี อยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่ต้องคุยกับใคร
ให้มันเป็นเหมือนหลับไป แล้ววัน ๆ หนึ่งช่วงนั้นมันก็จะผ่านไปเอง ปล่อยให้มันเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่ทำใจได้เมื่อไรค่อยย้อนกลับมาดู

......................................

เมื่อวานนี้ยังดีดี วันนี้รูุ้สึกแย่
พรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องผจญกับสภาพใจแบบไหน

อย่าเพิ่งไปคิดว่า ถึงวันนั้นแล้วจะไปอยู่ตรงไหน จะทำอะไร
เอาทุก ๆ วันนี่ให้รอดไปอย่างมีความสุขก่อนนะ ยายนะ


อย่า เพิ่ง ไป คิด

อยากดูรูป
อยากดูคลิป
ทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลย
ใจมันจะขาด

เคยนั่งอยู่ตรงนี้แล้วมันเต็มไปด้วยกำลังใจ

วันนี้ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป

ลด ละ เลิก งอแงพร่ำเพรื่อนะยาย
คำพูดที่มันเคยพยุงใจไม่ให้ซึมเศร้า
มันใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 1 สิงหาคม 2560 เวลา:2:50:30 น.  

 
#วันที่๑๙๑ ครั้งที่๑ แพ้ใจตัวเอง
กลางวันวันนี้เพลียมาก
พอถึงบ้านได้ ก็อยากกินข้าวเลย..
ก็รู้แหละว่า ถ้านอนพัก ก็หายเหนื่อย
แล้วก็จะผ่านมันไปได้
แต่มันมองไปหาตู้เย็น เห็นครัวเห็นหม้อข้าว
ทำกับข้าวดีกว่า 55555555555555555

สันดานไม่ดีแต่อร่อยอ่ะ ทำไม?

กลับบ้านเมื่อวานว่าช็อกกับเรื่องที่รู้แล้ว
วันนี้ช็อกกว่าที่รู้แน่ชัดเจนแล้วว่า
แม่กุนี่เก็บกดเอามาก ๆ
เก็บทุกอย่างไว้ กับตัวคนเดียวไม่บอกใครเลยแม่ทนมาได้ยังไงวะ

แม่จะโกรธมากเลยนะ ถ้ารู้ว่า พี่ทะเลาะกับน้อง
ถ้าตีกันนี่ โดนกันทั้งคู่ แล้วแม่ก็บอกเสมอว่า ตาสอนมา
พี่น้องไม่รักกันแล้วใครจะรักเรา
ทะเลาะกับใครก็ได้ แต่อย่าทะเลาะกับพี่น้อง

แม่กรอกหูกุทุกวันตลอดมาแบบนี้

กุก็เข้าใจว่าอย่างนี้ตลอดมาเช่นกัน

แต่วันนี้ พอเห็นว่า ญาติเขาทำตัวไม่น่ารัก
พี่ก็แซวแม่ว่า ทำไม ญาติมะเป็นคนแบบนี้ล่ะ?

เท่านั้นแหละจ้ะ สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินก็พร่างพรูออกมา
แบบเจ็บแค้นเคืองและโกรธมาก

ตาอ่ะ ถูกน้อง ๆ กระทำเจ็บแสบ
ตาก็ไม่เคยเจ็บโกรธให้อภัยและเป็นผู้ให้ตลอดมา
ให้ยังไม่พอยังจะมาสอนแม่ให้ รู้จักให้เขาอีก
แล้วแม่ก็จำในสิ่งที่ตาสอน เอามาสอนรุ่นลูกอย่างกุนี่ไง
กุก็แอบคิดเป็นเด็ก ๆ ไง ว่าพี่น้องห้ามทะเลาะกัน
จะต้องไม่ทะเลาะกัน โถชีวิต
ถ้าทำกับกุอย่างนั้น กุจิกหัวตบแล้วบอกเลย
กุจะทนทำไมวะคะ ไม่ค่ะ กุไม่ทนค่ะ

ไม่ต้องมาสอนสั่งเลยค่ะ
ถ้ามันสารเลวขนาดนั้นน่ะค่ะ ตบกันก่อนเลยค่ะ
แล้วค่อยเคลียร์

รักษาหน้า เป็นผู้ดี ในวงศ์ตระกูลสูงส่ง
ไม่ทะเลาะกัน ทุกวันนี้เป็นยังไง
ด่าออกมาแต่ละคำ แม้ค้าปากตลาดยังอาย

แล้วแม่ก็เจ็บแค้นสาปแช่ง เพื่ออะไรวะคะ?
ต่อหน้ายิ้มแย้มให้กันและกัน
แต่เบื้องลึกในใจแทงกันไม่มีชิ้นดี

คนพวกนี้มีความจำเป็นที่พี่ต้องแคร์ไหม?
กุโคตรภาคภูมิใจในความเลวร้ายของตัวเองก็วันนี้แหละ
มีความสุขจังที่กุชี้หน้าด่ามานในวันนั้น
ดีใจที่เชิดหน้าใส่ เรื่องของเมิง ใครสนใจ
กุเคยโดนด่าว่าเป็นเด็กไม่เอาญาติ
เป็นเด็กไม่เอางานบ้าน เป็นเด็กที่โตไปจะทำอะไรได้
คนแถวบ้านพี่เป็นพวกที่ ถ้าเป็นผู้หญิงต้องทำได้ทุกอย่าง
เพื่ออะไรวะคะ ผู้ชายงอมืองอตรีนไม่แตะอะไรเลย
แล้วกุเป็นเพศที่ต้องทำทุกอย่าง
บอกเลย ใครอยากทำก็ทำ กุไม่อยากทำ
หนักกบาลใครไหม?

พอเขามีงานมีการกันต้องลงแรงช่วยกัน
กุเดินออกจากบ้าน ไปไหนก็ได้ที่กุอยากไป
ไม่ได้อยากรู้จักใคร บอกพ่อกับแม่เลยว่า
ไม่ต้องไปหวังเอาแรงใคร เพราะถ้าพี่จะทำอะไร
พี่จะไม่พึ่งคนรอบตัวแน่นอน พี่จะไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน
พ่อแม่ไม่ต้องยุ่ง ชีวิตกุ กุทำงานบ้านไม่เป็นแต่กุจัดการตัวเองได้

เคยแอบรู้สึกผิดเล็กน้อยนะ ที่เป็นคนแบบนี้
แต่พอมาวันนี้ กุแม่งโคตรดีใจเลย
เดชะบุญ 55555555555555555555555555

.....................................
ที่แม่สอนมา มันก็ถูกต้องแล้วนะ
ไม่ใช่ไม่ถูกต้องเลยซะทีเดียว
แต่การไม่ทะเลาะกับพี่น้องนั่นเลยมันหมายความว่า
ต้องไม่มีเสียหายทั้งคู่ ไม่ริษยาใส่ร้ายป้ายสี หลอกลวงกัน
ต้องอยู่ในศีลธรรมอันดีทั้งสองฝ่ายทั้งบ้าน
ต้องมองให้เป็นไปในทางเดียวกัน ปรารถนาดีต่อกัน
แต่ถ้าพี่น้องที่มันทำตรงข้ามจากนี้
เก็บมันไว้ทำเHี้ยไรฟร่ะคะ

ทุกวันนี้นะ เวลาจะคุยกัน ต้องคุยกันด้วยสิ่งดี
ถ้ารู้ว่า คุยกันด้วยสิ่งดีไม่ได้ เมิงไปขี้เลย ไปคุยกับขี้
กุคน พูดภาษาคน ไม่คุยภาษาขี้
ภาษาดอกไม้ กุก็พูดไม่เป็น อย่ามาโยนดอกกกกกกก ให้กุ

ถ้าพี่น้องกุไม่เป็นคนมีประโยชน์ทำตัวเป็นกาฝาก
กุก็จะด่าให้มันสำเหนียกตัวเอง
กุไม่เก็บมันให้ดูดกินธาตุอาหารจนลำต้นกุตายหรอก

แล้วกุก็ไม่อยู่กับคนเลวแล้วเสือกโง่ด้วย
ถ้าชีวิตเมิงเลือกที่จะเลวเมิงก็ต้องร้ายให้เป็นด้วย
ร้ายแล้วออกไปใช้ชีวิตเมิงให้คุ้มโดยไม่เดือดร้อนคนอื่น
ร้ายแล้วเอาตัวให้รอด ถ้าเลือกจะโง่อย่าเสือกเลว
และถ้ากุเลือกที่จะอยู่พวกเมิงต้องออกไป
ที่ของกุ กุจะไม่ไปไหน
พวกที่มันทำไม่ดีทำตัวสารเลวมันยังไม่เกรงใจใคร
แล้วถ้ากุเป็นคนตรงข้ามกันพวกมัน
กุจำเป็นอะไรที่ต้องเกรงใจเกรงตัวมัน

กุต้องกลัวมันจะโกรธที่กุไปด่ามันไหม?
กุต้องเกรงใจมันไหม?
กุต้องกลัวว่ามันจะไม่นับญาติกับกุไหม?
กุต้องแคร์เหรอ?

กุไม่กลัวหรอกนะ ถ้าใครจะมองว่ากุเป็นคนไม่ดี
เพราะกุก็มั่นหน้านิดนึง ว่ากุไม่ดีอยู่แล้ว อันนี้กุรู้ตัวมากหน่อย

แม่มีฝากฝัง อย่าไปบอกใครนะว่าไปทำอะไรมา
เดี๋ยวเขาจะด่ามะเอาได้ กลัวอะไรล่ะมะในที่สุดท้ายแล้ว
มันก็ด่าเราอยู่ดี

ไม่ได้แคร์คนจำพวกนั้นเลยนะว่ามันจะรู้สึกอย่างไรกับเรา
แต่ที่สนใจใส่ใจก็คือ จะทำยังไงให้แม่ไม่ไปยึดติด
กับความรู้สึกเจ็บแค้นนั้น
จะทำยังไงให้แม่จักการให้อภัยที่แท้จริง ที่ไม่ได้ให้อภัยเพราะ
คำสั่งของตา ไม่ได้ให้อภัยเพราะความเป็นญาติพี่น้อง
อยากให้แม่รู้จักปล่อยวาง ให้รู้จักชีวิตจริง ๆ ว่ามันก็แค่
คนที่มาเจอกัน มาอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน

อยากให้แม่ออกไปเจอโลกกว้าง ๆ สังคมที่มันกว้างกว่านี้
อยากให้เห็นว่า ที่ไหน ๆ มันก็มีเลวร้ายทั้งนั้น
มันก็แค่กิเลสของคนโลภที่คิดว่าตัวเองอยุ่เหนือกว่าคนอืนก็เท่านั้น

อยากให้แม่ปรับความคิด รู้ทันโลกปัจจุบัน
ไม่ต้องถึงกับขนาดเทคโนโลยีจ๋าหรอก
ขอแค่ให้รู้ว่า ทุกวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นมาแล้วบ้างก็พอ

แม่ป่วยทางจิตน่ะ บางทีก็มีควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
บ่น ๆ แล้วก็เครียดเรื่องชาวบ้านไปทั่ว
กระแนะกระแหนพ่อ แล้วพอยู่ต่อหน้าไม่ด่านะ

เดี๋ยวสักวัน กุจะส่งสารให้ กุเลวพอ
ครอบครัวร้าวฉานงานของกุแหละ
ถ้าอยู่กันไม่มีความสุข แยกย้ายกันไปเลย
แต่ถ้าคิดว่าต้องอยู่ด้วยกันแล้ว มันต้องยอมรับกันได้
ต้องมีความสุขเท่านั้น

.......................................
พ่อก็สุดมโน ยังไม่เลิกซน
พอแข็งแรงดีขึ้นหน่อยเสือกจะช่วยเรื่องชาวบ้านอีกแระ
คืออยากจะจ้างให้อยู่เฉย ๆ จริง ๆ เลย
ขอร้องล่ะ อยู่นิ่ง ๆ ดูแลตัวเอง
เลือกไปเสือกเรื่องชาวบ้าน โอเค๊

ดูแลสุขภาพ จะได้เดินทางไกลด้วยกันได้เร็ว ๆ

พี่ชายที่เหลือคนเดียวของนังยายนี่
ตั้งแต่จับนางแต่งงานครั้งที่สาม
ชีวิตนางดีขึ้นตั้งเยอะ
ครั้งแรกนางถูกผู้ใหญ่จับแต่งด้วยเหตุผลความร่ำรวย
ครั้งที่สองนางไปหาของนางเองเหตุผลเพราะนางรักของนาง
ครั้งที่สามนี่กุจับนางแต่งเองเหตุผลเพราะเมิงเป็นผช.เมิงต้องมีความรับผิดชอบกว่านี้อิเHี้ยกุรับไม่ได้
นางก็เชื่อฟัง จากที่นางเมาหัวราน้ำทุกวัน
ตอนนี้เหมือนนางจะเลิกเด็ดขาดแล้ว
พี่ใภ้ออกคำสั่งให้ออกจากงานแล้วมาเป็นลูกจ้างกุอยู่บ้าน

ด่ากุอี๊ก นางด่ากุว่า ใช้นางอย่างเดียวเลยตังค์ไม่จ่าย

อ่าวดอกกกก กุลงทุนให้ ให้เมิงทำ ทำแล้วผลผลิตเมิงบริหาร
และรับเองเต็ม ๆ กุจะต้องจ่ายค่าจ้างเมิงด้วยอ่อ??? สัส

มีพี่ชายกับเขาเหลืออยู่ตั้งหนึ่งคน โชคดีจริงจังชีวิตกุนี่

กุไม่เคยเรียกมันด้วยคำว่าพี่หรอก
กุจิกหัวเรียกมันเยี่ยงทาสตลอดแหละ 555555555555

ถ้าแบบให้เกียรติหน่อย นังยายก็จะเรียกนางด้วยชื่อจริงเต็ม ๆ
ด้วยภาษาราชการ

กุด่ามันทุกวัน
และกุสัญญาว่าจะด่ามันจนมันเป็นคนที่มายืนข้างหน้ากุให้ได้
เมิงเป็นพี่ อยากให้กุนับถือ
เมิงก็ต้องพัฒนาตัวเอง ให้ดี มีประโยชน์ เป็นตัวอย่างให้คนอื่น ๆ
เวลาที่ต้องมายืนข้างหน้ากุในฐานะผู้ปกครองต่อจากพ่อกุ
เมิงจะได้มีความภาคภูมิใจในตัวเองไง
เมิงก็จะได้ยอมรับและเชื่อมั่นในตัวเองไง

อิสัส อยากให้กุยอมรับนับถือว่าเป็นพี่
ทำตัวให้ดีพัฒนาตัวให้ดีกว่ากุ หนักแน่นกว่ากุ
แล้วเชิญเมิงมายืนข้างหน้ากุได้เลย
กุหลีกทางให้ แต่กุไม่หลบหรอกนะ
กุจะบอก

บางทีก็อยากจะให้บทเรียนนางว่า
อยากได้อะไรต้องขวนขวายทำเอง
แต่ก็สำนึกตลอดมาว่า คนเรามาเกิดมาไม่เท่ากัน
ถ้าให้นางคิดของนางเอง กุคงรอจนเหี่ยวตายก็คงไม่ได้เห็น
ตอนนี้นางมีฝันของนาง
นางเริ่มที่จะพัฒนาตัวเอง
เห็นได้ชัดเจนนะ
จากหลังตรีนเป็นหน้ามือ
หน้าที่นังยายก็คือ
ขยายความฝันของนางจากเล็ก ๆ ให้ใหญ่ ๆ หน่อย
กุชอบขายฝันให้ใครต่อใครเยอะ ๆ เลย
ฝันเข้าไป ๆ แล้วทำให้ได้ อย่าหยุด อย่ายอม
ชอบเหลือเกินที่จะเขียนชีวิตผู้คนแบบนี้
การได้แอบมองใครต่อใคร
มันก็มีความสุขที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยเช่นนี้

นางเอ่ยปากขอเทคโนโลยีเพื่อจะแสวงหาความรู้อย่างที่นางต้องการ
เป็นความรู้ใหม่ เป็นช่องทางเปิดโลกทัศน์
นางเรียนรู้และนางก็นำมาใช้จริงจัง

ดูนางเริ่มมีความสุขกับผลงานตัวเอง

เห็นนางเริ่มมีความสุขกับชีวิตตัวเอง
มันก็จะตีต่อใจมาก ๆ หน่อยนะ
อย่างน้อยก็ได้ผลไปอีกหนึ่งชีวิต

เริ่มมองเห็นทางที่จะเดินไป
อย่างน้อยที่สุดก็มั่นใจได้ว่า
ที่กำลังเดินไปนั่น ไม่ได้หลงทางนะ
กุมาถูกทางแล้ว

............................................

ถึงนังยายจะรู้ดีว่า พี่ชายกุมันเป็นคนที่ยังเรียกว่าดีไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
กุจะต้องโพนทะนาหรือตั้งข้อสงสัยว่า
บ้านกุเฮงซวย กุโชคร้ายที่มาเกิดในบ้านหลังนี้
กุเลือกไม่ได้หรอกที่เกิดมาเป็นน้องเขา
แต่กุเลือกได้เว้ย ว่ากุจะทำอะไร
หรือไม่ทำอะไร เพื่อให้อะไร ๆ มันดีขึ้น
ไม่ได้นิ่งเฉยแล้วโพนทะนาให้ใคร ๆ ฟังว่า
พี่กุไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้
ถ้ากุจะด่า กุด่าให้มันฟังเลยตรง ๆ ได้ผล
ได้ประโยชน์ด่าต่อหน้ามันนี่แหละ
จิกมันทุกวันๆๆๆๆๆๆ แต่กุก็ด่ามันบ่อยมากไม่ได้
พอมันรู้ทัน มันเดินหนีว่ะ
ก็ต้องค่อย ๆ หลอกด่ามันไปเรื่อย ๆ

ไม่ใช่เที่ยวกระแนะกระแหน ตั้งข้อสงสัย
จะเรียกร้องหาความเท่าเทียม
เป็นน้องกุก็รู้ว่าขอบเขตกุมีแค่ไหน
กุทำอะไรได้
กุทำอะไรไม่ได้
กุรู้ว่า เขาเป็นผู้ปกครองกุ ยังไงเขาก็เป็นผู้ปกครอง
ถ้าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ชีวิตกุดีขึ้น

กุก็ต้องหมั่นกระตุ้นให้เขาเห็นความสำคัญ
และเห็นคุณค่าของตัวเอง
ต้องพยายามชี้ให้เขาเห็นการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

หน้าตาของเขา ชื่อเสียงของเขา
มันเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งบ้าน

ถึงที่ผ่านมากุจะไม่ชอบพี่กุเท่าไรนักนะ
แต่ถ้าตอนนี้ใครมาด่าพี่กุ
ใครมากระแนะกระแหนพี่กุให้กุฟังสิ
กุจะจิกหัวมาตบให้สมองกลับเลย

คนตั้งใจจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมิงไม่ทำไร ยังเสือกจะเอาตรีนราน้ำ

ต้องเป็นกำลังใจกันแระกัน

ต้องการให้คนยอมรับได้
ก็ต้องรู้จักเสียสละความสุขส่วนตัวเสียให้ได้อย่างเด็ดขาดก่อน

ยากอีกแล้ว
อยู่กับจิตปัจจุบัน ตั้งใจให้จริง เอาดีให้ได้
เกิดมาเป็นคนตั้งหนึ่งชีวิต
มันจะเอาดีให้ได้ ไม่ได้เชียวหรือ






โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 3 สิงหาคม 2560 เวลา:3:07:40 น.  

 
#วันที่๑๙๑ ครั้งที่๒ กำลังใจขั้นที่๒ กำลังจะผ่านไป

วันก่อนเล่าเรื่องพี่ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ใช่ไหม
หายไปวันหนึ่งเพราะมันเหนื่อยเพราะกินมากเกินไป
วันนี้เข็ดเลย ไม่กล้ากินเยอะอีกแล้ว

กินเพราะอยาก จะไม่ทำมันอีก
เหนื่อยเกินไปจนฝันร้ายเลยไง

ฝันเยอะมาก แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งมันโคตรจะน่ากลัว

ฝันว่าไปที่ไหนสักแห่งเหมือนป่าที่เคยเข้าไปทำงานมา
แต่บริเวณโดยรอบมันเปลี่ยนไปเยอะ
ท่ามกลางความมืดมิด ก็มีหมาตัวหนึ่งมาเร้าหรือเกาะแกะป้วนเปี้ยน
เป็นคนที่ไม่ได้ชอบหมา เกลียดน้ำลายหมามากด้วยนะ
มันก็จะมางับมาเลีย อะไรของมัน จะเอาหน้ามาดุน
จะมากัด พยายามไล่ พยายามเจรจามันก็ไม่ฟัง
"ไปสิ ออกไปนะ ไอ้สัตว์ไปไกล ๆ ไป๊" ไม่ฟัง
ยิ่งไล่ยิ่งเข้าใกล้จนทำให้ตัวเองรู้สึกกลัว
ตะโกนร้องเรียกคนอื่นให้มาช่วยแบบสุดเสียง

ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยกุด้วย
มีใครอยู่แถวนี้ไหม ร่ายคาถาแม่ป้องกัน
ใช้ไม่ได้ผล มันคงฟังไม่รู้เรื่อง
คาถาแม่มันป้องกันผีนี่หว่า
มันไม่ได้กันหมา สัสเอ๊ยยย มองไปทางไหนก็ไม่มีอาวุธ
สำหรับป้องกันตัว รอบตัวไม่มีอะไร
ร้องไปก็เหนื่อยเปล่า เอาวะ ถอดรองเท้าออกข้างหนึ่ง
เป็นข้างซ้ายมั้ง เอาขว้างหน้าหมา เมิงคิดว่าจะได้ผลเหรอ?
เปล่ากุเบี่ยงเบนความสนใจมัน

เออมันก็ได้ผลวุ้ย ไอหมาวิ่งไปงับรองเท้า กัดๆๆๆๆ
พอเห็นมันเลิกตอแย พี่ก็เดินไปตามแสงไฟ
ไปหาความสว่าง ไปหาผู้คน
ระหว่างที่กำลังจะเจอแสงสว่าง
ทันใดนั้นก็มีหมากระโจนออกมาจากที่หลบซ่อนตัว
ใกล้จะขย้ำนังยายอยู่แล้วแต่พี่เห็นทันจึงเอามือตบหน้าหมา
5555555555555555555555
มันจะกัดแขนแต่กุตบปากมันทันไง ดูมือเหมือนจะเจ็บแต่ก็ไม่เป็นไร

หมาอีกตัวที่ทำท่าจะกระโจนขย้ำเหมือนกัน
พอเห็นอีกตัวโดนตบปาก มันเลยจ๋อยหงอยไปเลย

แล้วพอทำท่าจะเข้าหาผู้คนมันแง่ะไปเห็น
ไม้ปักอยู่สองสามอัน
พี่ก็เลยไปคว้าไม้มา หวังจะเอามาไล่ตีหมา
หมามีอยู่ใหญ่ เป็นหมาตัวใหญ่ ๆ
พอเห็นกุถือไม้นี่นิ่งเลยนะ ไม่มีเข้ามาสักตัว

เดินเข้าไปหาคน เห็นตัวดำ ๆ นอนหมอบอยู่
ก็คิดว่าเป็นหมาทำเนียน รอกุเผลอ
กุก็เอาไม้ฟาด ๆ ๆ ฟาดไป ๆ แล้วมันไม่กระดิก
มันก็ยังนอนเฉย เลยชะโงกไปดู
เอาสัส แพะนี่ นี่ว่าหมา มันมองหน้านังยายด้วยนะ
ด้วยนัยตาที่คิดถึง ประหนึ่งจะต่อว่า เมิงไม่คิดถึงกุเลยนะ

ตาแบบคิดถึงมาก กุนี่ไง ช่วยไล่หมาได้ แต่เมิงไม่เรียกกุเลย

สักพัก พี่ก็ตื่น....

..........................................
นี่ดีนะ ที่ตื่นก่อน
ถ้ากุได้หลับต่อ
กุจะเอาไม้ไปไล่ฝูงหมาต่อให้พ้นความหลับนอนของกุ
55555555555555555555555555555555555555

แล้วกุก็จะกลับไปเก็บรองเท้าที่ขว้างปากหมาด้วย

ชีวิตจริง เคยโดนหมาไล่ สองสามครั้ง
แม่งตื่นเต้นกับการเอาชีวิตรอดทุกครั้ง
หลัง ๆ เวลาออกทริปจะพกขาตั้งกล้อง
ไม่ได้จะเอาไปถ่ายรูปหรอกนะ
กุเอาไว้กันหมา
5555555555555555555555555
เมื่อคืนยังคิดเลย ทำไมกุไม่พกขาตั้งกล้องเข้านอนด้วยฟร่ะ


มันน่ากลัวและกุก็กลัวมันมาก
หมาแต่ละตัว เป็นหมาพันธุ์ใหญ่
สง่า ขนเยอะ ไม่ใช่หมาขี้เรื้อน หรือหมาวัด
อย่างที่เคยเห็น เหมือนมันถูกฝึกมาอย่างดี
ให้จู่โจม แบบดมกลิ่นก็เก่ง กัดก็เก่ง

อย่างกับมันเป็นหมาป่าแบบนั้น


บางทีพี่ก็คิดนะว่า
ถ้าชีวิตต้องโดนรุมอย่างนั้น
กุจะเอาตัวรอดยังไง???

ถ้ามันเป็นคน และกุเห็นต่อหน้าชัดแจ้งชัดเจน
กุตบปากแตกทุกคนอ่ะ จะลองดูก็ได้
ตบก่อนค่อยเคลียร์
อย่างนางคนที่สงสัยว่ากุมีรอยสักที่คอหรือเปล่า
ถ้าเรียกกุไปให้เจออีกรอบ กุจะถามว่า
รับกุได้แล้วเหรอถึงเรียกกุมา

แต่ถ้ามันเป็นหมา เดี๋ยวก่อน
พรุ่งนี้กุไม่ซื้อประทัดพกไว้
กุเจอฝูงหมาเมื่อไร กุจะจุดประทัดไล่ให้มันกระเจิงเลย

แต่ถ้ามันเป็นอะไรที่ไม่ใช่คนไม่ใช่หมา
กุก็ไม่รู้วุ้ยยย

จะให้ทำอะไร แต่ที่แน่ ๆ กุจะไม่ถอดรองเท้าขว้างมันแน่นอน
แม่ง คิดได้ไง เอารองเท้าขว้างหน้ามัน อิบร้าส์
เอารองเท้าขว้างมันแล้วเมิงจะเอาที่ไหนใส่

........................................

เด็กอ้วนมันบอกว่า เมิงมีปมในใจ
แล้วเมิงก็ต้องเคลียร์ใจตัวเองก่อน

กุก็อยากเคลียร์ให้จบหมดทุกเรื่องนะ
แต่ใจกุตอนนี้มันไม่ปกติไง
ศรัทธากุไม่เหลืออะไรแล้ว
ใจกุไม่ได้แข็งแรงพอจะยอมรับความเสี่ยงใด ๆ ได้อีก
ถ้าตอนนี้มีอะไรนิดหน่อยมากระทบ
บอกเลยสิ้นสติแน่ ๆ กุพร้อมจะชิ่งพร้อมจะทิ้งทุกอย่างได้เสมอ

กุพยายามจะทดลองยัดเยียดสิ่งนั้นสิ่งนี้ให้มันเกาะเกี่ยว
เอาไว้ยึดเหนี่ยวแอบอิง แต่มันไม่รับสักอย่าง
พยายามสร้างศรัทธาขึ้นมาเอง
แต่มันก็ยังห่างไกลนัก มันเป็นเรื่องยาก
ไม่ได้ทำกันได้ง่าย ๆ
กุทดลองมาหลายต่อหลายวิธีแล้ว
กุก็ยังรอคอยนะ
ยังเปิดใจหวังว่า สักวันสิ่งที่รอคอยจะรู้จักการเสียสละที่แท้จริง
ยังแอบหวังเล็ก ๆ ลึก ๆ เสมอว่า น้ำตาที่มีมันจะเปลี่ยนเป็นพลังได้

ยังคิดอยู่ทุก ๆ วันว่า ความเลวร้ายที่มันเกิดขึ้นจะสร้างบารมี
ให้กลับกลายปรับเปลี่ยน กุยังหวังแม้จะรู้อยู่ว่า
มันอาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นก็ได้ กุจะยังหวังจนหมดลมหายใจ
ยังแอบหวังว่าศรัทธาจะกลับมาตั้งไว้ที่เดิม

ถ้าตอนนี้ มีอะไรที่มันเปราะบางมาก มากระทบ
แล้วกุจะวางใจ วางลมหายใจทุก ๆ วัน
ไว้ที่อะไร

แค่จะยอมรับความจริง กุยังทำไม่ได้ดีเลย

กุไม่มีหน้ากล้าไปเคลียร์หรอก
ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ดีอยู่ ว่าแค่ให้อภัยตัวเองยังทำไม่ได้
ถ้ามันต้องมีอะไรที่เรียกว่าฉิ-บหายเกิดขึ้นอีก
แล้วกุจะตายในสภาพแบบไหน?????

อยู่ก็ไม่เป็น จะตายก็ไม่ได้
มีอะไรทรมานกว่านี้ไหม..

อยากจะทำอะไรก็ได้หมดแหละ
แต่เมิงต้องเก็บวันเวลาให้ครบก่อนไง
รีบ ๆ เก็บเลย
อยากได้อะไรก็ต้องอด
เกลียดสร้นตรีนหมาอะไรก็ต้องทน
สิ่งอย่างจำพวกนั้นมันก็แค่เบี่ยงเบนความสำคัญ
มันก็เป็นได้แค่สิ่งยั่วยุ
ก้าวข้ามตัวเองให้ได้
กุไม่ได้กลับมาเพื่อจะมายอมแพ้
ลมหายใจกุไม่ได้มีไว้เพื่อเห็นความพังพินาศ
กุกลับมาเพื่อจะมาทวงคืน
แล้วกุก็ต้องได้ไง
ทุกสิ่งอย่างมันสำคัญหมดแหละ
แต่เมิงก็ต้องสำเหนียกไว้ด้วยนะนังยาย
มันสำคัญพอจะแลกกับความฉิ-บหายไหม?
มันสำคัญเท่าดวงตะวันวันฟ้าใสของกุไหม?

ณ ที่ของกุคือความสงบสุข
อะไรที่มันไม่ใช่ อย่าไขว้เขว.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 5 สิงหาคม 2560 เวลา:1:29:36 น.  

 
#วันที่๑๙๒,๑๙๓ เบลอ ๆ หน่อยนะ สองวันนี้
ทำอะไรไม่ได้ดังใจหลายอย่าง
ฟ้าฝนดูไม่ค่อยเป็นใจกับกิจกรรมที่ต้องการ
ติดขัดไปหมด กลับบ้านดีกว่า
เอาเวลาไปอยู่กับเด็กน้อยสองคน

เขาเริ่มมีการรู้จักใช้อารมณ์สนุกสนาน เบื่อหน่าย
นายคนโตสามารถปั่นจักรยานสองล้อได้(ปกติปั่นสี่ล้อ)
รู้จักบอกความต้องการ รู้จักการตอบโต้ ใช้อารมณ์และควบคุมอารมณ์

นายคนเล็กนิสัยไม่ดี กร้าวร้าว หยิงยโส ชอบเอาชนะ
นายคนโตชอบดูถูกตัวเอง กวนตรีนมากขึ้นไปอีก

เริ่มรู้จักความสัมพันธ์ในครอบครัว และสำหรับบ้านที่มันแตกสาแหรก มันก็จะมีปัญหานิดหน่อย
เขาเริ่มบอกความต้องการว่า พ่อเขามีคนเดียว
ส่วนแฟนใหม่แม่ ถ้ามีขนมมาให้ ก็รัก แต่ถ้าไม่มีขนมมาให้
ก็ไม่รักนะจะบอกให้
ส่วนนายคนโตก็เริ่มรู้ตัวเองว่าเป็นส่วนเกินในชีวิตของแม่
ระยะหลัง ๆ ที่ป้ากลับบ้าน เขาจะปลีกตัวมาอยู่ด้วย
แล้วก็ขอให้ป้าอยู่นานขึ้น เมื่อรู้ว่าป้ามาไม่นาน
เขาจะแสดงอาการผิดหวังอย่างชัดเจน

ตอนที่เขาเห่อใหม่ ๆ ป้าชวนไปไหนเขาจะปฎิเสธ
อ้างว่าติดแม่ แต่หลัง ๆ มานี่
ไม่ยอมติดแม่แล้ว ขอนอนกับป้าดีกว่า
ไม่ค่อยได้เห็นอะไรแบบนี้เท่าไรนัก

ถ้าคิดถึงเรื่องการเอาตัวรอด
เขาทำได้ดีแล้ว แทบจะทุกอย่างที่เสี้ยมกันมา
นายคนโตเขาจะมีความมั่นใจมากเมื่อได้เดินทาง
หรือเมื่อออกจากบ้านไปไหนไกล ๆ
เขาเห็นการเดินทางเป็นเรื่องปกติ มันออกจะแปลก ๆ หน่อย
สำหรับเด็กในวัยเดียวกัน
สำหรับนายคนเล็ก เขาก็มีพี่เป็นไอดอล
เขาก็มีความต้องการจะไปไหน ๆ ก็ได้บ้าง
แต่ความที่ด้อยประสบการณ์ มันก็จะเพลีย ๆ หน่อย
ยังควบคุมตัวเองได้ไม่เต็มที่ ยังอั้นฉี่ไม่ได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น

เรื่องความอึดสำหรับเด็กสองคนนี้ หายกังวล
แต่กับอีกบ้านหนึ่ง ความอึดไม่มี
เขาถูกปลูกฝังมากันคนละอย่าง
พี่ต้องใช้ความอดทนมาก ๆ ที่จะใส่อะไรให้
ยุ่งมากก็ไม่ได้ ผู้ปกครองเขาอาจไม่พอใจ
เพราะดูแล้วเขาไม่ได้ต้องการให้ลูกหลานเขาไปพบกับความลำบาก

ช่วงที่กำลังจะเข้าใจชีวิตได้ดีตอนนี้
พี่ต้องพยายามกลับบ้านบ่อย ๆ
นายคนโตเป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว
ถ้าสื่อสารกับเขาเข้าใจ เขาจะจัดการชีวิตได้ดี
แต่เท่าที่เห็น คือ ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะบอก
นายคนโตก็เลยดูจะเป็นเด็กที่น่าสงสาร
เขามีจินตนาการที่สูงล้ำ
นายคนโต บอกป้าว่า ขอเครื่องปั่นสักเครื่อง
พาไปดูของจริงที่อยากได้ ราคามันอยู่ที่ เจ็ดพันบาท บวกบวก
คือมันใช่ของเล่นเด็กไหม? ถามแบบนี้ นายฯ ตอบว่า
ก็ไม่ได้จะเอามาเล่น จะเอามาใช้งานจริงจัง
เขาต้องการเอามาปั่นน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ
เขาคิดค้นสูตรของเขาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำแบบนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ

ป้าต้องซื้อแบบนี้ ๆ ๆ ๆ ไปให้นะ ควักตังค์ให้ด้วย
เก็บมาจากค่าขนมที่เหลือแต่ละวันมา
คือก็รู้นะว่า ทำอะไรต้องมีต้นทุน แต่ตอนนี้มีเงินอยู่แค่นี้
ที่เหลือป้าจ่ายให้นะ เราเป็นหุ้นส่วนกัน

อิห่านจิก แล้วใครจะไปเข้าใจเมิ๊งงงงงง
กุเสี้ยมเมิงมากับมือ กุยังเกาหัวแกร็ก แกร็ก

แล้วนังยายก็ต้องมีหน้าที่สนับสนุนความฝันให้เป็นความจริงใช่ไหม
ขายฝันมาตั้งไกลแล้วนี่ เหลืออีกนิดหน่อย
กุมีหน้าที่สืบทอดความฝันให้เป็นความจริง
เข้าใจเลย ตอนเป็นเด็กกุก็เป็นแบบนี้แหละ
แต่ไม่มีใครมาสนับสนุนความฝันของกุ
มันก็เลยค้างเติ่งจนกระทั้งทุกวันนี้
ตอนเป็นเด็กฝันอยากมีโลกเป็นของตัวเอง
โลกที่กุอยู่คนเดียวกับสวนดอกไม้และผีเสื้อแสนสวย
ไม่มีมนุษย์ขี้เหม็น ๆ คนใดอยุ่ด้วยกัน
ทำได้แค่ สร้างบ้านมุงด้วยกิ่งใม้ใบหญ้าหลังเล็ก ๆ
อยากอยู่ในโลกคนเดียว ก็เดินออกไปไกล ๆ ห่างบ้าน
ห่างผู้คน เมื่อไม่เจอใครก็เท่ากับเราได้อยู่คนเดียวแล้ว
ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และในที่แคบ ๆ มันก็มีความหมายนะ
55555555555555555555555555555

ตอนนี้นายคนโตเริ่มที่จะคิดค้นสูตรอาหารที่ตัวเองชอบ
เมื่อวานพาไปซื้อของใช้
เขาขอกดน้ำดื่มจากตู้กดน้ำดื่มด้วยตัวเอง
บอกว่าอยากได้มาตั้งนานแล้ว
แต่ขอใครก็ไม่มีใครให้สักคน
พอป้ายอมพาไป ได้มากินแล้วทำท่าดีใจเหมือนได้ทอง
ขอให้เล่านิทานให้ฟัง
ขอดูโดนัลดักซ์
แล้วก็ดูการ์ตูนฝรั่งอีกสองสามเรื่อง
ก่อนจะนอนเขาบอกความลับอย่างหนึ่งให้ป้าฟัง
"ป้า ๆ มะของป๋าถามว่าทำไมป้าไม่ยอมแต่งงานซะที ..มินก็เลยตอบไปว่าป้าโตจนแก่แล้ว ป้าก็เลยเลิกคิด..แล้วเขาก็เลยไม่ถามอีก" นายฯ ดูภูมิใจกับคำตอบที่ให้ย่าเขามาก
พี่นี่อยากจะบอกว่า ทีหลังบอกไปนะ ว่าป้าเขากลัวลูกป้าจะเป็นเด็กบ้านแตกเหมือนมินไง ก็เกรงว่าจะกระทบใจนายฯ
กุเงียบเสียก็ได้

......................................
อะไร ๆ เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง
ขอเวลาอีกสักพัก อย่าเพิ่งมีอะไรมากวนใจ
มีหน้าที่ขายฝัน ก็จงพยายามขายมันต่อให้ให้ได้กำไรเยอะ ๆ
ต้องติดตามกระตุกกระตุ้นกันบ่อย ๆ
ให้คิดเอง ยังคิดกันไม่ได้
ต้องแอบหยอด ๆ ทิ้ง ๆ ทำฝันหล่น ๆ ร่วง ๆ
ให้คอยเก็บ ให้คอยติดตาม
เป็นอะไรที่ ถ้ายัดเยียด จะไม่ค่อยชอบ
ดูจะสำลักความฝันกันเกินไป

ทุกวันนี้ พี่ชายนังยายมันยังคิดเลย
เพราะความอยากที่จะมีเห็ดทำเองไว้กินเล่น ๆ
จากที่ซื้อเชื้อมาแค่สี่ก้อน เลี้ยงดูไว้ระเบียงหลังห้อง
เอาไปหย่อนไว้ บอกเลี้ยงง่าย ดูแลง่าย
จนทุกวันนี้ เขาคิดต่อยอด สร้างโรงเรือน
ทำท่อรดน้ำ แล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณจนเก็บได้ทุกเช้า-เย็น

อ่อยไปเรื่อย ๆ ให้ค่อย ๆ ทำ
กระตุ้นต่อมอยาก อยากได้อะไร
ปล่อยให้อยากไปก่อน ก็แค่อยากรู้ว่า
ต้องการมันจริงจัง หรือแค่กิเลสแดรกกบาล
ปล่อยให้บ่นไปเรื่อย ๆ จนหนัก ๆ เข้า
เขาจะรู้จักวิธีการทำเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากมาเอง

แบบนี้ ค่อยหายเหนื่อยหน่อย

วิธีการของนายคนโตก็เช่นกัน
อยากได้เครื่องปั่นใช่ไหม?

บ่นไปเรื่อย ๆ ก่อน
มันมีตั้งหลายวิธี ที่จะทำให้วัตถุดิบละเอียดกลายเป็นน้ำโดยไม่ต้องปั่น
แค่จะทำน้ำ ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง

กลับบ้านอีกคราวนี้จะซื้อเตาถ่านให้เล่น
อยากเล่น ก็ต้องเริ่มเล่นจากของโบราณ
แล้วค่อยพัฒนาการขึ้นไปเรื่อย ๆ

ความยากลำบาก ไม่เคยทำร้ายใคร
มันมีแต่จะทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

ความเหงาก็เช่นกัน ยิ่งเหงาเท่าไร
มันจะยิ่งทำให้เราเข้าใจและเห็นใจตัวเองมากขึ้นว่า
อะไรเป็นความต้องการจริง ๆ
อะไรเป็นได้แค่ความเพ้อเจ้อหลงใหล

เจนกลางคนและเจนเด็กน้อย
เกือบจะเห็นเป็นรูปร่างขึ้นมาบ้าง
จะเหลือก็แต่เจนไม้แก่ที่ดัดยากเอามาก ๆ
คิดไม่ออกเลยนะ ว่าจะไปเริ่มต้นที่ตรงไหน
ไม่มีใครยอมใครเลยอ่าาา

ยากแค่ไหนก็ต้องทำ
หมดสิทธิ์ท้อแม้แต่จะคิด

แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งนะ
กลับบ้านที่ไร ใจมันแข็งแกร่งขึ้นทุกที
บ้านก็ใช่ว่าจะสร้างความสุข เสียงหัวเราะได้สักเท่าไร
มีเรื่องขัดหู ขัดตา ได้ตลอด
แทบจะไม่มีใครเลยที่ทำให้เราสบายใจ
ดูออกจะวุ่นวายด้วยซ้ำไป แต่เราแม่งไม่เก็บเอามาใส่ใจสักเรื่อง
มองเป็นไม่ใช่เรื่องของกุซะงั้น
ไม่รู้สึกผูกพันกับคนในบ้าน
รู้สึกไม่ได้แตกต่างกับการไปเที่ยวอยู่ตามโฮมสเตย์
ทำไมกุนั่งอยู่ที่นี่แล้วชอบเหลือเกินที่จะเก็บตรงนั้นตรงนี้มาใส่ใจ
ทำไมเHี้ยนั่นถึงได้เลวเห็นแก่ตัวเช่นนี้นะ
ทำไมอินี่ถึงโง่ดักดานนักหนาฟร่ะ
ทำไมงกหนักหนาตายแล้วเอาไปได้ไหมฟร่ะ
ทำไมกุต้องตกเป็นเครื่องมือหาแดรกของคนพวกนี้ด้วยฟร่ะ
กุคิดทำไมฟร่ะ
ทำไมนังเด็กนั่นถึงปากมอมขนาดนี้ฟร่ะ
กุคิดทำไม๊หนักหนา
แล้วกุก็นั่งร้องไห้ เรื่องสร้นตรีนหมา
ก็แค่คนเนรคุณคนระยำชาติสร้นตรีนหมา ๆ คนหนึ่ง

เออกุคิด คิดทำเHี้ยไรเนี่ย
เอาใหม่นะนังยาย
เปลี่ยนเบนเข็มคิดในมุมแคบลงแต่ตั้งเป้าหมายให้มันใหญ่ ๆ เข้าไว้ เลิกคิดแบบกว้าง ๆ มุมขยายเผื่อแผ่ทำสร้นตรีนหมาไร
ไม่ต้องแล้ว เรื่องของใครของมัน
ชีวิตใครชีวิตมันนะ เอาแคบ ๆ เข้าไว้
ถ้าไกลห่างตัวออกไป ไม่ต้องคิดถึงเลย

ตอนนี้มีหนึ่งชีวิตที่นี่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงเขาให้ดีขึ้นทุก ๆ ด้าน
เปลี่ยนคนนี้ได้ จะมีประโยชน์ถึงห้าชีวิตรวมเขาด้วย
นอกนั้น เรื่องของพวกมัน
ชีวิตใคร ชีวิตมัน.




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 7 สิงหาคม 2560 เวลา:22:46:44 น.  

 
#วันที่๑๙๔ ทำความเข้าใจ.
อยู่กันมาสามสัปดาห์แล้ว พอจะอ่านอะไรได้เกือบทั้งหมด
คนนี้เป็นพวกไม่ซับซ้อน อ่านไม่ยาก
โชคดีที่บ้านของนางอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านของน้าของนังยาย
น้าเป็นสะใภ้ของคนที่นั่น เป็นกลุ่มคนที่นับว่าร่ำรวยมากครอบครัวหนึ่ง

ตอนเด็ก ๆ จำได้ดีว่า น้ามักจะพานังยายมาอยู่ด้วย
เหมือนกับที่พี่เอานายมาเลี้ยงนี่แหละ
พี่ก็โตมากับสังคมแบบนี้ มันเลยทำให้เราเข้าใจเขาได้ไม่ยาก

ข้อเสียในการที่ทำให้เขาเกิดความไม่มั่นใจ คัดมาเลยนะ ๑๐ ข้อก็พอ
- รูปร่างอ้วนเกินไป จนบางครั้งเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
- มีบุคลิกไม่ดี
- ผิวหน้าไม่ดี
- ความรู้และประสบการณ์ยังไม่เพียงพอ
- ไม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- ขาดความรอบคอบ
- ไม่มีความเป็นผู้นำ ขาดความเชื่อมั่นในตนเองมาก
- ไม่แรงส์
- ทำงานแบบขอไปที ไม่ใส่ใจเท่าที่ควร
- มีความกังวลต่อครอบครัว แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้

ที่จริงข้อเสียอื่น ๆ ก็ยังมีอีกเยอะ แต่พี่คิดว่ามันไม่สำคัญ
มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาน่าจะหัดปรับปรุงตัวเองเพื่อความสุขส่วนตน เอาเท่าที่มันเป็นอุปสรรคต่อการทำงานก็พอ

แต่ส่วนดีเขาก็มีนะ ต่อไปนี้คือ ข้อดีที่พอจะมองเห็น
- มีความซื่อสัตย์
- พูดจาดี นอบน้อม
- ควบคุมอารมณ์ดี ไม่แสดงสีหน้า
- ปฏิบัติตามคำสั่งได้
- มีท่าทีประณีประนอม
- เรียนรู้เร็ว (จากคำบอกเล่าของเขาเอง)
- มีความตั้งใจพัฒนาตัวเอง
- ไม่มีนิสัยปฏิเสธไว้ก่อน ต่อล้อต่อเถียง
- ไม่เป็นคนปากว่าตาขยิบ
- ไม่คิด เอาใจ นังยาย!!!!

เฮ้ยยยย!!! ปวดกบาลเวลาต้องมานั่งคิดเรื่องชาวบ้านเนี่ย
เขาจะเครียดเรื่องตัวเอง อย่างที่กุเครียดเรื่องของเขาไม่ฟร่ะ

กุก็แค่อยากให้เขารู้สึกมีความมั่นใจในตัวเองมาก ๆ
ให้คนอื่น ๆ ยอมรับไว้วางใจในตัวเขาเท่า ๆ ที่มีให้กุไง
ก่อนจะทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวเขา ก็ต้องทำให้เขาเชื่อมั่น
และมั่นใจในตัวเองมากๆ ก่อน
ข้อเสียแรก ที่ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ นะ
ตอนแรกอ่ะ รู้แหละว่าเขาอ้วน ก็รู้ว่ามันดูไม่ดี แต่ไม่เคยคิดเลยว่า
มันจะเป็นอุปสรรคในใจเขามากขนาดนี้หรอกนะ
สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะคนที่นี่มีแต่ผอม ๆ ทั้งนั้น
โดยเฉพาะกุเนี่ย ผอมเข้าขั้นมากเลยแหละ
กุไม่เข้าใจหรอก ว่าคนที่ต้องบ่นว่าตัวเองอ้วน
ต้องลดน้ำหนัก เขารู้สึกกันเช่นไร
เพราะชีวิตของกุมีแต่ต้องเพิ่มน้ำหนัก เลยไม่เข้าใจ
แล้วก็แทบจะไม่กล้าที่จะชวนเขาพูดคุยปรึกษาหารือ
เกรงว่าเขาจะคิดว่าไปตอกย้ำซ็ำเติมจุดด้อยของเขา
ไม่รุ้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดี

อย่างวันก่อนที่คิดว่า มันตันมาก หาทางออกไม่เจอ

และแล้วโชคก็เข้าข้างนังยายจริง ๆ เดชะบุญ
กุก็อยู่ของกุดีดีนี่แหละ

เขาคงเห็นว่า กุนั่งทั้งวันทั้งคืน น้ำไม่อาบ หน้าไม่ล้าง
ทำไมหน้ากุดูไม่หมองไม่ดำ "ใช้ครีมอะไร?"

เปิดประเด็นมา!!!! อยากรู้ใช่ไหม?
ได้เลยจร้าาาา กุก็ถือโอกาสทองอันนี้ซอกแซกได้อย่างใจหวัง
ถามเปิดทางกุก่อนนี่ ก็เท่ากับอยากรู้ใช่ไหม ว่าตัวเองต้องปรับปรุงตัวอย่างไรให้ดีขึ้น
กุก็เลยถือวิสาสะถามทุกเรื่องจนปิดเคสได้ทันที
เรื่องแดรกเผือกไว้ใจนังยาย
555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555
555555555555555555555555555555555555

บอกแล้วสิบข้อดีและข้อเสียที่คัดมานี่จิ๊บ ๆ
เมื่อเอามารวมกับสัมคมบ้านน้าตอนที่เคยไปสัมผัสมาตอนเด็ก ๆ
มันเลยทำให้เราเข้าใจองค์รวมได้ทั้งหมด

นางเป็นคนที่ไม่ได้มีผิวดำมาแต่กำเนิด
แต่เพราะต้องกรำงานหนัก
มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย
และไม่รู้จักการดูแลปรนนิบัติเอาใจใส่ผิวพรรณตัวเอง
มันก็เลยทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของนางเกินอายุจริงไปกว่ายี่สิบปี

หนำซ้ำยังชอบกินน้ำอัดลม
ไม่กินอาหารเช้า
กินกาแฟเป็นหลัก
ตากแดดเป็นประจำ
ทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทักษะการใช้ชีวิตจึงน้อยมาก ๆ

การไม่ชอบอ่านหนังสือ
และมักคิดเสมอว่า ที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เป็นบททดสอบจากพระเจ้า
โดยไม่คำนึงถึงว่า ตัวเองได้พยายามจนถึงที่สุดแล้วหรือยัง
มีอะไรผิดพลาดตรงไหนบ้างหรือไม่
โทษปัจจัยภายนอกมากเกินจำเป็น

บลา บลา ๆ

วันที่นางถามพี่ว่า "ใช้ครีมอะไร?"
ตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลย "ไม่ได้ใช้อะไรเลย"
นางบอกไม่เชื่อหรอก ทำไมหน้าไม่มีอะไรเลย เกลี้ยงไปหมด
ไม่มีฝ้า ไม่มีสิว ไม่มีริ้วรอย

อ่าวไม่เชื่อกุอี๊ก เชื่อกุเถอะ
ที่กุไม่ใช่เนี่ย เพราะกุลองใช้แล้วกุแพ้แม่งหมดทุกอย่างเลย
ไม่ใช่ไม่อยากใช้นะ ใช้แล้วแพ้ เลยไม่ใช้
ดูดิ๊เนี่ย หน้ายังไม่ล้างเลย
555555555555555555555555555555555555

ถามว่าทำไมหน้ากุเด็ก
กุเลยร่ายให้ยาวเลย
กินอะไรเป็นอาหารล่ะ?
อะไรที่มันเป็นขยะ อย่าไปกิน
อยากให้หน้าเป็นยังไง ก็เลือกกินในสิ่งที่หน้ามันต้องการ
ก็เล่ากันยาว
น้ำอัดลม พี่ไม่กินจ้ะ น้ำตาล ของหวาน ของจุกจิก
ถ้าไม่เดินทาง ไม่เครียด ก็ไม่แตะขนมนะ
แต่ถ้าเครียดจะยัดห่านขนม เมื่อก่อนแดรกเหล้าเวลาเครียด
พอมันกินแล้วไม่เป็นผลดีกับเลือดก็หยุดและเลิกแดรกไปเลย
แดรกขนมก็หายเครียดได้

พยายามมากที่จะพูดจาไม่ดี
พยายามยั่วยุ แต่นางก็เก็บอารมณ์เก็บสีหน้าได้ดีมาก ๆ เลยนะ
เออเจ๋งว่ะ

ที่ชอบนางที่สุดตอนที่ นางแม่งไม่คิดจะเอาใจกุเลย
แตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา
เอาโน่นเอานี่มาเอาใจ เพื่อ??? ไม่ต้อง

ทุก ๆ เช้า นางเข้ามา นางจะทักทายแล้วจบ
ถ้าไม่สั่งอะไรให้นางทำ นางก็จะนั่งของนางเฉย ๆ ทำไรไม่เป็น
5555555555555555555555555555555

จนเด็กบ่น ถ้าพี่ไม่อยู่ไม่ทำอะไรเลย
ต้องให้เด็กสั่งให้ทำงาน ซึ่งมันไม่ใช่ นางต้องสั่งเด็กต่างหากล่ะ

..........................................

พี่ไม่ได้มีเวลาเยอะแยะที่จะช่วยให้เขาพัฒนาตัวเองได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้เหมือนชีวิตกุจะต้องการแดรกด่วน
มากกว่าการกินอยู่อย่างพิธีรีตอง กุมาไวไปไว

อีกอย่างหนึ่งเรื่องครอบครัวของนาง
ที่นางเล่าว่ามีผู้พิการอยู่ถึงสองชีวิต
นางพูดเหมือนประหนึ่งว่าสองชีวิตนั้นเป็นภาระ
คนเราอะนะ มีอวัยวะอยู่สามสิบสองอย่าง
ถ้ามันจะใช้งานได้ไม่เต็มที่แค่อย่างเดียว
มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อชีวิตป่ะวะ??

กุกล้าพูด เพราะกุมีญาติอยู่คนหนึ่งที่เป็นแบบนี้
แต่แม่งเอ๊ยยย จะบอกให้ เขาเก่งกว่ากุอี๊ก
เพราะอะไรล่ะ? เพราะเขาไม่ได้คิดว่า
ความพิการนั้นเป็นอุปสรรคต่อชีวิตเขายังไงล่ะ

แต่เนี่ยเขาเลี้ยงดูกันแบบขาดเป็นสิ่งหนึ่ง
ชีวิตมีปัญหาทั้งชีวิต
มันต้องปรับที่ความคิดเขาหนัก ๆ เลยอะ
กุคงไม่มีเรี่ยวแรงจะไปจัดการถึงตรงนั้นหรอกนะ
ตอนนี้ขอแดรกกบาลเธอคนนี้ให้สำเร็จก่อน
เมื่อแดรกกบาลเธอสำเร็จ
ชีวิตที่เหลือให้เธอไปจัดการของเธอเอาเอง

กุนะ จะปรึกษานักจิตฯ แม่งคิดค่าคุยกุสิบหน้านาทีตั้งแปดร้อย
จากที่กุดูเหมือนจะจิตหน่อย ๆ ซึม ๆ เศร้า ๆ
ความซึมนี้เตลิดเลย เมื่อเจอความงกของกุ
ซึมเHี้ย เศร้าสร้น่ตรีนหมาไรล่ะ

แค่จะคุยปรึกษานิดเดียว คิดกุตั้งมากมาย
ไม่จำเป็นเลย สัส
กุคุยของกุคนเดียวก็ได้

นักจงนักจิตฯ วุ้ยยยย

พอแระ ปวดกบาลกับเรื่องชาวบ้าน
ไปนอนยาย
ร่างกุมันบอกว่า ไม่ค่อยโอเค เหมือนจะแดงเดือด
อยากอ้วก มรึน เจ็บหัวข้างเดียว

ไม่ได้เป็นแบบนี้มานานแล้ว
เดือนนี้ดูแลตัวเองไม่ดี.

... สังขารจ๋า กุขอโทษ ...


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 8 สิงหาคม 2560 เวลา:2:19:54 น.  

 
#วันที่๑๙๕ ครั้งที่๑และนังยายก็พลาดแบบตั้งใจ.

วันนี้ออกจะเหนื่อยกว่าทุกวัน
เมื่อคืนน้ำไม่ไหลแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาของพี่นะ
มันเป็นเรื่องของเพื่อนบ้านที่ปฏิเสธไม่รับรู้ก็ไม่ได้
พอตกเย็นไฟดับ และดับเป็นบริเวณกว้าง
มันก็ไม่ใช่ความผิดและไม่ใช่หน้าที่ของนังยายอีก

แต่ค่ะ แต่... มันก็ยังมีคนพยายามยัดเยียดให้กุเข้าไปเกี่ยวด้วยจนได้ ตามสันดานของคนเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวไม่ยอมเข้าใจสร้นตรีนหมาอะไรเลย จริง ๆ เลยมนุษย์ขี้เหม็น ๆ เนี่ย

ทำท่าจะออกมาโวยวาย ไม่ใช่จะโง่นะ
ดูเป็นคนฉลาด ฉลาดเอาแต่ได้
แต่ไม่ยอมจะเข้าใจอะไรเลย

คุยไปคุยมา อ้าวววว อินี่ เอาแต่ประโยชน์ตัวเองนี่หว่า
นังยายเลยรีบตัดบท

เอารถยนต์มาไหม?
ลองไปขับ ๆ ตะเวนหาเอาที่อื่นสิ
ฟากโน้นอาจจะมีที่ที่ดีกว่านี้

ตอนแรกนางเถียงว่า นางก็เสียประโยชน์สิ จ่ายเงินแล้ว

"ก็จะคืนให้ไง ไปหาให้ได้ก่อนแล้วเอ้าท์ออกไปเลย"

ไม่ไปอ่ะ ขี้เกียจแล้ว!!!!

สัสแล้วจะมาบ่นทำเHี้ยไร กุคิดดัง ๆ ในใจว่ะค่ะ

กุแม่มมม โคตรเบื่อมนุษย์ขี้เหม็นๆ พวกนี้เลย
ไม่เอาอะไรสักอย่างแต่อยากจะบ่นทุก ๆ อย่าง
กุใจไม่เย็นพอจะมีเมตตาคิดว่าเป็นเพราะเขาน่าสงสารได้หรอกนะ

กุมันไม่เคยมีอะไรดี แต่ยื่นข้อเสนอไปสิคะ
อยากไปไหนตามใจท่านเถิด ไปที่ชอบ ๆ ตามสะดวกใจเลย
ไม่เคยจะไปจากกุ ร๊ากกกกก รักกุเหลือเกิน

ตัวเลือกแม่มมีร้อยแปดพันเคหะสถาน
โลกก็มีคนเป็นล้าน ๆ ๆ
แต่กุต้องมาเจอแต่คนประเภทเนี่ย ไม่สูญพันธุ์ซะที
ที่ไหน ๆ ก็มีเหรอฟร่ะ????

คือนับว่าเป็นโชคดีของชีวิตแล้วใช่ไหม?

...........................................

พยายามที่จะมองหาตัวเองนะ
มองว่า กุเป็นคนประเภทเดียวกับที่ว่านี้หรือเปล่า???

เวลาที่กุไปอยู่ในอาณาจักรของคนอื่น
กุออกจะเจียมตัวนะ กุจะบอกให้
กุไม่เคยอวดเก่งอ้างว่า ตัวกุนี่รู้อะไรบ้าง เลย

ทั้ง ๆ ที่กุก็รู้นะ ถ้ากุแอบอ้างว่าตัวเองทำอะไรไป
คนพวกนั้นจะพยายามเอาใจ พยายามหาประโยชน์ร่วม
แต่ไม่อ่ะ กุเกรงใจ กุก็ไปแบบคนไม่มีอะไร ไม่รู้อะไร
แต่อย่ามาเอาเปรียบหลอกลวงกุนะ เมิงไม่ได้แดรกกุหรอก

นึกถึงยัยเจ้ที่จะแดรกตังค์กุกับวินาทีเดียว
ถ้าคนพวกนี้เจอยัยเจ้นะ สะอึก!!!
บนหน้าปฐพีเนี่ย ใจดีเกินกุก็นางฟ้าแล้ว สัส!!!

พยายามจะมาคอมเพลนนี่นั่นอวดภูมิว่ากุล่ะอาชีพนี้ๆๆๆๆนะ
สัสกุนี่โคตรสงสารลุกค้าเมิงเลย
ถ้าเขารู้อย่างที่กุรู้เขาจะเอาความเชื่อมั่นมาจากไหน
ถามนี่ถามนั่นแต่เสือกไม่เข้าใจคำว่าสุดวิสัย
เดชะบุญนะที่กุไม่เลือกจะทำอาชีพเดียวกับนาง
รู้สึกขอบคุณตัวเองหนัก ๆ ก็วันนี้แหละ.

วันเมื่อวานเป็นวันครบรอบสามร้อยวัน
มันเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ เหรอ? ถึงเวลาที่ต้องยอมรับมันให้ได้จริง ๆ
แล้วใช่ไหม?
ทำไมใจกุยังเหมือนเดิมเลย
อย่าอาวรณ์
อย่าเสียใ่จจนเพ้อเจ้อ
อย่ารักแบบเห็นแก่ตัว
แต่กุร้องไห้ได้เปล่า????????????????????

แค่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ
รับรองว่าจะไม่ให้ใครเห็นน้ำตา
ถ้าวันไหนมันเหนื่อยมาก
เหงื่อมันก็แค่ไหลออกทางตา
วันไหนใจมันดีหน่อย
เดี๋ยวมันก็หยุดไหลไปเองมั้ง

กุตัดสินใจแน่วแน่แระนะนังยาย
เสร็จงานพระราชพิธีฯแล้ว กุจะไม่นั่งที่นี่อีกแล้ว
ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยหมดพลังกับอะไรได้เท่าที่นี่เลย
ชีวิตที่นี่เหมือนจะดีมากที่สุด
ใคร ๆ ก็มักจะพูดว่าน่าอิจฉา เฉพาะคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง
แต่พอถามว่า มาไหม?
มาอยู่แทนกุ ไม่มีใครมาสักคน

มีใครคนหนึ่งเคยบอกพี่ไว้
การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิต
แล้วไงต่อล่ะ แล้วกุจะเดินต่อไปทางไหน???????????????

ไปที่ชอบ ๆ
อยากไปที่ไหน ก็ไปที่นั่น
ออกไปได้เมื่อไรจะรอนแรมเรื่อยเปื่อยสักหนึ่งเดื่อน
แล้วค่อยคิดต่อว่า จะเดินไปทางไหน

กุคงทนอยู่สภาวะจิตตกทุกครั้งที่เผลอแบบนี้อีกได้ไม่นาน




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 10 สิงหาคม 2560 เวลา:0:28:06 น.  

 
#วันที่๑๙๕ครั้งที่๒,๑๙๖ เบื่อจะคิดแทน

ความคิดของเราเนี่ย
มันสำคัญนะ.

มันเป็นตัวกำหนดทุก ๆ การกระทำ
และการแสดงออกของแต่ละบุคคล

เป็นอะไรที่บางที พี่ก็คิดนะ
นี่กุเสียเวลาไปนั่งคิดเรื่องชาวบ้านจนหมดเวลาทำเรื่องของตัวเอง
มากเกินไปรึเปล่า????

คิดแทนแล้วเราทำอะไรได้ ชีวิตเขาป่ะวะ????

ก็ใช่ไง ชีวิตเขา คิดให้ ชี้แนะให้
ออกคำสั่งให้ แต่ถ้าเขาไม่อิน ไม่เข้าใจ
สั่งไปก็เหมือนทำทำไปแบบขอไปที

กุนี่อยากแดรกกบาลเอาจริง ๆ

วันก่อน สั่งจนทำไรไม่ได้ดังใจ
กุทำเองก็ได้วะ

พอทำเองก็ต้องรอช่างไง
กลางคืนไม่ได้นอน แถมยังต้องนั่งรอทั้งวันอีก
กุก็เพลีย
กุก็อยากหลับ พักสายตา
พอลืมตาขึ้นมา อ้าวววว!!!

นี่นอนแข่งกะกุอ่อ
5555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555

นอนจนแบบ กุยอมแพ้อ่ะ
ต้องลุกหนี

กุยอมว่ะค่ะ

ยอมใจเลยจริง ๆ

บอกให้อ่านหนังสือ อ่านทุกวัน หยิบหนังสือเล่มที่พี่ใช้หลักคิดประจำมาให้อ่าน ค่อย ๆ อ่านไปวันละหน้าก็ยังดี
ก็หยิบอ่านนะ แต่อ่านแต่หนังสือดารา เล่มที่กุไม่เคยแนะนำเลย

บอกให้เลิกกินน้ำอัดลม อาหารขยะ ไม่มีประโยชน์กินแล้วอ้วน
ก็ยังเห็นซื้อขนมขยะกินกับน้ำอัดลมทุก ๆ วัน

บอกให้ถามพี่ทุกเรื่องที่สงสัย ไม่ถาม
พอไม่เข้าใจไปถามคนอื่น คนที่เขาไม่ได้มีหน้าที่ตอบ. วู้ย

พอพูดอะไรแรงส์ ๆ ก็ทำท่าจะร้องไห้

บอกกระทั่งว่าดูระเบียบนะ ท่องให้จำ
อ่านให้เข้าใจ จะพูดอะไรดูระเบียบก่อน เขียนไว้ยังไง

ให้สิทธิ์พูดหรือเปล่า ถ้าระเบียบไม่ได้บอกให้พูด ไม่ต้องพูด
เรื่องส่วนตัวไม่ต้องเอามาพูด

ชอบให้สั่งเหรอ?

หรือว่าพี่คาดหวังมากเกินไป?????

บางทีอาจจะต้องมีการปรับย้าย
ถ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ ก็ต้องย้ายไปอยู่ในที่ที่เหมาะกับเขา

ที่เกลียดที่สุดเลยคือ การอวดรวย เพื่อไรวะคะ????

การชื่นชมคนนี้รวย คนนี้รวย เกี่ยวไรกะกุล่ะ?????

จริตและเคมีต่อต้านอย่างรุนแรงเลย กุอยากตายยยยย...

สาสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

กุต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเลยใช่ไหม?
ที่ผานมามันใช้ไม่ได้ทั้งหมด

เราคิดว่า เขาน่าจะมีภูมิรู้มาบ้าง
ก็เลยคิดว่า เขาน่าจะคิดอะไรเองได้

เจ็บไม่รู้จักจำนะเมิงอ่ะนังยาย

อายุก็ตั้งขนาดนี้แล้ว จะไม่รู้อะไรเลยเหรอวะ??

นึกถึงคำพูดนังเด็กอ้วนเลย
"เมิงอย่าดูถูกคน..คนเราถ้ามันไม่รู้ก็คือไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ "

เออว่ะ กุก็เพิ่งเคยเห็นก็เดี๋ยวนี้แหละ
ว่าถ้าไม่รู้คือไม่รู้เลยจริง ๆ

เคยดูถูกอาจารย์สอนภาษาอังกฤษตอนม.๕ นะ
ด่าแกรว่าปัญญาอ่อน สอนห่านไร ยังกะกุเป็นเด็ก ๆ ไปได้
ไม่ยอมรับเขาเลยนะ พอได้เวลาเรียนเช็คชื่อเสร็จปืนหน้าต่างออกไปนั่งชมวิว แล้วฟังว่าเขาสอนอะไร
ไม่อยากเห็นหน้า เกลียดอดหลอกด่าไม่ได้

คือกุเลวไง

วันนี้โคตรอยากกลับไปขอโทษขอขมาแกอะ

คือกำลังคิดว่า คงต้องยืมวิธีของเขามาใช้
ต้องสอนคนนี้อย่างกับเด็กน้อยอะ
สอนอย่าที่อาจารย์คนนั้นสอนกันเลยทีเดียว

ไม่รู้ว่าพื้นฐานชีวิตเป็นมายังไง
คิดอะไรอยู่
ต้องสอนทุกเรื่องจนกระทั่งกิริยามารยาท
การวางมือ การวางตัว การสนทนา
การเลือกใช้คำ ฯลฯ

บางทีพี่ก็คิดนะ
สมองเขาฝ่อไปแล้วเหรอวะ????
ให้คิดอะไรเอง ถึงคิดไม่ได้เลย

"บางทีก็เบื่อนะไม่มีอะไรทำ?" ตึงตึงโป๊ะ!!!!
55555555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555

อยากจะถามว่า "โยนหนังสือ โยนคู่มือให้อ่านน่ะ อ่านได้กี่หน้าแล้ว ถ้าให้เขียน เขียนได้กี่หน้าแล้ว?"

มันยากเกินจะเข้าใจเหรอ?

อยากให้สั่ง
ชอบให้สั่ง

ได้เลย
แล้วเจอกัน.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 12 สิงหาคม 2560 เวลา:1:49:06 น.  

 
หยุดไว้ที่ ๑๙๗ และพี่ก็พลาดตั้งใจอีกแล้ว

พลาดเพราะกลับบ้านนะวันนี้
คนที่บ้านป่วยหนักอาการโคม่า แต่ก็ยังไม่เป็นอะไร
แค่โรคชรา นายคนโตและนายคนเล็กอยู่ลำพัง
วันแม่แล้ว แต่นังแม่ก็ตื่นสาย

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นายดูไม่ค่อยยี่หระกับแม่เท่าใด
ไม่เหมือนเมื่อก่อน
ถ้าได้เห็นหน้าป้า เขาจะแสดงอาการดีใจ
ถ้าได้ทำอะไรอย่างที่ตัวเองมีความภูมิใจ
เขามักจะพูดเสมอว่า ค่อยยิ้มได้หน่อย
เหมือนว่า แต่ละวันที่อยู่ ๆ มา
ไม่เคยมีความภูมิใจใด ๆ ในตัวเองเกิดขึ้นเลย

มอมแมม ยังไม่อาบน้ำกัน
ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน
พี่กลับไปก็ทำไข่กระทะโดยให้เขาทำเอง

กินไข่กระทะแล้วก็ยังไม่อิ่ม
ต้องผัดข้าวให้อีกหนึ่งจาน

เขาบอกว่า เขาชอบทำอาหารมาก
ให้ทำเอง ก็ปฏิเสธขอเป็นแค่ผู้ช่วยก่อน
ยังไม่สามารถทำเองได้ทุก ๆ อย่าง

มีความสุขกับการได้ตอกไข่ เก้ ๆ กัง ๆ แต่ทำได้
ใส่วัตถุดิบลงกระทะ
หยิบของนี่นั่น
เริ่มหัดตักข้าว ใช้มีด
ทำได้หลายอย่างแล้ว

กินข้าวเสร็จเอาบาดแผลมาโชว์
เป็นความเจ็บปวดที่ภาคภูมิใจเขาล่ะ
เขากระซิบว่า
"ป้า ๆ มินปั่นจักรยานสองล้อได้แล้ว ถอดล้อให้หน่อย"
โชว์รถคว่ำรถล้ม
คว่ำก็ไม่เป็นไร
เดี๋ยวจะซื้อสนับเข่าให้กันล้ม
ขนาดได้แผลแล้วนะ เข็ดที่ไหน ดีนะแข้งไม่หัก

พอทำเสร็จแล้วอดมองเด็ก ๆ กินไม่ได้
หยิบเข้าปากสิ รออะไร กินซะอิ่มเลย
มันรู้สึกเหมือนจะแดงเดือดด้วยแหละ
555555555555555555555

วันแม่แห่งชาติปีนี้ดูบรรยากาศแปลกๆ ไปนะ
มันบอกไม่ถูกเลย

เรียกเด็ก ๆ มาหา ถามว่า วันนี้วันอะไร? กอดป้าหรือยัง?
ปกติเราก็กอดทุกครั้งที่เจอกันอยู่แล้วนะ
"ป้า ๆ เมื่อไรจะเป็นวันป้าบ้าง?"

ถ้าเมื่อไรวันป้าว่าง เรามาทำอาหารกันนะ
เอาหลาย ๆ เมนูเลย อร่อยไว้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

เล่นกันสักพัก อิป้าหมดแรงเมื่อคืนไม่ได้นอน
ขอป้านอนสักพักก่อนนะ

ตื่นมานายคนโตถาม อ้าวจะกลับแล้วเหรอ?
ยังไม่ได้ดูสปายคิดส์เลย

กลับบ้านวันนี้ ไม่ได้ทำอะไร
เอาผลิตภัณฑ์ตัวอย่างไปให้ดู
ต่อไปถ้าผลผลิตมันมากมายจนกินไม่หมด
ก็ทำแบบนี้ แล้วค่อยขาย

ถ้าหากใครต้องการของสด
ให้สั่งเป็นพรีออร์เดอร์นะ

เอาไปใช้ได้ ไม่ได้หวงอะไร
ถ้าได้ผลแบบสมบูรณ์ที่สุด
จะเอามาเล่าให้ฟัง
ตอนนี้เราแค่ทดลองผิดถูกไปเรื่อย ๆ
ในแบบที่เราต้องการ

เราเริ่มต้นจากอาการแพ้อาหารของแต่ละคนในบ้าน
เมื่อก่อนเราสามารถหาปลาได้
ตอนนี้สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยน
ปลาตลาดที่เลี้ยงตามบ่อเราไม่ค่อยชอบกิน
มันก็ต้องปรับวิธีการหาอาหารเสียใหม่

ความต้องการของตลาดมารออยู่แล้ว
แต่พี่ยังหยิ่ง ๆ ยัง ไม่ ขาย จ้ะ
เอาไปกินฟรีก่อน
ตอนนี้เรากลัวน้ำท่วมมาก
ยังไม่ค่อยแน่ใจกับการเอาอะไรมาทุ่มไว้

ทำงานอีกสองสามวันก็จะกลับไปบ้านคราวนี้
จะเสี้ยมให้นายทั้งสองคนหัดทำงานรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง
มันต้องรู้จักทำอะไรให้ตัวเองภาคภูมิใจได้แล้ว

ต้องใช้เวลามากหน่อย ถ้าไม่ไปเสี้ยมด้วยตัวเอง
ก็ไม่เห็นท่าจะเป็นผล คงไม่มีใครเจรจากับเด็กสองคนให้รู้เรื่อง

คิดแบบนี้มันก็มีความสุขดีนะ
คิดแล้วทำได้เลย
ไม่ต้องลุ้นว่า คนนั้น คนนี้ มันจะยอมทำตามที่เราคิดหรือเปล่า
เจรจาให้เสียเวลาเปล่า

ไม้อ่อนมันก็แบบนี้ เราเสี้ยมกันมาแต่แบเบาะ
จะขยับพูดอะไรก็เข้าใจกันได้โดยง่าย
แค่อ้าปากจะเถียงก็เห็นไส้แล้วว่าจะสื่อถึงอะไร
กระพริบตาทีเดียวรู้เรื่องว่าไม่พอใจเรื่องอะไร
55555555555555555555555555555555555

นายคนโต ต้องพยายามทำให้เขามีความภูมิใจในตนเอง
ไม่ดูถูกตัวเอง ทำให้เขามั่นใจว่า สิ่งที่เขาคิด
มันเป็นไปได้เสมอ แค่หาทางทำให้ได้ก็เท่านั้นเอง
วันนี้มันสั่ง "ป้า ๆ หาเหล็กแผ่นใหญ่ ๆ มาให้หน่อยนะจะตัดเหล็กทำหุ่นยนต์" 555555555555555

ส่วนนายคนเล็ก อีโก้จะสูง ๆ หน่อย
คิดจะเอาชนะอย่างเดียว เอาแต่ได้
ต้องรีบดัดนิสัย ทั้งบ้านไม่ฟังใครเลย
ทำผิดที ต้องรอพี่กลับไปป้อนข้อมูลให้ใหม่

เขาเป็นคนที่ต้องคุยด้วยความรักและคาดหวัง
น้ำเสียงต่ำและทุ้มนุ่มนวล มีวาทศีลป์
จ้ะ จะพยายามใจเย็นจนถึงที่สุด.

........................................

กลับมาทำงาน วันนี้ใจไม่ค่อยโอเคเลย
เจอคนบางคน เล่นสิ่งที่มิบังควรนำมาเล่น
เห็นตอนแรกชอบนะ
ชอบเพราะเราคิดถึง
ชอบเพราะอยากเห็น
ชอบเพราะยังอยากหลอกตัวเองแบบนี้เรื่อย ๆ ไป
ชอบเพราะเรายังคิดเสมอว่า มันยังไม่มีอะไรแน่นอน
ลุ่มหลงมัวเมา จนลืมคิดถึงคนอื่นๆ ไป

พอตั้งสติได้ เฮ้ยยย ทำไมเล่นแบบนี้ล่ะ
รักแบบนี้ก็ไม่โอเคนะ
จะทำอะไร มันก็ควรตั้งอยู่บนหลักพื้นฐานของความเป็นจริงป่ะ

มันฟังไม่ขึ้นหรอก ในสิ่งที่ทำลงไป
ศรัทธาคน ไม่ใช่ของจะเอามายั่วล้อเป็นของเล่น

เพราะความคิดถึงอันหนาแน่นที่ไม่เคยจางหาย อาจจะเป็นสิ่งสำคัญสุดท้ายที่หล่อเลี้ยงจิตวิญาณของใครหลาย ๆ คนรวมทั้งนังยายด้วย

ถ้ามันมีอะไรมากระทบอีก เราจะยังเหลืออะไรจากที่มันก็แร้นแค้นอยู่แล้ว

จิตนังยายนี่ตกซ้ำตกซาก ตกจนไม่รู้จะตะกายขึ้นยังไง

นั่งฟังข่าวเช็คข่าวอยู่ ๆ ก็เห็นภาพบรรยากาศอันน่าชื่นใจ
ไม่คิดเลย ว่าจะได้มีโอกาสอันดีนี้อีกครั้ง
ภาพที่รอมาตลอดสามร้อยกว่าวันที่ผ่านมา
มันแทนทุกความรู้สึกที่ขาดหายไป

ไม่มีคำใดในสารบบตอนนี้ที่จะเอามาบรรยายได้
รู้แต่ว่า มีความรู้สึกขอบคุณทุก ๆ สิ่งอย่างที่ทำให้เกิด
ภาพในวันนี้ได้ ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งหาที่สุดมิได้.

เคยบอกนะ ว่าถ้าเหยียบที่ ๒๐๐ วันได้เมื่อไรจะลด ละ เลิก
ผรุสวาจา เจอความรู้สึกแบบนี้ กับ ชีวิตที่มันสั้นและสำคัญเหลือเกิน เลิกเลยดีกว่า ไม่ต้องรออะไรแล้ว
อาจจะยาก ๆ หน่อย เพราะใช้จนมันเคยชินเคยตัวเสียแล้ว

เราจะใช้ความอดทนให้มากเท่ามาก
เจอหน้าพี่หน้าปากไม่ดีใส่พี่นะ
พี่จะไม่เถียง พี่จะไม่ตอบโต้ แต่พี่จะตบเลย..ค่อยเคลียร์

5555555555555555555555555555555555





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 13 สิงหาคม 2560 เวลา:0:19:53 น.  

 
นังยายเป็นคนร้ายกาจและน่ากลัวมากเลยเหรอ?????

ยายเป็นพวกอัธยาศัยไม่ดี ไม่น่าคุยด้วย ไม่เป็นมิตร?????

ยายทำไม่ดียังไง ผิดอะไร ทำไมมีปัญหาถึงไม่มาคุยกันตรง ๆ ???

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งเดียวที่พี่ถูกกระทำอย่างเดียวกันนี้

อยู่ดีดีก็หายไป ไม่บอกกล่าวกุสักคำ
จะให้กุเข้าใจว่าอะไร????

จะอยู่ หรือ จะไป พี่ก็ไม่คิดจะว่าอะไรหรอก
แต่ช่วยกรุณาแจ้งให้กุทราบสักคำ
เมิงมีหน้าที่ต้องบอกไหม? ถ้ามี ก็ควรจะต้องบอกป่ะวะคะ??

เกลียด.

จะมา กุก็เดือดร้อน
พอจะไป ก็ยังจะทำให้กุเดือดร้อนอีก
ปัญหาของเมิงป่ะวะ
ทำไมต้องให้กุมานั่งหาคำตอบแทน
ทำไมต้องเป็นกุที่ต้องเคลียร์ให้

เสียใจว่ะ กุยังไม่ทันได้พูดอะไรนักหนาเลย
เดี๋ยวกุต้องถูกตราหน้าว่าปากร้าย สันดานร้ายกาจอีกแล้ว

ที่จริงอ่ะ กุออกจะใจดี กุพูดง่าย กุเข้าใจอะไรได้ง่ายดายยิ่งนัก
กุออกจะใจกว้าง กุก็แค่ตรงและแรงนิดเดียวเอง

นี่กุยังไม่ได้พูดอะไรที่เรียกว่าตรง
แล้วก็ยังไม่ได้มีอะไรที่แรงเลยนะ

ตรง และ แรง (นิดเดียว) มันมีปัญหากับชีวิตคนอื่นตรงไหนฟร่ะ

กุแค่ชัดเจน ไม่ชอบ ก็คือ ไม่ชอบ
เกลียด คือ เกลียด
ห้ามไม่ให้ทำ อย่าทำ
ตรงไปตรงมา ไม่ใช่สี ไม่กลบเกลื่อน
ไม่มีปรุงแต่ง ไม่เอาหน้ากากมาฉาบหน้า

ยังไม่ได้ ก็บอกว่า ที่ไม่ได้ นั้นไม่ได้เพราะอะไร
แล้วก็บอกด้วยว่า ที่ได้ ต้องทำยังไง หนึ่ง สอง สาม สี่
ออกจะชัดเจนเข้าใจง่าย

รับปากกุด้วยนะ ว่าทำได้ จะปรับปรุง ไม่มีปัญหาอะไร
ทำไมอยู่ ๆ ถึงหายหน้าไป ไม่เข้าใจ
อะไรเข้าสิงเมิง หรืออะไรมันคลุมวิญญาณเมิงอยู่

การเป็นคนตรงและแรง มันผิดมากเหรอ?
กุต้องสร้างภาพเป็นคนอ่อนโยน
เป็นคนทีใครเห็นก็อยากเสวนาด้วย
อัธยาศัยดี มีใจบริการ แบบนี้เหรอ?

หรือ กุจะถือโอกาสนี้ เดินออกไปเลย แฮ่5555555

ยายพิจารณาแล้วค่ะ ที่หลาย ๆ คนทนอยู่ไม่ได้
ยายผิดเองคนเดียวเต็ม ๆ
ถ้ายายทำตัวน่ารักกว่านี้
หลาย ๆ คนคงไม่อยากเดินออกไป แฮ่!!!!

55555555555555555555555555555555555555555

คิดให้ลบเข้าไว้นังยาย
ปรับวิธีคิดนิด ชีวิตดีขึ้นเยอะ
โอกาสทองเชียวนะ

....................................
อย่าไปปรุงอะไรมากเลยนังยาย
จะสงสัยอะไรในตัวเอง
ตั้งแต่เกิดมา เมิงเคยเปลี่ยนสันดานตัวเองได้ด้วยเหรอ?

ต่อไปนี้นะ ..ถ้ามีใครเข้ามา กุจะถามก่อนเลยว่า
เมิงคิดจะอยู่นานแค่ไหน?
แล้วกุก็จะดักคอไว้ก่อนล่วงหน้าด้วยว่า
เมื่อไรคิดจะแยกย้ายกันไป กรุณาบอกกุด้วย
อย่ามาทำสันดานไม่ดี ไม่มีมารยาท นึกอยากจะหายก็หายไป
ทำให้กุเป็นกังวล เป็นห่วง
กุจะไม่ยอมจิตตกกับคนประเภทไร้มารยาทอีกต่อไปแล้ว

แล้วกุก็ไม่คิดจะรอขอคำตอบแล้วด้วย
กุจะตัดสินทันที ว่าเมิงมันคนไร้มารยาทสันดานไม่ดี
ไม่มีความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์
เนี่ย กุด่า ...

แต่อย่าเพิ่งคิดมากไป
กุยังไม่เคยใช้ด่าใคร

อย่ากลับมาให้กุเจอหน้านะ
กุด่าแน่ รีบชิงด่าไว้ก่อน
เดี๋ยวถ้าเมื่อไร กุถูกตัดสินโดยที่กุยังไม่ได้ทำ
กุจะเสียดาย เสียใจ ว่ากุไมอ่ะ กุยังไม่ได้ทำอะไรเลย

อยากยัดเยียดให้กุร้าย ได้ค่ะ
จัดให้ กุกลัวเมิงเสียหน้าไง
อุตส่าห์ใจดีมอบหมายให้กุดูร้าย ๆ ถ้ากุไม่เป็นแบบนั้น
เดี๋ยวจะหน้าแหกกันเปล่า ๆ
ไม่ค่ะ เราใจดีกว่านั้น
อยากให้เป็นยังไง จะรีบสนองพระเดชพระคุณเลยทีเดียว

ใจดีค่ะ ใจดีไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

นี่แค่เปรยเฉย ๆ ยังไม่ได้บ่น.
.................................

เมื่อวานเว้ยย อยู่ดีดีก็โทรไปให้เขาด่าตัวเอง
"ถามเด็กของคุณหรือยัง?" ตะคอกกุยังกะกุเป็นลูกศิษย์มัน
ถามแล้ว "แล้วเขาตอบว่ายังไง?"

บลาๆๆๆๆๆๆ พูดจนกุฟังแทบไม่ทัน ดีนะมือกุเร็ว กุกดบันทึกเสียงไว้ เมิง เดี๋ยวกุจะเปิดให้คนจ่ายตังค์เมิงฟัง สันดาน
ตะคอกกุก่อน กุพูดดีดีด้วยแล้ว ตะคอกกุ

คิดได้ทัน เถียงมันไปก็ไม่ได้ทำให้งานจบ
กุต้องการปิดเคส เลยตัดสินใจพาเด็กไปเอง
ทั้ง ๆ มันเป็นเงานเมิงป่ะวะ เมิงเป็นคนรับตังค์
กุเนี่ยไม่ได้สักบาท แถมยังต้องจ่ายค่าเดินทางให้ด้วย

เอาวะ ถือซะว่าไปดูบรรยากาศ ไปดูเป็นภูมิรู้ของตัวเอง
พาเด็กไปสองคน ไปเที่ยวคน
ไม่เล่าละกันว่าเจอไรบ้าง ทั่วไป ตามแต่เรื่องของงานราชการเขา

แต่ประเด็นคือ มันเสร็จเร็วเว้ยยยย
สำคัญตรงนี้ที่จะเล่าให้ฟัง
เรื่องอะไร วันทั้งวันกุจะรับรู้แต่เรื่องขี้หมา ๆ

ในเมื่อหาความจรรโลงใจจากผู้อื่นรอบตัวไม่ได้เลย
กุก็ต้องสร้างความจรรโลงใจขึ้นมาเองป่ะวะ

แต่งตัวออกมาไม่เรียบร้อย เข้าวัดไม่ได้
ไม่งั้นจะพาเด็ก ๆ ไปวัดกันหน่อย
พอเข้าวัดไม่ได้ ก็เลยพาไปตลาดข้างที่ทำงานลุง

ร้านรวงมากมาย เลือกจ่ายไม่ถูก
แต่ก็ได้ของมาสองสามสิ่ง
เด็ก ๆ กินขนมลูกชิ้น
ระหว่างรอเด็กซื้อลูกชิ้นปลาอยู่
แง่ะไปเห็นน้องผู้หญิงคนหนึ่งผู้ซึ่งมีความตั้งใจในการเสนอขาย
สินค้าของเจ้านางมากมาย
ยิ้มแย้มเชิญชวน พี่ยืนอยู่ตรงข้าม
สังเกตเห็นป้าแก่ ๆ สองคนเดินผ่าน
นางเชื้อเชิญให้ลิ้มชิมรส
แต่ป้าแก่ ๆ สองคนก็เมินหน้า ไม่ได้แยแสอะไรเลย

มีใครคนหนึ่งเคยบอกพี่ไว้
เราควรจะยกระดับจิตใจตัวเองขึ้นด้วยการกินของที่ไม่ได้ชอบดูบ้าง
ไม่ได้กินเพราะอยากกิน
ไม่ได้กินเพราะอร่อย รสชาติดี
แต่กินเพราะว่า ต้องการให้ผู้อื่นมีความรู้สึกที่ดีขึ้น
ให้เขาดีใจ ยินดีที่ขายสินค้าของเขาได้

นึกขึ้นได้ นังยายเลยรีบเดินไปเสวนาด้วย
ขอลองชิม แล้วก็ซื้อมาด้วยหนึ่งถุง
ไม่รู้จะซื้อมาทำไม ไม่ได้ชอบกิน
ติดไม้ติดมือกลับมา ก็เอามาฝากให้คนที่ไม่ได้ไปด้วยกัน

เออเนอะ ค่อยมีเรื่องดีดีช่วยให้ผ่อนคลายบรรยากาศเสียบ้าง

เด็กกะเหรี่ยงคุยกับแฟน "ชอบไปเที่ยวกับพี่ เที่ยวไปกินไป"
5555555555555555555555555555555555555555555


เป็นช่วงที่ชีวิตแสนเหนื่อย
นอนนับชั่วโมงได้
นอนวันเว้นสามวัน

มันต้องมีบางสิ่งอย่างไม่เข้าที่เข้าทาง
หามันให้เจอนะยาย.

กำจัดมันออกไป.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 16 สิงหาคม 2560 เวลา:19:50:18 น.  

 
ไม่มีใครอยู่กับใครได้ตลอดไป
ต่อให้รักกัน หรือ เกลียดกัน
สุดท้ายแล้วก็ต้องจากกันไปอยู่ดี

เพื่อนแพททีเซีย นางเคยพูดกับนังยาย
เมื่อเดินทางทริปสุดท้ายที่ภูเก็ตว่า
"เมื่อเราเริ่มเดินทาง..เส้นทางจะเริ่มปรากฎขึ้น"

มันหมายความว่า หากเรามัวแต่คิดว่าจะไปที่นั่น
จะทำสิ่งนี้ มันก็แค่ความคิด มันจะไม่มีทางรู้หรอกว่า
เมื่อลงมือเดินทาง และลงมือทำแล้ว
มันจะเจออุปสรรคอะไรบ้าง
จะเดินทางถึงจุดหมายไหม
จะทำสำเร็จไหม?
หากไม่เริ่มต้น ก็จะไม่มองเห็นทางแห่งความสำเร็จ

ความคิดจะการแยกย้ายมันเริ่มต้นจากจุดนี้

ไม่ได้มีเหตุผลอื่นประกอบเลย
มืดแปดด้านมองไม่เห็นทางเดินด้วยซ้ำ
ไปถึงแล้วก็จะมืดมนอยู่
กลับมาแล้วก็ยังถอดใจวางพักไว้ก่อนทดเวลางง

จนเพิ่งจะมามองเป็นเป็นรูปเป็นร่างก็นาทีนี้เอง
หลังจากที่ถูกกระทำอย่างเจ็บปวดซ้ำซาก
ก็น่าแปลกใจนะ ทุกๆครั้งที่ต้องเสียสิ่งใดไป
นังยายก็มักจะดีในสิ่งที่ดีกว่ามาทดแทนเสมอ

คนที่เหมือนเพื่อนเทเราไป
ก็จะมีคนที่เหมือนเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่โดนแรงเหวี่ยงโลกมาให้เจอ

คนที่เหมือนจะพร้อมทดแทนเทเราไปอีก
ก็มีคนที่พร้อมและอยู่ใกล้ตัวที่สุด้วยตอบรับเข้ามาอยู่ทดแทนทันที

ตัดสินใจพูด และตัดสินใจบอกความจริง
จะช้าหรือเร็ว เขาก็ต้องรู้อยู่แล้ว
ทุกสิ่งอย่างนั้นมีเวลาเป็นของมันเอง
เพิ่งจะเข้าใจการทำงานของเวลาก็วันนี้เอง
ตะเกียกตะกายเข้าไปเถอะ
จะหนีไปให้ไกลแสนไกลเท่าไร
สุดท้ายก็ต้องวกกลับมาเหมือนเดิม
และต่อให้ต้องการทะยานอยากอยู่ในจุด ๆ เดิมเท่าไร
เมื่อหมดเวลาแล้วสุดท้ายก็ต้องจากออกไปอยู่ดีเช่นกัน

รักกัน หรือ เกลียดกัน
เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เวลาร่วมกันแล้ว
ก็ควรจะอยู่กันด้วยความสงบสุข
เมื่อวันหนึ่งที่ต้องจากกันไปแล้ว
จะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจต่อกัน

ให้นังยายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน พูดจาไพเราะ
วันนี้ก็ทดลองทำแบบนั้น
ผู้คนแถวนี้พากันแตกตื่นกันยกใหญ่
แกร๊ ฉันขอร้องแกช่วยกลับมาเป็นคนเดิมเถอะ
ใครคอมเพลนเมิงวะ เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้
พี่ไม่คุ้นเลย พี่คิดว่าแกรเป็นบ้าเพี้ยนไปใหญ่แล้ววววว
55555555555555555555555555555555555555555

พอกุพูดดี ไม่คุ้นกันสิ ทีนี้

นี่ใช่นังยายตัวจริงไหม? คิดยังงี้ใช่เปล่า
ใช่ กุตัวจริง
เมื่อก่อนกุเคยสงบเสงี่ยมเจียมตัวและเรียบร้อย
จนกระทั่งกุมาเจอโลกเHี้ย ๆ เนี่ยแหละ
มันก็ต้องร้ายนิด ๆ ชีวิตจะดีขึ้นเยอะ

......................................
วันนี้เว้ยยย จะเล่าให้ฟังเลย ตั้งใจฟังดีดีนะ พวกเอ็ง ๆ ๆ ทั้งหลาย
ลูกศิษย์ ขอใช้คำนี้นะ เพราะตั้งแต่เรียนจบมา ได้เป็นครูใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาก็ตอนนี้เอง ตั้งใจด้วยสุดความสามารถ ตอนนี้มีลูกศิษย์สามคนแล้ว ผู้หญิงสอง ผู้ชายหนึ่ง ลูกศิษย์พี่เก่งทุกคน เป็นพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยงทั้งหมด

คนผู้ชาย มันถามนังยายว่า
"พี่ ๆ ผมขอถามหน่อย เวลามีคนบอกว่า พี่เป็นคนไทยนี่ พี่รู้สึกภูมใจไหม?"

มันถามแบบจริงจังเลยนะ กุก็ต้องตอบอย่างจริงจังสิ

"ฟังพี่นะ คนไทยทุกคนย่อมมีความรู้สึกภูมิใ่จในความเป็นไทย
รู้ไหม? เพราะอะไร? ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่า คำว่าไทยนี่นะ เป็นว่าอิสระไม่ขึ้นต่อใคร พี่ภูมิใจมาก ที่จะบอกใคร ๆ ว่าพี่เป็นคนไทย ..ถามทำไมเหรอ?"

"ผมนี่ เวลาใครมาบอกว่าผมเป็นจุดจุดจุด ผมโคตรเกลียดมันเลย ไม่อยากให้ใครบอกว่าผมเป็นจุดจุดจุด" !!!!!!

(ไม่ได้จะเหยียดเชื้อชาติใครนะเพียงแต่เล่าให้ฟังในมุมของชาวกะเหรี่ยงที่เขาสิ้นชาติแล้ว)

อึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า "คนไทยไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่เขาภูมิใจเวลาถูกเรียกว่าเป็นคนไทย มันยังมีคนไทยประเภทเนรคุณแผ่นดินฝักใฝ่หลงใหลได้ปลื้มกับวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ พี่ก็ไม่ใช่คนไทยเชื้อสายไทยแท้ คนไทยแท้ ๆ เดี๋ยวนี้หาได้ยากแล้ว คนไทยทุกวันนี้ก็มีทั้งจีนแขกฝรั่งลาวมอญผสมปนเปกันไป
จะเห็นได้ทั่วไป อย่างเช่น สองคนนี่มาทำงานเมืองไทยมีลูกกัน ลูกเกิดเมืองไทย ลูกก็ได้เป็นคนซึ่งมีสัญชาติไทยแต่เชื้อสาย..."

ร่ายกันยาว ประเด็นมันอยู่ตรงนี้
ลูกศิษย์ผู้หญิงสรุปให้ว่า "คนไทยโชคดีเนอะมีแผ่นดินอยู่สุขสบาย ไม่เหมือนเรา ไม่มีประเทศจะอยู่ ก็อยู่ไปเรื่อย ๆ
จะตายก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ตายที่ไหน จะกลับบ้านก็ไม่มีแล้ว
เป็นประเทศคนอื่นไปแล้ว อยากเป็นคนไทยบ้าง
ไม่รู้ชาติหน้าจะได้เกิดมามีประเทศเป็นของตัวเองหรือเปล่า"

น้ำตาจะร่วงเลยบอกตรง ๆ
ความรู้สึกของคนที่เขาสิ้นชาติแล้ว
ทำไมพวกเนรคุณจำพวกนั้นไม่ไปเกิดในแผ่นดินที่สิ้นชาติบ้าง
สลับกันเนอะ ความสมดุลของโลกจะได้บังเกิด.

พรุ่งนี้ จะพาคนที่นี่ไปหาพ่อหลวง ต้องใช้คำนี้สิเนอะ
นางรู้ นางก็ยินดีด้วยมาก ๆ
ทุก ๆ ครั้งที่พี่เดินทาง นางจะรอดูรูปที่ถ่ายทอด
ทุกความชื่นบานส่งผ่านมายังภาพถ่าย
ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าคนแบบนางสามารถเข้าไปได้ไหม?
พอถามจนได้คำตอบแล้วว่าน่าจะได้
แจ้งให้นางทราบว่า พี่จะพาไปนะ
นางดีใจออกนอกหน้า รีบบอกชวนไปตลาด
อยากไปซื้อชุดเตรียมเดินทาง

แค่วันเดียว ไม่ต้องลูก พี่มีเยอะ
เดี๋ยวพี่หาให้ วันนี้นางถามว่า พี่ทำผมเป็นไหม?
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กุยังแทบจะไม่ได้หวีผมเลย
จะให้กุทำผมเลยเรอะ

คือ พาใครไปที่นั่น ก็ไม่อิ่มใจและมีความสุขได้เท่าพานางไป

ความรู้สึกของคนที่สิ้นชาติแล้วน่ะ
และเขาได้มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
เขามักจะพูดให้พี่ฟังเสมอ ๆ เลย
พ่อหลวงใจดีมาก ๆ เลยเนอะพี่เนอะ
ใจดีกับทุก ๆ คน ใจดีกับคนทุกประเทศเลย
คนทุก ๆ ประเทศก็รักพ่อหลวง
อยากให้พ่อหลวงอยู่ไปนาน ๆ
นางพูดอย่างไม่ค่อยชัด ซื่อ ๆ ตรง ๆ ไม่ต้องแปล

ฟังแล้วก็จุกอกทุกที "มันไม่มีอีกแล้วแหละ มันไม่มีเวลาดีดีแบบนั้นอีกแล้ว"

เวลาที่มีกันและกันอยู่ตอนนี้
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะยังมีมันอยู่ไปอีกจนถึงเมื่อไร
แต่ละวัน มันผ่านไปด้วยความรู้สึกปวดปร่าในใจ
นับเวลาย้อนหลังกลับไปทุกที ๆ

ใจจะขาดอยู่แล้ว
แต่ไม่เป็นไรหรอก
เราทนได้ เรายังไม่ตายลงไปง่าย ๆ
ถึงจะอยากนอนหลับไปตลอดกาลนานแค่ไหนก็ตามที

ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมตัวเองถึงได้อ่อนไหวอย่างง่ายดายเสมอ
เมื่อคิดถึงเรื่องแบบนี้

ลูกศิษย์พี่ทุกคน อยากให้พี่ไปเที่ยวบ้านของพวกเขา
ถามทุกวัน ตกลงจะไปไหม?

จะไปนอนบ้านเขาก็ได้ หรืออยากนอนโรงแรมก็ได้
ยังไงก็ได้ ขอให้ไปก็พอ ถามทุกวันเลยทีเดียว

พี่จะไปแน่นอนไม่ต้องห่วง
พี่จะไปก็ต่อเมื่อภารกิจสุดท้ายของพี่ถึงเวลาของมัน
เหตุผลเดียวที่พี่จะไปเยือนดินแดนที่มันต้องคำสาปแห่งนั้น

ทุก ๆ อย่างมันมีเวลาเป็นของมันเอง
เวลาของพี่ตอนนี้คือ เลิกร้องไห้ ให้สำเร็จก่อน

สัปดาห์นี้ เดินทางด้วยกัน
สับดาห์หน้า วันเกิดของพี่
นางถามพี่ว่า เมือ่ไรจะถึงวันเกิดพี่ นางอยากกินพิซซ่า
555555555555555555555

อินี่ แค่เมิงอยากกินทำไมต้องรอ
พอรู้ว่านางอยากกิน วันนั้นเลยสั่งมาให้นางกินซะอิ่มไปสามวัน

ก็คิดว่านางจะพอใจแล้ว
มาวันหลัง นางถาม พี่กินเอ็มเคไหม?
ทำไมอยากกินอีกเหรอ? เดี๋ยวพาไปกิน
ป่าวไม่ได้อยากกิน อยากให้พี่ไปกินวันเกิด
อ่อเมิงอยากฉลอง??? ใช่
อีกวันหนึ่ง พานางไปช้อปปิ้งซื้อให้นางแหละ
เพราะมีอยู่วันหนึ่งนางซักผ้าแล้วตากใกล้ ๆ กับที่พี่ไปเก็บของขนขึ้นรถ ถามนางว่า เสื้อผ้ามีแค่นี้เหรอ?
แล้วใช้พอไหม? นางบ่นว่าฝนตก บางทีก็ไม่พอใช้
หลังจากเก็บที่ไม่ใช่ลงมาให้นางแล้ว
ตอนแรกคิดว่านางจะใช้ได้ ที่ไหนล่ะ นางอ้วนกว่าพี่ตั้งเยอะ
ก็ใช้ไม่ได้สิ เลยต้องพาไปซื้อ นี่เลือกเลยเต็มที่
ที่ชอบร้านนี้ยิ่งซื้อยิ่งได้บุญ ถ้าเราไม่ได้ใช้ เอามาบริจาคต่อได้
เสียไปห้าร้อยบาทได้มากระบุงหนึ่ง
มันอยู่ตัวหนึ่งเป็นชุดราตรีหวานแว๋ว นางหยิบมา
พี่ถาม "จะเอาเหรอ? เอาสิสวยดี ไว้พี่พาไปเที่ยว"
นางตอบ "ไม่ใช่จะใส่เองอยากให้พี่ใส่ตอนวันเกิดพี่ไง"
5555555555555555555555555555555555555555

กุขำนางหนักมากลั่นร้านเลย

คือนางมีความอยากมีปาร์ตี้มากมายอ่ะ
ปกติแล้ววันเกิดพี่ พี่จะไม่ให้ความสำคัญอะไรเลย
จะมีก็แบบทำบุญหนักหน่อย กลับบ้านทำกับข้าวให้พ่อให้แม่กิน
อะไรแบบนี้ คือคิดมาตลอดเวลาว่า วันเกิดเรานะ
เราจะทบทวนสิ่งที่ผ่านมา แก้ไขในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ
ความสุขของชาวบ้านเป็นงานของเราเนอะ

พอมาเจอนางคนนี้ บอกตัวเองเลยว่า
ปีนี้ เราจะทำให้นางคนนี้มีความสุขที่สุดอย่างเต็มความสามารถ
ที่จะทำให้นางได้ ทำให้นางได้มีวันที่สวยงาม
อย่างที่นางต้องการอยากเห็น

เวลาที่เหลือนับจากนี้ พี่จะตั้งใจเสี้ยมนังเด็กพวกนี้
ให้ปีกกล้าจนกระทั่งรับมือกับทุก ๆ สถานการณ์ได้อย่างเข้มแข็ง
ไม่หวาดหวั่นขลาดกลัว

วันก่อนนางถาม "พี่ ๆ ถามจริง ๆ พี่กลัวผีไหม?"
55555555555555555555555555555555

อินี่ พี่จะบอกให้นะ พี่อ่ะ ตอนแรก ๆ พี่ก็กลัว
แต่เดี๋ยวนี้พี่ว่า คนเรานี่นะ น่ากลัวกว่าผีอีกตั้งหลายเท่า
คนร้าย ๆ เวลามันตายไป มันก็กลายเป็นนังผีร้าย
เพราะฉะนั้นตัวเมิงเองแหละ น่ากลัวที่สุด
ผีมันน่ากลัวนะ แต่ถ้ามันหลอกเราไม่สำเร็จ
มันน่ะ น่าสงสารที่สุด
เพราะฉะนั้นผีมา อย่ากลัว มันมาขอส่วนบุญ
แผ่ส่วนบุญให้มันซะ

ถ้าเจอก็บอก ไปข้างหน้าก่อน
ตอนนี้ยังไม่มีบุญพอ
อยากได้บุญเอาหวยมาแลก
โลกนี้จะทำอะไรมันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเว้ย
5555555555555555555555555555

พรุ่งนี้เป็นอีกวันที่อยากจำ
ก็ขอให้มันผ่านไปด้วยภาพที่หนาแน่นไปด้วยความประทับใจ
ขอให้รองเท้าไม่กัดทินมัยใคร ๆ เลย เพี้ยงงงงง
555555555555555




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 20 สิงหาคม 2560 เวลา:1:29:26 น.  

 
#วันที่๑๙๗ เริ่มต้นใหม่่ เท่าไรก็ต้องทำ

วันนี้มีคนตายที่บ้านอีกแล้ว ..เป็นคนแก่ที่มีเมตตาจิตสูง
มีแต่คนรักใคร่นับถือ
มีวันตายที่งดงาม

เมื่อวานเป็นวันที่วุ่นวายได้น่าประทับใจที่สุดในชีวิตเลย
เอาเด็กในบ้านมาช่วยอยู่แทน
มาวันเดียว นางคองช็อกกับสิ่งที่ต้องแบกรับไว้ทั้งหมด
มันแจ็กพ็อตมากที่มาวันแรกก็เจอทุกอย่างทั้งหมด

นางบ่นเหนื่อย แต่ก็บอกว่าสนุก
พอรุ่งขึ้นอีกวัน นางถามว่า ไม่มาอีกแล้วได้ไหม??

นังยายมีสิทธิ์เลือกคำตอบที่จะให้ด้วยเหรอ?

ไม่มาก็ได้ ได้หมดแล้ว
จะอยู่หรือจะไป พี่มีสิทธิืที่จะเลือกอะไรด้วยเหรอ?

ยังไง พี่ก็รู้เสมอว่า ทั้งชีวิต อะไรก็ได้ แต่ต้องทำเอง คนเดียว
แค่จะขอผู้ช่วย ยังไม่มีสิทธิ์เล้ยยย

คิดมาก ก็ล้าเปล่า ๆ
เห็นกุสบาย พอท้าให้มาลอง
ไม่เคยเห็นใครอยู่ได้สักคน

ชีวิตใคร ชีวิตมัน
ยังไง นังยายก็ยังมีความเชื่อว่า
ไม่มีใครที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

ไม่มา จะไปบีบบังคับเข็ญใจให้มา ก็คงไม่ได้

รู้สึกยังไง?

เสียใจ ก็ไม่ใช่
ดีใจ ก็ยังไม่ใช่อีก

ก็เหมือนกับทุก ๆ วัน

พอคิด ก็จิตตก อยากตายให้มันเร็วๆๆๆๆๆ กว่านี้

วันนี้ไปงานคนตาย ได้ผ้าถุงมาผืนหนึ่ง
บอกแม่ว่า อะให้เอาไปนุ่ง แต่อย่าให้ใครนะ
แม่นุ่งแล้วผ้าถุงผืนนี้เราจะเอา

"ถ้าเราตายวันพรุ่งนี้..พร้อมแล้วหรือยัง?"

ยัง ยังไม่พร้อม ยังนอนตายตาไม่หลับ

ต้องรีบทำในทุกสิ่งที่อยากทำให้เรียบร้อย
อย่าได้มีสิ่งใดติดขัด จะได้นอนตายอย่างสบายใจ

มาหลัง ๆ นี้ เวลาใครทำให้รู้สึกไม่ดี เสียใจ
จะมีความสุขมากกว่า ใครมาทำดี พูดดีกับเรา

เมื่อวานมีหลายเรื่องที่รู้สึกดี
มองเห็นความจริงหลายอย่าง

บอกกับตัวเองว่า จะยอมรับความจริง
จะเลิกร้องไห้

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ทำยังไงฟร่ะ ให้เลิกทำแบบนั้นได้
555555555555555555555555555555555

สภาพแวดล้อมกำลังถูกปรับปรุงด้วยเครื่องจักรต่าง ๆ
แต่ละครั้งไม่เคยเหมือนเดิม

พี่สาวขี้ฟ้องบอกแม่ว่า "มันไปอีกแล้ว ไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว"
แล้วนางก็กระแนะกระแหนว่า คนข้างบ้านตายไม่คิดจะไปเยี่ยม

แม่ผู้น่ารักของนังยาย รีบแก้ตัวให้เลย
"ญาติมัน มันถึงไป คนข้างบ้านไม่ใช่ญาติ"

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สะใจไหมคนเก่งอยากกินเผือก
กุจะไปไหนหรือไม่ไปไหน มันเรื่องของกู๊

ฟังดูอาจจะเหมือนประชดประชัน
แต่บอกเลยชอบใจมาก

บอกแม่หลายครั้ง
ถ้าลูกตาย เอาไปฝังที่ของท่านพระราชทานให้
เราจะไม่อยู่รวมกับคนอื่นเพราะเรารู้ตัวดี
ว่าตัวเองนอกคอกไม่ควรอยู่รวมกับใคร

แม่ตาเขียว ไปอยู่ตรงนั้นใครจะไปเยี่ยม
ก็ต้องไปแจ้งขออนุญาต

ก็ดีแล้วไง จะได้นอนสบาย ๆ ไม่มีใครกวนใจ

ไม่ต้องเป็นห่วงเลยว่าจะทำบุญให้เรา จะอะไรกับเรา
ไม่ต้องจ้ะ
พี่จะเตรียมตัวไปอย่างดี
จะไม่ให้เดือนร้อนเป็นภาระของชนรุ่นหลังเด็ดขาด

ชวนใครตาย ไม่มีใครอยากตายด้วยกันสักคน

โด่ววววว ..

ชีวิตที่มันมุ่งหน้าเดินเข้าหาความตาย
นี่มันก็ตื่นเต้นดีเนอะ

เต็มไปด้วยความหวัง
มีลุ้นได้ทุก ๆ วัน

..........................................
วันนี้ พี่จัดการกับคนในบ้านได้เกือบสำเร็จแล้ว
ผลผลิตก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ
กำลังทดลองทำเรื่องการแปรรูป
ตลาดก็พร้อมแล้ว
ยังเหลือก็แต่ขยับขยายให้ผลผลิตมันออกได้ตามเป้าที่ต้องการ

มันก็เป็นกำลังใจอย่างหนึ่ง
เวลาทำอะไรแล้วมันเห็นเป็นความคืบหน้า

ตลาดต้องการวันละสิบกิโลกรับ
แต่วันนี้ มีแค่วันละหนึ่งถึงสองกิโลกรัม
ยังไม่พอ ที่มีก็กินไปก่อน แจกไปก่อน

ความสุขที่มี มีเท่าไรก็แจกจ่ายไปเท่านั้น

คนบางคน เรามองเห็นทุกข์ของเขา
ก็ใช่ว่า เราจะไปทำให้เขาหมดทุกข์ได้
ที่ทำได้คือ มอบความสุขทดแทนบางเสี้ยวของเวลา
ทุกข์ใครทุกข์มัน เขาจะหมดหรือไม่หมด
มันเป็นเรื่องของเขาที่จะกำจัดและจัดการ

........................................

เช้าวันที่เดินทาง มีเรื่องวุ่นวายมากมายแต่เช้า
หลายเรื่องประดังเข้ามา
เพิ่งทราบว่าลูกศิษย์คนผู้ชายของพี่ติดการพนันหลงใหลในอบายมุข

หนักใจแทนแฟนของนาง ถ้าเป็นพี่นะ
พี่ไม่ยอมเสียเวลาด้วยเด็ดขาดเลย
ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ จะไม่ขอยุ่งด้วย
อยู่ด้วยกันก็ทำให้เราไม่สบายใจ

พอมาเจอแบบนี้ตอนที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ก็ได้แต่ภาวนาว่า "ขอให้คิดได้ ขอให้เลิกได้"

เราก็ได้แต่ระวังตัว
ไม่เผลอเรอ
ไม่ปล่อยปละละเลย
มันจะวางใจไม่ได้เลย

หนักใจ ไม่รู้จะต้องทำยังไง
จะบอก หรือ ไม่บอก
ตอนนี้แค่แอบรู้ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พี่รู้เรื่องของเขาแล้ว

รู้แล้วยังไง ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่อง
สงสัยว่าเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า
ก็ยังต้องทำเป็น ไม่สนใจ ไม่สงสัย

นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งเหมือนกัน ที่ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว

คนที่่ติดอบายมุข อยู่ที่ไหน
ก็มีแต่ทำให้คนรอบตัวไม่สบายใจ

อย่าคิดว่า มันไม่เกี่ยวกับใครนะ

คนมีนิสัยแบบนี้ ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้
ถ้าไม่ใช่พวกที่มีนิสัยไปในแบบเดียวกัน

ต่อให้พ่อแม่สร้างฐานะไว้มากมายเหลือกินเหลือใช้แค่ไหน
สุดท้ายแล้วลูกที่ติดอบายมุขก็จะล้างผลาญจนหมดนั่นแหละ

ไม่เชื่อก็ลองดูสิ
มีบ้านหมดบ้าน มีรถหมดรถ
มีอะไรก็หมด หน้าที่การงานก็ไม่ได้การันตึว่า
จะไม่หลงไปกับพวกนี้
ยิ่งรวยเท่าไร ถ้ามีปัญญาที่ตื้นเขินจนไร้สติ ก็ถูกมอมเมาไปได้โดยง่าย

ทุกข์ไหม? ยังนะ มันไม่ใช่เรื่องของพี่
รู้แล้วก็ต้องทำเป็นไม่รู้
ต้องอยู่แบบเงียบ ๆ ทน ๆ

แต่ก็ไม่รู้นะ ว่าความอดทนที่มีอยู่
มันจะสิ้นสุดเมื่อไร

ภาวนาว่า อะไร ๆ จะไม่เป็นเช่นนี้ตลอดไป
มันต้องมีวันหนึ่ง
ที่พี่จะมีชีวิตอยู่ด้วยสบายใจ สงบสุข

ไม่รู้ว่าเมื่อไร ทั้งชีวิตจะได้เจอความรุ้สึกแบบนั้นไหม?

แต่ก็ยังเชื่อว่า มันจะต้องได้เจอบ้างแหละ

...........................................

กลับบ้าน เช้านี้เจอนาย นายฟ้องว่าน้องไม่อาบน้ำเอง

ตอนนี้เขาดูแลตัวเองได้ดีแล้ว
เลยฟ้องว่าน้องสื่อสารกับยาย ว่าแบบนี้ แบบนั้น ไม่ยอมทำเอง

เดือนหน้าจะพาไปเดินป่า ครั้งที่สอง
ครั้งแรกเขายังเด็กเกินไปจะมีความรู้สึกสนุกสนาน
ตอนนี้โตจนดูแลตัวเองได้ทุกอย่างแล้ว

มันก็จะเป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมยอดอย่างหนึ่ง

พรุ่งนี้จะไปถาม ศูนย์ฝึกอาชีพว่า
"สอนคนต่างด้าวไหม?"
พี่อยากให้ลูกศิษย์ได้เรียน เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน

เมื่อสอนให้เขาใช้ภาษาไทย จนอ่านได้ เขียนได้แล้ว
เขาควรจะได้ต่อยอดทางการเรียนรู้ เท่าที่เขาสามารถจะทำได้

ถ้าเขามีความสุข บ้านเรามีความสุข เพื่อนบ้านเรามีความสุข
อะไร ๆ ก็คงจะสงบสุขได้ไม่ยากเกินไปมั้ง.











โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 21 สิงหาคม 2560 เวลา:21:49:03 น.  

 

นังยาย... กุไม่โอเคนะ
กับอารมณ์แบบนี้

มันจะเงียบ ๆ เกินไปหน่อยไหม?
ไม่บ่น แล้วให้กุทำไร
ไม่แสดงออก แล้วกุจะทำอะไรต่อ
ไม่เพ้อเจ้อ แล้วสมองกุจะฝ่อเลยไหม
ไม่มีจินตนาการ แล้วกุมีสมองไว้ทำสร้นตรีนหมาอะไรล่ะเมิง

เจออะไรก็ปล่อย รู้สึกอะไรก็วาง
บ้า บ้าชัด ๆ บ้าไปแล้ว
แล้วกุจะเหลืออะไรให้ได้รับอรรถรสในชีวิตล่ะเมิง

กุไม่บ่นแล้วจะให้กุทำอะไร

ไปเที่ยวถ่ายรูปมา แทนที่จะเอากลับมาฝันต่อ
เงียบ เที่ยวแล้วก็จบ รูปค่อยดูทีหลัง
กุยังไม่ว่าง จนกุใกล้จะลืมแล้ว
ว่าเคยด่าใครไว้บ้าง
ลืมหน้าไอ่ขี้โกงนั่นหมดแล้ว

...............................................
ไม่ดีนะยาย กุไม่โอเคกับชีวิตเรื่อยเฉื่อย ไม่คิดมาก และไม่คิดไร

กุไม่โอเค!!!

คิดสิ พรุ่งนี้กุจะทำอะไรให้มีความจรรโลงชีวิตบ้าง
มีนัดทั้งสายและบ่าย ไม่สนุกเลย หนักหัวกุอีกแระ

เช้ากุว่างนิ เย็น ค่ำ ดึก ก็ยังว่าง
เช้าว่างนิดนึงออกไปเดินเล่นสำรวจตลาด
แม่บอกว่า "อยากได้ยางยืด" หายางยืดไปให้นางหน่อย
ส่วนนาย นางบอกว่า ต้องการปูอัดและไส้กรอกไว้ทำอาหาร
ที่เขาภูมิใจ
พี่อยากได้เมล็ดพันธุ์ กับ หญ้าแฝก จะขุดโคกทำคันดินกันน้ำขัง

จริง ๆ แล้วมันเป็นโมเดลแบบเด็กเล่นนะ
เคยเล่นป่ะ ตอนฝนตกเราเล่นทำทางกั้นน้ำ ที่มันเป็นพื้นที่เล็ก ๆ
จากของเล่นเด็ก ๆ พอมันมาเล่นตอนโตแล้ว
มันก็จะดูใหญ่ ๆ ขึ้นมาอีกหน่อย
เล่นแบบจริงจังมากขึ้น

บางทีก็ตลกร้ายเกินไป
เคยเล่นนับเงินตอนเด็ก ๆ ป่ะ
เคยคิดว่า ถ้าวัน ๆ ได้นับตังค์แบบนี้ก็คงจะสนุกสนาน
ตอนนับของตัวเอง มันก็สนุกดี
แต่พอมานับของชาวบ้าน มันไม่สนุกเลย
เริ่มมองเห็นเป็นเชื้อโรค
วันไหนลืมล้างมือ อย่างกะหูดจะกินมือ

ตอนนี้กำลังแอบคิดว่า
ด้วยเริ่มต้นจากศูนย์บาท
จากคนที่ล้มละลายฉิกไหหมดแล้วชีวิต
ถูกสั่งให้ออกจากงาน
ไม่ใช่เจ้านายสั่งนะ
คนที่บ้านสั่ง เมิงไม่ต้องไปทำงานแล้ว
กุขอสั่งให้เมิงอยู่ทำงานที่บ้าน
เงินเดือนไม่ให้
อยากได้อะไรซื้อให้หมด
เมิงมีหน้าที่ทำให้คนอื่นพอใจ

ตอนนี้กำลังคิดว่า เมื่อไรที่หยุดแจก
และเริ่มวางบิลแลกกับผลิตผล
จะสอนให้นางรู้จักการทำบัญชีรายรับรายจ่าย
เราจะเริ่มงดจ่ายเงินให้
ให้เริ่มรับและสะสมหักค่าใช้จ่าย จนเหลือยอดเงินสุทธิ

ถ้าเป็นไปได้นะ อยากให้นางอาสาไปดูแลทำความสะอาด
บ้านของพระเจ้านะ ตำแหน่งยังว่าง
ถ้านางทำได้อย่างที่นังยายคิด
ยายคงลิงโลดกับสุดยอดจินตนาการเลยแหละ

เออ ๆ ค่อยมีความสุขหน่อย
คิดในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้
คอยดูนะพวกเอ็ง ๆ ๆ ๆ ๆ
กุจะคิดและจะเสี้ยมมันทุกวันๆๆๆๆๆๆ
จนมันคิดว่า ตัวมันเองเป็นแบบนั้น
การได้คิดและขายฝันชาวบ้าน
จนเขาทำตามที่เราคิด
มันโคตรจะเป็นความสุขสนุกสนานที่สุดเลย
จะบอกให้.

........................................

วันนี้พี่ชายนางบอกว่า อยากได้โอ่ง
เลยถามจะเอาใบไหน เพราะโอ่งพี่มีหลายใบ
นางชี้ไว้แล้ว .. เสร็จงานจะเอาสีไปให้ทา
โอ่งพี่ต้องสีฟ้ากับสีเหลือง เอาไว้ใส่อะไรต่อมิอะไรลงรอบโอ่ง

ยายต้องเขียนแผนที่ต้นไม้ไปให้นาง
เพื่อที่นางจะได้มองเห็นอะไร ๆ เป็นมโนภาพขึ้นมา
แบบนี้เรียกยัดเยียดแพทเทินความคิดจากประมวลผลของพี่ไปให้นาง

ทำแบบง่าย ๆ ถ้าเวอร์วังเอาลงกระดาษอะไรเพ้อเจ้อพร่ำเพรื่อ

กุคิดว่า เดี๋ยวกุจะไปเขียนไว้บนผนังห้องขี้ที่บ้าน

ทุก ๆ คนนั่งขี้ ขี้ไปมองไป วิเศษ
555555555555555555555555555555555555555

ช่างมีความสุข

เออ ๆ ๆ เมิงคิดไป กุชอบ
ความคิดแบบนี้
แค่คิดก็สนุกสนานแระ
ถ้าได้ทำแล้วมันได้ผลดี๊ดี
ปากกุจะกว้างพอยิ้มได้บาน ๆ ไหมฟร่ะ

คิดสิคิด เรื่องแบบนี้เพ้อเจ้อเข้าไป.




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 22 สิงหาคม 2560 เวลา:2:55:27 น.  

 
#วันที่๑๙๗, ๑๙๘ แก่แล้ว อย่างอแงพร่ำเพรื่อ

หลังจากพาคนที่นี่ไปเคารพพระบรมศพฯ
ความรู้สึกมันขยับขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

เคยบอกไว้หลายครั้งว่า
คนเราจะรู้จักรู้ใจกันได้ดีก็ตอนที่ได้เดินทาง
หรือได้พบกับความยากลำบาก
เสน่ห์ของการเดินทางและความยากลำบาก มันอยู่ตรงนี้
ใครเคยแสดงออกอยากให้รู้ยังไง
สุดท้ายแล้วหน้ากากที่ฉาบไว้มันจะถูกกระชากออกด้วย
ความลำบากที่ได้รับ


จริง ๆ นะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ

หลาย ๆ คน พี่ตัดสินใจเททิ้งก็เพราะการเดินทาง
หลาย ๆ คน ยังคงจับมือเดินไปด้วยกันได้ก็เพราะความลำบากที่ผ่านมาด้วยกัน

คนบางคน เราไม่เคยเข้าใจเขาเลย
แต่เมื่อได้เดินทางด้วยกันแล้ว เราจะเห็นภาพของเขาที่ซ่อนไว้
ชัดเจนขึ้น

ไปที่นั่นครั้งไหน ก็ไม่เท่าครั้งนี้
คิดว่าจะหลั่งรินเค้นน้ำตาออกมาได้บ้าง
คิดว่ายังรู้สึกเหมือน ๆ เดิม เปล่าเลย
พอตัดสินใจเลิกร้องไห้ได้แล้ว
พอตั้งท่าจะเบะปาก ความรู้สึกเฟ้นหาเหตุผลมันพุ่งพรวดขึ้นมา
"จะร้องทำเHี้ยไร"
"เพ้อเจ้อ"
"อาวรณ์จนคุมสติไม่อยู่"

น้ำจากลูกนัยตาเวลามันย้อยเข้าปาก มันก็เค็มปะแล่ม ๆ ดีนะ

พฤติกรรมของผู้คนยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
บอกเด็กกะเหรี่ยงว่า ต้องเข้าใจนะ แบบนี้ชั่วอายุคนมีหนเดียว
เด็กตอบกลับมาว่า "ไม่เข้าใจหรอก ถ้าแก่แล้วก็จะไม่ทำแบบนี้"

รู้สึกชา ๆ ที่หน้า ไม่รู้จะพูดต่อว่าอย่างไร
ก็ภาพที่เห็นมันน่าละอาย ไม่งามสมควรแก่การค่อนแคะ

ก่อนจะไป เขากังวลกันเรื่องเครื่องแต่งกาย
ชวนกันไปจะหาซื้อมาใส่ให้สมกาลเทศะ

"ไม่ต้องซื้อเดี๋ยวจะดูมาให้"

แล้วพี่ก็ไปค้นหาตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย
สำหรับคนสามคน เหลือเฟือจะเผื่อแผ่
ทุกไซซ์ ทุกคน
ความสุขของพี่ก็อยู่ตรงนี้
อยู่ตรงที่ได้เห็นวันที่สวยงามของคนอื่น ๆ
เวลามันเห็นภาพที่เขาอบอวลไปด้วยความประทับใจ
แล้วมันมาย้อนคิดว่า นี่คือสิ่งที่เราทำให้มันเกิดขึ้น
มันเป็นความสุขที่สัมผัสได้

...............................
สัปดาห์ที่ผ่านมาต่อสู้กับใจตัวเองอย่างหนัก
นับวันยิ่งมากเข้า การเอาชนะใจยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ
เหตุผลที่จะให้ตามใจตัวเองมันมีได้เสมอ ทุกวัน
แต่เพราะตั้งอยู่ในจุด ๆ ที่หยุดก็ไม่ได้
ถอยหลังก็ไม่ได้ หมดสิทธิ์จะเลือก
ก็ต้องพยายามฝืนใจไปจนสุดทางอย่างดีที่สุด

วันไหนที่เอาชนะใจได้ ชีวิตก็จะดีหน่อย
วันไหนแพ้ใจตัวเอง พลังจะหมดลงแบบเห็นได้ชัดเจน
ใครก็ช่วยไม่ได้ เลือกเองก็ต้องทำเอง
ทำในแบบที่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะเข้าใจ

อยากนะ บางทีก็อยากบอกให้มันจบ ๆ เรื่องไป
คนฟังเขาจะคิดเห็นอย่างไร มันเรื่องของเขา
เรามีสิทธิ์แค่เพียงพูดออกไป
แต่พอไปเจอคนหนึ่งพูดไว้ว่า
"การบอกเป้าหมายของตัวเองนั้นเป็นดาบสองคม"
กุนี่หยุดคิดเลย เออ ดีแล้วที่ไม่บอก
ขนาดไม่พูดยังลำบากขนาดนี้
ถ้าพูด(เขียน) ออกไปคงตายไปนานแล้ว
มันคงไม่เก็บกุไว้แน่ ๆ เดชะบุญ.
555555555555555555555555555555555555

..........................................

เกลียดและกลัวความฝัน
แต่บางครั้งฝันก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่คอยชะโลมใจ
ให้เดินต่อไปได้วันต่อวัน
เกลียดมันเพราะมันโคตรจะเหมือนจริงซึ่งไม่ใช่ความจริง

เมื่อวานฝันว่า เฮียมาหา
FC เฮียมากมายรอขอถ่ายรูปคู่
กว่าจะถึงคิวนังยายก็ใกล้จะตื่นแล้ว
ดีนะ ยังไม่ตื่น ในฝันมีแบบ
เฮียมาเร็วๆ สิ จะได้เวลาตื่นแล้วเนี่ย
แล้วเฮียก็ละคนอื่นเดินมาหานังยาย
หยิบสมาร์ทโฟนจะลั่นชัตเตอร์
นังยายรีบบอก
"เฮีย ๆ ไปยืนห่าง ๆ หน่อย พอตื่นขึ้นไปจะได้รู้สึกว่า
เราไม่ได้แค่ฝันไป เพราะความจริงมันไม่มีทางที่จะมาถ่ายรูปใกล้ ๆ กันได้" แล้วเฮียก็ห่างออกไป เราถ่ายรูปกันใกล้ ๆ กับต้นไทรที่ย้อยใบลงมาสวยงามมาก ลั่นชัตเตอร์เสร็จ พี่ก็ตื่นพอดี
....เกลียด....

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่ฝันเห็นเฮีย ตลกดี
ก่อนหน้านี้ก็เห็น พี่ไปเป็นนักข่าวมั้ง ในฝันนะ
จะไปบ้านป้าเบิร์ด พอดีสวนทางกับเฮีย
เฮียจับมือ แล้วบอก "ที่เดินนะ แล้วเจอกัน"

แม่เจ้า ..จะรู้ไหม? ที่เดิมคือตรงไหน
....เกลียด....

เมื่อกี้ก่อนจะตื่น ฝันอีก
ฝันว่า เวลาต่อจากนี้ ไม่แน่ใจกี่ปี
มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาให้เลี้ยง
เห็นหน้าไม่ค่อยชัด
ความรู้สึกมันชัดเจนว่า
เด็กนี่ เจ้าอารมณ์จริงจัง
รู้มาก เรื่องเยอะ เอาแต่ใจ
....โอ๊ย เกลียด....

ที่บอกว่า เวลาต่อจากนี้คือ
สภาพแวดล้อมที่กำลังก่อสร้างอยู่
มันผู้คนอยู่แล้ว และรอบ ๆ มันคึกคักขึ้น
แบบนี้ไม่ดีนะ
ตอนนี้คิดว่า กำลังจะไปจากที่นี่
แต่ภาพนั้น อย่างน้อยกุต้องอยู่ถึงห้าปี
...เกลียด...

.............................................
ชีวิตจริงตอนนี้.. อะไรก็ได้ ได้หมดแหละ
พี่อยู่ได้ พี่อยู่เป็น
อยู่ก็ได้ ไปก็ดี

ต้องสรรหาอะไรทำ ที่มันจรรโลงใจเราได้วันต่อวัน
เช่น ขัดห้องน้ำ ซักผ้าให้คนอื่น ทำกับข้าวให้เด็ก ๆ กิน
เก็บขยะข้างถนน ยิ้มให้กับคนที่เราไม่ชอบ
ถ้าว่างตรงกับคนอื่น ๆ พากันไปล้างห้องน้ำสาธารณะจะดีมาก
มีโอกาสต้องทำ ทำให้มากและทำให้ได้ดีที่สุด
มีลมหายใจให้ได้ฝัน ต้องฝันให้ใหญ่ ฝันให้ชัดเจน
ฝันให้สูงที่สุดเท่าที่มีปัญญาฝันได้
เมื่อฝันได้ชัดเจนและสูงที่สุดแล้ว มันจะก่อเกิดเป็นความคิด
ความคิดที่หนาแน่นไปด้วยความหวังมันจะเป็นตัวกำหนดการกระทำ
ทำไปได้แบบที่อยากเห็น่ อยากให้เกิดขึ้น ซ้ำ ๆ กันทุก ๆ วัน
ก็ให้มันรู้กันไป ว่าทั้งชีวิตจะไม่ได้เห็นความสงบสุขและสวยงาม.

พี่เคยฝันแล้วมีความสุขที่สุดว่าอะไรรู้ไหม?

..ตอนนั้นนอนอยู่ในป่าที่จ.ตราด คิดถึงบ้านมาก
ฝันว่าได้กลับบ้านแต่บ้านของตัวเองโคตรศิวิไลซ์ ลำคลองสองฝั่ง
เต็มไปด้วยมวลดอกไม้บานสะพรั่ง ตึกรามลดหลั่นไม่ระเกะระกะ
เป็นบ้านพักสองสามชั้น ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ มีกลิ่นหอมสดชื่น ไร้มลภาวะทุกชนิด สงบสุข สวยงาม ถ้าจะหาภาพใดมาเปรียบก็คงจะเทียบเคียงกับหมู่บ้านในสวิซเซอร์แลนด์.

เป็นภาพที่อยากเห็น เป็นชีวิตที่อยากมี
ผู้คนรอบตัวรู้จักหน้าที่ของตัวเอง

ทุกวันนี้เหรอ? รอบตัวมองออกไปเห็นแต่ขยะและมลภาวะ
บนถนนเต็มไปด้วยรถที่หาวินัยจราจรแทบไม่ได้
....เกลียด....

ผู้คนรอบตัวเห็นแก่ตัว หน้าที่มีทำบ้างไม่ทำบ้าง
บ้างก็ไม่มีอาชีพ ได้เวลาเรียน ไม่ไปเรียน
ไม่มีความอดทน ไม่ทำงานทำการ งอมืองอตรีน
มีเยอะแยะเลย
....เกลียด....

ไม่เป็นไร อะไรก็ได้ ได้หมดแหละ
ค่อย ๆ จิกกันไป
สาบานได้ ถ้านังยายยังอยู่
กุจะจิกแดรกกบาลมันทุกเมื่อเชื่อวัน
ถ้ากุไม่อยู่แล้ว อีกเรื่องหนึ่ง

แก่แล้ว อย่างอแงพร่ำเพรื่อ.
....เกลียด....


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 26 สิงหาคม 2560 เวลา:5:42:13 น.  

 
#วันที่๑๙๙,๒๐๐ ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ เลยนะ

ขอบคุณนะที่ทำให้รู้ว่า "ชีวิตนั้นมีค่าและมีค่ามากเกินกว่าจะเอาไปทิ้งไว้กับใครคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว"

เมื่อวานทั้งวันทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก็ยังทำไม่เสร็จดี
เวลาต่อจากนี้กำลังก้าวเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกสิ่งอย่าง
ไม่ว่าจะยังอยู่ต่อ หรือ จะเดินจากออกไป

เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเครื่องไม้เครื่องมือ แม้กระทั่งผู้คน ฐานอาชีพ

ตกเย็นแล้วข้าวยังไม่ตกถึงท้อง
บอกให้เด็กออกไปซื้อวัตถุดิบมา จะทำน้ำยากระทิให้กิน
นั่งทำอยู่นานสองนาน กับไข่ตุ๋นอีกถ้วยหนึ่ง
กินไปได้สองสามจาน ต้องหยุดก่อนเดียวจะแน่นท้องเกินไป
อยู่ไม่เป็นสุข
พอลงมา รู้สึกเหนื่อยมาก อาบน้ำล่าสุดคือ เย็นวันก่อนหน้านั้น
นี่ก็เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว

นั่งสักพัก เบื่อจะอยู่แล้วที่นี่ หมดแรงทีไรอยากกลับบ้านทุกที
แต่ก็ดึกแล้ว กลัวจะเป็นอย่างในข่าว
คิดอีกที หน้าตากุนี่เป็นอาวุธอย่างดีกลัวอะไร
ตัดสินใจกลับบ้านทั้งกลางดึกนั้น
เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว
พอช่วงตีสาม เท่านั้นแหละ มีแขกไม่ได้รับเชิญบุกรุกเข้ามา
อยากจะถีบให้หน้าหงาย พี่มารู้อีกทีตอนเช้าแล้ว
แต่เช้าเลยนะ แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร
ก็แค่ข้าวของเสียไปช่างมัน ช่างมัน

เวลาที่มีเรื่องต้องให้เครียดมาก ๆ จนหาทางออกไม่ได้
ฉันมักจะนอนหลับตาอยู่แบบนั้น
นานมากแล้วที่ไม่ได้นอนนาน ๆ นิ่ง ๆ อย่างเครียดมากแบบนี้
เวลาที่มันคิดอะไรไม่ออก ไม่อยากตื่นขึ้นมาเพื่อพบเจอกับ
ความจริงอันโหดร้ายใด ๆ การได้นอนนิ่ง ๆ
มีความสุขที่สุดแล้ว แค่หลับทุกอย่างจบ
เหมือนเราตายจากโลกนี้ไปแล้ว
จะวุ่นวายแค่ไหน ช่างเมิง ฉันจะนอนไง

นอนจนคนในบ้านโวยวายเสียงดัง
ครอบครัวสายแดรกนะ บ้านฉัน
อยากจะเลี้ยงฉลอง อยากจะกิน อยากมีปารตี้
ดูนังยายก่อน ถามนังยายก่อน
พร้อมรึยัง คิดกันต่าง ๆ นานา
จะกินอะไรดีน้าาาา

นังหลานที่หน้าเหมือนกันที่สุด
ก็มานอนข้าง ๆ แหม่ มันเหมือนมีคนท้าชิงนะ
ใครลุกขึ้นก่อนคนนั้นแพ้
พอเห็นคนนอนข้าง ๆ ได้เสียเลย
ฉันก็นอนต่อสิ ตื่นทีหลังได้บุญ
5555555555555555555555555555

รู้สึกไม่ค่อยชินเลยใช่ไหม? เล่าซะเรียบร้อยเลย แปลก ๆ ไปเนอะ ...เอออออ น่ะ เดี๋ยงเอ็งก็ชิน

นอนจนพี่สาวนางรอไม่ไหว
มาจับขาลากให้ลงจากเตียง ริยำจริง นางคนนี้
555555555555555555555555

เข้าครัวกันทำกับข้าวคนละอย่าง
แล้วก็นั่งกินกันตามประสาครอบครัวสายแดรก

นายมีความน่ารัก ให้กำลังใจในการประชันฝีมือ
ทำตัวเป็นพิธีการรายการมาสเตอร์เชฟ
เพื่อชิงตะหลิวทองคำ ขำ

ทำไส้กรอกทูโทนให้นายกิน
ปรากฎว่า ไหม้ครึ่งหนึ่ง ไข่ไม่สุกครึ่งหนึ่ง
แต่นายก็ยังคงให้กำลังใจ บ้านนี้มันเป็นอะไร
คนทำกับข้าวอร่อยกลับไม่อร่อยแต่ยังไงของป้าก็ยังอร่อยอยู่ดี

กลัวป้าจะเสียหน้า 5555555555555

กินได้สามคำ ฉันนับได้ ต้องรีบอาบน้ำออกจากบ้านอย่างด่วน

มีนัดกับคนที่นี่และลูกศิษย์คนนั้น
นางรอจะให้ถึงวันนี้ ดูนางจะเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุด

ได้เวลาก็เดินทางกัน ร้านที่จองไว้อยู่ไม่ไกลจากที่นี่
มีกันประมาณสิบคนได้
เป็นคนคุ้นกันทั้งหมด
ทุกอย่างเป็นไปโดยเรียบร้อยดี
บรรยากาศดี ไม่มีใครโทรตาม
ไม่มีเหตุสุดวิสัย เท่านี้ก็โอเคแล้ว

นางบอกว่า ร้องเพลงยังไม่เป็นเลย
เดี๋ยวต้องหัดร้องให้เก่ง ๆ (แบบพูดไม่ชัด)

เต็มที่เลยอินาง ได้เห็นว่า นางมีความสุขกับชีวิตที่นี่
พี่ก็โอเคแล้ว

......................................

วันนี้รู้สึกไม่ค่อยโอเคกับตัวเองเอามาก ๆ เลย
หลายอย่างที่มันเกิดขึ้น
ยิ่งเห็นยิ่งเบื่อหน่าย
นิสัยของแต่ละคน ย้อนมองดูตัวเอง

กลับถึงบ้านแล้ว จ่ายเงินให้แท็กซี่ในราคาที่แพงกว่าปกติ
ตั้งใจให้เพราะเขามีมารยาทที่ดี ทำให้รู้สึกสบายใจ
เรียกแม่ แม่บอกให้เปิดไฟกินข้าวแกงสายบัว
อยากกินนะ แต่อิ่มมากแล้วยัดไม่ลง
นอนเลย นอนเพลินเลย พลาดเลยหนึ่งวัน
เสียใจ เสียดาย อยากใช้เวลาให้คุ้ม
พอตื่นเช้าขึ้นมา เจอกับเรื่องแย่แต่เช้า
เฟลเลย นอนเลย จะให้ไปทำอะไร
บอกเลยเซ็ง ๆ แบบนี้นอนอย่างเดียวค่ะ

ที่ตั้งใจไว้ มากมายเลยนะ
อยากจะทำอะไรตั้งหลายสิ่งอย่างให้ใครต่อใคร

นายเอาของเล่นที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมาเองให้ดู
เขาเอาขวดมาตัดเพื่อจะทำเป็นหุ่นยนต์ในแบบของเขา
ทำก้านสำลีมาตัดแบ่งครึ่งทำเป็นหู
รุ้จักการใช้มี เล่นกรรไกร
เขาพัฒนาของที่จะเล่นได้มากมาย
อยากมีเวลาเล่นกับนายให้มากกว่านี้
แต่ก็ไม่ได้ทำ

อยากทำหลายอย่าง คิดถึงทุก ๆ คนที่จะมาใช้เวลาด้วยกันวันนี้
คิดว่าจะซื้อของที่ระลึกให้ทุก ๆ คน
แต่ละวันต่อจากนี้ คิดเสมอว่า ถ้าไม่อยู่ที่นี่แล้ว จะต้องทำยังไง
ค่อย ๆ เก็บข้าวของไปทีละอย่างสองอย่าง
เพื่อให้ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางพร้อมจะแยกย้ายเสมอ

แตะที่ ๒๐๐ แล้ว ต้องเลิกหยาบคายให้เด็ดขาดสินะ

ต้องขอบคุณพวกสร้นตรีนหมาพวกนั้นนะ
เมื่อก่อนเราแหกคอกแหกกรอบมา เพื่อให้กล้าที่จะแสดงออก
ถึงความจริงใจ ไม่ฉาบทาด้วยจริตที่ไม่เป็นจริง

แต่พอห่านจิกพวกนั้นยืดการกระทำเยี่ยงนี้
ว่าเป็นหัวก้าวหน้า หัวเสรี คนรักอิสระขึ้นสุดอย่างนังยาย
ก็ต้องหลีกทางให้สินะ

อะไรก็ได้ แต่ถ้าจะต้องถูกเหมารวมกับพวกสร้นตรีนหมาอย่างนั้น
ฉันไม่เอาด้วยจ้ะ

ถึงจะดูเป็นการขัดใจ ยากที่จะกระทำ
แต่คนเรานะ มีวิธีที่จะสื่อสารตั้งหลายวิธี
ไม่จำเป็นต้องหยาบคาย ก็แสดงออกถึงความเป็นคนตรงไปตรงมาได้

บางทีก็รู้ตัวนะ หยาบคายเกินไปแล้ว
ยิ่งพูดยิ่งมันส์ปาก ยิ่งพูดยิ่งดูเหมือนตัวเองใหญ่ขึ้นจนคับที่จะอยู่
สันดานไม่ดี ทำผิดไม่รู้ตัวว่าผิด

...... เกลียด ......

ให้ผ่านงานระลอกนี้ไปก่อนนะ
จะพานายและนายคนเล็กไปทำสิ่งที่สมควรต้องกระทำ.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 28 สิงหาคม 2560 เวลา:4:32:11 น.  

 
#วันที่ ๒๐๑ ครั้งแรก พลาด..อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อวาน นอนหัวค่ำ น้ำมูกไหล รู้สึกไม่ดีเลย
เจอฝุ่นละเอียด คิดว่าไม่เป็นอะไรเพราะปิดประตูขังตัวเอง
อยู่ในห้อง ฝุ่นอยู่ข้างนอก พอเสร็จแล้วก็รีบเช็ด
พอค่ำลงเท่านั้น อากาศเปลี่ยน

ทุกอย่างก็เปลี่ยนรีบนอน เหมือนจะดีขึ้น เช้ามา
คิดว่าวันนี้จะไม่มีใครแล้ว ดันมากันแต่เช้า
ปวดหัวเลย เมื่อวาน ยังหายใจไม่ดีขึ้นเลย
วันนี้มาเล่นกันฝุ่นตลบอีกแล้ว

สักพัก หายใจลำบาก รู้สึกวิงเวียง ยังกะจะเป็นลม
จนต้องรีบไปหาข้าว หากาแฟกิน
ตื่นมาก็ไม่ค่อยโอเค ฝันเยอะไปหน่อย เคล็ดคอเจ็บเมื่อยไปหมด

ตกบ่ายเท่านั้นหนาว ๆ ร้อน ๆ แน่ละ อาการเดิม
หายาพารากินสองเม็ดเหมือนจะดี ขึ้นนิด
พอตกดึก หนาวอีกแล้ว นี่ตงลงเมิงจะให้ยายป่วยให้ได้เลยใช่ม่ะ

ฝุ่นแค่นี้เอง

สำเหนียกไว้นะ นังยาย
ยายแพ้ฝุ่นแบบเซ้นซิทีฟมาก นิดนึงก็ไม่ได้ นิดหน่อยก็ไม่ได้
ถ้ารู้ เมิงหนีอย่างเดียว อย่าถึก อย่าทน
พี่ไม่อยากกินยาอีกแล้ว
นังยาย
นังบร้าส์.

พี่ยอมโดนด่าว่า "สำออย"
แต่พี่จะไม่ยอมหยิบเม็ดยาเป็นกำมือเข้าปากอีกแล้ว



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 30 สิงหาคม 2560 เวลา:0:35:17 น.  

 
ช่วงนี้..ชีวิตก็จะตกอยู่ในอันตรายหน่อย ๆ
นอนวันครึ่ง แต่ตื่นสามวัน
ชีวิตดี๊ดีอ่าาาาา

ดีนะ ที่กุยังไม่ตาย

เอาเรื่องกุ้มใจกลับไปบอกแม่ที่บ้าน
ทุกคนแสดงความเป็นกังวลเป็นอันมาก
พี่ชายมันยุให้นังยายใช้ปืน
กุจะทำมาทำไร๊
ถ้ามันอยากได้ กุจะเอาทุ่มหน้ามันเลย
ไม่ต้องมาแย่งชิง ยินดีจะให้จริง ๆ ด้วย

ถามว่ากลัวไหม? ไม่เท่าไร แต่มันมีความเครียดมาก
เพราะเราไม่รู้จะวางใจไว้ที่ไหน
ไว้ใจใครก็ไม่ได้ ที่เหนื่อยมากเพราะไม่มีเวลาจะพักผ่อน
จะนอนที นั่นคือหลับกลางอากาศ โอเค
สังขารบอกไม่ไหวแล้ว กุถึงได้พักกับเขาบ้าง

พี่ชายไถ่ถามมาตลอด ยังอยู่ดีไหม?

เหมือนเป็นห่วงนะ แต่เปล่าหรอก
วันก่อน คนแถวบ้านมีข่าวว่า
หญิงสาวนอนตายคาห้องมาสามวัน
กว่าจะมีใครรู้ก็เน่าส่งกลิ่นเหม็นเสียแล้ว
นางอยู่คนเดียวนะ เลยไม่มีใครรู้

คงกลัวว่าฉันจะเป็นแบบนี้กระมัง

ยัง กุยังไม่เป็นไรไปง่ายๆ หรอก

.............................

วันนี้ไปทำธุระบางอย่างมา
อยากเล่านะ แต่หมดแรงจะพิมพ์

ตื่นล่าสุดคือเมื่อวานตอนเที่ยง

พอ...จะหล่น.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 3 กันยายน 2560 เวลา:23:12:32 น.  

 
รู้สึกเครียดและตึงไปหมดเลยช่วงนี้

เป็นอีกช่วงหนึ่งของชีวิต ที่ไม่รู้จะยังไงต่อ

ไม่มีสิทธิ์คิด ไม่มีทางเลือก
เขาเลือกให้แล้ว เขาบอกให้เดินหน้าต่อไป
เขาเอางานมากองให้
วัน ๆ หนึ่งเจอคนหลายประเภท
เป็นพวกใหม่ ๆ
งานก็ต้องทำ โจรก็ต้องไปไล่จับ
บางทีก็คิด กุมีตู้สีแดง ๆ ไว้ทำไม
อยากจะถามไปถึงคนรับงานด้วยว่า
กุมีพวกเมิงไว้ทำไม "ที่พึ่งของปชช."
??????????????????????????????


ณ ขณะจิตนี้ บอกได้คำเดียวเลย
ซึ้งในรสพระธรรม "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน..และตนต้องเป็นที่พึ่งคนอื่นด้วย"

ช่วยตัวเองให้ได้ และต้องช่วยคนอื่นด้วย
แต่จะหวังให้ใครช่วย ..ไม่ได้.

คนรอบตัวกุเนี่ย ..ไว้ใจใครไม่ได้เลย

จะบอกว่า "เหนื่อย" กุมีสิทธิ์คิดไหม?

รู้หมดนะ อะไรเป็นอะไร
แค่กุไม่รู้ว่า กุจะต้องทำยังไงถึงจะมีหลักฐานเอาผิดมันได้

ปิดเคสได้แระ
ไม่ค่อยสนุกเลยนะเรื่องแบบนี้

ตอนกุเป็นเด็ก กุชอบนะ เล่นโปลิสจับขโมย
แต่กุเป็นขโมยไง กุไม่ได้เล่นเป็นโปลิส
พอเลย ๆ ปิด ๆ ๆ ๆ ไม่เอาแล้ว
ไม่สนุก ใครอยากเล่น ก็ไปเล่นที่อื่น
ไปไป๊.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 8 กันยายน 2560 เวลา:5:00:15 น.  

 
#วันที่๒๐๑,๒๐๒และ๒๐๓ ผ่านไปแล้วอย่างยากเย็นเหลือจะเข็ญ

เหนื่อยมากแต่ก็ผ่านไปแล้ว
ในเดือนที่บอกกับตัวเองว่า จะไปไหนไม่ได้
จะไปทำอะไรไม่ได้ กลับมีแต่งานกองรออยู่ท่วมหัว

แทบไม่รู้จะปลีกตัวยังไงดี
คลื่นของความเปลี่ยนแปลงก็กำลังจะก่อตัว
หลายคนถาม "แล้วยังไงต่อ?"

ถามด้วยอยากรู้อยากเห็น

นังยายจะไปตอบอะไรได้
ตัวเองจะหายใจอยู่ได้อีกสักกี่วัน ยังไม่รู้เลย
ทุกวันนี้ บอกเลยว่า ยังไม่รู้ว่าค่ำแล้วจะนอนไหน
วันก่อนงานเยอะวุ่นวายจนลืมไปว่า
มันมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่จะต้องทำ ต้องเดินทาง
ต้องไปเก็บ เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ เดี๋ยววันเดี๋ยวคืน
แค่คิดว่าจะไปจองตั๋ว พอเห็นว่า มันน้อยนิด
ตัดสินใจได้ รู้ตัวอีกทีก็นอนบนขบวนรถไฟแล้ว
วันนี้พี่อยู่กท.พรุ่งนี้อาจจะไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้

วินาที่นี้นั่งแป้นแล๊นอยู่กับที่ แต่อีกกะเดี๋ยวถ้าไม่พอใจ
พี่ก็กลับไปขอนอนบ้านซะอย่างนั้น

เริ่มเก็บข้าวของเกือบหมดแล้วนะ
ทยอยนำไปไว้ในที่ที่มันสมควรอยู่
ปลดพระบรมสาทิสลักษณ์ออกจากผนังแล้ว นำไปติดตั้งไว้ที่บ้านแทน เวลาที่ต้องรีบจะได้ไม่มีห่วง

บอกกับตัวเองว่า ให้เลือกใช้น้ำตาเพื่อปลอบประโลมใจ
ต่อให้ใจมันแกว่งขนาดไหน ก็ต้องเดินหน้าต่อให้ได้
โอกาสที่จะเข้าไปใกล้ ๆ ยังคงมีมาต่อไปเรื่อย ๆ
หมดความหวังจะไปเก็บบรรยากาศ
ได้ไป ก็ได้
ไม่ได้ไปก็ไม่เป็นไร
แต่พี่ก็พร้อมจะไปเสมอ

ไม่ได้ถือว่ามีดีอะไร พี่ก็แค่พร้อมทุกสถานการณ์

...........................................

เรื่องมีได้ตลอดไม่เว้นตะละวัน
คือแบบบางทีอยากด่า แต่นึกขึ้นได้
จะเลิกหยาบคายแล้วนี่หว่า

เวลามันโมโห แล้วพูดได้แต่สร้นตรีนหมาเน่า
มันไม่อินเลยอ่ะ ช่างมันเถอะ

กลับบ้านหลัง ๆ นี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ
ถึงมันจะยังไม่ได้เป็นอย่างที่ใจต้องการ
แต่ก็น่าชื่นใจ ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย

มีทั้งเรื่องที่ทำให้พอใจ และไม่พอใจ
โอเค๊ ถือเป็นสมดุลชีวิต

นับวันจะหมดเรื่องเพ้อเจ้อ
คิดอะไรอยู่ ไม่สบายใจแค่ไหนก็ต้องเก็บเอาไว้
ถ้าแสดงออกมา จะมีคนไม่สบายใจตามไปด้วย

เคยคิดว่า ถ้าแสดงออกมาบ้าง จะทำให้เราดีขึ้น
เผื่อจะมีคนคิดแทนได้บ้าง
แต่พอได้ลองพูดออกมา
นอกจากไม่เห็นจะมีใครช่วยอะไรได้

ยังเพิ่มความอึดอัดใจเพราะไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย

มีแต่คนอยากเสือก แต่ไม่เห็นมีใครอยากช่วย
ทำได้แค่รับฟังเท่านั้นแหละ
ความรู้ที่มันปราศจากความรับผิดชอบแขวนคอ
มันก็โคตรจะไร้ประโยชน์

รู้แต่ไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์มันดีขึ้น ก็อย่ารู้เลยดีกว่า

วันนี้ทดลองเปิดตัวแรงส์
ใครจะคุยกับพี่จ่ายคำตอบละหนึ่งร้อยบาท
จ่ายก่อนถาม
ถ้าเคสนั้นเครียดน้อยร้อยเดียว
เครียดมากเพิ่มค่ากาแฟให้นังยายด้วย
ถ้ามันเสี่ยงทำให้กุซึมเศร้าเมิงจ่ายค่าครูกุไปทำสปาด้วย

คือมันได้ผลว่ะค่ะ บอกเลย
ไม่มีใครกล้าคุยเลย กลัวกุวางบิลคิดค่าปรึกษา
55555555555555555555555555555555555555

รู้งิ กุทำมานานแระ
ป่านนี้คงรวยยยยยยยยยยยยยยยย.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 20 กันยายน 2560 เวลา:23:18:00 น.  

 
#วันที่๒๐๔ อย่าให้พลาด

เพื่อนขอให้ช่วยเขียนบทให้พูด
นางอยากพูดเกี่ยวกับเวลาสุดท้ายนี้
เลยช่วยนาง มันเป็นประโยชน์จริง ๆ
เอามาฝากกัน เผื่อจะได้ไม่พลาดกันง่าย ๆ

ห้วงเวลาสุดท้ายแห่งการกราบบังคมทูลลาฯหน้าเบื้องพระบรมศพ ในพระบรมโกศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพล อดุลยเดช ฯ รัชกาลที่ ๙

นับตั้งแต่ได้มีประกาศจากสำนักพระราชวัง ว่า มีกำหนดการเปิดให้ประชาชนได้เข้าเคารพพระบรมศพฯ
ได้จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ นี้เท่านั้น
เดิมทีประชาชนเป็นจำนวนมาก หากได้ตามฟังข่าวจากข่าวในพระราชสำนัก
เราก็จะรู้ว่า สถิติในวันหนึ่ง ๆ จะมีประชาชนเข้ากราบเคารพพระบรมศพวันละไม่ต่ำกว่าสามหมื่นคน
ในความหมายของคำว่าประชาชนจำนวนมาก (ปกติ) (ยิ้มแฮ่ๆๆ)

ในความรัก ความเมตตาที่ในหลวงรัชกาลที่๙ ทรงมีให้กับเหล่าพสกนิกรในทุก ๆ หมู่เหล่าทั่วทั้งแผ่นดิน
ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ห่างไกลยากจะเข้าถึง
ไม่เว้นเชื้อชาติ ศาสนา ทุกประเทศ ทุกชาติพันธุ์
ไม่แปลกเลย ที่ผู้คนจากทั่วสารทิศจะมุ่งตรงมายังพระบรมมหาราชวังเพื่อกราบเคารพพระบรมศพฯ
เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนประชาชนจำนวนมากจะมุ่งหน้ามายังที่ที่เดียวกัน ด้วยหัวใจดวงเดียวกัน

แต่..ในความต่างชาติพันธุ์ พื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน
การศึกษา ฐานะทางสังคม ร้อยพ่อพันแม่
ต่างจิตต่างใจ นานาจิตตัง ความแตกต่างเหล่านี้เอง ที่ทำให้เกิดความไม่น่าพึงพอใจ
กระทบกระทั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
บางครั้งอาจมีความมักง่ายเกิดขึ้น อาจจะตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจ การแก่งแย่งเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ด้วยความรู้ หรือความไม่รู้ ทุกสิ่งอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
เช่น มิจฉาชีพล้วงกระเป๋า บางทีอาจเลวร้ายถึงขั้นลักขโมยเด็ก

อย่าเพิ่งตกใจค่ะ พลัดหลงมีมาก แต่ก็หากันจนเจอ!!
แก๊งกรีดกระเป๋า แรกๆ นี่มีคนบริจาคอาหารมากมายก็มีแก๊งเวียนเทียนมารับของบริจาคแล้วก็นำไปขาย
มากมายหลายสิ่ง นำมาเล่านี้ก็เพื่อจะบอกว่า มันเป็นปกติค่ะ
ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย

ประเด็นอยู่ตรงนี้ พวกเราจะทำอย่างไร
เพื่อให้ห้วงเวลาสุดท้ายของการกราบบังคมทูลลาฯ นี้เป็นห้วงเวลาที่แสนจะพิเศษ
มีวัฒนธรรมอย่างไทย สมพระเกียรติ ให้สมกับที่เรามักจะพูดกันเสมอว่า
ภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่๙
เราจะขอเป็นข้าฯ รองบาททุกชาติไป ..นี่คือคำถามค่ะ
ไม่ได้ต้องการคำตอบ ถามให้ตัวเองได้ตระหนักคิด ตระหนักรู้ พวกเราย่อมรู้ดีโดยพร้อมเพรียงกันอยู่แล้วค่ะ
พอสำนักพระราชวังประกาศวันสุดท้ายปุ๊บ เราประชาชนคนไทยก็พร้อมเพรียงกันมุ่งตรงไปพระบรมมหาราชวังโดยมิได้นัดหมาย เกิดอะไรขึ้นคะ?
ประชาชนเป็นจำนวนมากกกกกกกก (ลากเสียง)
จากที่มากปกติอยู่แล้ว สถิติสามหมื่น เขยิบขึ้นเป็นห้าหมื่นหกหมื่นโดยมิได้นัดหมาย

นึกภาพตามนะคะ ประตูทางเข้าฝั่งโรงแรมรัตนโกสินทร์ ปลายแถวเลยยาวไปแยกคอกวัว กองสลาก ลามไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ทุก ๆ คนมีใจดวงเดียวกัน มากราบพระบรมศพเหมือนกันและอยากเข้าไปเร็ว ๆ เหมือนกัน เกิดอะไรขึ้นคะ
ติดแหงกหลายชั่วโมงเหมือนกันเพราะจะไปไหนก็ติดประชาชนจำนวนมากเช่นเดียวกัน ชีวิตดี๊ดีค่ะ คือดีย์ (มองบน)

ดีนะที่ไม่เป็นลมตาย!!!!!
ขอตอบคำถามที่ตัวเองคิดได้เมื่อสักครู่นะคะ
หากมีโอกาสอยากเข้าไปกราบบังคมทูลลาฯ เป็นครั้งสุดท้าย ข้าพเจ้าจะเตรียมตัวอย่างไรให้มีความพร้อมสูงสุดเพื่อให้ได้วันเวลาที่แสนพิเศษและสวยงาม????

อันดับแรก ก็คงจะบอกว่า เตรียมใจไปให้พร้อมก่อน หัวจิตหัวใจนี่สำคัญนะคะ ใจต้องเย็น ๆ ร่ม ๆ เราจะต้องสำนึกเสมอรับด้วยเกล้าฯ ในคำสั่งสอนของพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย ท่านดำรัสเสมอ ว่าขอขอบใจในความปรารถนาดีและไมตรีจิตที่เหล่าพสกนิกรมีให้แด่ท่าน และท่านก็ยังย้ำอีกว่า ความปรารถนาดีและไมตรีจิตอันนี้ จะทำให้ประชาชนชาวไทยอยู่รอดในทุก ๆ สถานการณ์ ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง ค่ะ รับด้วยเกล้าฯ นำมาใช้ในทุก ๆ วัน ทุก ๆ สถานการณ์ที่ต้องเผชิญ ใจเราเย็น แม้นเจออากาศร้อน ๆ ด้วยไมตรีจิต ยิ้มแย้มแจ่มใสให้แก่กัน “เมิงเหยียบตริงตรูหรา ขอบใจจ้ะ แต่เจ็บน้าขอโทษตรูยัง” ขำขำ “แต่งตัวแบบนี้ปล่อยเข้ามาได้ยังไง...อ๋อออออ ไม่ปกตินี่เอง ถ้าปกติก็โดนเชิญตัวออกไปแล้ว” บลา ๆ เหล่านี้ไม่ดีเลย ถ้ามีโอกาสไปอีกจะไม่คิดแบบนี้ หยุดคิดนะคะ ใครจะทำอะไรไม่สำคัญเท่า เรากำลังทำสิ่งใดอยู่ เราเตรียมตัวเตรียมใจไปให้พร้อม เราก็พอใจแล้ว อย่างน้อยวันหนึ่ง มีภาพประชาชนจำนวนมากกกกกกก เราจะได้อิ่มใจว่า แอร๊ยยย ในนั้นมีเราด้วยนะเนี่ย

อันดับที่สองนะคะ เตรียมเสบียงเท่าที่จำเป็นค่ะ ด้วยประชาชนจำนวนมากเราต้องประเมิณตัวเองก่อนค่ะ ว่ามีโรคประจำตัวไหม? ทนหิวได้นานเท่าไร เพราะเมื่อเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่เขาช่วยเราได้อยู่แล้ว แต่กว่าจะเข้ามาถึงเรา อาจจะสิ้นใจตายได้ อย่าประมาทค่ะ ถ้าหากว่าเราเตรียมไป ยาดม ยาหม่อง ยาแก้ปวดหัว น้ำดื่ม อาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ บางทีเราไม่ได้ใช้ แต่คนข้าง ๆ เราอาจจำเป็นต้องใช้ มีติดไป ทำให้เราช่วยเหลือคนรอบข้างได้ทัน อันนี้สำคัญนะคะ เป็นการช่วยลดภาระเจ้าหน้าที่ และสร้างบรรยากาศให้ดีงามตามท้องเรื่องค่ะ ได้ช่วยผู้อื่น ทำให้เขาไม่ทุกข์ เราก็ย่อมมีความสุขไปด้วยค่ะ
อันดับที่สาม เรื่องวินัยในตนเอง สิ่งนี้สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ นะคะ มีแถวให้เข้าคิวเป็นแถวตอนสี่แถว ก็ต้องนับให้ได้สี่แถว ทุกวันนี้เราจะเห็นแถวตอนสี่แถวแต่นับได้หกเจ็ดแปด หรือเขานับสี่สองแปด (ก็ได้เหรอ?)
พูดเรื่องวินัยนี่จะโดนดราม่าไหม?
เอาเป็นโดยรวม ๆ ละกันค่ะ สัญญาด้วยเกียรติของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่แทรกแถว ไม่ทิ้งสิ่งอันเป็นขยะให้รกหูรกตา และจะเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เขาน่ารักนะคะ ต้องขอชื่นชม
เจ้าหน้าที่มีไม่มากแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพค่ะ
สามารถทำให้คนจำนวนมากอารมณ์เย็นอารมณ์ขันได้ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว
“ข้างหน้าอีกไกลหลายโค้งหลายกิโล แต่มองไปข้างหลังสิ ...เราผ่านมาไกลแค่ไหนแล้ว”
จากที่ท้อแท้อยู่ เมื่อไรจะถึง เมื่อไรจะได้เข้า เฮ้ออออ ดีเท่าไรแล้วถ้ายืนอยู่จุดนี้ //// ใจเย็น ๆ นะครับ ไม่ต้องใจร้อน ถือแก้วน้ำไปก่อน เดี๋ยวรถน้ำเย็น ๆ จะตามมา พอรถมาถึง เราเข้าไปโน่นแล้ว กินน้ำเปล่ากันไป (เปล่าหรอก ไม่ได้กินอะไร)
//// ประชาชนที่รักครับ ใจเย็น ๆ ครับ ดีแล้วครับที่ได้ยืนตรงนี้ อากาศข้างนอกดีลมเย็น ไม่ต้องอิจฉาคนข้างในหรอกครับเชื่อผม เพราะข้างในนั้นเป็นลมกันแหลกลานแล้ว
(พอพูดกับคนข้างในให้ดูข้างนอก บอกคนข้างนอกให้ดูคนข้างใน) ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทีมประชาชนทุกหมู่เหล่ารอบท้องสนามหลวงค่ะ ปรบมือ!!!!

ประการสุดท้ายค่ะที่ข้าพเจ้าจะตระหนักในการใช้โอกาสเข้าไปกราบบังคมทูลลาฯ
คือตั้งใจแน่วแน่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้
ความเหนื่อยยาก ความลำบากอดทนกว่าหลายชั่วโมงเพื่อจะเข้าไปใช้เวลากราบแค่เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที
มันเทียบไม่ได้เลยกับการที่พระองค์ท่านทรงทุ่มเทเหนื่อยยากพระวรกายทรงงานอย่างหนักไม่เคยหยุดเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ของพวกเราเหล่าพสกนิกรชาวไทย
ข้าพเจ้าจักใช้โอกาสที่มีหากได้เข้าเฝ้ากราบบังคมทูลลาฯ อย่างงดงามที่สุด
เกิดสิ่งใดที่ไม่พึงปรารถนา เราก็จะคิดว่า นั่นคือโลกธรรมแปด เป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่จะต้องได้พบเจอ ทุกย่างก้าวที่เดิน ทุกวินาทีที่รอคอย จะเป็นย่าวก้าวที่เข้าใจธรรม
อยู่กับปัจจุบัน ประหนึ่งเดินจงกลมรอบสนามหลวง ประหนึ่งการชดใช้วิบากกรรมเพื่อเสวยสุขเมื่อผ่านประตูวิเศษไชยศรีเข้าไปแล้ว และเราจะใกล้บรรลุ
ใกล้ชิดนิพพานเมื่ออยู่ต่อหน้าพระบรมศพในบรมโกศฯ ความสุขที่งดงามผ่านไปอย่างรวดเร็วนะคะ
การรอคอยยาวนานถึงแปดชั่วโมง บางท่านอาจถึงเก้าชั่วโมงเพื่อจะได้ใช้โอกาสแห่งความสุขเพียงไม่เกินนาทีเดียว
สติค่ะสติ นาทีเดียวที่จะจดจำกันไปจนลมหายใจสุดท้าย
นาทีเดียวที่เราประชาชนคนไทยได้มีเหมือน ๆ กัน
นาทีเดียวที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือไม่
เรากราบท่านแล้วยังมีสิ่งใดที่ยังไม่ได้แก้ไขในส่วนของตนเองหรือเปล่า?
สำหรับข้าพเจ้า บอกกับตนเองเสมอว่า เราจะมีเมตตาต่อผู้คนรอบตัวให้มาก
มีความปรารถดีต่อกัน มีไมตรีจิตต่อกัน
ข้าพเจ้าจะแทนค่าความคิดถึงในหลวงรัชกาลที่๙ ด้วยความดีที่ตั้งใจจะกระทำตลอดชีวิตจนกว่าชีวิตจะหาไม่.



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 24 กันยายน 2560 เวลา:2:05:36 น.  

 
#วันที่๒๐๕-๒๐๗ สามวันอันยาวนาน...

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจ กับคู่อริสุดที่รักของนังยายด้วยนะ
ขอบพระคุณในความปรารถนาดีที่มีให้กีบนังยายด้วยดีเสมอมา กุช่างซึ้งในน้ำใจเมิงนัก ที่มีความพยายามจะทำให้กุเป็นบ้า
มีความพยายามจะทำให้กุตาย
หอยหลอดโดนหมอผีแดรกตังค์ไปเท่าไรล่ะ เรื่องของเมิงนะ
แต่เสียใจด้วยนะ กุ ยัง ไม่ ตาย แฮ่
กุขอพักแป๊บ เสร็จธุระกุ แล้วค่อยมาสู้กันใหม่
อิห่าน จะลงมือเมื่อไรหัดกระซิบกุย้าง อิคนไม่มีกติกามารยาท
เมิงจะบ้า เมิงจะระยำจังไรเท่าำรก็ได้ แต่ดูด้วย
กุคนมีมารยาทสูงลิ่ว เมิงหัดเคารพความเป็นกุหน่อยบ้างสักเล็กน้อยก็ดีนะ
ถึงปากกุจะหมา ถึงปากกุจะพูดจาขวานฝ่าซาก แต่กุมีมารยาทว้อยยยย
อิหน้าผี จ๋อยไปเด่

จะบอกไรให้นะ ไม่พอใจกุอ่ะ เมิงไม่ต้องไปลงทุนทำไรให้เสียตีงค์เยอะแยะหรอก มาหากุนี่ มาบอกกับกุดีดีก็ได้ จะให้ทำไร ในขอบเขตที่มันถูกต้อง ด้วยศีลธรรมอันดี กุำให้เมิงเองก็ได้ กุใจดีเกินพอ
อยากให้กุบ้า ด๋อยเอ๊ย เรื่องกระจอกแค่นี้ สบายๆ ไปจ้างเขาทำไม๊
อยากให้กุตาย ฉิกไห เรื่องธรรมด๊า อีกไม่กี่ปี เมื่องานกุจบ กุตายแน่
แต่กุยังไม่ตายตอนนี้ว้อยยย งานกุยังไม่เสร็จเดี๋ยวเป็นผีตาเหลือก สัส
มันไม่ค่อยสวยนะ ตอนเป็นคนขี้เหร่ไม้เป็นไร แต่เป็นผีเมื่อไร กุต้องสวยว้อยยยยยยยยยยยยย สำเหนียกไว้สิ.

.....................
หมดคำจะพูด หมดเรื่องจะเล่า



โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 11 ตุลาคม 2560 เวลา:9:53:11 น.  

 
#วันที่๒๐๘,๒๐๙
และพรุ่งนี้ #วันที่๒๑๐
ครบรอบปี..เสด็จสู่สวรรคาลัย
วันเวลาเดินเร็วจนใจหายนะ
ถึงวันนี้เราจะหมดน้ำตาแล้ว
แต่ความรู้สึกทุกอย่างยังคงอยู่

อยากไป อยากทำ
แต่ด้วยภาระงานหนักที่มี ขยับไปไหนไม่ได้เลย
เสียใจอยู่ลึกๆ
จะปล่อยให้อ่อนไหว ก็เกรงว่าอาการจะทรุด
คนเดนตายอย่างนังยายมีตัวเลือกให้เลือกทำอะไรบ้าง

ไม่ได้อยากคุยกับใครเลย
แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้อะไรๆ มันสายเกินเยียวยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"แกอยู่รอดมาได้ไง?"
ตลอดมาเมื่อเจอเรื่องหนักๆ เราจะบอกตัวเองว่า เรายังเหนื่อยไม่ได้ครึ่งของที่พ่อเหนื่อย
หมดแรงหมดพลังสักกี่ครั้งมันก็ผ่านมาได้
แต่วันนี้มันแปลกๆไป

ก็ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไรนักหรอก
เป็นอะไรก็ต้องเก็บกลั้นไว้ รู้สึกอะไรก็ต้องรีบวางมันลง

กุอยากจิกหัวมันมาถามแล้วด่าสั่งสอนให้สำเหนียก
แต่ด้วยคุณธรรมข้อที่ให้เรามีเมตตาและปรารถนาดีต่อกัน
มันจุกแน่นในหัวใจจนล้นออกทางตา
ถูกมันกระทำเจียนตายก็ต้องเก็บไว้ใช่ไหม

ที่สุดของความทรมานใจ
อยากถามให้สิ้นสงสัย
"ค่าของมิตรภาพที่มีให้เมิงเอาไปแลกมาเท่าไร"

เมิงเป็นคนทำผิดแต่กุต้องมานั่งคิดว่าถ้าใครๆรู้เมิงจะโดนอะไรบ้าง

สมอง สติ ไม่หยิบมาเลยนะเมิง

บัวมีหลายกอ คนมีหลายประเภท
แต่คนประเภทอย่างเมิง เป็นได้แค่คนรู้จักแหละ
เรียกว่าเพื่อนคงไม่ได้

.....................................
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก..ที่ถูกกระทำจากคนที่บอกว่า
เป็นฝ่ายเดียวกัน สรรคำยากมาก
"เพื่อนกุไม่ให้เมิงใช้"
เมิงมันไม่มีค่าควรพอจะเป็นเพือนกุได้

มาทางไหน ไปทางนั้น
กุจะไม่เล่นกับเมิง




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 13 ตุลาคม 2560 เวลา:23:21:38 น.  

 
#วันที่๒๑๐ อีกครั้ง...กว่าจะผ่านวินาทีอันโหดร้าย

ความรู้สึกที่มันท้อก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้
อะไร หรือใครที่ไม่ช่วยทำให้ใจดีขึ้น
ตัดทิ้งไปก่อนเถอะ
พี่ไม่มีแรงเหลือพอจะชั่งใจรอสิ่งใดแล้ว

พี่ไม่ได้กลับมาเพื่อจะมายอมแพ้ใคร

ก็ต้องสู้มันต่อไป ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากุสู้อยู่กับสร้นตรีนหมาอะไร
มันไม่ใช่สร้นตรีนหมาธรรมดานะ
มันเป็นสร้นตรีนหมารอบกัดด้วย

เมิงจะมีสักกี่ตัวที่รอบกัดกุก็ช่างแม่ม ใครแคร์ ใครสน

ถ้ากุเรียกพลังกลับมาได้เมื่อไรนะ
กุไม่ทำไรเมิงหรอก กุใจดี
55555555555555555555555555555555

ชีวิตบัดซบ อยากร้องไห้ ถวายความอาลัย
แต่ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าชื่นตาบาน
ชีวิตดี๊ดีล่ะ

ไอ่สึด ดีนะกุไม่ตาย
55555555555555555555555555555555




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 15 ตุลาคม 2560 เวลา:1:19:33 น.  

 
#วันที่๒๑๑ ผ่านไปแล้ว...ก็แค่นี้เอง

หายใจเข้าลึกๆ นะยาย เก็บได้วันรวมหัวล่าสุด
ช่างเป็นวันที่น่าเวียนหัวที่สุดเลย

เช้า สาย บ่าย ค่ำ และจนดึกดื่น
ตื่นมาตอนเช้า ที่บ้านมีแขกแต่เช้า
นางเป็นหลานห่างๆ ของป๊ะ ป๊ะจะเป็นคนที่นับหน้าถือตาของคนจนๆ
เป็นขวัญใจคนยากจน คนที่ไม่มีใครคบด้วย

ปกติ ไม่ค่อยได้เห็นนางนัก
บ้านเราอยู่คนละโซน แบ่งแยกด้วยอะไรก็ไม่เข้าใจ
สุดท้ายแล้ว เรารู้แต่ว่า บ้านเราเป็นที่พึ่งสุดท้ายของสรรพสิ่ง
นางมาบอกว่า จะพาสามีไปหาหมอ
ไม่มีเงิน ทั้งค่ารักษาและค่าเดินทาง
นางเอาทรัพย์ชิ้นที่มีค่าที่สุดในบ้านมาขายต่อ ด้วยราคาไม่กี่ร้อยบาท
ฟังคอนแรก คิดว่านางมาไถเงินพ่อแม่
จนกระทั่งฟังๆ ไป มันเริ่มรู้เรื่องชัดเจน
ค่าเดินทาง ร้อยห้าสิบบาท เช่ารถเพื่อนบ้าน
ค่ารักษาสองร้อย เป็นค่าฉีดยา

รวมทั้งหมดนี่ พี่กินข้าวมื้อนึงยังไม่พอเลย
ค่าของเงินของแต่ละคน มันไม่เท่ากันจริงๆ

ปวดใจ...จุกในอก
ไม่กล้าแม้แต่จะมองดูเขา เพราะเกรงว่าสายตาอันกร้าวกราดจะไปทำให้เขาเห็นแล้วลำบากใจ

คิดอยู่นานสองนาน กว่าจะเอาตังค์ออกจากกระเป๋าได้

คิดต่อไปอีก มันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ ที่จะทำให้คนครอบครัวนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้

คิดต่อไปอีก เมิงหายดีแล้วเหรอ ยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้ว

คิดต่อไปอีก ถ้าได้ข้าวว่าสามีเขาแย่จนทรุดและตายจากไปโดยที่เราไม่ช่วยอะไรเลยทั้งๆที่มีโอกาสกุคงจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยตลอดชีวิต

คิดต่อไปอีก นี่เป็นความดีที่มีคนเอามากองอยู่ในบ้านแท้ๆ จะเอาไว้ หรือจะผลักไสเสีย

คิดต่อไปอีก ต่อให้เขาหลอกขายของ แต่เงินจำนวนนั้นเขาก็มีความจำเป็นต้งใช้ป่ะวะ

คิดต่อไปอีก เมิงจะคิดสร้นตรีนหมาไรนักหนาล่ะ

บางที่ เรื่องที่ไม่สมควรคิด เราก็คิดเยอะเกินไปนะ

หยิบเงินส่งให้พี่สาว
พี่สาวส่งให้แม่

นางดีใจร้องไห้น้ำตาพร่างพรู
เป็นการเสียเงินที่ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว

พูดไม่ออกกับสิ่งที่เห็น
ตลอดวันนั้นและอีกหลายวัน
ทำให้ไม่ต้องการอะไรอีกเลยชีวิต
จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างเถอะ
อาบน้ำเสร็จแล้ว ไม่แต่งหน้า ไม่ทาแป้ง รวบผม
ก็ออกจากบ้านได้
เสื้อผ้าใส่แค่สองชุด เพราะทุกๆวันใส่แต่สีดำ
ก็ไม่รู้จะใส่หลายชุดเพื่ออะไร
เวลาขี้เกียจ บอกตัวเองว่า
"ขี้เกียจแล้วใช่ไหม ลุกขึ้นทำให้เสร็จเดี๋ยวนี้...ก็ทำได้นี่"

เบื่ออาหารใช่ไหมแดรกๆเข้าไป นี่อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายที่ได้แดรก

เจ็บปวดใช่ไหม เจ็บไปสิ ร่างเมิงไม่ใช่ของกุ

อยากได้เหรอ จริงๆ เหรอ จำเป็นจริงๆเหรอ ถ้าไม่มีตายไหม?
ไม่ตาย!!!! แล้วจะอยากได้เพื่อ?...

โกรธมันใช่ไหม? แล้วชีวิตกุดีขึ้นไหม
โกรธแล้วกุหายจากสิ่งที่เป็นอยู่ไหม
โกรธแล้วบัญชีความดีกุหนักขึ้นหรือเปล่า

ไม่เลย โกรธให้โง่สิ

แต่ตอนนี้กุไม่ขี้ นี่สิเรื่องใหญ่ วาระแห่งชาติ
การไม่ขี้เป็นภัยสังคม อารมณ์ไม่ดี วจีก็จะพาล
การขี้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เกิดมาครึ้งหนึ่ง ขี้ดีต้องสีมัสตาร์ด ยาวเป็นฟุต
หนักเป็นโล ไม่ขาดสักท่อน
5555555555555555555555555555555555

ขอบพระคุณพวกมัน นังโง่บัดซบ
ถ้าไม่ไเระยำคนอย่างพวกมันนะ ปานนี้กุคงนั่งน้ำตาแตกเป็นน้ำท่วมเมือง
สาแก่ใจนังยายนัก...โง่หลาย ก็ตายไปซะ

เล้าลื้ออยู่ได้น่ารำคาญ

กุไม่ได้เก่งเลยนะ
ไม่ได้แข็งแรงด้วย
กุแค่พร้อมจะมีเรื่อง

จะยังไงก็ได้ อย่ามาลอบกัดกุ

.....................................

ชีวิตเราสั้นนัก
จะพลาดท่าเสียที หยุดหายใจซะเมื่อไรก็ไม่รู้
วันนี้ ไม่อยากได้ อยากทำ หรือ อยากเจอใครๆ แล้ว
อย่างเดียวที่คิดตลอดเวลาคือ
จะเสียใจมาก ถ้าตายจากไปตอนที่ยังทำงานไม่เสร็จ
กลัวว่า จะสิ้นสติหมดลมไป โดยไม่ได้ทำความดีให้ถึงพอจะอยู่ที่ไหนก็ได้
เคยกังวลว่าแล้วจะอยู่ที่ไหนล่ะ
บ้านก็ไม่ได้ กลัวคนที่บ้านเดือดร้อน
ไม่อยากอยู่ใกล้ใครเลย
เกรงว่าจะทำให้เขาลำบากไปด้วย

ตอนนี้ ความกังวลนั้นไม่มีแล้ว
นอนไหนก็ได้ ข้างถนน..กลางถนนยังนอนมาแล้ว
ยังมีที่ไหนที่จะนอนไม่ได้อีก

แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว.




โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 19 ตุลาคม 2560 เวลา:1:08:17 น.  

 
นับถอยหลัง..อีกสองวัน ใจจะขาดรอนๆ
เวลาไม่เคยเยียวยาสิ่งใดได้เลย...

ผ่านมาหนึ่งปีกับอีกสิบวัน..มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?

สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปทั้งหมด
ผู้คนก็หมุนเวียน คนใหม่ออกไป คนเก่าๆกลับมา
แต่พระผู้เสด็จ ณ แดนสรวงจะไม่มีวันกลับมาแล้ว

เมื่อคืนตั้งใจจะเดินไปเก็บบรรยากาศครั้งสุดท้าย
เพราะค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า..ถึงวันนั้นจริงๆ
ถึงบุญจะมี แต่กรรมคงยังบดบังได้แต่เก็บกระเป๋ารอเตรียมพร้อม
ทดสอบความถึกและทนของตัวเอง
โดยเดินจากจากพระราชวังดุสิต ไปจนครบทั้งสี่ทิศที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง
ไม่สำเร็จ เราหล่นกันตั้งแต่ทิศที่สอง เดินต่อไปไม่ไหวแล้ว
ยิ่งเดินใจยิ่งหล่น...

กรุงเทพมหานครฟ้าเมืองอมร ยามนี้ก็เงียบปลอดโปร่งดี
แต่เงียบแบบนี้ก็ไม่ดี
พสกนิกรนอนรอ..ตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่าย สายฝนโปรยปรายก็ไม่ถอยหนี
หากมีเวลาก็อยากนั่งรออยู่ตรงนั้น
ขอนั่งลงข้างๆ สักครั้งเพื่อซึมซับความรู้สึกของการรอคอย
มันเป็นการรอคอยที่ปรารถนาให้เวลาค่อยๆ เดินไปอย่างเนิบช้า
ถ้าหากเจ้าของแห่งกาลจะเมตตากรุณาบ้าง
ได้โปรดประวิงเวลาออกไปสักระยะให้นานเท่านาน

ใจที่มันอิ่มแล้วด้วยน้ำตา
จะต้องทำยังไง ให้มันไม่แกว่ง ไม่ไหวเอนไปตามกระแสสังคมที่แวดล้อม

........................

ไม่ได้อยากไปเดิน
ไม่ได้อยากเห็น
ไม่อยากแม้กระทั่งจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อยากหลับไปเลย...แล้วตื่นขึ้นมาพบว่า
มันก็แค่ฝันไป เราแค่ฝันร้าย

ปาดน้ำตา เช็ดขี้มูกแล้วเตรียมตัวออกไปรับสิ่งของฯ
มันเป็นการยาก ที่อยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก
และต้องเก็บมวลน้ำไว้ในตาแดงๆ

รู้สึกยังไงก็ต้องยิ้มสู้
เห็นอะไรขัดตาก็ต้องมองอย่างมีเมตตาและปรารถนาดีต่อกัน
ไม่พอใจใครก็ต้องเล็งเห็นในประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี
ขอให้มีภาพดีดีให้ได้บันทึกบ้าง
ขอให้ปลาหมึกไก่ย่างไปขายในตลาด
ถ้าใครมาคนเดียว พี่ขอถ่ายรูปให้ไหม จะได้ไม่ต้องเซลฟี่

อย่าคิดแบบนั้นนังยาย.. รู้นะยายคิดอะไรอยู่.


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 24 ตุลาคม 2560 เวลา:8:56:38 น.  

 
#วันที่๒๑๒ ใครเลยจะเชื่อ ว่าทำอะไรลงไปบ้าง

วันนี้หมดแรงเอามากๆ นอนอยู่บ้านมาทั้งวัน
ทุกอย่างเป็นไปตามคาด
แต่นังยายก็เก็บบรรยากาศไว้ครบถ้วนตามความต้องการแล้ว
พรุ่งนี้สิ...สำคัญนัก

จะเอาตัวไปแทรกในทุกที่ ที่ต้องการได้อย่างไร
เพิ่งทราบตอนหัวค่ำนี่เองว่า พี่สาวคนหนึ่งได้ลงทะเบียนจิตอาสา
งานบริการประชาชนไว้เหมือนกัน

การได้เป็นจิตอาสาเป็นเรื่องปกติของชาวไทยโดยทั่วไป
หากแต่กลับเป็นเรื่องแหกกฎแตกต่างจากชาวบ้านระแวกบ้านนังยาย
ด้วยความเข้าใจในความเชื่อแบบผิดๆ
พี่ไม่ว่าอะไรเขาหรอกนะ ส่วนตัวใครก็ส่วนตัวมัน
เราเพียงรู้ว่า เรากำลังกระทำสิ่งใดอยู่ก็พอ
และสิ่งที่นังยายรับรู้และจะบอกต่อไปยังลูกหลานก็คือ

ในรัตนโกสินทร์ศก ๒๓๕ นี้
เป็นปีมหาวิปโยค
เราชาวมุสลิมแห่งสยามประเทศ
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้
ขณะที่พี่น้องชาวไทย น้อมถวายดอกไม้จันทน์ ในวันที่๒๖ ตุลาคม
มุสลิมแห่งสยามประเทศอย่างเรา ก็เฝ้ารอสดับรับฟังคุตบะห์อันเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระผู้มีพระคุณอันประเสริฐยิ่งฯ
โชคดีแค่ไหน ที่เราได้เกิดและได้ใช้ชีวิติย่างสันติบนแผ่นดินนี้
แผ่นดินที่ไม่เคยมีใครห้ามเคารพสักการะในพระเจ้า

.........................................

เย็นวันนี้ นายคนโต เขาดูทีวีแล้วเกิดข้อสงสัยเหมือนยายตอนเด็กๆ ถามยายว่า "ป้า ในหลวงเคยมาบ้านเราไหม"

ในหลวงท่านไม่เคยมาบ้านเราลูก แต่สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จมาทางคลองบ้านเรา ตอนนั้นป้ายังเด็กอยู่เลย


"ป้าๆ ถ้าเผาในหลวงแล้วพวกเราจะอยู่กันยังไงอ่ะ"

หัวใจจุกน้ำตากล้ำกลืนมันลงคออย่างยากเย็น

"เราก็จะอยู่กับพระเจ้าอยู่หัวองค์สืบต่อๆไป"

พรุ่งนี้ จะอย่างไรช่าง ขออย่าปวดหัวเท่านั้นพอ

พี่คงไม่หวังสิ่งใดแล้วชีวิต
แค่ได้หายใจไปวันต่อวัน ก็ดีเท่าไรแล้ว
น้ำตาจะไหลก็ช่างน้ำตา
ใจมันจะแกว่งจะไกวจะไหลไปทางไหนก็ช่างมัน
จะไม่ฝืนเก็บกลืนความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น

..............................

เวลานี้มีแต่คนทุกข์ทางใจ
กลับบ้าน หวังจะได้กำลังใจบ้าง ก็มีแต่ความขัดแย้ง
พี่น้องทะเลาะกัน
ข้างบ้านทะเลาะกัน
พ่อลูกไม่เข้าใจกัน
ผู้นำถูกใส่ร้าย ริษยาแก่งแย่งกัน

จะต้องไปขุดไปเสาะแสวงหาตรงไหน?????

ที่ทำงานไม่ต้องพูดถึง ว่าจะหาเจอ
ทุกวันนี้ แค่ไม่ตาย ก็บุญล้นหัวแล้ว

ไม่มีเลย...ก็ช่างมันเถอะ
ต่อให้ไม่มีที่วางใจ ก็ไม่เป็นไร
ตกๆ หล่นๆ ไปบ้าง ก็ช่างมัน

วันนี้ยังไม่ดี เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ไม่ดีเหมือนเดิม 555555
แต่อย่างน้อย เรายังดี ที่มันไม่ดีเพราะเรายังดี เราปกติ
ถ้าวันนี้เราไม่มีความรู้สึกว้าเหว่อ้างว้างเลยสิ นั่นคือเราไม่ดีแล้ว
เราผิดปกติ ลืมง่าย ไม่มีหัวใจ

อย่าเสียใจเลย..ถ้าไม่ได้ไปดูมหรสพสมโภชอย่างที่ตั้งปณิธานไว้หลายปี

บอกกับตัวเองตั้งแต่วินาทีแรกที่หลั่งน้ำตาว่า
เราจะกลับบ้าน กลับไปดูแลพ่อแม่ให้บ่อยขึ้น
เราจะงดเดินทางจนกว่าจะเสร็จงานพระราชพิธีฯ
กลับบ้าง ไม่กลับบ้าง ตามแต่โอกาส
สำหรับเรื่องเดินทาง ยากจะปฏิบัติ
แต่ก็ถือว่า น้อยที่สุดแล้ว
ตลอดปี เดินทางไกลแค่สองครั้ง ปกติ ไม่ต้องนับ
ไปทุกเดือน เดือนละหลายทริป

ตลอดปีมานี้...พ่อแม่ได้เห็นหน้าหลายหน

แต่นับจากนี้...นังยายจะตั้งใจ
เป็นมุสลิมแห่งสยามประเทศให้ดีที่สุด
จะตั้งใจอ่านกุรอ่านที่ได้แปลเป็นภาษาไทยแล้ว
เพื่อให้เข้าใจความหมายของบทบัญญัติที่พระเจ้าได้ประทานลงมา
ข้าพเจ้าจะตั้งใจละหมาดให้คุ้มค่าเสรีภาพที่ข้าพเจ้าได้รับอย่างเต็มที่

แค่ได้มีลมหายใจ ได้มีดวงตา ได้มีความทรงจำ
ก็ดีเท่าไรแล้ว...

มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
ขอบคุณที่ทรงประสงค์ให้ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมุสลิมไทย
ในแผ่นดินรัชกาลที่๙

ขอความสงบสุขจงมีแด่แผ่นดินอันเป็นที่รัก.





โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 26 ตุลาคม 2560 เวลา:1:58:59 น.  

 
วันที่๒๑๓ ขันติธรรมอันสุดซึ้ง.

ถ้าจะต้องมีสิ่งใดให้จดและจำบ้าง
พี่จำไว้ว่า .. วันนี้ พี่เอาชนะใจตัวเองไปได้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ภูมิใจเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นมุสลิมไทยในแผ่นดินขององค์ภูมิพลฯ

ภาพที่เห็นวันนี้เป็นเรื่องปกติทั่วไป
ไม่มีอะไรต้องใส่ใจ

แต่เรื่องต้องจำคือ พี่พาตัวเองออกพ้นไปได้ด้วยตัวเอง
ถึงต้องเสียน้ำตาไปบ้าง แต่ก็เป็นน้ำตาที่ควรค่าแก่การหลั่งไหล
ใจจะขาดเสียให้ได้ ก็เป็นเรื่องปกติของใจ
ความขัดแย้งที่เข้าใจไม่ตรงกันก็เป็นเรื่องปกติของคนหมู่มาก

.........................

ไม่ได้ออกไปเดินที่ไหนไกลๆ
เดินจากจุดปฏิบัติหน้าที่กลับไปยังที่พัก ท่ามกลางแสงแดดที่แผดร้อนๆ
ผ่านมวลชนหนาแน่น เจอคนเป็นลมหลายคน ทั้งคนแก่และเด็กน้อย

เช้าของวันนี้สิ...กลับบ้าน จะกลับไปฟังคุตบะห์
เรื่องนี้ไม่อยากจำเลย...แต่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้
บ้านเราเลือกผู้นำผ่านมาเกือบสามเดือนแล้ว
แต่เพราะเหตุใดไม่ทราบ คนเป็นผู้นำถูกขัดขวางไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่
ด้วยเหตุผลที่ยกมาคัดค้านต่างๆนานา
ทั้งมวลนี้ สาเหตุมาจากพวกที่ยกตัวว่าเป็นผู้มีคุณธรรมทั้งสิ้น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนมนุษย์จำพวกนี้
แต่คราวนี้ บอกเลย ถ้าวันหนึ่งพระเจ้าทรงประสงค์ให้ฉันหลุดจากวงโคจรอันเที่ยงธรรมนี้ไป ฉันจะไม่เสียใจสงสัยเลยว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กโง่ๆ บอกเลย เคยคิดว่า โตขึ้นจะตั้งใจทำเลว
ให้คนจำพวกนี้ดูเอาว่า ฉันเลวแล้วหนักกบาลใคร

แต่ตอนนี้ มันคิดได้ดีกว่านั้น
สุดยอดของการข่มใจ อยู่ที่สองวันนี้เอง
เขาทำเช่นนั้นแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เราจะกระทำสิ่งเลวทรามตอบโต้
ตั้งแต่จำความได้ สุดยอดของขันติธรรมเป็นเช่นนี้เอง
ก้มลงจรดพื้นด้วยหยดน้ำตา
ยืนตรงด้วยน้ำตาที่ยังอาบแก้ม
ตั้งใจทิ้งภาระงานอันยุ่งเหยิงเพื่อจะไปฟังพระราชกรณียกิจอันเกี่ยวเนื่องกับแนวทางของฉัน แต่สิ่งได้สดับรับฟังนั้นเป็นหมาสำรอกความกระหายอำนาจโดยเอาบทบัญญัติที่เข้าข้างตัวเองบังหน้า

คิดว่าตนเองเป็นพระเจ้าหรือไรถึงกล้าตัดสินความผิดบาปของผู้อื่น

ฉันจะขอปิด..บันทึกจากคราบน้ำตาแต่เพียงเท่านี้
ต่อไปนี้ จะไม่เสียน้ำตาให้กับเรื่องใด ๆ อีกแล้ว

ต่อไปนี้ เรามันก็แค่เศษผงฝุ่นละอองเล็กๆ ของจักรวาลเท่านั้น
จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้
บนผืนแผ่นดินนี้ ต่อให้ทุกข์ยากสักเพียงใด มันก็คือความสุข
ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้ด้วยความสุข
ตายไปแล้ว จะตกนรกขุมไหน จะต้องถูกทรมานสักเพียงใดก็ไม่เป็นไรหรอก
แต่ถ้าตายไปแล้วต้องไปเข้าสวรรค์กับคนจำพวกนั้น
ขออภัยเถอะ .. เชิญท่านเรียงคิวกันเข้าสวรรค์ตามสบาย ฉันไม่ต้องการ

..........................................

ร้องไห้มาหนึ่งปี...มีขันติธรรมเกิดขึ้นในใจ
ก็ไม่เสียดายน้ำตาแล้ว.

ขอขอบพระคุณท่านทั้งหลาย...
ที่ได้หยิบยื่นแต่เรื่องสร้นตรีนหมาเน่ามาให้
ข้าพเจ้าซาบซึ้งในน้ำใจของท่านทั้งหลายยิ่งนัก

ถ้าไม่มีท่านทั้งหลาย ดอกไม้คุณธรรมอันชื่อว่าขันตินี้
ก็คงไม่เบิกบานในใจข้าพเจ้าอย่างแน่นอน.

...มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว...


โดย: กระติก น้ำชา ลีลาวดี วันที่: 27 ตุลาคม 2560 เวลา:21:57:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กระติก น้ำชา ลีลาวดี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
เรียบง่ายอย่างมีแบบแผน..ตามแนวทางของผู้สร้างทั้งชั้นฟ้าและแผ่นดิน
Friends' blogs
[Add กระติก น้ำชา ลีลาวดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.