|
เรื่องเล่า เจ้ากิมจิ
ตอนเราอยู่ต่างจังหวัด ข้างบ้านเราเป็นสามีภรรยาชาวเกาหลีที่มาทำกินอยู่ที่เมืองไทย ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาชัดๆซักทีเพราะเค้าไม่ค่อยอยู่บ้าน
ตอนนั้นเราย้ายไปอยู่ใหม่ๆก็ยังไม่ได้เลี้ยงหมาหรือแมว แต่กะว่าจะไม่เลี้ยงอยู่แล้ว เพราะหากย้ายไปที่อื่นจะลำบากอีก
บ้านคนเกาหลีเลี้ยงหมาอยู่หนึ่งตัว เป็นพันธุ์อะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่หมาไทย ตัวมันตันๆ สีขาวมีวงที่ตาหนึ่งข้าง เราแอบตั้งชื่อมันว่า กิมจิ
เจ้ากิมจิเป็นหมาว้าเหว่ และขาดความอบอุ่น เราสังเกตเห็นกิมจิมักจะนั่งหงอยๆอยู่ตัวเดียว เราพยามทำความรู้จักกับกิมจิ แต่ไม่รู้จะสื่อสารกันยังไง กิมจิคงไม่เข้าใจภาษาไทย
จนวันนึงเราลองทัก
อันยองนาเซโย
เจ้ากิมจิหูผึ่งเดินเข้ามาหาเราตรงรั้วบ้าน เรานึกในใจจะทำยังไงดีเนี่ย พูดเป็นอยู่ประโยคเดียว เลยคิดว่าหากพูดภาษาคนกิมจิคงไม่รู้เรื่องมองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีใครเลยแกล้งเห่าใส่กิมจิ สองที
โฮ่ง โฮ่ง
กิมจิชะงักมองเราด้วยความสงสัย มันคงคิดว่าจะมาไม้ไหนกันเนี่ย เมื่อเห็นท่าทางไม่ดีกิมจิเลยเดินหลบไปหลังบ้าน
คิดว่าเราจะยอมแพ้เหรอ วันรุ่งขึ้นเราเอาอีกเดินมาหากิมจิตรงประตูรั้วบ้าน แล้วทัก อันยองนาเซโย
กิมจิเดินออกมาดูตรงรั้ว คงเริ่มจำหน้าเราได้แล้ว เราหยิบเอาปีกไก่ย่างออกมา ได้ผลกิมจิรีบกระดิกหางทันที แหมนี่ถ้ารู้ว่าเห็นแก่กินเอามาฝากตั้งแต่วันแรกแล้ว พอกิมจิกินไก่หมดก็เดินกลับไปนอนที่เดิม เราเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มา
วันที่สามเราลืมไปทักกิมจิก่อนเข้าบ้าน ขณะที่ไขประตูรั้วเราได้ยินเสียงกิมจิเห่า โฮ่ง โฮ่ง
อ้าว เห่าภาษาเดียวกับหมาไทยนี่นา ว่าไงเราเหงาเหรออยู่ตัวเดียว
เจ้ากิมจิกระดิกหางจนตัวสั่นคลอน เราก็เลยเข้ามาคุยกับกิมจิ ลูบหัวกิมจิผ่านประตูรั้วบ้าน กิมจิครางงี๊ดๆๆๆด้วยความดีใจที่มีคนมาคุยด้วย
นี่ถ้าเรารู้ว่ากิมจิฟังภาษาไทยออก คงได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันแรกแล้ว อิอิอิ
เราพยามถามกิมจิว่าชื่ออะไร แต่กิมจิก็ไม่ยอมบอก ลองเรียกดูทุกชื่อไม่ว่า ตูบ ขาว โจรสลัด ซุนจีวอน ลีกวนยู โอ้ยสารพัด จนทั้งเราทั้งหมาเหนื่อยสุดท้ายเราก็เลยบอกว่า
งั้นชื่อกิมจิละกันนะ
กิมจิเห่ารับกับชื่อนี้ ทุกวันนี้เรายังงง งง ว่าตกลงไอ้หมาตัวนี้มันชื่อกิมจิจริงรึเปล่า
ตอนเย็นของทุกวันกลายเป็นกิจวัตรที่เราต้องคุยกับกิมจิก่อนเข้าบ้าน กิมจิพอเห็นเราปุ๊บก็รีบเห่าเรียกเรามาคุยด้วยทุกที บางทีเราอยากรีบเข้าบ้านกิมจิก็จะเห่าเรียกไม่เลิกจนกว่าเราจะออกมาคุยด้วยนั่นแหละกิมจิถึงจะพอใจ เฮ้อกรรมจริงๆเลยเรามีเพื่อนเป็นหมา
มีอยู่วันนึงประมาณห้าทุ่มกว่าได้ เราหลับไปแล้ว แต่ได้ยินเสียงข้างบ้านโหวกเหวก โวยวายเสียงดังมาก มีเสียงข้าวของแตก เราคิดในใจว่าสงสัยคงทะเลาะกันแน่เลย ซักพักเราได้ยินเสียงกิมจิร้องเอ๋งๆๆๆๆๆๆ
เรารู้ว่าเจ้ากิมจิคงโดนลูกหลงอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรได้แต่นอนฟังรอให้เสียงต่างๆเงียบลงไปเอง
วันรุ่งขึ้นตอนเย็น เรารีบมาทักกิมจิที่รั้วบ้านเหมือนเดิม กิมจิเดินขาเขยกๆเข้ามาหา เราถามกิมจิว่าโดนเค้าตีเอาเหรอ กิมจิได้แต่มองเราทำหน้าเศร้าๆ เราคิดว่ากิมจิฟังที่เราพูดเข้าใจ แต่กิมจิคงระบายให้ฟังไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน
หลังจากวันนั้นเมื่อไหร่ที่สามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันเจ้ากิมจิจะต้องเป็นที่ระบายโทสะของมนุษย์ใจดำคนนี้ทุกที
เรานอนฟังด้วยหัวใจหดหู่ นึกในใจว่าทำไมคนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐกลับกระทำการทารุณกับหมาซึ่งไม่มีทางต่อสู้ได้
ทุกครั้งที่กิมจิถูกเตะ หรือตี เจ้ากิมจิจะหงอยอยู่หลายวัน เราอยากจะไปแจ้งมูลนิธิคุ้มครองสัตว์มากแต่ไม่รู้จะไปแจ้งที่ไหน หรือมันมีมูลนิธินี้อยู่รึเปล่า
วันนั้นเรากลับจากทำงานตอนเย็นกิมจิมาเห่าเรียกเราหน้าบ้าน เราก็เข้าไปทักตามปกติ ปรากฏว่าเจ้าของกิมจิเดินมาเรียกกิมจิเข้าบ้าน
กิมจิทำท่าทางหัวหด หางตกทันที พอกิมจิเดินผ่านเค้าเท่านั้นแหละ เค้ายกเท้าขึ้นเตะกิมจิจนล้มเลย เราตกใจว่าทำไมเค้าต้องทำกับกิมจิอย่างนั้นด้วย เลยลืมตัวถามไปว่า
คุณเตะหมาทำไม
เจ้าของกิมจิส่งเสียงตอบมาว่า ไม่ใช่เรื่องของคุณ อย่าเ_อก
ตอนนั้นเรารู้สึกหน้าชาและโกรธมากๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะกิมจิเป็นหมาของเค้า จึงเดินเลี่ยงเข้าบ้าน ได้ยินเสียงเค้าด่าตามมาแว่วๆ เราก็พยามทำเป็นไม่ได้ยินขณะที่ในใจเดือดปุดๆ
เรายังไม่ทันได้วางกระเป๋า ก็ได้ยินเสียงค้าใช้อะไรบางอย่างตีกิมจิ เจ้ากิมจิร้องด้วยเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เราสุดจะทนไหว ออกมาหน้าบ้านตะโกนบอกเค้าให้หยุดตีกิมจิไม่อย่างนั้นเราจะไปแจ้งตำรวจ
เค้าไม่สนใจแถมยังตีกิมจิหนักกว่าเดิม เรารู้ว่าเค้าพยามจะยั่ว เลยต้องตัดใจเดินเข้าบ้านเปิดเพลงเสียงดังๆเพื่อกลบเสียงร้องของเจ้ากิมจิ
ตอนนั้นเราฟังเพลงที่เป็นจังหวะร๊อคมันส์ๆ แต่น้ำตาเราไหลไม่หยุด เพราะรู้สึกสงสารและเจ็บไปกับกิมจิด้วย เราไม่น่าไปหาเรื่องให้กิมจิโดนตีหนักกว่าเดิมเลย
วันต่อมาเราไม่เห็นกิมจิเดินมาเรียกเราเหมือนเดิม เราเองก็เห็นรถเค้าจอดอยู่ในบ้านเลยไม่เข้ากล้าไปคุยกับกิมจิเหมือนกัน
ตกค่ำๆเค้าไม่อยู่ เราแวะไปเรียกกิมจิ เจ้ากิมจิค่อยๆกระเผลกออกมาหาเรา ชีวิตนี้ไม่เคยเห็นใครใจร้ายได้ขนาดนี้ เจ้ากิมจิมีรอยคราบเลือดที่หัว ไม่รู้โดนอะไรฟาด ตาปิดไปข้างนึง เรายื่นมือเข้าไปกอดกิมจิและร้องไห้ กิมจิเลียน้ำตาให้เรา พอเรามองไปที่หน้าของกิมจิ เจ้ากิมจิก็มีน้ำตาเหมือนกัน
หลังจากวันนั้น เราไม่กล้าไปหากิมจิหากเจ้าของเค้ายังอยู่บ้าน ตอนกลางคืนเรายังคงได้ยินเสียงกิมจิโดนทำร้ายและร้องเหมือนเดิม
เรารู้ว่าเราทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เราก็ทำไปแล้ว
เราสังเกตว่าเจ้าของกิมจิหากเป็นช่วงที่มีงานเข้า เค้าจะไม่อยู่บ้านประมาณสามวัน เรากะเวลาตอนกลางคืนหลังเที่ยงคืนไปแล้ว ทั้งหมู่บ้านเงียบสงบ ทุกบ้านหลับหมดแล้ว พอเห็นทางโล่งเราให้เพื่อนดูต้นทางให้ แล้วเราก็ปีนรั้วเข้าบ้านกิมจิ
จากนั้นก็อุ้มกิมจิผ่านข้ามรั้ว กิมจิแม้จะไม่ใช่หมาอ้วนแต่ก็ตัวหนักเอาการแถมยังไม่ยอมอยู่นิ่งๆอีกต่างหาก เราต้องบอกกิมจิว่า อย่าดิ้น อย่าร้องจะพาไปอยู่กับคนใจดี
สุดท้ายความพยามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นเราเอากิมจิออกมาได้ อุ้มกิมจิวิ่งข้ามไปอีกซอยซึ่งเพื่อนจอดรถรอไว้ แล้วพากิมจิฝากไปอยู่กับเพื่อน
วันที่เจ้าของกลับบ้านแล้วไม่เจอกิมจิ เรารู้ว่าเค้าต้องมาดักรอหาเรื่องเราแน่ เค้าเห็นเราจอดรถก็รีบเข้ามาถามว่าหมาเค้าหายไปไหน เราตอบไปว่า ไม่รู้ เค้าบอกไม่เชื่อ อยู่ๆหมามันจะปีนข้ามรั้วหนีไปเองได้ยังไง
เราบอกอีกทีว่าไม่รู้ ท้าให้ไปแจ้งตำรวจเพราะรู้ว่าเค้าไม่กล้าเนื่องจากว่าเค้าเป็นไกด์เถื่อน
เค้ามองหน้าเราแล้วบอกว่าระวังตัวไว้ให้ดีถ้าไม่เอาหมามาคืนจะโดนดีแน่
คิดเหรอว่าคนอย่างเราจะกลัว เราเลยโทรหาเพื่อนที่มีแฟนเป็นตำรวจแกล้งขู่ว่าจะแจ้งความข้อหาขู่ทำร้ายร่างกาย เค้าเดินกลับเข้าบ้านไป ทำเสียงโครมคราม โธ่เอ้ยเก่งแต่กับหมา
ทุกวันนี้กิมจิสบายดีอยู่บ้านสวนกับเพื่อนเรา เราไปเยี่ยมกิมจิเห็นกิมจิสดใสร่าเริง และสุขภาพดี เพื่อนบอกว่ากิมจิเป็นหมาที่ดีมาก ไม่ซนและช่วยเฝ้าสวนให้เป็นอย่างดี เรานึกดีใจแทนกิมจิที่หลุดพ้นจากคนใจร้ายใจดำ ที่ทำร้ายสิ่งชีวิตที่ไม่มีทางสู้
อ้อปิดท้าย ชะตากรรมของเจ้าเกาหลีนั่นเหรอ ถูกส่งตัวกลับประเทศหลังจากนั้นไม่นาน เพราะเค้าเป็นไกด์เถื่อนอย่างที่บอก แล้วไปมีเรื่องทะเลาะกับเด็กรถ โดนรุมตื้บซะน่วมก่อนโดนส่งกลับด้วย นี่แหละที่เค้าเรียกว่า กรรมตามสนอง
Create Date : 30 เมษายน 2551 |
|
31 comments |
Last Update : 30 เมษายน 2551 18:45:19 น. |
Counter : 1095 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: นางไม้หน้า3 IP: 116.68.151.138 30 เมษายน 2551 19:33:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 30 เมษายน 2551 19:47:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yuri@ IP: 203.170.175.57 30 เมษายน 2551 19:55:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 30 เมษายน 2551 20:50:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: รวยระรินกลิ่นชา IP: 124.120.222.179 30 เมษายน 2551 23:27:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 1 พฤษภาคม 2551 1:40:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิ้ง IP: 124.157.217.41 1 พฤษภาคม 2551 1:58:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 1 พฤษภาคม 2551 10:13:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 2 พฤษภาคม 2551 7:47:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 2 พฤษภาคม 2551 8:10:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 2 พฤษภาคม 2551 20:36:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: Fullgold 2 พฤษภาคม 2551 21:55:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: BowKie 3 พฤษภาคม 2551 14:23:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 3 พฤษภาคม 2551 18:01:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 5 พฤษภาคม 2551 20:16:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 6 พฤษภาคม 2551 20:51:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: Fullgold 7 พฤษภาคม 2551 11:15:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแมว 7 พฤษภาคม 2551 14:30:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 7 พฤษภาคม 2551 14:57:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 7 พฤษภาคม 2551 20:28:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 9 พฤษภาคม 2551 7:34:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 9 พฤษภาคม 2551 8:13:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: จากน้าของข้าวโพดหมา (นางไม้หน้า3 ) 9 พฤษภาคม 2551 9:06:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: มะม่วง IP: 203.155.51.55 9 พฤษภาคม 2551 14:05:50 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่อ่านแล้วรู้สึกดี อยากหนับหนุน
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ปล. ทำไมอยู่ดีๆ เราหลุดออกมานอกสาระบบได้หละ (เหลือบไปเห็นรหัสส่งข้อความ)