:+:+: Final interview :+:+:
วันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
(พาดหัวอย่างนี้ นึกถึงตอนเรียนประถมที่ตอนเช้าทุกเช้าต้องจับช็อก ปีนเก้าอี้เขียน :P)
วันนี้สัมภาษณ์งานรอบที่ 3 รอบสุดท้ายซักทีแล้ว
เมื่อวานเตรียมตัวโดยการอ่านข้อมูลของทางธนาคารที่หาจากเน็ต แล้วก็ข่าวต่างๆอีกรอบ เพื่อความมั่นใจ ตกกลางคืนก็ทาเล็บเพื่อความไฉไล (คราวนี้ทาสวย เล็บก็สวย น่าไม่อายชมตัวเองอีก (-_-')
ตื่นมาตั้งแต่ 6.00 online msn เช็คข่าวสารบ้านเมือง แล้วก็คุย msn พักนึง หลังจากนั้นก็ไปเตรียมตัวออกรบ เอ๊ย! สัมภาษณ์งาน
ก็ทำนู้นทำนี่ ตอนแรกกะว่าจะออกไปไดร์ผมเสียหน่อย เดินออกมาหน้าบ้านแดดร้อนชนิดไม่ไยดีต่อชาวโลกเลย ~~" ก็เลยเดินกลับเข้าบ้านแล้วมัดผมซะ
ก่อนออกจากบ้านก็เลยนั่งคุยกับแม่จิปาถะ ต๊ะติ้งโหน่งไปเรื่อย ออกจากบ้านก็ 11 โมงได้ละมัง ก็กะเอาไว้ว่าไปถึงที่นั่นซัก 13.00 กำลังดี เพราะนัด 14.00
วันนี้เป็นอีกวันในบรรดาไม่กี่วันที่ได้ออกจากบ้านในระยะเวลา 4เดือนมานี้ รอเรียกแท๊กซี่อยู่ราวๆ 5นาที ตัวเกือบละลายเป็นยางมะตอยเคลือบถนนไปซะแล้ว (ไม่ได้กระแดะนะ ใครรู้จักนุ่นก็จะรู้ว่าปกติแล้วถึกขนาดไหน แต่วันนี้สุดยอดครับท่าน!) ถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินประมาณ 12.00 ได้ ... กะเอาไว้เป๊ะเลย มุดดิน แล้วมาโผล่ดินที่สถานีสีลม (next station Silom ^^') ตอน 12.30 เป๊ะอีกแล้ว
หลังจากไม่ได้ออกจากบ้านมานานแสนนาน (นานจริงๆนะ ถ้ารู้ล่ะจะถามว่า ไม่เบื่อตายหรอแน่ๆ เพราะมีคนถามอย่างนี้ทุกคนที่รู้เลยล่ะ) โคตรตื่นตาตื่นใจ โอ้ว!แม่เจ้าสีลม ละลายทรัพย์เมืองสวรรค์ จริงๆไม่ใช่นักช๊อปเลย!!!! ขอย้ำไม่เลย ... แต่ด้วยความที่ว่าไม่ได้ซื้อของจริงๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไม่ได้ซื้อเลย ไม่ต่ำกว่า 5 เดือน ขอบอก ช๊อปอฮอลิค มันเลยเข้าสิง
แต่!!!
ต้องหยุดความคิดทุกอย่างไว้แค่นั้น ฉันต้องไปสัมภาษณ์งานนะ จะให้หอบนู้นนี่ไปด้วยได้ไง ก็เลยต้องเดินผ่าน ด้วยสายตาละห้อย ปิ๊งๆเสื้อตัวไหน ก็ปาดน้ำลาย แล้วเดินผ่านไป
เดินฝ่าฝูงชนคนทำงานย่านธุรกิจยามเที่ยง ใช้เวลากว่า 30 นาที ก็ถึงที่หมาย ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่(สีลม) ที่ต้องวงเล็บเอาไว้ เพราะมันมีที่พระราม 3 อีกที่น่ะ กดลิฟท์ ติ๊ง! ขึ้นไปชั้นที่ 13 จากฝั่งซอย ละลายทรัพย์ (ที่อยากเอาทรัพย์ไปละลาย)
ขึ้นไปถึงปุ๊บ! ดิ่งเข้าห้องน้ำทันที แหงล่ะมันต้องดูดีตั้งแต่ก้าวแรกจะเปิดประตูเข้าไปซิชิมิ แล้วก็ต้องโอดโอย ทำไมถึงโทรมแดดได้ขนาดนี้ อยู่เมืองไทยเมืองร้อนต้องทำใจ แต่งตัว โอ้ว!เรียบร้อยล่ะ ... เตรียมย่างกรายเข้าสู่สมรภูมิรบแล้ว วะฮ่าๆๆๆ - -' (บ้ากลบเกลื่อน)
เจอพี่อุ้ม คนที่จะพาเหล่าคนของานทั้งหลายเข้าเครื่องกิโยติน เอ๊ย! ห้องสัมภาษณ์ พี่เค้าบอกว่าเลื่อนเป็นบ่าย 3 นะ ติดประชุม (อีกแล้ว) จริงๆจะได้สัมภาษณ์ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วล่ะ ติดประชุม แหง่กๆ มาของานเค้าทำก็ต้องรอซิ อุอุ
หลังจากนั้นเพื่อนๆที่เคยเห็นหน้าคาดตาตั้งแต่รอบ 2 ก็เริ่มทยอยมา คุยกันดูเหมือนจะรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียน ... ทำไมถึงรู้? ก็คนที่มาจากต่างรอบเค้าถามไง เห็นคุยกันแบบว่าอย่างกับรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ก็เลยถามประมาณนั้น
ซักพักใหญ่ๆ ก็โดนเรียกเข้าห้องทรมาณจิตกันทีล่ะคน นุ่นอยู่คนที่ 5 จากทั้งหมด 16 คน มีข้อมูลอะไรก็แลกเปลี่ยนกัน เพราะไม่มีใครเป็นคู่แข่งใคร ทุกคนต้องแข่งกับตัวเองเท่านั้น เพราะหากเราผ่านเกณฑ์ที่ทางธนาคารตั้งไว้ ก็รับหมด ใครรู้อะไรมาก็มาเล่าสู่กันฟัง
ถึงตาเราแล้วซินะ ลุกขึ้นด้วยความมั่นใจ เป็นไงก็เป็นกัน ยืนรอหน้าห้องประมาณ 50 กว่าวินาทีเศษ เค้าก็กดกริ่ง
ก็เคาะประตู พร้อมกับกล่าวคำว่า "ขออนุญาตค่ะ" ตายละ มารยาทงามมั่กๆเลยอิฉัน ^^' (เว่อร์ล่ะ) คำถามสัมภาษณ์ไม่ได้ตรงกับที่เตรียมไปเลยแม้แต่นิดเดียว จากที่ได้ยินแว่วมาจากรอบก่อนๆ เค้าบอกว่าจะโดนถามข้อมูลบริษัท วะฮ่าๆๆๆ - -' ไม่มีเลย
ส่วนใหญ่จะถามเรื่องกิจกรรมต่างๆที่เคยทำตั้งแต่มัธยม มหาวิทยาลัย เป็นพวกเด็กกิจกรรม เลยสาธยายกันไป ถามเรื่องบ้านทางเข้าบ้านทุกทาง ถามเรื่องหมู่บ้าน ถามอย่างกับว่าจะไปซื้อที่แถวนั้นเปิดสาขาธนาคารเพิ่มอย่างไร อย่างนั้นเลย
แล้วก็จะถามเรื่องการบริการต่างๆ เพราะว่าจบมาคนล่ะสายโดยสิ้นเชิง ก็โดนจี้ๆ กะเอาให้ตอบไม่ได้เลย แล้วก็จะขัดตลอด (จะกวนประสาทเราทำนองนั้น) วะฮ่าๆๆๆ ... ก็ตอบกันไปแถไปได้ซะงั้น
แล้วก็ยก case study มา 2 เรื่องใหญ่ๆ เค้าจะดูว่าเราจะแก้ไขสถานการณ์ตรงนั้นยังไง เค้าก็จะแย้งขึ้นมาเรื่อยๆเหมือนเคย ถ้ามันไม่เป็นนั้นล่ะ ถ้าเค้าไม่ยอม ไม่นู้นไม่นี่ ก็แถตอบกันไปเหมือนเดิม เค้าก็บอกว่าแก้ปัญหาได้ดีนี่ (ใจชื้นมา 0.05%)
แล้วก็มีถามคำถามยอดฮิตต่างๆ เช่น
- ทำไมเราต้องรับคุณเข้าทำงาน? (โอ้ว! คำถามนี้โคตรเข้าทาง) - แล้วคุณมีโครงการจะเรียนต่อไหม มีนี่(เค้าดูจากที่เคยตอบไว้ตั้งแต่รอบ1+2) แล้วไงจะลาออกใช่ไหม? (กรุณานึกภาพคณะกรรมการ 2 ท่าน ท่านนึงเล่นแว่น อีกท่านนึงเล่นปากกามองไปนู้นนี่) (เข้าทางอีกแล้วครับท่าน : ทางใครหว่า - -') ตบท้ายด้วยคำถามสุดท้าย มีอะไรอยากจะถามเราไหม? (อยากถามจังว่าจะรับนู๋ไหมค่ะ? แต่ใครจะบ้าถามวะคะ ชิมิแคะ) ดูจากผลประเมิณที่เค้าจะคุยกับเราเรื่อยๆแล้วก็เป็นที่น่าพอใจ
ยิ้มจนเหงือกับฟันติดกันแระ อย่างกับนางงาม มันก็ต้องงั้นแหละ ถ้ากรรมกรไม่หมั่นไส้ก็คงได้ทำที่นี่ล่ะเนอะ หากผ่านการอนุมัติก็ต้องไปตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจๆๆๆ ที่ ร.พ.กรุงเทพคริสเตียน รอผลตรวจราวๆ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็ต้องนัดวันเซ็นค้ำประกัน
โอ้ว!ก็ราวๆกลางเดือนมิถุนายน หรือไม่ก็ต้นเดือนกรกฎาคม พี่ที่ธนาคารเค้าก็บอกว่าช่วงนี้ล่ะน้อง กำไรชีวิต เที่ยวไปเลย สุดๆไปเลย อุอุ
ขากลับบ้านไม่หิว แต่ไม่มีแรง ประเดี๋ยวจะลากสังขารตัวเองกลับไม่ถึงบ้าน เลยแวะสีลมคอมเพล็ก กิน แบล็คแคนยอน (ไม่รู้จะกินอะไรดี) สเต็กปลากับชาเขียวปั่น(อีกแล้ว) แล้วก็ซื้อของนิดหน่อยที่วัตสันกับบู๊ทส์ เดินออกมาด้านหน้าก็ได้เสียตังค์ซื้อเสื้อมาตัวนึง ไม่ได้คิดเลย เห็นแล้วซื้อเลย (ต่อราคาแล้วไม่ยอมลด) ใช้เวลาซื้อขาย 1 นาที - -' ซื้อง่ายจ่ายคล่องจริงเลยอิฉัน แม่ค้าช๊อบชอบ แล้วก็มุดดิน-โผล่ดิน ขึ้นแท๊กซี่กลับบ้านเหมือนเดิม
วันนี้ก็จบด้วยประการะเช่นนี้แล ...
Ps. - อยากกินข้าวบ้าง มันไม่อยากอาหารมา 2 วันแล้ว ไม่มีเรี่ยวมีแรงกันพอดี (ครั้งแรกที่พูดอย่างนี้ กรั่กๆ ปกติจะต้องบอกว่าเบื่ออาหารซํกทีได้ไหมพรีส!) - ตกกลางคืนมีเรื่องให้กลุ้มใจ (มาก) : ไมเกรนถามหาเมื่อเช้าอีกแล้ว - ในเมื่อเค้าเปลี่ยนเป็นอย่างนี้ได้ ก็ขอให้เค้าเปลี่ยนไปเป็นคนเดิมได้เหมือนกัน (ยังไงก็ยังรักเหมือนเดิม)
Create Date : 05 พฤษภาคม 2548 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2548 1:44:43 น. |
|
22 comments
|
Counter : 4997 Pageviews. |
|
|