โครงการตะพาบที่ 144 "นิทานหลอกเด็ก
โครงการตะพาบครั้งนี้จากโจทย์ของคุณเป็ดสวรรค์ค่ะ ไปอ่านกันค่ะเพื่อนๆ
คืนวันหนึ่งนอกชานเรือนบ้านลุงคำ ลมเย็นพัดมาเรื่อยๆเย็นสบายๆ ลุงคำชายขราร่างใหญ่แต่ตาบอดสนิททั้งสองข้างนอนคว่ำหน้าบนหมอนใบใหญ่เป็นหมอนขวานแบบโบราณที่มีลักษณะเย็บเป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนของชาวเหนือโดยทั่วไป ข้างๆกายมีเด็กน้อยๆสองคนกำลังช่วยกันนวดอย่างขะมักเขม้นบนแผ่นหลังให้ลุงคำนอนสบาย พร้อมกับเล่านิทานไปด้วย เด็กทั้งสองก็ตั้งใจฟังพร้อมนวดไปด้วยอย่างขยันขันแข็ง
"คนบ่าเก่าเปิ้นเล่าเรื่องผีกะสู่กันมาสูใคร่ฟังก่อเรื่องผีกะ ฮะบ่าน้อย " ลุงคำเอ่ยปากถามเด็กๆเมื่อเล่านิทานจบไปหนึ่งเรื่องแล้วแต่แกยังไม่หายเมื่อยเลยจึงทำท่าว่าจะเล่าเรื่องที่สองต่อ
บ่าน้อยทั้งสองคนอายุประมาณ 7 ,8 ขวบ เป็นลูกของเพื่อนบ้านใกล้ๆกัน ชื่อ ดช.ป๋อง กับดช. บอย ป๋องกับ บอยชอบฟังลุงคำเล่านิทานเพราะลุงคำเล่านิทานสนุก มีตลกขบขันหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน คือต้องนวดให้ลุงคำไปด้วย
ลุงคำตาบอด ต้องอาศัยลูกหลานในบ้านหาเลี้ยงไม่สามารถไปไหนไกลได้ แต่ลุงกลับเป็นคนสนุกสนานไม่เศร้าสร้อยกับความตาบอดของแกเลย
ก่อนนี้ลุงคำสายตาดีเหมือนคนทั่วไป อยู่ๆมาตาของลุงคำเป็นต้อกระจกแต่ไม่ไปรักษา จึงทำให้ตาบอดไปทั้งสองข้าง ลุงคำคนเคยทำงานแต่พอตามองไม่เห็น แรกๆแกก็หงุดหงิดโวยวาย พอหงุดหงิดโวยวายลูกหลานก็ไม่เข้าใกล้ส่วนเมียลุงคำตายจากไปนานแล้วเมื่อต้องอาศัยลูกหลานแกจึงทำตัวเสียใหม่เป็นคนชอบเล่าเรื่องสนุกๆให้เด็กๆฟัง จึงทำให้เด็กๆติดใจฟังแกเล่าเรื่องไปทั้งหมู่บ้าน พ่อแม่หาลูกไม่เจอก็จะไปตามที่บ้านลุงคำ
ป๋องกับบอยส่งเสียงร้องบอกลุงคำอย่างดีใจที่จะได้ฟังเรื่องผีเพราะเคยขอให้ลุงคำเล่าให้ฟังนานแล้วแต่ลุงคำไม่ยอมเล่า "เอา เลยลุงเล่าเลยๆๆเดี๋ยวผมจะนวดฮื้อลุงดีีดี้ ครับ น้อป๋องน้อ" บอยร้องบอกพร้อมพยักกับป๋องให้สนับสนุน "ครับๆผมก็จะนวดดีๆเลยลุงเล่ามาเลยครับ"อั้นก็นวดดีๆห้ามหยุดเน้อว่าแล้วลุงคำก็เริ่มเล่า
***********************
นานมาแล้วมีบ้านยายดีหลังหนึ่ง ลูกสาวชื่อบัวคำแต่ไม่มีหนุ่มคนไหนกล้ามาจีบเพราะข่าวลือว่าลูกสาวบ้านนี้เป็นผีกะ และคนในหมู่บ้านจะบอกต่อๆกันมาว่าถ้าอยากรู้ว่าใช่ผีกะจริงหรือไม่ให้เอาไฟส่องหน้าตอนกลางคืนมืดๆจะเห็นมีลิงตัวเล็กๆเกาะเลียหน้าเลียตาหญิงสาวนั้นทำให้หน้าตาสวยงามอยู่ตลอดเคยมีหนุ่มไปจีบบัวคำมาแล้วชื่ออ้ายหล้า พ่อแม่อ้ายหล้าก็เตือนลูกบ่าวห้ามไม่ให้ไปคบบัวคำแต่อ้ายหล้าไม่เชื่อที่บัวคำเป็นผีกะ พ่อแม่จึงจะพิสูจน์ก็ให้อ้ายหล้าไปนัดบัวคำพามาเที่ยวที่บ้านเวลาใกล้ค่ำ
ฝ่ายบัวคำก็มีใจรักอ้ายหล้าเช่นกันเพราะอ้ายหล้าเป็นคนดีไม่รังเกียจบัวคำตามที่คนเล่าลือเมื่ออ้ายหล้ามาชวนก็ขอแม่จะไปเที่ยวบ้านอ้ายหล้าไปไหว้พ่อแม่อ้ายหล้า
แม่ของบัวคำคือยายดีพยายามห้ามปรามลูกสาวไม่ให้ไปเพราะยายดีรู้ว่าเขาหลอกลูกสาวไปเพื่อพิสูจน์ให้อ้ายหล้าเห็นแต่บัวคำไม่ยอมเชื่อแม่ เพราะใจชอบอ้ายหล้าอยู่แล้วยายดีไม่รู้จะห้ามลูกสาวได้อย่างไรจึงบอกลูกสาวว่าอย่าอยู่ในที่มืดถ้ามีใครเอาไฟส่องหน้าให้รีบหันหลังให้ทันที บัวคำรับคำแม่
ถึงเวลาอ้ายหล้าก็มาหาบัวคำยามพลบค่ำบัวคำแต่งตัวสวยงามผีกะก็ออกมาเลียหน้าตาบัวคำตามหน้าที่ของมันทำให้อ้ายหล้าเห็นบัวคำสวยงามก็ยิ่งรักใคร่ทั้งสองพากันเดินไปบ้านอ้ายหล้าเพื่อไปไหว้พ่อแม่อ้ายหล้า พอไปถึงบ้านอ้ายหล้าทั้งสองก็ต้องแปลกใจเพราะที่บ้านอ้ายหล้านั้นมืดไปหมดปกติสมัยก่อนชาวเหนือจะมีไฟตะเกียงจุดไว้หน้าบ้านบางบ้านฐานะดีก็จะจุดตะเกียงเจ้าพายุ
แต่วันนี้บ้านอ้ายหล้ามืดไปหมดบัวคำนึกรู้จึงพยายามระวังตัวกลัวถูกไฟส่องหน้าจึงบอกอ้ายหล้าให้พากลับบ้านพ่อแม่คงไม่อยู่แล้ว
อ้ายหล้ารู้แล้วว่าพ่อและแม่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นและอ้ายหล้าเองก็อยากรู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่พ่อแม่บอกหรือไม่จึงบอกให้บัวคำรอเพื่อที่จะไปจุดตะเกียงแต่อ้ายหล้ายังไม่ทันไปก็ปรากฏพ่อแม่ออกมาจากในห้องถือไฟฉายส่องพุ่งไปที่หน้าบัวคำโดยที่บัวคำไม่ทันรู้ตัวอ้ายหล้ามองไปทันทีก็เห็นลิงน้อยๆสองสามตัวเกาะหน้าบัวคำเลียหน้าตาอยู่บัวคำตกใจรีบหันหลังให้พร้อมรีบวิ่งกลับบ้านทันทีด้วยความกลัว
เมื่อบัวคำจากไปแล้วอ้ายหล้าก็ซึมเศร้าพ่อแม่เข้ามาปลอบประโลมอย่างไรก็ไม่หายจนในที่สุดก็ล้มปวยลงและเสียชวิตไปพ่อแม่อ้ายหล้าเสียใจมากต่างโทษยายดีว่าทำให้ลูกชายตายจึงไปหาหมออาคมมาปราบผีกะที่บ้านยายดีแต่ไม่ทันยายดีกับบัวคำหนีหายออกไปจากหมู่บ้านนั้นอย่างไร้ร่องรอย
เสียงลมหายใจของลุงคำดังเป็นจังหวะๆพร้อมเสียงกรนเป็นระยะสองเด็กน้อยมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันพร้อมหนีกลับบ้านทันทีปล่อยให้ลุงคำหลับไปที่ระเบียงบ้านนั้นอย่างสบาย
อิอิ จบแล้วค่ะ นิทานหลอกเด็กหลอกให้นวดให้จนหลับสบายไปเลยค่ะลุงคำ
ความรู้ท้ายเรื่อง
ผีกะ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ผีกะ เป็นผีพื้นบ้านทางภาคเหนือ ผีพวกนี้จะมีลักษณะคล้ายผีปอบ คือเข้าสิงในคน และชอบกินของสดของคาว คนที่เลี้ยงผีกะ เป็นคนที่มีวิชาอาคม เล่นคุณเล่นของ ผีกะจะถูกเลี้ยงไว้ในหม้อดิน โดยมีผ้ายันต์สีขาวปิดปากหม้อไว้ โดยจะวางไว้บนเพดานบ้าน เจ้าของจะเซ่นผีกะด้วยไข่ดิบวันละฟอง ผีกะ แต่เดิมคนที่เริ่มนำมาเผยแพร่ คือพวกลิเก หรือพวกนักดนตรี ที่แสดงการละเล่น เรียกว่าผีกะพระ-นาง ผีกะชนิดนี้มีลักษณะคล้ายวอกหรือค่าง ตัวเล็กๆสองตัว มักจะนั่งบนบ่าคนเลี้ยง ผีกะชนิดนี้มีคุณประโยชน์ตรงที่ หากใครเลี้ยงไว้ไม่ว่านักแสดงจะขี้เหร่แค่ไหน พอตกกลางคืนมันจะเลียหน้า ทำให้ยิ่งดึกยิ่งงดงาม การเลี้ยงผีกะจึงเป็นแฟชั่นของนักแสดงทางภาคเหนือในช่วงหนึ่งและเริ่มแพร่หลายสู่ภาคเหนือในจังหวัดต่างๆ จนกระทั่งแยกเป็นหลายชนิด ผีกะมีคุณอนันต์แต่ก็มีโทษมหันต์ หากใครเลี้ยงไม่ดี ปล่อยให้ผีกะอดๆอยากๆ มันก็จะทำให้เจ้าของกลายสภาพเป็นกึ่งคนกึ่งภูติ ชอบสิงสู่ชาวบ้านกินตับไตไส้พุง ต้องหาหมอผีมาไล่ออกไปเป็นประจำ
*****************************************************
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจค่ะ
ขอขอบคุณวิกิพิเดียที่ให้คำอธิบายเกี่ยวกับเนื้อเรื่องประกอบ
ขอขอบคุณโค๊ดบีจีจากคุณญามี่
ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบเพลงน้อยไจยา(ราชสำนัก)
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Create Date : 12 ธันวาคม 2558 |
Last Update : 21 ธันวาคม 2558 12:03:13 น. |
|
54 comments
|
Counter : 1942 Pageviews. |
|
|
โอ้โห...ถ้าเล่าเรื่องผีกะนี้ให้หมิงหมิงฟัง
มีหวังไม่หลับแน่นอนครับ 555
ตามมาด้วยร้อยแปดคำถามแน่ๆ 555
หมิงหมิงชอบเรื่องผีมาก กลัวแต่ก็ชอบฟังครับ 555
ปล. ผมเริ่มจะหายดีแล้วล่ะครับพี่
กินยามาสองวัน
ดีขึ้นมากแล้วครับ