เอื้องผึ้ง- จันผา
มวลหมู่พรรณแมกไม้ไพรระหง
ดอกสูงส่งเอื้องงามสามปอยหลวง
บางดอกเหลืองละออช่อเป็นพวง
งามจับทรวงสาวน้อยค่อยๆชม
เอื้องภูผาน่าชมภิรมย์นัก
ส่งกลีบทัก...ทายสาว..เจ้าสุขสม
วันนี้สิ.....เจ้าวิวาห์พารื่นรมย์
ท่ามสายลมพรมแผ่วเบาเฝ้ายินดี
เอื้องผึ้งช่อ..อร่ามงามหนักหนา
ถ้าได้มาเหน็บแซมเจ้าเข้าเกศี
คงสวยสมชมชอบเจ้าผู้บ่าวดี
ขอข้านี้สักช่อหนอเื้อื้องงาม
จันผาเจ้าบ่าวน้อยเฝ้าคอยรัก
เห็นสาวเจ้า...จ้องนักเอื้อง....เหลืองทั้งสาม
อาสาเจ้าปีนป่ายตะกายตาม
หวังเด็ดช่อเอื้องงามเพื่อทรามเชย
ขึ้นปีนป่ายชะง่อนผาน่าหวาดเสียว
เอื้องผึ้งเหลียวห้ามทันทีมิอยู่เฉย
อย่าหวังเด็ดเอื้องช่องามยามนี้เลย
เจ้าพี่เอยหากพลาดพลั้งมีหวังตาย
หนุ่มจันผามิฟังคำที่พร่ำบอก
รีบก้าวออกปีนผาน่าใจหาย
เอื้องผึ้งสั่นสะท้านหวั่นใจกาย
อันตรายนะพี่เจ้าเฝ้าระวัง
โอ้...จันผาเหยียบพลั้ง....พลาดผวา
ร่างถลาร่วงละลิ่วปลิวหมดหวัง
ตกลงเหวลึกเบื้องล่างป่ารุงรัง
กระแทกยังโขดหินจนสิ้นใจ...
เสียงกรีดร้องโหยหวนชวนให้โศก
เอื้องวิปโยคเหลืออาลัยใจสลาย
จากไปแล้วแก้วพี่หนีจากไกล
พี่มาตายพรากจากข้าวิวาห์ตรม
อย่าอยู่เลยหากขาดพี่ที่รักข้า
หากชาติหน้ามีใหม่ให้สุขสม
ขอเด็ดชีพตามพี่ไปฤทัยตรม
เอื้องผึ้งก้ม...หัวกระแทกหิน....จนสิ้นใจ.........
**** กิ่งฟ้า ****
11/3/57
แต่งจากตำนานรักเอื้องผึ้ง-จันผา ซึ่งเล่ากันต่อๆมาค่ะ
ตำนานนี้เป็นอีกตำนานหนึ่งซึ่งเป็นต้นแบบแห่งการเขียนเพลง เอื้องผึ้ง จันผา ของอ.จรัล มโนเพชร ได้มีผู้เล่าต่อกันมาว่า แต่เดิมเอื้องผึ้งและจันทร์ผานั้น เป็นคู่รักกัน ทั้งสองให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ไม่พรากจากกัน ถ้าหากแม้นคนหนึ่งตายไป อีกคนหนึ่งก็ไม่ขออยู่ต่อ และแล้วโศกนาฏกรรมก็มาถึง หนุ่มจันทร์ผา พาสาวเอื้องผึ้งไปเที่ยวที่ดอย เขาเห็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง มีกลิ่นหอม งอกอยู่ที่ต้นไม้ริมผา จึงคิดจะเก็บมาให้สาวเอื้องผึ้ง คนรักของตน จึงปีนไปเก็บดอกไม้ชนิดนั้นมา แม้เอื้องผึ้งจะห้ามแต่จันทร์ผาก็ยังพยายามจะไปเด็ดดอกไม้มาให้ได้
.
และแล้วในที่สุดสิ่งที่เอื้องผึ้งกลัวก็เป็นความจริง จันทร์ผาพลาด ตกลงไปในเหว เลือดไหลนอง คอหัก ตายสนิท เอื้องผึ้งร่ำไห้ หัวใจแตกสลาย จึงวิ่งเอาหัวชนกับแง่หินที่หน้าผา ตายตามจันทร์ผา เหมือนที่เคยให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป ดอกไม้ที่จันทร์ผาพยายามจะเก็บนั้น ต่อมาคนให้ชื่อว่า ดอกเอื้องผึ้ง ส่วนที่ๆจันทร์ผาตกลงไปตาย ก็มีต้นไม้ชนิดหนึ่งงอกขึ้นมา ผู้คนกล่าวขานเรียกว่า ต้นจันทร์ผาเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความรักที่ยั่งยืนของคนทั้งคู่ตลอดไป....
.
เอื้องผึ้ง.....เป็นกล้วยไม้ในสกุลหวายเอื้องผึ้ง......มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dendrobium lindleyi Steud. ลักษณะต้นเป็นลำรูปรี แบนเล็กน้อย มีสันและร่องตามยาว ผิวแห้ง สีเขียวเข้ม มักขึ้นเป็นกระจุกแน่น ส่วนใบนั้นแต่ละต้นจะมี 1 ใบที่ยอด ใบเป็นรูปรี แผ่นใบหนาและแข็ง ปลายใบแหลมมน หรือหยักเว้าตื้นๆ ต้นเตี้ยแตกเป็นกอแน่น ลำลูกกล้วยรูปกระสวย อ้วนนั้นเป็นร่องโดยรอบ ใบ เป็นใบเดี่ยวรูแถบยาว 5-6 เซนติเมตร
.
แผ่นใบหนาและแข็ง ช่อดอกสีเหลืองทอง เป็นช่อโค้งยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ออกดอกดกรอบก้านช่อ กลีบดอกสีเหลืองทอง ปากกลมกว้างสีเหลืองอมส้ม เมื่อดอกบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 เซนติเมตร ดอกมีกลิ่นหอม โดยดอกจะบานพร้อมๆกันหลายกอ ออกดอกในช่วงฤดูร้อน ราวเดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม ขยายพันธุ์โดยแยกลำลูกกล้วยไปปลูก ชอบอยู่ตามคาคบไม้ในที่โล่งและมีความชื้นเพียงพอ จัดเป็นกล้วยไม้ที่มีกลิ่นหอม (ข้อมูล: ไม้ดอกหอม (เล่ม1) ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น) ....
.ส่วนจันผา เป็นไม้พุ่ม สูง 1.5- 2 เมตร ต้นตรง เปลือกเกลี้ยง สีเทา ใบ เดี่ยว ออกเวียนเรียงสลับถี่ที่ปลายยอด ใบ เรียวยาว กว้าง 4- 6 ซม. ยาวประมาณ 50 ซม. ปลายใบแหลม สีเขียวเข้ม ก้านใบมีกาบหุ้มซ้อนทับกันรอบต้น ดอกช่อ ออกเป็นช่อใหญ่ตามซอกใบ กลีบดอก 6 กลีบ ตรงกลางดอกมีจุดสีแดง ดอกสีขาว ผล รูปทรงกลม เล็ก สีเขียว เมื่อสุกสีแดงคล้ำ ออกดอกเดือน กรกฎาคม- สิงหาคม การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ปักชำต้น ประโยชน์ เป็นไม้ประดับ ชื่อพฤกษ์ศาสตร์เรียกว่า Dracaena loureiri Gagnep.
ขอขอบคุณภาพประกอบและเนื้อหาประกอบจาก //www.Okanation.net โดยคุณวิหคพลัดถิ่นค่ะ
ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาชมและให้กำลังใจทุกท่านค่ะ
ขอขอบคุณโค๊ดบีจีสวยๆจากน้องญามี่
ขอขอบคุณของแต่งบล็อกจากเพื่อนๆบล็อก
ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบ
ขอขอบคุณโค๊ดเพลงลงบล็อกจากคุณ YAOVARIT เพื่อนบล็อก
ลากันด้วยเพลงเพราะๆค่ะไว้พบกันอีกคงเป็นงานตะพาบนะคะ