ไปชมการจ้กสานชะลอมรายได้เสริม
เยี่ยมชมการจักสานชะลอมรายได้เสริม
หลังจากที่พาเพื่อนๆไปชมการประดิษฐ์รถม้าจำลองภูมิปัญญาพื้นถิ่นกันแล้ว วันนี้เราไปชมการจักสานในหมู่บ้านใกล้ๆกันนะคะ หมู่บ้านนาก่วมเหนือ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ได้ไปชมค่ะเก็บไว้เป็นไดอารี่ของเรา ว่าครั้งหนึ่งเคยได้ไปชมสิ่งดีๆมีประโยชน์เหล่านี้มาค่ะ
เราไปชมภาพกันนะคะ
การจักสานชะลอมหรือเข่งสำหรับใส่ของ ส่วนมากทางร้านเซรามิค ร้านขายส่งผัก สวนเกษตรมีความจำเป็นต้องใช้เข่งแบบนี้เพื่อบรรจุสินค้าไปขายส่งให้กับลูกต้าต่างจังหวัดซึ่งต้องใช้เป็นจำนวนมาก
พวกเราจึงได้เข้าไปสัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปและก็ได้ความรู้ว่า เข่งเหล่านี้มีออร์เดอร์สั่งเข้ามาค่ะ เป็นร้อยๆลูกเลยล่ะ ชาวบ้านก็จะช่วยกันทำแล้วรวมกันส่งให้กับร้านที่สั่งแล้วเอาเงินมาแบ่งปันกันบางแห่งรับเหมาทำเองโดยจ้างลูกมือมาทำ แต่ค่าแรงวันละ 300 บาทไม่ไหวเจ้าของก็จะคิดให้ตามราคาเข่งที่ได้แต่ละใบค่ะ
"การทำชะลอมจักสานจากไม้ไผ่ เป็นอาชีพเสริมรายได้ของชาวบ้านที่นี่ โดยใช้เวลาว่างจากการทำไร่ ทำสวน หรือช่วงกลางคืนก็มารวมกลุ่มทำจักสานกัน ก็จะเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง บางคนก็ทำทั้งวัน วันละประมาณ 20-30 ลูก ส่งขายลูกละ 7 บาท โดยมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ ลองคิดดูซิแต่ละเดือนแต่ละคนก็มีรายได้ไม่น้อยทีเดียว"
เด็กๆทดลองสานชะลอมบ้างค่ะ การสานต้องใช้ตอกซึ่งได้มาจากไม้ไผ่หรือไม้บง ทางภาคเหนือจะมีไผ่ลำต้นใหญ่ๆใบใหญ่ๆซึ่งเรียกว่าบง ลำต้นจะสูงใหญ่มีลำปล้อง ยาว นำมาตัดเป็นท่อนๆแล้วผ่าซีกผ่าเป็นเส้นๆออกมาเหลาเอาข้อต่อออกให้เกลี้ยง
( ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากกูเกิล การจักสาน บ้านทุ่ง))
ขั้นตอนการทำ โดยนำวัสดุที่ใช้ ประกอบด้วยไม้ตอกไม้ไผ่กว้างประมาณ 0.4 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร จำนวน 15 เส้น ไม้ตอกขนาดเส้นเล็กกว้าง 0.2 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร 1 เส้น สีย้อมผ้าที่ต้องการ จากนั้นนำไม้ที่จะเอามาสานไปย้อมสี ให้เป็นสีต่างๆ ตามที่ต้องการ อาจจะเป็นสีเขียว เหลือง แดง หรือว่าสีอะไรก็แล้วแต่ที่ชอบ แล้วนำไม้ที่ย้อมสีเสร็จ มาสานโดยใช้ไม้ตอก 2 เส้น วางไขว้เป็นตัว X นำไม้ตอกอีก 2 เส้นสานขัดด้านบนและด้านล่าง นำไม้ตอกสานขัด 3 ทิศทางให้ได้ด้านละ 4 เส้น รวมเป็นไม้ตอกทั้งหมด 12 เส้น
จะเห็นว่าไม้ตอกทุกเส้น จะขัดกันธรรมดา ยก 1 ข้าม 1 จะได้รูปหกเหลี่ยมเป็นจุดศูนย์กลาง 1 รูปและมีรูปหกเหลี่ยมล้อมรอบ จำนวน 6 รูป การขึ้นเป็นตัวชะลอม ให้เลือกจับมุมใดมุมหนึ่งแล้วนำไม้ตอกสานขวางจนรอบเป็นวงกลม ปลายไม้ตอกที่รอบให้ทับซ้อนกับจุดเริ่มต้นวนจนหมดความยาวของไม้ตอก แล้วใช้ไม้ตอกสานลักษณะเดียวกันอีก 2 เส้นโดยรอบ จะได้ชะลอมขนาดย่อม นำไม้ตอกเส้นเล็กสานขัดรอบบนสุดกันหลุด เท่านี้ก็เสร็จสมบูรณ์
ไม้ไผ่ที่จะนำมาจักสานถ้าจะให้ดีพอเหมาะแก่การใช้งานแล้วควรจะเป็นไม้ที่เจริญเติบโตตามปกติไม่แคะแกรน ไม่บิดงอ ไม่เป็นมอดแมง ผิวไม่ถลอก มีระยะของปล้องระหว่าง ๓๕ - ๔๐ เซนติเมตร และมีอายุระหว่าง ๑๑ / ๒ - ๒ ปี จะใช้สานได้ดี เพราะไม้ในช่วงอายุดังกล่าวจะผ่า จัก เหลา และสานได้ง่าย ดัดโค้งได้ไม่แตกหัก หากไม้แก่เกินไปจะทำให้ยุ่งยาก เหลายาก เปราะแข็งเกินไป ลำบากในการนำมาสาน หากไม้อ่อนไปก็เสาะ หักง่าย บวม สานได้ไม่ค่อยแน่น ไม่ควรใช้ไม้ไผ่ที่มีสีต่างกัน ไม้ไผ่ที่ตากแห้งมานาน เป็นรา และไม้ไผ่ที่ถูกไฟไหม้กอ
( ขอบคุณข้อมูลจาก การจักสานจากไม้ไผ่ โดย ทวี กองศรีมา เวบ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ม.ราชภัฏนครราชสีมา)
เข่งหรือชะลอมที่ได้ค่ะ ออกมาเป็นลูกๆสำหรับใส่ของดูแข็งแรงเหมาะสำหรับบรรจุพืชผลทางการเกษตรจากไร่ บรรจุถ้วยชามเซรามิค เพื่อส่งไปต่างจังหวัด ประโยชน์สารพัดเลยค่ะ
ไม้ไผ่ เป็นไม้ที่ใช้ทำเครื่องจักสานมากมายหลายชนิด มีลักษณะเป็นไม้ปล้อง เป็นข้อ มีหนาม และแขนงมาก เมื่อแก่จะมีสีเหลือง โดยจะนำส่วนลำต้นมาใช้จักเป็นตอกสำหรับสานเป็นภาชนะต่างๆ
ไผ่ เป็นไม้พุ่มหลายชนิดและหลายสกุลใน วงศ์หญ้า Poaceae (เดิมคือ Gramineae) วงศ์ย่อย Bambusoideae เป็นไม้ไม่ผลัดใบใน ขึ้นเป็นกอ ลำต้นเป็นปล้องๆ เช่น ไผ่จีน (Arundinaria suberecta Munro) ไผ่ป่า (Bambusa arundinacea Willd.) ไผ่สีสุก (B. flexuosa Munro และ B. blumeana Schult.) ไผ่ไร่ (Gigantochloa albociliata Munro) ไผ่ดำ (Phyllostachys nigra Munro).
ผลผลิตจากไผ่ที่สำคัญคือ หน่อไม้ ซึ่งเป็นอาหารสำคัญของคนไทย นิยมทานกันมากในเกือบทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน นอกจากนี้ไม้ไผ่ยังมีคุณสมบัติพิเศษทั้งด้านความแข็งแรงและยืดหยุ่นที่เหนือกว่าวัสดุสังเคราะห์หลายชนิด ดังนั้นจึงยังได้รับความนิยมในการทำเครื่องมือเครื่องใช้หลายประเภท ใช้ชะลอน้ำที่เข้าป่าชายเลน นั่งร้านก่อสร้างและบันได เป็นต้น
ไผ่ทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 90 สกุล และ 1,000 ชนิด .
ภาพต้นไผ่และหน่อไผ่ที่เราเรียกหน่อไม้ ใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย ต้นไผ่ เป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมปลูกไว้ในบริเวณบ้าน เพราะเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว แถมยังใช้ประดับตกแต่งบ้านเรือนให้ดูสวยงามได้ด้วย ซึ่งทั้งคนไทย คนจีน และคนญี่ปุ่น ก็มีความเชื่อคล้ายกันว่า ต้นไผ่เป็นสัญลักษณ์ของความสง่าเหนือธรรมชาติ การปลูกไผ่จะช่วยเสริมมงคลให้ผู้อยู่อาศัย ทำให้สมาชิกในบ้านเป็นคนมุ่งมั่น ตั้งใจจริง รู้จักเอาตัวรอด มีคุณธรรม เปรียบเสมือนลำต้นของต้นไผ่ที่เหยียดตรง แข็งแรง ไม่หวั่นเกรงต่อแรงลมพายุนั่นเอง จึงไม่แปลกที่คนจะนิยมปลูกต้นไผ่กัน
ลักษณะของต้นไผ่ ก่อนอื่นมารู้จักลักษณะของต้นไผ่กันก่อนดีกว่า ไผ่ หรือ Bamboo เป็นไม้พุ่มอยู่ในวงศ์หญ้า Poaceae ถือเป็นหญ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงที่สุดในโลก และโตเร็วที่สุดในพืชตระกูลหญ้าด้วย โดยต้นไผ่จะมีลักษณะเป็นไม้ไม่ผลัดใบใน ขึ้นกันเป็นกอ ลำต้นหรือที่เรียกว่า กิ่งก้าน มีลักษณะเป็นปล้อง ๆ มีตาอยู่ตามข้อ ลำต้นจะแตกกิ่งก้านสาขาจากใต้ดิน แล้วส่งยอดอ่อน หรือที่เรียกว่า "หน่อ" ขึ้นมาเหนือพื้นดิน เราเรียกยอดอ่อนนี้ว่า "หน่อไม้" ส่วนใบไผ่เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เส้นใบขนานไปตามความยาวของใบคล้ายกับใบหญ้าทั่วไป ส่วนล่างของใบจะเป็นกาบหุ้มกิ่งเอาไว้ตรงข้อต่อ ปกติแล้วไผ่จะไม่ค่อยออกดอกออกผลเท่าไหร่นัก หากออกดอกเมื่อไหร่หลังจากนั้นไผ่กอนั้นจะยืนต้นตายไปเลย เพื่อให้เมล็ดที่ออกมางอกขึ้นเป็นไผ่รุ่นต่อไป เราจะเรียกเมล็ดที่งอกมาว่า "ขุยไผ่" ส่วนต้นไผ่ที่ยืนต้นตายจะเรียกว่า "ไผ่ตายขุย" ทั้งนี้ ทั่วโลกมีไผ่อยู่ประมาณ 90 สกุล มีมากกว่า 1,000 ชนิด แต่ในประเทศไทยพบอยู่ประมาณ 30 ชนิด ซึ่งชนิดที่คนไทยนิยมปลูกกันก็อย่างเช่น ไผ่ข้าวหลาม ไผ่ตง ไผ่เหลือง ไผ่รวก ไผ่สีสุก ไผ่เลี้ยง ไผ่ป่า ไผ่ลำมะลอก ไผ่ไร่ ไผ่ซาง ไผ่บง เป็นต้น
จขบ.และเพื่อนอาจารย์ นั่งคุยกับคุณป้าเจ้าของบ้านไปด้วยได้ความรู้มากมายค่ะ
ก่อนจากพวกเราได้มอบของที่ระลึกให้กับคุณป้าเจ้าของบ้านพร้อมเก็บภาพร่วมกันตามธรรมเนียมค่ะ คงต้องลากันด้วยภาพนี้นะคะ เพราะยาวเกินแล้ว
พบกันใหม่บล็อกหน้าเราไปเยี่ยมศูนย์เด็กเล็กบ้านทับหมากกันนะคะ
ขอเก็บบันทึกภาพเหล่านี้ไว้เป็นไดอารี่และประสบการณ์ชีวิตค่ะ
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจากกูเกิล วิกิพีเดีย และ เวบกะปุก
ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบเพลง ใบไผ่ โดย ไม้เมือง
ขอบคุณโค๊ดแต่งบล็อกและบีจีสวยๆจากเพื่อนๆบล็อกค่ะ
ขอขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนๆทุกท่านค่ะ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 11 มีนาคม 2556 12:18:15 น.
142 comments
Counter : 15003 Pageviews.
มีความสุขวันหยุดทุกท่านนะคะ
<*img src="URL ของภาพ" >