โครงการตะพาบที่ 73 "เปลี่ยน "
โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่73 "เปลี่ยน"
พิมพ์ลดา เปิดดูหน้าหนังสือหัดขับรถไปพลางกวาดสายตาหาเรื่องที่ควรอ่านก่อนเพราะอยากรู้ข้อควรจำในการขับรถว่าควรจดจำสิ่งไหนก่อนหลัง พลันก็มีกระดาษสีขาวที่ถูกพับไว้อย่างดีหล่นลงมาจากหนังสือที่เธอกำลังเปิด
เธอก้มลงหยิบขึ้นมาคลี่ดูอย่างสงสัย เอ๊ะ "กระดาษอะไร ใครเอามาสอดไว้ในหนังสือเมื่อไหร่"
พิมพ์ลดาคลี่ออกอ่านก็พบว่าเป็นจดหมายจากลายมือเล็กๆของผู้หญิงเขียนมาบรรจงแกมหวัดอย่างสวยงาม " ลายมือสวยมากเลย ใครนะ ลองอ่านดูซิ ไม่ได้มีซองและปิดซองนี่นา วันที่ก็ไม่มี "
ป๋าขา
เมื่อไหร่เราจะได้กลับมานั่งรถไปเที่ยวด้วยกันอีกคะ คิดถึงจังเลย ป๋าขับรถนิ่มมากอยากให้วันเสาร์ อาทิตย์มาถึงเร็วๆและก็ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์เลยค่ะ เราจะได้นั่งรถชมวิวด้วยกันอีกนะคะ ระยะทางจากที่นั่นมาเชียงใหม่ไม่ไกลหรอกนะคะ เวลาป๋าขับรถมีเพลงเพราะๆให้ฟังด้วยแสนสุขใจ อยากให้ป๋าหาเวลามาก่อนเสาร์อาทิตย์ได้มั๊ยคะ จิ๊บจะรอนะคะ คิดถึงป๋ามากมายยังไงๆก็ขอให้โทร.หาจิ๊บด้วยนะคะ จิ๊บยังอยู่บ้านเชียงใหม่ค่ะ ยังรอป๋ามาหานะคะ
รัก + คิดถึงมากค่ะ
นภัสสร
พิมพ์ลดาเงยหน้าจากระดาษจดหมายแผ่นนั้นอย่างงงๆ ใครกัน ป๋า และ นภัสสร เป็นใครกัน แล้วจดหมายฉบับนี้มาอยู่ในหนังสือขับรถนี้ได้อย่างไร หริอว่า ...................
ใช่แน่แท้...เพราะก่อนนี้ ชัยทัต ได้ซื้อรถคันของเขามาก่อน ความจริงไม่น่าจะเรียกว่า รถของเขาเลย ต้องเป็นสินสมรสสิ เพราะซื้อในขณะที่อยู่ด้วยกันและเราก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกัน เค้าส่งรถ เราส่งบ้าน จนกระทั่งหมดแล้วทั้งรถทั้งบ้าน แต่ทำไม ชัยทัตถึงเปลี่ยนไป เค้าไม่เหมือนก่อน พิมพ์ลดาคิดอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะมีชีวิตคู่ด้วยกัน ชัยทัตผู้สามี รักและดูแลเธอเป็นอย่างดีพร้อมทั้งรักลูกมาก พิมพ์ลดารู้สึกได้ว่าเธอมีพร้อมทุกอย่างแล้ว สามีที่ดี อาชีพการงานที่ดี สามีรับราชการเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ เธอก็เป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง ทุกวันชัยทัตจะมารับเธอกับลูกกลับบ้านพร้อมกันทุกครั้ง ไปแวะหาซื้ออาหารพาลูกเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุข
และตอนที่เขาซื้อรถเธอเห็นเค้าเอาหนังสือหัดขับรถมาอ่านเป็นประจำ ฉะนั้น "ป๋า" ในที่นี้ จะเป็นใครไม่ได้นอกจากชัยทัต สามีเธอเอง
พิมพ์ลดาขว้างทิ้งทั้งจดหมายและหนังสือลงพื้นอย่างฉุนเฉียว ทำไมชีวิตของเธอต้องมาพบกับความรู้สึกแบบนี้
ก่อนนี้เธอเคยคิดเสมอว่า ชีวิตครอบครัวเธอต้องสมบูรณ์แบบมีความสุข มีสามีที่ดี รักและดูแลเธอและลูก เธอแต่งงานกับชัยทัตมาด้วยความรักอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้เขาได้ทุกอย่าง อดมื้อกินมื้อมาด้วยกันเพื่อก่อร่างสร้างฐานะให้ดีขึ้นพอทุกอย่างดีขึ้น ชัยทัตกลับเปลี่ยนไป เขากลายเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เธอไม่คิดว่าเลยว่าจะได้พบเจอ เขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ลูกโตขึ้นอยู่ชั้นประถม
เมื่อทุกอย่างเปลี่ยน สิ่งที่เห็นก็เกิดขึ้น เขาใจร้ายกับเธอหลายเรื่อง เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะเอาใจใส่ดูแลเธอเหมือนก่อน แม้แต่กับลูกเขาก็ยังไม่ค่อยจะดูแล ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของพิมพ์ลดาทั้งหมด
พิมพ์ลดาอยากรู้จริงว่า ชีวิตคู่ของคนอื่นๆจะเป็นเหมือนกับเธอมั๊ย มีมั๊ยที่สามีไม่เคยให้เงินภรรยาเลย ต่างคนต่างใช้เงินของตัวเอง แต่เค้ากลับมากินอยู่กับเธอโดยไม่เคยให้เงินเธอใช้เลย ถูกต้องแล้วหรือนอกจากนี้รถที่ซื้อก็ไม่ยอมให้เธอแตะต้องจนเธอต้องหาซื้อรถใช้เองเพราะเขาไม่เคยคิดที่จะรับส่งเหมือนก่อนเมื่อลำบากมากเธอจึงต้องหาซื้อรถมือสองใช้เองและต้องมาหาหนังสือหัดขับรถอ่านจนเจอความลับอันนี้
พิมพ์ลดาไม่อยากได้ยินเพื่อนๆมาเล่าให้ฟังเลยว่า สามีเค้าได้เงินปันผลสหกรณ์ออมทรัพย์ของมหาวิทยาลัย ปีละหลายหมืื่่น เค้ายกให้ ต้องพากันไปเลี้ยงอยากได้อะไรก็ได้ แต่เธอสิ สามีกลับทำเฉยปิดบังไม่บอกไม่แจ้ง ไม่แม้แต่จะบอกให้รู้ว่าเขาได้เงินเดือนเท่าไหร่และจะให้เธอเท่าไหร่
ชัยทัตเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ลูกโตขึ้นมาได้ 7 ขวบ แต่พิมพ์ลดาก็อดทนคิดว่า สักวันหนึ่ง ชัยทัตคนเดิมคงกลับมา เธอพยายามทำดีกับเขามาตลอดแต่สิ่งที่ได้รับคือความหมางเมิน ไม่ค่อยพูด เฉยเมยจนเธอไม่เข้าใจ
ครั้งหนึ่งพิมพ์ลดากลับจากสอนกำลังเข้าบ้านแต่เธอก็ต้องชะงัก ในบ้านมีสาวน้อยนักศึกษาคนหนึ่งผมยาวนั่งคุยกับชัยทัตอย่างสนิทสนมสองต่อสองในบ้าน เธอแปลกใจมากมาย ชัยทัตรีบบอกว่าเป็นนักศึกษาฝีกสอนที่โรงเรียนใกล้บ้านแวะมาเยี่ยม พิมพ์ลดายกมือรับไหว้เด็กสาวแล้วรีบขึ้นไปชั้นบนทันที โดยไม่ซักถามอะไร เธอคิดว่าจะต้องถามอะไรอีกในเมื่อทุกอย่างก็รู้อยู่แล้วว่าอาจารย์อยู่บ้านคนเดียว นักศึกษาสาวสมควรหรือไม่ที่จะต้องมานั่งคุยสองต่อสองกับอาจารย์หนุ่มแบบนี้ เธอเก็บความรู้สึกไว้ในใจตลอดมาคงจะเป็นสิ่งนี้หรือเปล่าที่ชัยทัตเปลี่ยนไป
จากวันนั้นถึงวันนี้ ถ้าคาดการณ์ก็น่าจะประจวบกับนักศึกษาสาวคนนั้นคงเรียนจบแล้วอาจจะไปอยู่เชียงใหม่ เขาคงติดต่อกันมานานมากเลยสินะ เพราะตอนนี้ลูกสาวเธอน้องแต้วอยู่ชั้นมัธยมแล้ว พิมพ์ลดาไม่เคยพูดคุยให้ใครฟังเลยเธอเก็บความรู้สึกเจ็บช้ำเหล่านี้ไว้เพียงผู้เดียว อดทนเพื่อลูกเท่านั้น เธอไม่อยากทะเลาะกันให้ลูกเห็นเธอไม่อยากลูกได้รู้เลยว่าพ่อและแม่มีปัญหา น้องแต้วเรียนเก่งมีความสามารถหลายด้าน เธอรักลูกไม่อยากให้ลูกได้รับรู้ถึงความทุกข์ของแม่เลยและไม่อยากให้เกิดปัญหาว่าพ่อแม่เลิกกันให้ลูกต้องกลายเป็นเด็กมีปัญหา ช่างเถิดนะ ถึงแม่จะทุกข์ใจมากมายเพียงใดแม่จะอดทนเพื่อลูกพิมพ์ลดาคิดยู่อย่างนี้ทุกวันเพื่อที่จะได้อดทนอยู่ได้จนล่วงมาหลายปี
วันหนึ่งเธอไปทำงานพี่สาวโทร.ไปหา ถามว่ามีปัญหาอะไรกับอาจารย์ พี่สาวและแม่มักจะเรียกชัยทัตอย่างให้เกียรติว่าอาจารย์เสมอ ทุกคนไม่มีใครรู้และทุกคนคิดแต่ว่าชีวิตของพิมพ์ลดามีความสุขสบายดีอยู่เสมอ เมื่อพี่สาวโทร.ไปหาเธอที่ทำงานพร้อมบอกให้ฟังว่า ชัยทัตบอกพี่สาวไปว่าถ้าเธอต้องการจะหย่า ก็ยินดีจะหย่าให้ มันเรื่องอะไรกันให้เธอไปหาที่บ้านแม่เย็นนี้ด้วย
พี่สาววางหูไปแล้วพิมพ์ลดาเจ็บปวดนัก เขาคงอยากจะไปจากเธอมากๆวันนั้นเธอทำงานไม่รู้เรื่อง ไม่สอนสั่งงานเพียงอย่างเดียว นั่งคิดวนเวียนอยู่แต่เธอควรทำอย่างไรดี สงสารก็แต่ลูกเท่านั้น แต่ตอนนี้ลูกอยู่มัธยมปลายแล้ว ลูกจะเข้าใจมั๊ยถ้าพ่อและแม่จะต้องหย่ากัน เธอควรจะทำอย่างไรดี
เย็นวันนั้นพิมพ์ลดาก็มานั่งต่อหน้าแม่และพี่สาว เรื่องทุกอย่างพรั่งพรูออกมาจากปากเธอหลังจากที่เก็บไว้นานแสนนาน น้ำตาไหลออกมาราวกับทำนบกั้นน้ำพัง เธอกลัวเหลือเกินว่าแม่จะเสียใจ ทุกข์ใจไปกับเธอ ตอนแรกไม่อยากจะเล่าเรื่องอะไร แต่พี่สาวไปรู้มาเสียแล้วและเล่าให้แม่ฟังหมดว่าทุกอย่างเป็นอย่างไร เธอจึงจำต้องเล่าให้แม่ฟังทั้งหมดพร้อมร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ
แม่นั่งนิ่ง และที่เธอไม่คาดคิดว่าแม่จะเอ่ยออกมาให้ได้ยินคือ " ทุกข์ใจมากนักก็เลิกกันไปซะก็ได้นะลูก อย่าทนไปเลย ให้เขาไปอยู่ที่อื่นซะ ให้เราอยู่ที่นี่กับลูกก็พอ ลูกเค้าโตแล้วอธิบายให้ลูกฟังเค้าคงจะเข้าใจ อย่าทนต่อไปอีกเลย ลูกเจ็บมามากแล้ว"
พิมพ์ลดาน้ำตาหลั่งไหลกอดแม่ร้องไห้ซึ้งใจนักที่แม่เข้าใจลูกเสมอ แม่รู้ดีเสมอว่าลูกเจ็บ แม่ไม่ว่าไม่ตำหนิใครเลย แม่พูดเพียงเท่านี้ ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกเธอแล้ว เธอโล่งใจมากมายที่แม่เข้าใจเธอ ตอนแรกคิดว่าแม่จะตำหนิแต่แม่ไม่ว่าเลยกลับปลอบประโลมและให้กำลังใจเธอพร้อมบอกว่า "ถ้าเขาเป็นคู่เราแล้วยังไงเขาก็ต้องอยู่กับเรา แต่ถ้าไม่ใช่คู่ของเราเขาตามมาเจอกันแล้ว ก็คืนเขาไปนะลูก"
พิมพ์ลดากลับบ้านอย่างสบายใจในวันนี้ เธอยังลองดูท่าทีของชัยทัตก่อนว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอเพื่อลูกหรือไม่ แต่สิ่งที่เธอได้รับคือความเห็นแก่ตัวเช่นเคย
เช้าวันหนึ่งความเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ก็มาถึง พิมพ์ลดาตัดสินใจแล้วว่า อยู่กันไปก็ไร้ความสุขเธอไม่ควรฉุดเขาไว้ในเมื่อใจเขาไม่ได้มีเธอแล้ว ปล่อยเขาไปอย่างที่แม่บอกก็ดีเธอจะได้เป็นอิสระไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไปเพราะเขาและเธอไม่พูดกันเลยมาเป็นเวลา 2-3 ปีแล้ว บอกใครก็คงจะไม่เชื่อ ทั้งสองไม่เคยพูดกันเลยอยู่ในบ้านเดินสวนกันไปมานอนคนละห้องพิมพ์ลดาอยู่ห้องนอนชั้นบน ส่วนชัยทัตนอนห้องนอนชั้นล่างต่างคนต่างอยู่เหมือนคนแปลกหน้า
ชัยทัตชอบทำกระแทกประชดประชันเธอตลอดมา แต่เธอก็เฉย แต่กลับลูกเขาก็คุยดี วันๆเธอและเขาแทบจะไม่มองหน้ากันเลย แรกๆเธอพยายามพูดดีกับเขาแต่เขาก็ไม่สนใจในที่สุดพิมพ์ลดาก็ไม่สนใจบ้างไม่พูดก็ไม่ต้องพูดอยู่กันแบบต่างคนต่างอยู่ก็ดีเหมือนกัน ใครจะเชื่อ 3 ปีอยู่ด้วยกันไม่พูดกันเลย
วันนี้เมื่อถึงที่ทำงาน พิมพ์ลดาจึงตัดสินใจโทร.ไปหาเขาและถามถึงเรื่องที่เขาได้พูดไว้กับพี่สาวว่าพูดจริงหรือเปล่า ต้องการอย่างนั้นจริงหรือ คำตอบสั้นๆว่าจริง พิมพ์ลดาจึงตัดสินใจนัดให้เขาไปพบกันที่อำเภอ
ทั้งสองเซ็นลงในใบหย่าต่อหน้าปลัดอำเภอซึ่งก็เป็นเพื่อนกับพิมพ์ลดา
พร้อมทั้งได้สัญญาไว้ในใบหย่าว่าเขาจะยกบ้านและที่ดินสิ่งปลูกสร้างให้เป็นของพิมพ์ลดาและลูก ส่วนตัวเขาตอนนี้ยังหาที่อยู่ไม่ได้ขออาศัยอยู่ไปก่อน พิมพ์ลดาก็ตกลง และขอให้เขาปิดลูกไว้ไม่ให้รู้ว่าพ่อและแม่หย่ากันแล้วให้ทำตัวปกติ เขารับคำ
จากวันนั้นถึงวันนี้ 7 ปีแล้วที่เขายังหาที่อยู่ไม่ได้ พิมพ์ลดาและเขาก็อยู่ในบ้านเดียวกันโดยไม่พูดกันมา 7 ปี เหมือนกัน และลูกสาวกำลังจะสำเร็จปริญญาตรีในไม่ช้านี้แล้ว พิมพ์ลดาคิดอย่างขำๆว่า จะมีคู่ไหนเป็นอย่างเธอบ้างนะ ทุกวันนี้เธอไม่คิดอะไรเลยอยู่ไปอย่างสบายใจเขาจะไปที่ไหนนั่นเป็นเรื่องของเขาเพราะเธอคิดว่า เขาเป็นคนอื่นไปแล้ว แต่สิ่งที่เธอสงสัยเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงไม่ไปอยู่กับผู้หญิงที่ชื่อจิ๊บล่ะ ฉันให้อิสระคุณแล้วทำไมคุณไม่ไป คุณยังทนอยู่กะฉันมานานถึงขนาดนี้เพราะอะไร แล้วผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ซะที่ไหน หรือว่าเขาเลิกกันแล้ว
ทุกวันนี้เขาพยายามทำดีกับพิมพ์ลดามาโดยตลอด พยายามซื้อของมาให้โดยไม่บอกแต่พิมพ์ลดาคงไม่มีวันเปลี่ยนใจกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะเธอเจ็บและจำกับความเปลี่ยนแปลงนี้มากเกินกว่าทีจะกลับไปเหมือนเดิมได้อีกแล้ว แก้วแตกร้าวแล้วฉันใด ยากที่จะต่อติดได้ฉันนั้น
ชัยทัตเป็นดังคำคนที่พูดกันเสมอว่า เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน แต่พิมพ์ลดายังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
*************************************************
จบแล้วค่ะ แหะ แหะ ตะพาบครั้งนี้มาช้าไปหน่อยค่ะ อ่าน"เปลี่ยน" ของพิมพ์ลดาแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ มึคู่ไหนหนอที่อยู่ด้วยกันและไม่พูดกันเลยมา 7 ปีแล้วบ้าง ยกมือขึ้นหน่อยค่ะ 5555
ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจค่ะ
ขอขอบคุณโค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนๆค่ะ
ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบ เพลง สายชล ของจันทนีย์ อูนากูลค่ะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
Create Date : 26 มกราคม 2556
Last Update : 26 มกราคม 2556 20:09:57 น.
99 comments
Counter : 7263 Pageviews.
ไม่ผิดหวังเลย เยี่ยมมากจ้า