เที่ยววัดสบายใจค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆวันนี้พาไปเที่ยววัดสวยๆอีกวัดนะคะ





นั้นคือ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม อ. เมือง จ. ลำปางค่ะ ไปชมภาพกันนะคะ






  วัดพระแก้วดอนเต้า หรือ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ตั้งอยู่ที่ตําบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง วัดพระแก้วดอนเต้าเป็นวัดที่เก่าแก่และสวยงาม มีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ปี พ.ศ.1979เป็นเวลานานถึง 32 ปี เหตุที่วัดพระแก้วดอนเต้าได้ชื่อว่า วัดพระแก้วดอนเต้า มีตํานานกล่าวว่า นางสุชาดา ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (ภาษาเหนือเรียกว่าหมากเต้า) และนำมาถวายเจ้าอาวาส เพื่อแกะสลักเป็นพระพุทธรูป ซึ่งก็คือ พระแก้วดอนเต้า ต่อมาถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลําปางหลวง จนถึงปัจจุบัน ปูชนียสถานที่สําคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า ได้แก่ พระเจดีย์องค์ใหญ่ บรรจุพระเกศาธาต ุของพระพุทธเจ้า มณฑปศิลปะพม่า ลักษณะงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีอายุเก่าพอๆกับวัดนี้ นอกจากนี้ยังมี วิหารหลวงและพิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา การเดินทางไปยังวัดพระแก้วดอนเต้าต้องข้ามสะพานรัชฎาภิเษกแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนพระแก้ว ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรจะเห็นองค์พระธาตุตั้งเด่นอยู่บนเนิน





เมื่อ พ.ศ.1979 พระเจ้าสามฝั่งแกนเจ้าเมืองเชียงใหม่ ทรงจัดขบวนแห่เพื่อรับพระแก้วมรกตจากเชียงรายไปเชียงใหม่ แต่ขบวนแห่มาถึงทางแยกที่จะไปนครลำปาง ช้างที่รับเสด็จพระแก้วมรกตวิ่งตื่นไปทางเมืองลำปาง แม้หมอควาญจะขู่เข็ญเล้าโลมประการใดก็ไม่ยอมไปทางเชียงใหม่ ในที่สุดพระเจ้าสามฝั่งแกนก็ต้องยอมให้อัญเชิญพระแก้วมรกต ประดิษฐานไว้ ณ วัด พระแก้วดอนเต้า ประทับอยู่วัดนี้เป็นเวลา 32 ปี ครั้นลุ พ.ศ.2011 พระเจ้าติโลกราช เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปเชียงใหม่









 วัดพระแก้วดอนเต้า เป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุดอนเต้าซึ่งเป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ามณฑปศิลปะพม่า ลักษณะงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่พอๆกับการสร้างวัดนี้ นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติล้านนาและวิหารพระเจ้าทองทิพย์





พระแก้วดอนเต้า มีประวัติตำนานเล่าขานกันมาว่า เมื่อสมัยที่เมืองลำปางมีชื่อว่า เมืองกุกุฏนครเมืองไก่) ณ วัดแห่งหนึ่งซื่งปัจุบันคือ วัดพระแก้วดอนเต้า พระที่เป็นเจ้าอาวาสสมัยนั้นเรียกว่าพระเถระ วัดแห่งนี้ก็มีศรัทธาทั้งอุบาสกอุบาสิกา เมื่อถึงเทศกาลวันพระวันโกน ก็จะมีศรัทธามาทำบุญเป็นประจำ
และใกล้ๆวัดแห่งนี้ก็มีอุบาสิกาท่านหนึ่งนามว่า นางสุชาดา มีอาชีพทำสวน และในสวนของนางได้ปลูกแตงโม (ภาษาเหนือเรียกว่ามะเต้า) อยู่มาวันหนึ่งนางได้แตงโมลูกโตที่ปลูกอยู่บนที่ดอนของสวน ก็จึงนำมาถวายพระเถระที่วัดแห่งนี้ และเมื่อพระเถระผ่าลูกแตงโมลูกนั้นก็ได้พบมรกตสีเขียวสวยงามมากอยู่ในลูกแตงโม พระเถระก็มีความคิดอยากจะนำมรกตนั้นมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป(ตามตำนานเล่าว่าเทวดาแปลงองค์ลงมาเนรมิตมรกตนั้นเป็นองค์พระพุทธรูป) เมื่อตื่นเช้ามาพระเถระก็ได้พบมรกตที่ตนคิดว่าจะนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปกลายเป็นพระพุทธรูปดังหวัง ก็จึงให้นามพระพุทธรูปองค์นั้นว่า พระแก้วมรกตดอนเต้า (หมายถึง พระพุทธรูปที่ทำด้วยแก้วมรกตที่อยู่ในลูกแตงโม) และก็ได้มีการป่าวประกาศให้ประชาชนทั่วไป ได้ทราบถึงบารมีขององค์พระแก้วมรกตดอนเต้า เมื่อชาวบ้านได้ข่าวก็พากันมานมัสการและทำบุญกันมากมาย แรงศรัทธาแรงบุญได้หลั่งไหลเขามาในวัดอย่างมากมายค่ะ

(ขอขอบคุณภาพและคำบรรยายส่วนหนึ่งจากเวบklongdigital.com คุณป้าหนุ่ยพาเที่ยวค่ะ )





พระปางไสยาสน์ สร้างขึ้นในสมัยพระยาชมภูจิตตะ เป็นเจ้าผู้ครองนคร( ขอบคุณภาพจากเวบแดนนิพพาน.คอม)






พระพุทธรูปบัวเข็ม( ขอบคุณภาพจากเวบ แดนนิพาน.คอม)





วิหารหลวงพ่อโต(ขอขอบคุณภาพจากเวบแดนนิพพาน.คอม)







  วัดสุชาดารามสร้างขึ้นราว พ.ศ.2325-2352 เมื่อครั้งชาวเชียงแสนถูกกวาดต้อนมาตั้งชุมชนในเมืองเขลางค์ เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของนางสุชาดาหลังจากได้รับโทษประหารชีวิตด้วยความเข้าใจผิดและมาปรากฎความจริงในภายหลัง เชื่อกันว่าที่ตั้งของวัดแห่งนี้คือบ้านและไร่แตงโมของ เจ้าแม่สุชาดาในอดีต ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2527 กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการรวมวัดสุชาดารามเข้ากับวัดพระแก้วดอนเต้า และเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม

       อุโบสถวัดสุชาดารามเป็นสถาปัตยกรรมแบบพื้นเมืองฝีมือช่างเชียงแสน มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยภาพจิตรกรรมลายไทยลงรักปิดทอง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยบนฐานชุกชี อุโบสถแห่งนี้ได้ทำการบูรณะเมื่อ พ.ศ.2465 พ.ศ.2503 และในปี พ.ศ.2550 เนื่องในโอกาสฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี




 เหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่า นางสุชาดา ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (หมากเต้า) และนำมาถวายพระเถระรูปนั้นจึงจ้างช่างให้นำมรกตนั้นไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปซึ่งก็คือ พระแก้วดอนเต้า ซึ่งต่อมาได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงสาเหตุจากตำนานบอกว่า มีผู้ไปฟ้องเจ้าเมืองลำปางในขณะนั้นว่า พระเถระและนางสุชาดาเป็นชู้กัน เจ้าเมืองลำปางจึงให้จับนางสุชาดาไปประหารชีวิต ส่วนพระเถระองค์นั้นทราบข่าวก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปหนีไป โดยได้นำไปฝากไว้ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน ส่วนสถานที่ตั้งบ้านของนางสุชาดาก็ได้มีผู้มีจิตศรัทธาในคุณงามความดีของนาง บริจาคเงินสร้างวัดขึ้นชื่อวัดสุชาดาราม แต่มีบางสันนิษฐานบอกว่าเนื่องจากวัดพระแก้วดอนเต้า และ วัดสุชาดาราม นั้นร้างลง แต่บางที่ก็มีการสันนิษฐานเพิ่มว่า น่าจะเป็นเพราะย่านนี้เป็นสวนหมากเต้า และเป็นที่ดอน จึงชื่อพระธาตุว่า พระบรมธาตุดอนเต้า และชื่อวัดว่า วัดพระธาตุดอนเต้า และต่อมาเมื่อมีการประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า จึงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระแก้วดอนเต้า



ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล : //www.guidetourthailand.com/lampang/places-wat-phra-kaew-dontao.php









ถ่ายองค์พระธาตุตอกกลางคืนค่ะ วันไปเวียนเทียนวันวิสาขบูชาภาพจริงสวยมากค่ะ
ใช้มือถือถ่ายค่ะก็มัวๆหน่อยค่ะ



ขอจบด้วยภาพนี้นะคะ ขอขอบคุณ ภาพและเนื้อหาบางตอนจาก เวบ ไกด์ทัวร์ลำปางไทยแลนด์. คอม  เวบ แดนหิมพานต์. คอม เวบกล้องดิจิตอล.คอม ป้าหนุ่ยพาเที่ยว

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาขมและให้กำลังใจค่ะ

ขอขอบคุณโค๊ดบีจีสวยๆจากคุณญามี่ค่ะ

ขอขอบคุณโค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนๆบล๋อกค่ะ

ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบเพลง งามเขลางค์ลำปางถิ่นงาม โดย โฉมฉาย อรุณฉาน

บล็อกนี้อยู่ในหมวดท่องเที่ยวค่ะ















 

Create Date : 15 มิถุนายน 2556
0 comments
Last Update : 11 สิงหาคม 2556 3:31:03 น.
Counter : 1564 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


กิ่งฟ้า
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




หลังไมค์จ้าคนดี
https://pic.pimg.tw/joyceshek/1309912998-0967b851b0ec7371d4eacf63da30184b.jpg
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กิ่งฟ้า's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.