สวัสดี ...วันพระแรม ๘ ค่ำ เดือน ๕
"...เห็นธรรมชาติ...เป็นธรรมชาติ..." (เห็นธรรมชาติ หมายถึง เห็นตามความเป็นจริง )
โน่นน่ะ...ดูดอกไม้นั่นซิ (หลับตาดูด้วยตาใน) กำลังบานสวยงามเลยเน๊อะ... แต่อีกไม่นานดอกไม้นี้ก็จะ โรยรา ล่วงหล่น ลงพื้นดิน สิ้นความสวยงาม... ถึงแม้ว่า...เราจะชื่นชมดอกไม้สักเพียงใด และไม่อยากให้ดอกไม้นี้ โรยรา ล่วงหล่น แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เฝ้าดู...แล้วก็เฝ้าดู ดอกไม้นี้ ล่วงหล่นไป ตามกาลเวลา...ตามธรรมชาติ ถ้าเราเห็นธรรมชาติ แล้วค่อย...ค่อยเรียนรู้ธรรมชาติ เราจะค่อย ๆ เข้าใจธรรมชาติ และยอมรับธรรมชาติ เพราะว่าธรรมชาติ เสมอภาคกัน ยุติธรรมเสมอ สำหรับทุกๆ คน ทุกๆ คนเกิดมาแล้ว...ทุกคนเคยมีสุข...ทุกคนเคยพบทุกข์ ทุกคนต้องโรยรา ล่วงหล่น ลงพื้นดิน...เสมอภาคกัน
เมื่อเห็นธรรมชาติ...เป็นธรรมชาติ เท่ากับเราเห็นตามความเป็นจริงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น อาจจะเรียกว่า ปรมัตถ์ธรรม ซึ่งเปรียบเสมือนดั่ง : อาการสุข และอาการทุกข์ อาการยินดี และอาการยินร้าย สุดท้ายก็จบลงทั้งหมด ทั้งสิ้น...เทอญ
ฉะนั้น วันนี้...วันพระ... ขอให้เธอทั้งหลาย...พิจารณา ดังต่อไปนี้ : ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง การพูดจา การปฏิบัติงาน ถ้าเกิดอารมณ์ดี ก็ให้พิจารณาเสมือนหนึ่งว่า ดอกไม้ที่สวย ๆ สุดท้ายก็โรยรา ล่วงหล่น บนพื้น...ฉันใด...แล้วก็วางซะ ถ้าเกิดอารมณ์ไม่ดี ก็ให้พิจารณาเสมือนหนึ่งว่า ดอกไม้ที่สวย ๆ สุดท้ายก็โรยรา ล่วงหล่น บนพื้น...ฉันใด...แล้วก็วางซะ มองเห็นทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ การเปลี่ยนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายการจบลง..จบลงเหมือน ๆ กัน..
นี่คือ "...เห็นธรรมชาติ...เป็นธรรมชาติ..."
ปรมัตถ์ธรรม เป็นธรรมชาติที่ทรงสภาพของตนไม่มีการวิปริตผันแปรด้วยอำนาจอื่น
|