เพราะเธอคือคนพิเศษ
Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
รอยต่อระหว่างความรักกับอนาคต

อดีตที่แสนสับสน

สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากจะรบกวนเพื่อน ๆ ช่วยออกความคิดเห็นด้วยค่ะ

อย่างที่บอกในหัวเรื่อง เมื่อความรักมาทักทาย แล้วทำไมเหมือนหัวใจแตกสลาย

ประวัติคร่าวๆๆ ของเราและพี่เค้านะ
เราเรียน ป.โท ไม่ได้ทำงาน เรียนอย่างเดียว
พี่เค้าเรียน ป.โท ที่เดียวและปีเดียวกับเรา และ ทำงาน บริษัทด้วย

เริ่มเรื่องเลยนะค่ะ

เหตุเกิดที่พี่เค้ามาชวนไปดูหนัง เราเองรู้สึกแปลกใจมากที่ทำไมพี่เค้ามาชวนเราไปดูหนัง เพราะตลอดเวลาที่เรียนโทด้วยกัน เราแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลยและไม่ได้สนิทกันด้วย

แต่ก็รู้สึกดีเพราะอยากไปดูหนังเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เราตกลงรับนัดพี่เค้า พอเราดูหนังกับพี่เค้าเสร็จ พี่เค้าชวนเราไปดูบอล เราก็เลยถามพี่เค้าว่าไปคนเดียวหรือเปล่าถ้าไปคนเดียวเราจะไปเป็นเพื่อน เค้าตอบเราว่าไปคนเดียว เราเลยตัดสินใจไปกับพี่เค้า

หลังจากนั้นเราถึงได้รู้ที่หลังว่าพี่เค้านัดกับเพื่อนไว้อีกคน ซึ่งเราไม่เข้าใจเลยว่าพี่เค้าจะพาเรามาทำไมถ้ามีเพื่อนมาด้วยแล้ว แต่สรุปของวันนั้นเรารู้สึกสนุกและมีความสุขมากที่มีเพื่อนไปเที่ยวในที่ที่เราไม่เคยไป

หลังจากนั้นต่อมาพี่เค้าก็มักจะชวนไปเที่ยวบ่อย ๆ เรารู้สึกสนุกและมีความสุขมากพี่เค้ามักพาไปที่ต่าง ๆ ที่เราไม่เคยไป พาไปกินอาหารแปลก ๆ ที่ต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อที่เรายังไม่เคยไปทั้งนั้นและไม่มีซ้ำที่เลย

เราเริ่มรู้สึกได้ว่าพี่เค้าอาจจะรู้สึกกับเรามากกว่าเพื่อน วันหนึ่งเราเลยตัดสินใจที่จะถามเค้าว่าพี่เค้าคิดยังไงกับเราแน่

แต่เรายังไม่ทันได้พูดอะไรที่ชัดเจนไปมากกว่านี้พี่เค้าก็พูดว่า บางครั้งคนเราก็ไม่ต้องสื่อกันด้วยคำพูดเสมอไปหรอกนะพี่รู้ว่าเราคิดตรงกัน เราไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ เก็บความรู้สึกนี้ไว้เงียบ ๆ คนเดียวต่อมา

ความรู้สึกเรามันเริ่มสับสนแล้ว พี่เค้าชอบพูดถึงเรื่องอนาคต ทำนองถ้าได้แต่งงานจะทำอะไรกันบ้าง ทัศนคติต่าง ๆ ทำนองนี้รวมถึงสัญญากันว่าเราจะรับปริญญาพร้อมกัน ซึ่งทำให้เราเริ่มรู้สึกไม่เหมือนเดิม

เราเริ่มโทรหาเค้ามากขึ้น พี่เค้าก็โทรหาเราบ่อยขึ้น ส่ง SMS กันบ่อยขึ้น ทุกอย่างดูปกติและมีความสุขดี

และวันนั้นก็เกิดขึ้นเรานัดทานข้าวกับพี่เค้า แต่พอใกล้ถึงเวลานัด พี่เค้าโทรมาเลื่อนนัดเพราะ ที่ทำงานของพี่เค้าเกิดอุบัติเหตุ มีคนตาย พี่เค้าคงเสียใจมากเพราะเป็นพนักงานในส่วนความรับผิดชอบของเค้า

และคืนนั้นเองพี่เค้าโทรมาหาเราเป็นเวลาที่เราไม่สะดวกคุยเพราะเรากำลังคุยปัญหาต่าง ๆ กับครอบครัวของเรา เราเลยได้แต่ อือ อือ ออ ออ ไปตามเรื่องทั้ง ๆ ที่รู้สึกอยากพูดมากกว่านี้

แต่ตอนนั้นเราก็เครียดมากพออยู่แล้ว วันรุ่งขึ้นหลังเลิกงานเรากับพี่เค้านัดจะไปเจอกันที่ร้านประจำ (ที่บ้านเราฝากผลไม้มาให้พี่เค้าด้วย) พอถึงเวลานัดพี่เค้าไม่มาเราเลยโทรศัพท์ไปหา

พี่เค้าบอกว่าเผลอหลับไปมาหาเค้าที่บ้านได้ไหม เราขับรถไปหาพี่เค้าเอาผลไม้ไปให้ แล้วกลับบ้านเพราะมันดึกแล้ว(พี่เค้าไม่ถามเราซักคำว่าถึงบ้านหรือยังทั้งที่เราต้องขับรถข้ามจังหวัดตอนดึกมากๆ)

หลังจากนั้นเรากับพี่เค้าก็เริ่มคุยกันน้อยลงเพราะพี่เค้าบอกเราว่างานยุ่งมากเครียปัญหาเรื่องคนตายอยู่ เราเข้าใจ เวลาเราโทรหาเค้าถ้าพี่เค้าไม่ว่างเราจะวางสายทันที ถ้าพี่เค้ามีเวลาว่างพี่เค้าจะโทรกลับมาเอง

ความสัมพันธ์เป็นแบบนี้อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เรามีนัดกับพี่เค้าและเพื่อน ๆ ของพี่เค้า ว่าจะไปดูโปเตโต้ด้วยกัน เราถามพี่เค้าว่ายังจะไปอยู่ไหม พี่เค้าตอบว่าไป เมื่อถึงวันที่ไปเจอกัน ดูพี่เค้าเครียดๆ ไม่สนุกอย่างที่เคย

หลังจากดูโปเตโต้จบ พี่เค้าไปส่งเพื่อนและไปส่งเราที่รถ พอเราถึงบ้านเราโทรบอกพี่เค้าเหมือนที่เราทำทุกครั้งเวลาเราแยกกัน พี่เค้าคุยโทรศัพท์กับเราเหมือนโทรมาบอกทำไม (ในรถมีเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่เราไม่รู้จักที่เค้าจะกลับทางเดียวกับพี่)

หลังจากวันนั้นเรารู้สึกไม่ดีเลยวันรุ่งขึ้นเราตัดสินใจโทรถามพี่เค้าว่าไม่อยากเจอหน้าเราใช้หรือเปล่าเพราะปกติทุกวันหยุดเราจะต้องไปเที่ยวด้วยกัน พี่เค้าบอกกับเราว่าเค้าไม่อยากเจอหน้าเราตอนนี้เค้าอยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ

อยากว่างแผนชีวิตใหม่เพราะตอนนี้มันแย่มากทั้งเรื่องงานเรื่องเรียน เค้าบอกว่าเค้าไม่มีความสุขเลย อย่าโกรธกันเลยนะ ตอนนี้ยังไม่อยากเจอหน้าจริงๆ อยากอยู่คนเดียว

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอพี่เค้ามีคุยกันบ้างทางโทรศัพท์ไม่บ่อยนัก แต่ก็ยังคุยกันทุกวัน พอถึงวันศุกร์ พี่เค้าโทรมาหาเราแต่เราปิดโทรศัพท์เพราะเราไม่มีสมาธิทำวิทยานิพนธ์เลยตั้งแต่เริ่มคบกัน

พอเราเสร็จงานที่ตั้งใจไว้ เราเปิดเครื่องรู้ว่าพี่เค้าโทรมาเรารีบโทรกลับพี่เค้าบอกเราด้วยเสียงงอน ๆ ว่าตั้งใจจะชวนเราไปดูหนังเรื่องที่เรานัดกันไว้นานแล้วว่าจะไปดูด้วยกัน

เราเลยนัดกันใหม่ว่าจะไปดูหนังด้วยกันรอบดึกเพราะกลางวันต่างคนต่างจะได้ทำงานของตัวเองไป และเช้าวันอาทิตย์ไปวิ่งการกุศลกันตอนตี 5 ซึ่งเราก็ตอบตกลง

พอถึงเวลานัด เรากับพี่เค้าเหมือนซอมบี้มาก แทบจะไม่มียิ้มกันเลย ระหว่างดูหนังเราคุยกันบ้าง สรุปว่าหลังจากดูหนังจบหนังสนุกดี เราสองคนคุยกันนิดหน่อย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้านพอถึงบ้านครั้งนี้เราไม่ได้โทรไปบอกพี่เค้าว่าเราถึงบ้านแล้ว

พอตอนเช้าเราพบว่าพี่เค้ามานอนอยู่ ปั๊มหน้าบ้านเรา เค้าบอกเราประหยัดเวลานอน พอถึงจุดที่วิ่งพี่เค้าบอกเราว่าเค้าอยากวิ่งเต็มกำลังไม่รออย่าว่านะ

เราก็บอกเค้าว่าไม่เป็นไร เราจะวิ่งไปเรื่อย ๆ (ความรู้สึกเราตอนนั้นรู้สึกว่าเรามาอยู่ทำอะไรที่นี่)สุดท้ายพี่เค้าวิ่งมาถึงก่อนเรา 30 นาที แล้วเราก็กินข้าวที่เค้าเลี้ยงในงานด้วยกัน แล้วก็กลับบ้าน

ต่อจากนั้นเราก็คุยกันน้อยลงเรื่อย ๆ จนถึงวันที่เราไม่ได้คุยกันเลย เราโทรไปพี่เค้าก็บอกไม่ว่าง หรือทำเสียงไม่อยากคุย เราตัดสินใจถามเค้าว่าไม่อยากคุยกับเราใช่ไหม บอกเรา

ไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้มันทำให้เราไม่มีสมาธิ
พี่เค้าบอกเราว่าตั้งแต่มีคนตาย เค้ารู้สึกชีวิตหดหู่ไม่อยากทำอะไรไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นเค้าอยากนอน อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ถ้าย้อนเวลาไปได้เค้าจะไม่ทำงานแบบนี้

และพี่เค้าก็บอกเราว่าอย่าคิดเรื่องรัก ๆ กับพี่เค้าตอนนี้เลยเพราะพี่เค้าไม่มีอารมณ์คิด และเค้าอยากให้เรากลับไปตั้งใจทำวิทยานิพนธ์เหมือนเมื่อก่อนตอนที่เรากับพี่เค้ายังไม่คบกันแบบนี้

เราก็ตอบพี่เค้าทั้งๆ ที่เราเสียใจว่า ถ้าพี่เค้าต้องการแบบนี้แล้วมันทำให้พี่เค้ารู้สึกดีกว่าเราก็จะทำให้พี่เค้าอยากอยู่คนเดียวเราก็จะให้อยู่คนเดียว

รบกวนถามเพื่อน ๆ หน่อยค่ะ ว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปกับพี่เค้า และวิทยานิพนธ์ของเราเพราะตอนนี้เราไม่มีสมาธิเลย

ขอบคุณเพื่อน ๆ ล่วงหน้าด้วยที่ช่วยตอบคำถามค่ะ

นี่คือครั้งหนึ่งของชีวิตที่รู้สึกสับสนมาก ๆ กับความรักที่เข้ามาทักทาย


Create Date : 13 กันยายน 2550
Last Update : 23 ธันวาคม 2551 13:28:13 น. 0 comments
Counter : 321 Pageviews.

คนมันเก่ง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เส้นขอบฟ้าอยู่ใกล้กันแค่เหลือบตามอง
Friends' blogs
[Add คนมันเก่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.