ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครนี้มีคอนโดผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนไทย แต่สิ่งที่สำคัญที่ผู้อาศัยในคอนโดมักมองข้ามคือเด็กเล็กที่เข้ามาอยู่ด้วย ที่ผ่านมาผู้ประกอบการยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อย ยิ่งถ้าเป็นในช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงที่น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะพื้นที่ตรงระเบียงคอนโดชั้นสูง ถ้าหากปล่อยให้เด็กเล่นในพื้นที่ในคอนโดซึ่งมีพื้นลื่น เด็กอาจพลัดตกจากคอนโดลงมาได้ แล้วยิ่งคอนโดส่วนใหญ่จะก่อสร้างระเบียงเป็นราวเหล็กซึ่งมีความห่าง ทำให้เด็กเล็กสามารถลอดผ่านได้ ด้วยความเป็นเด็กมักมีความซุกซนอยู่ในตัว

จุดเสี่ยงที่เด็กสามารถเกิดอุบัติเหตุในคอนโดมิเนียม คือ

1. ระเบียงหน้า-หลังห้อง ถือเป็นจุดที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากคอนโดในหลายที่ไม่ให้มีเหล็กดัดติดเพื่อป้องกัน หรือราวระเบียงไม่สูงมากทำให้เด็กปีนได้ ซึ่งถ้าหากเจ้าของต้องการติดเหล็กดัดควรใช้เหล็กดัดที่มีช่องเปิด - ปิดได้ เนื่องจากบางครั้งหากมีเหตุไฟไหม้ในคอนโดจะได้เปิดช่องหน้าต่างดังกล่าวในการช่วยเหลือ 

3. ช่องทิ้งขยะในคอนโดบางที่มีช่องทิ้งขยะที่สามารถให้คนชั้นบนทิ้งขยะในช่องนั้นแล้วหล่นลงมารวมกันในชั้นล่าง ซึ่งเคยมีเด็กบางคนที่โตหน่อยซุกซน เอาเก้าอี้มาต่อขึ้นไปเล่นแถวช่องทิ้งขยะทำให้พลัดตกลงมาตามช่องขยะได้

4. เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นสิ่งที่เด็กสามารถจะปีนขึ้นไปได้บริเวณหน้าต่างห้อง เพราะหน้าต่างหลายที่ไม่ได้ใส่เหล็กดัด พอเด็กปีนขึ้นไปอาจพลัดตกลงมาด้านล่างได้ ดังนั้นไม่ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใกล้กับหน้าต่างหรือที่ๆก่อให้เกิดอันตรายได้ 

             อย่างไรก็ตามหัวใจสำคัญของการดูแลเด็กคือต้องมีผู้ปกครองดูแลเด็กตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดนอกจากนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด ต้องสละเวลาเพื่อเดินสำรวจภายในคอนโดว่าทางหนีไฟอยู่ตรงไหน หรือพื้นที่ตรงส่วนไหนที่สุ่มเสี่ยงที่เด็กน้อยอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ความเร่งรีบไปทำงานจนไม่มีเวลาเดินสำรวจ เลยทำให้เวลาเกิดเหตุร้ายไม่รู้จะทำอย่างไร เช่น เมื่อเกิดไฟไหม้ไม่รู้ว่าทางหนีไฟอยู่ตรงไหน อยากฝากผู้ปกครองที่มีเด็กอยู่ในคอนโดฯให้ระวัง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเด็กได้เสมอด้วยเป็นวัยที่ซุกซนและความชะล่าใจของผู้ปกครอง ถ้าหากรู้ว่าจุดใดของห้องพักเป็นจุดเสี่ยงควรหาวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่อลูกหลานที่ดูแล