คนชอบเที่ยว และรักการท่องเที่ยว ^^
|
|||
Hong Kong - ใครๆ ก็ไปได้ ครั้งแรกแบบเต็มๆ 3 วัน 2 คืน วันที่ 1 ^_^ ทริปนี้ มีผู้ร่วมเดินทาง 2 คน เหมือนเช่นเดิม นู๋เชงกับคนข้างบ้าน อิอิ (18-20 ต.ค. 14) เริ่มทริปจากจองตั๋วโปรข้ามชาติ ของแอร์เอเซียซะก่อน เบ็ดเสร็จจ่ายไป 8,092 บาท สำหรับ 2 คนค่ะ รวมโหลดกระเป๋าขากลับ 20 ก.ก. และข้าวกะเพราไก่สูตรหม่อมหลวงหน่อย 1 ชุด ^^ จากนั้น เราก็หาข้อมูล การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว โดยใช้เว็บหลักๆ อยู่ 2 เว็บ คือ Pantip.com และ Hongkongfanclub.com ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ พอใกล้วันเดินทาง สถานการณ์ฮ่องกง ก็ไม่ปกติ ซะงั้น T T มีข่าวการประท้วง ที่รุนแรงออกมาเป็นระยะๆ แต่ก็นะ จัดมาหมดแล้วนิ ทั้งตั๋ว ทั้งที่พัก ก็ต้องเดินหน้าละนะ 555 ก่อนเดินทางก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋า ขากลับเพิ่มซะหน่อย เผื่อช็อปปิ้ง 555 จัดไป 20 ก.ก. 700 บาท และได้ซื้อตั๋วกระเช้านอนปิง ตั๋ว Peak Tram + Sky Terrace รวมทั้งบัตร Octopus Card ต่อจากเพื่อนสมาชิกในเว็บฮ่องกงแฟนคลับ ทำให้ประหยัดต้นทุนไปอีกนิด 555 เราทำการบ้านไปพอสมควร เพราะเพื่อนๆ บอกว่า เที่ยวไม่ยาก ไม่ยากจริงๆ นะ แต่สำหรับนู๋เชง ไม่รู้จะยากป่าว แต่ที่แน่ๆ คือ มีประท้วง 555 ทำให้แผนเราต้องเปลี่ยน รถเมล์บางสาย หยุดวิ่ง ต้องอัพเดทสถานการณ์ทุกวัน จนถึงวันเดินทาง ^^ ทริปนี้ เจอเรื่องฮาๆ โก๊ะๆ ไปหลายดอกเลย เอิ๊กๆๆๆๆ เริ่มจาก นู๋เชงต้องจองตั๋วจาก พล-กทม และ กทม-พล เพื่อจะบินต่อไป ฮ่องกงวันรุ่งขึ้น และบินกลับพิดโลก ในวันกลับมาจากฮ่องกง **ดอกแรก** จองตั๋วผิดวันค่ะ จอง พล-กทม จองวันที่ 17 ตค อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ขากลับดันจอง 22 ธค 555 ดูจิ ทำให้ต้องหาตั๋วใหม่มาเสียบ เพื่อจะได้บินกลับ 21 ตค (ยังดีนะ ที่ได้โปรบิ๊กจากแอร์เอเซียมาเสียบแบบไม่เจ็บตัวเท่าไหร่) ไปค่ะ เราออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ ดูซิ ทริปนี้ นู๋เชงจะเจอเรื่องเฮงๆ ไปกี่ดอก ^_^ ตื่นแต่เช้าเพราะได้ไฟล์ 06.35 น. ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองนะคะ อย่าไปผิดสนามบินเชียว 555 ไปถึงสนานบินก่อนเวลาแบบสบายๆ มีเวลาแลกของกินกับทรูการ์ด ตุนเป็นเสบียงไว้ก่อน อิอิ ไฟล์ท FD508 06.35 มีดีเลย์ เล็กน้อย ไม่มีปัญหาค่ะ เดี๋ยวกัปตันก็ซิ่งระหว่างทาง และก็เป็นไปตามคาด เราถึงจุดหมายปลายทางตรงเวลา 555 หลังจากถึงสนามบินเช็กแล็บก็อก ฮ่องกงแล้ว เราก็ต้องไป ตม. สนามบินที่ฮ่องกงนี่มี 2 Terminal นะคะ ของสายการบินแอร์เอเซีย เครื่องลงจอดที่ Terminal 2 ค่ะ เราต้องนั่งรถไฟอีกทีเพื่อไป ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง) และรับกระเป๋านะคะ (ขาไปเราไม่ได้โหลดกระเป๋า) เดินผ่านตม.ออกมาข้างนอกแล้ว เราก็ต้องหยิบแผนที่ และไปหาซื้อซิมการ์ดก่อน เพื่อจะได้ไม่ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ^_^ เพื่อนๆ สมาชิกแนะนำกันว่า ร้าน 1010 เลยค่ะ พอเจอร้านก็ไปต่อแถวค่ะ **โดนไปอีกดอก** คนอื่นซื้อซิม One2free ราคา 88$ ไม่ก็ 100$ แต่นู๋เชง ง่อยภาษาบอกจนท.แค่ว่าจะเอาซิม เล่นเนต 3 วัน เธอก็หยิบมาให้ ราคา 118$ เลย เธอว่าไม่มีซิม One2free และไม่มีราคาต่ำกว่านี้ จำใจต้องซื้อและจ่ายไป แงๆๆๆๆ ได้ซิมของ PCCW Tourist Sim Card รายละเอียดตามลิงค์เลยค่ะ https://www.pccw-hkt.com/en/Prepaid-Discover-HK-Tourist-SIM-Card/ หมดธุระเรื่องซิมแล้ว เล่นเนตได้แล้วก็รายงานตัวกับทางบ้านสักนิด พร้อมหามุมสงบๆ กินแซนวิสที่แบกข้ามประเทศมา (ใช้ทรูการ์ดแลกฟรีมา) จัดไปเบาๆ ก่อน แล้วก็หาเครื่องเติมเงินเข้า Octopus Card เรายังไม่รู้มานใช้อะไรได้บ้าง เลยเติมไปก่อนขำๆ 100$ (แนะนำเติมไปเลย 200$ มันใช้เยอะจริงๆ ใช้ได้หลายๆ ที่ ทั้งแมคโดนัล 7-11 ร้านอาหารหลายๆ ร้าน รวมทั้งตู้ฝากกระเป๋าที่ City Gate และซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย) เติมเงินเสร็จ ก็ออกไปขึ้นรถเมล์กันค่ะ ออกจาก Terminal (ถ้าเดินตรงไปจะขึ้น MRT) ก็ให้เดินไปทางขวามือ เดินออกถนนไปเลยค่ะ แล้วมองซ้ายหาป้ายรถเมล์ จะเจอสาย S1 สายที่เราจะขึ้น เพื่อไปลงที่ห้าง City Gate (สถานีรถไฟ Tung Chung) และแล้วเราก็เจอ**อีกดอก** T T ต่อแถวผิดคร่าาาาาาาาาาา สาย S1 ออกไปต่อหน้าต่อตา แงๆๆๆๆ เสียเวลารอรถอีกเป็นพัก ทีนี้ได้ขึ้นเป็นคนแรกเลย 55555 ขึ้นรถปุ๊บ ก็เอาบัตร Octopus แตะที่เครื่อง แล้วหาที่นั่งสวยๆ ^_^ รถจะพาวนไปมาในสนามบินนั้นละค่ะ แล้วปลายทางอยู่ที่ ห้าง City Gate เป็นท่ารถเลยค่ะ แล้วเราก็เดินเข้าไปในห้างเลยค่ะ เราต้องฝากกระเป๋ากันก่อน มันเป็นภาระของเรา ที่จะพามันไปด้วย จากการหาข้อมูลมา มีตู้ฝากกระเป๋าอยู่ใช้ใต้ดิน B2 และ B3 หาบันไดเลื่อนลงไปเลยค่ะ พอดีตอนที่เราไป ชั้น B2 มีคนต่อคิวเยอะ เราเลยเดินลงไปอีกชั้น เป็น B3 จังหวะดีซะจริง มีคนมาเอากระเป๋าออกจากตู้พอดี ทำให้มีตู้ว่างสำหรับนู๋เชง การฝากก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ แค่มีสติ เน้น มีสติ นะคะ 5555 กำลังตื่นเต้นกับการอ่านวิธีการฝาก และดันมีคนมาต่อแถวกดดันอีก สติเลยไม่ค่อยมี 555 กว่าจะฝากได้ **โดนไปอีกดอก** ในขั้นตอนฝากมันจะมีให้เลือกว่า จ่ายด้วยเงินสด หรือบัตร Octopus เรางงตรงนี้ (อาการล้นเพราะมีคนมาต่อคิวอีก) และแล้วคนต่อคิวก็มาช่วยเหลือเรา เธอก็จิ้มเลือกเงินสดให้เราค่ะ (ทำไมเธอไม่ถามเราว่าจะใช้ เงินสด หรือ Octopus โทษคนช่วยอีก กร๊ากกกก) เราไม่มีเศษ 10$ เลยใส่ แบงค์ 20$ ไป ขอโทษค่ะ ตู้ไม่ทอนเงินนะคะ เราเลยได้จ่ายแพงกว่าคนอื่น T T คนอื่นฝากเป๋า 2 ชม 10$ แต่นู๋เชง 20$ ค่ะ ไม่รวยทำไม่ได้นะคะนี่ 555 (ปลอบใจตัวเอง) เราได้ตู้เล็ก ใส่กระเป๋าเคบินไซด์ได้ 2 ใบค่ะ ขั้นตอนการฝากค่ะ เสร็จภาระกิจฝากกระเป๋าแล้ว เราก็ไปหาอะไรใส่ท้องอีกรอบ ได้แมคโดนัลเป็นที่พึ่ง 555 เพื่อความรวดเร็ว พอหนังท้องตึง ก็มีแรงเดินกันละ เดินไปขึ้นกระเช้าเพื่อไปไหว้พระใหญ่กันค่ะ **เจออีกดอก** อะไรจะซวยปานนี้ คนอื่นได้ขึ้นบันไดเลื่อนตรงนี้ จนเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของนอนปิงอีกอย่างหนึ่งแล้ว ที่มีตัวหนังสือเขียนว่า ยินดีต้อนรับ หลายๆ ภาษา ตามขั้นบันได แต่ตอนเราไปมันปิดปรับปรุงค่ะ T T ต้องเดินอ้อมไปขึ้นอีกด้าน 55555 ท่านใดตั้งใจจะขึ้นอยู่แล้วแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าเลยนะคะ คิวซื้อตั๋วยาวมว๊ากกกกกกกกกก เราซื้อตั๋วมาแล้ว เลยสบายไป แต่ๆๆๆ ยังไงเราก็ต้องไปแลกเป็นตั๋วจริงอีกทีนะคะ แต่คิวแลกตั๋วจริงน้อยมากค่ะ แลกตั๋วเสร็จ ก็ไปขึ้นกระเช้ากันค่ะ มันมีกระเช้า 2 แบบนะคะ ขาขึ้นตอนนู๋เชงไป กระเช้า Standrad คิวน้อยมากค่ะ แต่กระเช้าคริสตัล คิวยาวมว๊าก... หน้าตาตั๋วจริงค่ะ หลังจากขึ้นกระเช้าได้ ก็กระหน่ำถ่ายรูปกันไป 55555555 ขาลง กระเช้า Standrad คิวยาวมากกกกกก เลยได้นั่งเบียดกันลง 1 ตัว นั่งกัน 8 คน เต็มพื้นที่ในกระเช้าเลยวุ้ย 5555 แล้วก็ไปเดินช็อปปิ้งเซอร์เวย์ สินค้าในห้างกันก่อน กว่าจะกลับมาเอากระเป๋า **โดนอีกดอก** ค่าฝากกระเป๋า ต้องจ่ายเพิ่มไปอีก 20$ T T เกินเวลาไป 2 ชั่วโมง กับ 5 นาที แงๆๆๆ (ทุก 2 ชม จ่าย 10$) หลังจากนั้น เราก็ไปขึ้นรถไฟ MRT ไปที่พักกันค่ะ แผนที่รถไฟใต้ดิน MRT อย่าหายเชียว ดูในมือถือก็สู้ดูในแผ่นกระดาษไม่ได้ สะดวกกว่าเยอะ กางแผนที่ เดินทางเลย เห็นมุมกว้าง อิอิ เราจองที่พักไว้ที่ Inn Spirit Tsim Sha Tsui ที่พักสะดวกมากค่ะ ใกล้สถานีพอสมควร หาไม่ยากค่ะ เราจองผ่าน airbnb.com ห้องมีขนาดเล็ก แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา 2 คนค่ะ แค่ติดตรงห้องน้ำเล็กไปนิด 555 จ่ายไม่แพง ก็จัดไป เรียกว่าถูกดีกว่า อิอิ ^_^ การเดินทางไปที่พัก เราก็เดินจากสถานีรถไฟ Tsim Sha Tsui Exit C2 พอขึ้นถึงพื้นดิน เดินไปข้างหน้าประมาณ 70 ก้าวโดยประมาณ มองซ้าย จะเป็นทางเข้าของ Tsim Sha Tsui Mantion มองทะลุเลยไป จะเจอ 7-11 เดินไปเลยค่ะ พอทะลุอีกด้านที่เป็น 7-11 มองซ้ายห่างกันประมาณ 4 คูหา จะเจอทางเข้าที่พักของเรา ดูหัวดับเพลิงสีเหลืองทองไว้ค่ะ มานย้ายหนีไม่ได้แน่ 5555 เดินเข้าไปเลยค่ะ จะเจอลิฟท์ กดชั้น 6 นะคะ ลิฟท์โทรมหน่อยนะ ^_^ (วันกลับเจอนักท่องเที่ยวเดินขึ้นมา สงสารเลย เหงื่อยท่วมกายเชียว 555) ห้องพักมี 8 ห้อง มีหลากหลายรูปแบบเตียง เปิดเข้าไป ก็จะเห็นแบบนี้เลย มองกลับหลังมา ก็ประตูทางออก กับมุมซ้ายมือ ห้องนอนเล็กๆ วางกระเป๋า 2 ใบก็แทบจะเต็มพื้นที่ละ 555555 ห้องน้ำลืมถ่ายมา (ไม่เหมาะกับคนเจ้าเนื้อนะคะ) มานแคบจริงๆ แหะๆๆ ด้านข้างที่พัก เป็นที่ฝากท้องอย่างดี ^_^ เราเก็บกระเป๋าเสร็จก็ฝากท้องที่นี่ ก่อนเดินไปเล่น ริมน้ำเพื่อดู Symphony of Lights มื้อนี้สั่งไป 2 อย่าง ข้าวมันไก่ ไหหนาน กับ ข้าวราดซอสข้าวโพด+ไก่ทอด แต่ถ่ายมารูปเดียวอ่ะ 555 2 อย่างจ่ายไป 95$ หนังท้องตึง ก็มีแรงเดิน เราเดินไปที่ Avenue of Stars แล้วเดินไปทางขวาแทน ไปแถวๆ หอนาฟิกา Clock Tower แล้วก็เดินหาจุดแจ่มๆ ไร้ผู้คนสักนิด มานช่างหายากซะจริง 555 ได้จุดแล้วก็ตั้งท่ารอ รอ รอ เริ่มแสดงตอน 2 ทุ่มนะคะ เก็บภาพมานิดหน่อย พอหอมปากหอมคอ ^_^ หลังจากจบจากซิมโฟนี่ ออฟ ไลท์ เราก็กลับเข้าที่พักกันค่ะ วันนี้เล่นเอาหมดแรงเหมือนกันนะนี่ รายงานตัวกับทางบ้านอีกนิด แชทไลน์ แชทเฟสอีกหน่อย แล้วพักผ่อนเก็บแรงไว้พรุ่งนี้ต่อ ^_^ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ พรุ่งนี้เราจะเจออะไรบ้าง โฮ๊ะๆๆๆๆ ตามมาดู ว่าโดนไปกี่ดอก
โดย: rafadin IP: 27.145.114.103 วันที่: 26 ตุลาคม 2557 เวลา:21:14:39 น.
ไม่กี่ดอกหรอกปิ๋ว rafadin แค่ช้ำในปานกลาง กร๊ากกกกก
โดย: ฮุยเฉง IP: 124.121.53.53 วันที่: 27 ตุลาคม 2557 เวลา:9:59:46 น.
|
ฮุยเฉง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |