คนชอบเที่ยว และรักการท่องเที่ยว ^^
|
|||||||||||||
ครั้งหนึ่งในชีวิต เราก็เคยพิชิตฝรั่งเศส(ปารีส)-สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 7 ของการเดินทาง วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2556 เป็นวันที่ 7 ของการเดินทาง Paris Louvre Museum - Notre Dame Cathedral - Hotel de ville วันนี้ เราจะไปพิพิทธภัณฑ์ลูฟว์ (Louvre Museum) กันค่ะ แต่วันนี้ จะไม่ใช้ตั๋ว t+ แล้ว เราคำนวณคร่าวๆ แล้วซื้อตั๋ววันหรือ Mobilis card โซน1-2 จะคุ้มกว่า ถ้าจะต่าง ก็ต่างกันนิดหน่อย ซื้อความสะดวกเลยค่ะ ใบเดียวใช้ขึ้นลงได้ทั้งวัน ทั้งรถไฟ รถเมล์ในเขตโซน1-2 จ่ายไปใน 6.60 ยูโร/คน  เราก๊อบรูปนี้มาจากเว็บ จำไม่ได้ละเว็บไหน การใช้งานก็ไม่ยากค่ะ สีเงินๆ ตรงกลาง มันมีไว้หมุนๆ เพื่อเลื่อนขึ้นเลื่อนลง เลือกรายการ ปุ่มสีแดงซ้ายมือคือ ยกเลิก (cancle) ปุ่มสีเขียวขวามือคือ ตกลง, Valider เครื่องจริงสีแดงสีเขียวไม่เหลือละ เห็นแค่เป็นปุ่มสีเงินๆ แค่นั้น ใช้งานจนสีหาย ^_^ ขั้นตอนก็ตามนี้เลยค่ะ 1 เลือกภาษา - เลือก อังกฤษค่ะ ภาษาอื่นไม่สามารถ 555 แล้วกดปุ่ม ตกลง 2 เลือกซื้อตั๋ว - buy tickets กดปุ่ม ตกลง 3 ใช้โรลสีเงินตรงกลาง เลื่อนมาที่ Mobilis แล้วกดตกลง 4 เลือกโซน ของเราเลือก Zones 1-2 กด ตกลง 5 เลือกจำนวนตั๋วที่ต้องการซื้อ 1 ใบ 6.60 ยูโร, 2 ใบ ก็ 13.20 ยูโร กด ตกลง 6 หน้าจอแสดงจำนวนตั๋ว และยอดรวมที่ต้องจ่าย ถ้าโอเค ก็ กด ตกลง 7 หยอดเหรียญ หรือใส่เครดิตการ์ด เราเลือกหยอดเหรียญ หยอดครบ เครื่องก็จ่ายตั๋วทันที รับตั๋วที่ช่องข้างล่างของตู้ หน้าตาของตั๋ว แทบไม่แตกต่างจากตั๋ว t+ เลย แค่มีคำว่า Mobilis ที่ตั๋ว ^_^ ออกเดินทางกันได้แล้วค่ะ โดยนั่งรถไฟที่สถานีเดิม Corvisart นั่งรถไฟไป 1 ป้ายไปลงที่ Placedltalie แล้วเปลี่ยนไปนั่งสาย 7 ไปลงที่ บริเวณด้านหน้า Louvre Museum     ทางเข้าลูฟว์น่าจะมีหลายทาง เท่าที่เห็นก็ 2 ทางละ ตรงพิรามิด กับใกล้ๆ ทางเข้าเมโทรสักที่ จำไม่ได้ละ เดินจนมึน 555 เนื่องจากไม่ได้ซื้อมิวเซียมพาส (Museum pass) ไว้ เราเลยเข้าช่องทางพิเศษหน้าพิรามิดแก้วไม่ได้ เลยต้องไปต่อแถวอันยาวเหยียด ยาวมว๊าก....เพื่อตรวจสัมภาระ แต่ก็รอไม่นานนัก   พอตรวจสัมภาระเสร็จ เดินเข้าภายใน ถึงกับมึน คนมหาศาล วุ่นวายสุดๆ ไม่ว่าจะตรงประชาสัมพันธ์ ตรงตู้ขายตั๋ว ถ่ายตรงตำแหน่งคนน้อยสุดๆ ละนะ ตรงบันไดนั้นจะมีลิฟท์ตรงกลางบันไดวน ไว้บริการคนพิการ และคนมีรถเข็นทุกชนิด  เข้ามาแล้ว ก็ต้องดิ้นรนหามิวเซียมพาสกันก่อน เพื่อจะได้ใช้เข้าฟรี และเรามีแพลนเข้าอีกหลายที่ จ่ายครั้งเดียวจบ เบ่งเข้าทางด่วนได้บางทีอีกต่างหาก อิอิ ไปถามประชาสัมพันธ์กันก่อน เอ๊กคิสมี.... มิวเซียมพาสไปซื้อได้ที่ไหนค่ะ (เข้าใจว่าพูดแบบนี้นะ ให้พูดซ้ำก็มิสามารถละ อิอิ) เธอก็ชี้ๆๆๆ พูดไรหวา ฟังไม่ออก กร๊าก แต่ก็ไปตามที่เธอชี้นะ อิอิ ห้องนี้เลยเป็นกระจกใสๆ ที่ซื้อมิวเซียมพาส หาไม่ยาก เดินตามที่เธอชี้ (หันหน้าเข้าประชาสัมพันธ์ กลับหลังหันแล้วเดินตรงไป แค่นั้น เจอแน่ๆ ออฟฟิตอยู่ขวามือ) เราซื้อมิวเซียมพาสแบบ 2 วัน สนนราคา 39 ยูโร/คน 2 คนก็จ่ายไป 78 ยูโร เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้เราเขียนชื่อ นามสกุลและวันเริ่มใช้งานนะคะ หน้าตามิวเซียมพาส เล่มนิดเดียว  ได้บัตรมาแล้วก็เริ่มตะลุยกันเลยค่ะ หน้าทางเข้าตรวจตั๋ว ก็แค่โชว์มิวเซียมพาส ง่าย ใช่ป่ะ ^_^  มีรูปปั้นโบราณเพียบเลย ปั้นได้สุดยอดอ่ะ เหมือนจริงวุ้ย ชอบภาพวาดฝาผนังด้วยอ่ะ อลังการจริง คนวาดคนปั้นเก่งเนอะ สุดยอดดดด   และสิ่งที่ห้ามพลาด ไปเยี่ยมย่าทวดโมนาริซ่า ^_^.   คนมหาศาลอ่ะ แถม เธออยู่ในกระจกอีก ถ่ายมุมไหน ก็มีเงาสะท้อนของกระจก T T  ชมไปเรื่อยๆ นะคะ ซึมซับศิลปะ กันสักนิด ก็มันสวยอะนะ สวยมาก สวยจนบรรยายไม่ถูกเลย ^_^    เดินจนหมดแรง และคนข้างบ้านก็เริ่มจะป่วยยยย จากการตากฝนเมื่อวาน 555  เดินจนช้ำปอดแล้วเราก็ออกกันค่ะ ไปจัดการถ่ายรูปท่าบังคับกันก่อน ^_^  ออกจาก ลูฟว์ เราจะไปต่อกันที่โบสถ์นอร์ธเทอดาม Notre Dame Cathedral เราไปรอรถเมล์เพื่อไปลงใกล้ๆ ค่ะ เดินไม่ไหวละ 555 ณ ป้ายรถเมล์ อิอิ  นั่งรถเมล์ได้ไม่กี่ป้าย ก็ลงกันค่ะ ก็มันสวยอะนะ จะให้นั่งเลยผ่านได้ไง ชิมิ ลงรถเมล์ เดินชิลๆ แวะถ่ายรูป ไปเรื่อยๆ ละกัน เหนื่อย เมื่อย ก็พัก ^^  เดินจนมาถึง Sainte Chapelle ไหนๆ ก็ผ่านละ แวะเข้าไปสักหน่อยดีกว่า ไปยืนเข้าแถวอยู่นาน ลืมตัวว่าพกมีดสวิสมาด้วย อดเข้าค่ะ (ยึดแล้วไม่คืนนะคะ) ป้ายว่างั้น ไม่ก็ตรูแปลผิด กร๊ากกกกก เศร้าจุง ไม่ได้เข้า กระซิก กระซิก กระซิก   รูปข้างบนจะเห็นรั่วเล็กๆ ซ้ายกับขวาของถนนคนเดิน จริงๆ มานคือทางลง กับขึ้นลานจอดรถใต้ดินค่ะ จากตรงนี้ เราก็เดินไปโบสถ์ นอร์ธเทอดามกันค่ะ เหมือนจะมีงานอะไรสักงาน ไปยืนตรง Zero point ด้วย หลักกิโลเมตรที่ 0 ของฝรั่งเศส ^_^  หน้าโบสถ์ และภายในโบสถ์    นักบุญเดนิส ถูกลงโทษประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะที่เนินสูงในปารีสที่ปัจจุบันคือ มงมาทร์ หลังจากที่ศีรษะหลุดจากบ่า เดนิสก็หยิบหัวของตนเองขึ้นมาถือและเดินต่อไปอีกหกไมล์ เทศนาไปตลอดทางซึ่งทำให้เดนิสกลายเป็นนักบุญองค์หนึ่งในบรรดา นักบุญถือศีรษะ (Cephalophore)  เราหาทางขึ้นด้านบนของโบสถ์ไม่เจอ นึกว่าขึ้นจากด้านในไง ที่ไหนได้ มานให้ขึ้นด้านข้างโบสถ์ พอเจอทางเข้า ก็หมดเวลาขึ้นแล้วซะงั้น แงๆๆๆ อดถ่ายรูปมุมสูงเลย T T ไปเดินเที่ยวต่อดีฟ่า พอเดินไปด้านข้างโบสถ์อีกด้าน เราเจอชายสูงอายุ กำลังให้อาหารนกอยู่ เหมือนต้อนรับนักท่องเที่ยวอ่ะ ไม่ต้องซื้ออะไร แค่ต้องการพูดคุยเฉยๆ เรามีขอแจม อยากให้นกมากินอาหารที่มือบ้าง ชายสูงอายุก็ถาม พูดภาษาอังกฤษได้ไหม เราตอบได้นิดหน่อย ท่านชายถามต่อ แล้วมาจากไหน เราตอบไทยแลนด์ เธอก็ยิ้มๆ โอ้...ไทยแลนด์ แล้วเคยมาเที่ยวกี่ครั้งแล้ว เราตอบครั้งที่2 แต่สำหรับคนข้างบ้านครั้งแรก เธอก็ยิ้มๆ แล้วบอกให้เราชูมือขึ้น ยกสูงๆ ก็ได้รูปตามนั้น 555 กล้องใหญ่ ถ่ายมือเดียว ไม่ได้ตั้งออโต้ รีบกดชัทเตอร์ รูปชัดได้เท่านี้ก็บุญละ 555   จากนั้นก็เดิน ถ่ายรูป ชิลๆ เลาะริมน้ำไปเรื่อย.......... ^_^  เดินเรื่อยๆ ไปจนถึง สะพานคู่รักของฝรังเศส สะพานปงต์ เด ซาร์ตส์ (Pont des Arts Bridge) สะพานแห่งแรกในกรุงปารีสที่มีโครงสร้างทำด้วยเหล็ก ซึ่งปัจจุบันราวสะพานนี้รับน้ำหนักกุญแจไม่ไหว และพังลงเมื่อต้นเดือน มิ.ย 57  แล้วเดินยาวไป ถึง Hotel de ville ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปถ่ายรูปด้านหน้าอีก เนื่องจากมีประท้วง เห่อๆๆๆๆ รถไฟใต้ดิน ในแถบนี้ก็เลยปิดทำการชั่วคร่าว แงๆๆๆๆ  เดินเล่นจนเมื่อยก็ขึ้นรถเมล์ เพื่อไปหาทางลงรถไฟใต้ดินต่อ (แถว Hotel de ville รถไฟใต้ดินปิด เพราะมีม๊อบ ประท้วง) ไปเก็บตก หอไอเฟล กันดีฟ่า Eiffel Tower    เก็บตกแถบหอไอเฟล หลายมุมมาก ฝนก็ตกปรอยๆ คุณมืดก็เดินขายของแบบน่ากลัวอ่ะ แต่เราก็เดินนิ่งๆ นะ ไม่ตอบไม่คุย กลัวห้ามใจไม่อยู่ ได้ซื้อของซะงั้น 555 คือเธอก็พูดราคาซะถูกเลย แต่กลัวเข้าใจผิดว่าไอ้ที่เธอพูดนะ มานอาจจะเป็นอันน้อยๆ ที่เธอถืออยู่และเรามองไม่เห็น กร๊ากกกก ทางเดินแถวหอไอเฟลก็นะ ไม่ได้มีแสงสว่างอะไรมากมาย สลัลๆ ได้อีก แต่ก็ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ หรือเราโชคดีหวา........... เก็บตกอยู่จนดึก รอดูหอไอเฟลเปิดไฟกระพริบ อยู่หลายรอบ เลยได้มุมสวยๆ หลายมุม ของจริงมันสวยกว่าในรูปอ่ะ ความรู้สึกมานช่างต่างกันในรูปมาก ไม่ไหวละ กลับโรงแรมดีกว่า เดินกลับรถไฟสถานีเดิมที่เคยขึ้นเมื่อวันแรกที่มาถึง หลังจากนี้ก็ สลบเหมือบ อิอิ ลากันด้วยภาพหอไอเฟลยามเปิดไฟ เจอกันใหม่ ในตอนหน้านะคะ เราจะไปเที่ยวพระราชวังแวร์ซายส์กัน  บายยยยยยยยยยยยยยยยย
|
ฮุยเฉง
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
