Whatever it's gotta be, it's up to ME
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
เรื่องสั้นๆ อ่านสนุก ของวาทตะวัน สุพรรณเภษัช ชอบมาก Highly recommended!!

จริงๆ ติดตามผลงานเขียนของคุณวาทตะวันมาได้ปีกว่าๆ แล้วค่ะ ชอบวาทะคารมและวิธีการเขียนของแกมากค่ะ อ่านสนุกติดงอมแงม แล้วได้ความรู้แบบถึงพริกถึงขิงถึงกึ๊นกันเลยทีเดียว

ช่วงนี้กำลังคึกคักกันเรื่องการเมืองก็เลย....คิดว่าเอามาฝากคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวๆ blog นี้กันหน่อย เผื่อใครยังไม่เคยได้อ่านของคุณวาทตะวันน่ะค่ะ

ปกติคุณวาทตะวันจะ update เรื่องในเวป www.vattavan.com ประมาณอาทิตย์ละครั้งนึง เป็นคอลัมน์ประจำสัปดาห์ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อสังคมเรามากค่ะ

ขออนุญาตแปะเลยนะค่ะ
ตอนนี้ชื่อ “กินของมัน...แต่ไม่เลือกมัน!!!” >>>


ข่าวเรื่อง “สติวปิ้ด” กลางวงการประชุมอาเซี่ยนซัมมิท ออกมาสูสาธารณชนหลายกระแส บ้างก็ว่า สมเด็จฮุนเซน บริภาษ นายมาร์ค มุกควาย แต่เพียงข้างเดียว บ้างก็ว่า เป็นวิวาทะระหว่างสมเด็จฮุนเซน กับนายมาร์ค มุกควาย และต่างกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่า
Stupid!
ฟังแล้วได้แต่คิดว่า ก็ไม่ใช่เพราะความ “สติวปิ้ด” ของนายมาร์ค มุกควาย ดอกหรือ? ที่ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมร เปลี่ยนจากที่เคยปกติสุข กลับต้องเป็นถิ่นทุกข์ ของคนทั้งสองชาติ และจะต้องอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง หาความสุขสงบมิได้ไปอีกนาน ทั้งยังอาจต้องสังเวย ด้วยชีวิตทหารไทย และชาวบ้านของเรา อีกนับร้อยศพก็เป็นได้
สำหรับทหารนั้น ผมมองว่า พวกเขาสมัครใจมารับใช้ชาติ หรือแม้จะไม่ได้สมัครใจ หากแต่โดนเกณฑ์มา ให้ทำหน้าที่ของลูกผู้ชายชาวไทย ก็ถือว่าได้ทดแทนคุณแผ่นดินแล้ว
ดังนั้น การเสียชีวิตจึงเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อตายในสนามรบ ก็ถือเป็นเกียรติของทหาร และคนข้างหลังในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ บุคร ภรรยา ก็ได้รับการดูจากทางราชการแลตามสมควร
แต่สำหรับชาวบ้านแล้ว ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย!
ชีวิตของชาวบ้านชายแดนนั้น ยากลำบาก หากหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิตไป ก็เป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง ที่จะต้องปกป้องสุดความสามารถ เพื่อให้ราษฎรมีความปลอดภัย ทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนจัดการให้ชีวิตของพวกเขา มีความสะดวกสบายตามสมควรในฐานะพลเมืองของประเทศไทย โดยพบกับเดือดเนื้อร้อนใจ น้อยที่สุด

นับเป็นความ “ซวย” อย่างใหญ่หลวง ของประเทศเราโดยแท้ ที่หลังการปฏิวัติรัฐประหารอัปรีย์ เมื่อปี พ.ศ.2549 ซึ่งนำความฉิบหายแตกแยกใหญ่หลวง มาสู่บ้านเมืองของเรา
ทั้งนี้ เพราะ...
แม้มีการเลือกตั้งแล้ว และประชาชนได้เลือกพรรคทักษิณ ด้วยเสียงข้างมาก เพื่อให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่เสียงส่วนใหญ่ของพี่น้องประชาชนนั้น กลับถูกฉกชิงวิ่งราวไปหน้าด้านๆ และอำนาจการดูแลบ้านเมือง ต้องเปลี่ยนมือไป โดยมี “รัฐบาลกาลี” ของนายมาร์ค มุกควาย อุบัติขึ้นมา ด้วยอำนาจนอกระบบ โดยความร่วมมือของฝ่ายทหาร
อาจเป็นด้วยสาเหตุนี้เองกระมัง เวรกรรมจึงได้สนองกับประเทศของเรา จนต้องประสพภัยสงคราม ผู้คนในบ้านเมือง ต้องเดือดร้อนอย่างยิ่ง อพยพหนีภัยกันจ้าละหวั่น
ผมอดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาเขียนบทความดุดัน ชื่อ ไอ้คนหนีทหาร มันลากชาติไทยเรา เข้าสู่…สงคราม!!! (//vattavan.com/detail.php?cont_id=279) กระหน่ำพฤติกรรมของรัฐบาลกาลี ของนายมาร์ค มุกควาย อย่างไม่ไว้หน้า
อยากให้ท่าน ที่ยังไม่อ่าน ลองเข้าไปอ่านกัน

ครับ...
มันเป็นกรรมของสยามประเทศจริงๆ ที่เราดันปล่อยให้คน
หนีทหาร อย่างนายมาร์ค มุกควาย หัวหน้ารัฐบาลกาลีที่ขลาดเขลา ลากชาติของเรา เข้าสู่การสงครามจนได้
คนไทยทั้งหลาย...จะต้องเตือนตนเองว่า
ถ้าพวกเราไม่อยากเดือดร้อน เพราะการสงครามต่อไปอีก ต้องไม่เลือกไอ้พรรคเวรพรรคกรรมนี้ ให้มันกลับเข้ามาบริหารประเทศอีก เพราะมิฉะนั้นแล้ว ผมขอยืนยันว่า
เราหลีกเลี่ยง “สงคราม” ไม่พ้นแน่!
ยิ่งไปกว่านั้น หากเราฝืนปล่อบให้สถานการณ์รบพุ่งของสงครามดำเนินไป โอกาส “แพ้ย่อยยับ” ก็มีสูง ซึ่งไม่ใช่ด้วยฝีมือเขมรดงเค็งกระเด็งราง แต่จะพ่ายฝีมือชาติพันธมิตรของเขมรต่างหาก
อย่าหาว่าผมพูดเกินเลยไป เพราะแม้แต่นายพลตาหวาน อย่าง ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เพิ่งออกมารับหน้าชื่อตาบานเมื่อ
2 ก.พ. 2554 ว่า
ถ้าทำสงครามกับกัมพูชา ไทยโดดเดี่ยวแน่!

อยากจะบอกว่า ในบทความชื่อ “คนไทย ‘เงี่ยน’ สงคราม!!!” (//vattavan.com/detail.php?cont_id=242) ซึ่งเขียนเอาไว้ ตั้งแต่ 4 สิงหาคม ปีกลาย ก่อนนายพลตาหวานเพิ่งสำเหนียกตั้งนาน และผมพูดเอาไว้ชัดเจนในบทความนั้น ว่า
รบกันเมื่อไหร่ ไทยเราจะต้องโดนรุม “กินโต๊ะ” แน่ๆ!
จึงอยากให้ท่านที่ติดตาม “วาทตะวัน” ได้อ่านกัน เพราะคอลัมน์ที่ระบุ มีการนำไปเผยแพร่มากในเว็บอื่นๆด้วย เฉพาะแฟนๆผู้อ่านในเว็บ //www.vattavan.com ก็มีมากกว่า
“ครึ่งหมื่น” คนเข้าไปแล้ว!

ท่านผู้อ่าน สังเกตไหมครับว่า ก่อนการเลือกตั้ง จะมีการพูดกันมากเรื่องของการ “ซื้อเสียง” พอพูดกันถึงเรื่องนี้ ก็ต้องขอเล่าย้อนไปนิดหนึ่ง สำหรับแฟนๆคอลัมน์ ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี ว่า
การแจกเงินทองให้กับประชาชนนั้น เริ่มด้วยการแจกของก่อน คือ การเลือกตั้งปี พ.ศ.2512 มีการเปิดศักราชของ
“การแจก”
สิ่งของที่แจกนั้น ไม่ได้เป็นเงิน แต่เป็น “ปลาทูเค็ม” โดยนายสุจินต์ เชาว์วิศิษฐ์ เสี่ยใหญ่ค้าอะไหล่ผู้ก่อตั้ง บจก. โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) ซึ่งไม่ใช่คนพื้นที่ แต่ได้รับการชักชวนจากนายสง่า วัชราภรณ์ ให้ไปสมัครที่จังหวัดศรีสะเกษ ในนามพรรคสหประชาไทย ที่มี จอมพลถนอม กิติขจร เป็นหัวหน้าพรรค และ จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นเลขาธิการพรรค
เสี่ยสุจินต์แกได้เป็น ส.ส.สมใจ ผู้คนเลยเรียกแกว่า
“ส.ส.ปลาทูเค็ม”
สำหรับการ “แจกเงิน” นั้น เริ่มตั้งแต่มี “โรคร้อยเอ็ด” ยุค พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ไปสมัครเป็น ส.ส.ที่จังหวัดนั้น เพื่อกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหน และพัฒนาเรื่อยมา จนถึงการแจกเงินใน ‘คืนหมาหอน’ และต่อเนื่องมาจนถึงยุคออนไลน์ ซึ่งเป็นการโอนเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับได้ พร้อมกับเงินปึ๊งใหญ่ๆ อย่างที่ได้เห็นกันมาแล้ว
การโอนเงินเพื่อซื้อเสียง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!

ที่ตลกขบขันกันเป็นอย่างมากก็มี อย่างเช่นมีการแจกสิ่งของมีค่าแทนเงิน เช่นหนังสือพิมพ์อย่าง “ผู้จัดการ” ถึงกับพาดหัวเมื่อ 3 ธันวาคม 2550 ว่า
สุดฉาว! สื่อนอกแฉ ผู้สมัคร ส.ส.ของไทยแจก “ไวอากร้า” แลกคะแนนเสียง!
กลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลก หลังเจ้าหน้าที่ของไทยระบุ ได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการซื้อเสียง จากชาวบ้านในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งในครั้งนี้ สิ่งของที่นักการเมืองนำมาล่อใจชาวบ้าน กลับไม่ใช่การใช้เงินซื้อเสียงเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นยาแก้อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอย่าง...ไวอากร้า
ผมไม่รู้ว่า แต่ละคน...ได้รับ “ยาปลอม” กันไปคนละกี่เม็ด!?...555

เรื่องไวอากร้านั้น ยังไม่เท่าไหร่ อยากให้ย้อนไปดูหลักฐาน จากการปาฐกถาพิเศษของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา เรื่อง "ระบอบรัฐธรรมนูญไทยอยู่ที่ไหน และจะก้าวไปทางใด" ที่ห้องประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน ในการประชุมวิชาการรัฐศาสตร์และรัฐประศาสน์ศาสตร์ เมื่อวันที่
10 ธันวาคม 2543 ในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ
นายกบาลใส-มีชัย นั้น ใครก็รู้ว่า เป็นหัวเรือใหญ่ในการร่าง
“รัดทำมะนวย ฉบับหัวคูณ” ที่สร้างความอัปรีย์แตกแยกให้กับ
คนไทยได้กล่าวเอาไว้ ตอนหนึ่งว่า

“ผมดูหนังดิสคัฟเวอรี่ ดูตัวฮายีน่า (หมาป่าพันธุ์หนึ่ง) ที่มันทำได้ทุกรูปแบบจนคนคาดเดาไม่ได้ แต่ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ มีการหาเสียงถึงขนาดใช้ “ยาบ้า” เข้ามาด้วย
ผมคิดว่าถ้าตัวฮายีน่ามาเห็น มันต่างพากันฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะไม่คิดว่าคนจะเลวได้อย่างนี้!”

ฟังแล้วไม่รู้ว่า นายกบาลใสแกพูดอย่างนั้น ได้อย่างไรกัน? ไปเอาข้อมูลมาจากไหนก็ไม่ทราบ? เพราะผมเองก็ไม่เคยได้ยิน ลองสอบถามนายตำรวจตัวเด่นๆ ที่รับผิดชอบเรื่องยาเสพติดหลายๆคนแล้ว ก็ไม่มีใครทราบ
ต่างทำหน้า “งง” ด้วยกันทั้งนั้น!

เมื่อการหาเสียงได้กลายเป็นการต่อสู้กัน ด้วยจำนวนเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า และจิตใจที่กล้าได้กล้าเสีย โดยต่างฝ่ายก็หวังว่า
หากได้รับการเลือกตั้ง ชีวิตจะดีขึ้นกว่าเก่า หรืออาจเกื้อกูลต่อธุรกิจที่ตนเองทำอยู่ ให้ก้าวหน้าร่ำรวยมั่งคั่งยิ่งไปอีก
ดังนั้น ผู้สมัครหลายต่อหลายคน จึงกล้าเสี่ยงในการทุ่มเทเงินทองอย่างเต็มที่ ตลอดจนถึงขั้นกล้าใช้เงิน เพื่อขจัดผู้ที่เป็นขวากหนามทางการเมือง แม้จะด้วยการกระทำที่รุนแรงเช่น
การ “ฆาตกรรม” คู่แข่งเพื่อชิงตำแหน่ง ก็ปรากฏมีให้เห็น!

การซื้อสิทธิขายเสียงอย่างที่ว่า จึงกลายเป็นเรื่องธรรมดา แม้ในหมู่ผู้คนที่มีการศึกษา เช่น เป็นข้าราชการแล้ว แต่พ่อแม่ยังอยู่ในหมู่บ้าน ถึงเวลาเขาก็เอาเงินมาแจก ให้คนที่อยู่ทางบ้าน เรียกพวกที่ไปทำงานกรุงเทพ ก็กลับมาลงคะแนนให้คนแจกเงิน
เหตุที่เป็นอย่างนี้ เพราะการเลือกตั้งเป็นโอกาสดีอีกวาระหนึ่ง ที่ลูกหลานจะได้กลับมาหาผู้เป็นบิดามารดา มาพบญาติพี่น้อง โดยมีเงินค่าใช้จ่าย ที่เรียกว่าเป็นค่ารถค่าเรือ รวมทั้งเงินสด ที่พอจะได้เลี้ยงดู สนุกสนานกันได้มื้อครึ่งมื้อ!
การเลือกตั้ง จึงกลับกลายเป็นการชุมนุมญาติมิตร ที่สนุกสนาน เหมือนกับการกลับบ้านงานสงกรานต์ไม่มีผิด ที่สำคัญคือ
ไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมือนกลับตอนสงกรานต์ด้วย!!

มาถึง พ.ศ.นี้ ผมกลับมีความรู้สึกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเปลี่ยนโฉมหน้าไป เพราะประชาชนแยกเป็นกลุ่ม อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่ม “คนเสื้อแดง” นั้น พวกเขามีความมุ่งมั่นสูงมาก ที่จะเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ให้พ้นจากการครอบงำของอำนาจสกปรก จึงมีเข็มมุ่งชัดเจนอยู่แล้ว ว่า
พวกเขาจะเลือกพรรคใด?
เรื่อง “เงิน” จึงไม่ได้เป็น “เรื่องสำคัญ” เหมือนตอนซื้อเสียง เพราะเป็นเสียงที่ “ไม่อาจซื้อขายกันได้” อีกต่อไป

ดังนั้น การที่คนของพรรค หรือพวกที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง ที่แตกต่าง จะมาโน้มน้าวให้เข้าเป็นพวกนั้น
เป็นไปได้ยาก หรือแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!
แม้แต่มิสเตอร์ “ยี้ห้อย” เจ้าของทีมฟุตบอล และเจ้าของ
คอกหมูยี่ห้อภูมิใจไถ ก็ยังแสดงความหนักอกหนักใจ เพราะพรรคเพื่อไทยที่ถูกเหยียบย่ำมาตลอดนั้น กลับมีความก้าวหน้า มากกว่าพรรคอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด และคนเสื้อแดงเอง ก็ถึงกับประกาศออกมาว่า
“ไม่ต้องแจก...กูเลือกอยู่แล้ว!”
ครับ...พวกเขาจะเลือกตาม “หัวใจ” ของเขา!!
ทำเอาเจ้าตำหรับ “ยี้ห้อย ร้อยยิ่สิบ” ถึงกับระย่อไปเลยทีเดียว

สำหรับพรรคดักดาน อย่างประชาธิเปรตนั้น คราวนี้ตกที่นั่งลำบาก เพราะไม่สามารถจะกำจัด “เสี้ยนหนาม” ดอกใหญ่ 2 ดอก ที่ปักหลักอยู่ที่เวทีมัฆวาน ซึ่งเป็นของพันธมิตร และเวทีข้างทำเนียบ ของแก๊ง “ซอมบี้อโศก” ในอาณัติ “เถนโพธิรักษ์” ให้แตกพ่ายไปได้ โดยเฉพาะรายหลังนั้น แกอึดทรหดอดทนเหลือเกิน ชนิด “ฝนตกฟ้าร้อง น้ำท่วม กูก็บ่ย่าน” ว่าไปแล้ว
จะเก่งกว่าซอมบี้ ด้วยซ้ำไป!
ความครบเครื่องของพันธมิตร และ “ซอมบี้อโศก” ทั้งสองเวทีนี้ กำลังจะเป็น ตัวแปรสำคัญ ที่คุกคามต่อฐานเสียงพรรคดักดาน ของนายมาร์ค มุกควาย โดยตรง
ทั้งสองกลุ่มนี้ ต่างมีสถานีวิทยุ และโทรทัศน์อยู่ในมือ สามารถดำเนินการ โจมตีรัฐบาลกาลีของนายมาร์ค มุกควาย อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ตลอดวันตลอดคืนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการลดละ ทั้งเรื่อง การฉ้อฉลในการบริหารชาติบ้านเมือง การรังแกข้าราชการที่สุจริต การชักศึกเข้าบ้าน และสารพัดเรื่องอัปรีย์จังไรของรัฐบาลกาลี ที่มีอยู่หนาแน่นมากมายเหลือเกิน
ถึงขนาดพวกเขา “ขุด” ขึ้นมาด่า ร้อยกว่าวันติดต่อแล้ว เรื่องจังไรอัปรีย์ ของรัฐบาลนายมาร์ค มุกควาย ก็ยังไม่หมด แถมยังมีเรื่องใหม่ๆ ออกมาสู่สายตา และรูหูประชาชนทุกวี่ทุกวัน จนสามารถทำให้ชาวบ้าน ซึ่งคาดว่า
มีจำนวนนับหมื่นนับแสนคน ที่เคยเลือกพรรคประชาธิเปรต ได้เปลี่ยนใจไปเลือกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อย หรือไม่ก็จะพากัน
“โหวตโน”
ซึ่งก็เป็นการตัดคะแนนพรรคดักดาน ลงไปในตัวอยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น “พรรครักษ์สันตูด” ของนายปุ ปุ ปุ ที่เคยมีบุญเป็นรัฐบาลมาก่อน แต่เวลาแกไปบริหารกระทรวงไหน ก็มีปัญหาที่กระทรวงนั้น ถึงขั้นข้าราชการรวมหัวกันขับไล่
แม้พรรคนี้จะออกมาฉายภาพ “ไม้บรรทัด-โปเก” ก็จริง แต่คนที่หลงภาพแล้ว อาจหย่อนคะแนนให้พรรครักษ์สันตูด ซึ่งก็จะเป็นการตัดคะแนนของประชาธิเปรตในกรุงเทพฯ ไปอีกทางหนึ่งด้วย
ดังนั้น พรรคดักดานอย่างประชาธิเปรต จึงรู้สึกตีบตัน หวั่นเกรงจะหลุดจากอำนาจ และกลัวการตามล้างตามเช็ด “บัญชีชั่ว” ที่พวกตนสะสมไว้ เลยต้องไปหันพึ่งโพลโลซก อย่าง A-BAD เพื่อให้นำเสนอผลโพล แบบเชียร์พรรคตัว
จึงต้องขอเตือน ไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยแห่งนี้ว่า มันไม่ง่าย เหมือนกับจัดหลักสูตรห่วยๆ ให้นักศึกษาของตัวหรอกนะ อยากจะพูดตรงๆว่า
หลักสูตรของเอ็งน่ะ...มันเลว!
นักศึกษาเขาออกมาประท้วง แต่ยังหน้าด้าน จนพวกเด็กๆเขาต้องกระแทกเรียกเงินค่าเสียหาย อีกยี่สิบสามสิบล้าน มันยังไม่อาย เสือกมาออกโพลห่วยๆ แหกตาชาวบ้านอีก...
โธ่!...ไอ้เอแบดโพล... มึงจะระยำไปถึงไหน...ไอ้โพลเส็งเคร็ง!

ท่านผู้อ่าน ที่เคารพ

เลือกตั้งครั้งนี้...น่าสนุกครับ!
จะต้องมีปรากฏการณ์ ที่พี่น้องคนไทยของเรา รับเงินจากพรรคการเมือง เอามาแจกเพื่อให้เลือกพรรคตัว แต่เมื่อพี่น้องเข้าไปในคูหาการเลือกตั้ง พวกเขาจะแสดงความกล้าหาญ ความเป็นตัวของตัวเอง และจะกาหมายเลขของผู้สมัคร ตามใจรักชอบของพวกเขาอย่างแน่นอน แบบ...
รักใครชอบใคร กาให้คนนั้น!

พวกน้องๆทหารเกณฑ์ ก็เช่นกันนะครับ ครั้งนี้ผู้บังคับบัญชาเขาเอาขนมจีนแกงกระดูกไก่ มาให้กินอีก แล้วบอกแกมบังคับ ให้ลงคะแนนเลือกไอ้พรรคเปรต ก็ขอให้พวกท่าน...
กินของมันตามสบาย แต่ไม่ต้องเลือก ตามที่นายมันสั่ง!

รู้กันแล้วนะครับ ว่า...

ไอ้พวกนาย มันตามไปดู...ถึงในคูหา ไม่ได้หรอกน่า!!

.......................

ท้ายบท เมืองไทยมีนายกฯผู้หญิง หน้าตาดีๆก็ทำให้ประชาชนไม่เครียด



แถมยังสดชื่น ด้วยซ้ำไป!

ผมเห็นว่า ดีกว่ามี “นายกฯชาย” ที่ “ดีแต่พูด” แถมดันชอบ
หันตูด-หันก้น ใส่ผู้ชายด้วยกัน จนไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นตัวผู้ ตัวไหนเป็นตัวเมีย...เป็นไหนๆ!!

ท่านผู้อ่านว่าจริงไหมครับ!!!

(คอลัมน์ประจำสัปดาห์ ตอน “กินของมัน...แต่ไม่เลือกมัน!!!” ออนไลน์วันเสาร์ ที่ 21 พฤษภาคม 2554)


Create Date : 22 พฤษภาคม 2554
Last Update : 22 พฤษภาคม 2554 18:19:03 น. 2 comments
Counter : 879 Pageviews.

 
แวะมาทักทายนะคร้า


โดย: เหมียวสองศรี (kataki3030 ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:19:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ
วีเห็นชื่อคุณในบล็อกมาเยี่ยมของวี
ดีใจจังที่มีเพื่อนใหม่เพิ่มค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: โสดในซอย วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:22:54:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

komtat
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Blog นี้ค่อนข้างผีเข้าผีออก update ตามแต่จะนึกขึ้นได้ แต่บางทีงานเยอะจัดอาจจะไม่สามารถเข้ามาเขียนได้ ก็มักจะมีเรื่องย้อนหลังเสมอๆ

ยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ


New Comments
Friends' blogs
[Add komtat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.