มุ่งไปสู่จุดหมาย สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ One Piece
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ยอร์กจากาต้า-บาหลี

การเดินทางเริ่มต้นวันที่ 12 หลังจากเครื่องบินถึงจากาต้าร์ ก็ต้องรอต่อเครื่องไปยอร์กจากาต้าร์ ระหว่างที่รอก็ไปเข้าห้องน้ำกันบ้าง ขอบอกห้องน้ำที่ปั๊มปตท.ยังดีกว่าเลย(ทั้ง2ที่เลยนะ) เก้าอี้นั่งก็เขรอะๆ น่าจะเปลียนได้แล้ว แต่มีให้นั่งมากกว่าสุวรรณภูมินะ มีดีก็ตรงเครื่องบินที่ใหม่ แอร์ให้บริการดี นักบินก็ขับเครื่องนิ่มดี ไม่สั่นเป็นเจ้าเข้าเหมือนการบินไทย ขึ้นที่ลงที่ต้องปลุกหลวงพ่อขึ้นมาช่วย(นิมนต์ด่วน)

พอถึง "ยอร์กยา" คนที่นั่นเรียกกันอย่างนี้ ก็เริ่มเที่ยว "วัดพรามนันต์" ซึ่งเป็นโบราณสถานที่มีแต่ซากมากกว่าที่สมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้ก็บูรณะอยู่ มีอยู่ 4 ยอดที่ให้ดู บางส่วนก็เข้าชมได้ บางส่วนก็ห้ามเข้า ที่นี่อากาศร้อนเหมือนเมืองไทย พวกที่ขายของก็จะเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังนักท่องเที่ยว ประดุจหนึ่งมามุงดูดาราเลย สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของพื้นเมือง ของที่ระลึก หนังสือท่องเที่ยว(มีขายบางที่นะ) ที่นี่จะขายไม้แกะสลักคนพื้นเมือง จักรยาน,สามล้อ(ตั้งโชวร์) เร่ขายกันถึงรถเลย แต่ถ้าตามร้านก็จะมีพวกเสื้อผ้า แล้วก็ไปพักกินข้าวกันที่ร้านอาหาร เป็นแบบบุตเฟ่ต์ ส่วนใหญ่จะเป็นไก่ ไม่ว่าจะไก่ย่าง ไก่ทอด(แบบkfcเลย) แล้วก็ "สละ" ผลไม้ที่ได้คำแนะนำมาว่า ต้องลองกินให้ได้ อร่อยมาก ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หวาน กรอบ

จากนั้นก็เดินทางไป "บุโรพุทโธ" เป้าหมายของเราเลย ที่นี่ใหญ่มาก เป็นโบราณสถานแบบพุทธ คนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นอิสลาม ก็จะไม่ค่อยให้ความเคารพสถานที่เท่าไหร่ ซึ่งก็มีประกาศเตือนว่า "ห้ามปีนป่าย ห้าม...." พูดออกลำโพงตั้งหลายครั้ง แต่ก็มีคนทำ ถ้าเป็นเมืองไทยไม่มีใครทำแน่ อ้อ ที่นี่ยังมีอาชีพแปลกๆอยู่อาชีพนึง ลองทายดูว่าจะถูกรึป่าว ติ๊กตอก ๆ ๆ เฉลย อาชีพ กางร่มและพัดให้คนที่มาเที่ยว ถ้าไม่ต้องการต้องปฏิเสธไปเลย ไม่งั้นเค้าก็จะประกบตื้อให้ใช้บริการ ซึ่งก็มีคนในทัวร์ใช้บริการแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งกางร่มให้ พัดให้ด้วย พร้อมบริการช่วยถ่ายรูป ไม่ต้องกลัวจะไม่มีรูปตัวเอง(ถ้าไปคนเดียว) ที่นี่มีจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปกัน คือสถูปที่มีพระอยู่ข้างในที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปจับหรือลูบ ถ้าจับได้จะสมหวังอย่างที่ขอไว้ มันเป็นเรื่องเล่ามาจากการที่นักท่องเที่ยวคนนึง ทำแล้วสมหวัง แต่คนที่นั้นไม่เห็นมีใครสนใจเท่าไหร่เลย จนกระทั่งพวกทัวร์เราเข้าไปจับๆกัน พวกเค้าก็คงงงมั้ง แต่ก็คงเดาได้แหละ ก็ทำตาม หรือไม่ก็คงรู้มั้ง 555

จากนั้นก็กินข้าวแล้วเข้ารร. ซึ่งมันไม่เป็นไปเวลาที่กำหนดไว้เท่าไหร่ จากนั้นเราและลูกทัวร์คนอื่นๆก็นัดกันเอง เพื่อออกไปเดินที่ถนนมาริโอโบโร่ พวกเราทั้งหมดก็ออกไปเดินดูกัน ก็ได้ซื้อพวกเสื้อยืดกลับมาคนละหลายตัว บางคนก็ได้กางเกงขาสั้นมา เรื่องราคาไม่ว่าจะไปซื้อที่ไหนในอินโดนีเซีย ให้ต่อทิ้งไป 80-85% เลย เพราะคนขายตั้งราคาขายไว้สูงมาก ถ้าคนขายรู้ว่าเราอยากได้ เค้าจะไม่ยอมลดราคาเลย ซึ่งอย่าไปใส่ใจให้เดินออกมาเลย ร้านอื่นยังมี(แผงลอย) แต่ตอนที่เราไปมันใกล้ปิดกันแล้ว ไกด์บอกว่าปิด 3ทุ่มครึ่ง แต่จริงๆแค่ 3 ทุ่มก็เริ่มปิดแล้ว บางแผงก็ปิดไปตั้งแต่ยังไม่ 3 ทุ่มด้วยซ้ำ บรรยากาศประมาณ ไนท์เชียงใหม่ อะนะ เสื้อยืดที่เราซื้อมา ตัวนึงประมาณ 40 บาท เสื้อสีนะ มีสกรีนด้วย ซึ่งก็ยังแพง ถ้าไม่ใช่เพราะเวลาที่น้อย พวกเราคงมีเวลาเดินดูได้มากกว่านี้ และต้องซื้อได้ถูกกว่านี้แน่นอน เพราะมีคนซื้อแถวๆวัดได้ในราคา 4 ตัว 100 บาท ส่วนพี่ที่รู้จักกันแต่ไปคนละทริป ซื้อมา18ตัว 600บาท ก็ประมาณ 34 บาท/ตัว ส่วน"สละ" ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะร้านปิดไปแล้วมั้ง หาไม่เจอด้วย
รร.ที่พักในคืนแรกนี่ดีมาก 4 ดาวก็งี้แหละ ซาดวกซาบายสุดๆ melia purosani hotel


วันที่ 13 ก็ไปเที่ยววังสุลต่าน พูดจริงๆนะ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจสำหรับเรานะ แต่ถ้าคนชอบประวัติศาสตร์มันก็เป็นอีกเรื่องนึง คนที่ทำงานในวังจะไม่ใส่รองเท้า และพกมีดด้วย ในนั้นจะจัดแสดงประวัติความเป็นมาของวังและสุลต่านแต่ละรุ่น ส่วนข้าราชบริพารส่วนใหญ่จะสืบทอดกันทั้งตระกูล รุ่นสู่รุ่นมาเรื่อยๆ

ต่อมาก็พระราชวังน้ำ ที่นี่ยิ่งแล้วใหญ่ไม่มีอะไรเลย แค่ไปดูสระของสุลต่านในสมัยก่อน ตะไค่รเกาะจนเขียวเลย จากนั้นก็ไปศูนย์ผ้าบาติก จริงๆแค่ร้านผ้ามากกว่านะ เรียกซะหรูเลย ที่นี่ราคาสินค้าก็จะแพงขึ้นไปอีก แต่ก็ยังถูกกว่าบาหลี ไกด์เค้าว่างั้นนะ แต่ที่นี่แน่ๆคุณภาพดีกว่าแผงลอย จากนั้นก็ไปสนามบินเพื่อไปบาหลี

พอถึงบาหลีก็ไป "วัดทามาอยุน หรือที่เรียกว่า เม็งวี" ซึ่งก็มีเวลาไม่มาก สถานที่ไม่ใหญ่โตเท่าไหร่ ได้ดูแต่ภายนอก ห้ามเข้าไปภายใน จากนั้นต้องไป ทานาลอท ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของบาหลีเลย แต่พวกเราก้อไปไม่ทัน มันเสียเวลาเดินทางมากไป ไปถึงมันก็มืดแล้ว ถ้าไปถึงเร็วกว่านี้สัก1/2ชม.ก็คงได้เห็น น่าเสียดายมาก ถ่ายรูปก็ไม่ค่อยติดแล้ว มืดเกินไป ระหว่างทางเดินไป ทานาลอท ก็มีร้านขายของมากมาย ทั้งพื้นเมือง และสินค้าแบรนด์เนม เสร็จจากนี้ พวกเราก้อไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ริมทะเลจริงๆ เหมือนจะโรแมนติก แต่ป่าวเลย มันมองไม่ค่อยเห็นอาหารเท่าไหร่ เทียนมันตั้งไม่หลายจุดอะดิ เสริฟจานเดียว มีแต่อาหารทะเล สดบ้าง ไม่สดบ้าง มีกุ้งล้อบเตอร์ด้วยนะ ก็เพิ่งเคยกินครั้งแรก แต่มีแต่คนบ่นว่า "ลูกกุ้งล้อบเตอร์รึป่าว" แถมเนื้อไม่อร่อยด้วย แล้วก็เสริฟผัดผักบุ้งอีกจาน สำหรับ 4 คนนะ จากนั้นก็เข้าที่พัก inna putri bali hotel

วันที่ 14 เดินทางไป "หมู่บ้านบาตูบูรัน" ดูการแสดง "บารองด๊านซ์" จากนั้นก็ไปคินตามานี ซึ่งความซวยบังเกิดก็วันนี้แหละ รถคันที่นั่งไปมันเสีย แถมแอร์ก็ไม่เย็น (คันเมื่อวานก็แอร์ไม่เย็น) มันแล่นขึ้นเขาประดุจหนึ่งเต่าคลานขึ้นไปอย่างช้าๆ ทำให้เสียเวลามาก ไม่สามารถทำเวลาได้ตามที่แพลนไว้ ที่คินตามานี เราจะได้เห็นทะเลสาบกูนุง บาตูร์ และภูเขาไฟกุหนุงอากุง เป็นวิวที่สวยมาก ลมเย็น อ้อ! ร้านที่พวกเราไปกินข้าว มีของอร่อยอยู่ 1 อย่าง คือ กล้วยทอด ก็ไม่รู้ว่าเค้าใช้กล้วยอะไรนะ แต่อร่อยดี ไม่หวานจนเกินไป ห้องน้ำก็สะอาด จากนั้นก็ค่อยๆคลานลงเขา ระหว่างทางก็แวะซื้อ "สละ" แต่รสชาติไม่เหมือนที่ยอร์กนะ ที่นี่จะอมเปรี้ยวและก็ฝาดด้วย คนขายก็มีวิธีโกงหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะน้ำหนักไม่ถึง หรือ ตกลงราคานี้ พอจ่ายจริงขึ้นราคาหน้าด้านๆซะงั้น(เราเจอเคตนี้อะ) แล้วก็ไปวิหารศํกดิ์สิทธิ์ เทมภัคศิริงค์ การไปที่เที่ยวแต่ละทีใช้เวลามาก เพราะอยู่ห่างกัน เวลาเที่ยวก็เลยน้อย อีกอย่างคือ พีไทยชอบซื้อ ชอบช้อป ทำให้เสียเวลาไปกะส่วนนี้มาก เวลาเที่ยวก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ระหว่างทางกลับก็แวะถ่ายรูป ทุ่งนาขั้นบันได แล้วก็ช้อปที่ย่านอูบุด ไปถึงตลาดก็จะวายแล้ว ต่อราคาก็ยาก คนขายไม่ค่อยลดราคาเท่าไหร่ จากนั้นก็ไปกินข้าว มื้อนี้อร่อยที่สุดตั้งแต่กินมา เป็นอาหารอินโด-จีน ไม่ต้องกินแต่ไก่เหมือนทุกๆมื้อที่ผ่านมา แล้วก็เข้าที่พัก inna putri bali hotel

วันที่ 15 ไป อูลูวาตู วัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ที่มีลิงขี้ขโมย จ้องจะขโมยของๆนักท่องเที่ยว จนพวกขายอาหารลิง ต้องมาช่วยจัดการ โดยการให้ของกินแก่ลิง ซึ่งพวกมันก็เลือกกินด้วย ถ้าไม่ถูกใจมันแยกเขี้ยวใส่เลย ที่นี่เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ ทั้งๆทีวิวสวย เพราะลิงเป็นเหตุ ต้องค่อยระวังพวกมันตลอด จากนั้นก็ไปโรงงานกาแฟ ไม่รู้ตรงไหนเป็นโรงงานอะ อย่างกะร้านขายเม็ดกาแฟมากกว่า แล้วก็ไปห้างคูต้า ก่อนเดินทางไปสนามบิน

จบทริป

ปล. ลูกสละที่อินโด ไม่มีหนามเหมือนของไทย กลิ่นก็ไม่ฉุนติดมือด้วย(เวลากิน) กาแฟสำเร็จ 3in1 ก็อร่อยดี ซองสีน้ำตาล +สีขาว อร่อย แต่ซองสีแดงๆไม่ค่อยอร่อย ส่วนอีกซองยังไม่ได้ชิม(สีฟ้า) ส่วนหมี่สำเร็จรูป เมืองไทยอร่อยกว่า เส้นที่นั่นถึงทำสุกแล้วก็ยังเหมือนเส้นไม่สุก รสชาติไม่จัด ออกแนวจืดๆ มีกลิ่นเครื่องเทศด้วย โดยรวมแล้วของไทยดีกว่า



กาแฟสำเร็จของอินโดนีเซีย



สละอินโดไม่เหมือนของไทย ทั้งสีทั้งกลิ่น ที่ยอร์กจากาต้าจะมีรสหวาน กรอบ แต่ที่บาหลีจะอมเปรี้ยว ฝาดหน่อยๆ


วัดเม็งวีในบาหลี




ทะเลสาบกูนุงบาตูร์


ภูเขาไฟกุหนุงอากุง


บุโรพุทโธ ส่วนที่คนยื่นมือเข้าไปจับกัน
img

บุโรพุทโธ


บุโรพุทโธ


ศรัทธา






Create Date : 06 พฤษภาคม 2552
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 12:06:41 น. 0 comments
Counter : 1108 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kokoro_no_Chizu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Kokoro_no_Chizu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.