Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
..Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร ตอนที่29..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์



************************
Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร
ตอนที่ 29

************************





.
.
เปลวไฟสีเหลืองส้มลอยกรุ่นขึ้นสู่อากาศ โบกปลิวไสวตามแรงลมอ่อนๆ ที่พัดโชยมายามดึก...เหล่านักรบทหารกล้าพากันหลับใหลภายใต้แสงจันทร์นวล และสายลมอันเย็นสบาย



เสียงกิ่งไม้แตกเพราะแรงเพลิงดังขึ้นเป็นระยะๆ เบาๆ ละอองเพลิงลอยฟุ้งขึ้นมาเป็นเกล็ดลูกไฟลูกเล็กๆ แล้วเลือนหายไปกับสายลม


เด็กหนุ่มนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะกำลังทำความสะอาดคันธนูประจำกายของตน สายตาคู่นั้นของเค้า มองเหม่อไร้จุดหมาย ถอดสายตาออกไปยังพื้นป่ากว้าง ดำทมึน



“เมื่อไรกัน...เมื่อไร ข้าถึงจะได้จัดการกับเจ้าสักที...เมื่อไรที่ข้าจะได้ล้างแค้นให้กับพ่อของข้า...”
พาทริสรำพึงออกมา เค้ารู้สึกถึงความเจ็บปวดภายในจิตใจที่ฝั่งแน่นอยู่ ไม่เคยมีวันใดเลยที่หนุ่มน้อยจะไม่รู้สึกถึงความคับแค้นนี้



ทหารยามสองคนนั่งกอดดาบคู่กายของตนในท่าพร้อมรบ แต่ทว่าดวงตานั้นกลับปิดสนิท...ทางด้านขวาของกองเพลิง มีนักรบอีก 2 คนกำลังนอนหลับสนิท คงเพราะการเดินทางที่ยาวนานก็เป็นได้ จึงทำให้พวกเค้านอนรับได้อย่างนี้ ส่วนทางด้านซ้ายนั้น ทาร์กำลังนอนขดตัวอย่างเป็นสุขใต้ต้นไม้ใหญ่ และเลยออกไปอีกนิด ก็เป็นเจ้าชายบาโอซีลอนที่กำลังหลับสนิทเช่นกัน โดยมีทาลอสนอนอยู่ไม่ห่างนัก



หนุ่มน้อยถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ แล้วนิ้วของเค้าก็มาหมุนแหวนวงน้อยในนิ้วมือเล่นเบาๆ...ดวงตานั้นมองลงมาที่แหวนในนิ้ว เค้ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่



“หึหึ....”
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น แผ่วเบา ล่องลอย หนุ่มน้อยเงยหน้ามองไปเบื้องหน้าก็พบแต่ความว่างเปล่า



“หึหึหึ....เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้...สาวน้อย”
เสียงกระซิบแผ่วเบายังคงดังก้องอยู่ในหัวของพาทริส เค้าขมวดคิ้วแน่น มองไปรอบๆ กายอีกครั้ง



“ทะ...ท่านอยู่ไหนกัน”
เค้าร้องออกมาด้วยเสียงแหบพร่า



“หึหึ...เราก็อยู่ข้างๆ เจ้าไง”
เสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น พาทริสรีบหันหน้ามองอีกด้านของตน แล้วหนุ่มน้อยก็ต้องพบกับใบหน้าอันงดงามของนางพรายที่ลอยอยู่ใกล้ๆ ผิวขาวโปร่งใสส่องประกายวูบวาบ ดวงตาสีฟ้าอมเขียวแฝงด้วยความเมตตา รอยยิ้มอันอ่อนโยน ทำให้หนุ่มน้อยยิ้มออกมา



“ท่านตามพวกเรามางั้นหรือ”
หนุ่มน้อยเลิกคิ้วน้อยๆ ถามขึ้น



ร่างนางพรายล่องลอยห่างออกไป นางยิ้มขบขันมองหนุ่มน้อยด้วยแววตาเอ็นดู



“เปล่า...”
นางพรายตอบสั้นๆ นางยิ้ม แล้วล่องลอยออกไปตามกระแสลม



“ละ...แล้วท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และก็ที่นั่นอีก...ที่นาโดบา”
หนุ่มน้อยซักถามด้วยความไม่เข้าใจ



“เจ้านี่ หน้าตาก็ออกจะฉลาด...แต่ทำไมถึงถามอย่างนี้”
นางพรายแกล้งพูดกระเซ้า



“แล้ว...แล้วทำไม”
หนุ่มน้อยยังคงไม่เข้าใจ



“เราไม่ได้ตามพวกเจ้า...แต่ที่เราไปเจอเจ้าได้ตลอดเวลาก็เพราะ...”
นางพรายยิ้มมุมปาก นางล่องลอยไปรอบๆ กายของหนุ่มน้อยพาทริส พรางโบกสะบัดข้อมือของนางเบาๆ สายลมพัดวูบเข้าใส่ร่างของหนุ่มน้อยจนต้องเซถอยเล็กน้อยเพราะแรงลม




“เพราะ...เราเป็นนางพราย...เจ้ารู้มั้ย นางพรายอย่างเรา ไปไหนมาไหนได้อย่างไร”
นางยิ้ม ตั้งคำถามกลับ



หนุ่มน้อยขมวดคิ้วเข้าหากัน ครุ่นคิด แต่เพียงไม่นาน เค้าก็ตอบคำถามทันที


“ลม”



“ถูกต้อง เราไปไหนมาไหนด้วยสายลม...”
นางยิ้มพอใจกับคำตอบ




“เมื่อเราคือสายลม...แล้วใยเราจะไปไหนมาไหน หรืออยู่ในสถานที่ที่มีกระแสลมไม่ได้เล่า...เจ้าเด็กโง่”
นางแกล้งกระซิบท้ายประโยคที่ข้างหูของพาทริสอย่างจงใจ จนหนุ่มน้อยรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที




“ข้า...ข้าไม่ได้โง่สักหน่อย ข้าแค่ไม่รู้...ข้าแค่สงสัยจึงถาม”
พาทริสรีบแก้ตัว



“หึหึหึ....”
นางพรายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นางขบขันในท่าทีของหนุ่มน้อย พรางล่องลอยไปมาในอากาศ



“เจ้านี่นะ นอกจากจะขี้สงสัยแล้ว ยัง...ไม่ยอมรับความจริงอีก”
นางพรายกล่าวเสียดสีหนุ่มน้อยด้วยน้ำเสียงเย้ยๆ แต่ทว่าในดวงตาของนางนั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา เอ็นดู



“นี่ท่าจะมาต่อว่าข้าหรือไร...”
พาทริสเริ่มแสดงอาการไม่พอใจออกมา เค้าทรุดตัวลงนั่งบนข่อนไม้ดังเดิม แล้วใช้กิ่งไม้เขี่ยกองไฟจนเกิดลูกไฟลูกเล็กๆ ลอยคลุ้งขึ้นมาในอากาศ ก่อนจะลอยหายไปกับสายลม



“จุ๊ จุ๊ จุ๊...นอกจากจะขี้สงสัยแล้ว ยังโมโหร้ายซะด้วย”
นางยิ่งแกล้งกระเซ้าหนุ่มน้อยเพิ่มขึ้นอีก จนพาทริสต้องเอากิ่งไม้เขี่ยกองไฟแรงขึ้น



“เอาล่ะๆ เจ้าเด็กน้อย เราไม่แกล้งเจ้าแล้ว...”
นางพรายลอยมาด้านหน้าของพาทริส นางกล่าวน้ำเสียงที่สงบขึ้น



“...”
พาทริสเงยหน้ามองนางพราย แม้ว่าในแววตานั้นจะแฝงความไม่อยากเชื่อไว้ แต่เค้าก็จ้องมองนางพรายอย่างรอคอยถ้อยคำของนางต่อไป



“เราแค่อยากจะมาเตือนเจ้า..”
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเมตตาก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นร่องรอยของความวิตกกังวล



“เตือน”
หนุ่มน้อยขมวดคิ้วเข้าหากัน มองนางพรายอย่างไม่เข้าใจ



“ใช่...เรามาเตือนเจ้า....ณ นครพากาเซียแห่งนี้นั้น เป็นนครของคนชั่ว คนเลว คนคดโกง...เจ้าจงระวังตัวให้ดี อย่าไว้ใจใคร อย่าวางใจ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่อันตราย”
น้ำเสียงของนางพรายเริ่มตรึงเครียดมากขึ้น



“ข้ารู้”
พาทริสตอบกลับอย่างเข้าใจ



“ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เจ้าต้องพบเจอ ณ นครแห่งนี้ จงระวัง...จงระวังตัวให้ดี...ราชาพากาเซีย มิใช่ราชาทั่วไป จงอย่าไว้ใจ จงอย่าวางใจ...จงระวัง....จงระวังให้ดี...จงระวัง...”


นางพรายกล่าวย้ำ ก่อนที่ร่างของนางเริ่มจะล่องลอยไกลห่างออกไป จนกระทั่งเลือนหายไปกับสายลม คงเหลือเพียงเสียงที่แผ่วเบา ย้ำเตือนหนุ่มน้อยให้ระวังตัว



หนุ่มน้อยกำธนูในมือแน่น คำเตือนของนางพรายย้ำให้เค้ารับรู้ว่า ต้องระวังตัวให้มากๆ ....แต่สิ่งใดกันที่กำลังรอคอยเค้าและพวกพ้องอยู่กันแน่นะ....หนุ่มน้อยขมวดคิ้ว บีบคันธนูแน่นราวกับว่ากลัวมันจะหายไป





************







Create Date : 04 ธันวาคม 2552
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 18:57:12 น. 0 comments
Counter : 245 Pageviews.

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.